SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
Download to read offline
สู ต ร ข น ม ไ ท ย
1. ขนมบุหลันดั้นเมฆ
ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ
• ดอกอัญชัน
• น้าร้อน
• กะทิ 120 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม
• เกลือ เล็กน้อย
• ไข่แดง 10 ฟอง
• น้าตาลไอซิ่ง 60 กรัม
• กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
• แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
• แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม
• น้าเปล่า 200 กรัม
• น้าเชื่อม 350 กรัม
• ถ้วยตะไล
วิธีทาขนมบุหลันดั้นเมฆ
1. คั้นดอกอัญชันกับน้าร้อนให้ได้ปริมาณ 100 กรัม พักไว้
2. ผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า 10 กรัม เข้าด้วยกันแล้วนาไปเคี่ยวในกระทะให้พอข้น ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
ปิดไฟพักไว้
3. ตีผสมไข่แดงกับน้าตาลไอซิ่งให้เข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนาไป
กรองให้เนื้อเนียน ๆ เตรียมไว้
4. ผสมแป้งข้าวเจ้า 100 กรัม กับแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้าเปล่าทีละน้อยลงไปผสม นวดแป้งประมาณ 5 นาที
จนแป้งมีลักษณะเงา เทน้าเปล่าที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้าเชื่อมที่เย็นแล้ว เทน้าดอกอัญชันลงไปผสม คนผสมให้เข้ากัน
แล้วนาไปกรอง พักไว้
5. นาถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน หยอดส่วนผสมแป้งลงไปจนเกือบเต็ม ปิดฝานึ่งในน้าเดือดประมาณ 2-2.30 นาที โดยสังเกต
จากขอบขนมเริ่มมีสีเข้มขึ้นและตรงกลางมีสีอ่อน ๆ เป็นใช้ได้ รีบนาออกมาจากชุดนึ่งแล้วคว่าถ้วยขนมลงชาม แป้งที่ยังไม่สุก
ก็จะไหลออกมา ทาให้ขนมเป็นหลุมตรงกลาง
6. บีบหรือหยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุม นาไปนึ่งต่ออีก 1 นาที พอครบเวลาก็หยอดส่วนผสมไข่แดงลงในหลุม จากนั้น
นาไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
2. ขนมอินทนิล2.ขนมอินทนิล
• ส่วนผสม ตัวขนม
• แป้ งมันสาปะหลัง 2 ถ้วย
• น้าใบเตย 4 ถ้วย
• ส่วนผสม น้ากะทิ
• น้ากะทิ 4 ถ้วย หรือกะทิกระป๋ อง 4 ถ้วยตวง
• น้าตาลทราย 1+1/2 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• เทียนสาหรับอบขนม
•วิธีทาขนมอินทนิล
1. ทาน้ากะทิอบควันเทียน โดยเทน้ากะทิลงอ่าง จุดเทียนอบขนมให้ไฟลามถึงตรงขี้ผึ้งแล้วดับเทียน ใส่เทียน
ลงในถ้วยเล็ก ๆ แล้วเอาใส่อ่างน้ากะทิ ปิดฝา อบน้ากะทิไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจุดเทียนอบซ้าอีก 1-2 ครั้ง ถ้า
มีดอกกระดังงาก็เอาไปอบพร้อมเทียนเลย
2. พอได้น้ากะทิที่อบควันเทียนแล้วนาขึ้นตั้งไฟ ใส่น้าตาลทราย และเกลือป่น คนผสมให้ละลาย รอจนเดือด
แล้วยกลง
3. ทาตัวขนม โดยผสมแป้ งกับน้าใบเตย คนให้แป้ งละลายเข้ากับน้าใบเตย นาขึ้นตั้งไฟอ่อน ใช้พายกวนตลอด
ระวังอย่าให้ก้นหม้อไหม้ กวนจนขนมสุก ตัวแป้ งจะเหนียวและใส พอแป้ งสุกทั่วกัน เอาหม้อลงแช่ในอ่างน้าแข็ง
เพื่อลดอุณหภูมิตัวขนมไม่ให้ร้อนเกินไป เดี๋ยวจะจับเป็นตัวไม่ได้
4. เตรียมถ้วยใส่น้าไว้คอยจุ่ม ป้ องกันขนมติดมือ ใช้นิ้วเปียก ๆ หยิบแป้ งปั้นให้กลม ๆ ขนาดพอดีคา แล้ว
หย่อนลงน้ากะทิที่เตรียมไว้ ทาจนแป้ งหมด ตัวขนมอินทนิลที่ดี ต้องไม่แข็งเป็นไตตรงกลาง ตักขนมใส่ถ้วย ใส่
น้าแข็งทุบ จัดเสิร์ฟ
3. ขนมโค
•ส่วนผสม ขนมโค
• แป้งข้าวเหนียว
• น้าตาลแว่น
• มะพร้าวขูด
• เผือกหอมนึ่ง
• เกลือป่นเล็กน้อย
• เฮลซ์บลูบอยสีแดงหรือน้าคั้นจากผักสีธรรมชาติ
วิธีทาขนมโค
1. ใช้ช้อนกับส้อมบดเผือกนึ่ง เสร็จแล้วนาไปผสมกับแป้งข้าวเหนียว นวดผสมกันจน
เป็นก้อน ถ้าส่วนผสมแห้งเกินไปก็เติมน้า ถ้าเหนียวไปก็ต้องเติมแป้งเพิ่ม ถ้าต้องการ
แป้งสีชมพูก็เอาน้าหวานสีแดงผสมน้าเปล่าเทใส่ลงไปแล้วนวดจนเข้ากัน
2. แบ่งแป้งเป็นก้อนกลม ๆ กะปริมาณของแป้งจะต้องมากพอที่จะหุ้มน้าตาลที่ตัด
เตรียมไว้ได้แผ่เป็นแผ่นบาง กะความหนาให้พอดี วางน้าตาลลงไปตรงกลาง คลึงให้
เป็นก้อนกลม ทาเสร็จแล้วพักไว้
3. เติมน้าสะอาดใส่ลงในหม้อ ตั้งไฟกลางรอจนน้าเดือด ใส่ขนมโคลงไปลวกจนสุก
สังเกตจากขนมลอยขึ้นมา ตักไปแช่น้าเย็นไว้ครู่หนึ่งกันขนมติดกัน (ในสูตรไม่ชอบให้
ขนมติดกันเลยใช้วิธีนี้ แต่สูตรเดิมคือไม่ต้องแช่น้า)
4. ตักขนมใส่จาน และนามะพร้าวขูดคลุกกับเกลือป่นเล็กน้อย เสร็จแล้วก็นาไปคลุก
กับตัวขนมหรือจะโรยก็ได้
4. ขนมเปี ยกปูนกะทิสด
ส่วนผสม ขนมเปียกปูนกะทิสด
• แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
• แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง
• น้าปูนใส 1 ถ้วยตวง
• น้าใบเตย 2 ถ้วยตวง
• เกลือเล็กน้อย
• น้าตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง
• น้าตาลปี๊บ 120 กรัม
ส่วนผสม กะทิราดหน้าขนม
• กะทิ 500 กรัม
• เกลือแค่หยิบมือ
• แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้แต่ที่ใส่เพื่อให้น้ากะทิข้น)
• งาขาวคั่ว
วิธีทาขนมเปี ยกปูนกะทิสด
1. นาแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้าปูนใส และน้าใบเตยผสมกันและนวดจนเข้า
กันดี ใส่เกลือ น้าตาลทรายแดง และน้าตาลปี๊บ นวดต่อจนเข้ากันดี กรอง
ส่วนผสมแป้งด้วยตะแกรง 1 รอบ
2. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อน
ให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี สังเกตจากการ
เอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้ว ตักขนมเปียกปูน
ใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบแต่งหน้าเค้ก บีบใส่ถ้วย
3. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ ตามด้วยเกลือ ใส่แป้งข้าวเจ้า คนผสมจนเดือด
เสร็จแล้วตักกะทิราดหน้าขนมเปียกปูน โรยงาขาวคั่ว
5. ขนมเทียนแก้ว
ส่วนผสม แป้งขนมเทียนแก้ว
• แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วย
• น้าตาลทราย 1+1/2 ถ้วย
• น้าลอยดอกมะลิ 5 ถ้วย
• ใบตอง สาหรับห่อขนม
ส่วนผสม ไส้ขนมเทียน (เค็ม)
• ถั่วเขียวซีกเราะเปลือก 1 กิโลกรัม
• หอมแดง
• พริกไทย
• น้ามันพืช (สาหรับผัด)
• เกลือป่น
• น้าตาลทราย
วิธีทาไส้ขนมเทียน
• 1. ล้างถั่วเขียวซีกเราะเปลือกให้สะอาด แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน จากนั้นนาไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้จนเย็น
สนิท
• 2. โขลกหอมแดงกับพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ถั่วเขียวนึ่งลงโขลกพอหยาบ
• 3. ใส่น้ามันพืชลงในกระทะ ใส่ส่วนผสมไส้ลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยเกลือป่น และน้าตาลทราย ชิมรสตามชอบ ให้มี
รสหวาน เค็ม เผ็ด ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมไว้
• วิธีทำขนมเทียนแก้ว
• 1. ใส่น้าตาลทรายและน้าลอยดอกมะลิลงในหม้อ นาขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวจนเป็นน้าเชื่อม ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
• 2. ผสมแป้งถั่วเขียวและน้าลอยดอกมะลิให้เข้ากัน กรองด้วยตะแกรง จากนั้นเทใส่กระทะทองเหลือง ใส่น้าเชื่อมที่
เตรียมไว้ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน กวนจนส่วนผสมแป้งสุกและใส ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้จนอุ่น
• 3. ตักส่วนผสมแป้งลงในกรวยใบตอง ตามด้วยไส้ ห่อเป็นทรงสามเหลี่ยมให้สวยงาม
จัดทำโดย
นำงสำว ชมพูนุท คุ้มมี ชั้นม.3/13 เลขที่12
นำงสำว ภควดี บุตรวิชำ ชั้นม.3/13 เลขที่22
นำงสำว วริศรำ สุริพุทธ ชั้นม.3/13 เลขที่ 24

More Related Content

Similar to สูตรขนมไทย

การทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ด
การทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ดการทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ด
การทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ดdorayakiimon
 
แกะรอยขนมไทย
แกะรอยขนมไทยแกะรอยขนมไทย
แกะรอยขนมไทยkopkaewkoki2014
 
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์Patcharee Kongpun
 
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์Patcharee Kongpun
 
นำเสนอขนมปุยฝ้าย
นำเสนอขนมปุยฝ้ายนำเสนอขนมปุยฝ้าย
นำเสนอขนมปุยฝ้ายPatcharee Kongpun
 

Similar to สูตรขนมไทย (6)

การทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ด
การทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ดการทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ด
การทำกะหรี่ปั๊บไส้เห็ด
 
แกะรอยขนมไทย
แกะรอยขนมไทยแกะรอยขนมไทย
แกะรอยขนมไทย
 
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
 
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
นำเสนอขนมไทย วัสดุอุปกรณ์
 
นำเสนอขนมปุยฝ้าย
นำเสนอขนมปุยฝ้ายนำเสนอขนมปุยฝ้าย
นำเสนอขนมปุยฝ้าย
 
ขนมเทีย1
ขนมเทีย1ขนมเทีย1
ขนมเทีย1
 

สูตรขนมไทย

  • 1. สู ต ร ข น ม ไ ท ย
  • 2. 1. ขนมบุหลันดั้นเมฆ ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ • ดอกอัญชัน • น้าร้อน • กะทิ 120 กรัม • แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม • เกลือ เล็กน้อย • ไข่แดง 10 ฟอง • น้าตาลไอซิ่ง 60 กรัม • กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม • แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม • น้าเปล่า 200 กรัม • น้าเชื่อม 350 กรัม • ถ้วยตะไล
  • 3. วิธีทาขนมบุหลันดั้นเมฆ 1. คั้นดอกอัญชันกับน้าร้อนให้ได้ปริมาณ 100 กรัม พักไว้ 2. ผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า 10 กรัม เข้าด้วยกันแล้วนาไปเคี่ยวในกระทะให้พอข้น ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ปิดไฟพักไว้ 3. ตีผสมไข่แดงกับน้าตาลไอซิ่งให้เข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนาไป กรองให้เนื้อเนียน ๆ เตรียมไว้ 4. ผสมแป้งข้าวเจ้า 100 กรัม กับแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้าเปล่าทีละน้อยลงไปผสม นวดแป้งประมาณ 5 นาที จนแป้งมีลักษณะเงา เทน้าเปล่าที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้าเชื่อมที่เย็นแล้ว เทน้าดอกอัญชันลงไปผสม คนผสมให้เข้ากัน แล้วนาไปกรอง พักไว้ 5. นาถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน หยอดส่วนผสมแป้งลงไปจนเกือบเต็ม ปิดฝานึ่งในน้าเดือดประมาณ 2-2.30 นาที โดยสังเกต จากขอบขนมเริ่มมีสีเข้มขึ้นและตรงกลางมีสีอ่อน ๆ เป็นใช้ได้ รีบนาออกมาจากชุดนึ่งแล้วคว่าถ้วยขนมลงชาม แป้งที่ยังไม่สุก ก็จะไหลออกมา ทาให้ขนมเป็นหลุมตรงกลาง 6. บีบหรือหยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุม นาไปนึ่งต่ออีก 1 นาที พอครบเวลาก็หยอดส่วนผสมไข่แดงลงในหลุม จากนั้น นาไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
  • 4. 2. ขนมอินทนิล2.ขนมอินทนิล • ส่วนผสม ตัวขนม • แป้ งมันสาปะหลัง 2 ถ้วย • น้าใบเตย 4 ถ้วย • ส่วนผสม น้ากะทิ • น้ากะทิ 4 ถ้วย หรือกะทิกระป๋ อง 4 ถ้วยตวง • น้าตาลทราย 1+1/2 ถ้วยตวง • เกลือป่น 1 ช้อนชา • เทียนสาหรับอบขนม
  • 5. •วิธีทาขนมอินทนิล 1. ทาน้ากะทิอบควันเทียน โดยเทน้ากะทิลงอ่าง จุดเทียนอบขนมให้ไฟลามถึงตรงขี้ผึ้งแล้วดับเทียน ใส่เทียน ลงในถ้วยเล็ก ๆ แล้วเอาใส่อ่างน้ากะทิ ปิดฝา อบน้ากะทิไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจุดเทียนอบซ้าอีก 1-2 ครั้ง ถ้า มีดอกกระดังงาก็เอาไปอบพร้อมเทียนเลย 2. พอได้น้ากะทิที่อบควันเทียนแล้วนาขึ้นตั้งไฟ ใส่น้าตาลทราย และเกลือป่น คนผสมให้ละลาย รอจนเดือด แล้วยกลง 3. ทาตัวขนม โดยผสมแป้ งกับน้าใบเตย คนให้แป้ งละลายเข้ากับน้าใบเตย นาขึ้นตั้งไฟอ่อน ใช้พายกวนตลอด ระวังอย่าให้ก้นหม้อไหม้ กวนจนขนมสุก ตัวแป้ งจะเหนียวและใส พอแป้ งสุกทั่วกัน เอาหม้อลงแช่ในอ่างน้าแข็ง เพื่อลดอุณหภูมิตัวขนมไม่ให้ร้อนเกินไป เดี๋ยวจะจับเป็นตัวไม่ได้ 4. เตรียมถ้วยใส่น้าไว้คอยจุ่ม ป้ องกันขนมติดมือ ใช้นิ้วเปียก ๆ หยิบแป้ งปั้นให้กลม ๆ ขนาดพอดีคา แล้ว หย่อนลงน้ากะทิที่เตรียมไว้ ทาจนแป้ งหมด ตัวขนมอินทนิลที่ดี ต้องไม่แข็งเป็นไตตรงกลาง ตักขนมใส่ถ้วย ใส่ น้าแข็งทุบ จัดเสิร์ฟ
  • 6. 3. ขนมโค •ส่วนผสม ขนมโค • แป้งข้าวเหนียว • น้าตาลแว่น • มะพร้าวขูด • เผือกหอมนึ่ง • เกลือป่นเล็กน้อย • เฮลซ์บลูบอยสีแดงหรือน้าคั้นจากผักสีธรรมชาติ
  • 7. วิธีทาขนมโค 1. ใช้ช้อนกับส้อมบดเผือกนึ่ง เสร็จแล้วนาไปผสมกับแป้งข้าวเหนียว นวดผสมกันจน เป็นก้อน ถ้าส่วนผสมแห้งเกินไปก็เติมน้า ถ้าเหนียวไปก็ต้องเติมแป้งเพิ่ม ถ้าต้องการ แป้งสีชมพูก็เอาน้าหวานสีแดงผสมน้าเปล่าเทใส่ลงไปแล้วนวดจนเข้ากัน 2. แบ่งแป้งเป็นก้อนกลม ๆ กะปริมาณของแป้งจะต้องมากพอที่จะหุ้มน้าตาลที่ตัด เตรียมไว้ได้แผ่เป็นแผ่นบาง กะความหนาให้พอดี วางน้าตาลลงไปตรงกลาง คลึงให้ เป็นก้อนกลม ทาเสร็จแล้วพักไว้ 3. เติมน้าสะอาดใส่ลงในหม้อ ตั้งไฟกลางรอจนน้าเดือด ใส่ขนมโคลงไปลวกจนสุก สังเกตจากขนมลอยขึ้นมา ตักไปแช่น้าเย็นไว้ครู่หนึ่งกันขนมติดกัน (ในสูตรไม่ชอบให้ ขนมติดกันเลยใช้วิธีนี้ แต่สูตรเดิมคือไม่ต้องแช่น้า) 4. ตักขนมใส่จาน และนามะพร้าวขูดคลุกกับเกลือป่นเล็กน้อย เสร็จแล้วก็นาไปคลุก กับตัวขนมหรือจะโรยก็ได้
  • 8. 4. ขนมเปี ยกปูนกะทิสด ส่วนผสม ขนมเปียกปูนกะทิสด • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง • แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง • น้าปูนใส 1 ถ้วยตวง • น้าใบเตย 2 ถ้วยตวง • เกลือเล็กน้อย • น้าตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง • น้าตาลปี๊บ 120 กรัม ส่วนผสม กะทิราดหน้าขนม • กะทิ 500 กรัม • เกลือแค่หยิบมือ • แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้แต่ที่ใส่เพื่อให้น้ากะทิข้น) • งาขาวคั่ว
  • 9. วิธีทาขนมเปี ยกปูนกะทิสด 1. นาแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้าปูนใส และน้าใบเตยผสมกันและนวดจนเข้า กันดี ใส่เกลือ น้าตาลทรายแดง และน้าตาลปี๊บ นวดต่อจนเข้ากันดี กรอง ส่วนผสมแป้งด้วยตะแกรง 1 รอบ 2. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อน ให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี สังเกตจากการ เอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้ว ตักขนมเปียกปูน ใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบแต่งหน้าเค้ก บีบใส่ถ้วย 3. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ ตามด้วยเกลือ ใส่แป้งข้าวเจ้า คนผสมจนเดือด เสร็จแล้วตักกะทิราดหน้าขนมเปียกปูน โรยงาขาวคั่ว
  • 10. 5. ขนมเทียนแก้ว ส่วนผสม แป้งขนมเทียนแก้ว • แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วย • น้าตาลทราย 1+1/2 ถ้วย • น้าลอยดอกมะลิ 5 ถ้วย • ใบตอง สาหรับห่อขนม ส่วนผสม ไส้ขนมเทียน (เค็ม) • ถั่วเขียวซีกเราะเปลือก 1 กิโลกรัม • หอมแดง • พริกไทย • น้ามันพืช (สาหรับผัด) • เกลือป่น • น้าตาลทราย
  • 11. วิธีทาไส้ขนมเทียน • 1. ล้างถั่วเขียวซีกเราะเปลือกให้สะอาด แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน จากนั้นนาไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้จนเย็น สนิท • 2. โขลกหอมแดงกับพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ถั่วเขียวนึ่งลงโขลกพอหยาบ • 3. ใส่น้ามันพืชลงในกระทะ ใส่ส่วนผสมไส้ลงผัดจนหอม ปรุงรสด้วยเกลือป่น และน้าตาลทราย ชิมรสตามชอบ ให้มี รสหวาน เค็ม เผ็ด ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมไว้ • วิธีทำขนมเทียนแก้ว • 1. ใส่น้าตาลทรายและน้าลอยดอกมะลิลงในหม้อ นาขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวจนเป็นน้าเชื่อม ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น • 2. ผสมแป้งถั่วเขียวและน้าลอยดอกมะลิให้เข้ากัน กรองด้วยตะแกรง จากนั้นเทใส่กระทะทองเหลือง ใส่น้าเชื่อมที่ เตรียมไว้ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน กวนจนส่วนผสมแป้งสุกและใส ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้จนอุ่น • 3. ตักส่วนผสมแป้งลงในกรวยใบตอง ตามด้วยไส้ ห่อเป็นทรงสามเหลี่ยมให้สวยงาม
  • 12. จัดทำโดย นำงสำว ชมพูนุท คุ้มมี ชั้นม.3/13 เลขที่12 นำงสำว ภควดี บุตรวิชำ ชั้นม.3/13 เลขที่22 นำงสำว วริศรำ สุริพุทธ ชั้นม.3/13 เลขที่ 24