SlideShare a Scribd company logo
ความหมายของ 
โครงงาน 
โครงงาน คือ งานวิจัย 
เล็กๆสาหรับนักเรียน เป็น 
การแก้ปัญหาหรือข้อสงสัย 
หาคาตอบโดยใช้ 
กระบวนการทาง 
วิทยาศาสตร์ หากเนือ้หา 
หรือข้อสงสัยเป็นไปตาม 
กลุ่มสาระการเรียนรู้ใด จะ 
เรียกว่าโครงงานในกลุ่ม 
สาระนัน้ๆ 
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 
ที่ใช้ คือ 
1. เมื่อนักเรียนเกิดปัญหา 
2. นักเรียนก็ตอบปัญหา 
ชวั่คราว (สมมุติฐาน) 
3. นักเรียนจะต้องออกแบบ 
การทดลอง เพื่อพิสูจน์ปัญหา 
ว่าจริงหรือไม่ 
4. ทาการทดลอง หรือศึกษา 
ค้นคว้าเพื่อสรุปผล 
4.1 ถ้าคาตอบไม่ตรงกับ 
สมมุติฐาน ก็ตัง้สมมุติฐาน 
ใหม่ และทาข้อ 3 ข้อ4 จนเป็น 
จริง 
4.2 เมื่อคาตอบตรงกับ 
สมมุติฐาน ก็จะทาให้ได้รับ 
ความรู้ใหม่และเกิดคาถาม 
ใหม่ 
5. นาผลที่ได้ไปใช้ประโยชน์
ในการที่นักเรียนจะทาโครงงานในกลุ่มสาระใด นักเรียนจะเป็นผู้ที่เลือกหัวข้อที่จะศึกษาค้นคว้า ดาเนินการวางแผน 
ออกแบบ ประดิษฐ์ สารวจ ทดลอง เก็บรวบรวมข้อมูล รวมทัง้การแปรผล สรุปผล และการเสนอผลงาน โดยตัว 
นักเรียนเอง อาจารย์ที่ปรึกษาเป็นเพียงผู้ดูแลและให้คาปรึกษาเท่านัน้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง กิจกรรมที่จัดว่าเป็น 
กิจกรรมโครงงานจะต้องประกอบด้วย 
1. เป็นกิจกรรมที่มีเนือ้หาสาระตามกลุ่มสาระการเรียนรู้นัน้ๆ 
2. นักเรียนจะต้องเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ตามความสนใจและระดับ 
ความสามารถของนักเรียนแต่ละวัย 
3. เป็นกิจกรรมที่มีการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เข้าไปช่วยในการศึกษาค้นคว้า เพื่อตอบปัญหาที่สงสัย 
4. นักเรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษาค้นคว้า ตลอดจนดาเนินงานเก็บรวบรวมข้อมูล หรือประดิษฐ์คิดค้น 
รวมทัง้แปรผล สรุปผล และเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีครูอาจารย์เป็นที่ปรึกษาเท่านัน้
การสอนให้นักเรียนได้เรียนการจัดทาโครงงานนัน้อกจากจะมี 
คุณค่าทางด้านการฝึกให้นักเรียนมีความรู้ ความชานาญและมีความ 
มนั่ใจ ในการนาเอาวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือค้นคว้า 
หาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองแล้ว ยังให้คุณค่าอื่นๆ คือ 
1. รู้จักตอบปัญหาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่เป็นคนที่ 
หลงเชื่องมงายไร้เหตุผล 
2. ได้ศึกษาค้นคว้า หาความรู้ในเรื่องที่ตนสนใจได้อย่างลึกซึง้กว่า 
การสอนของครู 
3. ทาให้นักเรียนได้แสดงความสามารถพิเศษของตนเอง 
4. ทาให้นักเรียนสนใจเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้นัน้ๆมากยิ่งขึน้ 
5. นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 
ในการทาโครงงานในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ควรจะมีระยะเวลา และ 
วิธีการที่ไมยุ่่งยาก ซับซ้อนนัก และควรเป็นไปตามระดับสติปัญญาของ 
นักเรียนในแต่ละช่วงชัน้ด้วย
ความสาคัญของโครงงาน 
เสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ 
จริง ส่งผลทาให้เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ในการทา 
โครงงานใหม่ๆที่จะนาไปสู่โลกของงานอาชีพและ 
การศึกษา อีกทัง้โครงงานที่ตนเองสนใจยังก่อให้เกิด 
องค์ความรู้ที่กว้างขวาง เป็นการประสานงานทาง 
วิชาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ
ความสาคัญของโครงงานในแง่ของการ 
เรียนการสอน และจัดกิจกรรม 
1. ด้านนักเรียน ก่อให้เกิดคุณค่าต่างๆ ดังนี้ 
1.1 ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่จะนาไปสู่อาชีพ และ 
การศึกษาต่อ ที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ 
1.2 สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิด 
ความเข้าใจอย่างซาบซึง้ ในโครงงานที่สร้างสรรค์ขึน้มา 
1.3 ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง และการแก้ปัญหาในการงานที่ 
ตนเองสนใจและมีความพร้อม ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในการดาเนินงาน 
ต่อไป 
1.4 ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติในโครงงานที่ได้ริเริ่ม 
สร้างสรรค์ 
1.5 ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีงามต่อกัน ระหว่าง 
เพื่อนนักเรียนที่ปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม 
1.6 ก่อให้เกิดความรู้ทางวิชาการที่กว้างขวางขึน้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้รับ 
ความสาเร็จในการศึกษาตามหลักสูตร และตรงกับจุดหมายที่กาหนดไว้
ขอบข่ายโครงงาน 
ขอบข่ายของโครงงาน ดาเนินงานโดยนักเรียนเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์และครู 
อาจารย์เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษา สรุปคือ 
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาทีให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดย 
อาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี ตามเนือ้หาโครงสร้างงานนัน้ๆหรือจาก 
ประสบการณ์และกิจกรรมต่างๆที่ได้พบเห็นมาแล้ว 
2.นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเองหรือเป็นกลุ่มโดยใช้ 
ระยะเวลาสัน้ๆเป็นภาคเรียนหรือมากกว่าก็ได้ 
3.นักเรียนเป็นผู้พิจารณาสร้างสรรค์คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า 
ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจและความพร้อม 
4.นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและ 
การแปรผล รายงานต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุ 
ตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ 
สติปัญญา รวมทัง้การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงาน 
แบ่งได้เป็น 5 ประเภท 
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้ 
คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรม 
บทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท 
ทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบ 
รายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ 
ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา 
บทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ 
โครงงานประเภทนีส้ามารถพัฒนาขึน้เพื่อใช้ประกอบการสอนใน 
วิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนือ้หาที่เข้าใจยาก มาเป็น 
หัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร 
เจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญ 
ของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของ 
คนไทยพวน โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความ 
หลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรม 
ฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็น 
โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ 
ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่ 
สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น 
การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ 
ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ 
ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึง้ใน 
เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด 
แบบจาลอง หลักการ ซงึ่อาจอยู่ในรูปของ 
สูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทัง้าร 
จาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมา 
เป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตร 
หรือสมการนัน้ ซงึ่จะทาให้ผู้เรียนมีความ 
เข้าใจได้ดียิ่งขึน้ การทาโครงงานประเภทนีมี้ 
จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนัน้ๆ 
เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี 
เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว 
การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า 
และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบ 
สามมิติ เป็นต้น 
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็น 
โครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน 
ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ 
เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์ 
พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง 
วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับ 
ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนัน้สร้าง 
ขึน้เป็นโปรแกรมประมวลคา ซงึ่จะ 
เป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งาน 
ต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน 
ซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึน้เพื่อ 
อานวยความสะดวกให้การวาดรูปบน 
เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ 
โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการ 
มองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วย 
การออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ 
วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดู 
ว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ 
ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ 
ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและ 
แก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่าง 
สะดวก เป็นต้น
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน 
ชีวิตประจาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายใน 
อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย 
เป็นต้น โครงงานประเภทนีจ้ะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ 
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซงึ่อาจเป็นการคิดสร้างสงิ่ของขึน้ใหม่หรือปรับปรุง 
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึน้ 
โครงงานลักษณะนีจ้ะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ 
ของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ 
พัฒนาสิ่งของนัน้ๆ ต่อจากนัน้ต้องมีการทดสอบการทางาน 
หรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มี 
ความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนีผู้้เรียนต้องใช้ความรู้ 
เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือ 
ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรมระบบงานการกีฬา โปรแกรม 
ระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
5.ความหมายโครงงานประเภท “การพัฒนา 
โปรแกรมประยุกต์” 
ในปัจจุบันเกมคอมพิวเตอร์ ได้เข้ามามี 
บทบาทต่อเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ดังนัน้ 
โครงงานพัฒนาเกม จึงเป็นอีกโครงงานที่จะ 
ส่งเสริมการสร้างเกมจากจินตนาการของ 
นักเรียน ซึ่งจะทาให้ได้เกมสีขาวที่ไม่มีพิษ 
ภัยตอ่ผู้เล่น หรือเป็นการสร้างเกมในเชิง 
สร้างสรรค์ โดยใช้ตัวละครตามวรรณคดี 
เป็นผู้เล่น เช่น เกมผจญภัยทะลุมิติ แต่ตัว 
ละครในเกมจะใช้เป็นหนุมาน พระลักษมณ์ 
พระราม นางสีดา และทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นตัว 
ละครในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นการผสมผสาน 
ความรู้ด้านวรรณคดีได้เป็นอย่างดี และทา 
ให้ผู้เล่นเกมมีความเข้าใจ สามารถจา 
ลักษณะของตัวละครเหล่านัน้ได้ 
กฎกติการการเล่นเกมผู้พัฒนาโครงงาน 
สามารถกาหนดขัน้มาได้เองตามความ 
เหมาะสมหรือพัฒนาเกมประเภทฝึกสมอง 
ประลองปัญญา จึงเป็นอีกรูปแบบของ 
โครงงานประเภทนีห้รือนาบทเรียนที่ยากต่อ 
การท่องจามาสร้างในลักษณะของเกมจะ 
ช่วยให้ผู้เล่นนอกจากได้รับความบันเทิงแล้ว 
ยังเป็นการท่องจาบทเรียนไปพร้อมกันด้วย 
ดังนัน้การสร้างสรรค์เกมและสอดแทรก 
ความรู้เข้าไปก็จะมีประโยชน์มากสาหรับผู้ 
เล่นและผู้ประดิษฐ์คิดค้น ซงึ่การจัดทา 
โครงงานคอมพิวเตอร์นัน้ และนักเรียน 
จะต้องมีความรู้พืน้ฐานเกี่ยวกับ 
1. หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ 
2. กระบวนการและหลักการในการ 
แก้ปัญหา 
3. หลักการเขียนโปรแกรม 
4. การแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์
จากโครงงานทัง้ 5 ประเภทนี้นักเรียนสามารถคิด 
สร้างสรรค์จากความสนใจและตามจินตนาการของตนเองได้อย่าง 
อิสระ เป็นการเปิดโลกกว้างทางความคิด แต่จะอยู่ภายใต้การให้ 
คาปรึกษาที่ดีของครู 
ตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ 
- โปรแกรม ต่อให้เพิ่ม เติมให้เต็ม 
- โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต 
- เกมอักษรเขาวงกต 
- เกมหมากฮอส 
- เกมมวยไทย 
- เกมอักษรไขว้ 
- เกมศึกรามเกียรติ์ 
- เกมบวกเลขแสนสนุก
จัดทาโดย 
นางสาวจุฑารัตน์ อกนิษฐ์กุล 
ชัน้ ม.6/4 เลขที่ 28 
นางสาวปารณีย์ สีคาแป้น 
ชัน้ ม.6/4 เลขที่ 39

More Related Content

What's hot

โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์Jiraprapa Suwannajak
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานMoo Mild
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
krunangrong
 
Computer
ComputerComputer
Computer
TKAomerz
 
นน
tangsfq
 
โครงงานคอม 2557 608
โครงงานคอม  2557 608 โครงงานคอม  2557 608
โครงงานคอม 2557 608
Kalanyu Tamdee
 
โครงงานคืออะไร
โครงงานคืออะไรโครงงานคืออะไร
โครงงานคืออะไร
Trepet Parungnantakul
 
Thana pbl
Thana pblThana pbl
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
nolmolcy001
 
การทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นการทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นPongtong Kannacham
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอมSrp Icecream
 
ใบงานท 3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)
ใบงานท   3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)ใบงานท   3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)
ใบงานท 3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)Milk MK
 
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”Sakulpit Promrungsee
 
โครงงานคอมหมูจี้
โครงงานคอมหมูจี้โครงงานคอมหมูจี้
โครงงานคอมหมูจี้Supichaya Tamaneewan
 
โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎี
โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎีโครงงานประเภทการสร้างทฤษฎี
โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎีTanyaporn Puttawan
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8noeypornnutcha
 

What's hot (17)

โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์โครงงานคณิตศาสตร์
โครงงานคณิตศาสตร์
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
นน
 
โครงงานคอม 2557 608
โครงงานคอม  2557 608 โครงงานคอม  2557 608
โครงงานคอม 2557 608
 
โครงงานคืออะไร
โครงงานคืออะไรโครงงานคืออะไร
โครงงานคืออะไร
 
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎีโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
 
Thana pbl
Thana pblThana pbl
Thana pbl
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
การทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้นการทำโครงงาน 5 ขั้น
การทำโครงงาน 5 ขั้น
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
ใบงานท 3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)
ใบงานท   3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)ใบงานท   3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)
ใบงานท 3 เร__อง ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (2)
 
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท “การทดลองทฤษฎี”
 
โครงงานคอมหมูจี้
โครงงานคอมหมูจี้โครงงานคอมหมูจี้
โครงงานคอมหมูจี้
 
โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎี
โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎีโครงงานประเภทการสร้างทฤษฎี
โครงงานประเภทการสร้างทฤษฎี
 
ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8ใบงานที่2-8
ใบงานที่2-8
 

Viewers also liked

E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...
E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...
E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...Paranee Srikhampaen
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
Paranee Srikhampaen
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
Paranee Srikhampaen
 
2557 โครงงาน
2557 โครงงาน2557 โครงงาน
2557 โครงงาน
Paranee Srikhampaen
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
Paranee Srikhampaen
 
โควต้ามช. 51
โควต้ามช. 51โควต้ามช. 51
โควต้ามช. 51
Paranee Srikhampaen
 
Calculo de Tanque Septico
Calculo de Tanque SepticoCalculo de Tanque Septico
Calculo de Tanque Septico
mgaby0222
 
Calculo de letrinas
Calculo de letrinasCalculo de letrinas
Calculo de letrinas
mgaby0222
 

Viewers also liked (9)

โควต้ามช.51
โควต้ามช.51โควต้ามช.51
โควต้ามช.51
 
E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...
E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...
E0b882e0b989e0b8ade0b8aae0b8ade0b89ae0b982e0b884e0b8a7e0b895e0b8b2e0b8a1e0b8a...
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
2557 โครงงาน
2557 โครงงาน2557 โครงงาน
2557 โครงงาน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โควต้ามช. 51
โควต้ามช. 51โควต้ามช. 51
โควต้ามช. 51
 
Calculo de Tanque Septico
Calculo de Tanque SepticoCalculo de Tanque Septico
Calculo de Tanque Septico
 
Calculo de letrinas
Calculo de letrinasCalculo de letrinas
Calculo de letrinas
 

Similar to งานคอม

Commm
CommmCommm
Commm
Rujruj
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
Pl'nice Destiny
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมPatchara Pussadee
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
Narut Keatnima
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
Siripassorn
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานAoy Amm Mee
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานAoy Amm Mee
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
jiratchaya45627
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 newโครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 newTeerapong Chaisen
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 newโครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 newTeerapong Chaisen
 
K6 2
K6 2K6 2
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
Siwimol Wannasing
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
Poppy Thanawan
 
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8
Pumbaa Stk
 

Similar to งานคอม (20)

Commm
CommmCommm
Commm
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 newโครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-15 new
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 newโครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 new
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2 15 new
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
K6
K6K6
K6
 
K6
K6K6
K6
 
K6
K6K6
K6
 
K6 2
K6 2K6 2
K6 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 ถึง 8
 
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 

งานคอม

  • 1. ความหมายของ โครงงาน โครงงาน คือ งานวิจัย เล็กๆสาหรับนักเรียน เป็น การแก้ปัญหาหรือข้อสงสัย หาคาตอบโดยใช้ กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ หากเนือ้หา หรือข้อสงสัยเป็นไปตาม กลุ่มสาระการเรียนรู้ใด จะ เรียกว่าโครงงานในกลุ่ม สาระนัน้ๆ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่ใช้ คือ 1. เมื่อนักเรียนเกิดปัญหา 2. นักเรียนก็ตอบปัญหา ชวั่คราว (สมมุติฐาน) 3. นักเรียนจะต้องออกแบบ การทดลอง เพื่อพิสูจน์ปัญหา ว่าจริงหรือไม่ 4. ทาการทดลอง หรือศึกษา ค้นคว้าเพื่อสรุปผล 4.1 ถ้าคาตอบไม่ตรงกับ สมมุติฐาน ก็ตัง้สมมุติฐาน ใหม่ และทาข้อ 3 ข้อ4 จนเป็น จริง 4.2 เมื่อคาตอบตรงกับ สมมุติฐาน ก็จะทาให้ได้รับ ความรู้ใหม่และเกิดคาถาม ใหม่ 5. นาผลที่ได้ไปใช้ประโยชน์
  • 2. ในการที่นักเรียนจะทาโครงงานในกลุ่มสาระใด นักเรียนจะเป็นผู้ที่เลือกหัวข้อที่จะศึกษาค้นคว้า ดาเนินการวางแผน ออกแบบ ประดิษฐ์ สารวจ ทดลอง เก็บรวบรวมข้อมูล รวมทัง้การแปรผล สรุปผล และการเสนอผลงาน โดยตัว นักเรียนเอง อาจารย์ที่ปรึกษาเป็นเพียงผู้ดูแลและให้คาปรึกษาเท่านัน้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง กิจกรรมที่จัดว่าเป็น กิจกรรมโครงงานจะต้องประกอบด้วย 1. เป็นกิจกรรมที่มีเนือ้หาสาระตามกลุ่มสาระการเรียนรู้นัน้ๆ 2. นักเรียนจะต้องเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ตามความสนใจและระดับ ความสามารถของนักเรียนแต่ละวัย 3. เป็นกิจกรรมที่มีการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เข้าไปช่วยในการศึกษาค้นคว้า เพื่อตอบปัญหาที่สงสัย 4. นักเรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษาค้นคว้า ตลอดจนดาเนินงานเก็บรวบรวมข้อมูล หรือประดิษฐ์คิดค้น รวมทัง้แปรผล สรุปผล และเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีครูอาจารย์เป็นที่ปรึกษาเท่านัน้
  • 3. การสอนให้นักเรียนได้เรียนการจัดทาโครงงานนัน้อกจากจะมี คุณค่าทางด้านการฝึกให้นักเรียนมีความรู้ ความชานาญและมีความ มนั่ใจ ในการนาเอาวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือค้นคว้า หาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเองแล้ว ยังให้คุณค่าอื่นๆ คือ 1. รู้จักตอบปัญหาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่เป็นคนที่ หลงเชื่องมงายไร้เหตุผล 2. ได้ศึกษาค้นคว้า หาความรู้ในเรื่องที่ตนสนใจได้อย่างลึกซึง้กว่า การสอนของครู 3. ทาให้นักเรียนได้แสดงความสามารถพิเศษของตนเอง 4. ทาให้นักเรียนสนใจเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้นัน้ๆมากยิ่งขึน้ 5. นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในการทาโครงงานในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ควรจะมีระยะเวลา และ วิธีการที่ไมยุ่่งยาก ซับซ้อนนัก และควรเป็นไปตามระดับสติปัญญาของ นักเรียนในแต่ละช่วงชัน้ด้วย
  • 4. ความสาคัญของโครงงาน เสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ จริง ส่งผลทาให้เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ในการทา โครงงานใหม่ๆที่จะนาไปสู่โลกของงานอาชีพและ การศึกษา อีกทัง้โครงงานที่ตนเองสนใจยังก่อให้เกิด องค์ความรู้ที่กว้างขวาง เป็นการประสานงานทาง วิชาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ
  • 5. ความสาคัญของโครงงานในแง่ของการ เรียนการสอน และจัดกิจกรรม 1. ด้านนักเรียน ก่อให้เกิดคุณค่าต่างๆ ดังนี้ 1.1 ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่จะนาไปสู่อาชีพ และ การศึกษาต่อ ที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ 1.2 สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิด ความเข้าใจอย่างซาบซึง้ ในโครงงานที่สร้างสรรค์ขึน้มา 1.3 ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง และการแก้ปัญหาในการงานที่ ตนเองสนใจและมีความพร้อม ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในการดาเนินงาน ต่อไป 1.4 ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติในโครงงานที่ได้ริเริ่ม สร้างสรรค์ 1.5 ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีงามต่อกัน ระหว่าง เพื่อนนักเรียนที่ปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม 1.6 ก่อให้เกิดความรู้ทางวิชาการที่กว้างขวางขึน้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้รับ ความสาเร็จในการศึกษาตามหลักสูตร และตรงกับจุดหมายที่กาหนดไว้
  • 6. ขอบข่ายโครงงาน ขอบข่ายของโครงงาน ดาเนินงานโดยนักเรียนเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์และครู อาจารย์เป็นผู้ให้คาแนะนาปรึกษา สรุปคือ 1. เป็นกิจกรรมการศึกษาทีให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดย อาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี ตามเนือ้หาโครงสร้างงานนัน้ๆหรือจาก ประสบการณ์และกิจกรรมต่างๆที่ได้พบเห็นมาแล้ว 2.นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเองหรือเป็นกลุ่มโดยใช้ ระยะเวลาสัน้ๆเป็นภาคเรียนหรือมากกว่าก็ได้ 3.นักเรียนเป็นผู้พิจารณาสร้างสรรค์คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจและความพร้อม 4.นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและ การแปรผล รายงานต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุ ตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ สติปัญญา รวมทัง้การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 7. ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้ คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรม บทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท ทบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบ รายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนา บทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนีส้ามารถพัฒนาขึน้เพื่อใช้ประกอบการสอนใน วิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนือ้หาที่เข้าใจยาก มาเป็น หัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปร เจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญ ของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของ คนไทยพวน โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก โปรแกรม ความ หลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสานวนไทยพาสนุก โปรแกรม ฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์
  • 8. 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็น โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการ ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่ สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึง้ใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซงึ่อาจอยู่ในรูปของ สูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทัง้าร จาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมา เป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตร หรือสมการนัน้ ซงึ่จะทาให้ผู้เรียนมีความ เข้าใจได้ดียิ่งขึน้ การทาโครงงานประเภทนีมี้ จุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนัน้ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบ สามมิติ เป็นต้น 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็น โครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์ พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับ ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนัน้สร้าง ขึน้เป็นโปรแกรมประมวลคา ซงึ่จะ เป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งาน ต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วน ซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึน้เพื่อ อานวยความสะดวกให้การวาดรูปบน เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการ มองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วย การออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดู ว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและ แก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่าง สะดวก เป็นต้น
  • 9. 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน ชีวิตประจาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายใน อาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนีจ้ะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซงึ่อาจเป็นการคิดสร้างสงิ่ของขึน้ใหม่หรือปรับปรุง เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึน้ โครงงานลักษณะนีจ้ะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ ของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ พัฒนาสิ่งของนัน้ๆ ต่อจากนัน้ต้องมีการทดสอบการทางาน หรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มี ความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนีผู้้เรียนต้องใช้ความรู้ เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรมระบบงานการกีฬา โปรแกรม ระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
  • 10. 5.ความหมายโครงงานประเภท “การพัฒนา โปรแกรมประยุกต์” ในปัจจุบันเกมคอมพิวเตอร์ ได้เข้ามามี บทบาทต่อเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ดังนัน้ โครงงานพัฒนาเกม จึงเป็นอีกโครงงานที่จะ ส่งเสริมการสร้างเกมจากจินตนาการของ นักเรียน ซึ่งจะทาให้ได้เกมสีขาวที่ไม่มีพิษ ภัยตอ่ผู้เล่น หรือเป็นการสร้างเกมในเชิง สร้างสรรค์ โดยใช้ตัวละครตามวรรณคดี เป็นผู้เล่น เช่น เกมผจญภัยทะลุมิติ แต่ตัว ละครในเกมจะใช้เป็นหนุมาน พระลักษมณ์ พระราม นางสีดา และทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นตัว ละครในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นการผสมผสาน ความรู้ด้านวรรณคดีได้เป็นอย่างดี และทา ให้ผู้เล่นเกมมีความเข้าใจ สามารถจา ลักษณะของตัวละครเหล่านัน้ได้ กฎกติการการเล่นเกมผู้พัฒนาโครงงาน สามารถกาหนดขัน้มาได้เองตามความ เหมาะสมหรือพัฒนาเกมประเภทฝึกสมอง ประลองปัญญา จึงเป็นอีกรูปแบบของ โครงงานประเภทนีห้รือนาบทเรียนที่ยากต่อ การท่องจามาสร้างในลักษณะของเกมจะ ช่วยให้ผู้เล่นนอกจากได้รับความบันเทิงแล้ว ยังเป็นการท่องจาบทเรียนไปพร้อมกันด้วย ดังนัน้การสร้างสรรค์เกมและสอดแทรก ความรู้เข้าไปก็จะมีประโยชน์มากสาหรับผู้ เล่นและผู้ประดิษฐ์คิดค้น ซงึ่การจัดทา โครงงานคอมพิวเตอร์นัน้ และนักเรียน จะต้องมีความรู้พืน้ฐานเกี่ยวกับ 1. หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ 2. กระบวนการและหลักการในการ แก้ปัญหา 3. หลักการเขียนโปรแกรม 4. การแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์
  • 11. จากโครงงานทัง้ 5 ประเภทนี้นักเรียนสามารถคิด สร้างสรรค์จากความสนใจและตามจินตนาการของตนเองได้อย่าง อิสระ เป็นการเปิดโลกกว้างทางความคิด แต่จะอยู่ภายใต้การให้ คาปรึกษาที่ดีของครู ตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ - โปรแกรม ต่อให้เพิ่ม เติมให้เต็ม - โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต - เกมอักษรเขาวงกต - เกมหมากฮอส - เกมมวยไทย - เกมอักษรไขว้ - เกมศึกรามเกียรติ์ - เกมบวกเลขแสนสนุก
  • 12. จัดทาโดย นางสาวจุฑารัตน์ อกนิษฐ์กุล ชัน้ ม.6/4 เลขที่ 28 นางสาวปารณีย์ สีคาแป้น ชัน้ ม.6/4 เลขที่ 39