Thailand IT Start-Up Community: Progress, Status, Challenges & Policy Recomme...thaistartupreview
Slides from David Shelters presentation at the July 2, 2013 ICT Advisory Conference at Centara Grand Hotel @ Central World, Bangkok, Thailand. See full blog entry on the ICT Advisory conference at thaistartup.net
Thailand IT Start-Up Community: Progress, Status, Challenges & Policy Recomme...thaistartupreview
Slides from David Shelters presentation at the July 2, 2013 ICT Advisory Conference at Centara Grand Hotel @ Central World, Bangkok, Thailand. See full blog entry on the ICT Advisory conference at thaistartup.net
25. ๏ 2518–2524: MICROSOFT ถือกาเนิดขึ้น
ในช่วงปี 2513 ที่ทางานเราต้องใช้เครื่องพิมพ์ดีด หากจาเป็นต้องทาสาเนาเอกสาร เราก็จะใช้
เครื่องโรเนียวหรือกระดาษคาร์บอน ไม่ค่อยมีใครพูดถึงไมโครคอมพิวเตอร์ แต่เด็กหนุ่มสองคนที่ชื่น
ชอบคอมพิวเตอร์อย่าง Bill Gates และ Paul Allen กลับเห็นว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคือเส้นทางสู่
อนาคต
ในปี 2518 Gates และ Allen ร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อ Microsoft Microsoft ก็ไม่ต่างจากบริษัทที่
เริ่มกิจการใหม่ส่วนใหญ่ โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ แต่มีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ บนทุกโต๊ะทางานและใน
ทุกบ้านต้องมีคอมพิวเตอร์ ในปีต่อๆ มา Microsoft เริ่มเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทางาน
26. ๏ การมาของ MS-DOS
ในเดือนมิถุนายน 2523 Gates และ Allen ได้ว่าจ้าง Steve Ballmer อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียน
จากฮาร์วาร์ดของ Gates ให้มาช่วยพวกเขาดาเนินกิจการของบริษัท ในเดือนต่อมา IBM ได้เข้ามา
ติดต่อ Microsoft เกี่ยวกับโปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า "Chess" ด้วยเหตุนี้ Microsoft จึงได้หันมาให้
ความสาคัญกับระบบปฏิบัติการใหม่ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดการ หรือสั่งงานฮาร์ดแวร์ของ
คอมพิวเตอร์และยังทาหน้าที่เชื่อมช่องว่างระหว่างฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์กับโปรแกรม เช่น
โปรแกรมประมวลผลคา และยังเป็นพื้นฐานสาหรับการสั่งงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย พวก
เขาตั้งชื่อระบบปฏิบัติการใหม่นี้ว่า "MS-DOS"
การวางจาหน่ายพีซีของ IBM ที่ใช้ MS-DOS ในปี 2524 ถือเป็นการเปิดตัวภาษาใหม่ให้
สาธารณชนทั่วไปรู้จัก การพิมพ์“C:” และคาสั่งที่เป็นรหัสต่างๆ เริ่มกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการ
ทางานประจาวัน ผู้คนเริ่มรู้จักปุ่มแบคสแลช () MS-DOS ใช้งานได้ดี แต่ก็ยังเข้าใจได้ยาก
สาหรับผู้ใช้หลายๆ คน ต้องมีวิธีสร้างระบบปฏิบัติการที่ดีกว่านี้สิ
27. ๏ 2525–2528: การเปิดตัว WINDOWS 1.0
Microsoft ยังคงพัฒนาระบบปฏิบัติการใหม่เวอร์ชันแรกต่อไป Interface Manager เป็นชื่อรหัส
และได้รับเลือกให้เป็นชื่อสุดท้าย แต่ชื่อ Windows กลับมาชนะไปในที่สุด เพราะอธิบายถึงกล่องหรือ
“หน้าต่าง” ของคอมพิวเตอร์ที่เป็นรากฐานของระบบใหม่ได้ดีที่สุด มีการประกาศวันวางจาหน่าย
Windows ในปี 2526 แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป พวกที่ไม่ปลื้มเรียกว่าระบบนี้ว่า “เวเปอร์แวร์”
ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2528 สองปีหลังจากการประกาศเปิดตัวครั้งแรก Microsoft ก็วาง
จาหน่าย Windows 1.0 ตอนนี้ แทนที่จะพิมพ์คาสั่ง MS-DOS คุณก็เพียงแค่เลื่อนเมาส์เพื่อชี้และคลิกที่
ตาแหน่งต่างๆ บนหน้าจอ หรือ “หน้าต่าง” เท่านั้น Bill Gates พูดว่า “นี่คือซอฟต์แวร์พิเศษที่ออกแบบ
มาสาหรับผู้ใช้พีซีตัวจริง…”
33. ๏ 2533–2537: WINDOWS 3.0–WINDOWS NT—เริ่มรองรับกราฟิก
ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2533 Microsoft ได้ประกาศเปิดตัว Windows 3.0 และตามมาด้วย
Windows 3.1 ในปี 2535 เมื่อนับรวมกัน ทั้งสองรุ่นสามารถขายได้10 ล้านสาเนาในระยะเวลา 2 ปีแรก
ทาให้ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่มีการใช้กันแพร่หลายมากที่สุด ความสาเร็จนี้
ทาให้ Microsoft กลับมาคิดทบทวนแผนการก่อนหน้านี้อีกครั้ง หน่วยความจาเสมือนช่วยปรับปรุง
กราฟิกการแสดงผล ในปี 2533 Windows เริ่มมีลักษณะเหมือนกับรุ่นที่ใช้งานกัน
Windows ในตอนนี้ มีพัฒนาการด้านประสิทธิภาพการทางานที่ดีขึ้นมาก มีกราฟิกขั้นสูง 16 สี
และไอคอนที่ปรับปรุงใหม่ คลื่นลูกใหม่ของพีซี 386 ช่วยให้ Windows 3.0 เป็นที่นิยมมากขึ้น ด้วยตัว
ประมวลผล Intel 386 ผู้ใช้จึงสามารถเรียกใช้โปรแกรมได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
34. มีการเพิ่ม Program Manager, File Manager และ Print Manager เข้ามาใน Windows 3.0มี
การติดตั้งซอฟต์แวร์ Windows โดยใช้ฟลอปปีดิสก์ที่อยู่ในกล่องขนาดใหญ่ซึ่งมาพร้อมคู่มือการ
ใช้งานเล่มหนาความนิยมของ Windows 3.0 เติมโตพร้อมกับการวางจาหน่าย Windows software
development kit (SDK) ใหม่ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์มุ่งเน้นไปที่การเขียนโปรแกรมมาก
ขึ้นและใช้เวลาในการเขียนโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์น้อยลงWindows มีการใช้งานในที่ทางาน
และที่บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ยังมีเกมต่างๆ เช่น Solitaire, Hearts และ Minesweeper โดยมี
การโฆษณาว่า “ตอนนี้คุณสามารถใช้ความสามารถอันน่าทึ่งของ Windows 3.0 เพื่อลดภาระของ
คุณได้แล้ว”
Windows สาหรับ Workgroups 3.11 ได้เพิ่มเวิร์กกรุ๊ปแบบเพียร์ทูเพียร์และการสนับสนุน
เครือข่ายโดเมน และเป็นครั้งแรกที่พีซีกลายเป็นส่วนสาคัญของการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์
ไคลเอ็นต์/เซิร์ฟเวอร์ที่เกิดใหม่
35. ๏ WINDOWS NT
เมื่อ Windows NT ออกวางจาหน่ายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2536 Microsoft ได้มาถึงช่วงเวลาที่
สาคัญ นั่นคือ โปรเจ็กต์ที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการใหม่ขั้นสูงตั้งแต่
เริ่มต้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว "Windows NT แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงรากฐานของวิธีการที่บริษัทต่างๆ
สามารถใช้จัดการกับความต้องการด้านคอมพิวเตอร์ของธุรกิจได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน" Bill Gates กล่าว
ไว้เมื่อผลิตภัณฑ์ออกวางจาหน่ายซึ่งแตกต่างจาก Windows 3.1 อย่างไรก็ตาม Windows NT 3.1 เป็น
ระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่รองรับโปรแกรมทางวิศวกรรม
และวิทยาศาสตร์ระดับสูง
เกร็ดน่าสนใจ: แต่เดิมมีการเรียกกลุ่มที่พัฒนา Windows NT ว่าทีม "ระบบพกพา"
39. ๏ การจับกระแสอินเทอร์เน็ต
ในช่วงต้นปี 2533 ผู้ที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีพูดถึงอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นเครือข่ายที่ประกอบขึ้น
ด้วยเครือข่ายต่างๆ ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ในปี 2538 Bill Gates ได้
ออกบทความที่ชื่อว่า “The Internet Tidal Wave” และประกาศว่าอินเทอร์เน็ตเป็น “การพัฒนาที่สาคัญ
ที่สุดตั้งแต่พีซีถือกาเนิดขึ้น”ในฤดูร้อน ปี 2538 มีการออก Internet Explorer รุ่นแรก เบราว์เซอร์นี้
ออกมาเพื่อร่วมประชันกับเบราว์เซอร์อื่นๆ ที่มีอยู่บน World Wide Web
เกร็ดน่าสนใจ: ในปี 2539 Microsoft วางจาหน่ายโปรแกรมจาลองการบินสาหรับ Windows 95
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 14 ปี ที่สามารถใช้งานกับ Windows ได้
43. ๏ WINDOWS ME
Windows Me ที่ออกแบบมาสาหรับการใช้งานภายในบ้านมีการปรับปรุงคุณลักษณะเกี่ยวกับ
เพลง วิดีโอ และเครือข่ายภายในบ้านจานวนมาก รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการทางานให้มีความเสถียรมากขึ้น
เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า สิ่งที่ปรากฏเป็นครั้งแรก ได้แก่ System Restore ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่
สามารถย้อนการกาหนดค่าซอฟต์แวร์พีซีของคุณกลับไปยังวันที่หรือเวลาก่อนที่จะเกิดปัญหาได้ Movie
Maker ทาให้ผู้ใช้มีเครื่องมือที่สามารถแก้ไข บันทึกและแบ่งปันวิดีโอภาพครอบครัวในแบบดิจิทัล และด้วย
เทคโนโลยี Microsoft Windows Media Player 7 คุณจึงสามารถค้นหา จัดระเบียบ
และเล่นสื่อดิจิทัลได้
เกร็ดน่าสนใจ: หากจะพูดกันในเชิงเทคนิค Windows Me ถือเป็นระบบปฏิบัติการสุดท้ายของ
Microsoft ที่ใช้โค้ดของ Windows 95 เป็นพื้นฐาน Microsoft ประกาศว่าผลิตภัณฑ์
ระบบปฏิบัติการทั้งหมดในอนาคตจะทางานบนเคอร์เนล Windows NT และ Windows 2000
45. ๏ WINDOWS 2000 PROFESSIONAL
Windows 2000 Professional ไม่ได้เป็นเพียงแค่การอัปเกรดจาก Windows NT Workstation 4.0
เท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อแทนที่ Windows 95, Windows 98 และ Windows NT Workstation 4.0 ที่
อยู่บนเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปสาหรับธุรกิจทั้งหมด Windows 2000 สร้างโดยใช้โค้ด Windows NT
Workstation 4.0 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายอดเยี่ยมเป็นพื้นฐาน และมีการปรับปรุงด้านความเสถียร
ความสะดวกในการใช้งาน ความสามารถในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และรองรับการใช้งานบน
คอมพิวเตอร์แบบพกพา
46. นอกจากจะปรับปรุงการทางานในส่วนต่างๆ แล้ว Windows 2000 Professional ยังรองรับ
ฮาร์ดแวร์ Plug and Play แบบใหม่หลายชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์การเชื่อมต่อเครือข่ายและระบบ
ไร้สายขั้นสูง อุปกรณ์ USB อุปกรณ์ IEEE 1394 และอุปกรณ์อินฟราเรด ซึ่งช่วยให้การติดตั้ง
ฮาร์ดแวร์เป็นเรื่องง่าย
เกร็ดน่าสนใจ: การทดสอบที่กดดันทุกคืนของ Windows 2000 ในระหว่างการพัฒนา
เทียบได้กับเวลาการทางานสามเดือนบนคอมพิวเตอร์ 1,500 เครื่อง
48. ๏ 2544–2548: WINDOWS XP—ความเสถียร ความพร้อมใช้งาน และความรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544 มีการวางจาหน่าย Windows XP โฉมใหม่ ซึ่งเน้นไปที่ฟังก์ชันที่
สามารถใช้งานได้จริงและศูนย์รวมข้อมูลความช่วยเหลือและวิธีใช้แบบครบวงจร โดยสามารถใช้งาน
ได้ใน 25 ภาษา นับแต่ช่วงกลางปี 2513 จนถึงการวางจาหน่าย Windows XP มีพีซีประมาณ 1 พันล้าน
เครื่องทั่วโลกที่ติดตั้งโปรแกรมนี้
สาหรับ Microsoft ระบบปฏิบัติการ Windows XP กาลังจะกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขายดี
อันดับหนึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ด้วยความรวดเร็วและความเสถียรของระบบ การเข้าออกเมนู 'เริ่ม'
แถบงาน และแผงควบคุมสามารถทางานได้ง่ายขึ้น มีการตื่นตัวเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์และแฮกเกอร์
มากขึ้น แต่ก็มีการเปิดให้ดาวน์โหลดอัปเดตระบบความปลอดภัยทางออนไลน์ซึ่งช่วยลดความกลัวได้
ระดับหนึ่ง ผู้ใช้เริ่มเข้าใจถึงคาเตือนเกี่ยวกับเอกสารแนบที่น่าสงสัยและไวรัส และเริ่มเห็นความสาคัญ
ของบริการช่วยเหลือและวิธีใช้มากขึ้น
49. Windows XP Home Edition มีการออกแบบด้านภาพให้ดูสบายตาและเรียบง่าย ทาให้
สามารถเข้าถึงคุณลักษณะที่ใช้งานบ่อยได้ง่ายขึ้น Windows XP ที่ออกแบบมาสาหรับการใช้งาน
ภายในบ้านมาพร้อมการปรับปรุงในส่วนต่างๆ เช่น Network Setup
Wizard Windows Media Player, Windows Movie Maker และความสามารถด้านภาพถ่ายดิจิทัล
ขั้นสูง
Windows XP Professional นารากฐานที่แข็งแกร่งของ Windows 2000 มาเพิ่มความเสถียร
ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทางานให้กับพีซีเดสก์ท็อป นอกเหนือจากรูปลักษณ์ใหม่
แล้วWindows XP Professional ยังมาพร้อมคุณลักษณะต่างๆ สาหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ใน
ธุรกิจและการใช้คอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่บ้าน การสนับสนุนเดสก์ท็อประยะไกล การเข้ารหัสระบบ
ไฟล์ รวมถึงคุณลักษณะการคืนค่าระบบและการเชื่อมต่อเครือข่ายขั้นสูงด้วย การปรับปรุงที่
สาคัญสาหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพา ได้แก่ การสนับสนุนเครือข่ายไร้สาย
802.1x, Windows Messengerและ Remote Assistance
50. WINDOWS XP หลายรุ่นในช่วงปีเหล่านี้
Windows XP รุ่น 64 บิต (2001) เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกของ Microsoft สาหรับตัว
ประมวลผล 64 บิตที่ออกแบบมาสาหรับการทางานกับหน่วยความจาขนาดใหญ่และโปรเจ็กต์
ต่างๆ เช่น ลักษณะพิเศษของภาพยนตร์ ภาพเคลื่อนไหวสามมิติ โปรแกรมทางวิศวกรรมและ
วิทยาศาสตร์
Windows XP Media Center Edition (2002) เหมาะสาหรับการใช้งานและการให้ความ
บันเทิงภายในบ้าน คุณสามารถท่องอินเทอร์เน็ต ดูรายการสด เพลิดเพลินกับคอลเลกชันเพลง
และวิดีโอดิจิทัล และดูดีวีดีได้
Windows XP Tablet PC Edition (2002) เป็นระบบปฏิบัติการสาหรับคอมพิวเตอร์ที่รับ
ข้อมูลแบบลายมือ แท็บเล็ตพีซีจะมีปากกาดิจิทัลที่ใช้ร่วมกับระบบการจดจาลายมือ นอกจากนี้
คุณยังสามารถใช้เมาส์หรือแป้นพิมพ์ได้ด้วย
เกร็ดน่าสนใจ: Windows XP เกิดจากการคอมไพล์โค้ดจานวน 45 ล้านบรรทัดเข้าด้วยกัน
52. ๏ 2549–2551: WINDOWS VISTA—ประสิทธิภาพที่มาพร้อมความปลอดภัย
Windows Vista วางจาหน่ายในปี 2549 พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุด
โดย User Account Control จะช่วยป้องกันซอฟต์แวร์ที่อาจเป็นอันตรายไม่ให้เปลี่ยนแปลงข้อมูล
ใดๆ ในเครื่องของคุณ ใน Windows Vista Ultimate การเข้ารหัสไดรฟ์ด้วย BitLocker สามารถให้
การปกป้ องข้อมูลที่ดีกว่าสาหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ เนื่องจากยอดขายแล็ปท็อปและความ
ต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Windows Vista ยังปรับปรุงประสิทธิภาพการ
ทางานของ Windows Media Player ให้สอดคล้องกับจานวนผู้ใช้ที่ใช้พีซีเป็นศูนย์รวมสื่อดิจิทัลที่
เพิ่มมากขึ้น คุณจึงสามารถดูทีวี ดูและส่งภาพถ่าย และแก้ไขวิดีโอบนพีซีได้
53. การออกแบบเข้ามามีบทบาทสาคัญใน Windows Vista และคุณลักษณะต่างๆ เช่น รูปลักษณ์
ใหม่ของแถบงานและเส้นขอบรอบหน้าต่าง การค้นหากลายเป็นคุณลักษณะใหม่ที่มีความสาคัญและ
ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาไฟล์บนพีซีของตนได้รวดเร็วขึ้น Windows Vista นาเสนอโปรแกรมรุ่นใหม่ๆ ที่มี
การผสมผสานของคุณลักษณะที่แตกต่างกัน โดยสามารถใช้งานได้ใน 35 ภาษา ปุ่ม 'เริ่ม' ที่ออกแบบ
ใหม่ปรากฏเป็นครั้งแรกใน Windows Vista
เกร็ดน่าสนใจ: มีอุปกรณ์กว่า 1.5 ล้านชิ้นที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Vista เมื่อเปิดตัว
57. ๏ 2555: WINDOWS 8
Windows 8 คือ Windows รูปแบบใหม่เกาะกล่องที่ปรับปรุงตั้งแต่ระดับชิปเซ็ตไปจนถึง
ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ โดยจะทาหน้าที่เป็นแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงและพีซีที่มี
คุณลักษณะครบครันเพื่อให้การทางานสาเร็จลุล่วง นอกจากนี้ Windows 8 ยังมาพร้อม
อินเทอร์เฟซใหม่ที่เข้ากันได้ดีกับระบบสัมผัส เมาส์ และแป้ นพิมพ์ด้วย คุณจะได้สัมผัสกับ
เดสก์ท็อป Windows 8 ที่คุ้นเคยพร้อมแถบงานใหม่และการจัดการไฟล์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
Windows 8 มาพร้อมหน้าจอเริ่มต้นที่มีไทล์ซึ่งเชื่อมต่อกับบุคคล ไฟล์ แอพ และเว็บไซต์
แอพต่างๆ จะดูโดดเด่นสะดุดตาและสามารถดาวน์โหลดได้อย่างสะดวกจากสถานที่ใหม่ นั่นก็
คือ Windows Store ที่อยู่บนหน้าจอเริ่มต้น
58. นอกจากนี้ Microsoft ยังเปิดตัว Windows RT ที่ทางานบนแท็บเล็ตและพีซีบางเครื่องพร้อมกับ
Windows 8 ด้วย Windows RT ออกแบบมาสาหรับอุปกรณ์พกพาแบบเพรียวบางที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้งาน
ได้ยาวนาน และใช้แอพจาก Windows Store เท่านั้น นอกจากนี้ Windows RT ยังมาพร้อม Office ในตัว
ที่เหมาะสาหรับหน้าจอสัมผัสด้วย
เกร็ดน่าสนใจ: ผู้ใช้ระดับสูงจะสังเกตเห็นว่าการตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาดในระบบไฟล์
ของ Windows 8 สะดวกรวดเร็วขึ้นและรบกวนผู้ใช้น้อยลง