SlideShare a Scribd company logo
1 of 53
รายงาน

เรื่อ ง ระบบปฏิบ ัต ิก าร windows XP
จัด ทำา โดย
นางสาววารุณ ี วงค์ร ัม ย์
ชั้น ปวช. 3 เลขที่ 28
แผนก คอมพิว เตอร์ธ ุร กิจ
เสนอ
อาจารย์แ สงเดือ น เพ็ญ ศศิธ ร
รายงานเล่ม นี้เ ป็น ส่ว นหนึ่ง ของวิช าระบบ
เครือ ข่า ยคอมพิว เตอร์เ บื้อ งต้น
วิท ยาลัย เทคนิค คูเ มือ ง
ประวัต ิ Windows XP
ปี 1983 Bill Gate ได้ออกจาก Harvard ขณะที่ยัง
เรียนอยู่ ปี 2 เพื่อมาบริหารบริษัท Micro Computer and
software หรือเป็นที่รู้จักกันภายหลัง คือ Microsoft
นั่นเอง ปีนั้นเอง MS-DOS ก็ได้ถือกำาเนิดขึ้นมาจนเป็นที่
ยอมรับกันอย่างแพร่หลา ย และเป็นจุดกำาเนิดให้เกิดการ
พัฒนาต่อมาจนเป็น Windows ในปี 1985 แต่ก็ยังคง
อาศัย DOS เป็นหลักอยู่เช่นเดิม แต่เพื่อความเข้าใจคงจะ
ต้องเริ่มจากก้าวแรกในปีนี้กั นเลยครับ
1985 – Microsoft Windows 1.0
ใน ปี 1985 นี้ Microsoft ได้เริ่มต้นกับการเปลี่ยนแปลง
เข้าสู่ระบบ Windows ที่พัฒนาต่อมาก MS-DOS แต่ถือ
เป็นเพียงเปลือกของ DOS เท่านั้น ซึ่งคุณสมบัติส่วนใหญ่
มุ่งไปที่ตารางนัดหมาย สมุดบันทึก และทำางานผ่านระบบ
GUI [Graphic User Interface] เป็นครั้งแรก
1987 – Microsoft Windows 2.0
2 ปีหลังจาก Windows 1.0 ก็ได้เวลาปล่อย version 2
ออกสู่ตลาด แต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายจาก
เดิม ส่วนมากจะเป็นการเพิ่มสีสันให้กับระบบ GUI ให้
สวยงามมากขึ้น และความสามารถในการพิมพ์ได้ตรงกับที่
เห็นบนหน้าจอ
1990 – Microsoft Windows 3.0
ใน ปีนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำาคัญของ Windows ที่
เข้ามามีบทบาทต่อเครื่อง Mc ของ Apple ที่กำาลังได้รับ
ความนิยมอยู่ในตอนนั้นในแง่ของ Computer ที่สามารถ
แสดงผลทางด้านกราฟิก โดย Microsoft เริ่มมีการใช้
ระบบ VxD [Virtual Device Driver] ซึ่งเป็น driver
ของ Windows ซึงช่วยในการติดต่อเสื่อสารกับอุปกรณ์
่
ต่างๆได้ง่ายขึ้น โดยอาศัยระบบการบริหารหน่วยความจำา
เข้ามาช่วย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในตอนนี้คือ kernel นั่นเอง
ด้วยความสามารถของ VxD ก็เริ่มทำาให้ระบบ Virtual
Memory ของ Windows ดีขึ้นมากเมื่อทำางานแบบ Multi
Tasking และด้วยเหตุนี้ทำาให้ Windows 3.0 ทำายอดได้
ถึง 10 ล้านชุดในระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น
1992 – Microsoft Windows 3.1
2 ปีกับความสำาเร็จของ Windows 3.0 ที่ทำายอดขายได้
แบบไม่คาดฝัน Microsoft ก็ได้ปล่อย Windows 3.1
ออกมาเพื่อแก้บั๊กที่มีอยู่ใน Windows 3.0 โดยหลักๆจะ
ทำาให้นักพัฒนา software สามารถสร้าง software ที่นำา
มาใช้กับ Windows ได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น และ
สามารถนำา font แบบ True Type Font มาได้กับ
Windows ด้วย
จาก Windows 3.0-3.1 ทำาให้ Microsoft เขย่าตลาด
PC ได้เป็นอย่างมาก โดยตอนนั้น IBM ซึงนำาทีมโดย OS/2
่
ครองตลาดอยู่
1993 – Microsoft Windows 3.11 (Windows
for Workgroups)
ห่าง มาแค่ปีเดียว ในปี 1993 Microsoft ได้ปล่อย
Windows 3.11 ออกสู่ตลาดซึ่งเป็นที่รู้จักกันในตอนนั้นคือ
Windows for Workgroups ซึงเป็นการต่อยอดมาจาก
่
Windows 3.1 โดยเสริมคุณสมบัติระบบ network และ
การสร้าง Protocol TCP/IP ทีช่วยทำาให้เครื่อง PC ใน
่
ระบบเน็ทเวิร์ก และ PC แบบ Home user สามารถติดต่อ
ผ่านเครือข่าย Internet นับเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับ PC
ในแบบที่ไม่มี Windows ตัวไหนทำาได้มาก่อน
1993 – Microsoft Windows NT 3.1
เดือน กรกฎาคมในปีเดียวกันนี้เอง Windows NT 3.1
ก็ได้ออกสู่ท้องตลาดในฐานะระบบปฏิบัติการที่มีสถาปัต
ยกรรมโครงสร้างแบบ 32 bit นัยว่าจะมาแทนที่
Windows 3.1 ทีมีโครงสร้างแบบ 16 bit โดยจุประสงค์
่
แรกที่ออก NT นั้นก็เพื่อรองรับการทำางานในลักษณะที่เป็น
LAN Server ที่สามารถทำางานร่วมกับ Novell’s
Netware ในตลาดเครื่อง server ในขณะนั้นที่กำาลังแข่ง
กับ Unix สำาหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มบริษัทหรือองค์กร
ต่างๆ ที่ต้องการเครื่อง server ที่มีกำาลังสูง และ
สถาปัตยกรรม NT นี้เองที่ทำาให้เราได้มี Windows 2000,
XP, 2003 และ VISTA ที่จะออกมาในปีหน้านี้
1995 – Microsoft Windows 95
ปี นี้ถือเป็นก้าวเปลี่ยนแปลงที่สำาคัญอีกครั้งของ Microsoft
และ Windows เพราะมันทำาให้ Microsoft กลายเป็นยักษ์
ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไปอย่างไร้ เทียมทานเลยก็
ว่าได้ โดย Windows 95 ที่ออกแบบมานั้นหน้าจอเป็น
interface ที่ถูกปรับโฉมใหม่หมด
[ในขณะนั้น] ไม่มีความเป็นหน้าจอ DOS หลงเหลืออยู่
เลย [ถ้านึกภาพ Windows 1.0-3.11 ไม่ออกก็นึกถึง
เครื่อง palm นะครับ] และหน้าจอก็ได้เริ่มมีการวาง icon
บน desktop ให้ผู้ใช้สามารถคลิ้กเพื่อเปิดการทำางานของ
โปรแกรมนั้ นๆได้เลยรวมถึงได้มี การนำาเอา Taskbar และ
Start Menu เข้ามาใช้เพื่อรองรับกับการทำางานแบบ
Multi tasking
ที่สำาคัญ Windows 95 ยังได้มีการแนะนำา feature ใหม่ที่
เรียกกันว่า Plug and Play [เสียบแล้วใช้] มาใช้เพื่อ
สนับสนุน hardware ที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในเครื่อง
computer รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงสำาหรับนักเล่นเกมอย่าง
เป็นจริงเ ป็นจัง จากเดิมที่การเล่นเกมที่มีอุปกรณ์ต่อพ่วงนี้
จะอยู่ใน เครื่องเล่นเกมของ Nintendo กับ Sega เท่านั้น
และจุดนี้เองที่ทำาให้เกมบน DOS หายไป และด้วย Direct
X ทำาให้มีการพัฒนาเกมตามมาอีกมากมาย ขณะที่
Protocol TCP/IP ก็ยังเป็นอีกหัวในสำาคัญที่ทำาให้การเปิด
โลก internet ของกลุ่มผู้ใช้ PC เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นและ
มีเว็บไซต์ต่างๆเกิดขึ้นต ามมา เพื่อรองรับการใช้จากทั่วทุก
มุมโลก
199x – Microsoft Windows NT 4.0
หลัง จากออก NT 3.1 ทีมพัฒนา software ของ
Microsoft ก็ได้ปล่อย Windows NT 4.0 ที่เน้นตลาด
เน็ตเวิร์กมากขึ้น โดยจะมี interface คล้ายกับ Windows
95 แต่ว่าระบบมีความเสถียรมากกว่า โดยการเพิ่ม API
[Application Programming Interface] เข้ามาทำาให้
software/Hardware ต่างๆติดต่อกับ Windows ได้อย่าง
เป็นมาตรฐานเดียวกัน
Windows NT 4.0 ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากสำาหรับ
บรรดากลุ่มองค์กร ที่ต้องการเครื่อง server ขนาดเล็กไป
จนถึงขนาดใหญ่
1997 – Microsoft Windows 98
Windows 98 ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้ยอมรับทั่ว
โลก โดยได้รับการพัฒนาในเรื่องพอร์ต USB ถือเป็นการ
เริ่มใช้งานครั้งแรกบน Windows 98 ในปี 1997 รวมถึง
ระบบ Fat32 ที่ทำาให้ Windows สนับสนุน Hard Disk ที่
มีขนาดมากกว่า 2 GB ได้ นอกจากนั้นยังได้มีการรวมเอา
hyper link ของ Internet Explorer มารวมกับ
Windows Explorer กลายเป็น Interface ร่วมกันของทั้ง
สองระบบ
ตรงนี้เองที่ทำาให้ Microsoft โดนศาลยุติธรรมของอเมริกา
โดยอ้างว่าการกระทำาดังกล่าว ไม่ยุติธรรมต่อบริษัท คู่แข่ง
อื่นๆ อย่าง Netscape ซึ่งตอนนั้นถือเป็นเจ้าตลาด
browser อยู่
1999 – Windows 98 SE
เนื่อง จาก Windows 98 ยังมีบั๊กอยู่เยอะ 2 ปีให้หลัง
Microsoft ก็ได้ออก Windows 98 SE [Second
Edition] ตามมาเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว และ
เป็นการมารพร้อมกับ feature ใหม่ที่เรียกว่า ICS หรือ
Internet Connection Sharing ซึงทำาให้เครื่อง PC
่
หลายๆเครื่องสามารถ share internet ร่วมกันได้โดยใช้
เพียง Account เดียวเท่านั้น
2000 – Microsoft Windows 2000
Windows 2000 หรือ Windows NT 5.0 แทบจะเรียก
ได้ว่าเป็น Windows ทีดีที่สุดของระบบปฏิบัติการ
่
Windows เลยที่เดียวก็ว่าได้ Windows 2000 ถูกใช้
อย่างแพร่หลายในฐานะเครื่อง workstation และ Server
จนถึงปัจจุบัน จุดเด่นของ Windows 2000 คือ มีความ
เสถียรสูงมาก การเขียนโปรแกรมเพื่อรองรับ application
ต่างๆก็ทำาได้ค่อนข้างง่าย Windows 2000 จึงเป็นที่ชื่น
ชอบของ Web developers ที่ต้องการสร้างโปรแกรม
เชื่อมต่อด้านเครือข่ายกับระบ บปฏิบัติการเป็นแกน หลัก
ของครือข่าย โดยใน Windows 2000 นี้ยังได้มีการแยก
รุ่นออกเป็น 3 รุ่นด้วยกันเพื่อให้ตรงกับความต้องการ
Windows 2000 Professional - เหมาะกับธุรกิจทั่วไป
รวมถึง PC ธรรมดาที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
Windows 2000 Server – เหมาะกับบริษัทขนาดเล็กกลาง
Windows 2000 Advanced Server - เหมาะกับองค์กร
ขนาดใหญ่ทมีการเข้าออกของข้อมูลเป็น จำานวนมาก
ี่
2000 – Microsoft Windows ME
Windows ME ถูกส่งมาทำาตลาดในระดับ User ทั่วไป โดย
คำาว่า ME ย่อมาจากคำาว่า Millennium Edition ซึ่งออก
วางจำาหน่ายในปี 2000 พอดี หลังออกมาได้ไม่นานสิ่งที่
ตามมาคือ บั๊กขนาดใหญ่ที่ทำาเอาระบบล่มบ่อยๆ สิ่งที่เพิ่ม
เข้ามาใน Windows ME คือ ระบบ System restore ซึ่ง
ทำาให้สามารถย้อนเวลากลับไปก่อนหน้าที่ต้องการได้ หรือ
อีกประการหนึ่ง Microsoft อาจจะพอเดาออกว่า
Windows ตัวนี้เข้ากันไม่ค่อยได้กับ hardware จึงทำา
System Restore ใส่เข้าไปด้วย ซึงฟังดูตลกแต่ก็เป็นเช่น
่
นั้นจริงๆ นอกนั้นยังมี Windows Media Player แบบเต็ม
รูปแบบครั้งแรก อีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาใน Windows ME คือ
Windows ตัวนี้ได้ตัด DOS ออกไปเป็นที่เรียบร้อย การ
ทำางานนั้นเป็นแบบ 32 bit โดยสิ้นเชิง ซึ่งต่างกับตัวที่แล้วๆ
มาเมื่อมีปัญหาคุณก็จะเจอ DOS แทน และอาจจะเป็น
เหตุผลอีกข้อที่ทำาให้ Windows ME ไม่ค่อยเสถียรเอา
มากๆ ยังกับว่านถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรอ Windows XP ใน
ขณะที่กำาลังพัฒนาอยู่
2001 – Microsoft Windows XP
นับ จากปี 1995 ปี 2001 นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้ง
สำาคัญอีกครั้งของ Microsoft และ Windows เมื่อการมา
ถึงของ Windows XP [XP = EX Perience] หรือ
Windows NT 5.1 ซึงเป็นลูกผสมระหว่าง Windows
่
2000/NT และ Windows 9x [95, 98, ME] ด้วย
Interface ที่ออกแบบใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ต้องบอกว่าใน
ตอนนั ้้นสวยงามเอามากๆ ความเสถียรที่อิงจาก
Windows 2000 การทำา Multiple user account การ
สนับสนุน Hardware อย่างเต็มรูปแบบ ทำาให้ Windows
XP เป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาที่มากับ Windows
XP นั้นกลับเป็นเรื่องระบบความปลอดภัยทำาให้ Microsoft
ต้องออก Service Pack1 มาภายในเวลาอันรวดเร็ว และ
Service Pack2 ตามมาอีก และในปีหน้ากลางปีก็จะถึง
เวลาของ Service Pack3 กันแล้วครับ
Windows XP แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ
Windows XP Home Edition- เหมาะกับกับการใช้งาน
ตามบ้านและ PC ทั่วๆไป
Windows XP Professional - เหมาะกับธุรกิจทั่วไป รวม
ถึง PC ธรรมดาที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่นเดียวกับ
Windows 2000 Professional
นอกจาก 2 รุ่นที่ว่ามาแล้วยังมีอีก 2 รุ่นที่ออกตามมาให้
หลัง คือ
Windows XP Home Edition N และ Windows XP
Professional N ซึ่งเป็นผลมาจากการ
ฟ้องร้องว่า Microsoft ทำาธุรกิจผูกขาด [อีกครั้ง] ซึงมีผล
่
ทำาให้ Microsoft ต้องออก N Edition เพื่อจำาหน่าย
เฉพาะในยุโรป สิ่งที่ต่างออกไปคือ จะไม่มี Windows
Media Player และ Internet Explorer ติดมากับ
Windows นั่นเอง
2003 – Microsoft Windows Server 2003
Windows 2003 Server หรือ Windows NT 5.2 นั้นถูก
สร้างขึ้นจาก Windows 2000+Windows XP โดยมุ่งหวัง
ที่จะเข้าแทนที่ Windows 2000 นอกจากหน้าตาเหมือน
Windows XP แล้วยังได้มีการเสริมในเรื่องของระบบรักษา
ความปลอดภัยให้สูงขึ้นเพราะถูก สร้างขึ้นมาให้ใช้กับ
องค์กรโดยเฉพาะ การจัดการที่ทำาได้ง่ายโดยผ่าน
Browser IE และยังเพิ่มความเสถียรในเรื่องของการเข้ากัน
ได้กับ Application Code ต่างๆได้อย่างหลากหลายมาก
ขึ้น
โดย Windows Server 2003 นี้มมากถึง 5 รุ่นได้กัน คือ
ี
Windows Server 2003 Standard – เหมาะสำาหรับทำา
server ขนาดในบริษัทขนาดเล็ก
Microsoft Windows Small Business Server 2003
– เหมาะสำาหรับธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง
Microsoft Windows Server 2003, Datacenter
Edition – เหมาะสำาหรับองค์กรที่มีข้อมูลมากมายที่ต้อง
จัดการ
Microsoft Windows Server 2003, Enterprise
Edition – เหมาะสำาหรับองค์กรขนาดใหญ่
Microsoft Windows Server 2003, Web Edition –
เหมาะสำาหรับทำา Web server
2003 – Microsoft Windows XP Media Center
Edition 2002 (WinMCE2002)
ปี 2003 นอกจากเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งของ
Microsoft ในปีนี้เอง Microsoft ก็ได้นำาเอา Microsoft
Windows XP Media Center Edition ออกจำาหน่ายเพื่อ
รองรับกับกลุ่มลูกค้า PC ตามบ้านที่ต้องการชุด โฮม
เธียเตอร์ โดยหลักโปรแกรมนี้ก็คือ Windows XP Pro ที่มี
การเพิ่มลูกเล่นในส่วนของ Media Center เข้าไปนั่นเอง
ทำาให้สามารถควบคุมผ่านรีโมทได้เหมือนกับโฮมธีเตอร์ทั่วๆ
ไป และ Media Center ที่เพิ่มมายังสามารถทำางานกับ
อุปกรณ์มีเดีย ทั้งหลายที่เชื่อมต่ออยู่กับ PC และการจัดการ
กับสื่อ Media ต่างๆได้ โดยใช้เพียงรีโมทเท่านั้น
2005 - Windows XP Media Center Edition
2005
หลัง จากนำาร่องด้วย MCE2002 ปีนี้ Microsoft ได้ออก
MCE2005 ซึ่งมีการเพิ่มคุฯสมบัติใหม่ๆเข้ามาเช่นการ
รองรับ HDTV [High Definition TV] หรือ TV ความ
ละเอียดสูง ที่แพร่ภาพในระบบ Digital [DTV] นอกจาก
นั้นยังมี interface ที่สนับสนุน Media Center
Extenders ซึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถ download/upload
่
ไฟล์หรือดูเนื้อหาต่างๆของไฟล์แบบสตรีมได้อย่างง่ายดาย
2005 – Microsoft Windows XP Professional
x64 Edition
เมษายน 2005 Microsoft ได้นำาเสนอ Microsoft
Windows XP Professional x64 Edition ออกสู่ตลาด
Windows ตัวนี้นับเป็นตัวแรกที่มีโครงสร้างสถาปัตยกรรม
แบบ 64 bit และยังคงทำางานได้กับ โปรแกรม 32 bit ได้
เช่นเดิม โดยฟังก์ชั่นนี้เรียกว่า WOW หรือ Windows 32
on Windows 64 ซึ่ง Windows นี้ถูกออกแบบเพื่อนำามา
ใช้กับงานกราฟฟิก 3D งานออกแบบ เครื่องบิน
Animation หรืองานที่ต้องการความถูกต้องสูงสุด
2007 – Microsoft Windows Vista
Windows Vista หรือชื่อในการพัฒนาว่า Windows
longhorn นั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของ Windows ครั้ง
ใหญ่อีกครั้งหนึ่ง นอกจาก core จะเป็น Windows NT
6.0 แล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือการแสดงผลแบบ 3D ของ
Window นั่นเอง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่ง นอกจาก
Interface ที่เปลี่ยนครั้งใหญ่แล้ว สิ่งที่ Microsoft มุ่งเน้น
มากคือความปลอดภัย โดยการประกาศท้าทายเหล่า
Hacker ให้เจอะระบบของ Windows vista กันเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีการจ้าง Hacker มาตรวจสอบ source
code ทั้งหมดของ Windows vista เพื่อหาช่องโหว่ที่อาจ
จะเกิดขึ้นไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ นอกจากนั้น Windows
Vista ยังมากับไฟล์รับบรูปแบบใหม่ คือ WINFS
[Windows Future storage] ที่จะเข้ามาแทน NTFS
โดย Windows Vista นี้จะมีทั้งแบบ 32 bit และ 64 bit
และมีมากถึง 5 รุ่นด้วย
Windows Vista Home Basic – เหมาะสำาหรับ พ่อแม่ที่
ซื้อ Computer เครื่องแรกให้เด็กเล่นไปจนถึงคนทั่วไปที่
ไม่เคยใช้ Windows มาก่อน
Windows Vista Home Premium – เหมาะกับเครื่องที่
เน้นทำาเป็น Media Center ที่บ้าน
Windows Vista Business – เหมาะกับกลุ่ม power
user ทั่วๆไป หรือเปรียบได้กับ Windows XP Pro นั่นเอง
Windows Vista Enterprise – เหมาะกับองค์กรขนาด
ใหญ่
Windows Vista Ultimate – เหมาะกับคนที่ต้องการทุกๆ
อย่างจากทุกๆตัวที่กล่าวมา
2007 – Microsoft Windows Longhorn Server
หรือ อีกชื่อคือ Windows Server 2007 นั่นเอง ซึงจะมี
่
รากฐานมาจาก Windows Vista ซึงจะเพิ่มคุณสมบัติใหม่
่
เข้าไปเพื่อรองรับกลุ่มลูกค ้้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ และ
เป็นระบบปฏิบัติการแบบ 64bit
ตั้งแต่ WINDOW XP เปิดตัวเมื่อปี 2544 เป็นต้นมาก็
มีออกมาหลายรุ่นจนนับไม่ถ้วน ทั้งรุ่นที่ไมโครซอฟท์ผลิต
ออกมาเอง และ รุ่นที่ช่างโมดิฟายด์ ทั้งหลายนำามาประยุกต์
เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง หรือปรับค่าบางอย่างเพื่อเน้นจุด
เด่นต่างๆ กันออกไป เช่น Windows Dark, Windows
TRUFASTER
รุ่นที่ ไมโครซอฟท์ผลิตออกมาได้แก่
1.1 Microsoft Windows XP Starter Edition
1.2 Microsoft Windows XP Home Edition
1.3 Microsoft Windows XP Professional รุ่น นี้
นิย มนำา มาใช้แ ละนิย มนำา มาแคร็ก กัน มาก
1.4 Microsoft Windows XP Media Center Edition
1.5 Microsoft Windows XP Tablet PC Edition
1.6 Microsoft Windows XP Edition N
1.7 Microsoft Windows XP 64-Bit Edition
1.8 Microsoft Windows XP Embedded
1.9 ไมโครซอฟท์วินโดวส์เอกซ์พีรุ่นปรับปรุง (Service
Pack)
SP1 ออกมาในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)
SP1a ออกมาในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) หลัง SP1
SP2 ออกมาในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547)
SP3 ออกมาในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) หลังวินโดวส์
วิสต้า
บริษัท Microsoft ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1975 โดยบิล
ล์ เกตส์ กับ พอล อัลเลน ได้ร่วมกับก่อตั้ง ไมโครซอฟท์
สำานักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Redmond, Washington, USA
ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น และ
ได้นำาเอาภาษาเบสิกที่พัฒนาขึ้นเองออกวางตลาด และให้
ชื่อว่าไมโครซอฟท์เบสิก ภาษาคอมพิวเตอร์นี้ได้กลายมา
เป็นรากฐานให้แก่ธุรกิจลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ซึงถูกผนวก
่
(ROM) เข้ากับเครื่อคอมพิวเตอร์ในบ้าน และเครื่อง
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลส่วนใหญ่ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่
70 และ 80
ต่อมาในปี ค.ศ. 1985 ถือเป็นช่วงที่สำาคัญที่สุดของ
บริษัท Microsoft เพราะทางบริษัท IBM ได้วางแผนจะรุก
ตลาดคอมพิวเตอร์ด้วยการนำาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วน
บุคคล(PC) IBM ออกวางตลาด IBM ได้เข้ามาเจรจากับ
Microsoft เพื่อขอซือระบบปฏิบัตการคอมพิวเตอร์ซึ่งใน
้
ตอนแรกทางบริษัท Microsoft ยังไม่มีระบบปฏิบัติการจะ
ขายให้จงแนะนำาให้ IBM ไปคุยกับดิจิทัลรีเสิร์ชแทน ที่
ึ
ดิจิทัลรีเสิร์ช ผู้แทนของ IBM ได้คุยกับโดโรธี ภรรยาของ
แกรี คิลดาลล์ แต่เธอปฏิเสธการลงนามในข้อตกลง
มาตรฐานซึ่งไม่ปิดผนึก เนื่องจากเห็นว่าเสียเปรียบเกินไป
IBM จึงหันมาคุยกับ Microsoft อีกครั้ง บิล เกตส์ได้สิทธิ์
ในการใช้สำาเนาการออกแบบของ CP/M และ QDOS จาก
ทิม แพทเทอร์สัน แห่งบริษัท ซีแอตเทิล คอมพิวเตอร์ โป
รดักส์ ด้วยการซื้อมาในราคา 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ
ขายมันให้กับ IBM ในราคา "ราว 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ"
ตามคำากล่าวอ้างของเกตส์ และในที่สุด MS-DOS และ PCDOS ก็ได้แจ้งเกิดในวงการ
ต่อมาในช่วงปี1989 ทางบริษัท Microsoft ได้พัฒนา
software ต่างๆของมาเช่น office suite, Microsoft
office เป็นโปรแกรมที่ใช้ตามสำานักงานต่างๆเช่น
Microsoft Word, Microsoft Excel
และในวันที่ 22 พฤษภาคม 1990 ทางบริษัทได้
ทำาการเปิดตัว Window 3.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ
version แรกที่ได้นำา graphics มาช่วยในการใช้งานเพื่อ
ความคล่องตัวและปรับปรุงความสามารถเพื่อให้ใช้ Intel
386 processor ได้
ในปีค.ศ. 1995 ได้ทำาการปล่อย WINDOW 95
ออกสู่ตลาด
ในปีค.ศ. 1998 ทางบริษัทได้พฒนา
ั
WINDOW 98 ออกมาใหม่
ในปีค.ศ. 2001 ได้ผลิด WINDOW XP
และสุดท้ายในปี ค.ศ. 2006 ได้พัฒนาและผลิด
Window vista ออกมา
นอกจากระบบปฏิบัติการ WINDOW แล้วทาง
บริษัท MICROSOFT ยังมีผลิตณฑ์ COMPUTER
HARDWARE ที่ออกสู่ตลาดอีกมากมายเช่น
MICROSOFT MOUSE ,HOME
ENTERTAINMENT,XBOX,XBOX360,ZUNE AND TV
2. การใช้ง านระบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft
Windows XP
2.1 การเข้า สู่ร ะบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft
Windows XP
เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ตดตั้งระบบปฏิบัติการ
ิ
Microsoft Windows XP ไว้แล้ว เครื่องจะเข้าสู้ระบบ
ปฏิบัติการ Microsoft Windows XP อัตโนมัติ
2.2 การออกจากระบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft
Windows XP
เมื่อต้องการออกจากระบบปฏิบัติการ Microsoft
Windows XP ควรปิดโปรแกรมที่ใช้งานทั้งหมด ให้
เรียบร้อยก่อน จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Start
โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1. Log Off คือ การออกจากระบบเพื่อเปลี่ยนผู้ใช้ โดย
กลับไปรอเข้าระบบใหม่อีกครั้ง
2. Turn Off หรือ Shut Down คือ การปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์ มีให้เลือก ดังนี้
Hibernate คือ การปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยระบบจะ
เก็บสภาพแวดล้อมการทำางานไว้ และเมื่อเปิด
เครื่องคอมพิวเตอร์ครั้งต่อไป ระบบจะทำางานตามสภาพ
แวดล้อมเดิมก่อนปิดเครื่อง
Turn Off คือ การปิดโปรแกรมทั้งหมดและปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์
Restart คือ การปิดโปรแกรมทั้งหมดและเริ่มต้น
กระบวนการทำางานของเครื่องใหม่
เมื่อปรากฏคำาว่า It’s now safe to turn off your
computer. จึงกดปุ่ม Power ปิดเครื่องและปิด
จอคอมพิวเตอร์ แต่เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ จะทำาการ
ปิดตัวเองโดยที่ไม่ตองกดปุ่ม
้

Power

ส่ว นประกอบทีส ำา คัญ ของระบบปฏิบ ต ิก าร
่
ั
Microsoft Windows XP

เดสก์ท อป (Desktop) เป็นส่วนของพื้นที่จอของ
วินโดวส์ XP ซึ่งใช้ในการแสดงส่วนต่างๆ ให้ผู้ใช้ได้เห็น
เช่นไอคอน หน้าต่างโปรแกรม ส่วนนี้เราสามารถปรับแต่ง
เป็นรูปภาพหรือลวดลายต่าง ๆ เพื่อความสวยงามได้
แถบ Minimize/Restoredown/
Maximize/Close
แถบ Menu bar ส่วนสำาหรับ
แสดงรายการเมนูในหน้าต่าง
แถบ Tools bar ส่วนสำาหรับ
แสดงปุ่มเครื่องมือการใช้งาน
แถบ Address bar ส่วน
สำาหรับแสดงสถานะที่อยูของ
่
หน้าต่าง
แถบ Scroll bar แถบเลื่อน
ขึ้นลง/ซ้ายขวา
ปุ่ม Start ใช้เรียกใช้โปรแกรมที่ถูกติดตั้งในระบบเครื่อง
พิเศษที่ใช้โปรแกรมและคำาสั่งต่าง ที่ติดตั้งอยู่บนวินโดวส์

Taskbar เป็นส่วน

แถบงาน (Taskbar)
เป็นส่วนพิเศษที่ใช้ในการเรียกใช้โปรแกรมและคำาสั่งต่าง
ๆ ที่ติดตั้งอยู่ในวินโดวส์ XP
ปุ่ม ภาษา
ปุ่ม เปลี่ย นภาษา

1. DESKTOP คือ บริเวณพื้นที่หรือฉากของระบบ
ปฏิบัติการ Windows ซึ่งบริเวณนี้เป็นส่วนแสดง Icon
หรือ Windows ที่เปิดทำางาน
2. ICON สัญลักษณ์ที่ใช้แทนทรัพยากรต่าง ๆ
3. RECYCLE BIN เป็นถังขยะเก็บไฟล์ที่ถูกลบ
4. TASKBAR เป็นแถบแสดง Start Menu หากมี
โปรแกรมเปิดใช้งานอยู่ จะแสดงแถบชื่อโปรแกรมให้เห็น
หากต้องการใช้งานโปรแกรมใดให้คลิกที่แถบชื่อโปรแกรม
นั้น และถ้ามีการปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ แถบของ
โปรแกรมนั้นก็จะหายไปจาก Taskbar
5. STATUS BAR ทำาหน้าที่แสดงสถานะของ
โปรแกรมที่ทำางานอยู่
6. LANGUAGE BAR แสดงสถานะของภาษาที่ใช้
งาน
7. START BUTTON ปุ่มเริ่มต้นการทำางาน
การใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ที่อยู่ในเครื่อง ให้คลิกที่ปุ่ม
Start แล้วเลื่อนเมาส์ไปที่ All Programs จะปรากฏ
โปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องดังภาพข้างล่าง

หน้าต่าง (Windows)
u Title bar แสดงชื่อของโปรแกรมที่ใช้งานอยู่
v Menu Bar แสดงเมนูของโปรแกรมใช้ในการเลือกคำา
สั่ง
w Toolbar เป็นรูปภาพเล็ก ๆ แทนคำาสั่งใช้งานต่างๆ
x Address bar แสดงตำาแหน่ง ณ ขณะนั้น
y Minimize ปุ่มลดขนาดหน้าต่างหรือปิดหน้าต่าง
z Maximize ขยายหน้าต่างให้เต็มจอ
{ Close ใช้ในการปิดโปรแกรม
| Icon คือ รูปสัญลักษณ์ที่ใช้ในการเรียกโปรแกรม
} Scroll Bar ใช้ในการเลื่อนหน้าจอไปซ้าย ขวา ขึ้นลง
ตามทิศทางลูกศร
~ Status Bar แสดงสถานะการทำางาน
การเปลี่ย นขนาดของหน้า ต่า ง
การเลื่อนตัวชี้เมาส์ไปยังขอบของหน้าต่าง ตัวชี้เมาส์
จะเปลี่ยนรูปจาก เป็น
(ลูกศร 2 ทาง) คลิก
เมาส์ค้างไว้แล้วลาก หน้าต่างจะเปลี่ยนขนาดไปเมื่อได้
ขนาดตามต้องการแล้วให้ปล่อยเมาส์
ย่อ หน้า ต่า ง
คลิกที่ปุ่ม
การขยายหน้า ต่า ง

บนด้านขวามือของ TITLE BAR
คลิกที่ปุ่ม
บนด้านขวามือของ TITLE BAR ถ้าหน้าต่างมี
ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่แล้วบนด้าน ขวามือของ TITLE BAR จะ
แสดงปุ่ม
แทนปุ่ม
การคืน รูป หน้า ต่า ง
คลิกที่ปุ่ม
บนด้าน ขวามือของ TITLE BAR ถ้าขนาด
หน้าต่างไม่ได้มีขาดใหญ่ที่สุดอยูแล้วบนด้านขวามือของ
่
TITLE BAR จะแสดงปุ่ม
แทนปุ่ม
การย้า ยหน้า ต่า ง
ชี้เมาส์ไปที่ TITLE BAR คลิกเมาส์ค้างไว้แล้ว ลากเมาส์ไป
ยังตำาแหน่งของหน้าจอที่ต้องการเคลื่อนย้าย หลังจากนั้น
ปล่อยเมาส์ในตำาแหน่งที่ต้องการ
การสลับ ระหว่า งหน้า ต่า งที่ก ำา ลัง เรีย กใช้ง าน
คลิกปุ่มของโปรแกรมบน Taskbar ถ้าไม่สามารถมองเห็น
Taskbar ให้ ชี้ ไ ปที่ พื้ น ที่ ข องหน้ า จอบริ เ วณตำา แหน่ ง ของ
Taskbar ตัวอย่างเช่น ถ้า Taskbar อยู่ที่ตำา แหน่งล่างสุด
ของหน้าจอ ให้คลิกไปที่โปรแกรมนั้นหรือจะใช้วิธีลัดโดย
กดคี ย์ บ อร์ ด Alt + Tab และเลื อ กโปรแกรมที่ ต้ อ งการใช้
งาน
การจัด การไฟล์แ ละโฟลเดอร์
ไฟล์ (File)
ไฟล์คือสิ่งที่ใช้สำาหรับอ้างอิงข้อมูลหรือโปรแกรมที่เก็บ
บันทึกลงดิสก์ ปกติการอ้างอิงไฟล์จะทำาโดยผ่านชื่อไฟล์
และตามด้วยจุดนามสกุลของโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้น จำานวน
ของไฟล์จะขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์เองและดิสก์ ซึงปกติถ้า
่
ดิสก์มีขนาดใหญ่มากจะสามารถเก็บไฟล์จำานวนมากได้
ตัวอย่างของไฟล์ที่ควรรู้จัก
ชื่อไฟล์ ชนิดของไฟล์
Readme.TXT ไฟล์ตัวอักษร
Calc.EXE ไฟล์โปรแกรม
Doc1.DOC ไฟล์ MS Word
Book1.XLS ไฟล์ MS Excel
การวัด ขนาดของไฟล์ (File Size)
การวัดขนาดของไฟล์นิยมใช้หน่วยที่เป็นไบต์ (Byte)
ซึ่งอาจเทียบได้กับ 1 ตัวอักษร และเพื่อความสะดวกสำาหรับ
ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก จะเทียบหน่วยของไฟล์ที่เป็นไบต์
ให้เป็นหน่วยที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ดังนี้
1 Byte (ไบต์) 1 ตัวอักษร
1KB (กิโลไบต์) 1,024 Byte
1MB (เมกกะไบต์) 1,024 KB
1GB (กิกะไบต์) 1,024 MB
ความจุของแผ่นดิสก์ (Diskette) ขนาด 3.5 นิ้วคือ 1.44
MB หรือประมาณ 1,440 KB
โฟลเดอร์ (Folder)
โฟลเดอร์เปรียบเสมือนแฟ้มเอกสารที่ใช้แบ่งไฟล์ออก
เป็นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการค้นหาไฟล์ ภายใน
โฟลเดอร์สามารถสร้างโฟลเดอร์ย่อยเพื่อแบ่งกลุ่มไฟล์ย่อยๆ
ลงไปอีกได้การตั้งชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์สามารถมีอักขระได้
มากที่สุด 255 อักขระรวมถึงช่องว่างด้วย แต่ไม่สามารถมี
อักขระต่อไปนี้คือ  / : * ? " < > |__
ระบบปฏิบ ัต ิก ารคอมพิว เตอร์
ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทำาหน้าที่
ควบคุมการทำางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อ
พ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทำาหน้าที่
เป็น ตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องโดยตรง
และโปรแกรมการใช์งานต่าง ๆ
ความหมายของระบบปฏิบ ัต ิก าร
โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า OS
(Operating System) เป็นโปรแกรม ควบคุมการทำางาน
ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำาหน้าที่ควบคุมการทำางานต่าง ๆ
เช่น การแสดงผล ข้อมูล
การติดต่อกับผู้ใช้ โดยทำาหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้
ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้ควบคุมและจัดสรร
ทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่าง ๆ
ระบบปฏิบ ัต ิก าร (Operating System) ระบบต่า งๆ
การทำางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทำางานด้วย
ตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำา
งานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไป
ซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสำาเร็จรูป
และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึงระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้า
่
ที่ ในการจัดการและควบคุมการทำางานและอุปกรณ์ต่างๆ
ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การจัดการเกี่ยวกับการแสดง
ผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการ
เกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้ง
โปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ
ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อ
การใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการ
พัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สำาคัญ ๆ มีดังนี้
1. ระบบปฏิบ ัต ิก าร DOS (Disk Operating
System)
ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM
เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการ
สำาหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรม DOS จะถูก Load หรืออ่าน
จากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วย
ความจำาก่อน จากนั้น DOS จะไปทำาหน้าที่เป็น ผู้ประสานงาน
ต่าง ๆ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคำาสั่งจาก
ผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้ว นำ าไป
ปฏิบัติตาม โดยการทำางานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงาน
โดยการกดคำาสั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:>)
ดังนั้น ผูใช้ระบบนี้จึงต้องจำาคำาสั่งต่าง ๆ ในการใช้งานจึงจะ
้
สามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ
DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่. และปัจจุบันนี้มี
การใช้งานน้อยมาก

2 .ระบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft Windows
Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท
Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้
(User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูป
ภาพแทนคำาสั่ง เรียกว่า GUI (Graphic User Interface)
โดยสามารถสั่งให้เครื่องทำางานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่
สัญลักษณ์หรือคลิกที่คำาสั่งที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้
ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมใน
ขณะเดียวกัน
ซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทำางาน
โปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรม
เดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ใน
ลักษณะการทำางานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า
“หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่ง
หน้าต่าง ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้
นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถ
แชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอร์ด (Clipboard)
ระบบ Windows ทำาให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถทำาความ
เข้าใจเรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น/ 3.
ระบบปฏิบ ัต ิก าร Unix
Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของ
บริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท
Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PC แต่
อย่างใด แต่Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช็เทคโนโลยีแบบ
เปิด (Open system) ซึงเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติด
่
กับระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้
Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนองการใช้งานใน
ลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า
ระบบหลายผู้ใช้ (Multi user system) และสามารถทำา
งานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า
ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system)
4. ระบบปฏิบ ัต ิก าร Linux

Linux เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows
หรือ Unix โดย Linux นั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix
ประเภทหนึ่ง การที่Linux เป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี
1999 – 2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ
การและโปรแกรมประยุกต์ที่ ทำ างานบนระบบ Linux โดย
เฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not
UNIX) และสิ่งที่สำาคัญที่สุดก็ คือ ระบบ Linux เป็นระบบ
ปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้
จ่ายในการซื้อ โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรม
จากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทำาให้การขยายตัวของ Linux
เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติ
การ หรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น รุ่นที่ 2.2 (Linux
Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุ
นการทำางานแบบหลายซีพียู หรือ SMP (Symmetrical
Multi Processors) ซึงทำาให้ระบบ Linux สามารถนำาไป
่
ใช้สำาหรับทำางาน
เป็น Saver ขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สา
มารถทำางานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ บนซีพียูของ
อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital
Alpha Computer และซันสปาร์ค
(SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM
(Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่าขณะนี้
Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Microsoft Windows บนพีซี
หรือ Mac OS ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็มีผู้ใช้ จำานวนไม่น้อยที่
สนใจมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บน Linux
และเรื่องของการดูแล ระบบ Linux นั้น ก็มีเครื่องมือช่วย
สำาหรับดำาเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น
การเลือ กระบบปฏิบ ัต ิก ารให้ก ับ คอมพิว เตอร์ (OS)
ค รั้ ง ก่ อ น ผมพู ด ถึ ง การเลื อ กซื้ อ อุ ป กรณ์ เ พื่ อ นำา มา
ประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ กันไปแล้ว ..ครั้งนี้ผมจะพูดถึง
วิธีการประกอบกันบ้าง..แต่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องผมจะ
ขอพูดถึงระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์กันก่อน
ร ะ บ บ ป ฏิ บั ติ ก า ร (OS) <-- ม า จ า ก Operating
System แบ่ง ออกเป็น 3 กลุ่ม หลัก ๆ คือ
1. Unix เป็น OS ที่ใช้สำาหรับ เครื่อง Server เพราะ
เป็น OS ที่มีเสถียรถาพมากที่สุด ไม่เหมาะสำา หรับผู้ใช้งาน
ทั่ว ๆ ไปเพราะใช้ยากต้องมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ขั้น
สู ง และไม่ ส นั บ สนุ น พวก Multimedia ต่ า ง ๆ ปั จ จุ บั น มี
OS ที่เป็น Unix ที่พัฒนามาให้ใช้งานง่ายเหมาะสมกับผู้ใช้
ทั่ ว ๆ ไปเพราะจะมี ลั ก ษณะ คล้ า ยกั บ Windows ของ
Microsoft เ ร า เ รี ย ก OS ตั ว นี้ ว่ า Linux เ ป็ น OS ที่
สามารถนำา มาใช้ ไ ด้ โ ดยไม่ ต้ อ งเสี ย ค่ า ลิ ข สิ ท ธิ์ เพราะเป็ น
OS ที่แจก Source code เพื่อนำา ไปพัฒนา ก็มีอยู่หลาย ๆ
ค่ายที่นำา Linux ไปพัฒนา แต่ที่ได้รับความนิยมก็คือ Red
hat Linux เพราะการใช้งานง่ายคล้าย Windows สำาหรับ
ที่ เ ป็ น ภาษาไทย ตอนนี้ เนคเทค ได้ พั ฒ นาจนสามารถใช้
ภาษาไทยได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ..สำา หรั บ ใครที่ อ ยาก
ท ด ล อ ง ใ ช้ ก็ ส า ม า ร ถ down load ไ ด้ จ า ก
http://www.nectec.or.th
2. Apple OS เ ป็ น OS ที่ ใ ช้ สำา ห รั บเ ครื่ อ ง Max
เหมาะสำาหรับผู้ที่ทำางานเกี่ยวกับการออกแบบ GRAFFICDE
SIGN อะไรทำา นองนั้ น ไม่ เ หมาะสำา หรั บ User อย่ า งเรา ๆ
หรอกครับ
3. Windows เป็น OS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดถึง
ประมาณ 90 % ของเครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ ทั่ ว โลกเพราะมี
ลั ก ษ ณ ะ ก า ร ใ ช้ ง า น ที่ ง่ า ย ไ ม่ ต้ อ ง มี ค ว า ม รู้ ท า ง ด้ า น
คอมพิวเตอร์มากนัก สนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์
ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ฯลฯ Windows ในปัจจุบัน
มี ใ ห้ เ ลื อ กใช้ ง านหลาย version ด้ ว ยกั น ทั้ ง ที่ ใ ห้ เ ป็ น
Server และ Home use ทั่ว ๆ ดังนี้
>>Home use
1. Windows 3.11 เป็น OS แบบ 16 bit เป็น version
แรกของ Windows ที่ใช้ทรัพยากรของระบบน้อยมาก แต่
ประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่สนับสนุนก็น้อยตามไปด้วย
2) Windows 95 เป็น OS แบบ 32 bit พัฒนาขีดความ
สามารถขึ้นมาจากเดิม มีฟีเวอร์ต่าง ๆ เพิ่มเข้ามา แต่
version นี้ยังมี bug มากไม่ค่อยเสถียรพอ
3) Windows 98 เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาจาก
95 แก้ไข bug ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุน
Multimedia อย่างสมบูรณ์ มีการนำาเอา browser ยอด
นิยมอย่าง IE ติดมาให้ด้วย version นี้ได้รับความนิยมเป็น
อย่างมาก
4) Windows 98 SE เป็น OS แบบ 32 bit ที่แก้ไข
version 98 ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แก้ไข bug และเพิ่มฟีเวอร์
ใหม่ ๆ มากมายเช่นสามารถทำาเป็น Server แชร์ IP ให้กับ
เครื่องลูกได้ และนำาเอา IE 5 ติดมาด้วย นับว่า version นี้
เป็น version ทีดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และเสถียรภาพมาก
่
ที่สุดแล้ว ในตระกูลของ Windows 98
5) Windows Me เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามา
สำาหรับ Home use โดยเฉพาะ ตัดเอา Ms-Dos ออกไป
เพื่อสร้างความมีเสถียรภาพให้กับระบบ สนับสนุน
Multimedia สมบูรณ์แบบที่สุดตอนนี้ผมเองก็ลองใช้อยู่
ครับ..ยอมรับว่าดีมาก ๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือน 98 ที่ผ่าน
มา
>>Server
1.Windows NT4 มีความเสถียรถาพสูงทำางาน เป็น
Server การใช้งานผู้ใช้ต้องมีความรู้พอสมควรเพราะ
ลักษณะการใช้งานคล้ายกับ UNIX แต่จะมีระบบ GRAFFIC
ที่ดีกว่า
2. Windows 2000 เป็น OS ที่เป็น NT พัฒนามาจาก
NT4 มีความเสถียรภาพสูง และรองรับ Multimedia ใช้
เป็น Server สนับสนุนการใช้งานแบบ Multi user มีระบบ
รักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมมี 2 version ให้เลือกใช้งาน
ตามความเหมาะสม
" พูดถึง Windows ก็อยากที่จะให้ทุก ๆ ท่านมีความ
เข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Windows 98 กับ Windows
2000 ว่าจริง ๆ แล้วลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน ดังที่ได้
พูดไว้แล้ว..บางท่านยังเข้าใจผิดว่า Windows 2000 เป็น
version ใหม่ล่าสุดที่มาแทนที่ Windows 98 SE เวลาจะ
ซื้อเครื่องก็มักจะถามว่า เป็น Windows 2000 หรือ
เปล่า..อะไรทำานองนี้ ก็อยากให้ท่านทำาความเข้าใจให้
ระบบปฏิบ ัต ิก ารของคอมพิว เตอร์
ระบบปฏิบัติการ ก็หมายถึง ชุดของโปรแกรมที่อยู่
ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ครับ จะมีหน้าที่ใน
การควบคุมการปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์ และสนับสนุนคำาสั่ง
สำาหรับควบคุมการทำางานของฮาร์ดแวร์ประยุกต์ครับ
ตัวอย่างของระบบปฏิบัติการนะครับ ก็ได้แก่ MS - DOS ,
UNIX , LINUX , Windows Me , Windows XP เหล่านี้
เป็นต้นครับ ระบบปฏิบัติการนี้นะครับจะทำางานอยู่เบื้องหลัง
ของผู้ใช้ครับ โดยระบบปฏิบัติการนี้ก็มีหน้าที่หลักๆ ดังนี้
• อันแรกนี้ก็คือการจัดส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบ
คอมพิวเตอร์ ครับ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง ที่เก็บข้อมูล
สำารอง หน่วยความจำา และเครื่องพิมพ์ เป็นต้น
• อันที่สองนี้นะครับก็คือจัดการในส่วนของการติดต่อ
กับผู้ใช้
• และในข้อนี้ก็ไดแก่ให้บริการโปรแกรมประยุกต์อื่น
ครับ เช่น และการแสดงผล เป็นต้น โดยปกติแล้วโปรแกรม
ประยุกต์จะต้องทำางานผ่านระบบปฏิบัติการ
ร ะ บ บ ป ฏิ บั ติ ก า ร ที่ ใ ช้ ง า น บ น เ ค รื่ อ ง ไ ม โ ค ร
คอมพิว เตอร์
ระบบปฏิ บั ติ ก ารที่ ใ ช้ ง านในปั จ จุ บั น นี้ น ะครั บ จะเป็ น
ระบบปฏิ บั ติ ก ารวิ น โดว์ ค รั บ เพราะสามารถใช้ ง านได้ ง่ า ย
สะดวก และรวดเร็ ว ด้ ว ยครั บ ถึ ง แม้ ค นที่ ไ ม่ ค วามรู้ เ รื่ อ ง
คอมพิวเตอร์เลย ก็สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดว์ได้
แต่ในที่นี้นะครับผมจะขอกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการที่ใช้ใน
อดีตและในปัจจุบันนะครับแต่ในที่นี่ผมจะขอกล่าวถึง เพียง
สองอย่ า งนะครั บ ซึ่งได้ แ ก่ MS – DOS และก็ Microsoft
Windows สองอย่างนี้นะ
• ในข้อหนึ่งนี้จะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการ MS – DOS
ซึ่ง เมื่อผู้ใช้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการก็จะถูก
เรียกจากฮาร์ดดิสก์มาไว้ใน หน่วยความจำาของเครื่องนะ
ครับเพื่อเตรียมที่จะใช้งานได้ทันที ที่ต้องการนะ ซึ่งขั้นตอน
ที่ย้ายระบบปฏิบัติการเข้าสู่หน่วยความจำาของเครื่องนั้น
เรียกว่า การบูตระบบ ซึ่งเมือเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์
่
ขึ้น โปรแกรมเล็ก ๆ ที่อยู่ใน หน่วยความจำารอมจะเรียกเอา
ส่วนประกอบพื้นฐานที่จำาเป็นของระบบปฏิบัติการจาก
ฮาร์ดดิสก์เข้ามาไว้ในหน่วยความจำาหลักนะครับ ซึงจะได้
่
ผลลัพธ์บนจอภาพเป็น C > หรือ C: > นี่นะครับ โดยที่
หมายถึงดิสก์ไดรฟ์ที่ทำางานอยู่ และเครื่องหมาย > หมายถึง
การเตรียมพร้อมที่จะทำางานจากนั้น ผู้ใช้ก็จะสามารถพิมพ์
คำาสั่งของ MS – DOS ได้ทันทีครับเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์
ส่วนในข้อนี้จะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ครับ
ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันนี้ครับ ผมจะกล่าวราย
ละเอียดเลยนะครับ คือ ไมโครซอฟต์วินโดว์นี่นะหรือที่นิยม
เรียกกันว่า วินโดว์ นั่นแหละครับ ซึ่งมีระบบการติดต่อกับผู้
ใช้เป็นแบบกราฟิกที่มีสีสันสวยงามมากครับและสามารถ
ใช้ได้ง่าย ซึงผู้ใช้บนระบบวินโดว์นี้นะครับก็จะทำางานกับ
่
เมนู และรูปภาพที่เรียกว่า ไอคอน แทนที่จะเป็นการพิมพ์คำา
สั่งต่าง ๆ ลงไป ระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่ใช้ในปัจจุบันนะ
ครับก็ได้มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องนะครับ ซึงก็ได้มี
่
สีสันที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถใช้งานได้ง่ายยิ่ง
ขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการวินโดว์ในรุ่นก่อนๆ นะครับ ถึงแม้ว่า
วินโดว์จะเป็นระบบที่ทำางานด้วยกราฟิกที่มีสีสันสวยงานแต่
การทำางาน ของวินโดว์นี้นะครับก็ยังทำางานภายใต้การ
ทำางานของดอสเพียงแต่ระบบวินโดว์นี้เราจะไม่จำาเป็นต้องรู้
คำาสั่งของดอสเท่านั้นเอง เพราะเราใช้งานคำาสั่งสำาเร็จรูป
ด้วยเมนูบนวินโดว์
ระบบปฏิบ ัต ิก ารเครือ ข่า ย
ระบบปฏิบัติการนี่ คือ ระบบปฏิบัติการสำาหรับจัดการ
งานด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์นะครับ และ
ช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่กับเครือข่ายสามารถใช้อุปกรณ์
ต่างๆ ร่วมกันได้ครับ อย่างเช่น ใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน
เป็นต้น ระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี่นะครับจะมีคุณสมบัติใน
การจัดการเกี่ยวกับเครือข่ายและ การใช้งานอุปกรณ์ร่วม
กันนะครับ รวมทั้งยังมีระบบการป้องกันการสูญหายของ
ข้อมูลอีกด้วย
ระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่นิยมใช้ปัจจุบันนี้นะครับจะ
ใช้หลักการประมวลผลแบบ ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ โดยส่วน
ประกอบสำาหรับการเรียกใช้แฟ้มข้อมูลและการจัดการ
โปรแกรมนั้นจะทำางานอยู่บน เครื่องเซิร์ฟเวอร์ครับในขณะ
ที่ส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี้นะครับ
จะอยู่บนเครื่องไคลเอนต์ครับ เช่น การติดต่อกับผู้ใช้ เหล่า
นี้เป็นต้น การจัดการให้ผู้ใช้เห็นว่างานและอุปกรณ์ทั้ง
หลายที่ใช้นั้นเสมือนอยู่บนเครื่องไคลเอนต์เองนะครับ ก็
ถือว่าเป็นหน้าที่หลักอันหนึ่งของระบบปฏิบัติการเครือข่าย
ด้วย
ระบบปฏิบ ัต ิก ารบนเครื่อ งคอมพิว เตอร์ข นาดใหญ่
เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่นี้นะครับอย่างเช่นเครื่อง
ระดับเมนเฟรมนี่ ได้ถูกนำามาใช้ในด้านธุรกิจและการศึกษา
ซึ่งจะมีผู้ใช้งานพร้อมๆ กันจำานวนมาก ทำาให้ระบบปฏิบัติ
การของเครื่องระดับนี้มีการทำางานที่ซับซ้อนมาก โดยต้อง
ทำาการดูแลสั่งงานโปรแกรมพร้อมๆ กันจำานวนหลายๆ
โปรแกรมนะครับ ดูแลในการเข้าใช้งานเครื่องของผู้ใช้จำา
นวนหลายๆ คน ดูแลจัดลำาดับและแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้
ใช้ ตลอดจนการรักษาความเป็นส่วนตัวและความลับของผู้
ใช้แต่ละคนอีกด้วย
ระบบปฏิบ ัต ิก ารแบบเปิด
ต้องขอเล่ารายละเอียดสักเล็กน้อยนะครับ คือว่า ใน
สมัยก่อนนั้นผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการก็คือบริษัทที่ผลิต
คอมพิวเตอร์นะครับ ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงถูกออกแบบ
ให้สามารถใช้ได้เฉพาะกับเครื่องของบริษัทเท่านั้น ซึงเรา
่
เรียกระบบปฏิบัติการประเภทนี้ว่า ระบบปฏิบัติการแบบปิด
ครับ ใน ปัจจุบันนี้นะครับเริ่มมีแนวโน้มที่จะทำาให้ระบบการ
สามารถนำาไปใช้งานบนเครื่องต่าง ๆ กันได้ซึ่งระบบปฏิบัติ
การแบบนี้ก็คือ ระบบปฏิบัติการแบบเปิด นั่นเอง
ก็อย่างเช่น UNIX หรืออีกระบบหนึ่งนะครับก็คือ
ระบบ LINUX นี่เอง คือระบบปฏิบัติการแบบเปิด

การติด ตั้ง WINDOW XP
PROFESSIONAL

การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP โดยปกติ จะ
สามารถทำาได้ 2 แบบคือ การติดตั้งโดยการอัพเกรดจาก
Windows ตัวเดิม หรือทำาการติดตั้งใหม่เลยทั้งหมด สำาหรับ
ตัวอย่างในที่นี้ จะขอแนะนำาวิธีการ ขั้นตอนการติดตั้ง
Windows XP แบบลงใหม่ทงหมด ซึ่งความเห็นส่วนตัว น่า
ั้
จะมีปัญหาในการใช้งานน้อยกว่าแบบอัพเกรดค่ะ
วิธีการติดตั้ง Windows XP ยังสามารถแบ่งออกได้เป็น
3 แบบดังนี้
1. ติดตั้งแบบอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม โดยใส่
แผ่น CD และเลือกติดตั้งจาก CD นั้นได้เลย
2. ติดตั้งโดยการ บูตเครื่องใหม่จาก CD ของ Windows
XP Setup และทำาการติดตั้ง
3. ติดตั้งจากฮาร์ดดิสก์ โดยทำาการ COPY ไฟล์ทั้งหมด
จาก CD ไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ ก่อนทำาการติดตั้ง
ในการแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ แนะนำาให้ทำาการวางแผน
ประมาณขนาดพื้นที่ไว้ล่วงหน้าด้วย โดยทั่วไปก็ไม่ควรจะใช้
พื้นที่ตำ่ากว่า 3G. และเนื่องจากระบบ Windows XP
สามารถที่จะสร้างเมนู Multi Boot ได้หลังจากที่ติดตั้งไป
แล้ว โดยยังสามารถเลือกเมนูว่า จะเรียก Windows ตัวเดิม
หรือจะเรียก Windows XP ก็ได้ ดังนั้น หลาย ๆ ท่านมักจะ
แบ่งพื้นที่ไว้ลง Windows 98 ที่ Drive C: ประมาณ 5G.
และเผื่อไว้สำาหรับ Windows XP ที่ Drive D: อีกประมาณ
5G. ที่เหลือก็จะเป็น Drive E: สำาหรับเก็บข้อมูลอื่น ๆ ทั่วไป
แต่ถ้าหากลง Windows เพียงแค่ตัวเดียว ก็ไม่จำาเป็นการตั้ง
ค่าใน BIOS ก่อนทำาการติดตั้ง Windows XP ใหม่จะต้อง
ทำาการ Disable Virus Protection ใน BIOS ซะก่อน
เพราะว่าเมนบอร์ดบางรุ่นจะมีการป้องกัน Virus โดยการ
ป้องกันการเขียนทับในส่วนของ Boot Area ของฮาร์ดดิสก์
ซึ่งเท่าที่เคยเห็นมา เครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะ
มีให้เลือกตั้งค่านี้อยู่แล้ว ถ้าหากเครื่องของใครไม่มีก็ไม่ตอง
้
ตกใจ เพราะเมนบอร์ด บางรุ่นอาจจะไม่มีก็ได้ วิธีการก็คือ
เริ่มจากการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ ขณะที่เครื่อง
กำาลังทำา Memory Test หรือนับ RAM อยู่นั่นแหละ
ด้านล่างซ้ายมือจะมีคำาว่า Press DEL to enter SETUP
ให้กดปุ่ม DEL บน Keyboard เพื่อเข้าสู่เมนูของ Bios
Setup (แล้วแต่เมนบอร์ด ด้วยบางทีอาจจะใช้ปุ่มอื่น ๆ
สำาหรับการเข้า Bios Setup ก็ได้ลองดูให้ดี ๆ) จากนี้ก็
แล้วแต่ว่าเครื่องของใคร จะขึ้นเมนูอย่างไร คงจะไม่เหมือน
กันแต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก จากนั้นให้มองหาเมนู Bios
Features Setup ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่สอง ใช้ปุ่มลูกศร
เลื่อนแถบลงมาแล้วกด ENTER ถ้าใช่จะมีเมนูของ Virus
Warning หรือ Virus Protection อะไรทำานองนี้ ถ้าหาก
เป็น Enable อยู่ละก็ให้เปลี่ยนเป็น Disable โดยเลื่อนแถบ
แสงไปที่เมนูที่เราต้องการใช้ปุ่ม Page Up หรือ Page
Down สำาหรับเปลี่ยนค่าให้เป็น Disable
กดปุ่ม ESC เพื่อกลับไปเมนูหลักของ Bios Setup
มองหาเมนูของ SAVE TO CMOS AND EXIT หรืออะไร
ทำานองนี้เลื่อนแถบแสงไปเลยแล้วกด ENTER ถ้าหากเครื่อง
ถามว่าจะ Save หรือไม่ก็ตอบ Y ได้เลย หลังจากนี้เครื่องจะ
ทำาการ Reboot ใหม่อีกครั้ง ใส่แผ่น Startup Disk ที่เรา
ทำาไว้ตามขั้นตอนแรกรอไว้ก่อนเลย
มาดูข ั้น ตอนตั้ง แต่เ ริ่ม ต้น การติด ตั้ง Windows XP
เริ่ ม ต้ น โดยการเซ็ ต ให้ บู ต เครื่ อ งจาก CD-Rom Drive
ก่ อ น โ ด ย ก า ร เ ข้ า ไ ป ป รั บ ตั้ ง ค่ า ใ น bios ข อ ง เ ค รื่ อ ง
คอมพิ ว เตอร์ โดยเลื อ กลำา ดั บ การบู ต ให้ เ ลื อ ก CD-Rom
Drive เป็นตัวแรก (ถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้อง
เปลี่ยนอะไร)

การปรับเครื่อง เพื่อให้บูตจาก CD-Rom ก่อน จากนั้นก็บูต
เครื่องจากแผ่นซีดี Windows XP Setup โดยเมื่อบูตเครื่อง
มา จะมี ข้ อ ความให้ ก ดปุ่ ม อะไรก็ ไ ด้ เพื่ อ บู ต จากซี ดี ค ะ ก็
เคาะ Enter ไปทีนึงก่อน
โปรแกรมจะทำาการตรวจสอบและเช็คข้อมูลอยู่พักนึง รอจน
ขึ้นหน้าจอถัดไป
เข้ามาสู่หน้า Welcome to Setup กดปุ่ม Enter เพื่อ
ทำาการติดตั้งต่อไป

หน้าของ Licensing Agreement กดปุ่ม F8 เพื่อทำาการ
ติดตั้งต่อไป
ทำาการเลือก Drive ของฮาร์ดดิสก์ที่จะลง Windows XP
แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป

เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP
หากต้องการใช้ระบบ NTFS ก็เลือกที่ข้อบน แต่ถ้าจะใช้เป็น
FAT32 หรือของเดิม ก็เลือกข้อสุดท้ายได้เลย (no
changes) ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำาให้เลือก FAT32 นะ
คะ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป
โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง รอสักครู่

หลังจากนั้น โปรแกรมจะทำาการ Restart เครื่องใหม่อีก
ครั้ง (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่มใด
ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำางานไปเองได้เลย)
หลังจากบูตเครื่องมาคราวนี้ จะเริ่มเห็นหน้าตาของ
Windows XP แล้ว รอสักครู่

โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้งต่าง ๆ ก็รอไปเรื่อย ๆ
จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้
กดปุ่ม Next ไปเลยค่ะ ยังไม่ต้องตั้งค่าอะไรในช่วงนี้

ใส่ชื่อและบริษัทของผู้ใช้งาน ใส่เป็นอะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม
Next เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป
ทำาการใส่ Product Key (จะมีในด้านหลังของแผ่นซีดี)
แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป

หน้าจอให้ใส่ Password ของ Admin ให้ปล่อยว่าง ๆ ไว้
แบบนี้แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป
เลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00)
Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำาการ
ติดตั้งต่อไป

รอสักพัก จนกระทั่งขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อม
แล้วสำาหรับการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP ครับ
จากนั้น จะมีการบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการใช้
งานจริง ๆ

บูตเครื่องใหม่คราวนี้ อาจจะมีเมนูแปลก ๆ แบบนี้ เป็นการ
เลือกว่า เราจะบูตจากระบบ Windows ตัวเก่าหรือจาก
Windows XP ครับ ก็เลือกที่ Microsoft Windows XP
Professional ครับ ถ้าของใครไม่มีเมนูนี้ก็ไม่เป็นไร

เริ่มต้นบูตเครื่อง เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP
ในครั้งแรก อาจจะมีการถามเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใช้งาน
กด OK เพื่อให้ระบบตั้งขนาดหน้าจอให้เราได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ ถ้าหากเครื่องไหนมีการถาม การติดตั้งค่าต่าง ๆ
ก็กดเลือกที่ Next หรือ Later ไปก่อน บางครั้งอาจจะมีให้
เราทำาการสร้าง Username อย่างน้อย 1 ชือก่อนเข้าใช้
่
งาน ก็ใส่ชอของคุณเข้าไปได้เลย
ื่
ระบบเครือ ข่า ยไร้ส าย

ระบบเครื อ ข่ า ยไร้ ส าย (Wireless LAN) ระบบเครื อ
ข่ า ย ไ ร้ ส า ย (Wireless LANs) เ กิ ด ขึ้ น ค รั้ ง แ ร ก ใ น ปี
ค.ศ. 1971 บนเกาะฮาวาย โดยโปรเจกต์ ของนั ก ศึ ก ษา
ของมหาวิ ท ยาลั ย ฮาวาย ที่ ชื่ อ ว่ า “ALOHNET” ขณะนั้ น
ลั ก ษณะการส่ ง ข้ อ มู ล เป็ น แบบ Bi-directional ส่ ง ไป-กลั บ
ง่ า ย ๆ ผ่ า น ค ลื่ น วิ ท ยุ สื่ อ ส า ร กั น ร ะ ห ว่ า ง
คอมพิ ว เตอร์ 7 เครื่ อ ง ซึ่ ง ตั้ ง อยู่ บ นเกาะ 4 เกาะโดยรอบ
และมีศูนย์กลางการเชื่อมต่ออยู่ที่เกาะๆหนึ่งที่ชื่อว่า Oahu
ระบบเครื อ ข่ า ยไร้ ส าย (WLAN = Wireless Local
Area Network) คือ ระบบการสื่อสารข้อมูลที่มีรูปแบบใน
การสื่อสารแบบไม่ใช้สายโดยใช้การส่งคลื่นความถี่วิทยุใน
ย่านวิทยุ RF และ คลื่นอินฟราเรด ในการรับและส่งข้อมูล
ร ะห ว่ า ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ แ ต่ ล ะ เ ค รื่ อ ง ผ่ า น อ า ก า ศ , ท ะ ลุ
กำา แพง, เพดานหรื อ สิ่ ง ก่ อ สร้ า งอื่ น ๆ โดยปราศจากความ
ต้องการของการเดินสาย นอกจากนั้นระบบเครือข่ายไร้สาย
ก็ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมทุกอย่างเหมือนกับระบบ LAN แบ
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP
ระบบปฏิบัติการ windows XP

More Related Content

What's hot

บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์Pokypoky Leonardo
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์Aphison Pukon
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการRawiwan Kashornchan
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวMilkSick
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวMilkSick
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอมระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอมLookked2122
 
ระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมวระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมวPheeranan Thetkham
 
ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]Pheeranan Thetkham
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์Aphison Pukon
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอมระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอมLookked2122
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการwannuka24
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการwannuka24
 

What's hot (14)

บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
บทที่ 3. คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
 
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาวระบบปฏิบั..[1] ขาว
ระบบปฏิบั..[1] ขาว
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอมระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
 
ระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมวระบบปฏิบั..[1] แมว
ระบบปฏิบั..[1] แมว
 
ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]ระบบปฏิบั..[1]
ระบบปฏิบั..[1]
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม ณัฐพร อภิสันต์
 
DOS
DOSDOS
DOS
 
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอมระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
ระบบปฎิบัติการและเตรือข่ายคอม
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
 
Ch24
Ch24Ch24
Ch24
 

Viewers also liked

Uk Linux Presentation Abhishek Kapoor
Uk Linux Presentation Abhishek KapoorUk Linux Presentation Abhishek Kapoor
Uk Linux Presentation Abhishek KapoorIDS Infotech
 
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความหมายของสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความหมายของสารสนเทศใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความหมายของสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความหมายของสารสนเทศTay Chaloeykrai
 
Resultados etapa excepcional 12 10-2016
Resultados  etapa excepcional 12 10-2016Resultados  etapa excepcional 12 10-2016
Resultados etapa excepcional 12 10-2016ELVIN VEGA ESPINOZA
 
Xoxoxoxoxooxoxoxox
XoxoxoxoxooxoxoxoxXoxoxoxoxooxoxoxox
Xoxoxoxoxooxoxoxoxxoxoandres
 
GCSE Physics Conduction of Heat
GCSE Physics Conduction of HeatGCSE Physics Conduction of Heat
GCSE Physics Conduction of Heatsherinshaju
 
IPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndia
IPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndiaIPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndia
IPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndiaMobile App Developers India
 
Curso de Mini-Basket Baloncesto Formativo
Curso de Mini-Basket Baloncesto FormativoCurso de Mini-Basket Baloncesto Formativo
Curso de Mini-Basket Baloncesto FormativoEducagratis
 
GDC 2009 Game Design Improv
GDC 2009 Game Design ImprovGDC 2009 Game Design Improv
GDC 2009 Game Design ImprovSusan Gold
 
How to Prepare for Information Technology
How to Prepare for Information TechnologyHow to Prepare for Information Technology
How to Prepare for Information TechnologySudheer Paidi
 
Tech Backpack Journey till May 2013
Tech Backpack Journey till May 2013Tech Backpack Journey till May 2013
Tech Backpack Journey till May 2013Tech Backpack
 
Depth buffershadow
Depth buffershadowDepth buffershadow
Depth buffershadowMoonLightMS
 
Message Queuing (MSMQ)
Message Queuing (MSMQ)Message Queuing (MSMQ)
Message Queuing (MSMQ)Senior Dev
 
【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル
【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル
【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル智治 長沢
 
7. Przygotowanie form do drukowania płaskiego
7. Przygotowanie form do drukowania płaskiego7. Przygotowanie form do drukowania płaskiego
7. Przygotowanie form do drukowania płaskiegoPatryk Patryk
 
Developing My Online Professional Learning Network
Developing My Online Professional Learning NetworkDeveloping My Online Professional Learning Network
Developing My Online Professional Learning Networklisbk
 
A Content Marketer's Toast to Twitter
A Content Marketer's Toast to TwitterA Content Marketer's Toast to Twitter
A Content Marketer's Toast to TwitterKapost
 
How Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPA
How Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPAHow Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPA
How Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPATom Hood, CPA,CITP,CGMA
 

Viewers also liked (20)

Uk Linux Presentation Abhishek Kapoor
Uk Linux Presentation Abhishek KapoorUk Linux Presentation Abhishek Kapoor
Uk Linux Presentation Abhishek Kapoor
 
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความหมายของสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความหมายของสารสนเทศใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความหมายของสารสนเทศ
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความหมายของสารสนเทศ
 
System computer
System computerSystem computer
System computer
 
Resultados etapa excepcional 12 10-2016
Resultados  etapa excepcional 12 10-2016Resultados  etapa excepcional 12 10-2016
Resultados etapa excepcional 12 10-2016
 
Xoxoxoxoxooxoxoxox
XoxoxoxoxooxoxoxoxXoxoxoxoxooxoxoxox
Xoxoxoxoxooxoxoxox
 
GCSE Physics Conduction of Heat
GCSE Physics Conduction of HeatGCSE Physics Conduction of Heat
GCSE Physics Conduction of Heat
 
IPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndia
IPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndiaIPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndia
IPhone Application Development India |#IPhoneApplicationDevelopmentIndia
 
Curso de Mini-Basket Baloncesto Formativo
Curso de Mini-Basket Baloncesto FormativoCurso de Mini-Basket Baloncesto Formativo
Curso de Mini-Basket Baloncesto Formativo
 
GDC 2009 Game Design Improv
GDC 2009 Game Design ImprovGDC 2009 Game Design Improv
GDC 2009 Game Design Improv
 
How to Prepare for Information Technology
How to Prepare for Information TechnologyHow to Prepare for Information Technology
How to Prepare for Information Technology
 
Tech Backpack Journey till May 2013
Tech Backpack Journey till May 2013Tech Backpack Journey till May 2013
Tech Backpack Journey till May 2013
 
Depth buffershadow
Depth buffershadowDepth buffershadow
Depth buffershadow
 
Message Queuing (MSMQ)
Message Queuing (MSMQ)Message Queuing (MSMQ)
Message Queuing (MSMQ)
 
【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル
【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル
【XP祭り2010】 ライトニングトークス 「マイクロソフトとアジャイル
 
Strings connect
Strings connectStrings connect
Strings connect
 
7. Przygotowanie form do drukowania płaskiego
7. Przygotowanie form do drukowania płaskiego7. Przygotowanie form do drukowania płaskiego
7. Przygotowanie form do drukowania płaskiego
 
Cronica tita
Cronica titaCronica tita
Cronica tita
 
Developing My Online Professional Learning Network
Developing My Online Professional Learning NetworkDeveloping My Online Professional Learning Network
Developing My Online Professional Learning Network
 
A Content Marketer's Toast to Twitter
A Content Marketer's Toast to TwitterA Content Marketer's Toast to Twitter
A Content Marketer's Toast to Twitter
 
How Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPA
How Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPAHow Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPA
How Social Networking & Remote Conferencing (SL) Transfomed MACPA
 

Similar to ระบบปฏิบัติการ windows XP

โครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์คโครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์คNichakarnkvc
 
ทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการ
ทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการ
ทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการ30082527
 
ระบบปฏิบัติการ.Ppt
 ระบบปฏิบัติการ.Ppt  ระบบปฏิบัติการ.Ppt
ระบบปฏิบัติการ.Ppt onthicha1993
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการwannuka24
 
ระบบ Windows
ระบบ Windowsระบบ Windows
ระบบ Windowsssuseraa96d2
 
ระบบปฏิบัติการ.Ppt
 ระบบปฏิบัติการ.Ppt  ระบบปฏิบัติการ.Ppt
ระบบปฏิบัติการ.Ppt onthicha1993
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการrunjaun
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการWirot Chantharoek
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการSakonwan947
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการSakonwan947
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการSakonwan947
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการSakonwan947
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการSakonwan947
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการSiriwan Udomtragulwong
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการSiriwan Udomtragulwong
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการrunjaun
 
วิวัฒนาการของ Windows
วิวัฒนาการของ Windowsวิวัฒนาการของ Windows
วิวัฒนาการของ Windowsthanakorn thanakorn
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการnattarikaii
 

Similar to ระบบปฏิบัติการ windows XP (20)

Dos
DosDos
Dos
 
โครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์คโครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
โครงงานโปรเจ็คเวิร์ค
 
ทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการ
ทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการ
ทำความรู้จัก ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ.Ppt
 ระบบปฏิบัติการ.Ppt  ระบบปฏิบัติการ.Ppt
ระบบปฏิบัติการ.Ppt
 
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ
 
ระบบ Windows
ระบบ Windowsระบบ Windows
ระบบ Windows
 
ระบบปฏิบัติการ.Ppt
 ระบบปฏิบัติการ.Ppt  ระบบปฏิบัติการ.Ppt
ระบบปฏิบัติการ.Ppt
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 
วิวัฒนาการของ Windows
วิวัฒนาการของ Windowsวิวัฒนาการของ Windows
วิวัฒนาการของ Windows
 
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการ
 

ระบบปฏิบัติการ windows XP

  • 1. รายงาน เรื่อ ง ระบบปฏิบ ัต ิก าร windows XP จัด ทำา โดย นางสาววารุณ ี วงค์ร ัม ย์ ชั้น ปวช. 3 เลขที่ 28 แผนก คอมพิว เตอร์ธ ุร กิจ เสนอ อาจารย์แ สงเดือ น เพ็ญ ศศิธ ร รายงานเล่ม นี้เ ป็น ส่ว นหนึ่ง ของวิช าระบบ เครือ ข่า ยคอมพิว เตอร์เ บื้อ งต้น วิท ยาลัย เทคนิค คูเ มือ ง
  • 2. ประวัต ิ Windows XP ปี 1983 Bill Gate ได้ออกจาก Harvard ขณะที่ยัง เรียนอยู่ ปี 2 เพื่อมาบริหารบริษัท Micro Computer and software หรือเป็นที่รู้จักกันภายหลัง คือ Microsoft นั่นเอง ปีนั้นเอง MS-DOS ก็ได้ถือกำาเนิดขึ้นมาจนเป็นที่ ยอมรับกันอย่างแพร่หลา ย และเป็นจุดกำาเนิดให้เกิดการ พัฒนาต่อมาจนเป็น Windows ในปี 1985 แต่ก็ยังคง อาศัย DOS เป็นหลักอยู่เช่นเดิม แต่เพื่อความเข้าใจคงจะ ต้องเริ่มจากก้าวแรกในปีนี้กั นเลยครับ 1985 – Microsoft Windows 1.0 ใน ปี 1985 นี้ Microsoft ได้เริ่มต้นกับการเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ระบบ Windows ที่พัฒนาต่อมาก MS-DOS แต่ถือ เป็นเพียงเปลือกของ DOS เท่านั้น ซึ่งคุณสมบัติส่วนใหญ่ มุ่งไปที่ตารางนัดหมาย สมุดบันทึก และทำางานผ่านระบบ GUI [Graphic User Interface] เป็นครั้งแรก 1987 – Microsoft Windows 2.0 2 ปีหลังจาก Windows 1.0 ก็ได้เวลาปล่อย version 2 ออกสู่ตลาด แต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายจาก เดิม ส่วนมากจะเป็นการเพิ่มสีสันให้กับระบบ GUI ให้ สวยงามมากขึ้น และความสามารถในการพิมพ์ได้ตรงกับที่ เห็นบนหน้าจอ 1990 – Microsoft Windows 3.0 ใน ปีนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำาคัญของ Windows ที่ เข้ามามีบทบาทต่อเครื่อง Mc ของ Apple ที่กำาลังได้รับ ความนิยมอยู่ในตอนนั้นในแง่ของ Computer ที่สามารถ แสดงผลทางด้านกราฟิก โดย Microsoft เริ่มมีการใช้ ระบบ VxD [Virtual Device Driver] ซึ่งเป็น driver ของ Windows ซึงช่วยในการติดต่อเสื่อสารกับอุปกรณ์ ่ ต่างๆได้ง่ายขึ้น โดยอาศัยระบบการบริหารหน่วยความจำา
  • 3. เข้ามาช่วย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในตอนนี้คือ kernel นั่นเอง ด้วยความสามารถของ VxD ก็เริ่มทำาให้ระบบ Virtual Memory ของ Windows ดีขึ้นมากเมื่อทำางานแบบ Multi Tasking และด้วยเหตุนี้ทำาให้ Windows 3.0 ทำายอดได้ ถึง 10 ล้านชุดในระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น 1992 – Microsoft Windows 3.1 2 ปีกับความสำาเร็จของ Windows 3.0 ที่ทำายอดขายได้ แบบไม่คาดฝัน Microsoft ก็ได้ปล่อย Windows 3.1 ออกมาเพื่อแก้บั๊กที่มีอยู่ใน Windows 3.0 โดยหลักๆจะ ทำาให้นักพัฒนา software สามารถสร้าง software ที่นำา มาใช้กับ Windows ได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น และ สามารถนำา font แบบ True Type Font มาได้กับ Windows ด้วย จาก Windows 3.0-3.1 ทำาให้ Microsoft เขย่าตลาด PC ได้เป็นอย่างมาก โดยตอนนั้น IBM ซึงนำาทีมโดย OS/2 ่ ครองตลาดอยู่ 1993 – Microsoft Windows 3.11 (Windows for Workgroups) ห่าง มาแค่ปีเดียว ในปี 1993 Microsoft ได้ปล่อย Windows 3.11 ออกสู่ตลาดซึ่งเป็นที่รู้จักกันในตอนนั้นคือ Windows for Workgroups ซึงเป็นการต่อยอดมาจาก ่ Windows 3.1 โดยเสริมคุณสมบัติระบบ network และ การสร้าง Protocol TCP/IP ทีช่วยทำาให้เครื่อง PC ใน ่ ระบบเน็ทเวิร์ก และ PC แบบ Home user สามารถติดต่อ ผ่านเครือข่าย Internet นับเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับ PC ในแบบที่ไม่มี Windows ตัวไหนทำาได้มาก่อน 1993 – Microsoft Windows NT 3.1 เดือน กรกฎาคมในปีเดียวกันนี้เอง Windows NT 3.1 ก็ได้ออกสู่ท้องตลาดในฐานะระบบปฏิบัติการที่มีสถาปัต ยกรรมโครงสร้างแบบ 32 bit นัยว่าจะมาแทนที่
  • 4. Windows 3.1 ทีมีโครงสร้างแบบ 16 bit โดยจุประสงค์ ่ แรกที่ออก NT นั้นก็เพื่อรองรับการทำางานในลักษณะที่เป็น LAN Server ที่สามารถทำางานร่วมกับ Novell’s Netware ในตลาดเครื่อง server ในขณะนั้นที่กำาลังแข่ง กับ Unix สำาหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มบริษัทหรือองค์กร ต่างๆ ที่ต้องการเครื่อง server ที่มีกำาลังสูง และ สถาปัตยกรรม NT นี้เองที่ทำาให้เราได้มี Windows 2000, XP, 2003 และ VISTA ที่จะออกมาในปีหน้านี้ 1995 – Microsoft Windows 95 ปี นี้ถือเป็นก้าวเปลี่ยนแปลงที่สำาคัญอีกครั้งของ Microsoft และ Windows เพราะมันทำาให้ Microsoft กลายเป็นยักษ์ ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไปอย่างไร้ เทียมทานเลยก็ ว่าได้ โดย Windows 95 ที่ออกแบบมานั้นหน้าจอเป็น interface ที่ถูกปรับโฉมใหม่หมด [ในขณะนั้น] ไม่มีความเป็นหน้าจอ DOS หลงเหลืออยู่ เลย [ถ้านึกภาพ Windows 1.0-3.11 ไม่ออกก็นึกถึง เครื่อง palm นะครับ] และหน้าจอก็ได้เริ่มมีการวาง icon บน desktop ให้ผู้ใช้สามารถคลิ้กเพื่อเปิดการทำางานของ โปรแกรมนั้ นๆได้เลยรวมถึงได้มี การนำาเอา Taskbar และ Start Menu เข้ามาใช้เพื่อรองรับกับการทำางานแบบ Multi tasking ที่สำาคัญ Windows 95 ยังได้มีการแนะนำา feature ใหม่ที่ เรียกกันว่า Plug and Play [เสียบแล้วใช้] มาใช้เพื่อ สนับสนุน hardware ที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในเครื่อง computer รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงสำาหรับนักเล่นเกมอย่าง เป็นจริงเ ป็นจัง จากเดิมที่การเล่นเกมที่มีอุปกรณ์ต่อพ่วงนี้ จะอยู่ใน เครื่องเล่นเกมของ Nintendo กับ Sega เท่านั้น และจุดนี้เองที่ทำาให้เกมบน DOS หายไป และด้วย Direct X ทำาให้มีการพัฒนาเกมตามมาอีกมากมาย ขณะที่ Protocol TCP/IP ก็ยังเป็นอีกหัวในสำาคัญที่ทำาให้การเปิด โลก internet ของกลุ่มผู้ใช้ PC เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นและ มีเว็บไซต์ต่างๆเกิดขึ้นต ามมา เพื่อรองรับการใช้จากทั่วทุก
  • 5. มุมโลก 199x – Microsoft Windows NT 4.0 หลัง จากออก NT 3.1 ทีมพัฒนา software ของ Microsoft ก็ได้ปล่อย Windows NT 4.0 ที่เน้นตลาด เน็ตเวิร์กมากขึ้น โดยจะมี interface คล้ายกับ Windows 95 แต่ว่าระบบมีความเสถียรมากกว่า โดยการเพิ่ม API [Application Programming Interface] เข้ามาทำาให้ software/Hardware ต่างๆติดต่อกับ Windows ได้อย่าง เป็นมาตรฐานเดียวกัน Windows NT 4.0 ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากสำาหรับ บรรดากลุ่มองค์กร ที่ต้องการเครื่อง server ขนาดเล็กไป จนถึงขนาดใหญ่ 1997 – Microsoft Windows 98 Windows 98 ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้ยอมรับทั่ว โลก โดยได้รับการพัฒนาในเรื่องพอร์ต USB ถือเป็นการ เริ่มใช้งานครั้งแรกบน Windows 98 ในปี 1997 รวมถึง ระบบ Fat32 ที่ทำาให้ Windows สนับสนุน Hard Disk ที่ มีขนาดมากกว่า 2 GB ได้ นอกจากนั้นยังได้มีการรวมเอา hyper link ของ Internet Explorer มารวมกับ Windows Explorer กลายเป็น Interface ร่วมกันของทั้ง สองระบบ ตรงนี้เองที่ทำาให้ Microsoft โดนศาลยุติธรรมของอเมริกา โดยอ้างว่าการกระทำาดังกล่าว ไม่ยุติธรรมต่อบริษัท คู่แข่ง อื่นๆ อย่าง Netscape ซึ่งตอนนั้นถือเป็นเจ้าตลาด browser อยู่ 1999 – Windows 98 SE เนื่อง จาก Windows 98 ยังมีบั๊กอยู่เยอะ 2 ปีให้หลัง Microsoft ก็ได้ออก Windows 98 SE [Second Edition] ตามมาเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว และ เป็นการมารพร้อมกับ feature ใหม่ที่เรียกว่า ICS หรือ
  • 6. Internet Connection Sharing ซึงทำาให้เครื่อง PC ่ หลายๆเครื่องสามารถ share internet ร่วมกันได้โดยใช้ เพียง Account เดียวเท่านั้น 2000 – Microsoft Windows 2000 Windows 2000 หรือ Windows NT 5.0 แทบจะเรียก ได้ว่าเป็น Windows ทีดีที่สุดของระบบปฏิบัติการ ่ Windows เลยที่เดียวก็ว่าได้ Windows 2000 ถูกใช้ อย่างแพร่หลายในฐานะเครื่อง workstation และ Server จนถึงปัจจุบัน จุดเด่นของ Windows 2000 คือ มีความ เสถียรสูงมาก การเขียนโปรแกรมเพื่อรองรับ application ต่างๆก็ทำาได้ค่อนข้างง่าย Windows 2000 จึงเป็นที่ชื่น ชอบของ Web developers ที่ต้องการสร้างโปรแกรม เชื่อมต่อด้านเครือข่ายกับระบ บปฏิบัติการเป็นแกน หลัก ของครือข่าย โดยใน Windows 2000 นี้ยังได้มีการแยก รุ่นออกเป็น 3 รุ่นด้วยกันเพื่อให้ตรงกับความต้องการ Windows 2000 Professional - เหมาะกับธุรกิจทั่วไป รวมถึง PC ธรรมดาที่ต้องการประสิทธิภาพสูง Windows 2000 Server – เหมาะกับบริษัทขนาดเล็กกลาง Windows 2000 Advanced Server - เหมาะกับองค์กร ขนาดใหญ่ทมีการเข้าออกของข้อมูลเป็น จำานวนมาก ี่ 2000 – Microsoft Windows ME Windows ME ถูกส่งมาทำาตลาดในระดับ User ทั่วไป โดย คำาว่า ME ย่อมาจากคำาว่า Millennium Edition ซึ่งออก วางจำาหน่ายในปี 2000 พอดี หลังออกมาได้ไม่นานสิ่งที่ ตามมาคือ บั๊กขนาดใหญ่ที่ทำาเอาระบบล่มบ่อยๆ สิ่งที่เพิ่ม เข้ามาใน Windows ME คือ ระบบ System restore ซึ่ง ทำาให้สามารถย้อนเวลากลับไปก่อนหน้าที่ต้องการได้ หรือ
  • 7. อีกประการหนึ่ง Microsoft อาจจะพอเดาออกว่า Windows ตัวนี้เข้ากันไม่ค่อยได้กับ hardware จึงทำา System Restore ใส่เข้าไปด้วย ซึงฟังดูตลกแต่ก็เป็นเช่น ่ นั้นจริงๆ นอกนั้นยังมี Windows Media Player แบบเต็ม รูปแบบครั้งแรก อีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาใน Windows ME คือ Windows ตัวนี้ได้ตัด DOS ออกไปเป็นที่เรียบร้อย การ ทำางานนั้นเป็นแบบ 32 bit โดยสิ้นเชิง ซึ่งต่างกับตัวที่แล้วๆ มาเมื่อมีปัญหาคุณก็จะเจอ DOS แทน และอาจจะเป็น เหตุผลอีกข้อที่ทำาให้ Windows ME ไม่ค่อยเสถียรเอา มากๆ ยังกับว่านถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรอ Windows XP ใน ขณะที่กำาลังพัฒนาอยู่ 2001 – Microsoft Windows XP นับ จากปี 1995 ปี 2001 นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้ง สำาคัญอีกครั้งของ Microsoft และ Windows เมื่อการมา ถึงของ Windows XP [XP = EX Perience] หรือ Windows NT 5.1 ซึงเป็นลูกผสมระหว่าง Windows ่ 2000/NT และ Windows 9x [95, 98, ME] ด้วย Interface ที่ออกแบบใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ต้องบอกว่าใน ตอนนั ้้นสวยงามเอามากๆ ความเสถียรที่อิงจาก Windows 2000 การทำา Multiple user account การ สนับสนุน Hardware อย่างเต็มรูปแบบ ทำาให้ Windows XP เป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาที่มากับ Windows XP นั้นกลับเป็นเรื่องระบบความปลอดภัยทำาให้ Microsoft ต้องออก Service Pack1 มาภายในเวลาอันรวดเร็ว และ Service Pack2 ตามมาอีก และในปีหน้ากลางปีก็จะถึง เวลาของ Service Pack3 กันแล้วครับ Windows XP แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ Windows XP Home Edition- เหมาะกับกับการใช้งาน ตามบ้านและ PC ทั่วๆไป
  • 8. Windows XP Professional - เหมาะกับธุรกิจทั่วไป รวม ถึง PC ธรรมดาที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่นเดียวกับ Windows 2000 Professional นอกจาก 2 รุ่นที่ว่ามาแล้วยังมีอีก 2 รุ่นที่ออกตามมาให้ หลัง คือ Windows XP Home Edition N และ Windows XP Professional N ซึ่งเป็นผลมาจากการ ฟ้องร้องว่า Microsoft ทำาธุรกิจผูกขาด [อีกครั้ง] ซึงมีผล ่ ทำาให้ Microsoft ต้องออก N Edition เพื่อจำาหน่าย เฉพาะในยุโรป สิ่งที่ต่างออกไปคือ จะไม่มี Windows Media Player และ Internet Explorer ติดมากับ Windows นั่นเอง 2003 – Microsoft Windows Server 2003 Windows 2003 Server หรือ Windows NT 5.2 นั้นถูก สร้างขึ้นจาก Windows 2000+Windows XP โดยมุ่งหวัง ที่จะเข้าแทนที่ Windows 2000 นอกจากหน้าตาเหมือน Windows XP แล้วยังได้มีการเสริมในเรื่องของระบบรักษา ความปลอดภัยให้สูงขึ้นเพราะถูก สร้างขึ้นมาให้ใช้กับ องค์กรโดยเฉพาะ การจัดการที่ทำาได้ง่ายโดยผ่าน Browser IE และยังเพิ่มความเสถียรในเรื่องของการเข้ากัน ได้กับ Application Code ต่างๆได้อย่างหลากหลายมาก ขึ้น โดย Windows Server 2003 นี้มมากถึง 5 รุ่นได้กัน คือ ี Windows Server 2003 Standard – เหมาะสำาหรับทำา server ขนาดในบริษัทขนาดเล็ก Microsoft Windows Small Business Server 2003 – เหมาะสำาหรับธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง
  • 9. Microsoft Windows Server 2003, Datacenter Edition – เหมาะสำาหรับองค์กรที่มีข้อมูลมากมายที่ต้อง จัดการ Microsoft Windows Server 2003, Enterprise Edition – เหมาะสำาหรับองค์กรขนาดใหญ่ Microsoft Windows Server 2003, Web Edition – เหมาะสำาหรับทำา Web server 2003 – Microsoft Windows XP Media Center Edition 2002 (WinMCE2002) ปี 2003 นอกจากเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งของ Microsoft ในปีนี้เอง Microsoft ก็ได้นำาเอา Microsoft Windows XP Media Center Edition ออกจำาหน่ายเพื่อ รองรับกับกลุ่มลูกค้า PC ตามบ้านที่ต้องการชุด โฮม เธียเตอร์ โดยหลักโปรแกรมนี้ก็คือ Windows XP Pro ที่มี การเพิ่มลูกเล่นในส่วนของ Media Center เข้าไปนั่นเอง ทำาให้สามารถควบคุมผ่านรีโมทได้เหมือนกับโฮมธีเตอร์ทั่วๆ ไป และ Media Center ที่เพิ่มมายังสามารถทำางานกับ อุปกรณ์มีเดีย ทั้งหลายที่เชื่อมต่ออยู่กับ PC และการจัดการ กับสื่อ Media ต่างๆได้ โดยใช้เพียงรีโมทเท่านั้น 2005 - Windows XP Media Center Edition 2005 หลัง จากนำาร่องด้วย MCE2002 ปีนี้ Microsoft ได้ออก MCE2005 ซึ่งมีการเพิ่มคุฯสมบัติใหม่ๆเข้ามาเช่นการ รองรับ HDTV [High Definition TV] หรือ TV ความ ละเอียดสูง ที่แพร่ภาพในระบบ Digital [DTV] นอกจาก นั้นยังมี interface ที่สนับสนุน Media Center Extenders ซึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถ download/upload ่ ไฟล์หรือดูเนื้อหาต่างๆของไฟล์แบบสตรีมได้อย่างง่ายดาย
  • 10. 2005 – Microsoft Windows XP Professional x64 Edition เมษายน 2005 Microsoft ได้นำาเสนอ Microsoft Windows XP Professional x64 Edition ออกสู่ตลาด Windows ตัวนี้นับเป็นตัวแรกที่มีโครงสร้างสถาปัตยกรรม แบบ 64 bit และยังคงทำางานได้กับ โปรแกรม 32 bit ได้ เช่นเดิม โดยฟังก์ชั่นนี้เรียกว่า WOW หรือ Windows 32 on Windows 64 ซึ่ง Windows นี้ถูกออกแบบเพื่อนำามา ใช้กับงานกราฟฟิก 3D งานออกแบบ เครื่องบิน Animation หรืองานที่ต้องการความถูกต้องสูงสุด 2007 – Microsoft Windows Vista Windows Vista หรือชื่อในการพัฒนาว่า Windows longhorn นั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของ Windows ครั้ง ใหญ่อีกครั้งหนึ่ง นอกจาก core จะเป็น Windows NT 6.0 แล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือการแสดงผลแบบ 3D ของ Window นั่นเอง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่ง นอกจาก Interface ที่เปลี่ยนครั้งใหญ่แล้ว สิ่งที่ Microsoft มุ่งเน้น มากคือความปลอดภัย โดยการประกาศท้าทายเหล่า Hacker ให้เจอะระบบของ Windows vista กันเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีการจ้าง Hacker มาตรวจสอบ source code ทั้งหมดของ Windows vista เพื่อหาช่องโหว่ที่อาจ จะเกิดขึ้นไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ นอกจากนั้น Windows Vista ยังมากับไฟล์รับบรูปแบบใหม่ คือ WINFS [Windows Future storage] ที่จะเข้ามาแทน NTFS โดย Windows Vista นี้จะมีทั้งแบบ 32 bit และ 64 bit และมีมากถึง 5 รุ่นด้วย Windows Vista Home Basic – เหมาะสำาหรับ พ่อแม่ที่ ซื้อ Computer เครื่องแรกให้เด็กเล่นไปจนถึงคนทั่วไปที่ ไม่เคยใช้ Windows มาก่อน Windows Vista Home Premium – เหมาะกับเครื่องที่ เน้นทำาเป็น Media Center ที่บ้าน
  • 11. Windows Vista Business – เหมาะกับกลุ่ม power user ทั่วๆไป หรือเปรียบได้กับ Windows XP Pro นั่นเอง Windows Vista Enterprise – เหมาะกับองค์กรขนาด ใหญ่ Windows Vista Ultimate – เหมาะกับคนที่ต้องการทุกๆ อย่างจากทุกๆตัวที่กล่าวมา 2007 – Microsoft Windows Longhorn Server หรือ อีกชื่อคือ Windows Server 2007 นั่นเอง ซึงจะมี ่ รากฐานมาจาก Windows Vista ซึงจะเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ่ เข้าไปเพื่อรองรับกลุ่มลูกค ้้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ และ เป็นระบบปฏิบัติการแบบ 64bit ตั้งแต่ WINDOW XP เปิดตัวเมื่อปี 2544 เป็นต้นมาก็ มีออกมาหลายรุ่นจนนับไม่ถ้วน ทั้งรุ่นที่ไมโครซอฟท์ผลิต ออกมาเอง และ รุ่นที่ช่างโมดิฟายด์ ทั้งหลายนำามาประยุกต์ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง หรือปรับค่าบางอย่างเพื่อเน้นจุด เด่นต่างๆ กันออกไป เช่น Windows Dark, Windows TRUFASTER รุ่นที่ ไมโครซอฟท์ผลิตออกมาได้แก่ 1.1 Microsoft Windows XP Starter Edition 1.2 Microsoft Windows XP Home Edition 1.3 Microsoft Windows XP Professional รุ่น นี้ นิย มนำา มาใช้แ ละนิย มนำา มาแคร็ก กัน มาก 1.4 Microsoft Windows XP Media Center Edition 1.5 Microsoft Windows XP Tablet PC Edition 1.6 Microsoft Windows XP Edition N 1.7 Microsoft Windows XP 64-Bit Edition 1.8 Microsoft Windows XP Embedded 1.9 ไมโครซอฟท์วินโดวส์เอกซ์พีรุ่นปรับปรุง (Service Pack) SP1 ออกมาในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546)
  • 12. SP1a ออกมาในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) หลัง SP1 SP2 ออกมาในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) SP3 ออกมาในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) หลังวินโดวส์ วิสต้า บริษัท Microsoft ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1975 โดยบิล ล์ เกตส์ กับ พอล อัลเลน ได้ร่วมกับก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ สำานักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Redmond, Washington, USA ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น และ ได้นำาเอาภาษาเบสิกที่พัฒนาขึ้นเองออกวางตลาด และให้ ชื่อว่าไมโครซอฟท์เบสิก ภาษาคอมพิวเตอร์นี้ได้กลายมา เป็นรากฐานให้แก่ธุรกิจลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ซึงถูกผนวก ่ (ROM) เข้ากับเครื่อคอมพิวเตอร์ในบ้าน และเครื่อง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลส่วนใหญ่ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 70 และ 80 ต่อมาในปี ค.ศ. 1985 ถือเป็นช่วงที่สำาคัญที่สุดของ บริษัท Microsoft เพราะทางบริษัท IBM ได้วางแผนจะรุก ตลาดคอมพิวเตอร์ด้วยการนำาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคล(PC) IBM ออกวางตลาด IBM ได้เข้ามาเจรจากับ Microsoft เพื่อขอซือระบบปฏิบัตการคอมพิวเตอร์ซึ่งใน ้ ตอนแรกทางบริษัท Microsoft ยังไม่มีระบบปฏิบัติการจะ ขายให้จงแนะนำาให้ IBM ไปคุยกับดิจิทัลรีเสิร์ชแทน ที่ ึ ดิจิทัลรีเสิร์ช ผู้แทนของ IBM ได้คุยกับโดโรธี ภรรยาของ แกรี คิลดาลล์ แต่เธอปฏิเสธการลงนามในข้อตกลง มาตรฐานซึ่งไม่ปิดผนึก เนื่องจากเห็นว่าเสียเปรียบเกินไป IBM จึงหันมาคุยกับ Microsoft อีกครั้ง บิล เกตส์ได้สิทธิ์ ในการใช้สำาเนาการออกแบบของ CP/M และ QDOS จาก ทิม แพทเทอร์สัน แห่งบริษัท ซีแอตเทิล คอมพิวเตอร์ โป รดักส์ ด้วยการซื้อมาในราคา 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ ขายมันให้กับ IBM ในราคา "ราว 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ"
  • 13. ตามคำากล่าวอ้างของเกตส์ และในที่สุด MS-DOS และ PCDOS ก็ได้แจ้งเกิดในวงการ ต่อมาในช่วงปี1989 ทางบริษัท Microsoft ได้พัฒนา software ต่างๆของมาเช่น office suite, Microsoft office เป็นโปรแกรมที่ใช้ตามสำานักงานต่างๆเช่น Microsoft Word, Microsoft Excel และในวันที่ 22 พฤษภาคม 1990 ทางบริษัทได้ ทำาการเปิดตัว Window 3.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ version แรกที่ได้นำา graphics มาช่วยในการใช้งานเพื่อ ความคล่องตัวและปรับปรุงความสามารถเพื่อให้ใช้ Intel 386 processor ได้ ในปีค.ศ. 1995 ได้ทำาการปล่อย WINDOW 95 ออกสู่ตลาด ในปีค.ศ. 1998 ทางบริษัทได้พฒนา ั WINDOW 98 ออกมาใหม่ ในปีค.ศ. 2001 ได้ผลิด WINDOW XP และสุดท้ายในปี ค.ศ. 2006 ได้พัฒนาและผลิด Window vista ออกมา นอกจากระบบปฏิบัติการ WINDOW แล้วทาง บริษัท MICROSOFT ยังมีผลิตณฑ์ COMPUTER HARDWARE ที่ออกสู่ตลาดอีกมากมายเช่น MICROSOFT MOUSE ,HOME ENTERTAINMENT,XBOX,XBOX360,ZUNE AND TV 2. การใช้ง านระบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft Windows XP 2.1 การเข้า สู่ร ะบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft Windows XP
  • 14. เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ตดตั้งระบบปฏิบัติการ ิ Microsoft Windows XP ไว้แล้ว เครื่องจะเข้าสู้ระบบ ปฏิบัติการ Microsoft Windows XP อัตโนมัติ 2.2 การออกจากระบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft Windows XP เมื่อต้องการออกจากระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP ควรปิดโปรแกรมที่ใช้งานทั้งหมด ให้ เรียบร้อยก่อน จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Start โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1. Log Off คือ การออกจากระบบเพื่อเปลี่ยนผู้ใช้ โดย กลับไปรอเข้าระบบใหม่อีกครั้ง 2. Turn Off หรือ Shut Down คือ การปิดเครื่อง คอมพิวเตอร์ มีให้เลือก ดังนี้ Hibernate คือ การปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยระบบจะ เก็บสภาพแวดล้อมการทำางานไว้ และเมื่อเปิด เครื่องคอมพิวเตอร์ครั้งต่อไป ระบบจะทำางานตามสภาพ แวดล้อมเดิมก่อนปิดเครื่อง Turn Off คือ การปิดโปรแกรมทั้งหมดและปิดเครื่อง คอมพิวเตอร์ Restart คือ การปิดโปรแกรมทั้งหมดและเริ่มต้น กระบวนการทำางานของเครื่องใหม่ เมื่อปรากฏคำาว่า It’s now safe to turn off your computer. จึงกดปุ่ม Power ปิดเครื่องและปิด จอคอมพิวเตอร์ แต่เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ จะทำาการ ปิดตัวเองโดยที่ไม่ตองกดปุ่ม ้ Power ส่ว นประกอบทีส ำา คัญ ของระบบปฏิบ ต ิก าร ่ ั Microsoft Windows XP เดสก์ท อป (Desktop) เป็นส่วนของพื้นที่จอของ วินโดวส์ XP ซึ่งใช้ในการแสดงส่วนต่างๆ ให้ผู้ใช้ได้เห็น
  • 15. เช่นไอคอน หน้าต่างโปรแกรม ส่วนนี้เราสามารถปรับแต่ง เป็นรูปภาพหรือลวดลายต่าง ๆ เพื่อความสวยงามได้ แถบ Minimize/Restoredown/ Maximize/Close แถบ Menu bar ส่วนสำาหรับ แสดงรายการเมนูในหน้าต่าง แถบ Tools bar ส่วนสำาหรับ แสดงปุ่มเครื่องมือการใช้งาน แถบ Address bar ส่วน สำาหรับแสดงสถานะที่อยูของ ่ หน้าต่าง แถบ Scroll bar แถบเลื่อน ขึ้นลง/ซ้ายขวา ปุ่ม Start ใช้เรียกใช้โปรแกรมที่ถูกติดตั้งในระบบเครื่อง พิเศษที่ใช้โปรแกรมและคำาสั่งต่าง ที่ติดตั้งอยู่บนวินโดวส์ Taskbar เป็นส่วน แถบงาน (Taskbar) เป็นส่วนพิเศษที่ใช้ในการเรียกใช้โปรแกรมและคำาสั่งต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ในวินโดวส์ XP ปุ่ม ภาษา ปุ่ม เปลี่ย นภาษา 1. DESKTOP คือ บริเวณพื้นที่หรือฉากของระบบ ปฏิบัติการ Windows ซึ่งบริเวณนี้เป็นส่วนแสดง Icon หรือ Windows ที่เปิดทำางาน 2. ICON สัญลักษณ์ที่ใช้แทนทรัพยากรต่าง ๆ 3. RECYCLE BIN เป็นถังขยะเก็บไฟล์ที่ถูกลบ 4. TASKBAR เป็นแถบแสดง Start Menu หากมี โปรแกรมเปิดใช้งานอยู่ จะแสดงแถบชื่อโปรแกรมให้เห็น หากต้องการใช้งานโปรแกรมใดให้คลิกที่แถบชื่อโปรแกรม
  • 16. นั้น และถ้ามีการปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ แถบของ โปรแกรมนั้นก็จะหายไปจาก Taskbar 5. STATUS BAR ทำาหน้าที่แสดงสถานะของ โปรแกรมที่ทำางานอยู่ 6. LANGUAGE BAR แสดงสถานะของภาษาที่ใช้ งาน 7. START BUTTON ปุ่มเริ่มต้นการทำางาน การใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ที่อยู่ในเครื่อง ให้คลิกที่ปุ่ม Start แล้วเลื่อนเมาส์ไปที่ All Programs จะปรากฏ โปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องดังภาพข้างล่าง หน้าต่าง (Windows)
  • 17. u Title bar แสดงชื่อของโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ v Menu Bar แสดงเมนูของโปรแกรมใช้ในการเลือกคำา สั่ง w Toolbar เป็นรูปภาพเล็ก ๆ แทนคำาสั่งใช้งานต่างๆ x Address bar แสดงตำาแหน่ง ณ ขณะนั้น y Minimize ปุ่มลดขนาดหน้าต่างหรือปิดหน้าต่าง z Maximize ขยายหน้าต่างให้เต็มจอ { Close ใช้ในการปิดโปรแกรม | Icon คือ รูปสัญลักษณ์ที่ใช้ในการเรียกโปรแกรม } Scroll Bar ใช้ในการเลื่อนหน้าจอไปซ้าย ขวา ขึ้นลง ตามทิศทางลูกศร ~ Status Bar แสดงสถานะการทำางาน การเปลี่ย นขนาดของหน้า ต่า ง การเลื่อนตัวชี้เมาส์ไปยังขอบของหน้าต่าง ตัวชี้เมาส์ จะเปลี่ยนรูปจาก เป็น (ลูกศร 2 ทาง) คลิก เมาส์ค้างไว้แล้วลาก หน้าต่างจะเปลี่ยนขนาดไปเมื่อได้ ขนาดตามต้องการแล้วให้ปล่อยเมาส์ ย่อ หน้า ต่า ง คลิกที่ปุ่ม การขยายหน้า ต่า ง บนด้านขวามือของ TITLE BAR
  • 18. คลิกที่ปุ่ม บนด้านขวามือของ TITLE BAR ถ้าหน้าต่างมี ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่แล้วบนด้าน ขวามือของ TITLE BAR จะ แสดงปุ่ม แทนปุ่ม การคืน รูป หน้า ต่า ง คลิกที่ปุ่ม บนด้าน ขวามือของ TITLE BAR ถ้าขนาด หน้าต่างไม่ได้มีขาดใหญ่ที่สุดอยูแล้วบนด้านขวามือของ ่ TITLE BAR จะแสดงปุ่ม แทนปุ่ม การย้า ยหน้า ต่า ง ชี้เมาส์ไปที่ TITLE BAR คลิกเมาส์ค้างไว้แล้ว ลากเมาส์ไป ยังตำาแหน่งของหน้าจอที่ต้องการเคลื่อนย้าย หลังจากนั้น ปล่อยเมาส์ในตำาแหน่งที่ต้องการ การสลับ ระหว่า งหน้า ต่า งที่ก ำา ลัง เรีย กใช้ง าน คลิกปุ่มของโปรแกรมบน Taskbar ถ้าไม่สามารถมองเห็น Taskbar ให้ ชี้ ไ ปที่ พื้ น ที่ ข องหน้ า จอบริ เ วณตำา แหน่ ง ของ Taskbar ตัวอย่างเช่น ถ้า Taskbar อยู่ที่ตำา แหน่งล่างสุด ของหน้าจอ ให้คลิกไปที่โปรแกรมนั้นหรือจะใช้วิธีลัดโดย กดคี ย์ บ อร์ ด Alt + Tab และเลื อ กโปรแกรมที่ ต้ อ งการใช้ งาน การจัด การไฟล์แ ละโฟลเดอร์ ไฟล์ (File) ไฟล์คือสิ่งที่ใช้สำาหรับอ้างอิงข้อมูลหรือโปรแกรมที่เก็บ บันทึกลงดิสก์ ปกติการอ้างอิงไฟล์จะทำาโดยผ่านชื่อไฟล์ และตามด้วยจุดนามสกุลของโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้น จำานวน ของไฟล์จะขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์เองและดิสก์ ซึงปกติถ้า ่ ดิสก์มีขนาดใหญ่มากจะสามารถเก็บไฟล์จำานวนมากได้ ตัวอย่างของไฟล์ที่ควรรู้จัก ชื่อไฟล์ ชนิดของไฟล์ Readme.TXT ไฟล์ตัวอักษร Calc.EXE ไฟล์โปรแกรม Doc1.DOC ไฟล์ MS Word Book1.XLS ไฟล์ MS Excel
  • 19. การวัด ขนาดของไฟล์ (File Size) การวัดขนาดของไฟล์นิยมใช้หน่วยที่เป็นไบต์ (Byte) ซึ่งอาจเทียบได้กับ 1 ตัวอักษร และเพื่อความสะดวกสำาหรับ ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก จะเทียบหน่วยของไฟล์ที่เป็นไบต์ ให้เป็นหน่วยที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ดังนี้ 1 Byte (ไบต์) 1 ตัวอักษร 1KB (กิโลไบต์) 1,024 Byte 1MB (เมกกะไบต์) 1,024 KB 1GB (กิกะไบต์) 1,024 MB ความจุของแผ่นดิสก์ (Diskette) ขนาด 3.5 นิ้วคือ 1.44 MB หรือประมาณ 1,440 KB โฟลเดอร์ (Folder) โฟลเดอร์เปรียบเสมือนแฟ้มเอกสารที่ใช้แบ่งไฟล์ออก เป็นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการค้นหาไฟล์ ภายใน โฟลเดอร์สามารถสร้างโฟลเดอร์ย่อยเพื่อแบ่งกลุ่มไฟล์ย่อยๆ ลงไปอีกได้การตั้งชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์สามารถมีอักขระได้ มากที่สุด 255 อักขระรวมถึงช่องว่างด้วย แต่ไม่สามารถมี อักขระต่อไปนี้คือ / : * ? " < > |__ ระบบปฏิบ ัต ิก ารคอมพิว เตอร์ ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทำาหน้าที่ ควบคุมการทำางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อ พ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทำาหน้าที่ เป็น ตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องโดยตรง และโปรแกรมการใช์งานต่าง ๆ ความหมายของระบบปฏิบ ัต ิก าร โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า OS (Operating System) เป็นโปรแกรม ควบคุมการทำางาน ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำาหน้าที่ควบคุมการทำางานต่าง ๆ เช่น การแสดงผล ข้อมูล
  • 20. การติดต่อกับผู้ใช้ โดยทำาหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้ ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้ควบคุมและจัดสรร ทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่าง ๆ ระบบปฏิบ ัต ิก าร (Operating System) ระบบต่า งๆ การทำางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทำางานด้วย ตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำา งานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไป ซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสำาเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึงระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้า ่ ที่ ในการจัดการและควบคุมการทำางานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การจัดการเกี่ยวกับการแสดง ผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการ เกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้ง โปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อ การใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการ พัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สำาคัญ ๆ มีดังนี้ 1. ระบบปฏิบ ัต ิก าร DOS (Disk Operating System) ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการ สำาหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรม DOS จะถูก Load หรืออ่าน จากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วย ความจำาก่อน จากนั้น DOS จะไปทำาหน้าที่เป็น ผู้ประสานงาน ต่าง ๆ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคำาสั่งจาก ผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้ว นำ าไป ปฏิบัติตาม โดยการทำางานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงาน โดยการกดคำาสั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:>) ดังนั้น ผูใช้ระบบนี้จึงต้องจำาคำาสั่งต่าง ๆ ในการใช้งานจึงจะ ้ สามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ
  • 21. DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่. และปัจจุบันนี้มี การใช้งานน้อยมาก 2 .ระบบปฏิบ ัต ิก าร Microsoft Windows Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้ (User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูป ภาพแทนคำาสั่ง เรียกว่า GUI (Graphic User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทำางานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่ สัญลักษณ์หรือคลิกที่คำาสั่งที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมใน ขณะเดียวกัน ซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทำางาน โปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรม เดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ใน ลักษณะการทำางานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่ง หน้าต่าง ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถ แชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอร์ด (Clipboard) ระบบ Windows ทำาให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถทำาความ เข้าใจเรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น/ 3. ระบบปฏิบ ัต ิก าร Unix Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของ บริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PC แต่ อย่างใด แต่Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช็เทคโนโลยีแบบ เปิด (Open system) ซึงเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติด ่ กับระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนองการใช้งานใน ลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (Multi user system) และสามารถทำา งานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า ระบบหลายภารกิจ (Multitasking system)
  • 22. 4. ระบบปฏิบ ัต ิก าร Linux Linux เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดย Linux นั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่ง การที่Linux เป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 2000 เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ ทำ างานบนระบบ Linux โดย เฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สำาคัญที่สุดก็ คือ ระบบ Linux เป็นระบบ ปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้ จ่ายในการซื้อ โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรม จากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทำาให้การขยายตัวของ Linux เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติ การ หรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุ นการทำางานแบบหลายซีพียู หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึงทำาให้ระบบ Linux สามารถนำาไป ่ ใช้สำาหรับทำางาน เป็น Saver ขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สา มารถทำางานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer และซันสปาร์ค (SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่าขณะนี้ Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Microsoft Windows บนพีซี หรือ Mac OS ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็มีผู้ใช้ จำานวนไม่น้อยที่ สนใจมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บน Linux และเรื่องของการดูแล ระบบ Linux นั้น ก็มีเครื่องมือช่วย สำาหรับดำาเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น การเลือ กระบบปฏิบ ัต ิก ารให้ก ับ คอมพิว เตอร์ (OS) ค รั้ ง ก่ อ น ผมพู ด ถึ ง การเลื อ กซื้ อ อุ ป กรณ์ เ พื่ อ นำา มา ประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ กันไปแล้ว ..ครั้งนี้ผมจะพูดถึง
  • 23. วิธีการประกอบกันบ้าง..แต่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องผมจะ ขอพูดถึงระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์กันก่อน ร ะ บ บ ป ฏิ บั ติ ก า ร (OS) <-- ม า จ า ก Operating System แบ่ง ออกเป็น 3 กลุ่ม หลัก ๆ คือ 1. Unix เป็น OS ที่ใช้สำาหรับ เครื่อง Server เพราะ เป็น OS ที่มีเสถียรถาพมากที่สุด ไม่เหมาะสำา หรับผู้ใช้งาน ทั่ว ๆ ไปเพราะใช้ยากต้องมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ขั้น สู ง และไม่ ส นั บ สนุ น พวก Multimedia ต่ า ง ๆ ปั จ จุ บั น มี OS ที่เป็น Unix ที่พัฒนามาให้ใช้งานง่ายเหมาะสมกับผู้ใช้ ทั่ ว ๆ ไปเพราะจะมี ลั ก ษณะ คล้ า ยกั บ Windows ของ Microsoft เ ร า เ รี ย ก OS ตั ว นี้ ว่ า Linux เ ป็ น OS ที่ สามารถนำา มาใช้ ไ ด้ โ ดยไม่ ต้ อ งเสี ย ค่ า ลิ ข สิ ท ธิ์ เพราะเป็ น OS ที่แจก Source code เพื่อนำา ไปพัฒนา ก็มีอยู่หลาย ๆ ค่ายที่นำา Linux ไปพัฒนา แต่ที่ได้รับความนิยมก็คือ Red hat Linux เพราะการใช้งานง่ายคล้าย Windows สำาหรับ ที่ เ ป็ น ภาษาไทย ตอนนี้ เนคเทค ได้ พั ฒ นาจนสามารถใช้ ภาษาไทยได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ..สำา หรั บ ใครที่ อ ยาก ท ด ล อ ง ใ ช้ ก็ ส า ม า ร ถ down load ไ ด้ จ า ก http://www.nectec.or.th 2. Apple OS เ ป็ น OS ที่ ใ ช้ สำา ห รั บเ ครื่ อ ง Max เหมาะสำาหรับผู้ที่ทำางานเกี่ยวกับการออกแบบ GRAFFICDE SIGN อะไรทำา นองนั้ น ไม่ เ หมาะสำา หรั บ User อย่ า งเรา ๆ หรอกครับ 3. Windows เป็น OS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดถึง ประมาณ 90 % ของเครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ ทั่ ว โลกเพราะมี ลั ก ษ ณ ะ ก า ร ใ ช้ ง า น ที่ ง่ า ย ไ ม่ ต้ อ ง มี ค ว า ม รู้ ท า ง ด้ า น คอมพิวเตอร์มากนัก สนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ฯลฯ Windows ในปัจจุบัน มี ใ ห้ เ ลื อ กใช้ ง านหลาย version ด้ ว ยกั น ทั้ ง ที่ ใ ห้ เ ป็ น Server และ Home use ทั่ว ๆ ดังนี้ >>Home use
  • 24. 1. Windows 3.11 เป็น OS แบบ 16 bit เป็น version แรกของ Windows ที่ใช้ทรัพยากรของระบบน้อยมาก แต่ ประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่สนับสนุนก็น้อยตามไปด้วย 2) Windows 95 เป็น OS แบบ 32 bit พัฒนาขีดความ สามารถขึ้นมาจากเดิม มีฟีเวอร์ต่าง ๆ เพิ่มเข้ามา แต่ version นี้ยังมี bug มากไม่ค่อยเสถียรพอ 3) Windows 98 เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาจาก 95 แก้ไข bug ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ มีการนำาเอา browser ยอด นิยมอย่าง IE ติดมาให้ด้วย version นี้ได้รับความนิยมเป็น อย่างมาก 4) Windows 98 SE เป็น OS แบบ 32 bit ที่แก้ไข version 98 ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แก้ไข bug และเพิ่มฟีเวอร์ ใหม่ ๆ มากมายเช่นสามารถทำาเป็น Server แชร์ IP ให้กับ เครื่องลูกได้ และนำาเอา IE 5 ติดมาด้วย นับว่า version นี้ เป็น version ทีดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และเสถียรภาพมาก ่ ที่สุดแล้ว ในตระกูลของ Windows 98 5) Windows Me เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามา สำาหรับ Home use โดยเฉพาะ ตัดเอา Ms-Dos ออกไป เพื่อสร้างความมีเสถียรภาพให้กับระบบ สนับสนุน Multimedia สมบูรณ์แบบที่สุดตอนนี้ผมเองก็ลองใช้อยู่ ครับ..ยอมรับว่าดีมาก ๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือน 98 ที่ผ่าน มา >>Server 1.Windows NT4 มีความเสถียรถาพสูงทำางาน เป็น Server การใช้งานผู้ใช้ต้องมีความรู้พอสมควรเพราะ ลักษณะการใช้งานคล้ายกับ UNIX แต่จะมีระบบ GRAFFIC ที่ดีกว่า 2. Windows 2000 เป็น OS ที่เป็น NT พัฒนามาจาก NT4 มีความเสถียรภาพสูง และรองรับ Multimedia ใช้ เป็น Server สนับสนุนการใช้งานแบบ Multi user มีระบบ
  • 25. รักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมมี 2 version ให้เลือกใช้งาน ตามความเหมาะสม " พูดถึง Windows ก็อยากที่จะให้ทุก ๆ ท่านมีความ เข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Windows 98 กับ Windows 2000 ว่าจริง ๆ แล้วลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน ดังที่ได้ พูดไว้แล้ว..บางท่านยังเข้าใจผิดว่า Windows 2000 เป็น version ใหม่ล่าสุดที่มาแทนที่ Windows 98 SE เวลาจะ ซื้อเครื่องก็มักจะถามว่า เป็น Windows 2000 หรือ เปล่า..อะไรทำานองนี้ ก็อยากให้ท่านทำาความเข้าใจให้ ระบบปฏิบ ัต ิก ารของคอมพิว เตอร์ ระบบปฏิบัติการ ก็หมายถึง ชุดของโปรแกรมที่อยู่ ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ครับ จะมีหน้าที่ใน การควบคุมการปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์ และสนับสนุนคำาสั่ง สำาหรับควบคุมการทำางานของฮาร์ดแวร์ประยุกต์ครับ ตัวอย่างของระบบปฏิบัติการนะครับ ก็ได้แก่ MS - DOS , UNIX , LINUX , Windows Me , Windows XP เหล่านี้ เป็นต้นครับ ระบบปฏิบัติการนี้นะครับจะทำางานอยู่เบื้องหลัง ของผู้ใช้ครับ โดยระบบปฏิบัติการนี้ก็มีหน้าที่หลักๆ ดังนี้ • อันแรกนี้ก็คือการจัดส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบ คอมพิวเตอร์ ครับ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง ที่เก็บข้อมูล สำารอง หน่วยความจำา และเครื่องพิมพ์ เป็นต้น • อันที่สองนี้นะครับก็คือจัดการในส่วนของการติดต่อ กับผู้ใช้ • และในข้อนี้ก็ไดแก่ให้บริการโปรแกรมประยุกต์อื่น ครับ เช่น และการแสดงผล เป็นต้น โดยปกติแล้วโปรแกรม ประยุกต์จะต้องทำางานผ่านระบบปฏิบัติการ ร ะ บ บ ป ฏิ บั ติ ก า ร ที่ ใ ช้ ง า น บ น เ ค รื่ อ ง ไ ม โ ค ร คอมพิว เตอร์ ระบบปฏิ บั ติ ก ารที่ ใ ช้ ง านในปั จ จุ บั น นี้ น ะครั บ จะเป็ น ระบบปฏิ บั ติ ก ารวิ น โดว์ ค รั บ เพราะสามารถใช้ ง านได้ ง่ า ย สะดวก และรวดเร็ ว ด้ ว ยครั บ ถึ ง แม้ ค นที่ ไ ม่ ค วามรู้ เ รื่ อ ง
  • 26. คอมพิวเตอร์เลย ก็สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดว์ได้ แต่ในที่นี้นะครับผมจะขอกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการที่ใช้ใน อดีตและในปัจจุบันนะครับแต่ในที่นี่ผมจะขอกล่าวถึง เพียง สองอย่ า งนะครั บ ซึ่งได้ แ ก่ MS – DOS และก็ Microsoft Windows สองอย่างนี้นะ • ในข้อหนึ่งนี้จะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการ MS – DOS ซึ่ง เมื่อผู้ใช้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการก็จะถูก เรียกจากฮาร์ดดิสก์มาไว้ใน หน่วยความจำาของเครื่องนะ ครับเพื่อเตรียมที่จะใช้งานได้ทันที ที่ต้องการนะ ซึ่งขั้นตอน ที่ย้ายระบบปฏิบัติการเข้าสู่หน่วยความจำาของเครื่องนั้น เรียกว่า การบูตระบบ ซึ่งเมือเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ ่ ขึ้น โปรแกรมเล็ก ๆ ที่อยู่ใน หน่วยความจำารอมจะเรียกเอา ส่วนประกอบพื้นฐานที่จำาเป็นของระบบปฏิบัติการจาก ฮาร์ดดิสก์เข้ามาไว้ในหน่วยความจำาหลักนะครับ ซึงจะได้ ่ ผลลัพธ์บนจอภาพเป็น C > หรือ C: > นี่นะครับ โดยที่ หมายถึงดิสก์ไดรฟ์ที่ทำางานอยู่ และเครื่องหมาย > หมายถึง การเตรียมพร้อมที่จะทำางานจากนั้น ผู้ใช้ก็จะสามารถพิมพ์ คำาสั่งของ MS – DOS ได้ทันทีครับเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ ส่วนในข้อนี้จะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ครับ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันนี้ครับ ผมจะกล่าวราย ละเอียดเลยนะครับ คือ ไมโครซอฟต์วินโดว์นี่นะหรือที่นิยม เรียกกันว่า วินโดว์ นั่นแหละครับ ซึ่งมีระบบการติดต่อกับผู้ ใช้เป็นแบบกราฟิกที่มีสีสันสวยงามมากครับและสามารถ ใช้ได้ง่าย ซึงผู้ใช้บนระบบวินโดว์นี้นะครับก็จะทำางานกับ ่ เมนู และรูปภาพที่เรียกว่า ไอคอน แทนที่จะเป็นการพิมพ์คำา สั่งต่าง ๆ ลงไป ระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่ใช้ในปัจจุบันนะ ครับก็ได้มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องนะครับ ซึงก็ได้มี ่ สีสันที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถใช้งานได้ง่ายยิ่ง ขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการวินโดว์ในรุ่นก่อนๆ นะครับ ถึงแม้ว่า วินโดว์จะเป็นระบบที่ทำางานด้วยกราฟิกที่มีสีสันสวยงานแต่ การทำางาน ของวินโดว์นี้นะครับก็ยังทำางานภายใต้การ ทำางานของดอสเพียงแต่ระบบวินโดว์นี้เราจะไม่จำาเป็นต้องรู้
  • 27. คำาสั่งของดอสเท่านั้นเอง เพราะเราใช้งานคำาสั่งสำาเร็จรูป ด้วยเมนูบนวินโดว์ ระบบปฏิบ ัต ิก ารเครือ ข่า ย ระบบปฏิบัติการนี่ คือ ระบบปฏิบัติการสำาหรับจัดการ งานด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์นะครับ และ ช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่กับเครือข่ายสามารถใช้อุปกรณ์ ต่างๆ ร่วมกันได้ครับ อย่างเช่น ใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน เป็นต้น ระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี่นะครับจะมีคุณสมบัติใน การจัดการเกี่ยวกับเครือข่ายและ การใช้งานอุปกรณ์ร่วม กันนะครับ รวมทั้งยังมีระบบการป้องกันการสูญหายของ ข้อมูลอีกด้วย ระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่นิยมใช้ปัจจุบันนี้นะครับจะ ใช้หลักการประมวลผลแบบ ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ โดยส่วน ประกอบสำาหรับการเรียกใช้แฟ้มข้อมูลและการจัดการ โปรแกรมนั้นจะทำางานอยู่บน เครื่องเซิร์ฟเวอร์ครับในขณะ ที่ส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี้นะครับ จะอยู่บนเครื่องไคลเอนต์ครับ เช่น การติดต่อกับผู้ใช้ เหล่า นี้เป็นต้น การจัดการให้ผู้ใช้เห็นว่างานและอุปกรณ์ทั้ง หลายที่ใช้นั้นเสมือนอยู่บนเครื่องไคลเอนต์เองนะครับ ก็ ถือว่าเป็นหน้าที่หลักอันหนึ่งของระบบปฏิบัติการเครือข่าย ด้วย ระบบปฏิบ ัต ิก ารบนเครื่อ งคอมพิว เตอร์ข นาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่นี้นะครับอย่างเช่นเครื่อง ระดับเมนเฟรมนี่ ได้ถูกนำามาใช้ในด้านธุรกิจและการศึกษา ซึ่งจะมีผู้ใช้งานพร้อมๆ กันจำานวนมาก ทำาให้ระบบปฏิบัติ การของเครื่องระดับนี้มีการทำางานที่ซับซ้อนมาก โดยต้อง ทำาการดูแลสั่งงานโปรแกรมพร้อมๆ กันจำานวนหลายๆ โปรแกรมนะครับ ดูแลในการเข้าใช้งานเครื่องของผู้ใช้จำา นวนหลายๆ คน ดูแลจัดลำาดับและแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้ ใช้ ตลอดจนการรักษาความเป็นส่วนตัวและความลับของผู้ ใช้แต่ละคนอีกด้วย
  • 28. ระบบปฏิบ ัต ิก ารแบบเปิด ต้องขอเล่ารายละเอียดสักเล็กน้อยนะครับ คือว่า ใน สมัยก่อนนั้นผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการก็คือบริษัทที่ผลิต คอมพิวเตอร์นะครับ ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงถูกออกแบบ ให้สามารถใช้ได้เฉพาะกับเครื่องของบริษัทเท่านั้น ซึงเรา ่ เรียกระบบปฏิบัติการประเภทนี้ว่า ระบบปฏิบัติการแบบปิด ครับ ใน ปัจจุบันนี้นะครับเริ่มมีแนวโน้มที่จะทำาให้ระบบการ สามารถนำาไปใช้งานบนเครื่องต่าง ๆ กันได้ซึ่งระบบปฏิบัติ การแบบนี้ก็คือ ระบบปฏิบัติการแบบเปิด นั่นเอง ก็อย่างเช่น UNIX หรืออีกระบบหนึ่งนะครับก็คือ ระบบ LINUX นี่เอง คือระบบปฏิบัติการแบบเปิด การติด ตั้ง WINDOW XP PROFESSIONAL การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP โดยปกติ จะ สามารถทำาได้ 2 แบบคือ การติดตั้งโดยการอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม หรือทำาการติดตั้งใหม่เลยทั้งหมด สำาหรับ ตัวอย่างในที่นี้ จะขอแนะนำาวิธีการ ขั้นตอนการติดตั้ง Windows XP แบบลงใหม่ทงหมด ซึ่งความเห็นส่วนตัว น่า ั้ จะมีปัญหาในการใช้งานน้อยกว่าแบบอัพเกรดค่ะ วิธีการติดตั้ง Windows XP ยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบดังนี้ 1. ติดตั้งแบบอัพเกรดจาก Windows ตัวเดิม โดยใส่ แผ่น CD และเลือกติดตั้งจาก CD นั้นได้เลย 2. ติดตั้งโดยการ บูตเครื่องใหม่จาก CD ของ Windows XP Setup และทำาการติดตั้ง 3. ติดตั้งจากฮาร์ดดิสก์ โดยทำาการ COPY ไฟล์ทั้งหมด จาก CD ไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ ก่อนทำาการติดตั้ง ในการแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ แนะนำาให้ทำาการวางแผน ประมาณขนาดพื้นที่ไว้ล่วงหน้าด้วย โดยทั่วไปก็ไม่ควรจะใช้ พื้นที่ตำ่ากว่า 3G. และเนื่องจากระบบ Windows XP
  • 29. สามารถที่จะสร้างเมนู Multi Boot ได้หลังจากที่ติดตั้งไป แล้ว โดยยังสามารถเลือกเมนูว่า จะเรียก Windows ตัวเดิม หรือจะเรียก Windows XP ก็ได้ ดังนั้น หลาย ๆ ท่านมักจะ แบ่งพื้นที่ไว้ลง Windows 98 ที่ Drive C: ประมาณ 5G. และเผื่อไว้สำาหรับ Windows XP ที่ Drive D: อีกประมาณ 5G. ที่เหลือก็จะเป็น Drive E: สำาหรับเก็บข้อมูลอื่น ๆ ทั่วไป แต่ถ้าหากลง Windows เพียงแค่ตัวเดียว ก็ไม่จำาเป็นการตั้ง ค่าใน BIOS ก่อนทำาการติดตั้ง Windows XP ใหม่จะต้อง ทำาการ Disable Virus Protection ใน BIOS ซะก่อน เพราะว่าเมนบอร์ดบางรุ่นจะมีการป้องกัน Virus โดยการ ป้องกันการเขียนทับในส่วนของ Boot Area ของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเท่าที่เคยเห็นมา เครื่องคอมพิวเตอร์ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะ มีให้เลือกตั้งค่านี้อยู่แล้ว ถ้าหากเครื่องของใครไม่มีก็ไม่ตอง ้ ตกใจ เพราะเมนบอร์ด บางรุ่นอาจจะไม่มีก็ได้ วิธีการก็คือ เริ่มจากการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ ขณะที่เครื่อง กำาลังทำา Memory Test หรือนับ RAM อยู่นั่นแหละ ด้านล่างซ้ายมือจะมีคำาว่า Press DEL to enter SETUP ให้กดปุ่ม DEL บน Keyboard เพื่อเข้าสู่เมนูของ Bios Setup (แล้วแต่เมนบอร์ด ด้วยบางทีอาจจะใช้ปุ่มอื่น ๆ สำาหรับการเข้า Bios Setup ก็ได้ลองดูให้ดี ๆ) จากนี้ก็ แล้วแต่ว่าเครื่องของใคร จะขึ้นเมนูอย่างไร คงจะไม่เหมือน กันแต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก จากนั้นให้มองหาเมนู Bios Features Setup ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่สอง ใช้ปุ่มลูกศร เลื่อนแถบลงมาแล้วกด ENTER ถ้าใช่จะมีเมนูของ Virus Warning หรือ Virus Protection อะไรทำานองนี้ ถ้าหาก เป็น Enable อยู่ละก็ให้เปลี่ยนเป็น Disable โดยเลื่อนแถบ แสงไปที่เมนูที่เราต้องการใช้ปุ่ม Page Up หรือ Page Down สำาหรับเปลี่ยนค่าให้เป็น Disable กดปุ่ม ESC เพื่อกลับไปเมนูหลักของ Bios Setup มองหาเมนูของ SAVE TO CMOS AND EXIT หรืออะไร ทำานองนี้เลื่อนแถบแสงไปเลยแล้วกด ENTER ถ้าหากเครื่อง ถามว่าจะ Save หรือไม่ก็ตอบ Y ได้เลย หลังจากนี้เครื่องจะ
  • 30. ทำาการ Reboot ใหม่อีกครั้ง ใส่แผ่น Startup Disk ที่เรา ทำาไว้ตามขั้นตอนแรกรอไว้ก่อนเลย มาดูข ั้น ตอนตั้ง แต่เ ริ่ม ต้น การติด ตั้ง Windows XP เริ่ ม ต้ น โดยการเซ็ ต ให้ บู ต เครื่ อ งจาก CD-Rom Drive ก่ อ น โ ด ย ก า ร เ ข้ า ไ ป ป รั บ ตั้ ง ค่ า ใ น bios ข อ ง เ ค รื่ อ ง คอมพิ ว เตอร์ โดยเลื อ กลำา ดั บ การบู ต ให้ เ ลื อ ก CD-Rom Drive เป็นตัวแรก (ถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้อง เปลี่ยนอะไร) การปรับเครื่อง เพื่อให้บูตจาก CD-Rom ก่อน จากนั้นก็บูต เครื่องจากแผ่นซีดี Windows XP Setup โดยเมื่อบูตเครื่อง มา จะมี ข้ อ ความให้ ก ดปุ่ ม อะไรก็ ไ ด้ เพื่ อ บู ต จากซี ดี ค ะ ก็ เคาะ Enter ไปทีนึงก่อน
  • 32. เข้ามาสู่หน้า Welcome to Setup กดปุ่ม Enter เพื่อ ทำาการติดตั้งต่อไป หน้าของ Licensing Agreement กดปุ่ม F8 เพื่อทำาการ ติดตั้งต่อไป
  • 33. ทำาการเลือก Drive ของฮาร์ดดิสก์ที่จะลง Windows XP แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP หากต้องการใช้ระบบ NTFS ก็เลือกที่ข้อบน แต่ถ้าจะใช้เป็น FAT32 หรือของเดิม ก็เลือกข้อสุดท้ายได้เลย (no changes) ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำาให้เลือก FAT32 นะ คะ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป
  • 34. โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง รอสักครู่ หลังจากนั้น โปรแกรมจะทำาการ Restart เครื่องใหม่อีก ครั้ง (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำางานไปเองได้เลย)
  • 35. หลังจากบูตเครื่องมาคราวนี้ จะเริ่มเห็นหน้าตาของ Windows XP แล้ว รอสักครู่ โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้งต่าง ๆ ก็รอไปเรื่อย ๆ
  • 36. จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้ กดปุ่ม Next ไปเลยค่ะ ยังไม่ต้องตั้งค่าอะไรในช่วงนี้ ใส่ชื่อและบริษัทของผู้ใช้งาน ใส่เป็นอะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป
  • 37. ทำาการใส่ Product Key (จะมีในด้านหลังของแผ่นซีดี) แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป หน้าจอให้ใส่ Password ของ Admin ให้ปล่อยว่าง ๆ ไว้ แบบนี้แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำาการติดตั้งต่อไป
  • 38. เลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำาการ ติดตั้งต่อไป รอสักพัก จนกระทั่งขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อม แล้วสำาหรับการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP ครับ
  • 39. จากนั้น จะมีการบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการใช้ งานจริง ๆ บูตเครื่องใหม่คราวนี้ อาจจะมีเมนูแปลก ๆ แบบนี้ เป็นการ เลือกว่า เราจะบูตจากระบบ Windows ตัวเก่าหรือจาก Windows XP ครับ ก็เลือกที่ Microsoft Windows XP Professional ครับ ถ้าของใครไม่มีเมนูนี้ก็ไม่เป็นไร เริ่มต้นบูตเครื่อง เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP
  • 40. ในครั้งแรก อาจจะมีการถามเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใช้งาน กด OK เพื่อให้ระบบตั้งขนาดหน้าจอให้เราได้เลยค่ะ นอกจากนี้ ถ้าหากเครื่องไหนมีการถาม การติดตั้งค่าต่าง ๆ ก็กดเลือกที่ Next หรือ Later ไปก่อน บางครั้งอาจจะมีให้ เราทำาการสร้าง Username อย่างน้อย 1 ชือก่อนเข้าใช้ ่ งาน ก็ใส่ชอของคุณเข้าไปได้เลย ื่
  • 41. ระบบเครือ ข่า ยไร้ส าย ระบบเครื อ ข่ า ยไร้ ส าย (Wireless LAN) ระบบเครื อ ข่ า ย ไ ร้ ส า ย (Wireless LANs) เ กิ ด ขึ้ น ค รั้ ง แ ร ก ใ น ปี ค.ศ. 1971 บนเกาะฮาวาย โดยโปรเจกต์ ของนั ก ศึ ก ษา ของมหาวิ ท ยาลั ย ฮาวาย ที่ ชื่ อ ว่ า “ALOHNET” ขณะนั้ น ลั ก ษณะการส่ ง ข้ อ มู ล เป็ น แบบ Bi-directional ส่ ง ไป-กลั บ ง่ า ย ๆ ผ่ า น ค ลื่ น วิ ท ยุ สื่ อ ส า ร กั น ร ะ ห ว่ า ง คอมพิ ว เตอร์ 7 เครื่ อ ง ซึ่ ง ตั้ ง อยู่ บ นเกาะ 4 เกาะโดยรอบ และมีศูนย์กลางการเชื่อมต่ออยู่ที่เกาะๆหนึ่งที่ชื่อว่า Oahu ระบบเครื อ ข่ า ยไร้ ส าย (WLAN = Wireless Local Area Network) คือ ระบบการสื่อสารข้อมูลที่มีรูปแบบใน การสื่อสารแบบไม่ใช้สายโดยใช้การส่งคลื่นความถี่วิทยุใน ย่านวิทยุ RF และ คลื่นอินฟราเรด ในการรับและส่งข้อมูล ร ะห ว่ า ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ แ ต่ ล ะ เ ค รื่ อ ง ผ่ า น อ า ก า ศ , ท ะ ลุ กำา แพง, เพดานหรื อ สิ่ ง ก่ อ สร้ า งอื่ น ๆ โดยปราศจากความ ต้องการของการเดินสาย นอกจากนั้นระบบเครือข่ายไร้สาย ก็ยังมีคุณสมบัติครอบคลุมทุกอย่างเหมือนกับระบบ LAN แบ