SlideShare a Scribd company logo
การทาช็อคโกแลต
ไม่ใช่เรื่องยาก หากใครอยากจะบรรจงปั้นแต่งช็อคโกแลตให้คนพิเศษกับมือ เพียงแค่ไปหา
ซื้อช๊อกโกแลตสาเร็จรูป (ที่เป็นเมล็ดแห้งหรือแท่ง)ตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป เมื่อได้มาแล้วให้
นาช็อกโกแลตสาเร็จรูปมาทาละลายด้วยวิธีง่ายๆ คือ
- เตรียมน้าร้อนที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นาช็อกโกแลตใส่ในชามแก้ว แล้วลงแช่
ในน้าร้อนจนละลาย
- ยกขึ้น ให้อุณหภูมิต่าลงที่ 28 องศาเซลเซียส
- จากนั้นเทใส่แม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ทิ้งไว้ให้เย็น
- ประมาณ 3 นาทีจึงค่อยแกะช็อกโกแลตออกจากแม่พิมพ์ ก็จะได้ช็อกโกแลตใน
รูปร่างที่ต้องการ (หากทิ้งไว้เกิน5นาทีรูปร่างช็อกโกแลตจะไม่สวย)
เคล็ดลับความอร่อยของช็อกโกแลต
ต้องเป็น "แบล็คช็อกโกแลต" หรือช็อกโกแลตดาเท่านั้นที่ใช้ในการทาช็อกโกแลต จึงจะ
เป็นช็อกโกแลตที่หอมและให้รสชาติความอร่อยได้ดีที่สุด และยังเป็นสูตรดั้งเดิมของชาวยุโรป
ด้วย(ที่สาคัญต้องไม่ใช่ช็อกโกแลตที่ทาจากนมหรือไวท์ช็อกโกแลต)
การเก็บรักษา
ควรเก็บช็อกโกแลตไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสเท่านั้น ไม่ควรเก็บ
ช็อกโกแลตไว้ในตู้เย็นเพราะในตู้เย็นจะมีไอน้ามาเกาะช็อกโกแลต ทาให้ช็อกโกแลตแฉะ
เปลี่ยนสีและไม่น่ารับประทาน
การทาเค้ก
• ร่อนของแห้งทั้งหมดลงผสมให้เข้ากัน แป้ งเค้ก+น้าตาลทรายแดง+เกลือ+ผงฟู
• หั่นผลไม้อบแห้งชิ้นพอประมาณไม่ใหญ่เกิดไป
• หมักผลไม้อบแห้งด้วยเหล้ารา
• ตีเนยด้วยความเร็วสูง จนกว่าเนยเริ่มจะขึ้นฟู ใส่ไข่ไก่ที่ละ 1 ฟอง ใส่น้าผึ้งที่เตรียมไว้
• ลดความเร็วในการตี ใส่แป้ งและนมสดลงไปที่ละนิด
• นาผลไม้รวมที่หมักไว้มาใส่ลงในแป้ งที่ผสม(เหลือไว้บางส่วนไว้แต่งหน้า) คลุกให้เข้ากัน จากนั้นใส่เมล็ด
มะม่วงหิมมะพานลงไป
• เตรียมพิมพ์โดยรองกระดาษไขเพื่อป้ องกันไม่ให้เนื้อเค้กติดกับพิมพ์
• โรยผลไม้อบที่เหลือไว้ด้านบน
• นาเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศา เป็นเวลา 40 นาที
• นาออกจากเตา โดยให้แกะกระดาษไขออกทันที พักทิ้งไว้ให้เย็น
• ตกแต่งหน้าเค้กด้วยแยมส้ม
•
การทาไอติม
• วิธีทา
• คั้นมะพร้าวขูดกับน้า 800 กรัม ให้ได้น้ากะทิประมาณ 1,050 กรัม ผสม
น้ากะทิกับน้าลงในหม้อสแตนเลส ยกขึ้นตั้งไฟให้ได้อุณหภูมิประมาณ 55
องศาเซลเซียส ผสมส่วนผสมที่เป็นของแข็งทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วค่อยๆ
โรยลงบนน้ากะทิ คนให้ทั่วๆ ขณะโรย จนส่วนผสมละลายหมด อุ่นให้ได้
อุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส นาเข้าเครื่องปั่น ปั่นด้วยความเร็ว
สูงสุดนาน 1 นาที เพื่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นเทใส่หม้อสแตนเลส
ยกขึ้นตั้งไฟ พาสเจอร์ไรซ์ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส นาน 2 นาที เสร็จ
แล้วนาไปแช่น้าเย็นให้เย็นทันที จากนั้นนาไปแช่ในตู้เย็นนานอย่างน้อย 2 ช .
ม . หรือข้ามคืน ปั่นด้วยเครื่องปั่นไอศครีม จะได้ไอศครีมกะทิน้าหนัก
ประมาณ 1500 กรัม
การทาหน้าวุ้น
• วิธีทา
• 1. ผสมวุ้น น้า นาไปตั้งไฟพอวุ้นละลายใส เติมน้าตาลทรายคนให้
ละลาย เทน้าใบเตยและสีผสมอาหารสีเขียวเล็กน้อย พอเดือดยกลง
• 2. ผสมวุ้น น้าใส่กระทะ ตั้งไฟพอวุ้นละลาย ใส่น้าตาลทราย เกลือ คน
ให้ส่วนผสมละลาย เทกะทิใส่พอเดือดรีบยกลง หยอดกลิ่นมะลิลงไป
• 3. ตักส่วนผสมตัวขนมเทใส่ถาดประมาณ 1/2 ถาด พอหน้าตึงและ
แข็งตัวเล็กน้อยตักตัววุ้นใส่ให้เต็มถาด พักไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นขนาดพอ
คาเสิร์ฟ
การทาพายเยลลี่
• วิธีทา
• แบ่งผลไม้ที่หั่นเตรียมไว้ส่วนหนึ่งจัดใส่พิมพ์ให้สวยงาม
• จากนั้นเริ่มทาเยลลี่โดยละลายผงวุ้นและเยลลี่ผง (เจลาติน)กับน้าสะอาด คนให้เข้า
กัน
• นาไปตั้งไฟกลางๆ รอจนเดือด ระหว่างนั้นให้คนตลอดเวลากันไม่ให้จับตัวเป็นก้อน
• ใส่สีผสมอาหารเพื่อความสวยงาม คนให้เข้ากัน ใส่ผลไม้ที่เหลือลงไปเพื่อให้มีกลิ่น
หอม
• ปล่อยให้เดือดสักพักแล้วปิดไฟ
• เทเยลลี่ใส่ในพิมพ์ที่มีผลไม้ พักไว้ให้เย็น แคะออกจากพิมพ์
• สุดท้ายนาเข้าตู้เย็น แช่ให้เย็นจัด
การทาขนมอบ
• ร่อนของแห้งทั้งหมดลงผสมให้เข้ากัน
• นาสวนผสมทั้งหมดมาตีให้เข้ากันยกเว้นเนยละลาย ตีจนส่วนผสมเป็นสี
เหลืองออน
• ค่อยๆใส่เนยละลาย
• เทลงใส่พิมพ์ เข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ขึ้นอยู่กับขนาด
• นาออกมาพักรอให้เย็น พร้อมรับประทาน
การทาขนมฝรั่งเศษ
• วิธีทา
1. ผสมส่วนผสมของสปองจ์ ให้เข้ากันแล้วหมักไว้ 3 ชั่วโมง
2. เติมส่วนผสมของโด ยกเว้นเนยขาวลงในแป้ งที่หมัก ผสมจนเข้ากันดี
3. เติมเนยขาวลงไป นวดแป้ งจนเหนียวได้ที่ พักแป้ งไว้ประมาณ 15 นาที
4. ตัดแบ่งแป้ งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนหนัก 270 กรัม ปั้นเป็นรูปหมอน พักแป้ งไว้
ประมาณ 15 นาที
5. คลึงแป้ งออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หนาประมาณ 1/4 นิ้ว ม้วนแบบแยมโรลเป็นท่อนยาว
ประมาณ 15 นิ้ว วางบนถาดโรยแป้ งไว้
6. รอให้ขนมปังขึ้นประมาณ 30 นาที หรือขึ้นประมาณ 3/4 ของแป้ งที่ขึ้นได้เต็มที่
7
. ย้ายแป้ งออกจากถาดมาวางบนตะแกรงลวด ทาผิวขนมปังด้วยน้าให้ทั่ว ใช้มีดบั้งเป็นเส้น
ทแยงมุม 4-5 บั้ง นาเข้าอบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งผิว
แข็งกรอบ นาออกจากเตาอบ
การทาอาหารเลิศรส
• นาเนื้อหมูมาล้างให้สะอาด แล้วตั้งทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้า
2. หั่นเนื้อหมูเป็นเส้นยาว ๆ
3. หมักเนื้อหมูกับลูกผักชี ยี่หร่า ซอสปรุงรส เกลือป่น เข้าด้วยกัน ตั้งทิ้งไว้
ประมาณ 15 นาที เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากับเนื้อหมู
4. นาหมูที่หมักไว้ผึ่งแดดสักครู่ เพื่อให้เนื้อหมูแห้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
5. นาพริกชี้ฟ้ าแห้งมาหั่นเป็นท่อน ๆ และฉีกใบมะกรูดเป็นชิ้นเล็ก ๆ
6. ใส่น้ามันลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง เมื่อน้ามันร้อนให้ใส่ใบมะกรูด และ
พริกชี้ฟ้ าลงทอดในน้ามันให้กรอบ แล้วใส่จานพักไว้
7. นาเนื้อหมูลงทอดในน้ามันร้อนจนเหลืองสุก แล้วใส่จานพักไว้ให้สะเด็ดน้ามัน
8. นาเนื้อหมูทอด ใบมะกรูดทอด และพริกแห้งทอด มาคลุกเคล้าให้เข้า
กัน แล้วจึงตักใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม
การทาเนื้อย่างเกาหลี
• ล้างเนื้อวัว ซับน้าให้แก้ง แล่เป็นชิ้นบาง ใส่ลงในอ่างผสม ใส่งาขาว พริกไทย ต้นหอม น้าตาล ซีอิ๊วญี่ปุ่น เหล้า
จีน น้ามันงา น้ามันพืช เคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
2. ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด ตัดโคนหน่อไม้ฝรั่งที่แข็งออก ปอกเปลือกฟักทองออกบางๆหั่นชิ้นใหญ่ แกะโคน
เปลือกข้าวโพดอ่อนออก
3. เมื่อจะรับประทาน นามันหมูแข็งวางบนกระทะพอน้ามันละลาย นาเนื้อที่หมักย่างจนพอสุก จัดใส่จาน ย่าง
ผักต่อ พอสุกใส่จาน รับประทานกับน้าจิ้ม
ส่วนประกอบน้าจิ้ม
พริกขี้หนูเขียวแดง สับละเอียด 15 เม็ด
รากผักชีและก้านซอย 1/4 ถ้วย
กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้าตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ากระเทียมดอง 1/2 ถ้วย
การทาอาหารอีสาน
• ล้มตาลาว ของชาวอีสานบางครั้งจะใส่ผลมะกอกพื้นบ้าน(เฉพาะฤดูที่มีผลมะกอกพื้นบ้าน) เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ
โดยฝานเป็นชิ้นรวมกับส้มตามะละกอ ช่วยให้รสชาติอร่อยขึ้น ส้มตาลาวเป็นเมนูอาหารหลักของชาวอีสานรองจากข้าว
เหนียว สามารถรับประทานกันได้ทุกวันและทุกมื้อ วัฒนธรรมการกินอาหารอย่างหนึ่งของชาวอีสาน คือ หากมื้อใดมีการ
ทาส้มตารับประทานก็มักจะเรียกเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงมาร่วมสังสรรค์ รับประทานส้มตาด้วย บางคนถึงกับบอกว่า
ทานคนเดียวไม่อร่อย ต้องทานหลายๆ คน หรือแย่งกันทาน เรียกว่าส้มตารวยเพื่อนก็ไม่ผิดนัก และตามงานบุญต่างๆ
ของชาวอีสานจะขาดส้มตาไม่ได้เลย ถ้าขาดส้มตาอาจจะทาให้งานนั้นกร่อยเลยทีเดียว
• บางคนครั้งส้มตาลาวจะอร่อยหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับปลาร้าเป็นสาคัญ ถ้าหากปลาร้าอร่อยมีรสชาติดี ก็จะทาให้ส้มตา
ลาวครกนั้นมีรสชาติอร่อยไปด้วย ปลาร้าที่ใส่ส้มตาสามารถใส่ได้ทั้งน้าและตัวปลาร้า หรือบางคนก็ใส่แต่น้าปลาร้า ใส่
เพื่อพอให้มีกลิ่นแล้วแต่คนชอบแต่ต้องทาให้สุกเสียก่อน ชาวอีสานส่วนใหญ่ยังมีความคิดว่ากินปลาร้าดิบแซ่บกว่าปลา
ร้าสุก ดังนั้นชาวบ้านตามชนบทมักจะใช้ปลาร้าดิบเป็นส่วนประกอบในส้มตา ด้วยความคิดเช่นนี้จึงทาให้กลายคนดิน
ปลาร้าแล้วได้พยาธิ(ส่วนใหญ่จะเป็นพยาธิใบไม้ในตับ) ิิแถมเข้ามาอยู่ในตัวด้วย ถึงแม้ว่าการใช้เกลือประมาณร้อยละ
30 ของน้าหมักปลาในการหมัก ก็เป็นเพียงการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ทาให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้
เท่านั้น แต่ยังไม่มีคายืนยันจากนักวิชาการว่าเกลือสามารถฆ่าพยาธิได้ ดังนั้นควรใช้ปลาร้าที่ต้มสุกแล้วจะปลอดภัยกว่า
• นอกจากนี้จากผลการวิจัยขอคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังพบว่าในปลาร้าดิบมีสารที่ยับยั้งการทางาน
ของวิตามินบีหนึ่ง ซึ่งการที่จะทาให้สารชนิดนี้หมดไปได้มีวิธีเดียวเท่านั้น คือ การทาให้สุกโดยใช้ความร้อน
•

More Related Content

Featured

Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Kurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
SpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Lily Ray
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
Rajiv Jayarajah, MAppComm, ACC
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
Christy Abraham Joy
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
Vit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
MindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Applitools
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
GetSmarter
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
Alireza Esmikhani
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
Project for Public Spaces & National Center for Biking and Walking
 
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
DevGAMM Conference
 
Barbie - Brand Strategy Presentation
Barbie - Brand Strategy PresentationBarbie - Brand Strategy Presentation
Barbie - Brand Strategy Presentation
Erica Santiago
 
Good Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them well
Good Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them wellGood Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them well
Good Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them well
Saba Software
 

Featured (20)

Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
 
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
Ride the Storm: Navigating Through Unstable Periods / Katerina Rudko (Belka G...
 
Barbie - Brand Strategy Presentation
Barbie - Brand Strategy PresentationBarbie - Brand Strategy Presentation
Barbie - Brand Strategy Presentation
 
Good Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them well
Good Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them wellGood Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them well
Good Stuff Happens in 1:1 Meetings: Why you need them and how to do them well
 

การทำช็อคโกแลต

  • 1. การทาช็อคโกแลต ไม่ใช่เรื่องยาก หากใครอยากจะบรรจงปั้นแต่งช็อคโกแลตให้คนพิเศษกับมือ เพียงแค่ไปหา ซื้อช๊อกโกแลตสาเร็จรูป (ที่เป็นเมล็ดแห้งหรือแท่ง)ตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป เมื่อได้มาแล้วให้ นาช็อกโกแลตสาเร็จรูปมาทาละลายด้วยวิธีง่ายๆ คือ - เตรียมน้าร้อนที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นาช็อกโกแลตใส่ในชามแก้ว แล้วลงแช่ ในน้าร้อนจนละลาย - ยกขึ้น ให้อุณหภูมิต่าลงที่ 28 องศาเซลเซียส - จากนั้นเทใส่แม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ทิ้งไว้ให้เย็น - ประมาณ 3 นาทีจึงค่อยแกะช็อกโกแลตออกจากแม่พิมพ์ ก็จะได้ช็อกโกแลตใน รูปร่างที่ต้องการ (หากทิ้งไว้เกิน5นาทีรูปร่างช็อกโกแลตจะไม่สวย) เคล็ดลับความอร่อยของช็อกโกแลต ต้องเป็น "แบล็คช็อกโกแลต" หรือช็อกโกแลตดาเท่านั้นที่ใช้ในการทาช็อกโกแลต จึงจะ เป็นช็อกโกแลตที่หอมและให้รสชาติความอร่อยได้ดีที่สุด และยังเป็นสูตรดั้งเดิมของชาวยุโรป ด้วย(ที่สาคัญต้องไม่ใช่ช็อกโกแลตที่ทาจากนมหรือไวท์ช็อกโกแลต) การเก็บรักษา ควรเก็บช็อกโกแลตไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียสเท่านั้น ไม่ควรเก็บ ช็อกโกแลตไว้ในตู้เย็นเพราะในตู้เย็นจะมีไอน้ามาเกาะช็อกโกแลต ทาให้ช็อกโกแลตแฉะ เปลี่ยนสีและไม่น่ารับประทาน
  • 2. การทาเค้ก • ร่อนของแห้งทั้งหมดลงผสมให้เข้ากัน แป้ งเค้ก+น้าตาลทรายแดง+เกลือ+ผงฟู • หั่นผลไม้อบแห้งชิ้นพอประมาณไม่ใหญ่เกิดไป • หมักผลไม้อบแห้งด้วยเหล้ารา • ตีเนยด้วยความเร็วสูง จนกว่าเนยเริ่มจะขึ้นฟู ใส่ไข่ไก่ที่ละ 1 ฟอง ใส่น้าผึ้งที่เตรียมไว้ • ลดความเร็วในการตี ใส่แป้ งและนมสดลงไปที่ละนิด • นาผลไม้รวมที่หมักไว้มาใส่ลงในแป้ งที่ผสม(เหลือไว้บางส่วนไว้แต่งหน้า) คลุกให้เข้ากัน จากนั้นใส่เมล็ด มะม่วงหิมมะพานลงไป • เตรียมพิมพ์โดยรองกระดาษไขเพื่อป้ องกันไม่ให้เนื้อเค้กติดกับพิมพ์ • โรยผลไม้อบที่เหลือไว้ด้านบน • นาเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศา เป็นเวลา 40 นาที • นาออกจากเตา โดยให้แกะกระดาษไขออกทันที พักทิ้งไว้ให้เย็น • ตกแต่งหน้าเค้กด้วยแยมส้ม •
  • 3. การทาไอติม • วิธีทา • คั้นมะพร้าวขูดกับน้า 800 กรัม ให้ได้น้ากะทิประมาณ 1,050 กรัม ผสม น้ากะทิกับน้าลงในหม้อสแตนเลส ยกขึ้นตั้งไฟให้ได้อุณหภูมิประมาณ 55 องศาเซลเซียส ผสมส่วนผสมที่เป็นของแข็งทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วค่อยๆ โรยลงบนน้ากะทิ คนให้ทั่วๆ ขณะโรย จนส่วนผสมละลายหมด อุ่นให้ได้ อุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส นาเข้าเครื่องปั่น ปั่นด้วยความเร็ว สูงสุดนาน 1 นาที เพื่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นเทใส่หม้อสแตนเลส ยกขึ้นตั้งไฟ พาสเจอร์ไรซ์ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส นาน 2 นาที เสร็จ แล้วนาไปแช่น้าเย็นให้เย็นทันที จากนั้นนาไปแช่ในตู้เย็นนานอย่างน้อย 2 ช . ม . หรือข้ามคืน ปั่นด้วยเครื่องปั่นไอศครีม จะได้ไอศครีมกะทิน้าหนัก ประมาณ 1500 กรัม
  • 4. การทาหน้าวุ้น • วิธีทา • 1. ผสมวุ้น น้า นาไปตั้งไฟพอวุ้นละลายใส เติมน้าตาลทรายคนให้ ละลาย เทน้าใบเตยและสีผสมอาหารสีเขียวเล็กน้อย พอเดือดยกลง • 2. ผสมวุ้น น้าใส่กระทะ ตั้งไฟพอวุ้นละลาย ใส่น้าตาลทราย เกลือ คน ให้ส่วนผสมละลาย เทกะทิใส่พอเดือดรีบยกลง หยอดกลิ่นมะลิลงไป • 3. ตักส่วนผสมตัวขนมเทใส่ถาดประมาณ 1/2 ถาด พอหน้าตึงและ แข็งตัวเล็กน้อยตักตัววุ้นใส่ให้เต็มถาด พักไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นขนาดพอ คาเสิร์ฟ
  • 5. การทาพายเยลลี่ • วิธีทา • แบ่งผลไม้ที่หั่นเตรียมไว้ส่วนหนึ่งจัดใส่พิมพ์ให้สวยงาม • จากนั้นเริ่มทาเยลลี่โดยละลายผงวุ้นและเยลลี่ผง (เจลาติน)กับน้าสะอาด คนให้เข้า กัน • นาไปตั้งไฟกลางๆ รอจนเดือด ระหว่างนั้นให้คนตลอดเวลากันไม่ให้จับตัวเป็นก้อน • ใส่สีผสมอาหารเพื่อความสวยงาม คนให้เข้ากัน ใส่ผลไม้ที่เหลือลงไปเพื่อให้มีกลิ่น หอม • ปล่อยให้เดือดสักพักแล้วปิดไฟ • เทเยลลี่ใส่ในพิมพ์ที่มีผลไม้ พักไว้ให้เย็น แคะออกจากพิมพ์ • สุดท้ายนาเข้าตู้เย็น แช่ให้เย็นจัด
  • 6. การทาขนมอบ • ร่อนของแห้งทั้งหมดลงผสมให้เข้ากัน • นาสวนผสมทั้งหมดมาตีให้เข้ากันยกเว้นเนยละลาย ตีจนส่วนผสมเป็นสี เหลืองออน • ค่อยๆใส่เนยละลาย • เทลงใส่พิมพ์ เข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับขนาด • นาออกมาพักรอให้เย็น พร้อมรับประทาน
  • 7. การทาขนมฝรั่งเศษ • วิธีทา 1. ผสมส่วนผสมของสปองจ์ ให้เข้ากันแล้วหมักไว้ 3 ชั่วโมง 2. เติมส่วนผสมของโด ยกเว้นเนยขาวลงในแป้ งที่หมัก ผสมจนเข้ากันดี 3. เติมเนยขาวลงไป นวดแป้ งจนเหนียวได้ที่ พักแป้ งไว้ประมาณ 15 นาที 4. ตัดแบ่งแป้ งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนหนัก 270 กรัม ปั้นเป็นรูปหมอน พักแป้ งไว้ ประมาณ 15 นาที 5. คลึงแป้ งออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หนาประมาณ 1/4 นิ้ว ม้วนแบบแยมโรลเป็นท่อนยาว ประมาณ 15 นิ้ว วางบนถาดโรยแป้ งไว้ 6. รอให้ขนมปังขึ้นประมาณ 30 นาที หรือขึ้นประมาณ 3/4 ของแป้ งที่ขึ้นได้เต็มที่ 7 . ย้ายแป้ งออกจากถาดมาวางบนตะแกรงลวด ทาผิวขนมปังด้วยน้าให้ทั่ว ใช้มีดบั้งเป็นเส้น ทแยงมุม 4-5 บั้ง นาเข้าอบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งผิว แข็งกรอบ นาออกจากเตาอบ
  • 8. การทาอาหารเลิศรส • นาเนื้อหมูมาล้างให้สะอาด แล้วตั้งทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้า 2. หั่นเนื้อหมูเป็นเส้นยาว ๆ 3. หมักเนื้อหมูกับลูกผักชี ยี่หร่า ซอสปรุงรส เกลือป่น เข้าด้วยกัน ตั้งทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากับเนื้อหมู 4. นาหมูที่หมักไว้ผึ่งแดดสักครู่ เพื่อให้เนื้อหมูแห้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 5. นาพริกชี้ฟ้ าแห้งมาหั่นเป็นท่อน ๆ และฉีกใบมะกรูดเป็นชิ้นเล็ก ๆ 6. ใส่น้ามันลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง เมื่อน้ามันร้อนให้ใส่ใบมะกรูด และ พริกชี้ฟ้ าลงทอดในน้ามันให้กรอบ แล้วใส่จานพักไว้ 7. นาเนื้อหมูลงทอดในน้ามันร้อนจนเหลืองสุก แล้วใส่จานพักไว้ให้สะเด็ดน้ามัน 8. นาเนื้อหมูทอด ใบมะกรูดทอด และพริกแห้งทอด มาคลุกเคล้าให้เข้า กัน แล้วจึงตักใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม
  • 9. การทาเนื้อย่างเกาหลี • ล้างเนื้อวัว ซับน้าให้แก้ง แล่เป็นชิ้นบาง ใส่ลงในอ่างผสม ใส่งาขาว พริกไทย ต้นหอม น้าตาล ซีอิ๊วญี่ปุ่น เหล้า จีน น้ามันงา น้ามันพืช เคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง 2. ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด ตัดโคนหน่อไม้ฝรั่งที่แข็งออก ปอกเปลือกฟักทองออกบางๆหั่นชิ้นใหญ่ แกะโคน เปลือกข้าวโพดอ่อนออก 3. เมื่อจะรับประทาน นามันหมูแข็งวางบนกระทะพอน้ามันละลาย นาเนื้อที่หมักย่างจนพอสุก จัดใส่จาน ย่าง ผักต่อ พอสุกใส่จาน รับประทานกับน้าจิ้ม ส่วนประกอบน้าจิ้ม พริกขี้หนูเขียวแดง สับละเอียด 15 เม็ด รากผักชีและก้านซอย 1/4 ถ้วย กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา น้าตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ากระเทียมดอง 1/2 ถ้วย
  • 10. การทาอาหารอีสาน • ล้มตาลาว ของชาวอีสานบางครั้งจะใส่ผลมะกอกพื้นบ้าน(เฉพาะฤดูที่มีผลมะกอกพื้นบ้าน) เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยฝานเป็นชิ้นรวมกับส้มตามะละกอ ช่วยให้รสชาติอร่อยขึ้น ส้มตาลาวเป็นเมนูอาหารหลักของชาวอีสานรองจากข้าว เหนียว สามารถรับประทานกันได้ทุกวันและทุกมื้อ วัฒนธรรมการกินอาหารอย่างหนึ่งของชาวอีสาน คือ หากมื้อใดมีการ ทาส้มตารับประทานก็มักจะเรียกเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงมาร่วมสังสรรค์ รับประทานส้มตาด้วย บางคนถึงกับบอกว่า ทานคนเดียวไม่อร่อย ต้องทานหลายๆ คน หรือแย่งกันทาน เรียกว่าส้มตารวยเพื่อนก็ไม่ผิดนัก และตามงานบุญต่างๆ ของชาวอีสานจะขาดส้มตาไม่ได้เลย ถ้าขาดส้มตาอาจจะทาให้งานนั้นกร่อยเลยทีเดียว • บางคนครั้งส้มตาลาวจะอร่อยหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับปลาร้าเป็นสาคัญ ถ้าหากปลาร้าอร่อยมีรสชาติดี ก็จะทาให้ส้มตา ลาวครกนั้นมีรสชาติอร่อยไปด้วย ปลาร้าที่ใส่ส้มตาสามารถใส่ได้ทั้งน้าและตัวปลาร้า หรือบางคนก็ใส่แต่น้าปลาร้า ใส่ เพื่อพอให้มีกลิ่นแล้วแต่คนชอบแต่ต้องทาให้สุกเสียก่อน ชาวอีสานส่วนใหญ่ยังมีความคิดว่ากินปลาร้าดิบแซ่บกว่าปลา ร้าสุก ดังนั้นชาวบ้านตามชนบทมักจะใช้ปลาร้าดิบเป็นส่วนประกอบในส้มตา ด้วยความคิดเช่นนี้จึงทาให้กลายคนดิน ปลาร้าแล้วได้พยาธิ(ส่วนใหญ่จะเป็นพยาธิใบไม้ในตับ) ิิแถมเข้ามาอยู่ในตัวด้วย ถึงแม้ว่าการใช้เกลือประมาณร้อยละ 30 ของน้าหมักปลาในการหมัก ก็เป็นเพียงการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ทาให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เท่านั้น แต่ยังไม่มีคายืนยันจากนักวิชาการว่าเกลือสามารถฆ่าพยาธิได้ ดังนั้นควรใช้ปลาร้าที่ต้มสุกแล้วจะปลอดภัยกว่า • นอกจากนี้จากผลการวิจัยขอคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังพบว่าในปลาร้าดิบมีสารที่ยับยั้งการทางาน ของวิตามินบีหนึ่ง ซึ่งการที่จะทาให้สารชนิดนี้หมดไปได้มีวิธีเดียวเท่านั้น คือ การทาให้สุกโดยใช้ความร้อน •