More Related Content
More from somporn Isvilanonda
More from somporn Isvilanonda (20)
Sedsad no.42
- 1. 82
Rice Market Economics
เศรษฐศาสตร์ตลาดข้าว
โดย รศ.สมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองของชาติ
และผู้ประสานงานโครงการ “งานวิจัยเชิงนโยบายเกษตร”
ภายใต้การสนับสนุนของสำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ของไทย
ตลาดข้าวโลก
และข้าวส่งออก
- 2. 83
ถึงแม้ว่าประเทศต่างๆ จะก้าวไปสู่การเปิดเสรีทางการค้าแล้วก็ตาม แต่ในเอเชีย
ประเด็นเรื่องความมั่นคงทางอาหารโดยเฉพาะสินค้าข้าวซึ่งเป็นอาหารจานหลักของ
คนในเอเชียจ�ำนวนมาก ท�ำให้นโยบายข้าวของแต่ละประเทศต่างให้การสนับสนุน
ในประเด็นของการพึ่งพาตนเอง (Self sufficiency) ก่อนที่จะจัดหาจากตลาด เพื่อ
เพิ่มเติมให้กับอุปทานภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มของประเทศผู้ผลิตข้าว
ไม่เพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศและต้องน�ำเข้าข้าวจากต่างประเทศ
ภูมิภาคเอเชียเป็นแหล่งที่ส�ำคัญของโลกในการผลิตและการบริโภคข้าว ประมาณ
กว่า 4 ใน 5 ส่วนของผลผลิตข้าวโลกจ�ำนวน 470 ล้านตันข้าวสาร มีแหล่งผลิตและ
บริโภคในเอเชียเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ประเทศที่มีประชากรจ�ำนวนมาก อย่างเช่น จีน
และอินเดีย ซึ่งผลิตข้าวได้เป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของโลกตามล�ำดับก็ตาม แต่
ประเทศเหล่านี้ต่างก็ใช้ผลผลิตส่วนใหญ่ของประเทศไปกับการบริโภคในประเทศ
เป็นส�ำคัญ ยกเว้นอินเดียที่มีผลผลิตเหลือจากการบริโภคในประเทศและเป็นผู้ส่งออก
ข้าวที่ส�ำคัญในตลาดการค้าข้าวโลก
ผลผลิตข้าวที่มีการซื้อขายกันในตลาดการค้าข้าวโลก มีประมาณ 38 ล้านตัน
ข้าวสาร หรือร้อยละ8 เมื่อเทียบกับปริมาณผลผลิตและปริมาณการบริโภค จึงท�ำให้
ตลาดข้าวโลกเป็นตลาดที่บาง ในสถานการณ์ปัจจุบันที่อุปสงค์รวมมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างช้าๆ ตามการเพิ่มขึ้นของประชากร ส่วนในด้านอุปทานผลผลิตข้าวกลับมีการขยาย
ตัวที่รวดเร็วกว่าอุปสงค์ เพราะมีผู้ผลิตข้าวส่วนเกินเพิ่มมากขึ้นในตลาด โดยเฉพาะ
พม่าและกัมพูชา เป็นต้น อีกทั้งการที่ประเทศผู้น�ำเข้าจ�ำนวนมากได้ใช้นโยบายของการ
พึ่งพาตนเอง ท�ำให้เกิดการชะลอตัวในด้านความต้องการน�ำเข้า และในขณะเดียวกันมีการ
แข่งขันในประเทศผู้ส่งออกมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงกดดันให้แนวโน้มราคาข้าว
ในตลาดการค้าข้าวโลกยังมีการแกว่งตัวไปในทิศทางขาลงต่อไปอีก
นอกจากนี้ ปริมาณสต็อกข้าวของโลกที่มีมากใน
ปัจจุบัน หรือประมาณ 104 ล้านตันข้าวสาร เมื่อน�ำไป
บวกเพิ่มเข้ากับผลผลิตในแต่ละปี ก็จะท�ำให้เกิดแรง
กดดันทางด้านอุปทานข้าวโลกต่อแนวโน้มด้านราคา
ในทิศทางขาลงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการสะสมสต็อก
จ�ำนวนมากของไทยและอินเดีย ที่สังคมโลกตระหนักดี
ว่าประเทศทั้งสองจะต้องจัดการกับอุปทานข้าวในสต็อก
จ�ำนวนมากนี้โดยการเร่งระบายออกสู่ตลาดและจะมีผล
กดดันต่อระดับราคาข้าวในตลาดส่งออกตามมา
หากมองในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย
มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย บรูไน
เวียดนาม พม่า เขมร และลาว ประเทศในกลุ่มอาเซียน
ดังกล่าวนี้มีผลผลิตข้าวรวมกันประมาณ 115 ล้านตัน
ข้าวสาร ในขณะที่มีการบริโภคภายในอาเซียนเพียง100
ล้านตันข้าวสาร ส่วนการค้าข้าวในอาเซียนมีประมาณ
3 ล้านตันข้าวสารในปีที่ผ่านมา โดยมีประเทศผู้น�ำเข้า
ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน
ส่วนประเทศอาเซียนที่เป็นผู้ส่งออก ได้แก่ เวียดนาม
ไทย เขมร ลาว และพม่า ซึ่งรวมแล้วมีอุปทานข้าว
ส่งออกถึง 15 ล้านตันข้าวสาร ท�ำให้อาเซียนต้องเป็น
ผู้ส่งออกสุทธิประมาณ 12 ล้านตันไปสู่ตลาดนอก
อาเซียน
- 3. 84
หากจะรวมตลาดข้าวของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เข้ามาด้วย
เป็นกลุ่มอาเซียนบวกสาม จะท�ำให้ปริมาณผลผลิตข้าวในกลุ่มของ
อาเซียนบวกสามเพิ่มขึ้นมาเป็น 270 ล้านตันข้าวสาร และมีการ
บริโภค257 ล้านข้าวสาร และแม้ว่าการรวมกันเป็นอาเซียนบวกสาม
จะท�ำให้มีขนาดของประชากรเพิ่มขึ้นจาก 600 ล้านคน มาเป็น
2,200 ล้านคน แต่กลับพบว่าตลาดการค้าข้าวในอาเซียนบวกสาม
ไม่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากตามการเพิ่มของประชากร โดยมีปริมาณ
การค้าข้าวเพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านตันข้าวสาร เป็น 7 ล้านตันข้าวสาร
เท่านั้น ทั้งนี้เพราะจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ต่างก็ใช้นโยบายการผลิต
เพื่อพึ่งพาตนเอง รวมถึงการให้ความส�ำคัญกับความมั่นคงทาง
อาหารหลักของประชากรในประเทศ
ในกลุ่มของเอเชียใต้ ซึ่งประกอบด้วยอินเดีย บังกลาเทศ
ปากีสถาน ศรีลังกา เป็นต้น ประเทศในกลุ่มเอเชียใต้มีปริมาณ
ผลผลิตโดยรวมประมาณ 150 ล้านตันข้าวสาร แต่มีการบริโภค
ภายในภูมิภาคดังกล่าวจ�ำนวน137 ล้านตันข้าวสาร ดังนั้นปริมาณ
ผลผลิตข้าวในเอเชียใต้จึงมีส่วนเกินจากการใช้บริโภคประมาณ13
ล้านตันข้าวสาร ซึ่งจะต้องส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ โดยในภูมิภาคนี้
มีอินเดียและปากีสถานเป็นผู้ส่งออกที่ส�ำคัญของภูมิภาค
ภูมิภาคที่มีการผลิตข้าวได้น้อยแต่มีการบริโภคมาก ได้แก่ ภูมิภาคตะวันออกกลาง
และแอฟริกา ทั้งนี้ในภูมิภาคตะวันออกกลางมีการผลิตข้าวประมาณ2 ล้านตันข้าวสาร
โดยมีอียิปต์ เป็นแหล่งผลิตที่ส�ำคัญของภูมิภาค แต่มีการบริโภคเกือบ 9 ล้านตัน
ข้าวสาร ภูมิภาคตะวันออกกลางจึงมีการน�ำเข้าสูงประมาณ 7 ล้านตันข้าวสาร ส่วน
ในภูมิภาคแอฟริกานั้นมีปริมาณการผลิตเพียง 17 ล้านตันข้าวสาร แต่มีปริมาณการ
บริโภคมากประมาณ29 ล้านตันข้าวสาร ในภูมิภาคนี้จึงเป็นภูมิภาคที่มีการน�ำเข้าข้าว
สูงถึงประมาณ12 ล้านตันข้าวสาร ส่วนในภูมิภาคอเมริกาซึ่งรวมทั้งอเมริกาเหนือและ
อเมริกาใต้ มีการผลิตมากกว่าการบริโภคเล็กน้อย และเป็นภูมิภาคที่มีการส่งออกข้าว
มากกว่าการน�ำเข้าข้าวอยู่ประมาณ 1-2 ล้านตันข้าวสาร
ในส่วนของยุโรปแม้จะมีการปลูกข้าวอยู่บ้างทางตอนใต้ ได้แก่ ประเทศสเปน
อิตาลี ฝรั่งเศส และกรีซ แต่ปริมาณผลผลิตโดยรวมของกลุ่มสภาพยุโรปมีประมาณ
2 ล้านตันข้าวสาร และมีการบริโภคประมาณ 3 ล้านตันข้าวสาร ดังนั้น ในกลุ่มของ
สหภาพยุโรปจึงมีการน�ำเข้าสุทธิประมาณ1 ล้านตันข้าวสาร ส่วนกลุ่มประเทศที่เป็น
สหภาพรัสเซียเดิมมีการผลิตและการบริโภคใกล้เคียงกันประมาณ 1-1.5 ล้านตัน
ข้าวสาร และแม้จะมีการน�ำเข้าข้าวอยู่บ้างแต่มีจ�ำนวนรวมไม่ถึงห้าแสนตัน
ด้านความต้องการข้าวเพื่อการบริโภคในแต่ละภูมิภาคของโลกมีความแตกต่างกัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและรสนิยมเป็นส�ำคัญ ในกลุ่มของประเทศแอฟริกาและ
ตะวันออกกลาง ซึ่งประชากรส่วนมากจะนิยมบริโภคข้าวนึ่ง (Par boiled rice)1
ประชากรในส่วนของเอเชียตะวันออกส่วนมากนิยมข้าวเจ้าเมล็ดสั้นหรือที่เรียกว่าข้าว
ญี่ปุ่น(Japonicarice)ส่วนข้าวเจ้าเมล็ดยาว(Indicarice)กลุ่มประชากรที่บริโภคข้าว
ชนิดนี้จะกระจายตัวอยู่ทั่วไป ทั้งในเอเชียและอเมริกา ข้าวในกลุ่มของข้าวเจ้าเมล็ดยาวนี้
ประกอบด้วยกลุ่มข้าวที่มีความหอม (Aromatic rice) และจัดเป็นข้าวพรีเมี่ยม เช่น
ข้าวหอมมะลิ ข้าวบาสมาติ เป็นต้น ซึ่งผู้บริโภคจะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูงและให้ราคาข้าว
ในกลุ่มดังกล่าวสูงกว่าราคาข้าวสารเจ้าเมล็ดยาวทั่วไปกว่าเท่าตัว ส่วนข้าวเหนียว ประเทศ
ผู้น�ำเข้ามักน�ำเข้าไปใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและแอลกอฮอล์เป็นส�ำคัญ
ข้าวส่งออกของไทยนั้นประกอบด้วยกลุ่มข้าวหอม
ได้แก่ ข้าวหอมมะลิและข้าวหอมปทุม แต่การส่งออก
ข้าวหอมมะลิจะมีมากกว่าข้าวหอมประทุมถึงกว่าร้อยละ
95 ทั้งนี้เพราะคุณภาพของข้าวหอมปทุมยังเป็นรอง
ข้าวหอมมะลิอยู่มาก กลุ่มข้าวสารเจ้า ได้แก่ ข้าวสารเจ้า
10% และ 5% ข้าวสารเจ้าอื่นๆ กลุ่มข้าวเหนียว และ
กลุ่มข้าวนึ่ง กลุ่มข้าวส่งออกของไทยดังกล่าวมีการ
กระจายตัวไปในตลาดการค้าข้าวในภูมิภาคต่างๆ ของ
โลก ชนิดของข้าวที่ไทยส่งออกมาก ได้แก่ ข้าวสารเจ้า
100% และ 5% และข้าวหอมมะลิ ทั้งนี้จากปริมาณ
การส่งออกข้าวประมาณ 6.61 ล้านตันในปี 2556 นั้น
เป็นการส่งออกข้าวสารเจ้า100% และ5% ร้อยละ29.92
รองลงมา ได้แก่ การส่งออกข้าวหอมมะลิมีสัดส่วน
ร้อยละ 28.96 และเป็นข้าวนึ่งร้อยละ 24.97 ส่วน
ข้าวเหนียวและข้าวอื่นๆ มีการส่งออกร้อยละ4.94 และ
ร้อยละ 10.43 ตามล�ำดับ (ตาราง)
1
ข้าวนึ่ง ได้แก่ ข้าวที่ได้จากการสีข้าวเปลือกในกลุ่ม
ของข้าวเมล็ดยาว (Indica rice) ที่ผ่านการแช่น�้ำ และ
อบด้วยความร้อนแล้วท�ำให้แห้งก่อนท�ำการสี
- 4. 85
ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกข้าวหอมมะลิจะมีปริมาณน้อยกว่า
การส่งออกข้าวสารเจ้า 100% และ 5% อยู่เล็กน้อยก็ตาม แต่หาก
พิจารณาจากมูลค่าการส่งออกแล้ว ข้าวหอมมะลิมีมูลค่าการส่งออก
ถึงร้อยละ44.43 ของมูลค่าการส่งออกข้าวรวม และมากกว่าการส่งออก
ข้าวสารเจ้า 100% และ 5% เกือบหนึ่งเท่าตัว ทั้งนี้เพราะการส่งออก
ข้าวหอมมะลิให้มูลค่าต่อหน่วยหรือต่อตันของผลผลิตสูงกว่ามูลค่า
ต่อหน่วยของผลผลิตข้าวสารเจ้า 100% และ 5% อย่างมาก อีกทั้ง
ข้าวหอมมะลิไทยมีการกระจายของตลาดที่ดีกว่าข้าวชนิดอื่นๆ ทั้งใน
อเมริกา แอฟริกา ยุโรปตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออก และอาเซียน
ยกเว้นกลุ่มประเทศในเอเชียใต้เท่านั้น
จากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการค้าข้าวไทยในตลาด
การค้าข้าวโลกก�ำลังปรับตัวไปสู่ความส�ำคัญในมิติเชิงคุณภาพของข้าว
เพิ่มมากขึ้น และตลาดพร้อมที่จะให้ราคาที่สูงขึ้นตามมา ดังนั้นจึงเป็น
เรื่องท้าทายนโยบายข้าวไทยอย่างมาก ในการที่จะดูแลรักษาคุณภาพ
และคุณค่าของข้าวหอมมะลิ ให้เป็นเอกลักษณ์สินค้าข้าวที่มีค่านี้ไว้
ให้เป็นสมบัติอันล�้ำค่าของอุตสาหกรรมข้าวและชาวนา โดยเฉพาะชาวนา
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยให้ยั่งยืนต่อไป
หน่วย: ตันตารางการส่งออกข้าวของไทยตามชนิดของข้าวไปในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ปี 2556
เอเชีย
เอเชียตะวันออก
อาเซียน
เอเชียใต้
ตะวันออกกลาง
ยุโรป
แอฟริกา
อเมริกา
โอเชียเนีย
รวมส่งออก (ตัน)
ร้อยละของปริมาณ
มูลค่า (ล้านบาท)
ร้อยละของมูลค่า
มูลค่าต่อตัน (บาท)
ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุม ข้าวสารเจ้า
100% และ 5%
ข้าวสารเจ้า
อื่นๆ1/ ข้าวเหนียว ข้าวนึ่ง รวม
423,255
289,999
132,386
870
115,526
179,566
685,828
438,693
72,322
1,915,190
28.96
59,480
44.43
31,057
20,473
9,635
10,594
244
7,108
17,469
3,582
2,053
1,000
51,684
0.78
1,495
1.12
28,926
471,860
304,429
166,889
542
788,176
20,116
671,821
6,233
20,042
1,978,248
29.92
29,221
21.83
14,771
70,708
49,190
21,492
26
430
2,658
581,906
3,312
30,639
689,663
10.43
10,529
7.87
15,267
257,777
157,878
99,855
44
3,214
17,833
26,638
20,782
591
326,835
4.94
6,700
5.01
20,500
811
390
276
145
224,964
58,201
1,363,309
1,243
2,430
1,650,958
24.97
26,425
19.74
16,005
1,244,893
811,521
431,502
1,871
1,139,418
295,842
3,333,085
472,317
127,023
6,612,578
100.00
133,852
100.00
20,242
หมายเหตุ: 1/
ประกอบด้วยข้าว 10% 15% 25% ปลายข้าว และอื่นๆ
ที่มา: คำ�นวณจากฐานข้อมูลสำ�นักงานเศรษฐกิจการเกษตร ด้วยความร่วมมือของกรมศุลกากร