SlideShare a Scribd company logo
 
MTV  เป็นสถานีโทรทัศน์สำหรับวัยรุ่น โดยมีบริษัทแม่อยู่ที่นิวยอร์ก แรกเดิมจะเน้นเปิดมิวสิกวีดีโอ ต่อมาเพิ่มความหลากหลาย สร้างเรียลลิตี้โชว์ จำนวนมาก และงานอวอร์ดต่างๆ โดยเอ็มทีวีได้กลายเป็น  Pop Culture  ของวัยรุ่นอเมริกัน และทั่วโลกในเวลาต่อมา เอ็มทีวีออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่  1   สิงหาคม  1981 มีสโลแกน  " I want my MTV"  Concept  ของวีเจเป็นที่รู้จักและแพร่หลาย , การแนะนำเพลงผ่านมิวสิกวิดีโอ ,  เป็นศูนย์กลางระหว่างแฟนเพลงและตัวศิลปิน รวมถึงเป็นศูนย์กลางของข่าวสารดนตรี เทศกาลดนตรี การประชาสัมพันธ์ เอ็มทีวีได้มีบทบาทต่ออุตสาหกรรมดนตรีเป็นอย่างมาก
MTV  คือบริษัทที่เริ่มต้นจากการจับมือของ  2  บริษัทยักษ์ใหญ่คือ  Warner Brother  กับ  American Express  หรือ  AMEX  รวมเรียกบริษัทใหม่นี้ว่า  Warner Amex Satellite Entertainment Company (WASEC)  โดยมี  Jack Schneider  เป็นประธาน ซึ่งเขามองว่า ช่องรายการเคเบิลที่เปิดแต่มิวสิกวิดิโอ ถือเป็นโอกาสที่ดี โดยเขาให้เหตุผลในครั้งเริ่มต้นกิจการว่า “ถ้าคุณมี  DJ  ไมโครโฟน เครื่องส่งสัญญาณ และเพลงดังๆในกระเป๋าซัก  40  เพลง คุณก็สามารถมีสถานีวิทยุเป็นของตัวเองได้ แล้วทำไมเราจะไม่เอา  DJ  มาออกทีวีซะเลยละ ?”  ขณะที่  Steve Casey  ผู้กำกับสถานีในยุคเริ่มต้นเล่าความหลังให้ฟังว่า “มีแรงกดดันมหาศาลที่ทำให้เราต้องทำในสิ่งที่แตกต่าง แต่สิ่งที่ทำจะต้องมีความเป็นไปได้ ในที่สุดเราก็ได้  MTV  แม้ว่าไอเดียนี้จะดู “เจ๋ง” แต่กลับไม่มีใครซักคนเลยที่จะพูดว่า “มันดีนี่” แม้แต่ผมเองก็ไม่ชอบแนวคิดนี้เท่าไหร่ แต่ในที่ประชุมก็ไม่มีใครที่จะเสนอไอเดียที่ดีกว่านี้อีกแล้ว และนี่คือ จุดเริ่มต้นของ  MTV”  ประวัติ  MTV
LOGO โลโก้นั้นถูกออกแบบจากนักออกแบบอิสระชื่อ  Patti Rogoff  ซึ่งเขานำตัวเอ็มเป็นตัวบล็อกแบบ  3  มิติ กับคำว่า  TV  ที่ดูคล้ายๆกับกิ่งไม้ทาบกัน  โดยทาง  MTV  เลือกที่จะเปิดตัว โลโก้ โดยนำภาพเมื่อครั้งที่  Neil Armstrong  เหยียบดวงจันทร์เป็นการเปิดตัว โลโก้  logo
เอ็มทีวีไทยแลนด์ได้นำเสนอรายการจากต่างประเทศทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรปและเอเชีย โดยรายการจากอเมริกาส่วนใหญ่เป็นรายการ เรียลลิตี้โชว์ เช่น รายการ พิมป์มายไรด์เป็นรายการที่แรกเดิมพิธีกรคือ เอกซ์ - ซิบิตเป็นรายการนำรถเก่าจากคนทางบ้านมาแต่งใหม่ได้รับความนิยมอย่างมากจนมีเวอร์ชัน  เอ็มทีวีพิมป์มายไรด์อินเตอร์เนชันแนล  และ  พิมป์มายไรด์ยูเค  ส่วนรายการที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ  พังก์ ' ด  มีพิธีกรคือ แอชตัน คุชเชอร์ที่สร้างสถานการณ์กลั่นแกล้งคนดัง เป็นรายการประเภทซ่อนกล้อง มีดาราที่ถูกกลั่นแกล้งเช่น จัสติน ทิมเบอร์ เลคเอค่อน โจส เป็นต้น และมีรายการประเภทซ่อนกล้องอีกรายการที่ยั่วโมโหคน คือรายการ  บอยลิงพอยต์ รายการเรียลลิตี้โชว์ มีอยู่หลายรายการทั้งเรียลลิตี้โชว์คนดังอย่าง  ดิแอชลีซิมป์สันโชว์   ดิออสบอร์นส  และ  นิวลีเวดส์ :  นิกแอนด์เจสสิกา   ไลฟ์ออฟไรอัน และ รายการประเภทนัดบอดมีอยู่หลายรายการ เช่น  รูมไรเดอร์ส   เอ็มทีวีสกอร์  ส่วนรายการเรียลลิตี้ประเภทกึ่งสารคดี เช่น  เอ็มทีวีทรูไลฟ์  และ  เอตธ์แอนด์โอเชียน  เป็นต้น ยังมีรายการประเภทแอนิเมชั่น เช่น  แวส์มายด็อกแอต ?   และ  อูซาวิช  เป็นต้น ส่วนรายการที่ผลิตจากเอ็มทีวี เอเชีย ส่วนใหญ่จะเป็นรายการเพื่อสนับสนุน ศิลปินประจำเดือน เช่น  เอ็มทีวีแอสก์   ไฟฟ์ติงส์ยูนีดทูโนว์   ท็อปเทนเฟเวอริตส์  เป็นต้น ความแตกต่าง  MTV  ไทย และ อเมริกา
รายการประเภทการแจกรางวัล  ในเอ็มทีวีแต่ละภูมิภาคมักจะมีมอบรางวัลให้กับศิลปิน มิวสิกวิดีโอ ภาพยนตร์ คือ MTV Asia Awards MTV Video Music Awards MTV Movie Awards  MTV Europe Music Awards  MTV Video Music Awards Japan  MTV Australia Video Music Awards  MTV Video Music Awards Latin America
รายการของ  MTV  ก็ทำเช่นเดียวกับรายการวิทยุ คือเปิดเพลงฟรี และรอรายรับจากยอดขายโฆษณา โดยมีเงินทุนเพียง  25  ล้านเหรียญ แต่ในตอนแรกๆนั้น ค่ายเพลงต่างๆกลับอิดออดที่จะให้มิวสิกวิดิโอของตนไปเปิดที่  MTV  เพราะพวกเขาคิดว่า บริษัทลงทุนผลิตมิวสิกวิดีโอขึ้นมาแพงมาก  ในตอนแรก  MTV  มีมิวสิกวิดีโอเพียงแค่  250  เพลงเท่านั้น  Jack  ให้ความเห็นว่า “พวกค่ายเพลงต่างๆเกลียดเรามาก เพราะพวกเราต้องการที่จะเปิดมิวสิกวิดีโอของพวกเขาฟรีๆ  เขาบอกกับเราว่า พวกคุณเดินทางมาผิดซะแล้ว พวกคุณต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการเปิดเพลงให้พวกเขาด้วย”แต่ค่ายเพลงต่างๆก็ยังคงแบ่งมิวสิกวิดีโอบางส่วนให้กับ  MTV  ฟรี แต่ก็มีแต่ศิลปินที่ไม่ค่อยจะดังเท่านั้น  แต่สำหรับศิลปินดังๆบางคน  MTV  ก็ยังคงต้องจ่ายค่าสิทธิ์ในการเปิดเพลงอยู่ดี  MTV ONAIR
เมื่อ  MTV  ถึงเวลาเปิดฉายจริง  MTV  เลือกที่จะเปิดตัวครั้งแรกพร้อมๆกับการกล่าวด้วยน้ำเสียงแบบฉบับร๊อกแอนด์โรลว่า “ขอเชิญท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีมา ร๊อกแอนด์โรลกัน” พร้อมๆกับเปิดมิวสิกวิดีโอ เพลง “ Video Killed the Radio Star”  ของ  The Buggles  โดยเริ่มฉายในเวลาเที่ยงคืนของวันที่  2  สิงหาคม  1981  MTV  ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดเพลงข้ามวันข้ามคืน หลักฐานก็คือ ศิลปินระดับเกรดรองๆลงไป กลับดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะศิลปินอย่าง  Adam Ant  และ  Billy Idol  ที่ถูกเปิดในสถานีวิทยุน้อยมาก แต่  MTV  กลับช่วยให้ทั้งคู่ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  Billy  กล่าวถึงปรากฏการณ์ครั้งนั้นว่า “พวกสถานีวิทยุไม่ยอมเปิดเพลงของผมเลย เพราะมองทรงผม ฟั๊งค์ร็อก หัวแหลมเปี๊ยบของผม ก็ไม่อยากเปิดเพลงของผมแล้ว แต่หลังจากที่  MTV  เริ่มออนแอร์ เด็กๆก็เริ่มร้องเพลงผมได้ พวกสถานีจึงเริ่มหันมาเปิดเพลงของผม เกิดมาผมไม่เคยแตะอันดับเพลงชาร์ตกับชาวบ้านเค้าเลย แต่เผลอแป๊ปเดียว ผมก็มีตั้ง  10  อัลบั้มที่แตะชาร์ต มันมหัศจรรย์มาก และไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน เมื่อผมเดินไปตามท้องถนน ผู้คนจะตะโกนร้องว่า “เฮ้ย  Idol  ๆๆๆ”” หลังจากนั้น ค่ายเพลงต่างๆก็เริ่มเปิดใจยอมรับ  MTV มากขึ้น
เมื่อผ่านปีแรกแห่งความยากลำบากไปได้ แต่โฆษณายังคงไม่เข้ามากนัก  นั่นเป็นเพราะว่า ยอดผู้ชมรายการยังคงต่ำกว่า  2  ล้านคน  พอเข้าปีที่  2  MTV  ก็เริ่มกระตุ้นแบรนด์ด้วยการออกแบบแคมเปญโฆษณาแล้วนำนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์มาพูดว่า “ผมต้องการ  MTV”  โดยเลือกจะออกโฆษณาไปยังช่องเคเบิลที่ไม่ใช่  MTV  โดยซูเปอร์สตาร์คนแรก คือ  Mick Jagger  ถัดมาก็ยังมีอีกหลายคน เช่น  David Bowie  สิ่งเหล่านี้ทำให้ยอดขายโฆษณาพุ่งขึ้นไปแตะที่  2  ล้านเหรียญทันที ถือเป็นกรณีศึกษาด้าน  Awareness  ที่ดีที่สุด เพราะก่อนออกแคมเปญนี้ ผลการสำรวจผู้คนที่รู้จัก  MTV  มีแค่  20%  เท่านั้น แต่พอออกแคมเปญไป ผู้คนกลับรู้จัก  MTV  ถึง  89 %  นอกจากนี้ ยังสร้างกระตุ้นโดยการจัดแข่งขันเพื่อชิงรางวัลการ “ใช้ชีวิตสุดสัปดาห์”กับ  Van Halen  อีกด้วย การกระตุ้นของ  MTV
พอปี  1984  เรตติ้งจาก  AC Neilsen  ชี้ว่า  MTV  มีโฆษณามากกว่าเฉลี่ยของช่องเคเบิลทั่วไป รายรับปีนี้พุ่งขึ้นมากกว่า  223 %  จากปีก่อน ยอดผู้ชมพุ่งไปถึง  21  ล้านครัวเรือน และกลับมาทำตัวเลขเขียวครั้งแรกที่กำไร  3.4  ล้านเหรียญ นอกจากนี้ทุกวันนี้  MTV  กลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเพลงในประเทศสหรัฐไปโดยปริยาย
http://www.marketeer.co.th/inside_detail.php?inside_id=3092 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5 Thank You

More Related Content

Featured

AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
marketingartwork
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
Skeleton Technologies
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Kurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
SpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Lily Ray
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
Rajiv Jayarajah, MAppComm, ACC
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
Christy Abraham Joy
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
Vit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
MindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Applitools
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
GetSmarter
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
Alireza Esmikhani
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
Project for Public Spaces & National Center for Biking and Walking
 

Featured (20)

AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
 

Mtv

  • 1.  
  • 2. MTV เป็นสถานีโทรทัศน์สำหรับวัยรุ่น โดยมีบริษัทแม่อยู่ที่นิวยอร์ก แรกเดิมจะเน้นเปิดมิวสิกวีดีโอ ต่อมาเพิ่มความหลากหลาย สร้างเรียลลิตี้โชว์ จำนวนมาก และงานอวอร์ดต่างๆ โดยเอ็มทีวีได้กลายเป็น Pop Culture ของวัยรุ่นอเมริกัน และทั่วโลกในเวลาต่อมา เอ็มทีวีออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1981 มีสโลแกน " I want my MTV" Concept ของวีเจเป็นที่รู้จักและแพร่หลาย , การแนะนำเพลงผ่านมิวสิกวิดีโอ , เป็นศูนย์กลางระหว่างแฟนเพลงและตัวศิลปิน รวมถึงเป็นศูนย์กลางของข่าวสารดนตรี เทศกาลดนตรี การประชาสัมพันธ์ เอ็มทีวีได้มีบทบาทต่ออุตสาหกรรมดนตรีเป็นอย่างมาก
  • 3. MTV คือบริษัทที่เริ่มต้นจากการจับมือของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่คือ Warner Brother กับ American Express หรือ AMEX รวมเรียกบริษัทใหม่นี้ว่า Warner Amex Satellite Entertainment Company (WASEC) โดยมี Jack Schneider เป็นประธาน ซึ่งเขามองว่า ช่องรายการเคเบิลที่เปิดแต่มิวสิกวิดิโอ ถือเป็นโอกาสที่ดี โดยเขาให้เหตุผลในครั้งเริ่มต้นกิจการว่า “ถ้าคุณมี DJ ไมโครโฟน เครื่องส่งสัญญาณ และเพลงดังๆในกระเป๋าซัก 40 เพลง คุณก็สามารถมีสถานีวิทยุเป็นของตัวเองได้ แล้วทำไมเราจะไม่เอา DJ มาออกทีวีซะเลยละ ?” ขณะที่ Steve Casey ผู้กำกับสถานีในยุคเริ่มต้นเล่าความหลังให้ฟังว่า “มีแรงกดดันมหาศาลที่ทำให้เราต้องทำในสิ่งที่แตกต่าง แต่สิ่งที่ทำจะต้องมีความเป็นไปได้ ในที่สุดเราก็ได้ MTV แม้ว่าไอเดียนี้จะดู “เจ๋ง” แต่กลับไม่มีใครซักคนเลยที่จะพูดว่า “มันดีนี่” แม้แต่ผมเองก็ไม่ชอบแนวคิดนี้เท่าไหร่ แต่ในที่ประชุมก็ไม่มีใครที่จะเสนอไอเดียที่ดีกว่านี้อีกแล้ว และนี่คือ จุดเริ่มต้นของ MTV” ประวัติ MTV
  • 4. LOGO โลโก้นั้นถูกออกแบบจากนักออกแบบอิสระชื่อ Patti Rogoff ซึ่งเขานำตัวเอ็มเป็นตัวบล็อกแบบ 3 มิติ กับคำว่า TV ที่ดูคล้ายๆกับกิ่งไม้ทาบกัน โดยทาง MTV เลือกที่จะเปิดตัว โลโก้ โดยนำภาพเมื่อครั้งที่ Neil Armstrong เหยียบดวงจันทร์เป็นการเปิดตัว โลโก้ logo
  • 5. เอ็มทีวีไทยแลนด์ได้นำเสนอรายการจากต่างประเทศทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรปและเอเชีย โดยรายการจากอเมริกาส่วนใหญ่เป็นรายการ เรียลลิตี้โชว์ เช่น รายการ พิมป์มายไรด์เป็นรายการที่แรกเดิมพิธีกรคือ เอกซ์ - ซิบิตเป็นรายการนำรถเก่าจากคนทางบ้านมาแต่งใหม่ได้รับความนิยมอย่างมากจนมีเวอร์ชัน เอ็มทีวีพิมป์มายไรด์อินเตอร์เนชันแนล และ พิมป์มายไรด์ยูเค ส่วนรายการที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ พังก์ ' ด มีพิธีกรคือ แอชตัน คุชเชอร์ที่สร้างสถานการณ์กลั่นแกล้งคนดัง เป็นรายการประเภทซ่อนกล้อง มีดาราที่ถูกกลั่นแกล้งเช่น จัสติน ทิมเบอร์ เลคเอค่อน โจส เป็นต้น และมีรายการประเภทซ่อนกล้องอีกรายการที่ยั่วโมโหคน คือรายการ บอยลิงพอยต์ รายการเรียลลิตี้โชว์ มีอยู่หลายรายการทั้งเรียลลิตี้โชว์คนดังอย่าง ดิแอชลีซิมป์สันโชว์ ดิออสบอร์นส และ นิวลีเวดส์ : นิกแอนด์เจสสิกา ไลฟ์ออฟไรอัน และ รายการประเภทนัดบอดมีอยู่หลายรายการ เช่น รูมไรเดอร์ส เอ็มทีวีสกอร์ ส่วนรายการเรียลลิตี้ประเภทกึ่งสารคดี เช่น เอ็มทีวีทรูไลฟ์ และ เอตธ์แอนด์โอเชียน เป็นต้น ยังมีรายการประเภทแอนิเมชั่น เช่น แวส์มายด็อกแอต ? และ อูซาวิช เป็นต้น ส่วนรายการที่ผลิตจากเอ็มทีวี เอเชีย ส่วนใหญ่จะเป็นรายการเพื่อสนับสนุน ศิลปินประจำเดือน เช่น เอ็มทีวีแอสก์ ไฟฟ์ติงส์ยูนีดทูโนว์ ท็อปเทนเฟเวอริตส์ เป็นต้น ความแตกต่าง MTV ไทย และ อเมริกา
  • 6. รายการประเภทการแจกรางวัล ในเอ็มทีวีแต่ละภูมิภาคมักจะมีมอบรางวัลให้กับศิลปิน มิวสิกวิดีโอ ภาพยนตร์ คือ MTV Asia Awards MTV Video Music Awards MTV Movie Awards MTV Europe Music Awards MTV Video Music Awards Japan MTV Australia Video Music Awards MTV Video Music Awards Latin America
  • 7. รายการของ MTV ก็ทำเช่นเดียวกับรายการวิทยุ คือเปิดเพลงฟรี และรอรายรับจากยอดขายโฆษณา โดยมีเงินทุนเพียง 25 ล้านเหรียญ แต่ในตอนแรกๆนั้น ค่ายเพลงต่างๆกลับอิดออดที่จะให้มิวสิกวิดิโอของตนไปเปิดที่ MTV เพราะพวกเขาคิดว่า บริษัทลงทุนผลิตมิวสิกวิดีโอขึ้นมาแพงมาก ในตอนแรก MTV มีมิวสิกวิดีโอเพียงแค่ 250 เพลงเท่านั้น Jack ให้ความเห็นว่า “พวกค่ายเพลงต่างๆเกลียดเรามาก เพราะพวกเราต้องการที่จะเปิดมิวสิกวิดีโอของพวกเขาฟรีๆ เขาบอกกับเราว่า พวกคุณเดินทางมาผิดซะแล้ว พวกคุณต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการเปิดเพลงให้พวกเขาด้วย”แต่ค่ายเพลงต่างๆก็ยังคงแบ่งมิวสิกวิดีโอบางส่วนให้กับ MTV ฟรี แต่ก็มีแต่ศิลปินที่ไม่ค่อยจะดังเท่านั้น แต่สำหรับศิลปินดังๆบางคน MTV ก็ยังคงต้องจ่ายค่าสิทธิ์ในการเปิดเพลงอยู่ดี MTV ONAIR
  • 8. เมื่อ MTV ถึงเวลาเปิดฉายจริง MTV เลือกที่จะเปิดตัวครั้งแรกพร้อมๆกับการกล่าวด้วยน้ำเสียงแบบฉบับร๊อกแอนด์โรลว่า “ขอเชิญท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีมา ร๊อกแอนด์โรลกัน” พร้อมๆกับเปิดมิวสิกวิดีโอ เพลง “ Video Killed the Radio Star” ของ The Buggles โดยเริ่มฉายในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 2 สิงหาคม 1981 MTV ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดเพลงข้ามวันข้ามคืน หลักฐานก็คือ ศิลปินระดับเกรดรองๆลงไป กลับดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะศิลปินอย่าง Adam Ant และ Billy Idol ที่ถูกเปิดในสถานีวิทยุน้อยมาก แต่ MTV กลับช่วยให้ทั้งคู่ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว Billy กล่าวถึงปรากฏการณ์ครั้งนั้นว่า “พวกสถานีวิทยุไม่ยอมเปิดเพลงของผมเลย เพราะมองทรงผม ฟั๊งค์ร็อก หัวแหลมเปี๊ยบของผม ก็ไม่อยากเปิดเพลงของผมแล้ว แต่หลังจากที่ MTV เริ่มออนแอร์ เด็กๆก็เริ่มร้องเพลงผมได้ พวกสถานีจึงเริ่มหันมาเปิดเพลงของผม เกิดมาผมไม่เคยแตะอันดับเพลงชาร์ตกับชาวบ้านเค้าเลย แต่เผลอแป๊ปเดียว ผมก็มีตั้ง 10 อัลบั้มที่แตะชาร์ต มันมหัศจรรย์มาก และไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน เมื่อผมเดินไปตามท้องถนน ผู้คนจะตะโกนร้องว่า “เฮ้ย Idol ๆๆๆ”” หลังจากนั้น ค่ายเพลงต่างๆก็เริ่มเปิดใจยอมรับ MTV มากขึ้น
  • 9. เมื่อผ่านปีแรกแห่งความยากลำบากไปได้ แต่โฆษณายังคงไม่เข้ามากนัก นั่นเป็นเพราะว่า ยอดผู้ชมรายการยังคงต่ำกว่า 2 ล้านคน พอเข้าปีที่ 2 MTV ก็เริ่มกระตุ้นแบรนด์ด้วยการออกแบบแคมเปญโฆษณาแล้วนำนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์มาพูดว่า “ผมต้องการ MTV” โดยเลือกจะออกโฆษณาไปยังช่องเคเบิลที่ไม่ใช่ MTV โดยซูเปอร์สตาร์คนแรก คือ Mick Jagger ถัดมาก็ยังมีอีกหลายคน เช่น David Bowie สิ่งเหล่านี้ทำให้ยอดขายโฆษณาพุ่งขึ้นไปแตะที่ 2 ล้านเหรียญทันที ถือเป็นกรณีศึกษาด้าน Awareness ที่ดีที่สุด เพราะก่อนออกแคมเปญนี้ ผลการสำรวจผู้คนที่รู้จัก MTV มีแค่ 20% เท่านั้น แต่พอออกแคมเปญไป ผู้คนกลับรู้จัก MTV ถึง 89 % นอกจากนี้ ยังสร้างกระตุ้นโดยการจัดแข่งขันเพื่อชิงรางวัลการ “ใช้ชีวิตสุดสัปดาห์”กับ Van Halen อีกด้วย การกระตุ้นของ MTV
  • 10. พอปี 1984 เรตติ้งจาก AC Neilsen ชี้ว่า MTV มีโฆษณามากกว่าเฉลี่ยของช่องเคเบิลทั่วไป รายรับปีนี้พุ่งขึ้นมากกว่า 223 % จากปีก่อน ยอดผู้ชมพุ่งไปถึง 21 ล้านครัวเรือน และกลับมาทำตัวเลขเขียวครั้งแรกที่กำไร 3.4 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ทุกวันนี้ MTV กลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเพลงในประเทศสหรัฐไปโดยปริยาย