ความขัดแย้ง – เมื่อระเบิดไม่ใช่ประทัด

1.
ความขัดแย้ ง – เมื่อระเบิดไม่ ใช่ ประทัด
พันเอก ดร.ธีรนันท์ นันทขว้าง
รองผูอานวยการกองการเมือง
้ํ
วิทยาลัยป้ องกันราชอาณาจักร
สถาบันวิชาการป้ องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย
จากกรณีของการระเบิดห้ องสมุดรักเมืองไทย 31 ในโรงเรี ยนเปรมติณสูลานนท์ จ.ขอนแก่น เมื่อ
กลางดึก วันที่ 8 ม.ค. 53 ที่ผ่านมา นันหลายฝ่ ายก็อาจจะมองว่าเป็ นเรื่ องธรรมดาไม่น่าห่วงใย แต่สําหรับ
้
มิติด้านความมันคงแล้ วคงเป็ นเรื่ องที่มองผ่านไปไม่ได้ ทังนี ้เนื่องจากบริ บทของสถานการณ์ความขัดแย้ ง
่ ้
ต่างๆ ยังไม่ได้ ยติลงแต่ประการใด หากแต่มีกระแสของการเคลื่อนไหวของกลุมที่มีความรู้ สกว่ายังไม่ได้ รับ
ุ ่ ึ
สิ่งที่ ต้องการอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับชื่ อของโรงเรี ยนและสถานที่ ตังก็ เป็ นเรื่ องที่ ไม่อาจมองข้ ามได้
้
นอกจากนี ้เมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค.2553 ที่ผานมาโรงเรี ยนแห่งนี ้เคยเกิดเหตุระเบิดที่สวนหย่อม มาแล้ ว
่
หากจะมองย้ อนกลับไปที่กรณีของระเบิดที่สมานเมตตาแมนชัน เมื่อ 5 ต.ค. 53 ที่ผ่านมา นันได้
่ ้
สะท้ อนให้ เห็นถึงความพยายามที่จะใช้ ระเบิดแสวงเครื่ อง หรื อ Improvised Explosive Devices (IEDs)
หรื อมีชื่อไม่เป็ นทางการว่า Booby Traps โดยการประกอบระเบิดขึ ้นเอง หากจําได้ ในครังนัน จะมีปริ มาณ
้ ้
ของสารระเบิดเป็ นจํานวนมาก นอกจากนี ้ยังพบระเบิดแสวงเครื่ องที่ตอวงจรไว้ แล้ วอีกจํานวนหนึง ซึงหากมี
่ ่ ่
การนําไปวางไว้ ตามเปาหมายที่เป็ นชุมชน หรื อ อาคารสูง ก็ย่อมที่จะส่งผลเสียหายได้ อย่างรุ นแรง จาก
้
เหตุการณ์ ดงกล่าวได้ มีการให้ ความสนใจจากสื่อและประชาชนจํานวนมาก แต่ก็เป็ นกระแสได้ เพียงพัก
ั
เดียว ทุกวันนี ้ก็เงียบหายไป และคนจํานวนมากได้ ลืมเรื่ องระเบิดไป
ซึงหากจะคิดกันสักนิดแล้ ว เรื่ องของระเบิดโรงเรี ยนเปรมติณสูลานนท์ นันเป็ นเรื่ องที่น่าสนใจ และ
่ ้
ไม่ควรมองข้ ามเพราะระเบิดที่ใช้ จากข้ อมูลคาดว่าน่าจะเป็ น ทีเอ็นที ซึงนันก็หมายความว่าจะต้ องมีการต่อ
่ ้
วงจรระเบิด และมีการจุดระเบิดสมบูรณ์ นันก็หมายถึงการกลับมาของระเบิดที่อาจจะกลับมาเกิดที่ไหนก็
่
ได้ อีกครังในประเทศไทย
้

2. ความจริ งแล้ วในช่วงหลังจากความขัดแย้ งที่ผ่านมาในวันที่ 23 พ.ค.53 ผมได้ วิเคราะห์ไว้ ใน
Facebook ถึงสถานการณ์ ท่ีมีโอกาสที่จะเกิดไว้ ตามภาพที่ 1 มีดชนีชี ้วัดที่สําคัญคือ การบ่อนทําลาย การ
ั
ก่อวินาศกรรม การลอบทํ าร้ ายเจ้ าหน้ าที่ การลอบสังหารบุคคลสําคัญ และ การโจมตีเจ้ าหน้ าที่ ทหาร
ตํารวจโดยกองกําลังติดอาวุธ ทังนี ้สถานการณ์จะพัฒนาไปถึงขันเลวร้ ายที่สดนันจะขึ ้นอยูกบบริ บทต่างๆ ที่
้ ้ ุ ้ ่ ั
มีความสลับซับซ้ อน และไม่เป็ นเรื่ องง่ายที่จะถึง แต่ก็ไม่ใช่วาเป็ นไปไม่ได้
่
ภาพที่ 1 การวิเคราะห์สถานการณ์ที่มีโอกาสที่จะเกิด ทําการวิเคราะห์ เมื่อ 23 พ.ค.53 ที่ผานมา
่

3. ต่อมาเมือวันที่ 10 ก.ค.53 ผมได้ วิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบของสถานการณ์ที่อาจจะมี
โอกาสเกิดขึ ้นไว้ ใน Facebook อีกเช่นกัน ดังมีรายละเอียดตามภาพที่ 2 ซึ่งจะพบว่าความรุ นแรงของ
สถานการณ์นนจะมีโอกาสเพิ่มขึ ้นเรื่ อยๆ หากผู้ที่มีส่วนได้ ส่วนเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้ องต่างๆ ไม่ยอมที่จะหัน
ั้
หน้ าเข้ าหากัน หรื อลดความต้ องการของตัวเองลง
ภาพที่ 2 การวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบของสถานการณ์ความขัดแย้ งเมื่อ 10 ก.ค.53 ที่ผานมา
่
ดังนันหากจะพิจารณาถึงเหตุการณ์ ที่เกิ ดขึนแล้ ว ย่อมที่จะสามารถมองได้ ว่า หลังเหตุการณ์ ที่
้ ้
สมานเมตตาแมนชันเกิดระเบิดขึ ้น การทํางานของเจ้ าหน้ าที่ได้ ทําการติดตาม เข้ มงวด ทําให้ การเคลื่อนไหว
่
เรื่ องของระเบิดนันงียบหายไป ต่อมาเมื่อแต่ละฝ่ ายค่อยๆ ลืม การวางระเบิดก็กลับมาอีกครัง โดยเริ่มที่พื ้นที่
้ ้
ที่ห่างไกลจากอํานาจควบคุมก่อน และมีความเป็ นไปได้ ที่จะขยายผลเข้ าสูกรุงเทพฯ ในอนาคตอันใกล้
่

4. หลายท่านอาจจะมองว่าผมมองโลกในแง่ร้าย และที่สําคัญหลายคนมีความเชื่อว่าเหตุการณ์ตางๆ
่
จะดีขึ ้น แต่สําหรับผมนันยังไม่มีความรู้ดงกล่าว ผมกลับมองว่าสถานการณ์ความขัดแย้ งใหม่ๆ กําลังก่อตัว
้ ั
ขึ ้นอย่างช้ าๆ หากไม่มีการดําเนินนโยบายที่เหมาะสมจากผู้ที่มีหน้ าที่และผู้ท่ีเกี่ยวข้ องแล้ ว เรื่ องระเบิดนัน
้
จะเดินทางมาถึงหน้ าบ้ านเรา เพราะฉะนันผมจึงอยากเตือนสติสงคมไทยว่าอย่ามองข้ ามเรื่ องของระเบิด
้ ั
เพราะ มันคือระเบิดมันไม่ใช่ประทัด ยังไงก็ใส่ใจสังคมและประเทศกันด้ วยนะครับ ผมไม่อยากมีความรู้ สก
ึ
เหมือนชาวลอนดอนเมื่อสอง‐สามทศวรรษก่อน ที่มีชีวิตท่ามกลางระเบิดของ IRA...... เอวังครับ