More Related Content Similar to Internet Marketing Similar to Internet Marketing (20) Internet Marketing16. Search Engine Marketing Search Engine Advertising (Paid Search) Google AdWords , Yahoo! Search Marketing , Microsoft adCenter Search Engine Advertising http://www.google.com 21. ROI(Return On Investment) ผลตอบแทนการลงทุนทางการตลาด หมายถึง [1]“การตลาดที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาต้นทุนของกิจกรรมทางการตลาดเปรียบเทียบกับกำไรที่ได้รับ” ROI [1] ผศ.กิตติ สิริพัลลภ , ผลตอบแทนจากการลงทุนทางการตลาด Marketing ROI , http://www.marketeer.co.th/inside_detail.php?inside_id=3005 23. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders Paid Search 25. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders House Email 26. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders SEO 27. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders Behavioral Targeting 28. Behavioral Targeting การเลือกกลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรม Advertisers Publishers Advertising Network 30. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email List Pop-ups / Pop-unders Affiliate Marketing 31. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner Ads Rented Email List Pop-ups / Pop-unders Text-Link Ads 32. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link AdsContextual Targeting Rich Media / Video Ads Banner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders Contextual Targeting 34. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link AdsContextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders Rich Media / Video Ads 35. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders Banner Ads 36. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link AdsContextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders Rented Email List 37. Paid SearchHouse Email SEOBehavioral TargetingAffiliate MarketingText-Link Ads Contextual Targeting Rich Media / Video AdsBanner AdsRented Email ListPop-ups / Pop-unders Pop-ups / Pop-unders Editor's Notes การทำธุรกิจทุกๆด้านมักเกิดการแข่งขันระหว่างกันอย่างมาก ต่างพยายามหากลยุทธ์ทำธุรกิจของตนให้มีความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้มากที่สุด - อินเตอร์เน็ตบนโลกออนไลน์เองก็เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของผู้คนทั่วโลก ทางผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ได้หันมาการทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตอย่างมากมาย จึงเกิดการตลาดบนอินเตอร์เน็ต (Internet Marketing) ปัจจุบันการตลาดบนอินเตอร์เน็ตเติบโตขึ้นอย่างมาก มีการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง จนเกิดหลากหลายเครื่องมือและเทคนิคให้ผู้ประกอบการธุรกิจหรือนักการตลาดได้นำมาปรับใช้มากมาย เนื่องจากได้รับผลตอบโต้กลับเร็ว เลือกให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย อีกทั้งใช้งบประมาณไม่สูงมาก จึงทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ง่าย เป็นการตลาดที่ใช้กันมานานมากที่สุดบนอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะในประเทศไทยยังคงเป็นที่นิยมอยู่ โดยทำการโฆษณาธุรกิจหรือเว็บไซต์ของตนบนเว็บไซต์อื่น ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ดังนี้Banner Ads คือ แถบป้ายโฆษณาที่มีทั้งภาพและข้อความอยู่ ทำให้ผู้ชมเว็บไซต์พบเห็นได้ง่าย จึงได้รับความนิยมมาตลอด แต่ค่าลงโฆษณาค่อนข้างสูง 2. Text-Link Adsคือ โฆษณาที่มีเพียงตัวอักษรให้ผู้ชมสามารถกดลิ้งค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ผู้ลงโฆษณาได้ มักปรากฎซ้อนอยู่ในเนื้อหาหรือเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ชมเว็บไซต์ไม่รู้สึกรำคานเหมือนโฆษณาประเภทแบนเนอร์ และค่าลงโฆษณาก็ไม่สูงมาก 5. Pop-ups คือ หน้าต่างโฆษณาที่ปรากฏขึ้นมาเมื่อเปิดหน้าเว็บ ซึ่งปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเท่าทีควร เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เป็นที่รำคานของผู้ชมเว็บไซต์ และมีหลาย browser ที่สามารถตั้งค่าให้ปิดกั้น pop-up โดยอัตโนมัติได้ 3. Rich Media Ads /Multi Media Adsคือ โฆษณาที่มีการใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น มีทั้งภาพกราฟฟิคและเสียง โดยโฆษณานั้นจะมีปฎิสัมพันธ์ผู้ใช้งานโดยตรง เช่น ลงทะเบียนหรือสมัครสมาชิก ในโฆษณาดังกล่าวได้เลยโดยไม่ต้องคลิกไปเว็บไซต์อื่น เป็นต้น 4. Video Adsคือ โฆษณาที่เป็นวีดีโอ ซึ่งจะมีรายละเอียดได้มาก สามารถอธิบายสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น โดยอินเทอร์เน็ตที่ใช้จะต้องเร็วด้วย ซึ่งปัจจุบันความเร็วในการดูวีดีโอไม่เป็นปัญหามากหนักแล้ว E-mail ถูกนำมาเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทั้งหาลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่าไว้ ซึ่งมีรูปแบบดังนี้1. Rented Email List คือ การส่งอีเมล์ไปยังรายชื่ออีเมล์ที่เช่ามา โดยโฆษณาในกลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยสนใจในสินค้าหรือบริการของตนมาก่อน แต่ผู้อ่านอีเมลล์ส่วนใหญ่มักจะไม่เปิดอ่านเนื่องจากไม่จักรู้ที่มา 2. House Emailคือ การส่งอีเมลล์ เช่น ข่าวสาร โปรโมชัน เป็นต้น ส่งไปยังลูกค้าที่เป็นสมาชิกหรือสมัครไว้ ซึ่งผู้ที่ได้รับอีเมลล์มักให้ความสนใจมากกว่าแบบ Rented Email List เป็นการทำการตลาดบนระบบค้นหา โดยทำให้เว็บไซต์ของตนติดอันดับต้นๆบนเว็บเสิร์ชเอนจินต่างๆ อย่างเช่น Google Yahoo หรือ MSN เป็นต้น ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากและทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่ตรงมากขึ้น เนื่องจากเมื่อผู้ใช้อินเตอร์เน็ตต้องการค้นหาอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะพิมพ์ค้นหาคำ(Search Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้ใช้ลงไปค้นหาในเว็บเสิร์ชเอนจินเหล่านั้น ดังนั้นหากผลการค้นหาตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการก็จะทำการคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์นั้น ซึ่งการตลาดดังกล่าว แบ่งออกเป็นดังนี้ ซึ่งการตลาดดังกล่าว แบ่งออกเป็นดังนี้Paid Searchการซื้อพื้นที่โฆษณาในเว็บเสิร์ชเอนจิน หากผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาเว็บไซต์ของตน โฆษณาก็จะปรากฎในหน้าแรกให้ทันที โดยผู้ลงโฆษณาจะเสียค่าบริการก็ต่อเมื่อมีผู้ใช้บริการเสิร์ชเอนจินคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของตนเท่านั้น ที่เรียกกันว่า Pay Per Click(PPC) ซึ่งในประเทศไทยที่นิยมกันมากที่สุด คือ Google Adwordsนอกจานี้ยังมีอีกมากมาย เช่น Yahoo! Search Marketing , Microsoft adCenter เป็นต้น SEOการจัดทำและปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของตนด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อให้เว็บไซต์นั้นปรากฎอยู่ในตำแหน่งหน้าแรกและอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการในธุรกิจของตน ซึ่งจะทำให้โอกาสได้รับการคลิกจากผู้ชมเข้าไปยังเว็บไซต์มีมากขึ้นและถือเป็นการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตระยะยาว ในการค้นหาคำนั้น ในปัจจุบันผู้ชมเว็บไซต์สามารถค้นหาได้หลายวิธี ได้แก่ การค้นหาเนื้อหา (Contextual Search) การค้นหาภาพ (Image Search) และการค้นหาภาพวีดีโอ (Video Search) เป็นต้น การตลาดแบบนี้ในต่างประเทศค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องจากไม่ต้องลงทุนมาก แต่ได้ผลกำไรที่ชัดเจน ลักษณะการทำงาน คือ เปิดให้เว็บไซต์อื่นๆ(Affiliate Site) นำเอาสินค้าหรือบริการในเว็บไซต์ธุรกิจตน (Merchant Site) ไปช่วยโฆษณาขาย หากสินค้าในเว็บไซต์ของตนสามารถขายได้ จะต้องจ่ายค่านายหน้า(commission)หรือค่าตัวแทนขายให้กับทางเว็บไซต์นั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการตลาดแบบนี้จะให้บริษัทกลาง (Affiliate Network) เป็นบริษัทที่ช่วยจัดการระหว่าง Affiliate Site กับ Merchant Site นอกจากนี้ผู้ที่ช่วยโฆษณาบางรายอาจใช้ Google Adwords เพื่อจัดทำโฆษณาให้แทน โดยไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง การเลือกเครื่องมือที่มาช่วยในการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ต สิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจเองหรือนักการตลาดใช้ในการวัดประเมินผลว่าเครื่องมือทางการตลาดนั้นๆมีประสิทธิภาพมากเพียงใด คือ ผลจากค่าของ ROI(Return On Investment) ซึ่งก็คือ ผลตอบแทนการลงทุนทางการตลาด หมายถึง “การตลาดที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาต้นทุนของกิจกรรมทางการตลาดเปรียบเทียบกับกำไรที่ได้รับ” ในระหว่างปี 2551 ที่ผ่านมา ทาง MarketingSherpaร่วมกับ ad:tech ทำการสำรวจนักการตลาด 1,200 คน ซึ่งผลการสำรวจได้แสดงจำนวนเปอร์เซ็นต์การเลือกใช้งานและผลทางด้าน ROI ของเครื่องมือต่างๆที่ใช้ในการตลาดบนอินเตอร์ ดังกราฟในรูปที่ 4 เพื่อเป็นประโยชน์ในการวางแผนการตลาดในปี 2552 นี้จากภาพกราฟในรูป แกนตั้งแสดงถึงจำนวนเปอร์เซ็นต์การเลือกนำมาใช้ในการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ต ส่วนแกนนอนแสดงเปอร์เซ็นต์ของ ROI ของเครื่องมือนั้นๆ ซึ่งจะพบว่า Paid Search ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ให้ผลทางด้าน ROI มากที่สุด นักการตลาดเองเห็นว่าให้ผลสูงเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งนิยมนำมาใช้งานกันอย่างมาก เนื่องจากผู้ใช้อินเตอร์ในปัจจุบันเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่ค้นหาข้อมูลจากเว็บเสิร์ชเอนจิน House Email ได้ให้ผลทางด้าน ROI ในอัตราสูงเช่นกันรองจาก Paid Search และยังเป็นที่นิยมมากที่สุดของนักการตลาด เนื่องจากการส่งอีกเมลล์ไปยังสมาชิกหรือผู้สมัครนั้นสามารถดำเนินการเองได้ อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าการลงทุนสูง SEO (Search Engine Optimization) เป็นเครื่องมือที่ให้ผลดีเช่นกัน เพราะเป็นการทำให้เว็บไซต์ของตนติดในอันดับต้นๆของเว็บเสิร์ชเอนจิน คล้ายกับ Paid Search Behavioral Targeting เป็นการโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จึงทำให้มีผลด้าน ROI สูง แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก จึงอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการลงโฆษณาปกติ ติดตามพฤติกรรมของผู้ชมเว็บไซต์ว่ามีการเข้าเว็บไซต์ใดบ้าง อย่างไรจาก Cookie โดยอาศัย Advertising Network ผู้ลงโฆษณาจะต้องติดต่อผ่านบริษัท Advertising Network ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะลงโฆษณาที่หน้าเว็บไหนบ้าง ซึ่งในประเทศไทยยังใช้กันไม่เยอะนัก จะใช้วิธีการลงโฆษณาในจุดที่ทราบว่าผู้ชมจะเข้ามาต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ทราบแน่นอน Affiliate Marketing เป็นการตลาดที่ค่อนข้างนิยมกันมานานในต่างประเทศ ซึ่งให้ผลด้าน ROI สูง เนื่องจากมีการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาก็ต่อเมื่อสามารถขายสินค้าหรือบริการได้แล้วเท่านั้น Text-List Ads เป็นการโฆษณาที่พบเห็นอยู่มากในเว็บไซต์ทั่วไป เนื่องจากทางเว็บไซต์ที่ให้ลงโฆษณานั้นเห็นว่าไม่ได้เป็นโฆษณาที่รบกวนผู้ชมเว็บไซต์ของเขามากจนเกินไป Contextual Targeting ในการทำการตลาดลงโฆษณาจำพวก Display Advertising หรือ Rich Media Advertising นั้น ทางนักการตลาดจะนิยมเลือกลงในเว็บไซต์ที่มีบริบทเนื้อหาสัมพันธ์กับโฆษณานั้นด้วย จึงยังคงนำมาใช้ในการตลาดอยู่ในขณะนี้ เจ๊จีนพบว่าโฆษณามีข้อมูลหรือเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน ซึ่งการลงโฆษณาแบบนี้พบเห็นได้เป็นประจำ Rich media/Video Ads จะได้ผลทาง ROI มากกว่าภาพแบนเนอร์ธรรมดา เนื่องจากการมีภาพกราฟฟิกเคลื่อนไหวและมีเสียงนั้น จะดึงดูดผู้ชมให้สนใจได้มากกว่า Banner Ads เป็นการโฆษณาที่ได้รับความนิยมตลอดมา เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่เว็บไซต์ทั่วไปที่รับลงโฆษณาสามารถรองรับได้อยู่แล้ว แต่ได้ผลทางด้าน ROI ต่ำ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง Rented Emails List หรือ Email to third party (rented) Lists เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มักจะยังคงนิยมทำการตลาดแบบนี้ แต่ผลทางด้าน ROI จะต่ำเนื่องจากผู้ได้รับอีเมลล์ส่วนใหญ่จะไม่ให้ความสนใจกับเว็บไซต์ที่ไม่รู้จักมากนัก Pop-ups/Pop-undersปัจจุบันนักการตลาดไม่นิยมเลือกใช้ เนื่องด้วยผู้ใช้เว็บสามารถตั้งค่าให้ browser ปิดกั้นรับ Pop-up ได้ และค่าใช้จ่ายในการโฆษณาสูงมากด้วย ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จึงทำให้การตลาดบนอินเตอร์เน็ตก้าวหน้าตามไปด้วยเช่นกัน มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาสนับสนุนและปรับปรุงการตลาดให้แต่ละธุรกิจได้ตลอด ดังนั้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไปการตลาดบนอินเตอร์เน็ตจะยังคงเป็นที่นิยมและมีการเติบโตมากขึ้น เพื่อนๆได้นำเครื่องมือเหล่านี้ไปช่วยในการทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต