Recommended
Recommended
More Related Content
Featured
Featured (20)
Gerd gr.c
- 1. กรดไหลย้อน
- 2. โรคกรดไหลย้อน (Gastro-esophageal Reflux Disease, GERD) หมายถึงโรคที่มีอาการจากการไหล ย้อนกลับของกรดหรือน้าย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปในหลอด อาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ
- 4. สาเหตุ • หลอดอาหารส่วนปลายมีการคลายตัวอย่างผิดปกติ • ความดันของหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายลดลงต่ากว่าปกติ • กระเพาะอาหารหรือหลอดอาหารบีบตัวอย่างผิดปกติ • พันธุกรรม ในคนบางคน หูรูดหลอดอาหารทางานได้น้อย
- 5. ปัจจัยเสี่ยง • กินจุบกินจิบ • กินอาหารไม่เป็นเวลาและเร่งรีบ • รวมถึงผู้ชอบอาหารรสจัด • ดื่มเหล้า • สูบบุหรี่ • ทานอาหารมากจนอิ่มเกินไป
- 14. เจ็บแน่นหน้าอกจาก หัวใจขาดเลือด เฉียบพลัน - ยาลดกรดไม่สามารถบรรเทาอาการเจ็บแน่น หน้าอกภายในเวลา 10-15 นาที - มีอาการอื่นร่วมด้วย หายใจลาบาก เหงื่อออก หน้ามืด เป็นลม อ่อนแรงไปทั่ว
- 15. เจ็บแน่นหน้าอก จากกรดไหลย้อน - เป็นต่อเนื่องนาน หลายชั่วโมง - สัมพันธ์กับมื้ ออาหาร - อาการบรรเทาได้ด้วย ยาลดกรด
- 16. - ปวดแสบปวดร้อนบริเวณหน้าอก ลิ้นปี่ - คล้ายมีก้อนในคอ - กลืนลาบาก กลืนติด กลืนเจ็บ - เจ็บคอ แสบปาก แสบลิ้นเรื้อรัง - ขมหรือเปรี้ยวในปาก, คอ - เรอบ่อย - อาหารหรือน้าย่อยไหลย้อนขึ้นมาในคอ - จุกแน่นในคอหรือหน้าอก อาการทางกล่องเสียง หลอดลม และปอด - เสียงแหบเรื้อรัง หรือแหบตอนเช้า - เสียงผิดไปจากเดิม - ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะหลังทานข้าว - กระแอมไอบ่อย - หอบหืดที่เคยเป็นแย่ลง - ปอดอักเสบเป็นๆหายๆ
- 17. -เซลล์ในหลอดอาหาร ย้ายขึ้นมาที่กระเพาะ อาหาร (Barret’s esophagus) เซลล์อยู่ผิดที่ กลายเป็นมะเร็งได้ - แผลที่หลอดอาหาร - แผลเป็นจนทาให้ตีบ - มะเร็งที่หลอดอาหาร - ปัญหาทางทางเดินหายใจ • เสียงแหบ • ไอเรื้อรัง • หอบหืด • สาลัก • ปอดบวม
- 18. การรักษาโดยการใช้ยา การรักษาโดยการใช้ยานั้น เป้ าหมายคือเพื่อการรักษาอาการอักเสบของหลอดอาหาร และช่วย บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนเท่านั้น ไม่ได้ลดอาการโดยสิ้นเชิล การปรับพฤติกรรมจึงนับว่าสาคัญยิ่ง !!! กลุ่มยาที่ใช้ ยาลดกรด เช่น Omeprazole Ranitidine
- 19. การผ่าตัด
- 20. การผ่าตัด วิธีการทา คือ การเอากระเพาะส่วนต้น มารัดรอบบริเวณหลอดอาหาร ส่วนล่าง เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้กรดไหลย้อน (เสมือนเอาหนังยางรัด) เป็นการผ่าตัดโดยการส่องกล้อง แผลขนาดเล็ก การผ่าตัดถือว่าได้ผลในการรักษาดีมาก แต่ก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน เช่น จุกแน่น ผายลม เรอ ง่ายขึ้นกว่าปกติ เป็นต้น รวมถึงความเสี่ยงในการผ่าตัด ต่างๆ เช่นการดมยาสลบ เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะบางครั้งก็ไม่จาเป็นต้องทาการผ่าตัดเสมอไป
- 25. •อาหารทอด หรืออาหารมัน •กาแฟ รวมทั้งกาแฟไม่มีคาเฟอีน ที่สามารถเพิ่มปริมาณกรดใน กระเพาะอาหาร •ชา และเครื่องดื่มโคล่า ที่สามารถเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร •เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยเฉพาะไวน์แดง •กระเทียม •พืชตระกูลหอม เช่น หอมใหญ่ ต้นหอม
- 27. •เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ได้แก่ ชา กาแฟ น้าโซดา •กาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน
- 28. •น้าที่คั้นจากพืชตระกูลส้ม และพืชตระกูลส้ม ได้แก่ ส้ม เลมอน ส้มโอ และมะนาว •มะเขือเทศ และผลิตภัณฑ์ของมะเขือเทศ •พืชตระกูลพริก เช่น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้ า พริกหยวก และพริกหวาน เป็นต้น •พริกไทย
- 30. •เคี้ยวหมากฝรั่ง แน่นอนต้องไม่มีมินท์ผสมอยู่ •รับประทานยาลดกรด หรืออมยาอม •ดื่มน้าเพื่อช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร และล้าง กรดที่เคลือบหลอดอาหารออก
- 33. นศพ.ขวัญหทัย หงษ์พนัส 5214006 นศพ.จิตต์ศจี สิชฌนุกฤษฏ์ 5214012 นศพ.ณัฐพล ตรีวิภานนท์ 5214023 นศพ.นวรัตน์ กาญจนกิตตชัย 5214034 นศพ.วนวัชร วิเชียรนพรัตน์ 5214063 นศพ.ศุภณัฐ เกรียงไกรรัตน์ 5214073