SlideShare a Scribd company logo
1 of 13
การจัดกลุ่มเว็บเว็บเพจคืออะไร
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
การค้นหาข้อมูลบน
อินเทอร์เน็ต
เว็บเพจคืออะไร
เว็บเพจ (webpage) คือหน้าต่างที่สามารถแสดง
ข้อมูลตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ เพลง หรือวีดีโอ โดยใน
ทุกหน้างต่างที่มีข้อมูลเหล่านี้ภายในเว็บไซต์นั้น จะถูก
เรียกว่า webpage ซึ่งสร้างด้วยภาษา HTML
(Hyper Text Markup Language) เป็น
โครงสร้าง และมีภาษาอื่น ๆ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องตาม
ความต้องการของเจ้าของเว็บไซต์ซึ่งอาจจะทาเอง หรือ
จ้างผู้พัฒนาเว็บไซต์ ภาษาเหล่านี้ได้แก่ ภาษา PHP
ภาษา SQL เป็นต้น
เว็บเพจ เปรียบเสมือนหน้าในของหนังสือทุก ๆ
หน้า ที่มีเนื้อหา และรูปภาพ เพื่อแสดงข้อมูลให้กับ
ผู้อ่าน สาหรับเว็บเพจก็แสดงข้อมูลให้กับผู้เยี่ยม
ชมเว็บไซต์ นอกจากข้อความ และรูปภาพที่มีอยู่ใน
เว็บเพจแล้ว สิ่งที่มีอยู่ภายในเว็บเพจอีกอย่างก็
คือ Hyperlink ซึ่งทาหน้าที่เชื่อมโยง เว็บเพจ เข้า
หากัน เพียงแค่เราคลิกที่ Hyperlink ในเว็บเพจ ก็
จะปรากฏหน้าเว็บเพจใหม่ที่มีการเชื่อมโยงไปถึง
การจัดกลุ่มเว็บ
ชื่อโดเมน หรือ โดเมนเนม (domain name) คือ
อะไร
โดเมนเนม ความหมายโดยทั่วๆ ไป หมายถึง
ชื่อเว็บไซต์ ชื่อบล็อก ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้จดจาและ
นาไปใช้งานได้ง่าย ทั้งในการเข้าชมผ่านบราวเซอร์ของ
ผู้ใช้ทั่วไป ยังรวมไปถึงผู้ดูแลระบบโดเมนเนมซีสเทม ที่
สามารถแก้ไขไอพีแอดเดรสของชื่อโดเมนเนมนั้นๆ ได้
ทันทีโดยที่ผู้ใช้ทั่วไปไม่จาเป็นต้องรับรู้หรือจดจาไอพี
แอดเดรสที่มีการเปลี่ยนแปลง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทา
หน้าที่เผยแพร่เว็บไซต์ จะมีโดนเมนเนมเฉพาะไม่ซ้ากับ
ใคร
โดนเมนเนม มีด็อทอยู่หลายประเภทแต่ที่นิยมมากที่สุด
นั้นก็คือ .com เพราะเป็นด็อทในยุคแรกๆ ที่เริ่มใช้กัน
และง่ายต่อการจดจา
ประเภทของ Domain Name แบ่งได้เป็น
2 ประเภท
1. โดเมน 2 ระดับ ชื่อโดเมน . ประเภท
ของโดเมน
2. โดเมน 3 ระดับ ชื่อโดเมน . ประเภท
ของโดเมน . ประเทศ
โดนเมนเนม 2 ระดับ
จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของ
โดเมน เช่น www.obec.go.th
ประเภทของโดเมน คือ คาย่อขององค์กร โดยประเภท
ขององค์กรที่พบบ่อย มีดังต่อไปนี้
* .com คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
* .org คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกาไร
* .net คือ องค์กรที่เป็นเกตเวย์ หรือ
จุดเชื่อมต่อเครือข่าย
* .edu คือ สถาบันการศึกษา
* .gov คือ องค์กรของรัฐบาล
* .mil คือ องค์กรทางทหาร
โดนเมนเนม 3 ระดับ
จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของ
โดเมน . ประเทศ
เช่น www.srru.ac.th, www.google.co.th
โปรแกรม Internet Explorer เป็น
โปรแกรม Browser ที่ใช้สาหรับอ่าน และดูเอกสาร
ในรูปแบบ Web Page โดยสามารถเปิดเอกสาร
ผ่านระบบเครือข่าย
(Internet และ Intranet) โปรแกรม Web
Browser เป็นโปรแกรมในการรับส่งข้อมูลของโลก
เราในทุกวันนี้ที่ได้รับความนิยมกันมาก ซึ่งมีหลาย
องค์กรที่พัฒนาโปรแกรมเหล่านี้และกลายเป็นที่นิยม
และรู้จักกันดี เช่น Microsoft ได้พัฒนา
โปรแกรม Browser ชื่อ Internet
Explorer ส่วน Netscape ได้พัฒนา Web
Browser ชื่อ Netscape Navigator
โปรแกรม Internet Explorer นั้นเป็น
โปรแกรมประเภท Freeware ซึ่งสามารถ
ดาว์นโหลดได้ที่เว็บไซด์ ของ บริษัท
ไมโครซอฟท์ http://www.microsoft.com แ
ละถ้าคุณลงวินโดว์เวอร์ชั่นตั้งแต่ Window98
ขึ้นไป จะมี โปรแกรม Internet Explorer ถูก
ติดตั้งมาด้วย
ทำควำมรู ้จักกับ Internet Explorer
โปรแกรม Internet Explorer เป็นโปรแกรม
ประเภท Web Browser ที่ใช้เรียกดูเอกสาร
ประเภท Hypertext Markup
Language หรือ HTML
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
เข้ำสู่โปรแกรม InternetExplorer
หลังจากที่เครื่องคอมพิวเตอร์ติดต่อกับ
อินเตอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว การเปิด
โปรแกรม Internet Explorer เพื่อท่องไปยังเว็บ
ไซท์ต่างๆ ได้ดังนี้
ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Internet
Explorer บน Desktop หรือ คลิกปุ่ม Start >
Programs และเลือก Internet Explorer
รอการโหลดเว็บเพจ คุณจะพบกับโฮมเพจของ
บริษัทไมโครซอฟท์ หรือหน้าแรกที่คุณตั้งไว้
หน้ำที่ของปุ่ มต่ำง ๆ
ปุ่ม Back ใช้สาหรับย้อนกลับไปหน้าที่ผ่านมาแล้ว
ปุ่ม Forward ใช้สาหรับเปลี่ยนไปหน้าต่อไป (หลังจากที่ย้อนกลับมา)
ปุ่ม Stop ใช้สาหรับหยุดการโหลดข้อมูลในหน้าเว็บเพจนั้น
ปุ่ม Refresh ใช้สาหรับการเรียกโหลดข้อมูลหน้าเว็บเพจใหม่อีกครั้ง
ปุ่ม Home ใช้สาหรับกลับไปหน้าแรกหรือกลับไปที่ URL ที่ตั้งไว้ให้ เป็นหน้าแรก
ปุ่ม Search ใช้สาหรับค้นหาเว็บไซต์
ปุ่ม Favorites ใช้สาหรับเลือกเว็บไซต์จาก Favorites หรือ Book Mark
ปุ่ม History ใช้สาหรับการย้อนกลับไปดูเว็บไซต์ที่เคยเข้าไปดูมาแล้ว
ปุ่ม Mail ใช้สาหรับการ รับ-ส่ง อีเมล์
ปุ่ม Print ใช้สาหรับการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์
ปุ่ม Edit ใช้สาหรับการแก้ไขหน้าเว็บเพจนั้น ๆ
การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
กำรนำควำมรู ้เกี่ยวกับ
อินเทอร ์เน็ต มาประยุกต์ใช้ในการศึกษาหา
ความรู้ ได้แก่ การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยการ
ใช้งานอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการศึกษานี้จะสามารถแบ่ง
เนื้อหาออกเป็น 3 ระดับดังนี้
1. การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
2. การนาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน
3. การสร้างแหล่งข้อมูลด้วยตนเอง
กำรค้นคว้ำด้วยกำรใช้ Search
Engine
การใช้งานงานอินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้กันอย่าง
มาก จะได้แก่การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อหา
ความรู้ แต่การเข้าเยี่ยมชมนั้น ในกรณีที่เรารู้ว่าเว็บไซต์
เหล่านั้นมีชื่อว่าอะไร เนื้อหาของเว็บ มุ่งเน้นเกี่ยวกับสิ่ง
ใด เราสาสามารถที่จะเข้าเยี่ยมชมได้ทันที่ แต่ในกรณีที่
เราไม่ทราบชื่อเว็บเหล่านั้น แต่เรามีความต้องการที่จะ
ค้นหาเนื้อหาบางอย่าง มีวิธีการจะเข้าสืบค้นข้อมูล
ได้ โดยการใช้ความสามารถของ Search Engine
Search Engine จะมีหน้าที่รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์
ต่างๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่ ผู้ใช้งานเพียงแต่
ทราบหัวข้อที่ต้องการค้นหาแล้วป้อน คาหรือข้อความ
ของหัวข้อนั้นๆ ลงไปในช่องที่กาหนด คลิกปุ่มค้นหา
เท่านั้น ข้อมูลอย่างย่อๆ และรายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
จะปรากฏให้เราเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ทันที Search
Engine แต่ละแห่งมีวิธีการและการจัดเก็บฐานข้อมูล
ที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ Search
Engine ที่แต่ละเว็บไซต์นามาใช้เก็บรวบรวม
ข้อมูล ดังนั้นการที่จะเข้าไปหาข้อโดย
วิธีการ Search นั้น อย่างน้อยเราจะต้องทราบ
ว่า เว็บไซต์ที่จะเข้าไปใช้บริการ ใช้วิธีการหรือ ประเภท
ของ Search Engine อะไร เนื่องจากแต่ละประเภท
มีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป
ประเภทของ Search Engine
1. Keyword Index
2. Subject Directories
3. Metasearch Engines
Keyword Index เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้น
จากข้อความในเว็บเพจที่ได้ผ่านการสารวจมาแล้ว จะ
อ่านข้อความ ข้อมูล ประมาณ 200-300 ตัวอักษร
แรกของเว็บเพจ วิธีการค้นหาของ Search
Engine ประเภทนี้จะให้ความสาคัญกับการ
เรียงลาดับข้อมูลก่อนหลัง การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการ
เช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการ
จัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้
คานึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่ถ้า
ต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล การค้นหาแบบนี้
จะเหมาะสมที่สุด เว็บที่ให้บริการ Search
Engine แบบ Keyword Index ได้แก่เว็บ
http://www.google.com/ http://www.altavi
sta.com/
Subject Directories การจาแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search
Engine ประเภทนี้จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ของแต่
ละเว็บเพจ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้
คนพิจารณาเว็บเพจ แต่ละเว็บ แล้วทาการจัดหมวดหมู่ โดยจะ
ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บ
ข้อมูลนั้นๆ อยู่ในกลุ่มของอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search
Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนามา
เป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป
http://www.thaiwebhunter.com/ http://www.san
ook.com
Metasearch Engines จะเป็น Search Engine ที่
ใช้ในการค้นหาเว็บ ด้วยตัวของ Search
Engine แบบ Metasearch Engines เองแล้ว แต่ที่
เด่นกว่านั้นคือ Search Engine แบบ Metasearch
Engines จะยังสามารถเชื่อมโยงไปยัง Search
Engine ประเภทอื่นๆ เพื่อเรียกดูข้อมูลที่ Search
Engine อื่นๆ ค้นพบ โดยสังเกตได้จากจะมีคาว่า
[Found on Google, Yahoo!] ต่อทางด้านท้าย นั้นก็
หมายความว่าการค้นหาข้อความนั้นๆ มาการเชื่อมโดยไป
ค้นข้อมูลจาก เว็บ Google และ Yahoo
แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้
ความสาคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษรและมักจะไม่
ค้นหาคาประเภท Natural Language (ภาษาพูด)
และที่สาคัญ Search Engine แบบ Metasearch
Engines ส่วนมากไม่รองรับภาษาไทย
http://www.dogpile.com http://www.kartoo.c
om/
การสืบค้นข้อมูลแบบใช้คีย์เวิร์ด
การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด ใช้ในกรณีที่ต้องการค้น
ข้อมูลโดยใช้คาที่มีความหมายตรงกับความ
ต้องการ โดยมากจะนิยมใช้คาที่มีความหมายใกล้เคียง
กับเนื้อเรื่องที่จะสืบค้นข้อมูล
การสืบค้นข้อมูล การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด มีวิธีการ
ค้นหาได้ดังนี้
1. เปิดเว็บเพจ ที่ให้บริการในการสืบค้น
ข้อมูล โดยพิมพ์ช่องเว็บที่ช่อง Address
www.google.co.th เป็นเว็บที่ใช้สืบค้นข้อมูล
ของต่างประเทศ ข้อดีคือ ค้นหาง่าย เร็ว
www.yahoo.com เป็นเว็บที่ใช้สืบค้นที่ดีตัวหนึ่ง
ซึ่งค้นหาข้อมูลง่าย และข้อเด่นคือภายในเว็บ
ของ www.yahoo.com เองจะมีฟรีเว็บไซต์ ที่
รู้จักกันในนาม http://www.geocities.com ซึ่ง
มีจานวนหลาย100000 เว็บ ให้ค้นหาข้อมูลเอง
โดยเฉพาะ
www.sanook.com เป็นเว็บของคนไทย
www.siamguru.com เป็นเว็บของคนไทย
ในตัวอย่างจะเปิดเว็บ www.sanook.com
2. ที่ช่อง ค้นหา พิมพ์ข้อความต้องการจะค้นหา ใน
ตัวอย่างจะพิมพ์คาว่า วิทยาศาสตร์
3. คลิกปุ่ม ค้น
4. จากนั้นจะปรากฏรายชื่อของเว็บที่มีข้อมูล
5. คลิกเว็บที่จะเรียกดูข้อมูล
E book2

More Related Content

What's hot

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtml
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtmlความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtml
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtmlรออีซัน ลอตง
 
คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004
คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004
คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004kernger99
 
Wd ch01 p20_01
Wd ch01 p20_01Wd ch01 p20_01
Wd ch01 p20_01chiton2535
 
คู่มือการใช้งาน Google
คู่มือการใช้งาน  Googleคู่มือการใช้งาน  Google
คู่มือการใช้งาน GoogleKruthai Kidsdee
 
เทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
เทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
เทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตI'June Jindawong
 
Internet3
Internet3Internet3
Internet3mod2may
 
Greenstone From Paper to Digital Collection
GreenstoneFrom Paper to Digital CollectionGreenstoneFrom Paper to Digital Collection
Greenstone From Paper to Digital CollectionSatapon Yosakonkun
 
เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...
เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...
เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...Thanakorn Sirikit
 

What's hot (18)

Lernning 11
Lernning 11Lernning 11
Lernning 11
 
E book flip5555
E book flip5555E book flip5555
E book flip5555
 
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtml
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtmlความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtml
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตHtml
 
06 it
06 it06 it
06 it
 
คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004
คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004
คู่มือการสร้างเว็บDreammx2004
 
Wd ch01 p20_01
Wd ch01 p20_01Wd ch01 p20_01
Wd ch01 p20_01
 
คู่มือการใช้งาน Google
คู่มือการใช้งาน  Googleคู่มือการใช้งาน  Google
คู่มือการใช้งาน Google
 
คู่มือE book
คู่มือE bookคู่มือE book
คู่มือE book
 
Ebook flip
Ebook flipEbook flip
Ebook flip
 
เทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
เทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
เทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
 
Html
HtmlHtml
Html
 
Internet3
Internet3Internet3
Internet3
 
4 html
4 html4 html
4 html
 
Dokuwiki Manual
Dokuwiki ManualDokuwiki Manual
Dokuwiki Manual
 
Greenstone From Paper to Digital Collection
GreenstoneFrom Paper to Digital CollectionGreenstoneFrom Paper to Digital Collection
Greenstone From Paper to Digital Collection
 
Joomla
JoomlaJoomla
Joomla
 
e-commerce unit1 by Ramase
e-commerce unit1 by Ramasee-commerce unit1 by Ramase
e-commerce unit1 by Ramase
 
เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...
เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...
เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิท...
 

Similar to E book2

Internet2
Internet2Internet2
Internet2mod2may
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)Prapatsorn Keawnoun
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2pom_2555
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ตหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ตPrapatsorn Keawnoun
 
End note x2 by pathumtip
End note x2  by pathumtipEnd note x2  by pathumtip
End note x2 by pathumtipyunhooppa
 
ออกแบบ
ออกแบบออกแบบ
ออกแบบJiJee Pj
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ไกรลาศ จิบจันทร์
 
ใบความรู้ 5
ใบความรู้ 5ใบความรู้ 5
ใบความรู้ 5Tharasin
 
บทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ
บทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศบทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ
บทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศBeauso English
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตเขมิกา กุลาศรี
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)Prapatsorn Keawnoun
 

Similar to E book2 (20)

Internet2
Internet2Internet2
Internet2
 
Website
WebsiteWebsite
Website
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไข)
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2
 
เวิลด์ไวด์เว็บ
เวิลด์ไวด์เว็บเวิลด์ไวด์เว็บ
เวิลด์ไวด์เว็บ
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ตหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต
 
End note x2 by pathumtip
End note x2  by pathumtipEnd note x2  by pathumtip
End note x2 by pathumtip
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
 
ออกแบบ
ออกแบบออกแบบ
ออกแบบ
 
Websitebasic
WebsitebasicWebsitebasic
Websitebasic
 
งานเมย์
งานเมย์งานเมย์
งานเมย์
 
งานเมย์
งานเมย์งานเมย์
งานเมย์
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์
 
ใบความรู้ 5
ใบความรู้ 5ใบความรู้ 5
ใบความรู้ 5
 
Common
CommonCommon
Common
 
Websitebasic
WebsitebasicWebsitebasic
Websitebasic
 
บทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ
บทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศบทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ
บทที่ 7 เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ
 
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เน็ต
 
คู่มือ Word
คู่มือ Wordคู่มือ Word
คู่มือ Word
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)หน่วยการเรียนรู้ที่ 4  อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 อินเทอร์เน็ต(แก้ไขแล้ว)
 

E book2

  • 2. เว็บเพจคืออะไร เว็บเพจ (webpage) คือหน้าต่างที่สามารถแสดง ข้อมูลตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ เพลง หรือวีดีโอ โดยใน ทุกหน้างต่างที่มีข้อมูลเหล่านี้ภายในเว็บไซต์นั้น จะถูก เรียกว่า webpage ซึ่งสร้างด้วยภาษา HTML (Hyper Text Markup Language) เป็น โครงสร้าง และมีภาษาอื่น ๆ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องตาม ความต้องการของเจ้าของเว็บไซต์ซึ่งอาจจะทาเอง หรือ จ้างผู้พัฒนาเว็บไซต์ ภาษาเหล่านี้ได้แก่ ภาษา PHP ภาษา SQL เป็นต้น เว็บเพจ เปรียบเสมือนหน้าในของหนังสือทุก ๆ หน้า ที่มีเนื้อหา และรูปภาพ เพื่อแสดงข้อมูลให้กับ ผู้อ่าน สาหรับเว็บเพจก็แสดงข้อมูลให้กับผู้เยี่ยม ชมเว็บไซต์ นอกจากข้อความ และรูปภาพที่มีอยู่ใน เว็บเพจแล้ว สิ่งที่มีอยู่ภายในเว็บเพจอีกอย่างก็ คือ Hyperlink ซึ่งทาหน้าที่เชื่อมโยง เว็บเพจ เข้า หากัน เพียงแค่เราคลิกที่ Hyperlink ในเว็บเพจ ก็ จะปรากฏหน้าเว็บเพจใหม่ที่มีการเชื่อมโยงไปถึง
  • 3. การจัดกลุ่มเว็บ ชื่อโดเมน หรือ โดเมนเนม (domain name) คือ อะไร โดเมนเนม ความหมายโดยทั่วๆ ไป หมายถึง ชื่อเว็บไซต์ ชื่อบล็อก ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้จดจาและ นาไปใช้งานได้ง่าย ทั้งในการเข้าชมผ่านบราวเซอร์ของ ผู้ใช้ทั่วไป ยังรวมไปถึงผู้ดูแลระบบโดเมนเนมซีสเทม ที่ สามารถแก้ไขไอพีแอดเดรสของชื่อโดเมนเนมนั้นๆ ได้ ทันทีโดยที่ผู้ใช้ทั่วไปไม่จาเป็นต้องรับรู้หรือจดจาไอพี แอดเดรสที่มีการเปลี่ยนแปลง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทา หน้าที่เผยแพร่เว็บไซต์ จะมีโดนเมนเนมเฉพาะไม่ซ้ากับ ใคร โดนเมนเนม มีด็อทอยู่หลายประเภทแต่ที่นิยมมากที่สุด นั้นก็คือ .com เพราะเป็นด็อทในยุคแรกๆ ที่เริ่มใช้กัน และง่ายต่อการจดจา ประเภทของ Domain Name แบ่งได้เป็น 2 ประเภท 1. โดเมน 2 ระดับ ชื่อโดเมน . ประเภท ของโดเมน 2. โดเมน 3 ระดับ ชื่อโดเมน . ประเภท ของโดเมน . ประเทศ
  • 4. โดนเมนเนม 2 ระดับ จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของ โดเมน เช่น www.obec.go.th ประเภทของโดเมน คือ คาย่อขององค์กร โดยประเภท ขององค์กรที่พบบ่อย มีดังต่อไปนี้ * .com คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์ * .org คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกาไร * .net คือ องค์กรที่เป็นเกตเวย์ หรือ จุดเชื่อมต่อเครือข่าย * .edu คือ สถาบันการศึกษา * .gov คือ องค์กรของรัฐบาล * .mil คือ องค์กรทางทหาร โดนเมนเนม 3 ระดับ จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของ โดเมน . ประเทศ เช่น www.srru.ac.th, www.google.co.th
  • 5. โปรแกรม Internet Explorer เป็น โปรแกรม Browser ที่ใช้สาหรับอ่าน และดูเอกสาร ในรูปแบบ Web Page โดยสามารถเปิดเอกสาร ผ่านระบบเครือข่าย (Internet และ Intranet) โปรแกรม Web Browser เป็นโปรแกรมในการรับส่งข้อมูลของโลก เราในทุกวันนี้ที่ได้รับความนิยมกันมาก ซึ่งมีหลาย องค์กรที่พัฒนาโปรแกรมเหล่านี้และกลายเป็นที่นิยม และรู้จักกันดี เช่น Microsoft ได้พัฒนา โปรแกรม Browser ชื่อ Internet Explorer ส่วน Netscape ได้พัฒนา Web Browser ชื่อ Netscape Navigator โปรแกรม Internet Explorer นั้นเป็น โปรแกรมประเภท Freeware ซึ่งสามารถ ดาว์นโหลดได้ที่เว็บไซด์ ของ บริษัท ไมโครซอฟท์ http://www.microsoft.com แ ละถ้าคุณลงวินโดว์เวอร์ชั่นตั้งแต่ Window98 ขึ้นไป จะมี โปรแกรม Internet Explorer ถูก ติดตั้งมาด้วย ทำควำมรู ้จักกับ Internet Explorer โปรแกรม Internet Explorer เป็นโปรแกรม ประเภท Web Browser ที่ใช้เรียกดูเอกสาร ประเภท Hypertext Markup Language หรือ HTML การใช้โปรแกรม Internet Explorer
  • 6. เข้ำสู่โปรแกรม InternetExplorer หลังจากที่เครื่องคอมพิวเตอร์ติดต่อกับ อินเตอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว การเปิด โปรแกรม Internet Explorer เพื่อท่องไปยังเว็บ ไซท์ต่างๆ ได้ดังนี้ ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Internet Explorer บน Desktop หรือ คลิกปุ่ม Start > Programs และเลือก Internet Explorer รอการโหลดเว็บเพจ คุณจะพบกับโฮมเพจของ บริษัทไมโครซอฟท์ หรือหน้าแรกที่คุณตั้งไว้ หน้ำที่ของปุ่ มต่ำง ๆ ปุ่ม Back ใช้สาหรับย้อนกลับไปหน้าที่ผ่านมาแล้ว ปุ่ม Forward ใช้สาหรับเปลี่ยนไปหน้าต่อไป (หลังจากที่ย้อนกลับมา) ปุ่ม Stop ใช้สาหรับหยุดการโหลดข้อมูลในหน้าเว็บเพจนั้น ปุ่ม Refresh ใช้สาหรับการเรียกโหลดข้อมูลหน้าเว็บเพจใหม่อีกครั้ง ปุ่ม Home ใช้สาหรับกลับไปหน้าแรกหรือกลับไปที่ URL ที่ตั้งไว้ให้ เป็นหน้าแรก ปุ่ม Search ใช้สาหรับค้นหาเว็บไซต์ ปุ่ม Favorites ใช้สาหรับเลือกเว็บไซต์จาก Favorites หรือ Book Mark ปุ่ม History ใช้สาหรับการย้อนกลับไปดูเว็บไซต์ที่เคยเข้าไปดูมาแล้ว ปุ่ม Mail ใช้สาหรับการ รับ-ส่ง อีเมล์ ปุ่ม Print ใช้สาหรับการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์ ปุ่ม Edit ใช้สาหรับการแก้ไขหน้าเว็บเพจนั้น ๆ
  • 7. การค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต กำรนำควำมรู ้เกี่ยวกับ อินเทอร ์เน็ต มาประยุกต์ใช้ในการศึกษาหา ความรู้ ได้แก่ การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยการ ใช้งานอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการศึกษานี้จะสามารถแบ่ง เนื้อหาออกเป็น 3 ระดับดังนี้ 1. การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต 2. การนาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน 3. การสร้างแหล่งข้อมูลด้วยตนเอง กำรค้นคว้ำด้วยกำรใช้ Search Engine การใช้งานงานอินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้กันอย่าง มาก จะได้แก่การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อหา ความรู้ แต่การเข้าเยี่ยมชมนั้น ในกรณีที่เรารู้ว่าเว็บไซต์ เหล่านั้นมีชื่อว่าอะไร เนื้อหาของเว็บ มุ่งเน้นเกี่ยวกับสิ่ง ใด เราสาสามารถที่จะเข้าเยี่ยมชมได้ทันที่ แต่ในกรณีที่ เราไม่ทราบชื่อเว็บเหล่านั้น แต่เรามีความต้องการที่จะ ค้นหาเนื้อหาบางอย่าง มีวิธีการจะเข้าสืบค้นข้อมูล ได้ โดยการใช้ความสามารถของ Search Engine
  • 8. Search Engine จะมีหน้าที่รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ ต่างๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่ ผู้ใช้งานเพียงแต่ ทราบหัวข้อที่ต้องการค้นหาแล้วป้อน คาหรือข้อความ ของหัวข้อนั้นๆ ลงไปในช่องที่กาหนด คลิกปุ่มค้นหา เท่านั้น ข้อมูลอย่างย่อๆ และรายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง จะปรากฏให้เราเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ทันที Search Engine แต่ละแห่งมีวิธีการและการจัดเก็บฐานข้อมูล ที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ Search Engine ที่แต่ละเว็บไซต์นามาใช้เก็บรวบรวม ข้อมูล ดังนั้นการที่จะเข้าไปหาข้อโดย วิธีการ Search นั้น อย่างน้อยเราจะต้องทราบ ว่า เว็บไซต์ที่จะเข้าไปใช้บริการ ใช้วิธีการหรือ ประเภท ของ Search Engine อะไร เนื่องจากแต่ละประเภท มีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป ประเภทของ Search Engine 1. Keyword Index 2. Subject Directories 3. Metasearch Engines
  • 9. Keyword Index เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้น จากข้อความในเว็บเพจที่ได้ผ่านการสารวจมาแล้ว จะ อ่านข้อความ ข้อมูล ประมาณ 200-300 ตัวอักษร แรกของเว็บเพจ วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสาคัญกับการ เรียงลาดับข้อมูลก่อนหลัง การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการ เช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการ จัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้ คานึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่ถ้า ต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล การค้นหาแบบนี้ จะเหมาะสมที่สุด เว็บที่ให้บริการ Search Engine แบบ Keyword Index ได้แก่เว็บ http://www.google.com/ http://www.altavi sta.com/ Subject Directories การจาแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine ประเภทนี้จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ของแต่ ละเว็บเพจ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้ คนพิจารณาเว็บเพจ แต่ละเว็บ แล้วทาการจัดหมวดหมู่ โดยจะ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บ ข้อมูลนั้นๆ อยู่ในกลุ่มของอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนามา เป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป http://www.thaiwebhunter.com/ http://www.san ook.com
  • 10. Metasearch Engines จะเป็น Search Engine ที่ ใช้ในการค้นหาเว็บ ด้วยตัวของ Search Engine แบบ Metasearch Engines เองแล้ว แต่ที่ เด่นกว่านั้นคือ Search Engine แบบ Metasearch Engines จะยังสามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ เพื่อเรียกดูข้อมูลที่ Search Engine อื่นๆ ค้นพบ โดยสังเกตได้จากจะมีคาว่า [Found on Google, Yahoo!] ต่อทางด้านท้าย นั้นก็ หมายความว่าการค้นหาข้อความนั้นๆ มาการเชื่อมโดยไป ค้นข้อมูลจาก เว็บ Google และ Yahoo แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ ความสาคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษรและมักจะไม่ ค้นหาคาประเภท Natural Language (ภาษาพูด) และที่สาคัญ Search Engine แบบ Metasearch Engines ส่วนมากไม่รองรับภาษาไทย http://www.dogpile.com http://www.kartoo.c om/
  • 11. การสืบค้นข้อมูลแบบใช้คีย์เวิร์ด การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด ใช้ในกรณีที่ต้องการค้น ข้อมูลโดยใช้คาที่มีความหมายตรงกับความ ต้องการ โดยมากจะนิยมใช้คาที่มีความหมายใกล้เคียง กับเนื้อเรื่องที่จะสืบค้นข้อมูล การสืบค้นข้อมูล การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด มีวิธีการ ค้นหาได้ดังนี้ 1. เปิดเว็บเพจ ที่ให้บริการในการสืบค้น ข้อมูล โดยพิมพ์ช่องเว็บที่ช่อง Address www.google.co.th เป็นเว็บที่ใช้สืบค้นข้อมูล ของต่างประเทศ ข้อดีคือ ค้นหาง่าย เร็ว www.yahoo.com เป็นเว็บที่ใช้สืบค้นที่ดีตัวหนึ่ง ซึ่งค้นหาข้อมูลง่าย และข้อเด่นคือภายในเว็บ ของ www.yahoo.com เองจะมีฟรีเว็บไซต์ ที่ รู้จักกันในนาม http://www.geocities.com ซึ่ง มีจานวนหลาย100000 เว็บ ให้ค้นหาข้อมูลเอง โดยเฉพาะ www.sanook.com เป็นเว็บของคนไทย www.siamguru.com เป็นเว็บของคนไทย ในตัวอย่างจะเปิดเว็บ www.sanook.com 2. ที่ช่อง ค้นหา พิมพ์ข้อความต้องการจะค้นหา ใน ตัวอย่างจะพิมพ์คาว่า วิทยาศาสตร์ 3. คลิกปุ่ม ค้น