SlideShare a Scribd company logo
1 of 27
Download to read offline
คำ�นำ�
	 สมุดเล่มเล็กนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 1193524 โปรแกรมสร้างเว็บเพื่อการศึกษา
(Web Programming for Education) โดยมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาหาความรู้ได้จากเรื่อง การ
พัฒนาเว็บไซต์จากแหล่งความรู้ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเว็บไซต์ องค์ประกอบของเว็บไซต์
ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ การจัดการเรียนการ
สอนผ่านเว็บ ความหมายของเว็บไซต์ การออกแบบและการพัฒนา ขั้นตอนการพัฒนา การออกแบบ
โครงสร้างเว็บไซต์ ส่วนประกอบของเว็บไซต์ กระบวนการพัฒนา ประเภทของเว็บไซต์ การประเมิน
เว็บไซต์ และการโปรโมทเว็บไซต์ (Promote wed)
	 ผู้จัดทำ�ได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำ�สมุดเล่มเล็ก เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใน ตรงกับจุด
ประสงค์ในการเรียนในรายวิชา 1193524 โปรแกรมสร้างเว็บเพื่อการศึกษา (Web Programming for
Education) ผู้จัดทำ�จะต้องขอขอบคุณ ท่าน อ.ปวริศ สารมะโน ผู้ให้ความรู้และแนวทางการศึกษา
เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทำ�หวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็น
ประโยชน์แก่ทุก ๆ ท่าน
								คณะผู้จัดทำ�			
					 		 28  กรกฎาคม  2556
สารบัญ
เรื่อง									 หน้า
หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร	 	 	 	 	 	 	 1-3	 	
	 ความหมายของการสื่อสาร	 	 	 	
	 ประเภทของการสื่อสาร	 	 	 	 	 	 	           		
	 ประสิทธิภาพของการสื่อสาร	 	 	 	 	 	 	 	
	 ทฤษฎีและแบบจำ�ลองการสื่อสาร	
			
การประชาสัมพันธ์	 	 	 	 	 	 	 	 4-5	 	
	 ความหมายของการประชาสัมพันธ์		 	 	 	 	 	 	
	 องค์ประกอบของการประชาสัมพันธ์	 	 	
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)	 	 	 	 5-6	 	
	 การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ	 	 	 	 	 	 	 	
	 การออกแบบการเรียนการสอนผ่านเว็บ	 	 	 	 	 	 	
	 ประโยชน์ของการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ	 	 	 	 	 	
	 การประเมินผลการเรียนการสอนผ่านเว็บ	 	
ความหมายของเว็บไซต์								6-7
การออกแบบและขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์					7-11
	 ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์
	 การออกแบบเว็บไซต์
การออกแบบโครงสร้างของเว็บไซต์						 12-13
ส่วนประกอบของเว็บไซต์							 14
กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์							 15-17
ประเภทของเว็บไซต์								 17-19
การประเมินเว็บไซต์
สารบัญต่อ
	 เรื่อง	 	 	 	 	 	 	 	 หน้า
การโปรโมทเว็บไซต์ (Promote wed)	 	 	 	 	 	 20-21	 	
	 ความหมายของการโปรเมทเว็บไซต์	 	 	 	 	 	 	
	 เครื่องมือที่ใช้ในการโปรเมทเว็บไซต์	 	 	 	
	 เว็บไซต์ยอดนิยมในการโปรโมทเว็บไซต์
				
บรรณานุกรม
1.หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร
ความหมายของการสื่อสาร
	 ได้มีนักวิชาการหลายท่านให้ความหมายของการสื่อสารไว้ในหลายแง่มุมเช่น
จอร์จ เอ มิลเลอร์ : เป็นการถ่ายทอดข่าวสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
จอร์จ เกิร์บเนอร์ : เป็นการแสดงกริยาสัมพันธ์ทางสังคมโดยใช้สัญลักษณ์วิลเบอร
แรมส์   : เป็นการมีความเข้าใจร่วมกันต่อเครื่องหมายที่แสดงข่าวสาiซึ่งสามารถสรุปให้เข้าใจได้ง่ายๆคือ
การถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารจากบุคคลฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่าผู้ส่งสารไปยังยังบุคคลอีกฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่าผู้รับ
สารโดยผ่านช่องทางในการสื่อสารโดยมีองค์ประกอบที่สำ�คัญคือ ผู้ส่งสาร(Sender) สาร(Message) ช่อง
ทาง(Channel) และตัวผู้รับสาร(Reciever)  ซึ่งมักเรียกกันว่า SMCR
ประเภทของการสื่อสาร
	 (1) การสื่อสารภายในบุคคล(Intrapersonal Communication)การคิดหรือจินตนาการกับตัว
เอง เป็นการคิดไตร่ตรองกับตัวเอง ก่อนที่จะมีการสื่อสาร ประเภทอื่นต่อไป
   	 (2) การสื่อสารระหว่างบุคคล(Interpersonal Communication)การที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
มาทำ�การสื่อสารกันอย่างมีวัตถุประสงค์ เช่นการพูดคุย ปรึกษาหารือในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
	 (3) การสื่อสารกลุ่มย่อย(Small-group) Communication)การสื่อสารที่มีบุคคลร่วมกันทำ�การ
สื่อสารเพื่อทำ�กิจกรรมร่วมกันแต่จำ�นวนไม่เกิน 25 คน เช่นชั้นเรียนขนาดเล็ก ห้องประชุมขนาดเล็ก
	 (4) การสื่อสารกลุ่มใหญ่(Large-group Communication)การสื่อสารระหว่างคนจำ�นวนมาก
เช่นภายในห้องประชุมใหญ่ โรงภาพยนตร์ โรงละครชั้นเรียนขนาดใหญ่
	 (5) การสื่อสารในองค์กร(Organization Communication)การสื่อสารระหว่างสมาชิกภายใน
หน่วยงาน เพื่อปฏิบัติงานให้สำ�เร็จลุล่วง เช่นการสื่อสารระหว่าเพื่อนร่วมงาน เจ้านายกับลูกน้อง
	 (6) การสื่อสารมวลชน(Mass Communication)การสื่อสารกับคนจำ�นวนมากในหลายๆพื้นที่
พร้อมกัน โดยใช้สื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์  นิตยสาร วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์เป็นสื่อกลาง
เหมาะสำ�หรับการส่งข่าวสารไปยังผู้คนจำ�นวนมากๆในเวลาเดียวกัน
	 (7)การสื่อสารระหว่างประเทศ(International Communication) การสื่อสารระหว่างบุคคลที่มี
ความแตกต่างกันใน เชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม การเมืองและสังคม เช่นการสื่อสารทางการทูต การสื่อสาร
เจรจาต่อรองเพื่อการทำ�ธุรกิจ
1
2
	
	
ประสิทธิภาพของการสื่อสาร
	 ตามองค์ประกอบของการสื่อสาร ทำ�ให้เห็นว่ามีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการสื่อสารได้  ดัง
นั้นจึงควรต้องทำ�ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างเพื่อช่วยในการวางแผนการสื่อสาร โดยสามารถศึกษาได้จากแบบ
จำ�ลองการสื่อสารของเบอร์โล
ทฤษฎีและแบบจำ�ลองการสื่อสาร
	 ทฤษฎี คือข้อความเกี่ยวกับการทำ�งานของสิ่งต่าง ๆ หรือข้อความที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อเท็จจริงต่างๆ
แบบจำ�ลอง เกิดจากความพยายาม ที่จะอธิบายปรากฏการณ์ทางการสื่อสารแบบต่างๆ จึงสร้างแบบจำ�ลองขึ้น
	 แบบจำ�ลองทฤษฎีการสื่อสารมีอยู่ 4 แบบ คือ
	 	 (1) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงระบบพฤติกรรม
	 	 (2) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงพฤติกรรมการเข้าและถอดรหัส
	 	 (3) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงปฏิสัมพันธ์
	 	 (4) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงปริบททางสังคม
2. การประชาสัมพันธ์
ความหมายของการประชาสัมพันธ์
	 การประชาสัมพันธ์  หมายถึง  การสื่อสารความคิดเห็น  ข่าวสาร  ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ไปสู่กลุ่ม
ประชาชน  เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงาน  องค์การ  สถาบันกับ
กลุ่ม ประชาชนเป้าหมายและประชาชนที่เกี่ยวข้อง  เพื่อหวังผลในความร่วมมือ สนับสนุนจากประชาชน   
รวมทั้งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ที่ดีให้แก่หน่วยงาน  องค์การ  สถาบันด้วย  ทำ�ให้ประชาชน เกิด
ความนิยม  เลื่อมใส   ศรัทธาต่อหน่วยงาน  ตลอดจนค้นหาและกำ�จัดแหล่งเข้าใจผิด  ช่วยลบล้างปัญหา  
เพื่อสร้างความสำ�เร็จในการดำ�เนินงานของหน่วยงานนั้น
องค์ประกอบของการประชาสัมพันธ์
	 องค์ประกอบของการประชาสัมพันธ์ หากพิจารณาจากกระบวนการสื่อสารเพื่อการประชาสัมพันธ์
แล้ว ก็สามารถจำ�แนกองค์ประกอบ สำ�คัญของการประชาสัมพันธ์ออกเป็น  4  ประการ  คือ
	 (1) องค์กร สถาบันหรือหน่วยงาน
	 (2) ข่าวสารประชาสัมพันธ์
	 (3) สื่อประชาสัมพันธ์
	 (4) กลุ่มประชาชนเป้าหมายในการประชาสัมพันธ์
3. การเรียนการสอนผ่านเว็บ
	 การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction) เป็นการจัดสภาพการเรียนการสอนที่ได้รับการ
ออกแบบอย่างมีระบบ โดยอาศัยคุณสมบัติและทรัพยากรของเวิลด์ไวด์เว็บ มาเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเพื่อส่ง
เสริมสนับสนุนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยอาจจัด เป็นการเรียนการสอนทั้งกระบวนการ หรือนำ�มา
ใช้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้งหมดและช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคของการเรียนการสอนทางด้านสถานที่
และเวลาอีกด้วย	
	
การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ
	 แบบการจัดการเรียนผ่านเว็บมีลักษณะการเรียนการสอนที่แตกต่างไปจากการเรียนการสอนในชั้นเรียน
ปกติที่คุ้นเคยกันดี ซึ่งการจัดการเรียนการสอนดั้งเดิมในชั้นเรียนส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่เน้นให้ผู้สอนเป็นผู้ป้อน
ความรู้ให้แก่ผู้เรียนทำ�ให้ผู้เรียนไม่ใฝ่ที่จะหาความรู้เพิ่มเติมมี 5 ประการ คือ
	 (1) ในการจัดการเรียนการสอนโดยทั่วไปแล้ว
	 (2) การจัดการเรียนการสอนควรสนับสนุนให้มีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้เรียน
	 (3) ควรสนับสนุนให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง (Active Learners)
	 (4) การให้ผลย้อนกลับแก่ผู้เรียนโดยทันทีทันใดช่วยให้ผู้เรียนได้ทราบถึงความสามารถของตน
	 (5) ควรสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนที่ไม่มีขีดจำ�กัด
การออกแบบการเรียนการสอนผ่านเว็บ
	 ในการออกแบบและพัฒนาเว็บการเรียนการสอนผ่านให้มีประสิทธิภาพนั้นมีแนวทางในการออกแบบการ
เรียนการสอน ดังนี้
	 (1) ศึกษาเกี่ยวกับผู้เรียนและเนื้อหาที่จะนำ�มาพัฒนาเพื่อกำ�หนดวัตถุประสงค์และหาแนวทางในการจัด
กิจกรรมการเรียน
	 (2) วางแผนเกี่ยวกับการจัดรูปแบบโครงสร้างของเนื้อหา ศึกษาคุณลักษณะของเนื้อหาที่จะนำ� มาใช้เป็น
บทเรียนว่าควรจะนำ�เสนอในลักษณะใด
	 (3) ออกแบบโครงสร้างเพื่อการเข้าถึงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ออกแบบควรศึกษาทำ�ความเข้าใจ
กับโครงสร้างของบทเรียนแบบต่างๆ โดยพิจารณาจากลักษณะผู้เรียนและเนื้อหาว่าโครงสร้างลักษณะใดจะเอื้อ
อำ�นวยต่อการเข้าถึงข้อมูลของผู้เรียนได้ดีที่สุด
	 (4) ทดสอบรูปแบบเพื่อหาข้อผิดพลาด จากนั้นทำ�การปรับปรุงแก้ไขและทดสอบซ้ำ�อีกครั้งจน แน่ใจว่า
เป็นบทเรียนที่มีประสิทธิภาพก่อนที่จะนำ�ไปใช้งาน
จากที่กล่าวมาการเรียนการสอนผ่านเว็บ เป็นการจัดการอย่างจงใจและนำ�เสนอข้อมูลที่มีเป้าหมาย
เพื่อพัฒนาการเรียนรู้โดยเฉพาะ ดังนั้นการออกแบบเว็บช่วยสอนจึงต้องพิจารณาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
และการจัดระเบียบของเนื้อหาในบทเรียนที่สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้การเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นไปอย่างมีระบบ
ประโยชน์ของการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ
	 ประโยชน์ของการเรียนการสอนผ่านเว็บมีมากมายหลายประการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของ
การนำ�ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งเป็นมิติใหม่ของเครื่องมือและกระบวนการในการเรียนการสอน
5
4. ความหมายของเว็บไซต์
ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์  ความหมายของเว็บไซต์   คําว่า “เว็บไซต์ (Web site)”มีผู้ให้ความหมาย ดังนี้  
	 จักรชัย โสอินทร์และอุรุพงษ์ กัลยาสิริ (2542: 18)กล่าวว่า“เว็บไซต์ คือ สถานที่อยู่ของเว็บเพจที่
โปรแกรมค้นดูจะสามารถไปดึงข้อมูลมาเปิดให้ดูได้ โดยเว็บไซต์นี้จะอยู่ในเครื่องที่ให้บริการที่เรียกว่าเครื่อง
บริการเว็บ” จากความหมายข้างต้น สรุปได้ว่า เว็บไซต์ คือ แหล่งรวบรวมเว็บเพจขององค์กรหนึ่งๆ ซึ่งจะ
ประกอบด้วยสื่อประสมต่างๆ ทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เป็นที่อยู่ ของสารสนเทศบน
อินเทอร์เน็ต สามารถเข้าถึงได้โดยผ่านเวิลด์ไวด์เว็บ
	 ประภาพร ช่างไม้ (2548: 5) กล่าวว่า “เว็บไซต์ คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมา เป็นเว็บ ซึ่ง
หมายความถึงเว็บเพจ (Webpage) ทุกหน้า รูปทุกรูปที่นําเข้ามาใช้ แฟ้มข้อมูลเสียงรูปเคลื่อนไหวและส่วน
ประกอบอื่นๆ ที่นํามาใช้ เช่น โปรแกรมที่เขียนขึ้น สามารถเปรียบเทียบ    ได้ว่าเว็บไซต์เป็นเสมือนหนังสือทั้ง
เล่ม”
5. การออกแบบ
และขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์
ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์
	 การพัฒนาเว็บไซต์อย่างมีหลักการ ดําเนินการตามขั้นตอนที่ชัดเจน จะทําให้ผู้สร้าง เว็บไซต์สามารถใส่ใจ
รายละเอียดที่จําเป็นในแต่ละขั้นตอนของการออกแบบ ซึ่งจะช่วยป้องกัน ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และลดความ
เสี่ยงที่จะทําให้เว็บประสบความล้มเหลว ให้ผู้สร้างได้เว็บไซต์ ที่ตรงกับเป้าหมายตามต้องการ มีประโยชน์ และ
ให้ความสะดวกแก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ การสร้าง เว็บไซต์ที่ดีนั้นต้องอาศัยการออกแบบและจัดระบบข้อมูลอย่าง
เหมาะสม
	 ดวงพร เกี๋ยงคํา (2549: 27) กล่าวถึงกระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ไว้เป็นขั้นตอนดังภาพประกอบ 2
ภาพประกอบที่ 2 ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนาเว็บไซต์
ที่มา: ดวงพร เกี๋ยงคํา.  (2549).  คู่มือสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเอง.หน้า 28
	 (1) กําหนดเป้าหมายและวางแผน การพัฒนาเว็บไซต์ควรกําหนดเป้าหมายและวางแผน ไว้ล่วงหน้า เพื่อ
ให้การทํางานในขั้นต่อไปมีแนวทางที่ชัดเจน
	 (2) วิเคราะห์และจัดโครงสร้างข้อมูล เป็นการนําข้อมูลต่างๆ ที่รวบรวมได้จากขั้นแรก นํามาประเมิน
วิเคราะห์และจัดระบบ
	 (3) ออกแบบเว็บเพจและเตรียมข้อมูล เป็นขั้นตอนการออกแบบเค้าโครงและลักษณะ ด้านกราฟิกของ
หน้าเว็บเพจ เพื่อให้ผู้ใช้เกิดอารมณ์ความรับรู้ต่อเว็บเพจตามที่ผู้สร้างต้องการ
4) ลงมือสร้างและทดสอบ เป็นขั้นตอนที่เว็บเพจจะถูกสร้างขึ้นทีละหน้าโดยอาศัย เค้าโครงและองค์
ประกอบกราฟิกตามที่ออกแบบไว้ และเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาควรได้รับการทดสอบก่อนที่ จะนําออกเผยแพร่
	 (5) เผยแพร่และส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปการนําเว็บไซต์ขึ้นเผยแพร่บน อินเทอร์เน็ตจะทําด้วย
การอัพโหลด (Upload) แฟ้มข้อมูลทั้งหมด คือ เอชทีเอ็มแอลและแฟ้มข้อมูล อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นไปเก็บบน
เครื่องบริการที่เปิดบริการไว้
	 (6) ดูแลและปรับปรุงต่อเนื่อง หลังจากที่เว็บไซต์ได้รับการเผยแพร่ไประยะหนึ่ง ควรปรับปรุงเพื่อให้
ผู้ใช้รู้สึกว่ามีความเปลี่ยนแปลง มีความใหม่ ทันสมัย
	
การออกแบบเว็บไซต์
	 การออกแบบเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพไว้ดังนี้ (จิตเกษม พัฒนาศิริ.2539; ธวัชชัย ศรีสุเทพ.
2544: 16; วิเศษศักดิ์ โครตอาษา.  2542: 184)
	 1) ความเรียบง่าย หมายถึง การสื่อสารเนื้อหาถึงผู้ใช้ให้อ่านเข้าใจง่าย โดยจํากัด องค์ประกอบเสริม
ที่เกี่ยวข้องกับการนําเสนอให้เหลือเฉพาะสิ่งที่จําเป็นเท่านั้น   
	 2) ความสม่ำ�เสมอ หมายถึง สามารถสร้างความสม่ำ�เสมอให้กับเว็บไซต์ได้ นําเสนอ เว็บไซต์ในรูป
แบบเดียวกันตลอดทั้งเว็บไซต์ เนื่องจากผู้ใช้จะรู้สึกกับเว็บไซต์ว่าเป็นเสมือนสถานที่ จริง ถ้าลักษณะของ
แต่ละหน้าในเว็บไซต์เดียวกันนั้นแตกต่างกันมากผู้ใช้ก็จะเกิดความสับสนและไม่แน่ใจว่ากําลังอยู่ในเว็บเดิม
หรือไม่ ดังนั้นรูปแบบของหน้าเว็บ รูปแบบของกราฟิก ระบบนําทางและกลุ่มสีที่ใช้ควรจะมีความคล้ายคลึง
กันตลอดทั้งเว็บไซต์   
	 3) ความเป็นเอกลักษณ์ การออกแบบต้องคํานึงถึงลักษณะขององค์กร เนื่องจาก รูปแบบของ
เว็บไซต์สามารถสะท้อนถึงลักษณะขององค์กรนั้น
ได้ การใช้ชุดสี ชนิดตัวอักษร รูปภาพ และกราฟิกจะมีผลต่อรูปแบบของเว็บไซต์อย่างมาก ผู้ออกแบบจึงต้อง
เลือกใช้องค์ประกอบเหล่านี้ อย่างเหมาะสม   
	 4) เนื้อหาที่มีประโยชน์ เนื้อหาถือเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดในเว็บไซต์ ดังนั้นในเว็บไซต์   ควรจัดเตรียม
เนื้อหาและข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการให้ถูกต้องและสมบูรณ์ โดยมีการปรับปรุงและเพิ่มเติม ให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่
เสมอ เนื้อหาที่สําคัญที่สุดคือเนื้อหาที่สร้างขึ้นมาเอง และไม่ซ้ำ�กับเว็บอื่น เพราะจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้ให้เข้า
มาในเว็บไซต์อยู่เสมอ ต่างจากเนื้อหาที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ซึ่งเมื่อผู้ใช้รู้ถึงแหล่งข้อมูลจริงๆ แล้วก็ไม่จํา
เป็นต้องกลับมาที่จุดเชื่อมโยงเหล่านั้นอีก   
	 5) ระบบนําทางที่ใช้งานง่าย ระบบนําทางเป็นองค์ประกอบที่สําคัญมากของเว็บไซต์ ต้องออกแบบ
ให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายและใช้งานสะดวก โดยใช้กราฟิกที่สื่อความหมายร่วมกับคําอธิบาย ที่ชัดเจน รวมทั้งมีรูป
แบบและลําดับของรายการที่สม่ำ�เสมอ เช่น วางไว้ในตําแหน่งเดียวกัน       ของทุกๆ หน้า นอกจากนั้นถ้าใช้
ระบบนําทางแบบกราฟิกในส่วนบนของหน้าเว็บแล้ว อาจเพิ่มระบบ นําทางที่เป็นตัวอักษรไว้ที่ตอนท้ายของ
หน้าเว็บ เพื่อช่วยอํานวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้โปรแกรม ค้นดูอีกทางหนึ่ง   
	 6) มีลักษณะที่น่าสนใจ เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าลักษณะหน้าเว็บของเว็บไซต์จะมีความน่าสนใจ
หรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับความชอบของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดีหน้าเว็บของ เว็บไซต์จะมีความสัมพันธ์กับ
คุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ เช่น คุณภาพของกราฟิกที่จะต้อง สมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยของความเสียหาย
เป็นจุดด่างหรือมีขอบเป็นขั้นบันไดให้เห็น การใช้ชนิด ตัวอักษรที่อ่านง่าย สบายตา
8
7) การเข้าใช้งานได้ไม่จํากัด ควรออกแบบเว็บไซต์ให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากที่สุด โดยไม่มีการ
บังคับให้ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่มเติม หรือต้องเลือกใช้โปรแกรมค้นดูโปรแกรม ใดโปรแกรมหนึ่ง
จึงจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ สามารถแสดงผลได้ในทุกระบบปฏิบัติการและที่ ความละเอียดหน้าจอต่างๆ
กันอย่างไม่มีปัญหา สิ่งเหล่านี้จะยิ่งมีความสําคัญมากขึ้นสําหรับเว็บที่มี ผู้ใช้บริการจํานวนมาก หรือมีกลุ่ม
เป้าหมายที่หลากหลาย   
	 8) มีคุณภาพในการออกแบบ มีความสําคัญกับการออกแบบเว็บไซต์เช่นเดียวกับสื่อ ประเภท
อื่นๆ ที่ต้องออกแบบและเรียบเรียงเนื้อหาอย่างรอบคอบ เว็บที่ทําขึ้นอย่างไม่มีมาตรฐานในการออกแบบ
และการจัดระบบข้อมูลนั้น เมื่อมีข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดปัญหาข้อมูลสับสน  ไม่เป็นระบบ และไม่
สามารถสร้างความน่าเชื่อถือจากผู้ใช้ได้   
	 9) ระบบใช้งานได้ถูกต้อง ระบบการทํางานต่างๆ ในเว็บไซต์จะต้องมีความแน่นอน และทําหน้าที่
ได้อย่างถูกต้อง เช่น ถ้ามีแบบฟอร์มสําหรับให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลต้องแน่ใจว่าแบบฟอร์ม นั้นสามารถใช้การ
ได้จริง หรืออย่างง่ายที่สุดก็คือ จุดเชื่อมโยงต่างๆ ที่มีอยู่นั้นจะต้องเชื่อมโยงไปยัง หน้าที่มีปรากฏอยู่จริง
และถูกต้องด้วย ความรับผิดชอบของผู้จัดทําเว็บคือการทําให้ระบบเหล่านั้น  ใช้งานได้ตั้งแต่แรกและยัง
ต้องคอยตรวจสอบอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งเหล่านั้นยังทํางานได้ดี โดยเฉพาะจุดเชื่อมโยงที่เชื่อมโยงไป
ยังเว็บอื่นซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา    เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นจะมีคุณภาพดีหรือไม่นั้น ผู้ใช้เป็นผู้
ตัดสิน โดยเริ่มตั้งแต่ผู้ใช้เห็น เว็บไซต์เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นจึงต้องสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งาน
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้กลับมาใช้เว็บไซต์อีกครั้ง
6. การออกแบบโครงสร้างของเว็บไซต์
	
	 การที่จะออกเว็บไซต์ให้ได้ผลตามวัตถุประสงค์นั้นจากที่กล่าวมาแล้วในเรื่องของเว็บไซต์ เว็บไซต์และโฮมเพจ
จะเห็นได้ว่าแต่ละเว็บไซต์จะประกอบไปด้วยเว็บไซต์ตั้งแต่ 1 หน้าไปจนกระทั่งไม่มีขีดจำ�กัด และโฮมเพจก็คือเว็บไซต์
หน้าแรกของเว็บไซต์ดังนั้นในส่วนของการออกแบบเว็บไซต์เป็นสำ�คัญซึ่งนักออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์หลายท่านได้
ให้คำ�แนะนำ�ไว้ ดังนี้
	 จิตเกษม พัฒนาศิริ (2539) ได้เสนอแนะถึงการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีว่า
	 	 1. มีรายการสารบัญแสดงรายละเอียดของเว็บไซต์
	 	 2. มีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเป้าหมายได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
	 	 3. เนื้อหากระชับสั้นและทันสมัยอยู่เสมอ
	 	 4. สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างทันท่วงที
	 	 5. เลือกใช้รูปภาพ ทําหน้าที่แทนคําบรรยายที่ยาวเกินไป
	 	 6. เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง
	 	 7. การสร้างและการออกแบบเว็บไซต์ ง่ายต่อการใช้งานและตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้หมาย
	 	 8. มีการกําหนดข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ  และจัดเป็นกลุ่ม
เป็นหมวดหมู่ เพื่อความเป็นระเบียบ ทำ�ให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์สะดวกในการใช้งาน
	 จากหลักการและกระบวนในการออกแบบเว็บไซต์จะเห็นว่านอกจะต้องอาศัยความรู้และทักษะทางด้าน
คอมพิวเตอร์แล้วยังต้องอาศัยทักษะและความชำ�นาญทางด้านศิลปะควบคู่กันไปด้วย เช่นด้านการจัดวางข้อความ
ภาพ รวมไปถึงเสียงและบางเว็บไซต์ที่ผู้ออกแบบมีความสามารถสูงก็อาจจะมีสื่อประสมประกอบด้วยเพื่อให้เว็บไซต์มี
ความน่าสนใจและน่าติดตามยิ่งขึ้น ดังนั้น งานทางด้านศิลปะที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือคอมพิวเตอร์กราฟิกและงาน
ด้านสื่อประสมที่อาศัยคอมพิวเตอร์จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้โดยที่งานดังกล่าวมีองค์ประกอบโดยสังเขป ดังนี้
(1)การเกิดสีและภาพบนจอคอมพิวเตอร์จอภาพคอมพิวเตอร์ที่เราเห็นแสดงสีสันได้สวยงามนั้น ก็มาจากการ
ผสมกันของ แม่สี 3 สี โดยแต่ละสีจะมีความเข้มได้ 256 ระดับ คือ ตั้งแต่ 0-255 และเมื่อผสมกันทั้ง 3 สี จํานวนสี
ที่สามารถแสดงได้ก็คือ 256x256x256 หรือประมาณ 16.7 ล้านสี หรือเรียกว่าความคมชัด 24 บิต การแสดงสีของ
ภาพที่ปรากฏจะชัดเจนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความละเอียดของจอภาพ (resolution) และความสามารถของการ์ด
แสดงผลจอภาพ (VGA Card)(วงศ์ประชา จันทร์สมวงศ์, 2543)
	 (2) กราฟิกในเว็บไซต์ แฟ้มรูปภาพหรือกราฟิก หมายถึง ภาพที่ได้จากการสร้าง ดัดแปลง หรือภาพถ่าย ภาพ
วาดลายเส้น  ภาพระบายสี หรือตัวอักษรที่นำ�มาใช้ในเว็บไซต์ สามารถเรียกได้ว่ากราฟิกเช่นกัน ซึ่งการใช้กราฟิกบน
เว็บนั้นทำ�ได้ 3 แบบ ดังนี้ (กิดานันท์ มลิทอง, 2542)
(2.1) ภาพแทรก  เป็นภาพที่แสดงบนเว็บ
(2.2) ภาพเข้าถึงด้วยการเชื่อมโยง ภาพลักษณะเดียวกันแต่มีรายละเอียดและขนาดภาพน้อย	 	 	       
(2.3) ภาพกราฟิกพื้นหลัง เมื่อต้องการตกแต่งเว็บไซต์ให้ดูสวยงาม อาจจะใช้กราฟิกเป็นพื้นหลังแทนที่จะเป็นสีพื้นแต่
เพียงอย่างเดียว
	 (3) สื่อประสมในเว็บไซต์ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของซอฟต์แวร์ที่ใช้สร้างเว็บไซต์ นอกจากจะทำ�ให้ผู้สร้าง
สามารถบรรจุภาพต่างๆ ลงไปในเว็บไซต์แล้ว ยังสามารถบรรจุสื่อประสม (multimedia) ได้อีกด้วย อาทิ แฟ้มเสียง
ภาพเคลื่อนไหว ภาพจากวีดิทัศน์ ฯลฯ เป็นต้น ทำ�ให้เว็บไซต์มีความสวยงาม น่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้น
7. ส่วนประกอบของเว็บไซต์
	
	 ภายในเว็บไซต์หนึ่งๆ มีเว็บเพจจํานวนหลายหน้า ในแต่ละหน้ามีทั้งข้อความและสื่อประสมรวมกัน
ตามที่วิทยา เรืองพรวิสุทธิ์ (2539: 46-47) กล่าวถึงส่วนประกอบของเว็บไซต์ สรุปได้ว่ามีส่วนประกอบต่างๆ ที่
จําเป็นดังนี้
	 (1) ตัวอักษร เป็นข้อความปกติ โดยสามารถตกแต่งให้สวยงามและมีลูกเล่นต่างๆ
	 (2) กราฟิก ประกอบด้วยรูปภาพ ลายเส้น ลายพื้น ต่างๆ มากมาย    
	 (3) สื่อประสม ประกอบด้วยข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และวีดิทัศน์  
	 (4) ตัวนับ ใช้นับจํานวนผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บเพจ    
	 (5) จุดเชื่อมโยง ใช้เชื่อมโยงไปยังเว็บเพจของตนเองหรือเว็บเพจของคนอื่น    
	 (6) แบบฟอร์ม เป็นแบบฟอร์มที่ให้ผู้เข้าเยี่ยมชมกรอกรายละเอียดแล้วส่งกลับมายัง เว็บเพจ    
	 (7) กรอบ เป็นการแบ่งจอภาพเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนก็จะแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน    
	 (8) แผนที่ภาพ เป็นรูปภาพขนาดใหญ่ที่กําหนดส่วนต่างๆ บนรูป เพื่อเชื่อมโยงไปยัง เว็บ
	 (9) จาวาแอปเพล็ด (Java applets) เป็นโปรแกรมสําเร็จรูปเล็กๆ ที่ใส่ลงในเว็บเพจ สามารถเพิ่ม
ลักษณะพิเศษ การโต้ตอบ เช่น เพิ่มเกมส์หรือหน้าต่างสําหรับป้อนหรือดูข้อมูล       บนเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้
เป็นต้น เพื่อให้การใช้งานเว็บเพจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
8. กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์
	 สิ่งแรกที่นักพัฒนาเว็บควรทำ�เมื่อเริ่มต้นพัฒนาเว็บไซต์  คือ  กำ�หนดกรอบกระบวนการทำ�งาน  
(Framework)  ที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนของการพัฒนาเว็บ  และรายละเอียดของงานในแต่ละขั้นตอน  ตั้งแต่
เริ่มต้นกระบวนการจนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการ  เพื่อให้การพัฒนาเว็บเป็นไปอย่างมีแบบแผน  ถึงแม้ว่าการ
กำ�หนดกรอบการทำ�งานจะเป็นขั้นตอนที่มีความยุ่งยากแต่ก็เป็นเครื่องมือสำ�คัญที่ช่วยให้การพัฒนาเว็บสำ�เร็จ
ลุล่วงตรงตามวัตถุประสงค์ได้  เพราะกรอบการทำ�งานจะช่วยป้องกันความผิดพลาด  และความสับสนในระหว่าง
การพัฒนาเว็บ  โดยนักพัฒนาเว็บสามารถย้อนกลับมาตรวจสอบงานตามกรอบการทำ�งานในภายหลังได้ดังนี้
	 	 	 (1) กรอบการทำ�งานหรือแบบจำ�ลองกระบวนการ  (Process Model)
	 	 	 (2) การกำ�หนดขอบเขตของข้อมูล  (Scope Plane)  
	 	 	 (3) การสร้างกลยุทธ์ในการออกแบบ  (Strategy Plane)  
	 	 	 (4) การกำ�หนดขอบเขตของข้อมูล  (Scope  Plane)  
	 	 	 (5) การจัดทำ�โครงการสร้างข้อมูล  (Structrue Plane)
	 	 	 (6) การออกแบบโครงสร้างเว็บเพจ  (Skeleton Plane)
	 	 	 (7) การออกแบบรูปลักษณ์ของเว็บเพจ  (Surface Plane)
9. ประเภทของเว็บไซต์
	 เว็บไซต์ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้เป็น
เจ้าของเว็บไซต์ แต่ละเว็บไซต์จะมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันดังนั้นการออกแบบจึงต้องคํานึงถึง
ความสะดวกในการใช้งาน การที่จะสามารถใช้งานเว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้นั้นจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง
เข้าใจถึงลักษณะของเว็บไซต์และจําแนกแยกแยะได้ว่าเว็บไซต์เหล่านั้นมีความแตกต่างหรือเหมือนกันประการใด
รวมถึงมีหน้าที่หลัก เฉพาะตัวอย่างไรบ้าง ประเภทของเว็บไซต์แบ่งตามลักษณะการใช้งานสามารถแบ่งออกเป็น5
ประเภท ดังนี้ (สมาน ลอยฟ้า.  2544: 3;  วิเศษศักดิ์ โครตอาษา.  2542: 184)
	 	 (1) เว็บไซต์เพื่อการประชาสัมพันธ์ เป็นเว็บไซต์ที่จัดทําโดยองค์กรต่างๆ เว็บไซต์ เหล่านี้เทียบได้
กับแผ่นพับหรือจดหมายข่าว เพียงแต่เว็บไซต์อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่าเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดและภารกิจ
ขององค์กร หรืออื่นๆ เป็นต้น ปกติที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้ายด้วย .org    
	 	 (2) เว็บไซต์เพื่อธุรกิจและการตลาด เป็นเว็บไซต์ที่จัดทําโดยบริษัทธุรกิจต่างๆ โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อขายหรือโฆษณาสินค้าและบริการต่างๆ ในบางครั้งอาจมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เชื่อถือได้ และให้
ใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ในที่สุดก็มักจะถูกขอให้ซื้อสินค้าบางอย่าง ในการใช้ข้อมูล เหล่านี้ควรวิเคราะห์ด้วยความ
รอบคอบก่อน เนื่องจากธุรกิจการค้าต่างๆ มักจะมีความลําเอียง ปกติ ที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้ายด้วย
.com   
	 	 (3) เว็บไซต์เพื่อข่าวสาร เป็นเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และ
เพื่อแลกเปลี่ยนผลการวิจัย ข้อมูลบางอย่างมีลักษณะคล้ายจุลสารที่มักพบได้ตามหน่วยงาน  ต่างๆ ซึ่งมีประโย
ชน์สําหรับเป็นข้อมูลพื้นฐาน แต่เนื้อหามักจะขาดความลุ่มลึก ปกติที่อยู่ของ เว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้ายด้วย .gov   
	 	 (4) เว็บไซต์ข่าวและเหตุการณ์ เป็นเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการให้ข่าวสาร      ที่เป็น
ปัจจุบันที่สุดในฐานะที่เป็นบริการสาธารณะ อย่างไรก็ตามเว็บไซต์เหล่านี้มักจะมีบริษัทหรือ องค์กรต่างๆ เป็น
ผู้ให้การสนับสนุน ดังนั้นจึงมักพบโฆษณาปรากฏบนเว็บไซต์ ผู้ใช้พึงระมัดระวัง ในเรื่องของความลําเอียงที่อาจ
ปรากฏในข่าวที่นําเสนอด้วย ปกติที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้าย ด้วย .com   
	 	 (5) เว็บไซต์ส่วนบุคคล เป็นเว็บไซต์ของบุคคลเพื่อเสนอแนวคิดหรือเพื่อประชาสัมพันธ์ ตัวเอง
ในด้านต่างๆ ส่วนใหญ่มักเป็นงานที่ไม่ค่อยมีสาระ ปกติที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้าย ด้วย .com และมักจะ
มีเครื่องหมาย ~ ปรากฏในที่อยู่ด้วย   การสร้างเว็บไซต์มีความจําเป็นอย่างมากในการกําหนดกรอบและทิศทาง
ของเว็บไซต์ นั้นๆ ให้อยู่ในลักษณะหนึ่งลักษณะใดข้างต้น เพื่อให้การใช้งานที่จะเกิดขึ้นระหว่างเว็บไซต์และผู้
เยี่ยมชมเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. การประเมินเว็บไซต์
	 เนื่องจากเว็บไซต์ได้กลายเป็นเครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่ใช้สําหรับการค้นหาสารสนเทศ ปัจจุบันแนวโน้มใน
การค้นหาสารสนเทศบนเว็บได้เพิ่มทวีมากขึ้น และผู้ใช้จํานวนไม่น้อยที่เริ่มต้น การค้นสารสนเทศจากเว็บก่อนเป็น
อันดับแรก หลังจากนั้นจึงค่อยค้นหาจากแหล่งสารสนเทศอื่นดังนั้นการประเมินสารสนเทศที่พบบนเว็บจึงเป็นกิจ
กรรมสําคัญสําหรับผู้ที่ต้องการใช้สารสนเทศ จากเว็บเพื่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัยในการประเมินเว็บไซต์ ควร
ประเมินเว็บไซต์ตามหัวข้อดังต่อไปนี้ (สมาน ลอยฟ้า. 2544: 4; วิเศษศักดิ์ โครตอาษา.  2542: 185)
	 (1) จุดมุ่งหมายและกลุ่มผู้ใช้ ได้แก่ วัตถุประสงค์ของเว็บไซต์นั้นคืออะไร มีความชัดเจน หรือไม่และสารสน
เทศที่นําเสนอเป็นที่พึงพอใจกับความต้องการของผู้ใช้หรือไม่
	 (2) ขอบข่าย ได้แก่    
	 	 (2.1) ความกว้าง เช่น ครอบคลุมเนื้อหาอะไรบ้าง
	 	 (2.2) ความลุ่มลึก เช่น เนื้อหามีความลุ่มลึกเพียงใด ระดับของรายละเอียดของ		
	 	 (2.3) ช่วงเวลา เช่น สารสนเทศที่นําเสนอได้จํากัดช่วงเวลาไว้แน่นอนหรือไม่ เป็นต้น    
	 	 (2.4) รูปแบบ เช่น ถ้ามีการเชื่อมโยงไปยังแหล่งสารสนเทศอื่นๆ
	 (3) เนื้อหา องค์ประกอบสําคัญที่เกี่ยวกับเนื้อหามีดังนี้    
	 	 (3.1) ความถูกต้อง เช่น สารสนเทศมีความถูกต้องเพียงใดหรือมีข้อผิดพลาดหรือไม่ จุดมุ่งหมาย
ของการเขียนเอกสารนั้นคืออะไร
	 	 (3.2) หลักฐานในการเขียน เนื่องจากผู้สร้างเว็บไซต์เป็นใครก็ได้ ดังนั้นการรู้ข้อมูล เกี่ยวกับผู้แต่ง
จึงเป็นสิ่งสําคัญ
	 	 (3.3) ความเป็นปัจจุบัน เช่น ระบุวันเดือนปีแจ้งไว้ที่หน้าโฮมเพจหรือไม่ ถ้าไม่มีมีวิธีการที่จะรู้ได้
หรือไม่ เอกสารนั้นผลิตขึ้นเมื่อใด
	 	 (3.4) ความเป็นปรนัย เช่น มีโฆษณาที่หน้าโฮมเพจหรือไม่
	 	 (3.5) ลักษณะเฉพาะ เช่น เนื้อหาที่นําเสนอสามารถหาได้จากสื่อในรูปแบบอื่นและสนับสนุน
แหล่งข้อมูลอื่นด้วยหรือไม่
	 	 (3.6) การเชื่อมโยงไปยังแหล่งสารสนเทศอื่นๆ เช่น มีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ อื่นๆ หรือไม่
	 	 (3.7) คุณภาพในการเขียน เช่น เนื้อหาเขียนดีหรือไม่ ข้อมูลที่นําเสนอ  มีความชัดเจนและเนื้อหา
เหมาะสมกับระดับของผู้อ่านหรือไม่
	 (4) กราฟิกและการออกแบบด้านสื่อประสม เช่น การนำ�เสนอมีจุดสนใจหรือไม่ และมีลักษณะเป็นมือ
อาชีพหรือไม่
(5) ความสามารถในการทํางาน ประเด็นในการพิจารณา ได้แก่    
	 	 (5.1) ด้านความสะดวกในการใช้งาน
	 	 (5.2) ด้านสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการ
	 	 (5.3) ด้านการสืบค้น
	 	 (5.5) ด้านการทํางานเชิงโต้ตอบ
	 	 (5.4) ด้านความสามารถในการเรียกดูข้อมูล
	 (6) ความสามารถในการเข้าถึง เป็นองค์ประกอบที่สําคัญ เพราะหากไม่สามารถเข้าถึง เว็บไซต์นั้นได้ก็ไม่
สามารถประเมินสารสนเทศบนเว็บได้
	 (7) การวิจารณ์เว็บโดยผู้อื่น กล่าวคือมีผู้วิจารณ์และพูดถึงเว็บไซต์นั้นเป็นอย่างไร    
	 (8) ค่าใช้จ่าย เป็นองค์ประกอบที่ใช้ในการประเมินน้อยกว่าองค์ประกอบอื่นๆ เนื่องจาก ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต
ได้เพิ่มโอกาสในการให้บริการแก่ผู้ใช้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้ สารสนเทศ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังคง
มีอยู่ เช่น การใช้สารสนเทศจากแหล่งที่ต้องเสีย ค่าบริการ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา
หรือค่าใช้จ่ายในการ ติดต่อสื่อสารกับแหล่งสารสนเทศ เป็นต้น  	
	 	 ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การประเมินเว็บไซต์เป็นสิ่งจําเป็นในการออกแบบเว็บไซต์อันจะทําให้ทราบว่า
เว็บไซต์ใดเหมาะสมและเป็นประโยชน์ ผู้ใช้บริการเว็บและผู้ออกแบบเว็บก็จะได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย เว็บไซต์ที่
สร้างขึ้นก็จะมีคุณภาพและเป็นเว็บที่ดีบนอินเทอร์เน็ต ต่อไป
11. การโปรโมทเว็บไซต์
ความหมายของการโปรโมทเว็บไซต์
	 การโปรโมทเว็บไซต์ (Promote wed) คือ การโฆษณาเผยแพร่เว็บไซต์ที่เราสร้างขึ้นให้เป็นที่รู้จักอย่าง
ทั่วถึง โดยเฉพาะให้เป็นที่รู้จักของผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ต   ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งสำ�หรับใช้แจ้งข่าวสาร เพื่อเชิญ
ชวนให้นักท่องเว็บได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของตน
	
เครื่องมือที่ใช้ในการโปรเมทเว็บไซต์
	 โดยทั่วไปแล้วนักท่องเว็บมักจะทำ�การค้นหาข้อมูลของเว็บไซต์ผ่านทางเครื่องมือประเภทต่าง ๆ ที่
สามารถนำ�มาใช้เป็นช่องทางในการโปรโมทเว็บไซต์และที่ได้รับความนิยม คือ
(1) การโปรโมทเว็บไซต์แบบออฟไลน์เป็นการโฆษณาผ่านทางสื่อหนังสือพิมพ์โดยการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์
ทั่วๆไปเพื่อให้คนรู้จักและเข้าถึงได้
(2) การโปรโมทเว็บไซต์โดยใช้บริการเว็บไดเรกทอรี่ (web directory)มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่าย และไม่เสียค่าใช้
จ่าย โดยหากต้องการให้ผลลัพธ์ของการค้นหาปรากฏอยู่ในลำ�ดับต้นๆ อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก ได้แก่
yahoo.com , mickinley.com และ google.com ส่วนกรณีที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้จัด
ทำ�หรือกำ�หนดหมวดหมู่ที่ต้องการขึ้นเอง โดยผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ปรากฏอยู่ลำ�ดับต้นๆ โดยมีเว็บให้บริการได้แก่
sanook.com , hunsa.com , hotbot.com เป็นต้น
(3) การโปรโมทเว็บไซต์ทาง Search engineการโปรโมทเว็บไซต์ทาง Search engine ของ google เข้าไป
ที่http://www.google.co.th/addurl
(4)เทคนิคการกำ�หนดเพจให้กับเว็บไซต์เพื่อการค้นหาการกำ�หนดแท็กไว้ใน HTML ได้แก่ การจัดทำ�แท็ก Meta
ของเอกสาร HTML และการกำ�หนดคำ�หลัก (keyword) ให้กับเว็บไซต์ เพื่อให้เครื่องมือประเภท search en-
gine มาเรียกใช้เพื่อไปแสดงผลในการค้นหา ถือว่าเป็นกลยุทธ์ในการโปรโมทเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอีกรูปแบบ
หนึ่ง
		เว็บไซต์ยอดนิยมในการโปรโมทเว็บไซต์
	 	 	 (1) www.overture.com
	 	 	 (2) www.yahoo.com
	 	 	 (3) www.lycos.com
	 	 	 (4) www.altavista.com
	 	 	 (5) www.dmoz.org
	 	 	 (6) www.google.com
	 	 	 (7) www.hotbot.com
	 	 	 (8) www.goto.com
	 	 	 (9) www.norternlight.com
บรรณานุกรม
นิติยา บุญรัตน์.  (2553). การพัฒนาเว็บไซต์ห้องสมุดโรงเรียนเตรียม
	 อดุมศึกษาภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช.สารนิพนธ์ ศศ.ม. (บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศ	 	
	 ศาสตร์).กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
จักรพงษ์ เจือจันทร์ : การศึกษาการออกแบบเว็บไซต์ของโรงเรียนในโครงการ
	 เครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย(A STUDY OF WEB Site  
	 DESIGN OF SCHOOLS IN SCHOOLNETTHAILAND)อาจารย์ที่
ปรึกษา : รองศาสตราจารย์ ดร.กิดานันท์ มลิทอง, 110 หน้า.
	 ISBN 974-13-0817-5
กิดานันท์ มลิทอง.(2542). สรรค์สร้างหน้าเว็บและกราฟิกบนเว็บ. กรุงเทพฯ:     
	 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ดวงพร เกี๋ยงคํา.  (2549).  คู่มือการสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเอง.กรุงเทพฯ:
	 โปรวิชั่น.
ธนพล ฉันจรัสวิชัย.  (2548).  รวมเครื่องมือสร้างเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ.
	 กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น
การประชาสัมพันธ์. เข้าถึงได้จาก:
	 http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter7-5.html.
1 กรกฎาคม พ.ศ.2556.
การเรียนการสอนผ่านเว็บ. เข้าถึงได้:http://www.kroobannok.com/133.
	 1 กรกฎาคม พ.ศ.2556.
หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร. เข้าถึงได้:
www.pirun.ku.ac.th/~agrpct/envelop/com%20theory.doc.
1 กรกฎาคม พ.ศ.2556.
Minibook full
Minibook full

More Related Content

Viewers also liked

Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...
Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...
Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...Calishop Partener Calivita
 
May outlook 2013
May outlook 2013May outlook 2013
May outlook 2013Jason King
 
แนะแนวสวก51
แนะแนวสวก51แนะแนวสวก51
แนะแนวสวก51Kuliko Yetzdo
 
The henley group outlook march
The henley group outlook   marchThe henley group outlook   march
The henley group outlook marchJason King
 
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กหนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กPhanudet Senounjan
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1hirokisang
 
Who Are You Becoming?
Who Are You Becoming?Who Are You Becoming?
Who Are You Becoming?bookguts
 
Organization communication
Organization communicationOrganization communication
Organization communicationKan Yuenyong
 
L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...
L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...
L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...yankee010
 
ทฤษฎีการสื่อสาร
ทฤษฎีการสื่อสารทฤษฎีการสื่อสาร
ทฤษฎีการสื่อสารmonrudee naraphong
 
Pesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráfico
Pesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráficoPesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráfico
Pesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráficolicabarros
 
Mgt3403 การสื่อสารในองค์การ
Mgt3403 การสื่อสารในองค์การMgt3403 การสื่อสารในองค์การ
Mgt3403 การสื่อสารในองค์การSamruay Pakseeda
 
การสื่อสารภายในองค์กร
การสื่อสารภายในองค์กรการสื่อสารภายในองค์กร
การสื่อสารภายในองค์กรSmith Boonchutima
 
การสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กรการสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กรtanongsak
 
บทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟังบทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟังAj.Mallika Phongphaew
 
การสื่อสาร
การสื่อสารการสื่อสาร
การสื่อสารsariya25
 
แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...Wichai Likitponrak
 

Viewers also liked (20)

Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...
Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...
Spune Stop Infectiilor Virale… Si Descopera 6 Produse Naturiste Pentru Intari...
 
May outlook 2013
May outlook 2013May outlook 2013
May outlook 2013
 
แนะแนวสวก51
แนะแนวสวก51แนะแนวสวก51
แนะแนวสวก51
 
The henley group outlook march
The henley group outlook   marchThe henley group outlook   march
The henley group outlook march
 
หนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็กหนังสือเล่มเล็ก
หนังสือเล่มเล็ก
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
Who Are You Becoming?
Who Are You Becoming?Who Are You Becoming?
Who Are You Becoming?
 
นำเสนอ
นำเสนอนำเสนอ
นำเสนอ
 
Minibook full
Minibook fullMinibook full
Minibook full
 
Organization communication
Organization communicationOrganization communication
Organization communication
 
L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...
L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...
L 1 ancillary electrical services ships lighting and maintenance of lighting ...
 
ทฤษฎีการสื่อสาร
ทฤษฎีการสื่อสารทฤษฎีการสื่อสาร
ทฤษฎีการสื่อสาร
 
Pesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráfico
Pesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráficoPesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráfico
Pesquisa de Campo - evento de Design - 10ª bienal brasileira de design gráfico
 
Mgt3403 การสื่อสารในองค์การ
Mgt3403 การสื่อสารในองค์การMgt3403 การสื่อสารในองค์การ
Mgt3403 การสื่อสารในองค์การ
 
การสื่อสารภายในองค์กร
การสื่อสารภายในองค์กรการสื่อสารภายในองค์กร
การสื่อสารภายในองค์กร
 
การสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กรการสื่อสารในองค์กร
การสื่อสารในองค์กร
 
บทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟังบทที่ 2 การฟัง
บทที่ 2 การฟัง
 
การสื่อสาร
การสื่อสารการสื่อสาร
การสื่อสาร
 
แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศั...
 
Effective communication -Training Module
Effective communication -Training ModuleEffective communication -Training Module
Effective communication -Training Module
 

Similar to Minibook full

ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1
ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1
ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1ANuwat Neerat
 
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...ศรัณยวัฒน์ พลเรียงโพน
 
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...ศรัณยวัฒน์ พลเรียงโพน
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8Nattichat Thonton
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8Nattichat Thonton
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8teannantika
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8teannantika
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8teannantika
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8teannantika
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8teannantika
 
TH Developing communication: responses
TH Developing communication: responsesTH Developing communication: responses
TH Developing communication: responsesMassimiliano La Franca
 
00 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ100 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ1Kittitud SaLad
 

Similar to Minibook full (20)

ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1
ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1
ทฤษฏีการออกแบบเว็บ1
 
ทฤษฏ การออกแบบเว บ1
ทฤษฏ การออกแบบเว บ1ทฤษฏ การออกแบบเว บ1
ทฤษฏ การออกแบบเว บ1
 
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
 
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
 
ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8ใบงานที่ 2 8
ใบงานที่ 2 8
 
Com 1
Com 1Com 1
Com 1
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8
โครงงานคอมพิวเตอร์ ใบงานที่ 2-8
 
001
001001
001
 
00 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ100 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ1
 
K3
K3K3
K3
 
TH Developing communication: responses
TH Developing communication: responsesTH Developing communication: responses
TH Developing communication: responses
 
00 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ100 ส่วนนำ1
00 ส่วนนำ1
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
Work 3
Work 3Work 3
Work 3
 
Project 3
Project 3Project 3
Project 3
 

Minibook full

  • 1.
  • 2.
  • 3. คำ�นำ� สมุดเล่มเล็กนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 1193524 โปรแกรมสร้างเว็บเพื่อการศึกษา (Web Programming for Education) โดยมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาหาความรู้ได้จากเรื่อง การ พัฒนาเว็บไซต์จากแหล่งความรู้ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเว็บไซต์ องค์ประกอบของเว็บไซต์ ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ การจัดการเรียนการ สอนผ่านเว็บ ความหมายของเว็บไซต์ การออกแบบและการพัฒนา ขั้นตอนการพัฒนา การออกแบบ โครงสร้างเว็บไซต์ ส่วนประกอบของเว็บไซต์ กระบวนการพัฒนา ประเภทของเว็บไซต์ การประเมิน เว็บไซต์ และการโปรโมทเว็บไซต์ (Promote wed) ผู้จัดทำ�ได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำ�สมุดเล่มเล็ก เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใน ตรงกับจุด ประสงค์ในการเรียนในรายวิชา 1193524 โปรแกรมสร้างเว็บเพื่อการศึกษา (Web Programming for Education) ผู้จัดทำ�จะต้องขอขอบคุณ ท่าน อ.ปวริศ สารมะโน ผู้ให้ความรู้และแนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทำ�หวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็น ประโยชน์แก่ทุก ๆ ท่าน คณะผู้จัดทำ� 28 กรกฎาคม 2556
  • 4. สารบัญ เรื่อง หน้า หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร 1-3 ความหมายของการสื่อสาร ประเภทของการสื่อสาร ประสิทธิภาพของการสื่อสาร ทฤษฎีและแบบจำ�ลองการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ 4-5 ความหมายของการประชาสัมพันธ์ องค์ประกอบของการประชาสัมพันธ์ การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction) 5-6 การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ การออกแบบการเรียนการสอนผ่านเว็บ ประโยชน์ของการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ การประเมินผลการเรียนการสอนผ่านเว็บ ความหมายของเว็บไซต์ 6-7 การออกแบบและขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์ 7-11 ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์ การออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบโครงสร้างของเว็บไซต์ 12-13 ส่วนประกอบของเว็บไซต์ 14 กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ 15-17 ประเภทของเว็บไซต์ 17-19 การประเมินเว็บไซต์
  • 5. สารบัญต่อ เรื่อง หน้า การโปรโมทเว็บไซต์ (Promote wed) 20-21 ความหมายของการโปรเมทเว็บไซต์ เครื่องมือที่ใช้ในการโปรเมทเว็บไซต์ เว็บไซต์ยอดนิยมในการโปรโมทเว็บไซต์ บรรณานุกรม
  • 6.
  • 7. 1.หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร ความหมายของการสื่อสาร ได้มีนักวิชาการหลายท่านให้ความหมายของการสื่อสารไว้ในหลายแง่มุมเช่น จอร์จ เอ มิลเลอร์ : เป็นการถ่ายทอดข่าวสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง จอร์จ เกิร์บเนอร์ : เป็นการแสดงกริยาสัมพันธ์ทางสังคมโดยใช้สัญลักษณ์วิลเบอร แรมส์ : เป็นการมีความเข้าใจร่วมกันต่อเครื่องหมายที่แสดงข่าวสาiซึ่งสามารถสรุปให้เข้าใจได้ง่ายๆคือ การถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารจากบุคคลฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่าผู้ส่งสารไปยังยังบุคคลอีกฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่าผู้รับ สารโดยผ่านช่องทางในการสื่อสารโดยมีองค์ประกอบที่สำ�คัญคือ ผู้ส่งสาร(Sender) สาร(Message) ช่อง ทาง(Channel) และตัวผู้รับสาร(Reciever) ซึ่งมักเรียกกันว่า SMCR ประเภทของการสื่อสาร (1) การสื่อสารภายในบุคคล(Intrapersonal Communication)การคิดหรือจินตนาการกับตัว เอง เป็นการคิดไตร่ตรองกับตัวเอง ก่อนที่จะมีการสื่อสาร ประเภทอื่นต่อไป (2) การสื่อสารระหว่างบุคคล(Interpersonal Communication)การที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มาทำ�การสื่อสารกันอย่างมีวัตถุประสงค์ เช่นการพูดคุย ปรึกษาหารือในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง (3) การสื่อสารกลุ่มย่อย(Small-group) Communication)การสื่อสารที่มีบุคคลร่วมกันทำ�การ สื่อสารเพื่อทำ�กิจกรรมร่วมกันแต่จำ�นวนไม่เกิน 25 คน เช่นชั้นเรียนขนาดเล็ก ห้องประชุมขนาดเล็ก (4) การสื่อสารกลุ่มใหญ่(Large-group Communication)การสื่อสารระหว่างคนจำ�นวนมาก เช่นภายในห้องประชุมใหญ่ โรงภาพยนตร์ โรงละครชั้นเรียนขนาดใหญ่ (5) การสื่อสารในองค์กร(Organization Communication)การสื่อสารระหว่างสมาชิกภายใน หน่วยงาน เพื่อปฏิบัติงานให้สำ�เร็จลุล่วง เช่นการสื่อสารระหว่าเพื่อนร่วมงาน เจ้านายกับลูกน้อง (6) การสื่อสารมวลชน(Mass Communication)การสื่อสารกับคนจำ�นวนมากในหลายๆพื้นที่ พร้อมกัน โดยใช้สื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์เป็นสื่อกลาง เหมาะสำ�หรับการส่งข่าวสารไปยังผู้คนจำ�นวนมากๆในเวลาเดียวกัน (7)การสื่อสารระหว่างประเทศ(International Communication) การสื่อสารระหว่างบุคคลที่มี ความแตกต่างกันใน เชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม การเมืองและสังคม เช่นการสื่อสารทางการทูต การสื่อสาร เจรจาต่อรองเพื่อการทำ�ธุรกิจ 1
  • 8. 2 ประสิทธิภาพของการสื่อสาร ตามองค์ประกอบของการสื่อสาร ทำ�ให้เห็นว่ามีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการสื่อสารได้ ดัง นั้นจึงควรต้องทำ�ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างเพื่อช่วยในการวางแผนการสื่อสาร โดยสามารถศึกษาได้จากแบบ จำ�ลองการสื่อสารของเบอร์โล ทฤษฎีและแบบจำ�ลองการสื่อสาร ทฤษฎี คือข้อความเกี่ยวกับการทำ�งานของสิ่งต่าง ๆ หรือข้อความที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อเท็จจริงต่างๆ แบบจำ�ลอง เกิดจากความพยายาม ที่จะอธิบายปรากฏการณ์ทางการสื่อสารแบบต่างๆ จึงสร้างแบบจำ�ลองขึ้น แบบจำ�ลองทฤษฎีการสื่อสารมีอยู่ 4 แบบ คือ (1) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงระบบพฤติกรรม (2) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงพฤติกรรมการเข้าและถอดรหัส (3) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงปฏิสัมพันธ์ (4) ทฤษฎีการสื่อสารเชิงปริบททางสังคม
  • 9. 2. การประชาสัมพันธ์ ความหมายของการประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารความคิดเห็น ข่าวสาร ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ไปสู่กลุ่ม ประชาชน เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงาน องค์การ สถาบันกับ กลุ่ม ประชาชนเป้าหมายและประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหวังผลในความร่วมมือ สนับสนุนจากประชาชน รวมทั้งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ที่ดีให้แก่หน่วยงาน องค์การ สถาบันด้วย ทำ�ให้ประชาชน เกิด ความนิยม เลื่อมใส ศรัทธาต่อหน่วยงาน ตลอดจนค้นหาและกำ�จัดแหล่งเข้าใจผิด ช่วยลบล้างปัญหา เพื่อสร้างความสำ�เร็จในการดำ�เนินงานของหน่วยงานนั้น องค์ประกอบของการประชาสัมพันธ์ องค์ประกอบของการประชาสัมพันธ์ หากพิจารณาจากกระบวนการสื่อสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ แล้ว ก็สามารถจำ�แนกองค์ประกอบ สำ�คัญของการประชาสัมพันธ์ออกเป็น 4 ประการ คือ (1) องค์กร สถาบันหรือหน่วยงาน (2) ข่าวสารประชาสัมพันธ์ (3) สื่อประชาสัมพันธ์ (4) กลุ่มประชาชนเป้าหมายในการประชาสัมพันธ์
  • 10. 3. การเรียนการสอนผ่านเว็บ การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction) เป็นการจัดสภาพการเรียนการสอนที่ได้รับการ ออกแบบอย่างมีระบบ โดยอาศัยคุณสมบัติและทรัพยากรของเวิลด์ไวด์เว็บ มาเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเพื่อส่ง เสริมสนับสนุนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยอาจจัด เป็นการเรียนการสอนทั้งกระบวนการ หรือนำ�มา ใช้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้งหมดและช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคของการเรียนการสอนทางด้านสถานที่ และเวลาอีกด้วย การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ แบบการจัดการเรียนผ่านเว็บมีลักษณะการเรียนการสอนที่แตกต่างไปจากการเรียนการสอนในชั้นเรียน ปกติที่คุ้นเคยกันดี ซึ่งการจัดการเรียนการสอนดั้งเดิมในชั้นเรียนส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่เน้นให้ผู้สอนเป็นผู้ป้อน ความรู้ให้แก่ผู้เรียนทำ�ให้ผู้เรียนไม่ใฝ่ที่จะหาความรู้เพิ่มเติมมี 5 ประการ คือ (1) ในการจัดการเรียนการสอนโดยทั่วไปแล้ว (2) การจัดการเรียนการสอนควรสนับสนุนให้มีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้เรียน (3) ควรสนับสนุนให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง (Active Learners) (4) การให้ผลย้อนกลับแก่ผู้เรียนโดยทันทีทันใดช่วยให้ผู้เรียนได้ทราบถึงความสามารถของตน (5) ควรสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนที่ไม่มีขีดจำ�กัด การออกแบบการเรียนการสอนผ่านเว็บ ในการออกแบบและพัฒนาเว็บการเรียนการสอนผ่านให้มีประสิทธิภาพนั้นมีแนวทางในการออกแบบการ เรียนการสอน ดังนี้ (1) ศึกษาเกี่ยวกับผู้เรียนและเนื้อหาที่จะนำ�มาพัฒนาเพื่อกำ�หนดวัตถุประสงค์และหาแนวทางในการจัด กิจกรรมการเรียน (2) วางแผนเกี่ยวกับการจัดรูปแบบโครงสร้างของเนื้อหา ศึกษาคุณลักษณะของเนื้อหาที่จะนำ� มาใช้เป็น บทเรียนว่าควรจะนำ�เสนอในลักษณะใด (3) ออกแบบโครงสร้างเพื่อการเข้าถึงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ออกแบบควรศึกษาทำ�ความเข้าใจ กับโครงสร้างของบทเรียนแบบต่างๆ โดยพิจารณาจากลักษณะผู้เรียนและเนื้อหาว่าโครงสร้างลักษณะใดจะเอื้อ อำ�นวยต่อการเข้าถึงข้อมูลของผู้เรียนได้ดีที่สุด (4) ทดสอบรูปแบบเพื่อหาข้อผิดพลาด จากนั้นทำ�การปรับปรุงแก้ไขและทดสอบซ้ำ�อีกครั้งจน แน่ใจว่า เป็นบทเรียนที่มีประสิทธิภาพก่อนที่จะนำ�ไปใช้งาน
  • 11. จากที่กล่าวมาการเรียนการสอนผ่านเว็บ เป็นการจัดการอย่างจงใจและนำ�เสนอข้อมูลที่มีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้โดยเฉพาะ ดังนั้นการออกแบบเว็บช่วยสอนจึงต้องพิจารณาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และการจัดระเบียบของเนื้อหาในบทเรียนที่สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้การเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นไปอย่างมีระบบ ประโยชน์ของการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ ประโยชน์ของการเรียนการสอนผ่านเว็บมีมากมายหลายประการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของ การนำ�ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งเป็นมิติใหม่ของเครื่องมือและกระบวนการในการเรียนการสอน 5
  • 12. 4. ความหมายของเว็บไซต์ ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ ความหมายของเว็บไซต์ คําว่า “เว็บไซต์ (Web site)”มีผู้ให้ความหมาย ดังนี้ จักรชัย โสอินทร์และอุรุพงษ์ กัลยาสิริ (2542: 18)กล่าวว่า“เว็บไซต์ คือ สถานที่อยู่ของเว็บเพจที่ โปรแกรมค้นดูจะสามารถไปดึงข้อมูลมาเปิดให้ดูได้ โดยเว็บไซต์นี้จะอยู่ในเครื่องที่ให้บริการที่เรียกว่าเครื่อง บริการเว็บ” จากความหมายข้างต้น สรุปได้ว่า เว็บไซต์ คือ แหล่งรวบรวมเว็บเพจขององค์กรหนึ่งๆ ซึ่งจะ ประกอบด้วยสื่อประสมต่างๆ ทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เป็นที่อยู่ ของสารสนเทศบน อินเทอร์เน็ต สามารถเข้าถึงได้โดยผ่านเวิลด์ไวด์เว็บ ประภาพร ช่างไม้ (2548: 5) กล่าวว่า “เว็บไซต์ คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมา เป็นเว็บ ซึ่ง หมายความถึงเว็บเพจ (Webpage) ทุกหน้า รูปทุกรูปที่นําเข้ามาใช้ แฟ้มข้อมูลเสียงรูปเคลื่อนไหวและส่วน ประกอบอื่นๆ ที่นํามาใช้ เช่น โปรแกรมที่เขียนขึ้น สามารถเปรียบเทียบ ได้ว่าเว็บไซต์เป็นเสมือนหนังสือทั้ง เล่ม”
  • 13. 5. การออกแบบ และขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์ ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาเว็บไซต์อย่างมีหลักการ ดําเนินการตามขั้นตอนที่ชัดเจน จะทําให้ผู้สร้าง เว็บไซต์สามารถใส่ใจ รายละเอียดที่จําเป็นในแต่ละขั้นตอนของการออกแบบ ซึ่งจะช่วยป้องกัน ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และลดความ เสี่ยงที่จะทําให้เว็บประสบความล้มเหลว ให้ผู้สร้างได้เว็บไซต์ ที่ตรงกับเป้าหมายตามต้องการ มีประโยชน์ และ ให้ความสะดวกแก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ การสร้าง เว็บไซต์ที่ดีนั้นต้องอาศัยการออกแบบและจัดระบบข้อมูลอย่าง เหมาะสม ดวงพร เกี๋ยงคํา (2549: 27) กล่าวถึงกระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ไว้เป็นขั้นตอนดังภาพประกอบ 2 ภาพประกอบที่ 2 ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนาเว็บไซต์ ที่มา: ดวงพร เกี๋ยงคํา. (2549). คู่มือสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเอง.หน้า 28 (1) กําหนดเป้าหมายและวางแผน การพัฒนาเว็บไซต์ควรกําหนดเป้าหมายและวางแผน ไว้ล่วงหน้า เพื่อ ให้การทํางานในขั้นต่อไปมีแนวทางที่ชัดเจน (2) วิเคราะห์และจัดโครงสร้างข้อมูล เป็นการนําข้อมูลต่างๆ ที่รวบรวมได้จากขั้นแรก นํามาประเมิน วิเคราะห์และจัดระบบ (3) ออกแบบเว็บเพจและเตรียมข้อมูล เป็นขั้นตอนการออกแบบเค้าโครงและลักษณะ ด้านกราฟิกของ หน้าเว็บเพจ เพื่อให้ผู้ใช้เกิดอารมณ์ความรับรู้ต่อเว็บเพจตามที่ผู้สร้างต้องการ
  • 14. 4) ลงมือสร้างและทดสอบ เป็นขั้นตอนที่เว็บเพจจะถูกสร้างขึ้นทีละหน้าโดยอาศัย เค้าโครงและองค์ ประกอบกราฟิกตามที่ออกแบบไว้ และเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาควรได้รับการทดสอบก่อนที่ จะนําออกเผยแพร่ (5) เผยแพร่และส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปการนําเว็บไซต์ขึ้นเผยแพร่บน อินเทอร์เน็ตจะทําด้วย การอัพโหลด (Upload) แฟ้มข้อมูลทั้งหมด คือ เอชทีเอ็มแอลและแฟ้มข้อมูล อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นไปเก็บบน เครื่องบริการที่เปิดบริการไว้ (6) ดูแลและปรับปรุงต่อเนื่อง หลังจากที่เว็บไซต์ได้รับการเผยแพร่ไประยะหนึ่ง ควรปรับปรุงเพื่อให้ ผู้ใช้รู้สึกว่ามีความเปลี่ยนแปลง มีความใหม่ ทันสมัย การออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพไว้ดังนี้ (จิตเกษม พัฒนาศิริ.2539; ธวัชชัย ศรีสุเทพ. 2544: 16; วิเศษศักดิ์ โครตอาษา. 2542: 184) 1) ความเรียบง่าย หมายถึง การสื่อสารเนื้อหาถึงผู้ใช้ให้อ่านเข้าใจง่าย โดยจํากัด องค์ประกอบเสริม ที่เกี่ยวข้องกับการนําเสนอให้เหลือเฉพาะสิ่งที่จําเป็นเท่านั้น 2) ความสม่ำ�เสมอ หมายถึง สามารถสร้างความสม่ำ�เสมอให้กับเว็บไซต์ได้ นําเสนอ เว็บไซต์ในรูป แบบเดียวกันตลอดทั้งเว็บไซต์ เนื่องจากผู้ใช้จะรู้สึกกับเว็บไซต์ว่าเป็นเสมือนสถานที่ จริง ถ้าลักษณะของ แต่ละหน้าในเว็บไซต์เดียวกันนั้นแตกต่างกันมากผู้ใช้ก็จะเกิดความสับสนและไม่แน่ใจว่ากําลังอยู่ในเว็บเดิม หรือไม่ ดังนั้นรูปแบบของหน้าเว็บ รูปแบบของกราฟิก ระบบนําทางและกลุ่มสีที่ใช้ควรจะมีความคล้ายคลึง กันตลอดทั้งเว็บไซต์ 3) ความเป็นเอกลักษณ์ การออกแบบต้องคํานึงถึงลักษณะขององค์กร เนื่องจาก รูปแบบของ เว็บไซต์สามารถสะท้อนถึงลักษณะขององค์กรนั้น ได้ การใช้ชุดสี ชนิดตัวอักษร รูปภาพ และกราฟิกจะมีผลต่อรูปแบบของเว็บไซต์อย่างมาก ผู้ออกแบบจึงต้อง เลือกใช้องค์ประกอบเหล่านี้ อย่างเหมาะสม 4) เนื้อหาที่มีประโยชน์ เนื้อหาถือเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดในเว็บไซต์ ดังนั้นในเว็บไซต์ ควรจัดเตรียม เนื้อหาและข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการให้ถูกต้องและสมบูรณ์ โดยมีการปรับปรุงและเพิ่มเติม ให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่ เสมอ เนื้อหาที่สําคัญที่สุดคือเนื้อหาที่สร้างขึ้นมาเอง และไม่ซ้ำ�กับเว็บอื่น เพราะจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ใช้ให้เข้า มาในเว็บไซต์อยู่เสมอ ต่างจากเนื้อหาที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ซึ่งเมื่อผู้ใช้รู้ถึงแหล่งข้อมูลจริงๆ แล้วก็ไม่จํา เป็นต้องกลับมาที่จุดเชื่อมโยงเหล่านั้นอีก 5) ระบบนําทางที่ใช้งานง่าย ระบบนําทางเป็นองค์ประกอบที่สําคัญมากของเว็บไซต์ ต้องออกแบบ ให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายและใช้งานสะดวก โดยใช้กราฟิกที่สื่อความหมายร่วมกับคําอธิบาย ที่ชัดเจน รวมทั้งมีรูป แบบและลําดับของรายการที่สม่ำ�เสมอ เช่น วางไว้ในตําแหน่งเดียวกัน ของทุกๆ หน้า นอกจากนั้นถ้าใช้ ระบบนําทางแบบกราฟิกในส่วนบนของหน้าเว็บแล้ว อาจเพิ่มระบบ นําทางที่เป็นตัวอักษรไว้ที่ตอนท้ายของ หน้าเว็บ เพื่อช่วยอํานวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้โปรแกรม ค้นดูอีกทางหนึ่ง 6) มีลักษณะที่น่าสนใจ เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าลักษณะหน้าเว็บของเว็บไซต์จะมีความน่าสนใจ หรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับความชอบของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดีหน้าเว็บของ เว็บไซต์จะมีความสัมพันธ์กับ คุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ เช่น คุณภาพของกราฟิกที่จะต้อง สมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยของความเสียหาย เป็นจุดด่างหรือมีขอบเป็นขั้นบันไดให้เห็น การใช้ชนิด ตัวอักษรที่อ่านง่าย สบายตา 8
  • 15. 7) การเข้าใช้งานได้ไม่จํากัด ควรออกแบบเว็บไซต์ให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากที่สุด โดยไม่มีการ บังคับให้ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่มเติม หรือต้องเลือกใช้โปรแกรมค้นดูโปรแกรม ใดโปรแกรมหนึ่ง จึงจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ สามารถแสดงผลได้ในทุกระบบปฏิบัติการและที่ ความละเอียดหน้าจอต่างๆ กันอย่างไม่มีปัญหา สิ่งเหล่านี้จะยิ่งมีความสําคัญมากขึ้นสําหรับเว็บที่มี ผู้ใช้บริการจํานวนมาก หรือมีกลุ่ม เป้าหมายที่หลากหลาย 8) มีคุณภาพในการออกแบบ มีความสําคัญกับการออกแบบเว็บไซต์เช่นเดียวกับสื่อ ประเภท อื่นๆ ที่ต้องออกแบบและเรียบเรียงเนื้อหาอย่างรอบคอบ เว็บที่ทําขึ้นอย่างไม่มีมาตรฐานในการออกแบบ และการจัดระบบข้อมูลนั้น เมื่อมีข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดปัญหาข้อมูลสับสน ไม่เป็นระบบ และไม่ สามารถสร้างความน่าเชื่อถือจากผู้ใช้ได้ 9) ระบบใช้งานได้ถูกต้อง ระบบการทํางานต่างๆ ในเว็บไซต์จะต้องมีความแน่นอน และทําหน้าที่ ได้อย่างถูกต้อง เช่น ถ้ามีแบบฟอร์มสําหรับให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลต้องแน่ใจว่าแบบฟอร์ม นั้นสามารถใช้การ ได้จริง หรืออย่างง่ายที่สุดก็คือ จุดเชื่อมโยงต่างๆ ที่มีอยู่นั้นจะต้องเชื่อมโยงไปยัง หน้าที่มีปรากฏอยู่จริง และถูกต้องด้วย ความรับผิดชอบของผู้จัดทําเว็บคือการทําให้ระบบเหล่านั้น ใช้งานได้ตั้งแต่แรกและยัง ต้องคอยตรวจสอบอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งเหล่านั้นยังทํางานได้ดี โดยเฉพาะจุดเชื่อมโยงที่เชื่อมโยงไป ยังเว็บอื่นซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นจะมีคุณภาพดีหรือไม่นั้น ผู้ใช้เป็นผู้ ตัดสิน โดยเริ่มตั้งแต่ผู้ใช้เห็น เว็บไซต์เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นจึงต้องสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งาน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้กลับมาใช้เว็บไซต์อีกครั้ง
  • 16. 6. การออกแบบโครงสร้างของเว็บไซต์ การที่จะออกเว็บไซต์ให้ได้ผลตามวัตถุประสงค์นั้นจากที่กล่าวมาแล้วในเรื่องของเว็บไซต์ เว็บไซต์และโฮมเพจ จะเห็นได้ว่าแต่ละเว็บไซต์จะประกอบไปด้วยเว็บไซต์ตั้งแต่ 1 หน้าไปจนกระทั่งไม่มีขีดจำ�กัด และโฮมเพจก็คือเว็บไซต์ หน้าแรกของเว็บไซต์ดังนั้นในส่วนของการออกแบบเว็บไซต์เป็นสำ�คัญซึ่งนักออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์หลายท่านได้ ให้คำ�แนะนำ�ไว้ ดังนี้ จิตเกษม พัฒนาศิริ (2539) ได้เสนอแนะถึงการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีว่า 1. มีรายการสารบัญแสดงรายละเอียดของเว็บไซต์ 2. มีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเป้าหมายได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด 3. เนื้อหากระชับสั้นและทันสมัยอยู่เสมอ 4. สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างทันท่วงที 5. เลือกใช้รูปภาพ ทําหน้าที่แทนคําบรรยายที่ยาวเกินไป 6. เข้าสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง 7. การสร้างและการออกแบบเว็บไซต์ ง่ายต่อการใช้งานและตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้หมาย 8. มีการกําหนดข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ และจัดเป็นกลุ่ม เป็นหมวดหมู่ เพื่อความเป็นระเบียบ ทำ�ให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์สะดวกในการใช้งาน จากหลักการและกระบวนในการออกแบบเว็บไซต์จะเห็นว่านอกจะต้องอาศัยความรู้และทักษะทางด้าน คอมพิวเตอร์แล้วยังต้องอาศัยทักษะและความชำ�นาญทางด้านศิลปะควบคู่กันไปด้วย เช่นด้านการจัดวางข้อความ ภาพ รวมไปถึงเสียงและบางเว็บไซต์ที่ผู้ออกแบบมีความสามารถสูงก็อาจจะมีสื่อประสมประกอบด้วยเพื่อให้เว็บไซต์มี ความน่าสนใจและน่าติดตามยิ่งขึ้น ดังนั้น งานทางด้านศิลปะที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือคอมพิวเตอร์กราฟิกและงาน ด้านสื่อประสมที่อาศัยคอมพิวเตอร์จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้โดยที่งานดังกล่าวมีองค์ประกอบโดยสังเขป ดังนี้
  • 17. (1)การเกิดสีและภาพบนจอคอมพิวเตอร์จอภาพคอมพิวเตอร์ที่เราเห็นแสดงสีสันได้สวยงามนั้น ก็มาจากการ ผสมกันของ แม่สี 3 สี โดยแต่ละสีจะมีความเข้มได้ 256 ระดับ คือ ตั้งแต่ 0-255 และเมื่อผสมกันทั้ง 3 สี จํานวนสี ที่สามารถแสดงได้ก็คือ 256x256x256 หรือประมาณ 16.7 ล้านสี หรือเรียกว่าความคมชัด 24 บิต การแสดงสีของ ภาพที่ปรากฏจะชัดเจนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความละเอียดของจอภาพ (resolution) และความสามารถของการ์ด แสดงผลจอภาพ (VGA Card)(วงศ์ประชา จันทร์สมวงศ์, 2543) (2) กราฟิกในเว็บไซต์ แฟ้มรูปภาพหรือกราฟิก หมายถึง ภาพที่ได้จากการสร้าง ดัดแปลง หรือภาพถ่าย ภาพ วาดลายเส้น ภาพระบายสี หรือตัวอักษรที่นำ�มาใช้ในเว็บไซต์ สามารถเรียกได้ว่ากราฟิกเช่นกัน ซึ่งการใช้กราฟิกบน เว็บนั้นทำ�ได้ 3 แบบ ดังนี้ (กิดานันท์ มลิทอง, 2542) (2.1) ภาพแทรก เป็นภาพที่แสดงบนเว็บ (2.2) ภาพเข้าถึงด้วยการเชื่อมโยง ภาพลักษณะเดียวกันแต่มีรายละเอียดและขนาดภาพน้อย (2.3) ภาพกราฟิกพื้นหลัง เมื่อต้องการตกแต่งเว็บไซต์ให้ดูสวยงาม อาจจะใช้กราฟิกเป็นพื้นหลังแทนที่จะเป็นสีพื้นแต่ เพียงอย่างเดียว (3) สื่อประสมในเว็บไซต์ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของซอฟต์แวร์ที่ใช้สร้างเว็บไซต์ นอกจากจะทำ�ให้ผู้สร้าง สามารถบรรจุภาพต่างๆ ลงไปในเว็บไซต์แล้ว ยังสามารถบรรจุสื่อประสม (multimedia) ได้อีกด้วย อาทิ แฟ้มเสียง ภาพเคลื่อนไหว ภาพจากวีดิทัศน์ ฯลฯ เป็นต้น ทำ�ให้เว็บไซต์มีความสวยงาม น่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้น
  • 18. 7. ส่วนประกอบของเว็บไซต์ ภายในเว็บไซต์หนึ่งๆ มีเว็บเพจจํานวนหลายหน้า ในแต่ละหน้ามีทั้งข้อความและสื่อประสมรวมกัน ตามที่วิทยา เรืองพรวิสุทธิ์ (2539: 46-47) กล่าวถึงส่วนประกอบของเว็บไซต์ สรุปได้ว่ามีส่วนประกอบต่างๆ ที่ จําเป็นดังนี้ (1) ตัวอักษร เป็นข้อความปกติ โดยสามารถตกแต่งให้สวยงามและมีลูกเล่นต่างๆ (2) กราฟิก ประกอบด้วยรูปภาพ ลายเส้น ลายพื้น ต่างๆ มากมาย (3) สื่อประสม ประกอบด้วยข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และวีดิทัศน์ (4) ตัวนับ ใช้นับจํานวนผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บเพจ (5) จุดเชื่อมโยง ใช้เชื่อมโยงไปยังเว็บเพจของตนเองหรือเว็บเพจของคนอื่น (6) แบบฟอร์ม เป็นแบบฟอร์มที่ให้ผู้เข้าเยี่ยมชมกรอกรายละเอียดแล้วส่งกลับมายัง เว็บเพจ (7) กรอบ เป็นการแบ่งจอภาพเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนก็จะแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน (8) แผนที่ภาพ เป็นรูปภาพขนาดใหญ่ที่กําหนดส่วนต่างๆ บนรูป เพื่อเชื่อมโยงไปยัง เว็บ (9) จาวาแอปเพล็ด (Java applets) เป็นโปรแกรมสําเร็จรูปเล็กๆ ที่ใส่ลงในเว็บเพจ สามารถเพิ่ม ลักษณะพิเศษ การโต้ตอบ เช่น เพิ่มเกมส์หรือหน้าต่างสําหรับป้อนหรือดูข้อมูล บนเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ เป็นต้น เพื่อให้การใช้งานเว็บเพจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • 19. 8. กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ สิ่งแรกที่นักพัฒนาเว็บควรทำ�เมื่อเริ่มต้นพัฒนาเว็บไซต์ คือ กำ�หนดกรอบกระบวนการทำ�งาน (Framework) ที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนของการพัฒนาเว็บ และรายละเอียดของงานในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่ เริ่มต้นกระบวนการจนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการ เพื่อให้การพัฒนาเว็บเป็นไปอย่างมีแบบแผน ถึงแม้ว่าการ กำ�หนดกรอบการทำ�งานจะเป็นขั้นตอนที่มีความยุ่งยากแต่ก็เป็นเครื่องมือสำ�คัญที่ช่วยให้การพัฒนาเว็บสำ�เร็จ ลุล่วงตรงตามวัตถุประสงค์ได้ เพราะกรอบการทำ�งานจะช่วยป้องกันความผิดพลาด และความสับสนในระหว่าง การพัฒนาเว็บ โดยนักพัฒนาเว็บสามารถย้อนกลับมาตรวจสอบงานตามกรอบการทำ�งานในภายหลังได้ดังนี้ (1) กรอบการทำ�งานหรือแบบจำ�ลองกระบวนการ (Process Model) (2) การกำ�หนดขอบเขตของข้อมูล (Scope Plane) (3) การสร้างกลยุทธ์ในการออกแบบ (Strategy Plane) (4) การกำ�หนดขอบเขตของข้อมูล (Scope Plane) (5) การจัดทำ�โครงการสร้างข้อมูล (Structrue Plane) (6) การออกแบบโครงสร้างเว็บเพจ (Skeleton Plane) (7) การออกแบบรูปลักษณ์ของเว็บเพจ (Surface Plane)
  • 20. 9. ประเภทของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีรูปแบบและลักษณะที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้เป็น เจ้าของเว็บไซต์ แต่ละเว็บไซต์จะมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันดังนั้นการออกแบบจึงต้องคํานึงถึง ความสะดวกในการใช้งาน การที่จะสามารถใช้งานเว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้นั้นจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง เข้าใจถึงลักษณะของเว็บไซต์และจําแนกแยกแยะได้ว่าเว็บไซต์เหล่านั้นมีความแตกต่างหรือเหมือนกันประการใด รวมถึงมีหน้าที่หลัก เฉพาะตัวอย่างไรบ้าง ประเภทของเว็บไซต์แบ่งตามลักษณะการใช้งานสามารถแบ่งออกเป็น5 ประเภท ดังนี้ (สมาน ลอยฟ้า. 2544: 3; วิเศษศักดิ์ โครตอาษา. 2542: 184) (1) เว็บไซต์เพื่อการประชาสัมพันธ์ เป็นเว็บไซต์ที่จัดทําโดยองค์กรต่างๆ เว็บไซต์ เหล่านี้เทียบได้ กับแผ่นพับหรือจดหมายข่าว เพียงแต่เว็บไซต์อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่าเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดและภารกิจ ขององค์กร หรืออื่นๆ เป็นต้น ปกติที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้ายด้วย .org (2) เว็บไซต์เพื่อธุรกิจและการตลาด เป็นเว็บไซต์ที่จัดทําโดยบริษัทธุรกิจต่างๆ โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อขายหรือโฆษณาสินค้าและบริการต่างๆ ในบางครั้งอาจมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เชื่อถือได้ และให้ ใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ในที่สุดก็มักจะถูกขอให้ซื้อสินค้าบางอย่าง ในการใช้ข้อมูล เหล่านี้ควรวิเคราะห์ด้วยความ รอบคอบก่อน เนื่องจากธุรกิจการค้าต่างๆ มักจะมีความลําเอียง ปกติ ที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้ายด้วย .com (3) เว็บไซต์เพื่อข่าวสาร เป็นเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และ เพื่อแลกเปลี่ยนผลการวิจัย ข้อมูลบางอย่างมีลักษณะคล้ายจุลสารที่มักพบได้ตามหน่วยงาน ต่างๆ ซึ่งมีประโย ชน์สําหรับเป็นข้อมูลพื้นฐาน แต่เนื้อหามักจะขาดความลุ่มลึก ปกติที่อยู่ของ เว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้ายด้วย .gov (4) เว็บไซต์ข่าวและเหตุการณ์ เป็นเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการให้ข่าวสาร ที่เป็น ปัจจุบันที่สุดในฐานะที่เป็นบริการสาธารณะ อย่างไรก็ตามเว็บไซต์เหล่านี้มักจะมีบริษัทหรือ องค์กรต่างๆ เป็น ผู้ให้การสนับสนุน ดังนั้นจึงมักพบโฆษณาปรากฏบนเว็บไซต์ ผู้ใช้พึงระมัดระวัง ในเรื่องของความลําเอียงที่อาจ ปรากฏในข่าวที่นําเสนอด้วย ปกติที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้าย ด้วย .com (5) เว็บไซต์ส่วนบุคคล เป็นเว็บไซต์ของบุคคลเพื่อเสนอแนวคิดหรือเพื่อประชาสัมพันธ์ ตัวเอง ในด้านต่างๆ ส่วนใหญ่มักเป็นงานที่ไม่ค่อยมีสาระ ปกติที่อยู่ของเว็บไซต์เหล่านี้อาจลงท้าย ด้วย .com และมักจะ มีเครื่องหมาย ~ ปรากฏในที่อยู่ด้วย การสร้างเว็บไซต์มีความจําเป็นอย่างมากในการกําหนดกรอบและทิศทาง ของเว็บไซต์ นั้นๆ ให้อยู่ในลักษณะหนึ่งลักษณะใดข้างต้น เพื่อให้การใช้งานที่จะเกิดขึ้นระหว่างเว็บไซต์และผู้ เยี่ยมชมเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • 21. 10. การประเมินเว็บไซต์ เนื่องจากเว็บไซต์ได้กลายเป็นเครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่ใช้สําหรับการค้นหาสารสนเทศ ปัจจุบันแนวโน้มใน การค้นหาสารสนเทศบนเว็บได้เพิ่มทวีมากขึ้น และผู้ใช้จํานวนไม่น้อยที่เริ่มต้น การค้นสารสนเทศจากเว็บก่อนเป็น อันดับแรก หลังจากนั้นจึงค่อยค้นหาจากแหล่งสารสนเทศอื่นดังนั้นการประเมินสารสนเทศที่พบบนเว็บจึงเป็นกิจ กรรมสําคัญสําหรับผู้ที่ต้องการใช้สารสนเทศ จากเว็บเพื่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัยในการประเมินเว็บไซต์ ควร ประเมินเว็บไซต์ตามหัวข้อดังต่อไปนี้ (สมาน ลอยฟ้า. 2544: 4; วิเศษศักดิ์ โครตอาษา. 2542: 185) (1) จุดมุ่งหมายและกลุ่มผู้ใช้ ได้แก่ วัตถุประสงค์ของเว็บไซต์นั้นคืออะไร มีความชัดเจน หรือไม่และสารสน เทศที่นําเสนอเป็นที่พึงพอใจกับความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ (2) ขอบข่าย ได้แก่ (2.1) ความกว้าง เช่น ครอบคลุมเนื้อหาอะไรบ้าง (2.2) ความลุ่มลึก เช่น เนื้อหามีความลุ่มลึกเพียงใด ระดับของรายละเอียดของ (2.3) ช่วงเวลา เช่น สารสนเทศที่นําเสนอได้จํากัดช่วงเวลาไว้แน่นอนหรือไม่ เป็นต้น (2.4) รูปแบบ เช่น ถ้ามีการเชื่อมโยงไปยังแหล่งสารสนเทศอื่นๆ (3) เนื้อหา องค์ประกอบสําคัญที่เกี่ยวกับเนื้อหามีดังนี้ (3.1) ความถูกต้อง เช่น สารสนเทศมีความถูกต้องเพียงใดหรือมีข้อผิดพลาดหรือไม่ จุดมุ่งหมาย ของการเขียนเอกสารนั้นคืออะไร (3.2) หลักฐานในการเขียน เนื่องจากผู้สร้างเว็บไซต์เป็นใครก็ได้ ดังนั้นการรู้ข้อมูล เกี่ยวกับผู้แต่ง จึงเป็นสิ่งสําคัญ (3.3) ความเป็นปัจจุบัน เช่น ระบุวันเดือนปีแจ้งไว้ที่หน้าโฮมเพจหรือไม่ ถ้าไม่มีมีวิธีการที่จะรู้ได้ หรือไม่ เอกสารนั้นผลิตขึ้นเมื่อใด (3.4) ความเป็นปรนัย เช่น มีโฆษณาที่หน้าโฮมเพจหรือไม่ (3.5) ลักษณะเฉพาะ เช่น เนื้อหาที่นําเสนอสามารถหาได้จากสื่อในรูปแบบอื่นและสนับสนุน แหล่งข้อมูลอื่นด้วยหรือไม่ (3.6) การเชื่อมโยงไปยังแหล่งสารสนเทศอื่นๆ เช่น มีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ อื่นๆ หรือไม่ (3.7) คุณภาพในการเขียน เช่น เนื้อหาเขียนดีหรือไม่ ข้อมูลที่นําเสนอ มีความชัดเจนและเนื้อหา เหมาะสมกับระดับของผู้อ่านหรือไม่ (4) กราฟิกและการออกแบบด้านสื่อประสม เช่น การนำ�เสนอมีจุดสนใจหรือไม่ และมีลักษณะเป็นมือ อาชีพหรือไม่
  • 22. (5) ความสามารถในการทํางาน ประเด็นในการพิจารณา ได้แก่ (5.1) ด้านความสะดวกในการใช้งาน (5.2) ด้านสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการ (5.3) ด้านการสืบค้น (5.5) ด้านการทํางานเชิงโต้ตอบ (5.4) ด้านความสามารถในการเรียกดูข้อมูล (6) ความสามารถในการเข้าถึง เป็นองค์ประกอบที่สําคัญ เพราะหากไม่สามารถเข้าถึง เว็บไซต์นั้นได้ก็ไม่ สามารถประเมินสารสนเทศบนเว็บได้ (7) การวิจารณ์เว็บโดยผู้อื่น กล่าวคือมีผู้วิจารณ์และพูดถึงเว็บไซต์นั้นเป็นอย่างไร (8) ค่าใช้จ่าย เป็นองค์ประกอบที่ใช้ในการประเมินน้อยกว่าองค์ประกอบอื่นๆ เนื่องจาก ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต ได้เพิ่มโอกาสในการให้บริการแก่ผู้ใช้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้ สารสนเทศ อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังคง มีอยู่ เช่น การใช้สารสนเทศจากแหล่งที่ต้องเสีย ค่าบริการ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา หรือค่าใช้จ่ายในการ ติดต่อสื่อสารกับแหล่งสารสนเทศ เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การประเมินเว็บไซต์เป็นสิ่งจําเป็นในการออกแบบเว็บไซต์อันจะทําให้ทราบว่า เว็บไซต์ใดเหมาะสมและเป็นประโยชน์ ผู้ใช้บริการเว็บและผู้ออกแบบเว็บก็จะได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย เว็บไซต์ที่ สร้างขึ้นก็จะมีคุณภาพและเป็นเว็บที่ดีบนอินเทอร์เน็ต ต่อไป
  • 23. 11. การโปรโมทเว็บไซต์ ความหมายของการโปรโมทเว็บไซต์ การโปรโมทเว็บไซต์ (Promote wed) คือ การโฆษณาเผยแพร่เว็บไซต์ที่เราสร้างขึ้นให้เป็นที่รู้จักอย่าง ทั่วถึง โดยเฉพาะให้เป็นที่รู้จักของผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ต ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งสำ�หรับใช้แจ้งข่าวสาร เพื่อเชิญ ชวนให้นักท่องเว็บได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของตน เครื่องมือที่ใช้ในการโปรเมทเว็บไซต์ โดยทั่วไปแล้วนักท่องเว็บมักจะทำ�การค้นหาข้อมูลของเว็บไซต์ผ่านทางเครื่องมือประเภทต่าง ๆ ที่ สามารถนำ�มาใช้เป็นช่องทางในการโปรโมทเว็บไซต์และที่ได้รับความนิยม คือ (1) การโปรโมทเว็บไซต์แบบออฟไลน์เป็นการโฆษณาผ่านทางสื่อหนังสือพิมพ์โดยการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ทั่วๆไปเพื่อให้คนรู้จักและเข้าถึงได้ (2) การโปรโมทเว็บไซต์โดยใช้บริการเว็บไดเรกทอรี่ (web directory)มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่าย และไม่เสียค่าใช้ จ่าย โดยหากต้องการให้ผลลัพธ์ของการค้นหาปรากฏอยู่ในลำ�ดับต้นๆ อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก ได้แก่ yahoo.com , mickinley.com และ google.com ส่วนกรณีที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้จัด ทำ�หรือกำ�หนดหมวดหมู่ที่ต้องการขึ้นเอง โดยผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ปรากฏอยู่ลำ�ดับต้นๆ โดยมีเว็บให้บริการได้แก่ sanook.com , hunsa.com , hotbot.com เป็นต้น (3) การโปรโมทเว็บไซต์ทาง Search engineการโปรโมทเว็บไซต์ทาง Search engine ของ google เข้าไป ที่http://www.google.co.th/addurl (4)เทคนิคการกำ�หนดเพจให้กับเว็บไซต์เพื่อการค้นหาการกำ�หนดแท็กไว้ใน HTML ได้แก่ การจัดทำ�แท็ก Meta ของเอกสาร HTML และการกำ�หนดคำ�หลัก (keyword) ให้กับเว็บไซต์ เพื่อให้เครื่องมือประเภท search en- gine มาเรียกใช้เพื่อไปแสดงผลในการค้นหา ถือว่าเป็นกลยุทธ์ในการโปรโมทเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอีกรูปแบบ หนึ่ง เว็บไซต์ยอดนิยมในการโปรโมทเว็บไซต์ (1) www.overture.com (2) www.yahoo.com (3) www.lycos.com (4) www.altavista.com (5) www.dmoz.org (6) www.google.com (7) www.hotbot.com (8) www.goto.com (9) www.norternlight.com
  • 24.
  • 25. บรรณานุกรม นิติยา บุญรัตน์. (2553). การพัฒนาเว็บไซต์ห้องสมุดโรงเรียนเตรียม อดุมศึกษาภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช.สารนิพนธ์ ศศ.ม. (บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศ ศาสตร์).กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. จักรพงษ์ เจือจันทร์ : การศึกษาการออกแบบเว็บไซต์ของโรงเรียนในโครงการ เครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย(A STUDY OF WEB Site DESIGN OF SCHOOLS IN SCHOOLNETTHAILAND)อาจารย์ที่ ปรึกษา : รองศาสตราจารย์ ดร.กิดานันท์ มลิทอง, 110 หน้า. ISBN 974-13-0817-5 กิดานันท์ มลิทอง.(2542). สรรค์สร้างหน้าเว็บและกราฟิกบนเว็บ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ดวงพร เกี๋ยงคํา. (2549). คู่มือการสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเอง.กรุงเทพฯ: โปรวิชั่น. ธนพล ฉันจรัสวิชัย. (2548). รวมเครื่องมือสร้างเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น การประชาสัมพันธ์. เข้าถึงได้จาก: http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter7-5.html. 1 กรกฎาคม พ.ศ.2556. การเรียนการสอนผ่านเว็บ. เข้าถึงได้:http://www.kroobannok.com/133. 1 กรกฎาคม พ.ศ.2556. หลักการและทฤษฎีการสื่อสาร. เข้าถึงได้: www.pirun.ku.ac.th/~agrpct/envelop/com%20theory.doc. 1 กรกฎาคม พ.ศ.2556.