คอมพิวเตอร์กับการศึกษา
- 1. คอมพิวเตอร์กับการศึกษา
ภาพประกอบจาก
อินเทอร์เน็ต
ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งถือว่าเป็นยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ เกิดการ
เปลี่ยนแปลงของโลกในหลายๆด้านทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม
อันนำาไปสู่การปรับตัวเพื่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขัน
ท่ามกลางกระแสโลกาภิวฒน์ทุกประเทศทัวโลกกำาลังมุงสู่กระแส
ั ่ ่
ใหม่ของการเปลียนแปลงที่เรียกว่า สังคมความรู้
่
(KnowledgeSociety) และระบบเศรษฐกิจฐานความรู้
(Knowledge-Based Economy) ทีจะต้องให้ความสำาคัญต่อการ
่
ใช้ความรู้และนวัตกรรม (Innovation) เป็นปัจจัยในการพัฒนา
และการผลิตมากกว่าการใช้เงินทุนและแรงงาน
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำาให้ข้อมูลข่าวสารและความรู้ ซึง ่
ประกอบกันเป็น "สารสนเทศ" นั้น สามารถลื่นไหลได้สะดวก
รวดเร็ว จนสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ระดับ
บุคคลขึ้นไปถึงระดับองค์กรอุตสาหกรรม ภาคสังคม ตลอดจนใน
ระดับประเทศและระหว่างประเทศ จนกระทั่งภาวะ "ไร้พรหมแดน"
อันเนื่องมาจากอิทธิพลของเทคโนโลยีสารสนเทศดังกล่าว ได้เกิด
ขึ้นในกิจกรรมและวงการต่างๆ และนับเป็นความกลมกลืน
สอดคล้องกันอย่างยิ่ง ทีการพัฒนาบุคลากรในสังคมอันประกอบ
่
ด้วยภาคการศึกษา และการฝึกอบรมเป็นเรื่องราวของการเรียนรู้
สารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่เป็นข้อมูล (Data) ข่าวสาร
(Information)ก็ตาม ดังนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็นเครื่อง
มือที่สามารถนำาประโยชน์มาสูวงการศึกษา ได้อย่างเหมาะสมหาก
่
- 2. รูจักใช้ให้เป็นประโยชน์และคุ้มค่าต่อการลงทุน (ไพรัช ธัชยพงษ์
้
และพิเชษ ดุรงคเวโรจน์ .2541)
เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีระดับ
สูงอย่างหนึ่งที่นับว่ามีบทบาทอย่างยิ่งได้แก่ "คอมพิวเตอ
ร์"(Computer) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกวงการ โดยเฉพาะ
วงการศึกษาได้นำาคอมพิวเตอร์มาใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นในด้าน
การบริหาร การบริการ และการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการ
สอน เป็นต้น
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2525 ได้ให้
ความหมายของ "คอมพิวเตอร์" ไว้วา"เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบ
่
อัตโนมัติ ทำาหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สำาหรับแก้ปัญหาต่างๆที่
ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"คอมพิวเตอร์จึงเป็น
เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานแทนมนุษย์ใน
ี่
ด้านการคำานวณและสามารถจำาข้อมูลทังตัวเลขและตัวอักษรได้
้
เพื่อการเรียกใช้งานครั้งต่อไป รวมทังสามารถจัดการกับ
้
สัญลักษณ์ (Symbol) ได้ด้วยความเร็วสูงโดยปฏิบัติตามขั้นตอน
ของโปรแกรม นอกจากนี้ยังมีความสามารถใน
ด้านต่างๆ เช่น การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลไว้ในตัวเครื่อง
และสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้ (ตวงแสง ณ นคร .
2542)
คอมพิวเตอร์ที่นำามาใช้ในวงการศึกษา หรืออาจเรียกว่า
คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา (Computer-Based Education,
Instructional Computer : IC, Computer-Based Instruction :
CBI) มีความหมายเหมือนกันคือ การนำาคอมพิวเตอร์ มาใช้
ประโยชน์ในด้านการศึกษา ไม่ว่าจะ เป็นการจัดการเรียนการสอน
การลงทะเบียน การจัดทำาบัตรนักศึกษา การจัดทำาผลการเรียนการ
สอนรวมไป จนถึงการออกใบรับรองการจบหลักสูตร
Robert Taylor นักเทคโนโลยีการศึกษา ได้แบ่งการใช้
คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา ไว้ในหนังสือ the Computer in the
School : Tutor, Tutee โดยได้แบ่งการนำาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้
ในโรงเรียนออกเป็น 3 ลักษณะคือ การใช้คอมพิวเตอร์ในลักษณะ
ของติวเตอร์ การใช้คอมพิวเตอร์ในลักษณะของอุปกรณ์ การเรียน
การสอนและการใช้คอมพิวเตอร์ในลักษณะของผู้เรียน (ดิเรก ธีระ
ภูธร .2545)
- 3. แต่กระบวนการในการจัดการศึกษาในภาพรวม ไม่ได้หมายถึง
สถานศึกษาหรือสถาบันการศึกษาเพียงอย่างเดียวเท่านัน ทั้งนียัง
้ ้
มีหน่วยงานทางการศึกษาและองค์กรอื่นทีทำาหน้าที่เกี่ยวข้องกับ
่
การบริหารและ
สนับสนุนการจัดการศึกษาด้วย ฉะนั้นบทบาทของคอมพิวเตอร์ที่
จำาเป็นต้องนำามาใช้ในการศึกษา จึงแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. คอมพิวเตอร์เพื่อการบริหาร (computer Applications
into Administration)
การบริหารการศึกษานับเป็นปัจจัยสำาคัญในการกำาหนดทิศทาง
นโยบาย อันนำาไปสู่แนวทางปฏิบัติในการจัดการศึกษา ทั้งใน
ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น สิ่งสำาคัญในการที่จะช่วยให้บริหาร
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพก็คือความพร้อมของข้อมูลในการ
บริหารจัดการเพื่อการตัดสินใจและกำาหนดนโยบายการศึกษา
คอมพิวเตอร์จึงเข้ามามีบทบาทในการบริหารการศึกษามากขึ้น ซึ่ง
ช่วยให้การดำาเนินงานตั้งอยู่บนฐานข้อมูลที่ชัดเจนถูกต้องและเกิด
ประสิทธิภาพสูงสุด สรุปได้ดังนี้
1.1 การบริหารงานทัวไป เป็นการนำาคอมพิวเตอร์ช่วยในการ
่
บริหารงานบุคคล งานธุรการ การเงินและบัญชีการประชาสัมพันธ์
รวมถึงการจัดทำาระบบฐานข้อมูล (Management Information
System :MIS) เพื่อประโยชน์ในการวางแผนและบริหารการศึกษา
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
1.2 งานบริหารการเรียนการสอน เป็นการนำาคอมพิวเตอร์ช่วยใน
การบริหารของครูผู้สอนนอกเหนือจากงานด้านการสอนปกติ เช่น
งานทะเบียน งานด้านเอกสาร การจัดตารางสอน ตารางสอบ การ
ตรวจและการเก็บรวบรวมคะแนน การสร้าง-วิเคราะห์ข้อสอบ การ
วัดและประเมินผลการเรียน เป็นต้น
2. คอมพิวเตอร์เพื่อการจัดการเรียนการสอน (Computer -
Managed Instruction)
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการเรียนการสอน เพื่อช่วยให้ครูผู้สอน
ไม่ต้องเสียเวลากับการงานบริหาร ครูผู้สอนจะได้มีเวลาไป
ปรับปรุงบทเรียนให้ทันสมัยและมีเวลาให้กับนักเรียนมากขึ้น เช่น
การจัดเลือกข้อสอบ การตรวจและให้คะแนนและวิเคราะห์ข้อสอบ
การเก็บประวัตินักเรียนเฉพาะวิชาที่สอนเพื่อดูพัฒนาการด้านการ
เรียนและการให้คำาปรึกษา และช่วยในการจัดทำาเอกสารเกี่ยวกับ
การเรียนการสอนของวิชาที่สอน รวมถึงการนำาคอมพิวเตอร์มาช่วย
- 4. ในการจัดการเรียนการสอนจะทำาให้ครูผู้สอนสามารถวิเคราะห์ผู้
เรียนเพื่อออกแบบและพัฒนาระบบการสอนได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ตรงกับวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้เรียน
3. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer -Assisted
Instruction : CAI)
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นกระบวนการเรียนการสอน โดยใช้สื่อ
คอมพิวเตอร์ ในการนำาเสนอเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ มีลักษณะ
เป็นการเรียนโดยตรง และเป็นการเรียน แบบมีปฏิสัมพันธ์
(Interactive) คือสามารถ โต้ตอบระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์
ได้ เช่นเดียวกับการสอนระหว่างครูกับนักเรียนที่อยูในห้องตาม
่
ปกติ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีหลายประเภทตามวัตถุประสงค์ที่จะ
ให้นักเรียนได้เรียน กล่าวคือ ประเภทติวเตอร์ ประเภทแบบฝึกหัด
ประเภทการจำาลอง ประเภทเกม ประเภทแบบทดสอบซึ่งในแต่ละ
ประเภทก็มีจุดมุ่งหมายในการให้ความรู้แก่ผู้เรียนแต่วิธีการที่แตก
ต่างกันไป ข้อดีของการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนคือช่วยลดความ
แตกต่างระหว่างผู้เรียน เช่นผู้ที่มีผลการเรียนตำ่า ก็สามารถชดเชย
โดยการเรียนจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้ และสำาหรับผูมี ้
ผลการเรียนสูงก็สามารถเรียนเสริมบทเรียนหรือเรียนล่วงหน้าก่อน
ทีผู้สอนจะทำาการสอนก็ได้
่
สรุป
แนวโน้มในการนำาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการศึกษาในปัจจุบันและ
อนาคตจะเป็นรูปแบบของการเรียนการสอน โดยนำาเอาเทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์ มาผสมผสานกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เนื่องจาก
เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมีลักษณะเฉพาะ คือ มีความสามารถใน
การนำาเสนอข้อมูลผ่านระบบ World Wide Web ในการใช้เพื่อการ
จัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction : WBI)
หรือ E-learning ซึ่งวงการศึกษาคงจะหลีกเลี่ยงได้ยากยิ่ง
http://www.kroobannok.com/135