More Related Content
Similar to ถอดบทเรียน (20)
ถอดบทเรียน
- 1. ถ อดบทเรียน บ้านจ๊างนั ก
บ้ านจ๊ างนัก
บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ที่ 2 ตาบลบวกค้าง
อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่
ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดย สล่าเพชร วิริยะซึ่งได้รวบรวมเพื่อนฝูง ตลอดจนลูกศิษย์ลกหา ช่างแกะสลักฝี มือดีและมีความรัก
ู
ในศิลปะการแกะสลัก ไม้แบบล้านนามารวมตัวกันจัดตั้ง กลุ่มแกะสลักขึ้นมา
เมื่อปี พ.ศ.2531 คุณลุงประยูร จรรยาวงศ์ (2458) คอลัมน์นิสต์ชื่อดังแห่งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐในขณะ นั้น ได้ให้เกียรติ มา
เยียม เยือน พร้อมกับตั้งชื่อบ้านว่า “บ้านจ๊างนัก” อันหมายถึงบ้านที่มีชาง เยอะแยะมากมาย
่ ้
บ้านจ๊างนัก ได้มีการพัฒนารู ปแบบการแกะสลักช้าง จากเดิมที่ช่างแกะจะมีการแกะสลักแบบ ตายตัว รู ปแบบจะซ้ ากัน มาเป็ น
การแกะสลักช้างที่ดูมีชีวิตชีวา มีท่าทางท่วงทานองที่เหมือน ช้างจริ ง ๆ ซึ่งนับเป็ นแห่งแรกที่มีการแกะสลักช้าง รู ปแบบนี้
บ้านจ๊างนักยังเป็ นแห่งแรกที่มีการทดลองนาวัสดุใหม่ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นมาทดแทนวัสดุเดิม ที่นบวันมีแต่จะหายากมากขึ้น
ั
เช่น มีการนาเอาไม้ข้ ีเหล็กมาทดแทนไม้สก ซึ่งประโยชน์เพียงอย่างเดียวของไม้ข้ ีเหล็ก
ั
- 2. ในสมัยก่อน คือนามาทาเป็ นเชื้อเพลิงเท่านั้น และผลที่ได้จากการนามาแกะสลักพบว่า ไม้ข้ ีเหล็กเป็ นไม้เนื้อแข็งมากการแกะ
ค่อน ข้างยากกว่าไม้สก แต่ผลงานที่ออกมาจะสวยงาม และสีเป็ นธรรมชาติ
ั
เมื่อปี พ.ศ. 2546 บ้านจ๊างนัก ได้รับการบรรจุให้เป็ นหนึ่งในพิพธภัณฑ์ทองถิ่น สังกัด เอกชน ยังผลให้เป็ นที่รู้จก กันอย่าง
ิ ้ ั
แพร่ หลายในหมู่นกท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ ที่มีความสนใจในศิลปะแขนงนี้
ั
นอกจากนี้ หนึ่งในความภาคภูมิใจของสล่าบ้านจ๊างนักทุกคนคือ การที่เป็ นส่วนหนึ่งของการทาให้ผคน ได้เกิดความรัก หวง
ู้
แหน และ ตระหนักถึงความสาคัญ และปัญหาของ ช้างไทยในปัจจุบน และร่ วมกันอนุรักษ์ชางไทยให้อยูค่กบคนไทยอีกนาน
ั ้ ู่ ั
เท่านาน
- 3. สล่ า เพชร วิริยะ เพชรน้าเอกแห่ งแดนล้ านนา
ศิลปิ นดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจาปี 2543
สาขาทัศนศิลป์ ด้านประติมากรรม
ประวัติ
สล่า เพชร วิริยะ เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2498
สถานที่เกิด บ้านบวกค้าง อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่
เป็ นบุตรของ นายสิงห์ วิริยะ และ นางบัวจีน วิริยะ มีพี่นอง 5 คน
้
การศึกษา
ระดับประถมศึกษาปี ที่ 4 จากโรงเรี ยนผูใหญ่ 1 หอพระ จังหวัดเชียงใหม่
้
การศึกษาผูใหญ่ ระดับ 4 (ม.ศ. 3) จากโรงเรี ยนผูใหญ่สนกาแพง อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่
้ ้ ั
- 4. ผลงานที่ผ่านมา
พ.ศ. 2515-2519 เรี ยนแกะสลักไม้กบครู อาย เดชดวงตา จากนั้นได้รับจ้างแกะสลักตามร้าน
ั ้
พ.ศ. 2526 ได้รับราชการเป็ นวิทยากรฝึ กอบรมอาชีพแกะสลักไม้ประจากรมส่งเสริ มอุตสาหกรรม กรุ งเทพฯ 2 ปี จึงลาออกมา
ทางานที่บาน
้
พ.ศ. 2530 ศึกษาเกี่ยวกับเรื่ องช้าง สามารถถ่ายทอดเป็ นผลงานแกสะลักช้างได้หลายรู ปแบบ กลายเป็ นช่างฝี มือและประกอบ
อาชีพแกะสลักไม้จนถึงปัจจุบน และได้ฝึกสอนเยาวชนในหมู่บาน
ั ้
แนวความคิด ภาคภูมิใจอ่างยิงที่ได้ทางานที่รักและชอบ ถือเป็ นหน้าที่ช่วงหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรมครู คาอ้าย เดช
่
ดวงตา แล้วพัฒนาฝี มือและรู ปแบงานและได้ถ่ายทอดสังสอนศิลปะวิชาช่างแจนงนี้ให้อยูยนยาวต่อไป และช้าง คือความ
่ ่ื
ยิงใหญ่ในตานาน เรื่ องราว รู ปแบบและตัวตน
่
- 5. ร่ วมแสดงงานศิลปะกับศิลปิ นกลุ่มลานนามาตลอด
ปี 2535 นาทีมงานกลุ่มสล่าบ้านจ๊างนัก จัดนิทรรศการคาราวานช้างไม้ ๑ ที่จงหวัดภูเก็ต
ั
ปี 2536 ร่ วมแสดงงานมหกรรมประติมากรรม 93 ร้อยปี ศาสตราจารย์ ศิลป์
พีระศรี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้ าฯ กรุ งเทพฯ
ปี 2537 นาทีมงานกลุ่มสล่าบ้านจ๊างนัก จัดนิทรรศการคาราวานช้างไม้ ๒
ณ ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลเทพธาริ นทร์ กรุ งเทพฯ
ปี 2541 นาทีมงานกลุ่มสล่าบ้านจ๊างนัก จัดนิทรรศการคาราวานช้างไม้ ๓
ณ ศูนย์การค้าโอเรี ยนเตลเพลส กรุ งเทพฯ
ปี 2542 นาทีมงานกลุ่มสล่าบ้านจ๊างนัก จัดนิทรรศการคาราวานช้างไม้ ๔
ณ โรงแรมรอยัลการ์เด้นรี สอร์ทพัทยา จังหวัดชลบุรี
ปี 2542 ร่ วมนิทรรศการศิลปกรรมศิลปิ นภาคเหนือ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหว มหามงคลเฉลิมพระ
่ ั
ชนมพรรษา 6 รอบ ณ หอนิทรรศการศิลปะวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ปี 2543 ร่ วมแสดงนิทรรศการ ศิลปกรรมของศิลปิ นล้านนา “จิตวิญญาณล้านนา ๗ คนเมือง”
ปี 2543 คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ โดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ มองโล่เชิดชูเกียรติ เป็ นศิลปิ นดีเด่น จังหวัด
เชียงใหม่ สาขาทัศนศิลป์ ประจาปี 2543
ปี 2545 ร่ วมแสดงนิทรรศการ “ต๋ ามฮีตโตยฮอยสล่าเมือง ๑” ณ หอนิทรรศการศิลปะวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ปี 2545 นาทีมงานสล่า “บ้านจ๊างนัก” จัดนิทรรศการงานแกะสลักไม้ชุดคชธาตุ 4 ดิน น้ า ลม ไฟ ณMotion Hall ชั้น G ดิเอ็ม
โพเรี ยม ช็อปปิ้ ง คอมเพล็กซ์ กรุ งเทพฯ
ปี 2546 ร่ วมแสดงงานนิทรรศการ “ต๊ามฮีตโตยฮอยสล่าเมือง ๒” ณ
หอนิทรรศการศิลปะวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- 6. บ้ านเหมืองกุง
บ้านเหมืองกุงเป็ นหมู่บานเล็ก ๆ ที่ได้รับเลือกจากพัฒนาชุมชน
้
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เป็ นหมู่บานโอท็อป
้
เพื่อการท่องเที่ยวเพราะเป็ นหมู่บานผลิตเครื่ องปั้นดินเผาที่มีเรื่ องราว
้
ประวัติศาสตร์ วิถีวฒนธรรม
ั
โคมไฟดินเผาฉลุ
(ร้านป้ าเล็ก) ราคา 450 บาท
การนาไปใช้ ในงานภูมทัศน์
ิ
- ใช้ในการปะดับตกแต่งสวน - ใช้ประดับบริ เวณทางเดินใสวน -ประดับตกแต่งบริ เวณมุมห้องเพื่อความสวยงาม
ขั้นตอนการทา
1. นาดินเหนียวมากองไว้เตรี ยมใช้งานเรี ยกว่า กองดิน
2. ซอยดินเหนียว แล้วนาไปพรมน้ าหมักค้างคืน โดยใช้ใบตองแห้งคลุมให้ดินชุ่มน้ าพอเหมาะ
3. ปั้นดินที่หมักเป็ นก้อนๆ ยาวประมาณ 1 ศอกนาไปวางไว้ในลานวงกลม
4. นาดินที่นวดแล้วมาตั้งเป็ นกองใหญ่ แล้วเหยียบให้เป็ นกองแล้วนาผ้ามาคลุมดินไว้เพื่อรอการนาดินมาใช้ในการปั้นต่อไป
5. นาดินมาปั้นเป็ นแท่งกลมยาวเพื่อขึ้นรู ป โดยขึ้นรู ปบนแป้ นหมุน เรี ยกว่า ก่อพิมพ์ เป็ นการปั้นครึ่ งล่างของภาชนะที่ป้ ัน
6. นาครึ่ งล่างที่ป้ ันเสร็ จแล้วไปผึ่งให้หมาดๆ แล้วนามาปั้นต่อให้เสร็ จตามรู ปแบบที่ตองการ
้
7. นามาผึ่งให้หมาดๆ แล้วนาไปขัดผิวให้เรี ยบโดยใช้ลกสะบ้าขัด ทาให้ผวเรี ยบและมันแล้วนาไปตากให้แห้ง
ู ิ
8. ในการเผาจะใช้เวลาประมาณ 2 คืน 3 วัน และต้องคอยใช้ฟืนในเตาเผาตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้ได้ความร้อนสม่าเสมอและ
ทาให้ดินสุกได้ทวถึง
ั่
9. เมื่อเผาได้ตามที่กาหนดเวลาต้องงดใส่ไฟ แล้วปล่อยทิ้งไว้ในเตาเผา 2 คืน โดยค่อยๆ เปิ ดช่องว่างเพื่อค่อยๆระบายความ
ร้อนเรี ยกว่า แย้มเตา
- 7. บ้ านถวาย
บ้านถวายเป็ นศูนย์การค้าและการท่องเที่ยวที่มีการส่งเสริ ม
กิจการศิลปหัตถกรรมไทย ซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญา
และวิถีชาวบ้านที่มีมาช้านานให้ทวโลกได้รับรู้
ั่
และชื่นชมถึงความอลังการณ์ของงานไม้ และความมีเสน่ห์
แห่งวิถีชีวิตช่างแกะสลักกับความภาคภูมิใจในมรดกไทย
ม้ านั่งไม้ สัก
(ร้านจารึ กไอเดีย) ราคา 1500 บาท
การนาไปใช้ ในงานภูมทัศน์
ิ
-ใช้ประดับตกแต่งสวน
-ใช้เป็ นที่ผกผ่อนในสวน
ั
-เป็ นวัสดุที่กลมกลืนกับธรรมชาติ
นางสาว ปวิชญา ศรี จนทร์
ั
รหัส 5219101313
สาขาเทคโนโลยีภูมิทศน์
ั