More Related Content
Similar to งานบ้านถวาย (20)
More from พะวาวเด้อ บลูเบ้อชีส
More from พะวาวเด้อ บลูเบ้อชีส (10)
งานบ้านถวาย
- 7. ใช้ประดับได้ทั้ง กลางแจ้ง และในร่มเครื่องมือ สำหรับงานปั้นปูน ของช่างปั้นแต่ละคน เมื่อสมัยก่อนก็ดี หรือ สำหรับช่างปั้นปูนปัจจุบันก็ดี มีเครื่องมือไม่มากชิ้น ทั้งนี้เป็นด้วยช่างปั้นปูน พอใจจะใช้ฝีมือของตัวเองมากกว่า จะใช้เครื่องมือช่วย ในการปั้นก็เฉพาะที่จำเป็น หรือ ในส่วนที่ใช้นิ้วมือปั้นทำส่วนย่อยๆ ในงานปั้นนั้นไม่ถนัด<br />เครื่องมือ สำหรับงานปั้น ของช่างปั้นปูนมักทำขึ้นด้วยไม้ไผ่ โดยช่างปั้นปูนแต่ละคนจะทำขึ้นใช้เอง ตามความเหมาะสมแก่งาน และ ถนัดมือช่างเอง ที่พอยกขึ้นเป็นตัวอย่าง และอธิบายให้ทราบ มีดังต่อไปนี้<br />เกรียง เกรียงสำหรับงานปั้นปูน มีหลายขนาด ใช้สำหรับตัก ป้าย ปาด แตะ แต่งปูนเพื่อขึ้นรูปประเภทต่างๆ หรือ ขูดแต่งผิวปูน<br />ไม้กวด ทำด้วยไผ่เหลาเป็นชิ้นแบนๆ ใช้สำหรับปาดปูน แต่ง และ กวดผิวปูนให้เรียบเกลี้ยง<br />ไม้เนียน ทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นชิ้นแบนอย่างท้องปลิง ปลายข้างหนึ่งปาดเฉียง ใช้สำหรับปั้นแต่งส่วนย่อยๆ ในงานปั้นปูน เช่นขีดทำเป็นเส้น ทำรอยบากขอบลวดลาย<br />ไม้เล็บมือ ทำด้วยไม้ไผ่กิ่งเล็กๆ ช่างปั้นบางคนเรียกว่า ไม้แวว ใช้สำหรับกด ทำเป็นวงกลมล้อมลายตาไก่บ้าง ลายมุกบ้าง ไม้เล็บมือนี้ อาจทำขึ้นไว้หลายอัน และต่างขนาดกันเพื่อให้เหมาะสมแก่งานที่จะปั้น<br />ขวาน ทำด้วยเหล็กใส่ด้ามไม้ ใช้สำหรับ ฟัน หรือ เฉาะพื้นปูนให้เป็นรอยถี่ๆ เพื่อช่วยให้ปูนที่จะปั้นทับลงบนฝา หรือ พื้นปูนเกาะ หรือ จับติดแน่น<br />ตะลุมพุก ทำด้วยไม้รูปทรงกระบอกสั้นๆ ต่อด้ามไม้ยาวขนาดจับถนัด ใช้สำหรับตอก “ทอย” ลงบนพื้นปูน หรือพื้นไม้<br />190502540พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก<br /> ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดย สล่าเพชร วิริยะซึ่งได้รวบรวมเพื่อนฝูง ตลอดจนลูกศิษย์ลูกหา ช่างแกะสลักฝีมือดีและมีความรักในศิลปะการแกะสลัก ไม้แบบล้านนามารวมตัวกันจัดตั้ง กลุ่มแกะสลักขึ้นมา<br />เมื่อปีพ.ศ.2531 คุณลุงประยูร จรรยาวงศ์ (2458) คอลัมน์นิสต์ชื่อดังแห่งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐในขณะ นั้น ได้ให้เกียรติ มา เยี่ยม เยือน พร้อมกับตั้งชื่อบ้านว่า “บ้านจ๊างนัก” อันหมายถึงบ้านที่มีช้าง เยอะแยะมากมาย<br />บ้านจ๊างนัก ได้มีการพัฒนารูปแบบการแกะสลักช้าง จากเดิมที่ช่างแกะจะมีการแกะสลักแบบ ตายตัว รูปแบบจะซ้ำกัน มาเป็นการแกะสลักช้างที่ดูมีชีวิตชีวา มีท่าทางท่วงทำนองที่เหมือน ช้างจริง ๆ ซึ่งนับเป็นแห่งแรกที่มีการแกะสลักช้าง รูปแบบนี้<br />บ้านจ๊างนักยังเป็นแห่งแรกที่มีการทดลองนำวัสดุใหม่ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นมาทดแทนวัสดุเดิม ที่นับวันมีแต่จะหายากมากขึ้น เช่น มีการนำเอาไม้ขี้เหล็กมาทดแทนไม้สัก ซึ่งประโยชน์เพียงอย่างเดียวของไม้ขี้เหล็ก ในสมัยก่อน คือนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น และผลที่ได้จากการนำมาแกะสลักพบว่า ไม้ขี้เหล็กเป็นไม้เนื้อแข็งมากการแกะค่อน ข้างยากกว่าไม้สัก แต่ผลงานที่ออกมาจะสวยงาม และสีเป็นธรรมชาติ<br />นอกจากการทดลองเรื่องของไม้แล้ว ยังมีการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอด กันมามาประยุกต์ใช้ กับงานแกะสลัก นั่นก็คือ นำเอาลูกมะเกลือที่ใช้ในการย้อมผ้า มาย้อมสีไม้ซึ่งก็ให้สีที่เป็นธรรมชาติและ ไม่มีสารพิษตกค้างเป็นอันตราย ต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม<br />133350178689021145501209675เมื่อปี พ.ศ. 2546 บ้านจ๊างนัก ได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น สังกัด เอกชน ยังผลให้เป็นที่รู้จัก กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ ที่มีความสนใจในศิลปะแขนงนี้นอกจากนี้ หนึ่งในความภาคภูมิใจของสล่าบ้านจ๊างนักทุกคนคือ การที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ผู้คน ได้เกิดความรัก หวงแหน และ ตระหนักถึงความสำคัญ และปัญหาของ ช้างไทยในปัจจุบัน และร่วมกันอนุรักษ์ช้างไทยให้อยู่คู่กับคนไทยอีกนานเท่านานประวัติและผลงานของ สล่า เพชร วิริยะศิลปินดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2543สาขาทัศนศิลป์ ด้านประติมากรรม<br />424815023933152619375126365ประวัติ<br />สล่า เพชร วิริยะ เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2498 สถานที่เกิด บ้านบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของ นายสิงห์ วิริยะ และ นางบัวจีน วิริยะ มีพี่น้อง 5 คน คือ1. นายเพชร วิริยะ2. นายสุภาพ วิริยะ3. นายเสน่ห์ วิริยะ4. นายพิภัคร์ วิริยะ5. นางเพลินจิต วิริยะ ที่อยู่ quot;
บ้านจ๊างนักquot;
บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ที่ 2 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่โทรศัพท์ (053) 3446891,01-4725051ครอบครัวนายเพชร วิริยะ สมรสกับนางนงเยาว์ วิริยะ (นันไชยศิลป์) มีบุตรธิดาทั้งหมด 2 คน คือ1. นางสาววารียา วิริยะ2. นางสาวเวรุยา วิริยะการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนผู้ใหญ่ 1 หอพระ จังหวัดเชียงใหม่การศึกษาผู้ใหญ่ ระดับ 4 (ม.ศ. 3) จากโรงเรียนผู้ใหญ่สันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่<br />-26670026670ผลงาน<br />31718251423035ผลงานของสล่าเพชรทำจำหน่ายในนาม quot;
บ้านจ๊างนัก” ซึ่งเขาเป็นหัวเรือใหญ่ในการรวบรวมช่างฝีมือในท้องถิ่น ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกให้เป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ประเภทผลิตภัณฑ์ 5 ดาว ระดับภาค ทุกวันนี้สินค้าจากชุมชนแห่งนี้กระจายไปอยู่ทั่วโลกกว่าจะถึงจุดนี้ สล่าเพชร ย้อนเรื่องราวในวัยหนุ่มว่า เมื่อปี 2515-2519 ได้เรียนรู้การแกะสลักไม้รูปช้าง กับ ครูคำอ้าย เดชดวงตา พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคน พอมีฝีมือติดตัวก็ตระเวนทำงานแกะสลักไม้ตามสถานที่ต่างๆ และตามประสาวัยรุ่นที่รักความท้าทายหลังจากเป็นหนุ่มพเนจรอยู่หลายปี จึงหวนคืนสู่บ้านเกิดที่สันกำแพงราวปี 2528 และคิดปักหลักทำมาหากินบนผืนดินมารดา จึงรวบรวมเพื่อนสล่าและลูกศิษย์ 5-6 คน ก่อตัวเป็นทีมงานแกะสลักช้างในแบบเหมือนจริงจำหน่าย จนมีผลงานออกมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปquot;
ที่มาของบ้านจ๊างนัก คุณลุงประยูร จรรยาวงษ์ ราชานักเขียนการ์ตูนชื่อดัง เป็นผู้ตั้งให้ บ้านจ๊างนักเป็นภาษาถิ่นความหมายว่า มีช้างแกะสลักมากนั่นเอง ทุกวันนี้บ้านจ๊างนักมีทีมงานแกะสลักเกือบ 50 คน ซึ่งเป็นญาติพี่น้อง เพื่อน ลูกศิษย์ และคนหนุ่มๆ ในหมู่บ้านทั้งสิ้นquot;
สล่าเพชร เล่าความเป็นมามาถึงยุคปัจจุบันงานฝีมือจากบ้านจ๊างนักยิ่งทวีความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มีโอกาสแวะชมงานหัตถกรรมล้านนา ต่างซื้อติดมือกลับบ้านเพื่อเป็นของฝากหรือนำไปตกแต่งบ้าน แต่ถ้าเป็นช้างตัวโตๆ ทีมงานของสล่าเพชรก็จะหาหนทางจัดส่งให้ลูกค้าถึงปลายทาง งานศิลปะของบ้านจ๊างนักจึงกระจายไปทั่วทุกมุมโลกquot;
การทำช้างของบ้านจ๊างนักตอนนี้ มีทั้งงานแกะสลักไม้และปูนปั้น เดือนหนึ่งมีผลงานนับร้อยชิ้น ราคาขึ้นอยู่กับขนาดเฉลี่ยตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึงมูลค่า 7 หลัก ซึ่งผลงานที่เราภูมิใจมากคือการแกะ สลักช้างไม้ชื่อ คิริเมขล์ไตยดายุค เป็นช้างสามเศียรขนาดสูง 5 เมตร กว้าง 3 เมตร ใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปี ผมเตรียมส่งให้ลูกค้าราวกลางเดือนสิงหาคมนี้quot;
สล่าเพชร กล่าว-1524001926590สล่าเพชร บอกอีกว่า งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2550 สล่าเพชรได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐให้ทำช้างประดับทางเข้าสู่เข้างาน ประกอบด้วย บริเวณวงแหวน 5 ตัว สะพาน 4 ตัว และหัวช้างประดับเสา 44 หัวสำหรับวัตถุดิบสำคัญคือ quot;
ไม้quot;
ใช้ได้ทั้งไม้เนื้ออ่อน และไม้เนื้อแข็ง แต่ที่นิยมกันมากและทำกันมาโดยตลอดคือ ไม้สัก ซึ่งเป็นไม้เนื้อละเอียดง่ายต่อการ นำมาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ หรือต้นไม้ แต่ไม้ชนิดนี้ขนาดใหญ่หายาก และราคาสูง จึงเลือกใช้ไม้ขี้เหล็ก ไม้ฉำฉา และไม้ขนุน ซึ่งในอดีตเป็นเพียงไม้ทำฟืนของชาวบ้าน36195004993640เท่านั้น เครื่องมือที่ใช้แกะสลัก คือ สิ่วหมัก หรือ สิ่วตัววี (V) ใช้สลักนำเส้นตามแบบงานและใช้แต่งลาย เส้นต่างๆ สิ่วแบน ใช้ถากย้ำเส้นต่างๆ และตัดไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออก สิ่วแกะ หรือ สิ่วตัวยู (U) ใช้ถาก เจาะ และตกแต่งรายละเอียดของชิ้นงาน และ ค้อน อุปกรณ์ที่ต้องใช้ตอกสิ่ววิธีแกะสลัก ร่างแบบงานบนกระดาษแข็ง แล้วนำมาทาบกับไม้ที่เตรียมไว้ แกะเอาไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออกให้เหลือแต่โครงสร้างตามแบบที่ร่างไว้ ส่วนความเว้าก็แกะออกจนเป็นรูปร่างตามแบบที่ร่างไว้เช่นกัน จากนั้นตกแต่งรายละเอียด เช่น ลายผิวหนัง หรือลายกลีบดอกไม้ขั้นตอนสุดท้าย ทาสีและขัดตกแต่ง ใช้สีธรรมชาติทำจากผลมะเกลือ ขั้นตอนคือนำผลมะเกลือมาตำ แล้วหมักกับน้ำปูนใส ก่อนใช้น้ำที่หมักทาผลงานให้เป็นสีดำ และทาซ้ำจนกระทั่งดำจนพอใจ จึงนำไปตากให้แห้งสนิท ใช้แปลงทองเหลืองขัดกากของมะเกลือออก จะได้ชิ้นงานสีดำเทาดูเป็นธรรมชาติทั้งนี้ “บ้านจ๊างนัก” นับเป็นแหล่งศึกษาด้านการแกะสลักช้าง และการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของ อ.สันกำแพง<br />2085975-1231904295775-1569085-152399-149860<br />