SlideShare a Scribd company logo
1 of 10
-319405532765บ้านถวาย หมู่บ้านไม้แกะสลัก<br />                  อดีตที่ผ่านมา 40 กว่าปี  บ้านถวายได้สืบสานงานไม้ จากรุ่นสู่รุ่น จากการก่อกำเนิดขึ้น ของปูชนียบุคคล   3  ท่าน  คือพ่อหนานแดง  พันธุสา ,  พ่อใจ๋มา  อิ่นแก้ว  และพ่อเฮือน พันธุศาสตร์ ที่ได้เดินทางไปทำงานและเรียนแกะสลักไม้ที่ร้านน้อมศิลป์ บ้านวัวลาย ประตูเชียงใหม่ อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2500-2505  และได้นำมาแพร่หลายในหมู่บ้านถวาย จนกลายเป็นหมู่บ้านหัตถกรรม ไม้แกะสลักที่มีฝีมือ  และมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างประเทศ<br />ประวัติหมู่บ้าน บ้านถวาย เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ตั้งมาประมาณ 100 กว่าปี สาเหตุที่ชื่อบ้านถวาย ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ เล่าว่าบ้านถวาย ดั้งเดิมเป็นจุดถวายของให้พระนางเจ้าจามเทวีที่เสด็จผ่าน จากนครลำพูน ซึ่งเดินทางโดยทางเกวียนผ่านมาทางบ้านถวาย ชาวบ้านเมื่อทราบข่าวการจะเสด็จผ่านของพระนางฯ จึงพากันเตรียมข้าวของ หรือบางครอบครัวก็จะช่วยกันรีบตีเครื่องเงินเตรียมไว้ถวาย<br />          บ้านถวายเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ในตำบลขุนคง  อำเภอหางดง  จังหวัดเชียงใหม่  ระยะทางห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่   ประมาณ 18 กิโลเมตร แต่เดิมชาวบ้านประกอบอาชีพหลักทางด้านการเกษตร แต่เมื่อประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งทำให้ผลผลิตตกต่ำ ส่งผลให้ชาวบ้านมีรายได้น้อย   ดังนั้นหลังฤดูเก็บเกี่ยวชาวบ้านส่วนใหญ่จะเดินทางไปรับจ้างทำงานในตัว เมืองเชียงใหม่  เช่น รับจ้าง ก่อสร้าง และอื่น ๆ แต่มีบางส่วนออกไปค้าขายไม่ได้ประกอบอาชีพอยู่ในท้องถิ่นของตัวเอง<br />          จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2500- 2505 พ่อใจ๋มา อิ่นแก้ว พ่อหนานแดง พันธุสา และพ่อเฮือน พันธุศาสตร์ ทั้งสามท่านได้ไปรับจ้างอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ เช่นเดียวกับชาวบ้านทั่วไป จนท่านได้ไปที่ร้านน้อมศิลป์   บ้านวัวลายซึ่งเป็นร้านจำหน่ายไม้แกะสลักที่โด่งดังในช่วงนั้น ทั้งสามท่านเกิดความสนใจในการรับจ้างแกะสลักไม้ จึงได้ขอทางร้านทดลองแกะดู  ปรากฏว่าฝีมือพอทำได้  ทางร้านจึงให้เริ่มทำงานรับจ้างที่ร้านน้อมศิลป์ตั้งแต่นั้นมา การทำงานแกะสลักไม้ของทั้งสามท่านปรากฏว่ามีรายได้ดีกว่าการรับจ้างก่อสร้าง และทุกวันฝีมือการแกะสลักก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ท่านจึงเปลี่ยนอาชีพจากการับจ้างทั่วไปมาเป็นการรับจ้างแกะสลักไม้ที่ร้าน ดังกล่าว จนเมื่อเกิดความชำนาญ และเมื่อมีงานมากขึ้นทั้งสามท่านจึงได้ขอนำมาทำที่บ้าน  และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการถ่ายทอดงานแกะสลักไม้ให้แก่ลูกหลาน  ญาติพี่น้อง  เพื่อนบ้านโดยไม่รู้ตัวและไม่หวงความรู้แม้แต่น้อย งานที่นำมาถ่ายทอดครั้งแรก เป็นการแกะสลักไม้แผ่นลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายรามเกียรติ์ ลายครุฑ ตุ๊กตาดนตรี ต่อมาเริ่มทำเป็น ตัวพระ และรับซ่อมตกแต่งของเก่าประเภทงานไม้ และเริ่มเลียนแบบของเก่าที่มีผู้นำมาซ่อม พร้อมทั้งออกแบบงานที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านถวายเอง จากนั้นได้มีกลุ่มสตรีแม่บ้านของบ้านถวายเองซึ่งออกไปรับจ้างทำงานสี งานแอนติค และตกแต่งลวดลายเส้นที่ร้านในเมืองเชียงใหม่ ย่านวัวลาย และได้พัฒนาฝีมือ ทำลวดลาย ปิดทอง จนเกิดความชำนาญเช่นเดียวกัน เมื่อมีงานเพิ่มขึ้นทางร้านให้นำมาทำที่บ้านโดยคิดค่าจ้างทำเป็นชิ้น เมื่องานเสร็จก็นำไปส่งที่ร้าน ก็นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้นำมาถ่ายทอดในหมู่บ้าน และโอกาสในการพบปะกับลูกค้าของทางร้าน ซึ่งลูกค้าก็ได้ติดต่อโดยตรงและเข้ามาซื้อสินค้าถึงในหมู่บ้านจึงทำให้บ้าน ถวายเริ่มกลายเป็นแหล่งซื้อหาไม้แกะสลักและเกิดธุรกิจขึ้นในหมู่บ้าน     ตั้งแต่นั้นมาแต่ละบ้านเริ่มจะปรับบริเวณบ้านของตนเอง โดยใช้บริเวณหน้าบ้านเป็นร้านค้า ส่วนหลังบ้านก็ทำงานหัตถกรรมแกะสลักไม้ ตกแต่งผลิตภัณฑ์ ในครอบครัวตั้งแต่นั้นมา<br />3390900212090     งานแกะสลักไม้<br /> <br />ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของบ้านถวาย  และของจังหวัดเชียงใหม่<br />2828925268605เครื่องมือที่ใช้ในการแกะสลัก<br />1. สิ่ว  เป็นเหล็กยาวทำจากเหล็กกล้า มีด้ามถือทำด้วยไม้ ส่วนมากทำจากไม้ตะโก ปลายมีดคม ซึ่งจะมีลักษณะรูปร่าง ขนาดที่แตกต่างกันไป เช่น สิ่วโค้ง สิ่วแบน สิ่วฮาย สิ่วเล็บมือ สิ่วขุด สิ่วฉาก และสิ่วขมวด                 2. มีด  เป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่จะต้องใช้กับงานแกะสลักไม้  เช่น  ใช้ถาก ใช้เหลา                                           3. หินลับ  เป็นเครื่องมือแกะสลักที่ใช้ลับคมห้วยหินที่มีผิดขรุขระเพื่อให้เกิดความคม                           4. ค้อน หรือ ตะลุมพลุก  ทำจากไม้เนื้อแข็ง  เช่น  ไม้แดง  ไม้ชิงชัน  ค้อนไม้ที่ใช้จะมีน้ำหนักเบา ไม่กินแรงเวลาทุบ ควบคุมน้ำหนักของการทุบได้ และรักษาสภาพของสิ่งให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น                                                      5. เหล็กตอกลาย  ใช้สำหรับตอกลายผิวไม้ให้เป็นลวดลายตามต้องการ  ในการสร้างงานให้สวยงามหรือใช้ตอกส่วนที่เป็นพื้นภาพ     <br />ไม้แกะสลักรูป วัสดุคือ ไม้  ราคา 4000 บาทประโยชน์ที่ใช้ในงานภูมิทัศน์<br />,[object Object]
ใช้วางประดับตกแต่งบริเวณหน้าบ้าน หรือหน้าร้าน เพื่อเป็นการต้อนรับ
สร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทย
สามารถใช้ได้ทั้ง กลางแจ้งและในร่มบ้านเมืองกุง<br />190503810    ตะเกียง ออกแบบเป็น รูปปั้น เด็ก  วัสดุเป็นปูนปั้น ตกแต่งเก็บรายละเอียด และทาสีให้สวยงาม  <br />ราคา 200 บาท<br />ประโยชน์ใช้ในงานภูมิทัศน์<br />,[object Object]
ให้แสงสว่างในเวลากลางคืน
สามารถสร้างสุนทรียภาพได้ดี
ใช้ประดับได้ทั้ง กลางแจ้ง และในร่มเครื่องมือ สำหรับงานปั้นปูน ของช่างปั้นแต่ละคน เมื่อสมัยก่อนก็ดี หรือ สำหรับช่างปั้นปูนปัจจุบันก็ดี มีเครื่องมือไม่มากชิ้น ทั้งนี้เป็นด้วยช่างปั้นปูน พอใจจะใช้ฝีมือของตัวเองมากกว่า จะใช้เครื่องมือช่วย ในการปั้นก็เฉพาะที่จำเป็น หรือ ในส่วนที่ใช้นิ้วมือปั้นทำส่วนย่อยๆ ในงานปั้นนั้นไม่ถนัด<br />เครื่องมือ สำหรับงานปั้น ของช่างปั้นปูนมักทำขึ้นด้วยไม้ไผ่ โดยช่างปั้นปูนแต่ละคนจะทำขึ้นใช้เอง ตามความเหมาะสมแก่งาน และ ถนัดมือช่างเอง ที่พอยกขึ้นเป็นตัวอย่าง และอธิบายให้ทราบ มีดังต่อไปนี้<br />เกรียง เกรียงสำหรับงานปั้นปูน มีหลายขนาด ใช้สำหรับตัก ป้าย ปาด แตะ แต่งปูนเพื่อขึ้นรูปประเภทต่างๆ หรือ ขูดแต่งผิวปูน<br />ไม้กวด ทำด้วยไผ่เหลาเป็นชิ้นแบนๆ ใช้สำหรับปาดปูน แต่ง และ กวดผิวปูนให้เรียบเกลี้ยง<br />ไม้เนียน ทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นชิ้นแบนอย่างท้องปลิง ปลายข้างหนึ่งปาดเฉียง ใช้สำหรับปั้นแต่งส่วนย่อยๆ ในงานปั้นปูน เช่นขีดทำเป็นเส้น ทำรอยบากขอบลวดลาย<br />ไม้เล็บมือ ทำด้วยไม้ไผ่กิ่งเล็กๆ ช่างปั้นบางคนเรียกว่า ไม้แวว ใช้สำหรับกด ทำเป็นวงกลมล้อมลายตาไก่บ้าง ลายมุกบ้าง ไม้เล็บมือนี้ อาจทำขึ้นไว้หลายอัน และต่างขนาดกันเพื่อให้เหมาะสมแก่งานที่จะปั้น<br />ขวาน ทำด้วยเหล็กใส่ด้ามไม้ ใช้สำหรับ ฟัน หรือ เฉาะพื้นปูนให้เป็นรอยถี่ๆ เพื่อช่วยให้ปูนที่จะปั้นทับลงบนฝา หรือ พื้นปูนเกาะ หรือ จับติดแน่น<br />ตะลุมพุก ทำด้วยไม้รูปทรงกระบอกสั้นๆ ต่อด้ามไม้ยาวขนาดจับถนัด ใช้สำหรับตอก “ทอย” ลงบนพื้นปูน หรือพื้นไม้<br />190502540พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก<br />  ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดย สล่าเพชร วิริยะซึ่งได้รวบรวมเพื่อนฝูง ตลอดจนลูกศิษย์ลูกหา ช่างแกะสลักฝีมือดีและมีความรักในศิลปะการแกะสลัก ไม้แบบล้านนามารวมตัวกันจัดตั้ง กลุ่มแกะสลักขึ้นมา<br />เมื่อปีพ.ศ.2531 คุณลุงประยูร จรรยาวงศ์ (2458) คอลัมน์นิสต์ชื่อดังแห่งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐในขณะ นั้น ได้ให้เกียรติ มา เยี่ยม เยือน พร้อมกับตั้งชื่อบ้านว่า “บ้านจ๊างนัก” อันหมายถึงบ้านที่มีช้าง เยอะแยะมากมาย<br />บ้านจ๊างนัก ได้มีการพัฒนารูปแบบการแกะสลักช้าง จากเดิมที่ช่างแกะจะมีการแกะสลักแบบ ตายตัว รูปแบบจะซ้ำกัน มาเป็นการแกะสลักช้างที่ดูมีชีวิตชีวา มีท่าทางท่วงทำนองที่เหมือน ช้างจริง ๆ ซึ่งนับเป็นแห่งแรกที่มีการแกะสลักช้าง รูปแบบนี้<br />บ้านจ๊างนักยังเป็นแห่งแรกที่มีการทดลองนำวัสดุใหม่ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นมาทดแทนวัสดุเดิม ที่นับวันมีแต่จะหายากมากขึ้น เช่น มีการนำเอาไม้ขี้เหล็กมาทดแทนไม้สัก ซึ่งประโยชน์เพียงอย่างเดียวของไม้ขี้เหล็ก ในสมัยก่อน คือนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น และผลที่ได้จากการนำมาแกะสลักพบว่า ไม้ขี้เหล็กเป็นไม้เนื้อแข็งมากการแกะค่อน ข้างยากกว่าไม้สัก แต่ผลงานที่ออกมาจะสวยงาม และสีเป็นธรรมชาติ<br />นอกจากการทดลองเรื่องของไม้แล้ว ยังมีการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอด กันมามาประยุกต์ใช้ กับงานแกะสลัก นั่นก็คือ นำเอาลูกมะเกลือที่ใช้ในการย้อมผ้า มาย้อมสีไม้ซึ่งก็ให้สีที่เป็นธรรมชาติและ ไม่มีสารพิษตกค้างเป็นอันตราย ต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม<br />133350178689021145501209675เมื่อปี พ.ศ. 2546 บ้านจ๊างนัก ได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น สังกัด เอกชน ยังผลให้เป็นที่รู้จัก กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ ที่มีความสนใจในศิลปะแขนงนี้นอกจากนี้ หนึ่งในความภาคภูมิใจของสล่าบ้านจ๊างนักทุกคนคือ การที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ผู้คน ได้เกิดความรัก หวงแหน และ ตระหนักถึงความสำคัญ และปัญหาของ ช้างไทยในปัจจุบัน และร่วมกันอนุรักษ์ช้างไทยให้อยู่คู่กับคนไทยอีกนานเท่านานประวัติและผลงานของ สล่า เพชร วิริยะศิลปินดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2543สาขาทัศนศิลป์ ด้านประติมากรรม<br />424815023933152619375126365ประวัติ<br />สล่า เพชร วิริยะ เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2498 สถานที่เกิด บ้านบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของ นายสิงห์ วิริยะ และ นางบัวจีน วิริยะ มีพี่น้อง 5 คน คือ1. นายเพชร วิริยะ2. นายสุภาพ วิริยะ3. นายเสน่ห์ วิริยะ4. นายพิภัคร์ วิริยะ5. นางเพลินจิต วิริยะ          ที่อยู่ quot;
บ้านจ๊างนักquot;
บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ที่ 2 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่โทรศัพท์ (053) 3446891,01-4725051ครอบครัวนายเพชร วิริยะ สมรสกับนางนงเยาว์ วิริยะ (นันไชยศิลป์) มีบุตรธิดาทั้งหมด 2 คน คือ1. นางสาววารียา วิริยะ2. นางสาวเวรุยา วิริยะการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนผู้ใหญ่ 1 หอพระ จังหวัดเชียงใหม่การศึกษาผู้ใหญ่ ระดับ 4 (ม.ศ. 3) จากโรงเรียนผู้ใหญ่สันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่<br />-26670026670ผลงาน<br />31718251423035ผลงานของสล่าเพชรทำจำหน่ายในนาม quot;
บ้านจ๊างนัก” ซึ่งเขาเป็นหัวเรือใหญ่ในการรวบรวมช่างฝีมือในท้องถิ่น ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกให้เป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ประเภทผลิตภัณฑ์ 5 ดาว ระดับภาค ทุกวันนี้สินค้าจากชุมชนแห่งนี้กระจายไปอยู่ทั่วโลกกว่าจะถึงจุดนี้ สล่าเพชร ย้อนเรื่องราวในวัยหนุ่มว่า เมื่อปี 2515-2519 ได้เรียนรู้การแกะสลักไม้รูปช้าง กับ ครูคำอ้าย เดชดวงตา พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคน พอมีฝีมือติดตัวก็ตระเวนทำงานแกะสลักไม้ตามสถานที่ต่างๆ และตามประสาวัยรุ่นที่รักความท้าทายหลังจากเป็นหนุ่มพเนจรอยู่หลายปี จึงหวนคืนสู่บ้านเกิดที่สันกำแพงราวปี 2528 และคิดปักหลักทำมาหากินบนผืนดินมารดา จึงรวบรวมเพื่อนสล่าและลูกศิษย์ 5-6 คน ก่อตัวเป็นทีมงานแกะสลักช้างในแบบเหมือนจริงจำหน่าย จนมีผลงานออกมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปquot;
ที่มาของบ้านจ๊างนัก คุณลุงประยูร จรรยาวงษ์ ราชานักเขียนการ์ตูนชื่อดัง เป็นผู้ตั้งให้ บ้านจ๊างนักเป็นภาษาถิ่นความหมายว่า มีช้างแกะสลักมากนั่นเอง ทุกวันนี้บ้านจ๊างนักมีทีมงานแกะสลักเกือบ 50 คน ซึ่งเป็นญาติพี่น้อง เพื่อน ลูกศิษย์ และคนหนุ่มๆ ในหมู่บ้านทั้งสิ้นquot;
 สล่าเพชร เล่าความเป็นมามาถึงยุคปัจจุบันงานฝีมือจากบ้านจ๊างนักยิ่งทวีความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มีโอกาสแวะชมงานหัตถกรรมล้านนา ต่างซื้อติดมือกลับบ้านเพื่อเป็นของฝากหรือนำไปตกแต่งบ้าน แต่ถ้าเป็นช้างตัวโตๆ ทีมงานของสล่าเพชรก็จะหาหนทางจัดส่งให้ลูกค้าถึงปลายทาง งานศิลปะของบ้านจ๊างนักจึงกระจายไปทั่วทุกมุมโลกquot;
การทำช้างของบ้านจ๊างนักตอนนี้ มีทั้งงานแกะสลักไม้และปูนปั้น เดือนหนึ่งมีผลงานนับร้อยชิ้น ราคาขึ้นอยู่กับขนาดเฉลี่ยตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึงมูลค่า 7 หลัก ซึ่งผลงานที่เราภูมิใจมากคือการแกะ สลักช้างไม้ชื่อ คิริเมขล์ไตยดายุค เป็นช้างสามเศียรขนาดสูง 5 เมตร กว้าง 3 เมตร ใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปี ผมเตรียมส่งให้ลูกค้าราวกลางเดือนสิงหาคมนี้quot;
 สล่าเพชร กล่าว-1524001926590สล่าเพชร บอกอีกว่า งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2550 สล่าเพชรได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐให้ทำช้างประดับทางเข้าสู่เข้างาน ประกอบด้วย บริเวณวงแหวน 5 ตัว สะพาน 4 ตัว และหัวช้างประดับเสา 44 หัวสำหรับวัตถุดิบสำคัญคือ quot;
ไม้quot;
 ใช้ได้ทั้งไม้เนื้ออ่อน และไม้เนื้อแข็ง แต่ที่นิยมกันมากและทำกันมาโดยตลอดคือ ไม้สัก ซึ่งเป็นไม้เนื้อละเอียดง่ายต่อการ นำมาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ หรือต้นไม้ แต่ไม้ชนิดนี้ขนาดใหญ่หายาก และราคาสูง จึงเลือกใช้ไม้ขี้เหล็ก ไม้ฉำฉา และไม้ขนุน ซึ่งในอดีตเป็นเพียงไม้ทำฟืนของชาวบ้าน36195004993640เท่านั้น       เครื่องมือที่ใช้แกะสลัก คือ สิ่วหมัก หรือ สิ่วตัววี (V) ใช้สลักนำเส้นตามแบบงานและใช้แต่งลาย เส้นต่างๆ สิ่วแบน ใช้ถากย้ำเส้นต่างๆ และตัดไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออก สิ่วแกะ หรือ สิ่วตัวยู (U) ใช้ถาก เจาะ และตกแต่งรายละเอียดของชิ้นงาน และ ค้อน อุปกรณ์ที่ต้องใช้ตอกสิ่ววิธีแกะสลัก ร่างแบบงานบนกระดาษแข็ง แล้วนำมาทาบกับไม้ที่เตรียมไว้ แกะเอาไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออกให้เหลือแต่โครงสร้างตามแบบที่ร่างไว้ ส่วนความเว้าก็แกะออกจนเป็นรูปร่างตามแบบที่ร่างไว้เช่นกัน จากนั้นตกแต่งรายละเอียด เช่น ลายผิวหนัง หรือลายกลีบดอกไม้ขั้นตอนสุดท้าย ทาสีและขัดตกแต่ง ใช้สีธรรมชาติทำจากผลมะเกลือ ขั้นตอนคือนำผลมะเกลือมาตำ แล้วหมักกับน้ำปูนใส ก่อนใช้น้ำที่หมักทาผลงานให้เป็นสีดำ และทาซ้ำจนกระทั่งดำจนพอใจ จึงนำไปตากให้แห้งสนิท ใช้แปลงทองเหลืองขัดกากของมะเกลือออก จะได้ชิ้นงานสีดำเทาดูเป็นธรรมชาติทั้งนี้ “บ้านจ๊างนัก” นับเป็นแหล่งศึกษาด้านการแกะสลักช้าง และการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของ อ.สันกำแพง<br />2085975-1231904295775-1569085-152399-149860<br />
งานบ้านถวาย
งานบ้านถวาย
งานบ้านถวาย

More Related Content

Similar to งานบ้านถวาย

พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวาพิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวาmoowhanza
 
บ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักบ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักPond Pung
 
ภูมิปัญญา
ภูมิปัญญาภูมิปัญญา
ภูมิปัญญาphaudjantuk
 
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนักถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนักpawidchaya
 
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนักถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนักpawidchaya
 
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนักถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนักpawidchaya
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..pawidchaya
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..pawidchaya
 
พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก
พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนักพิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก
พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนักArtit Songsee
 
ศึกษาดูงาน
ศึกษาดูงานศึกษาดูงาน
ศึกษาดูงานnonmorning
 
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุงบ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุงหอย ลี่
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่าโครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่าChok Ke
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนN'Mom Sirintip
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนN'Mom Sirintip
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนN'Mom Sirintip
 

Similar to งานบ้านถวาย (20)

บ้านจ๊างนัก1
บ้านจ๊างนัก1บ้านจ๊างนัก1
บ้านจ๊างนัก1
 
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวาพิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
 
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุงบ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
บ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักบ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนัก
 
ภูมิปัญญา
ภูมิปัญญาภูมิปัญญา
ภูมิปัญญา
 
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนักถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
 
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนักถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
 
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนักถอดบทเรียน   บ้านจ๊างนัก
ถอดบทเรียน บ้านจ๊างนัก
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..
 
พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก
พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนักพิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก
พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก
 
ศึกษาดูงาน
ศึกษาดูงานศึกษาดูงาน
ศึกษาดูงาน
 
ถอดบทเรียน นายนพประสิทธิ์ สิงห์ประเสริฐ-309
ถอดบทเรียน นายนพประสิทธิ์ สิงห์ประเสริฐ-309ถอดบทเรียน นายนพประสิทธิ์ สิงห์ประเสริฐ-309
ถอดบทเรียน นายนพประสิทธิ์ สิงห์ประเสริฐ-309
 
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุงบ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่าโครงงานวิทยาศาสตร์  ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
โครงงานวิทยาศาสตร์ ประดิษฐ์ของใช้จากเมล็ดมะค่า
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 

More from พะวาวเด้อ บลูเบ้อชีส (10)

บ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักบ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนัก
 
บ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักบ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนัก
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
Original insect2
Original insect2Original insect2
Original insect2
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
งานบ้านถวาย
งานบ้านถวายงานบ้านถวาย
งานบ้านถวาย
 
หินขัด1
หินขัด1หินขัด1
หินขัด1
 
หินขัด
หินขัดหินขัด
หินขัด
 
Terrazzo
TerrazzoTerrazzo
Terrazzo
 
ยางมะตอย
ยางมะตอยยางมะตอย
ยางมะตอย
 

งานบ้านถวาย

  • 1.
  • 4.
  • 7. ใช้ประดับได้ทั้ง กลางแจ้ง และในร่มเครื่องมือ สำหรับงานปั้นปูน ของช่างปั้นแต่ละคน เมื่อสมัยก่อนก็ดี หรือ สำหรับช่างปั้นปูนปัจจุบันก็ดี มีเครื่องมือไม่มากชิ้น ทั้งนี้เป็นด้วยช่างปั้นปูน พอใจจะใช้ฝีมือของตัวเองมากกว่า จะใช้เครื่องมือช่วย ในการปั้นก็เฉพาะที่จำเป็น หรือ ในส่วนที่ใช้นิ้วมือปั้นทำส่วนย่อยๆ ในงานปั้นนั้นไม่ถนัด<br />เครื่องมือ สำหรับงานปั้น ของช่างปั้นปูนมักทำขึ้นด้วยไม้ไผ่ โดยช่างปั้นปูนแต่ละคนจะทำขึ้นใช้เอง ตามความเหมาะสมแก่งาน และ ถนัดมือช่างเอง ที่พอยกขึ้นเป็นตัวอย่าง และอธิบายให้ทราบ มีดังต่อไปนี้<br />เกรียง เกรียงสำหรับงานปั้นปูน มีหลายขนาด ใช้สำหรับตัก ป้าย ปาด แตะ แต่งปูนเพื่อขึ้นรูปประเภทต่างๆ หรือ ขูดแต่งผิวปูน<br />ไม้กวด ทำด้วยไผ่เหลาเป็นชิ้นแบนๆ ใช้สำหรับปาดปูน แต่ง และ กวดผิวปูนให้เรียบเกลี้ยง<br />ไม้เนียน ทำด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นชิ้นแบนอย่างท้องปลิง ปลายข้างหนึ่งปาดเฉียง ใช้สำหรับปั้นแต่งส่วนย่อยๆ ในงานปั้นปูน เช่นขีดทำเป็นเส้น ทำรอยบากขอบลวดลาย<br />ไม้เล็บมือ ทำด้วยไม้ไผ่กิ่งเล็กๆ ช่างปั้นบางคนเรียกว่า ไม้แวว ใช้สำหรับกด ทำเป็นวงกลมล้อมลายตาไก่บ้าง ลายมุกบ้าง ไม้เล็บมือนี้ อาจทำขึ้นไว้หลายอัน และต่างขนาดกันเพื่อให้เหมาะสมแก่งานที่จะปั้น<br />ขวาน ทำด้วยเหล็กใส่ด้ามไม้ ใช้สำหรับ ฟัน หรือ เฉาะพื้นปูนให้เป็นรอยถี่ๆ เพื่อช่วยให้ปูนที่จะปั้นทับลงบนฝา หรือ พื้นปูนเกาะ หรือ จับติดแน่น<br />ตะลุมพุก ทำด้วยไม้รูปทรงกระบอกสั้นๆ ต่อด้ามไม้ยาวขนาดจับถนัด ใช้สำหรับตอก “ทอย” ลงบนพื้นปูน หรือพื้นไม้<br />190502540พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก<br /> ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2528 โดย สล่าเพชร วิริยะซึ่งได้รวบรวมเพื่อนฝูง ตลอดจนลูกศิษย์ลูกหา ช่างแกะสลักฝีมือดีและมีความรักในศิลปะการแกะสลัก ไม้แบบล้านนามารวมตัวกันจัดตั้ง กลุ่มแกะสลักขึ้นมา<br />เมื่อปีพ.ศ.2531 คุณลุงประยูร จรรยาวงศ์ (2458) คอลัมน์นิสต์ชื่อดังแห่งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐในขณะ นั้น ได้ให้เกียรติ มา เยี่ยม เยือน พร้อมกับตั้งชื่อบ้านว่า “บ้านจ๊างนัก” อันหมายถึงบ้านที่มีช้าง เยอะแยะมากมาย<br />บ้านจ๊างนัก ได้มีการพัฒนารูปแบบการแกะสลักช้าง จากเดิมที่ช่างแกะจะมีการแกะสลักแบบ ตายตัว รูปแบบจะซ้ำกัน มาเป็นการแกะสลักช้างที่ดูมีชีวิตชีวา มีท่าทางท่วงทำนองที่เหมือน ช้างจริง ๆ ซึ่งนับเป็นแห่งแรกที่มีการแกะสลักช้าง รูปแบบนี้<br />บ้านจ๊างนักยังเป็นแห่งแรกที่มีการทดลองนำวัสดุใหม่ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นมาทดแทนวัสดุเดิม ที่นับวันมีแต่จะหายากมากขึ้น เช่น มีการนำเอาไม้ขี้เหล็กมาทดแทนไม้สัก ซึ่งประโยชน์เพียงอย่างเดียวของไม้ขี้เหล็ก ในสมัยก่อน คือนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงเท่านั้น และผลที่ได้จากการนำมาแกะสลักพบว่า ไม้ขี้เหล็กเป็นไม้เนื้อแข็งมากการแกะค่อน ข้างยากกว่าไม้สัก แต่ผลงานที่ออกมาจะสวยงาม และสีเป็นธรรมชาติ<br />นอกจากการทดลองเรื่องของไม้แล้ว ยังมีการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอด กันมามาประยุกต์ใช้ กับงานแกะสลัก นั่นก็คือ นำเอาลูกมะเกลือที่ใช้ในการย้อมผ้า มาย้อมสีไม้ซึ่งก็ให้สีที่เป็นธรรมชาติและ ไม่มีสารพิษตกค้างเป็นอันตราย ต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม<br />133350178689021145501209675เมื่อปี พ.ศ. 2546 บ้านจ๊างนัก ได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น สังกัด เอกชน ยังผลให้เป็นที่รู้จัก กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ ที่มีความสนใจในศิลปะแขนงนี้นอกจากนี้ หนึ่งในความภาคภูมิใจของสล่าบ้านจ๊างนักทุกคนคือ การที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ผู้คน ได้เกิดความรัก หวงแหน และ ตระหนักถึงความสำคัญ และปัญหาของ ช้างไทยในปัจจุบัน และร่วมกันอนุรักษ์ช้างไทยให้อยู่คู่กับคนไทยอีกนานเท่านานประวัติและผลงานของ สล่า เพชร วิริยะศิลปินดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2543สาขาทัศนศิลป์ ด้านประติมากรรม<br />424815023933152619375126365ประวัติ<br />สล่า เพชร วิริยะ เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2498 สถานที่เกิด บ้านบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของ นายสิงห์ วิริยะ และ นางบัวจีน วิริยะ มีพี่น้อง 5 คน คือ1. นายเพชร วิริยะ2. นายสุภาพ วิริยะ3. นายเสน่ห์ วิริยะ4. นายพิภัคร์ วิริยะ5. นางเพลินจิต วิริยะ ที่อยู่ quot; บ้านจ๊างนักquot; บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ที่ 2 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่โทรศัพท์ (053) 3446891,01-4725051ครอบครัวนายเพชร วิริยะ สมรสกับนางนงเยาว์ วิริยะ (นันไชยศิลป์) มีบุตรธิดาทั้งหมด 2 คน คือ1. นางสาววารียา วิริยะ2. นางสาวเวรุยา วิริยะการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนผู้ใหญ่ 1 หอพระ จังหวัดเชียงใหม่การศึกษาผู้ใหญ่ ระดับ 4 (ม.ศ. 3) จากโรงเรียนผู้ใหญ่สันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่<br />-26670026670ผลงาน<br />31718251423035ผลงานของสล่าเพชรทำจำหน่ายในนาม quot; บ้านจ๊างนัก” ซึ่งเขาเป็นหัวเรือใหญ่ในการรวบรวมช่างฝีมือในท้องถิ่น ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกให้เป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ประเภทผลิตภัณฑ์ 5 ดาว ระดับภาค ทุกวันนี้สินค้าจากชุมชนแห่งนี้กระจายไปอยู่ทั่วโลกกว่าจะถึงจุดนี้ สล่าเพชร ย้อนเรื่องราวในวัยหนุ่มว่า เมื่อปี 2515-2519 ได้เรียนรู้การแกะสลักไม้รูปช้าง กับ ครูคำอ้าย เดชดวงตา พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคน พอมีฝีมือติดตัวก็ตระเวนทำงานแกะสลักไม้ตามสถานที่ต่างๆ และตามประสาวัยรุ่นที่รักความท้าทายหลังจากเป็นหนุ่มพเนจรอยู่หลายปี จึงหวนคืนสู่บ้านเกิดที่สันกำแพงราวปี 2528 และคิดปักหลักทำมาหากินบนผืนดินมารดา จึงรวบรวมเพื่อนสล่าและลูกศิษย์ 5-6 คน ก่อตัวเป็นทีมงานแกะสลักช้างในแบบเหมือนจริงจำหน่าย จนมีผลงานออกมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปquot; ที่มาของบ้านจ๊างนัก คุณลุงประยูร จรรยาวงษ์ ราชานักเขียนการ์ตูนชื่อดัง เป็นผู้ตั้งให้ บ้านจ๊างนักเป็นภาษาถิ่นความหมายว่า มีช้างแกะสลักมากนั่นเอง ทุกวันนี้บ้านจ๊างนักมีทีมงานแกะสลักเกือบ 50 คน ซึ่งเป็นญาติพี่น้อง เพื่อน ลูกศิษย์ และคนหนุ่มๆ ในหมู่บ้านทั้งสิ้นquot; สล่าเพชร เล่าความเป็นมามาถึงยุคปัจจุบันงานฝีมือจากบ้านจ๊างนักยิ่งทวีความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มีโอกาสแวะชมงานหัตถกรรมล้านนา ต่างซื้อติดมือกลับบ้านเพื่อเป็นของฝากหรือนำไปตกแต่งบ้าน แต่ถ้าเป็นช้างตัวโตๆ ทีมงานของสล่าเพชรก็จะหาหนทางจัดส่งให้ลูกค้าถึงปลายทาง งานศิลปะของบ้านจ๊างนักจึงกระจายไปทั่วทุกมุมโลกquot; การทำช้างของบ้านจ๊างนักตอนนี้ มีทั้งงานแกะสลักไม้และปูนปั้น เดือนหนึ่งมีผลงานนับร้อยชิ้น ราคาขึ้นอยู่กับขนาดเฉลี่ยตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึงมูลค่า 7 หลัก ซึ่งผลงานที่เราภูมิใจมากคือการแกะ สลักช้างไม้ชื่อ คิริเมขล์ไตยดายุค เป็นช้างสามเศียรขนาดสูง 5 เมตร กว้าง 3 เมตร ใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปี ผมเตรียมส่งให้ลูกค้าราวกลางเดือนสิงหาคมนี้quot; สล่าเพชร กล่าว-1524001926590สล่าเพชร บอกอีกว่า งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2550 สล่าเพชรได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐให้ทำช้างประดับทางเข้าสู่เข้างาน ประกอบด้วย บริเวณวงแหวน 5 ตัว สะพาน 4 ตัว และหัวช้างประดับเสา 44 หัวสำหรับวัตถุดิบสำคัญคือ quot; ไม้quot; ใช้ได้ทั้งไม้เนื้ออ่อน และไม้เนื้อแข็ง แต่ที่นิยมกันมากและทำกันมาโดยตลอดคือ ไม้สัก ซึ่งเป็นไม้เนื้อละเอียดง่ายต่อการ นำมาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ หรือต้นไม้ แต่ไม้ชนิดนี้ขนาดใหญ่หายาก และราคาสูง จึงเลือกใช้ไม้ขี้เหล็ก ไม้ฉำฉา และไม้ขนุน ซึ่งในอดีตเป็นเพียงไม้ทำฟืนของชาวบ้าน36195004993640เท่านั้น เครื่องมือที่ใช้แกะสลัก คือ สิ่วหมัก หรือ สิ่วตัววี (V) ใช้สลักนำเส้นตามแบบงานและใช้แต่งลาย เส้นต่างๆ สิ่วแบน ใช้ถากย้ำเส้นต่างๆ และตัดไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออก สิ่วแกะ หรือ สิ่วตัวยู (U) ใช้ถาก เจาะ และตกแต่งรายละเอียดของชิ้นงาน และ ค้อน อุปกรณ์ที่ต้องใช้ตอกสิ่ววิธีแกะสลัก ร่างแบบงานบนกระดาษแข็ง แล้วนำมาทาบกับไม้ที่เตรียมไว้ แกะเอาไม้ส่วนที่ไม่ต้องการออกให้เหลือแต่โครงสร้างตามแบบที่ร่างไว้ ส่วนความเว้าก็แกะออกจนเป็นรูปร่างตามแบบที่ร่างไว้เช่นกัน จากนั้นตกแต่งรายละเอียด เช่น ลายผิวหนัง หรือลายกลีบดอกไม้ขั้นตอนสุดท้าย ทาสีและขัดตกแต่ง ใช้สีธรรมชาติทำจากผลมะเกลือ ขั้นตอนคือนำผลมะเกลือมาตำ แล้วหมักกับน้ำปูนใส ก่อนใช้น้ำที่หมักทาผลงานให้เป็นสีดำ และทาซ้ำจนกระทั่งดำจนพอใจ จึงนำไปตากให้แห้งสนิท ใช้แปลงทองเหลืองขัดกากของมะเกลือออก จะได้ชิ้นงานสีดำเทาดูเป็นธรรมชาติทั้งนี้ “บ้านจ๊างนัก” นับเป็นแหล่งศึกษาด้านการแกะสลักช้าง และการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของ อ.สันกำแพง<br />2085975-1231904295775-1569085-152399-149860<br />