More Related Content
More from Saran Yuwanna (20)
สรุปคำพิพากษาปี 2505
- 1. ๔. กระบวนการพิจารณาคดีตีความของศาลยุติธรรม
ระหว่างประเทศ
นับจากทีกมพูชาได้ยนขอให้ศาลโลกตีความคำ�พิพากษาคดีปราสาท
่ั
ื่
พระวิหารปี ๒๕๐๕ ไทยและกัมพูชาได้ยืนเอกสารชีแจงต่อศาลฯ ไปแล้ว
่
้
ฝ่ายละ ๒ รอบ และในขั้นตอนต่อไป ศาลฯ ได้กำ�หนดให้มีการอธิบาย
ทางวาจาเพิ่มเติม (Further Oral Explanations) ณ กรุงเฮก ประเทศ
เนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๑๙ เมษายน ๒๕๕๖ หลังจากนั้น
คาดว่าศาลฯ จะใช้เวลาอีกประมาณ ๖ เดือน ในการจัดทำ�คำ�พิพากษา
ก่อนที่จะมีการตัดสินคดีฯ ประมาณปลายปี ๒๕๕๖
๕. ข้อต่อสู้ทางกฎหมายของไทย
๖. การดำ�เนินการของรัฐบาลไทย
ีำ
ีำ
ไทยคัดค้านว่าศาลฯ ไม่มอ�นาจพิจารณาและกัมพูชาไม่มอ�นาจฟ้อง
เนืองจากประเด็นทีกมพูชาขอให้ศาลฯ ตัดสินว่า บริเวณใกล้เคียงปราสาท
่
่ั
(Vicinity of the Temple) เป็นไปตามเส้นเขตแดนบนแผนที่ที่กัมพูชา
เรียกว่า “แผนที่ภาคผนวก ๑” (แผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ ระวาง
ดงรัก) ไม่ใช่การตีความ แต่เป็นการฟ้องคดีใหม่ในเรื่องเขตแดน ซึ่งอยู่
นอกขอบเขตของคดีเดิม และเป็นเรื่องที่ไทยกับกัมพูชาจะต้องเจรจากัน
ภายใต้กรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission
- JBC) ไทย - กัมพูชา
ไทยและกัมพูชาไม่มีข้อพิพาทในเรื่องการตีความคำ�พิพากษาเดิม
คำ�ฟ้องของกัมพูชาเป็นการเปลียนท่าทีและเป็นการรือฟืนเรืองทีจบไปแล้ว
่
้ ้ ่ ่
เพราะกัมพูชาได้ยอมรับอย่างเป็นทางการตังแต่ปี ๒๕๐๕ ว่า ไทยได้ปฏิบติ
้
ั
ตามคำ�พิพากษาในคดีเดิมอย่างครบถ้วนแล้ว โดยได้ถอนกำ�ลังทหาร
และตำ�รวจออกจากปราสาทพระวิหารและบริเวณใกล้เคียงปราสาท
ตามขอบเขตที่กำ�หนดโดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม
๒๕๐๕ ซึงสอดคล้องกับขอบเขตของพืนทีพพาทในคดีเดิมตามความเข้าใจ
่
้ ่ ิ
ของคู่ความและศาลฯ
นอกจากนี้ คำ�ฟ้องของกัมพูชาเป็นเสมือนการอุทธรณ์ที่ซ่อนมา
ในรูปคำ�ขอตีความ ซึงขัดธรรมนูญศาลฯ และแนวคำ�พิพากษาของศาลฯ
่
เพราะกัมพูชาขอตีความคำ�พิพากษาส่วนที่เป็นเหตุผล ไม่ใช่ส่วนที่เป็น
คำ�ตัดสิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอให้ศาลฯ ตัดสินสิ่งที่ศาลฯ ได้เคย
ปฏิเสธมาแล้วอย่างชัดแจ้งเมื่อปี ๒๕๐๕ กล่าวคือ (๑) เส้นเขตแดน
อยูทไหน และ (๒) แผนทีทกมพูชาเรียกว่า “แผนทีภาคผนวก ๑” มีสถานะ
่ ี่
่ ี่ ั
่
ทางกฎหมายอย่างไร
รัฐบาลชุดปัจจุบันให้ความสำ�คัญกับการต่อสู้คดีฯ และประเด็นที่
เกี่ยวกับปราสาทพระวิหารเป็นอย่างยิ่ง และสนับสนุนการดำ�เนินงาน
ของคณะดำ�เนินคดีปราสาทพระวิหารของประเทศไทยในการต่อสู้คดีฯ
ซึ่ ง คณะดำ � เนิ นคดี ดั ง กล่ า วเป็ นชุ ด ซึ่ ง ได้ รั บ การแต่ ง ตั้ ง ในสมั ย รั ฐ บาล
ชุดที่ผ่านมา ทั้งนี้ โดยคำ�นึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำ�คัญ
leaflet new16.indd 1
สรุปข้อมูลสถานะของคดีตีความคำ�พิพากษา
คดีปราสาทพระวิหารปี ๒๕๐๕
๗. บทสรุป
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและคณะดำ�เนินคดีปราสาทพระวิหาร
ของประเทศไทยได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในการเตรียม
ท่าทีฝายไทยเพือโต้แย้งข้อต่อสูของกัมพูชาในคดี นอกจากนั้น ตั้งแต่ศาลฯ
่
่
้
มีคำ�สั่งมาตรการชั่วคราว สถานการณ์ตามแนวชายแดนระหว่างไทยและ
กัมพูชามีความสงบ และความสัมพันธ์ในด้านอืน ๆ ก็พฒนาไปในทิศทาง
่
ั
ทีดขน ซึงสะท้อนถึงความตังใจจริงของประเทศไทยที่จะยึดแนวทางสันติวิธี
่ ี ้ึ ่
้
และหลักนิติธรรมเป็นพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับประเทศ
เพื่อนบ้าน
ทังนี้ สิงทีประเทศไทยให้ความสำ�คัญมากทีสด คือ ไม่วาผลการตัดสิน
้ ่ ่
่ ุ
่
ของศาลฯ จะออกมาอย่างไร ก็มิใช่ชัยชนะของประเทศใดประเทศหนึ่ง
แต่เป็น “ชัยชนะแห่งสันติภาพ” ที่จะนำ�ไปสู่การแก้ไขปัญหาระหว่างไทย
กับกัมพูชา และนำ�มาซึ่งสันติสุขที่ยั่งยืนระหว่างประชาชนของทั้งสอง
ประเทศ และการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘
สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mfa.go.th/tcs
กระทรวงการต่างประเทศ
ตุลาคม ๒๕๕๕
10/16/12 2:55 PM
- 2. เมือปี ๒๕๐๕ ศาลยุตธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้ตดสินว่า
่
ิ
ั
ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา
และให้ไทยถอนทหารหรือตำ�รวจออกจากปราสาทพระวิหารหรือ
ในบริเวณใกล้เคียงในดินแดนของกัมพูชา ตลอดจนคืนวัตถุโบราณ
ที่ไทยอาจโยกย้ายออกจากปราสาทฯ
๒. ไม่ให้ไทยขัดขวางการเข้าออกปราสาทพระวิหารโดยอิสระของ
กัมพูชา
เกือบครึ่งศตวรรษต่อมา กัมพูชาได้ยื่นคำ�ขอต่อศาลฯ เมื่อวันที่
๒๘ เมษายน ๒๕๕๔ ขอให้ศาลโลกตีความคำ�พิพากษาคดีปราสาท
พระวิหารที่ศาลฯ ได้ตัดสินไว้เมื่อปี ๒๕๐๕ และในขณะเดียวกัน
ได้ขอให้ศาลโลกกำ�หนดมาตรการชัวคราว (Provisional Measures)
่
โดยขอให้ ศ าลฯ สั่ ง ให้ ไทยถอนทหารออกจากบริ เวณปราสาท
พระวิหารระหว่างที่รอศาลฯ ตัดสินคดีตีความ
๔ ให้ทั้งสองฝ่ายงดเว้นการกระทำ�ใดๆ ที่ทำ�ให้ข้อพิพาทในศาลฯ
ทวีความร้ายแรงหรือแก้ไขยากขึ้น
ความคืบหน้าของคดีฯ สรุปได้ดังนี้
๑. คำ�สั่งมาตรการชั่วคราวของศาลฯ
เมื่อวันที่ ๓๐ - ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ทั้งสองฝ่ายได้นำ�เสนอด้วย
วาจาเกี่ยวกับคำ�ขอมาตรการชั่วคราวต่อศาลฯ และต่อมา เมื่อวันที่ ๑๘
กรกฎาคม ๒๕๕๔ ศาลฯ ได้มีคำ�สั่งมาตรการชั่วคราว ดังนี้
๑. ให้ ทั้งสองฝ่าย ถอนบุคลากรทางทหาร ซึ่งอยู่ในเขตปลอดทหาร
ชั่วคราว (Provisional Demilitarized Zone - PDZ) ที่ศาลฯ กำ�หนดโดยทันที
๓. ให้ ทั้ ง สองฝ่ า ยดำ � เนิ น การตามความร่ ว มมื อ ที่ ไ ด้ ต กลงกั น
ในกรอบอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์ท่ีต้ังขึ้น
โดยอาเซียนเข้าไปยังเขตปลอดทหารชัวคราวฯ
่
พร้อมกันนี้ ศาลฯ ได้กำ�หนดให้ทั้งสองฝ่ายรายงานศาลฯ เกี่ยวกับ
การปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราวข้างต้นด้วย
๒. เหตุใดไทยต้องปฏิบัติตามคำ�สั่งมาตรการชั่วคราวของศาลฯ
คำ�สั่งฯ ของศาลฯ ผูกพันประเทศไทยและกัมพูชา ตามข้อ ๙๔ ของ
กฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งกำ�หนดว่า สมาชิกสหประชาชาติต้องปฏิบัติ
ตามคำ�ตัดสินของศาลฯ
อย่ า งไรก็ ดี คำ � สั่ ง ฯ ของศาลฯ มี ผ ลเพี ย งชั่ ว คราวและจะสิ้ น ผล
เมื่อศาลฯ มีคำ�ตัดสินคดีตีความ และในฐานะสมาชิกสหประชาชาติและ
ประเทศที่เคารพในกฎกติการะหว่างประเทศ รัฐบาลไทยจึงมีพันธะต้อง
ปฏิบัติตามคำ�สั่งดังกล่าว
นอกจากนี้ กฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ ๙๔ วรรค ๒ ระบุด้วยว่า
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามคำ�สั่งฯ ของศาลฯ คู่กรณีอาจเสนอเรื่อง
ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security
Council - UNSC) พิจารณาออกมาตรการเพื่อให้มีการปฏิบัติตามได้
๓. การปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราวของศาลฯ ในช่วงที่ผ่านมา
วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔ คณะรัฐมนตรีได้มมติเห็นชอบให้ปฏิบตตาม
ี
ั ิ
คำ�สั่งฯ ของศาลฯ พร้อมทั้งเห็นชอบให้ใช้กลไกการประชุมคณะกรรมการ
ชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) ซึ่งมีรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในการเจรจากับกัมพูชาเกี่ยวกับ
การปฏิบัติตามคำ�สั่งมาตรการชั่วคราวของศาลฯ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี
ได้ เ สนอเรื่ อ งต่ อ รั ฐ สภาตามมาตรา ๑๗๙ ของรั ฐ ธรรมนู ญ ฯ เมื่ อ
วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
leaflet new16.indd 2
ที่มา : ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป
ครังที่ ๘ ได้ตกลงกันให้จดตังคณะทำ�งานร่วม (Joint Working Group - JWG)
้
ั ้
เพื่อหารือในประเด็นการปฏิบัติตามคำ�สั่งฯ ของศาลฯ โดยมีเสนาธิการ
ทหารเป็นประธานฝ่ายไทย วันที่ ๓ - ๕ เมษายน ๒๕๕๕ ไทยได้เป็น
เจ้ า ภาพจั ด การประชุ ม JWG ครั้ ง ที่ ๑ ณ กรุ ง เทพฯ ต่อมา เมื่อ
วันที่ ๒๖ - ๒๘ มิถนายน ๒๕๕๕ กัมพูชาได้เป็นเจ้าภาพการประชุมฯ
ุ
ครังที่ ๒ ณ กรุงพนมเปญ ซึ่งโดยสรุป ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะปฏิบัติ
้
ตามคำ�สั่งมาตรการชั่วคราวของศาลฯ อย่างเท่าเทียม โปร่งใสและ
ตรวจสอบได้ และเห็นชอบให้ดำ�เนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมใน PDZ
เพื่อความปลอดภัยของคณะผูสงเกตการณ์รวมและอำ�นวยความสะดวก
้ั
่
ให้กบกระบวนการปรับกำ�ลังทหาร (Redeployment)
ั
วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ทั้งสองฝ่ายได้ดำ�เนินการปรับกำ�ลัง
ทหารบางส่วนเพือนำ�ไปสูการปฏิบตตามคำ�สังฯ ของศาลฯ อย่างเท่าเทียม
่
่
ั ิ
่
และด้วยความสมัครใจ ตามนโยบายของรัฐบาลของทั้งสองประเทศ
โดยในส่วนของฝ่ายไทย พล.อ.อ.สุกำ�พล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถนำ�
ตำ�รวจตระเวนชายแดนไปวางกำ�ลังเพือเตรียมทดแทนทหาร ซึงประจำ�การ
่
่
อยู่ใน PDZ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามี พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นประธานในพิธีปรับกำ�ลัง
ทหารกัมพูชาออกจาก PDZ และให้เจ้าหน้าทีต�รวจตระเวนชายแดนและ
่ ำ
ตำ�รวจท่องเที่ยว เข้าปฏิบัติหน้าที่แทน
10/16/12 2:55 PM