SlideShare a Scribd company logo
1 of 3
Download to read offline
- บล็อก (Blog) คือเว็บไซด์รูปแบบหนึ่ง ที่มีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับการเขียนไดอารี่
หรือ บันทึกส่วนตัว ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากเราใช้ฟรี ไม่ต้องเสียเงิน
- คาว่า "Blog" มาจากคาเต็มว่า "Weblog" (ตัด We ทิ้ง คงเหลือแต่ blog) ซึ่งโดยนัยแล้ว
หมายถึง การบันทึกข้อมูล(Log) บน เว็บ(Web) นั่นเอง
- โดยผู้ที่เขียนบล๊อกเป็นอาชีพ จะถูกเรียกกันว่า "บล็อกเกอร์" (Blogger)
- จุดเด่นที่สาคัญของ Blog คือ จะมีระบบที่ผู้อ่านและผู้เขียนสามารถแสดงความคิดเห็น
แลกเปลี่ยนกันได้ โดยผ่านทางระบบ Comment ของบล๊อก
Blog ใช้ทำอะไรได้บ้ำง?
- ทำBlog เป็นเว็บไซด์ส่วนตัว เพื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้อื่นๆ เช่น บันทึกไดอารี่
- เขียนBlog เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ นาเสนอสิ่งที่ตนเองรู้ หรือสิ่งที่ตนเองสนใจ เพื่อ
แบ่งปันให้กับผู้อื่น
- สร้ำงBlog ทาเป็นเว็บไซด์เพื่อใช้ในการโปรโมทธุรกิจ ร้านค้า บริการต่างๆ
- ใช้Blog ในการทาธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce)
- นอกจากนี้ Blog ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่นิยมใช้กับเพื่อหารายได้จาก Internet Marketing
Blog กับ Website ต่ำงกันอย่ำงไร?
- เว็บไซด์ทั่วๆไปนั้น จาเป็นต้องมี Server, มี Host มี Domain Name เป็นของตนเอง ซึ่ง
จะต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ในส่วนของ Blog นั้นเราสามารถสมัครใช้บริการได้แบบฟรี เพียงแต่
เราต้องใช้ชื่อ Domain ของผู้ให้บริการนั้นๆ เช่นของ Google คือ Blogger.com - โดเมน
เนม ก็จะเป็น "ชื่อBlogของคุณ" ต่อท้ายด้วย "blogspot.com" เช่น JoJho-
Problog.blogspot.com
- เว็บไซด์ทั่วไปจะมีความยืดหยุ่นสูงในการออกแบบ ดีไซน์ เพราะเราต้องสร้างเองทั้งหมด
(ดังนั้นจะเลือกดีไซน์ยังไงก็ได้)
- แต่ Blog จะมีการดีไซน์ในรูปแบบเฉพาะเรียกว่า Blog Template ซึ่งมีให้เลือกมากมาย แต่
ยังคงมีลักษณะโครงสร้างที่ค่อนข้างตายตัว ไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้มากตามใจชอบ
อย่างเว็บไซด์
- การสร้างเว็บไซด์ จาเป็นต้องมีทักษะความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากพอสมควร ทั้งในส่วนของ
ภาษาคอมพิวเตอร์, โปรแกรมคอมติวเตอร์ต่างๆ ความรู้เบื้องต้นในเรื่องของ Network เป็น
ต้น แต่ Blog เพียงรู้หลักในการใช้เล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถสร้างเว็บไซด์ได้อย่างง่ายดาย
Blog กับ เว็บไซด์สำเร็จรูป ต่ำงกันอย่ำงไร?
- Blog และ เว็บไซด์สาเร็จรูป (Instant Website) เป็นเว็บไซด์ที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน ที่
เรียกว่า เว็บไซด์ในรูปแบบ CMS (Content Management System) คือจะเน้นในการ
จัดการเนื้อหาและบทความ เป็นหลัก ซึ่งเราไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมเลย
ก็สามารถ สร้ำงBlog ขึ้นได้โดยวิธีการเข้าใจได้ไม่ยาก
- เว็บไซด์สาเร็จรูป มีทั้งแบบ เราสร้างเว็บเอง หรือ ไปขอใช้บริการแบบที่เค้าสร้างให้เสร็จ
แล้ว ซึ่งในที่นี้ผมจะขอกล่าวถึงแต่ เว็บไซด์สาเร็จที่เค้าสร้างให้เสร็จแล้ว เพราะจะใกล้เคียงกับ
บริการของ Blog
- เว็บไซด์สาเร็จรูป ที่นิยม จะเป็นในรูปแบบเปิดร้านค้าออนไลน์ (Online Shopping,
Instant Online Store) ซึ่งจะมีระบบที่สนับสนุนกับการทา E-Commerce รองรับในตัว เช่น
ตะกร้าสินค้า, เว็บบอร์ด ในขณะที่ Blog จะไม่มี
- ดังนั้นในการเปิดร้านค้าออนไลน์นั้น เว็บไซด์สาเร็จรูปจะเหมาะสาหรับ ร้านที่มีสินค้าขาย
เป็น ชิ้นๆ ซึ่งมีจานวนมากพอสมควรในระดับหนึ่ง ... ในขณะที่ Blog จะเหมาะสาหรับร้านที่มี
สินค้าตั้งขายจานวนน้อย
- Blog จะเหมำะสำหรับธุรกิจที่เน้นให้บริกำรเป็นหลัก หรือธุรกิจแบบมีร้ำนค้ำจริงๆ เพื่อ
แนะนำร้ำนสถำนที่ตั้งร้ำน นำเสนอและโปรโมทสินค้ำบริกำรต่ำงๆ เป็นต้น ในขณะที่เว็บไซด์
สาเร็จรูปแบบร้านค้าออนไลน์นั้นจะเหมาะสาหรับธุรกิจที่ขายสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์ (Products)
ต่างๆมากกว่า Blog
ข้อดีและข้อเสียของ Blog :
ข้อดี
- มีอิสระที่จะนาเสนอสิ่งต่างๆ (ที่ไม่ไปก้าวล่วงบุคคลอื่น และไม่ผิดกฎกติกาของผู้ให้บริการ
Blog)
- เปิดโอกาสให้เจ้าของ Blog ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าชมและโต้ตอบกลับได้อย่างอิสระ
- ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในด้านภาษาโปรแกรมต่างๆ
- หากพอมีความรู้ด้านภาษาเว็บพื้นฐาน (HTML) จะสามารถช่วยทาให้เข้าไปแก้ไข Source
Code ได้
เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบ Template ของ Blog ตามต้องการ
- สามารถใช้ Blog ในการทาธุรกิจหารายได้ จากการโปรโมทสินค้าหรือบริการ
- สามารถใช้สร้างเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้
- ใช้งานได้ฟรี!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย (ยกเว้นต้องการจด Domain Name
เป็น .com .net .org .info)
- มี Template ให้เลือกใช้มากมาย (ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน)
- Server มีความเสถียรสูง ปัญหาในด้านความช้า หรือ Server ล่ม พบน้อยมาก
ข้อเสีย
- ฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่างๆ ยังมีน้อยหากเทียบกับเว็บไซด์ที่สร้างเองหรือเว็บไซด์สาเร็จรูป
- แม้มีรูปแบบ Template ให้เลือกใช้มากมายแต่โครงสร้างเว็บก็ยังคงค่อนข้างตายตัว
- เนื่องจากเป็นบริการให้ใช้ฟรี หากเราทาผิดกฎของผู้ให้บริการ Blog เราจะถูกแบน และมี
โอกาส
ถูกลบ Blog ได้ (แต่ถ้าไม่ได้ทาผิดกฎอะไร ก็อยู่ได้อย่างยาวนานจนกว่าผู้บริการจะเลิก
ให้บริการ)
CR.http://www.jojho.com/2013/05/what-is-blog.html

More Related Content

What's hot

Random 101227210331-phpapp01
Random 101227210331-phpapp01Random 101227210331-phpapp01
Random 101227210331-phpapp01Khemjira_P
 
ความรู้เกี่ยวกับ Blogger
ความรู้เกี่ยวกับ Bloggerความรู้เกี่ยวกับ Blogger
ความรู้เกี่ยวกับ BloggerPongsatorn Promwan
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogSutthiporn Lueang-aram
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogPavit Wongkajit
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogFern Ritz
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogfunorakan
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogChannit Bunchong
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogPhataa
 
ความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blogความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง BlogPukkawin Ngamdee
 
Blog for study
Blog for studyBlog for study
Blog for studycheernopor
 

What's hot (11)

Random 101227210331-phpapp01
Random 101227210331-phpapp01Random 101227210331-phpapp01
Random 101227210331-phpapp01
 
ความรู้เกี่ยวกับ Blogger
ความรู้เกี่ยวกับ Bloggerความรู้เกี่ยวกับ Blogger
ความรู้เกี่ยวกับ Blogger
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
ความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blogความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blog
 
Blog for study
Blog for studyBlog for study
Blog for study
 

Similar to Blog (20)

Blog คืออะไร2
Blog คืออะไร2Blog คืออะไร2
Blog คืออะไร2
 
Work3 605 11
Work3 605 11Work3 605 11
Work3 605 11
 
Pittakamon 605 11
Pittakamon 605 11Pittakamon 605 11
Pittakamon 605 11
 
Blog คืออะไร
Blog คืออะไรBlog คืออะไร
Blog คืออะไร
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
ความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blogความรู้เรื่อง Blog
ความรู้เรื่อง Blog
 
ความรู้เรื่อง บล็อก
ความรู้เรื่อง บล็อกความรู้เรื่อง บล็อก
ความรู้เรื่อง บล็อก
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
ความหมาย Blog
ความหมาย Blogความหมาย Blog
ความหมาย Blog
 
1111
11111111
1111
 
blogger
bloggerblogger
blogger
 
blogger
bloggerblogger
blogger
 
038 2 2554
038 2 2554038 2 2554
038 2 2554
 
การสร้างบล็อก
การสร้างบล็อกการสร้างบล็อก
การสร้างบล็อก
 
038 2 2554
038 2 2554038 2 2554
038 2 2554
 
Bloggerr
BloggerrBloggerr
Bloggerr
 

More from krong555

More from krong555 (11)

Vegetarian food
Vegetarian foodVegetarian food
Vegetarian food
 
2
22
2
 
1
11
1
 
Music
MusicMusic
Music
 
Make
MakeMake
Make
 
Caren
CarenCaren
Caren
 
Caren
CarenCaren
Caren
 
Caren
CarenCaren
Caren
 
Blog start
Blog startBlog start
Blog start
 
W1.2
W1.2W1.2
W1.2
 
w1.2
w1.2w1.2
w1.2
 

Blog

  • 1. - บล็อก (Blog) คือเว็บไซด์รูปแบบหนึ่ง ที่มีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับการเขียนไดอารี่ หรือ บันทึกส่วนตัว ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากเราใช้ฟรี ไม่ต้องเสียเงิน - คาว่า "Blog" มาจากคาเต็มว่า "Weblog" (ตัด We ทิ้ง คงเหลือแต่ blog) ซึ่งโดยนัยแล้ว หมายถึง การบันทึกข้อมูล(Log) บน เว็บ(Web) นั่นเอง - โดยผู้ที่เขียนบล๊อกเป็นอาชีพ จะถูกเรียกกันว่า "บล็อกเกอร์" (Blogger) - จุดเด่นที่สาคัญของ Blog คือ จะมีระบบที่ผู้อ่านและผู้เขียนสามารถแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนกันได้ โดยผ่านทางระบบ Comment ของบล๊อก Blog ใช้ทำอะไรได้บ้ำง? - ทำBlog เป็นเว็บไซด์ส่วนตัว เพื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้กับผู้อื่นๆ เช่น บันทึกไดอารี่ - เขียนBlog เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ นาเสนอสิ่งที่ตนเองรู้ หรือสิ่งที่ตนเองสนใจ เพื่อ แบ่งปันให้กับผู้อื่น - สร้ำงBlog ทาเป็นเว็บไซด์เพื่อใช้ในการโปรโมทธุรกิจ ร้านค้า บริการต่างๆ - ใช้Blog ในการทาธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ (E-Commerce) - นอกจากนี้ Blog ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่นิยมใช้กับเพื่อหารายได้จาก Internet Marketing Blog กับ Website ต่ำงกันอย่ำงไร? - เว็บไซด์ทั่วๆไปนั้น จาเป็นต้องมี Server, มี Host มี Domain Name เป็นของตนเอง ซึ่ง จะต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ในส่วนของ Blog นั้นเราสามารถสมัครใช้บริการได้แบบฟรี เพียงแต่ เราต้องใช้ชื่อ Domain ของผู้ให้บริการนั้นๆ เช่นของ Google คือ Blogger.com - โดเมน เนม ก็จะเป็น "ชื่อBlogของคุณ" ต่อท้ายด้วย "blogspot.com" เช่น JoJho- Problog.blogspot.com - เว็บไซด์ทั่วไปจะมีความยืดหยุ่นสูงในการออกแบบ ดีไซน์ เพราะเราต้องสร้างเองทั้งหมด (ดังนั้นจะเลือกดีไซน์ยังไงก็ได้) - แต่ Blog จะมีการดีไซน์ในรูปแบบเฉพาะเรียกว่า Blog Template ซึ่งมีให้เลือกมากมาย แต่ ยังคงมีลักษณะโครงสร้างที่ค่อนข้างตายตัว ไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้มากตามใจชอบ อย่างเว็บไซด์ - การสร้างเว็บไซด์ จาเป็นต้องมีทักษะความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มากพอสมควร ทั้งในส่วนของ ภาษาคอมพิวเตอร์, โปรแกรมคอมติวเตอร์ต่างๆ ความรู้เบื้องต้นในเรื่องของ Network เป็น ต้น แต่ Blog เพียงรู้หลักในการใช้เล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถสร้างเว็บไซด์ได้อย่างง่ายดาย Blog กับ เว็บไซด์สำเร็จรูป ต่ำงกันอย่ำงไร? - Blog และ เว็บไซด์สาเร็จรูป (Instant Website) เป็นเว็บไซด์ที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน ที่ เรียกว่า เว็บไซด์ในรูปแบบ CMS (Content Management System) คือจะเน้นในการ
  • 2. จัดการเนื้อหาและบทความ เป็นหลัก ซึ่งเราไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมเลย ก็สามารถ สร้ำงBlog ขึ้นได้โดยวิธีการเข้าใจได้ไม่ยาก - เว็บไซด์สาเร็จรูป มีทั้งแบบ เราสร้างเว็บเอง หรือ ไปขอใช้บริการแบบที่เค้าสร้างให้เสร็จ แล้ว ซึ่งในที่นี้ผมจะขอกล่าวถึงแต่ เว็บไซด์สาเร็จที่เค้าสร้างให้เสร็จแล้ว เพราะจะใกล้เคียงกับ บริการของ Blog - เว็บไซด์สาเร็จรูป ที่นิยม จะเป็นในรูปแบบเปิดร้านค้าออนไลน์ (Online Shopping, Instant Online Store) ซึ่งจะมีระบบที่สนับสนุนกับการทา E-Commerce รองรับในตัว เช่น ตะกร้าสินค้า, เว็บบอร์ด ในขณะที่ Blog จะไม่มี - ดังนั้นในการเปิดร้านค้าออนไลน์นั้น เว็บไซด์สาเร็จรูปจะเหมาะสาหรับ ร้านที่มีสินค้าขาย เป็น ชิ้นๆ ซึ่งมีจานวนมากพอสมควรในระดับหนึ่ง ... ในขณะที่ Blog จะเหมาะสาหรับร้านที่มี สินค้าตั้งขายจานวนน้อย - Blog จะเหมำะสำหรับธุรกิจที่เน้นให้บริกำรเป็นหลัก หรือธุรกิจแบบมีร้ำนค้ำจริงๆ เพื่อ แนะนำร้ำนสถำนที่ตั้งร้ำน นำเสนอและโปรโมทสินค้ำบริกำรต่ำงๆ เป็นต้น ในขณะที่เว็บไซด์ สาเร็จรูปแบบร้านค้าออนไลน์นั้นจะเหมาะสาหรับธุรกิจที่ขายสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์ (Products) ต่างๆมากกว่า Blog ข้อดีและข้อเสียของ Blog : ข้อดี - มีอิสระที่จะนาเสนอสิ่งต่างๆ (ที่ไม่ไปก้าวล่วงบุคคลอื่น และไม่ผิดกฎกติกาของผู้ให้บริการ Blog) - เปิดโอกาสให้เจ้าของ Blog ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้เข้าชมและโต้ตอบกลับได้อย่างอิสระ - ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในด้านภาษาโปรแกรมต่างๆ - หากพอมีความรู้ด้านภาษาเว็บพื้นฐาน (HTML) จะสามารถช่วยทาให้เข้าไปแก้ไข Source Code ได้ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบ Template ของ Blog ตามต้องการ - สามารถใช้ Blog ในการทาธุรกิจหารายได้ จากการโปรโมทสินค้าหรือบริการ - สามารถใช้สร้างเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ - ใช้งานได้ฟรี!! ไม่เสียค่าใช้จ่าย (ยกเว้นต้องการจด Domain Name เป็น .com .net .org .info) - มี Template ให้เลือกใช้มากมาย (ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน) - Server มีความเสถียรสูง ปัญหาในด้านความช้า หรือ Server ล่ม พบน้อยมาก ข้อเสีย - ฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่างๆ ยังมีน้อยหากเทียบกับเว็บไซด์ที่สร้างเองหรือเว็บไซด์สาเร็จรูป
  • 3. - แม้มีรูปแบบ Template ให้เลือกใช้มากมายแต่โครงสร้างเว็บก็ยังคงค่อนข้างตายตัว - เนื่องจากเป็นบริการให้ใช้ฟรี หากเราทาผิดกฎของผู้ให้บริการ Blog เราจะถูกแบน และมี โอกาส ถูกลบ Blog ได้ (แต่ถ้าไม่ได้ทาผิดกฎอะไร ก็อยู่ได้อย่างยาวนานจนกว่าผู้บริการจะเลิก ให้บริการ) CR.http://www.jojho.com/2013/05/what-is-blog.html