SlideShare a Scribd company logo
1 of 4
Download to read offline
มารู้จักความหมาย ของประโยคคาถาม ที่มักจะมีคนถามผมบ่อย ๆ เวลาไปบรรยายตามที่ต่าง ๆ ว่า “Blog คืออะไร” กัน
ดีกว่าครับ
Blog มาจากศัพท์คาว่า WeBlog บางคนอ่านคา ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง
สองคาบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)
ความหมายของคาว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog
นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้อง
ถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทาให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของ
ตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน
บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง
มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์
เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่อง
ส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท
วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาใน
ประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็น
ต้น
จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียน
บล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง
ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้มีเครื่องมือหรือ
ซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น
ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึง
ระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของ
กลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสาคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสานักข่าวชั้นนา จวบจนกระทั่งปี
2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสานักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง
ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ
และจากเหตุการณ์เหล่านี้นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เรา
สามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สาคัญอย่างแท้จริง
สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ
comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ที่มา : http://keng.com/2005/09/30/what-is-blog/
ประโยชน์ของบล็อก
ผลการศึกษาจากเว็บไซต์ GotoKnow.org ซึ่งเปิดให้บริการบล็อกเพื่อเขียนบันทึก และมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ของกลุ่มคนทางาน
จากจานวนสมาชิกที่มากมายทาให้พบว่าบล็อกแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ซึ่งเปิดให้บริการเพื่อเขียนบล็อกเท่านั้น แต่ยัง
เป็นคลังซึ่งใช้เก็บประโยชน์ต่างๆ มากมายอีกด้วย
คลังประโยชน์ของบล็อก
คลังความรู้ มีความรู้มากมายให้ค้นหา ให้อ่านตามความสนใจ
คลังมิตรภาพ เกิดการปฏิสัมพันธ์กันทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์จนกลายเป็นมิตรภาพดีๆ
คลังแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงความคิดเห็น และต่อยอดความรู้ออกไป
คลังแห่งความสุข เป็นที่ระบายความเครียด ช่วยผ่อนคลาย และเพิ่มความสุขในชีวิต
คลังข้อมูล ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทางานของสมาชิกที่สาคัญ ช่วยให้เจ้าของข้อมูลสามารถดึงดูดข้อมูลออกมา
ใช้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
คลังเพื่อการฝึกฝน เป็นแหล่งฝึกฝนระบบการคิด ทักษะการเขียน และความสามารถด้านถ่ายทอดข้อมูลความรู้ต่างๆ และ
ยังเป็นแหล่งฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้อย่างดีอีกด้วย
คลัง KM ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีผู้เชียวชาญด้านการจัดการความรู้ (KM) มากมาย อีกทั้งสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการ
จัดการความรู้ (KM) ได้ง่ายเพียงแค่คลิก
คลังประชาสัมพันธ์และกิจกรรมงานบุญ เป็นแหล่งประชาสัมพันธ์กิจกรรมดีๆ เพื่อสร้างสรรค์สังคมมากมาย
คลังแห่งองค์กรต่างๆ บางองค์กรเลือกเว็บไซต์ GOtoKnow.org เป็นเครื่องมือเพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
คลังเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันทั้งทางออนไลน์ จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน พบว่าเกิดกระบวนการเพื่อน
ช่วยเพื่อน ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ช่วยสอนวิธีการใช้งานบล็อก
คลังความรู้ฝังลึก อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ที่มี่เป็นคลังความรู้ มีสารประโยชน์ต่างๆ มากมายให้เลือกอ่าน และที่สาคัญ
ความรู้ส่วนใหญ่นั้นเป็นความรู้สึกฝังลึกที่ซ่อนอยู่ ในตัวคนทุกคนนั่นเอง ที่นี่จึงกลายเป๋ นคลังความรู้ฝังลึกที่ใหญ่มาก และ
ถ้าหากสามารถสกัดความรู้ฝังลึกเหล่านี้ให้กลายเป็นความรู้ชัดแจ้งได้ ที่มี่กลายเป็นคลังแก่นความรู้ได้ต่อไป
ทั้ง 11 ข้อ เป็นปะโยชน์ที่เกิดจากการสกัดข้อมูลออกมาจากบันทึกจานวนมาก และแน่นอนว่าประโยชน์ของบล็อก
ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ยังมีอีกมากมายหลากหลายข้อ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าสามารถนาบล็อกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากน้อย
เพียงใดนั่นเอง
ที่มา : http://portal.in.th/blog-km/pages/13338/
KM กับ บล็อก
หลายปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของการจัดการความรู้ (KM) ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและ
เอกชนต่างก็สนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการและกระบวนการจัดทา KM รวมทั้งเครื่องมืออื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการ
จัดการความรู้ เช่น เรื่องเล่าเร้าพลัง สุนทรียสนทนาและอื่นๆ เพื่อให้สามารถนาองค์กรก้าวไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการ
เรียนรู้
นอกจากนี้หลายองค์กรจะได้รับคาแนะนาให้ใช้บล็อกเป็นเครื่องมือเพื่อนาองค์กรสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
อย่างที่กล่าวไว้ แต่ก็มักจะมีคาถามอยู่เสมอว่า จริงๆ แล้วบล็อกสามารถนาไปจัดการความรู้ได้จริงหรือไม่ บล็อกช่วย
พัฒนางาน พัฒนาองค์กรได้อย่างไร และที่ผ่านมายังไม่เคยมีคาตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจนสักครั้ง
บทนี้จะเป็นการนาเสนอเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการความรู้ หรื KM กับบล็อก ว่าทั้งสองอย่างนั้น
เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันอย่างไร ก่อนเปิดอ่านบทต่อไปขอเครียมความพร้อมอีกสักนิดด้วยการให้ผู้อ่านจินตนาการว่า
เว็บไซต์ GotoKnow.org เปรียบได้กับองค์กร หรือ หน่วยงานที่ผู้อ่านได้ทางานอยู่ร่วมกัน
บล็อกเกอร์ทุกๆ ท่าน ในเว็บไซต์แห่งนี้เปรียบได้กับคนทางานในหน่วยงานเดียวกัน เป็นเพื่อร่วมงานที่ต้องพบเจอกันทุกวัน
อาจจะเคยพูดคุยกันเป็นประจา ปรึกษาหารือ และแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ มากมาย หรืออาจจะไม่พูดคุยกันเลย หรืออาจจะ
เพียงแค่ทักทายกันบ้างเป็นบางครั้ง หรืออาจจะเป็นเพียงแค่เห็นหน้า หรือบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักกันเลย
หากผู้อ่านท่านใดเคยทากิจกรรมสุนทรียสนทนา กิจกรรมเรื่องเล่าเร้าพลัง หรือกิจกรรม AAR มาบ้างแล้ว ให้จินตนาการ
ต่อไปว่วันนี้ท่านได้เฟลี่ยนกิจกรรมเหล่านั้นจากการทาในลักษณะ face to face ที่ได้เจอตัวจริงของผู้เข้าร่วมกิจกรรม มา
เป็นการทากิจกรรมเดียวกันแต่ทาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผ่านเครื่องมือสื่อสารที่เรียกว่าบล็อก ผ่านการถ่ายทอดเป็น
หนังสือแทนคาพูด
เมื่อจินตนาการมาถึงตรงนี้ขอให้ผู้อ่านจดจาจิตนาการเหล่านี้ไว้ เพื่อนาไปใช้ยังการอ่านบทต่อไป แต่สาหรับผู้อ่าน
ท่านใดที่ยังไม่เคยทากิจกรรมที่กล่าวมาเลยก็ไม่เป็นไร เพราะสามารถเริ่มเรียนรู้และจินตนาการตามไปพร้อมๆ กันได้
เมื่อพร้อมแล้วอย่ารอช้าขอเชิญก้าวสู่โลกของการจัดการความรู้ผ่านบล็อกในบทต่อไปของหนังสือ บล็อก:เครื่องมือ
เพื่อการจัดการความรู้
ที่มา : http://portal.in.th/blog-km/pages/keyword/blog/

More Related Content

Similar to ความรู้เรื่อง Blog

กิจกรรม2
กิจกรรม2กิจกรรม2
กิจกรรม2
Namfon Zokey
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
Pitthaya Onsuk
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
Pitthaya Onsuk
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
Pitthaya Onsuk
 

Similar to ความรู้เรื่อง Blog (20)

บล็อก (Blog)
บล็อก (Blog)บล็อก (Blog)
บล็อก (Blog)
 
Blog คืออะไร
Blog คืออะไรBlog คืออะไร
Blog คืออะไร
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
กิจกรรม2
กิจกรรม2กิจกรรม2
กิจกรรม2
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
Work3 605 11
Work3 605 11Work3 605 11
Work3 605 11
 
Pittakamon 605 11
Pittakamon 605 11Pittakamon 605 11
Pittakamon 605 11
 
บล็อกคืออะไร
บล็อกคืออะไรบล็อกคืออะไร
บล็อกคืออะไร
 
ความรู้เรื่อง BLOG
ความรู้เรื่อง BLOGความรู้เรื่อง BLOG
ความรู้เรื่อง BLOG
 
Worksheet 2 ความรู้เรื่อง blog
Worksheet 2 ความรู้เรื่อง blogWorksheet 2 ความรู้เรื่อง blog
Worksheet 2 ความรู้เรื่อง blog
 
บล็อกคืออะไร
บล็อกคืออะไรบล็อกคืออะไร
บล็อกคืออะไร
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
 
โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์โครงงาน คอมพิวเตอร์
โครงงาน คอมพิวเตอร์
 
Work2
Work2Work2
Work2
 
ใบงานที่ 2-blog (1)
ใบงานที่ 2-blog (1)ใบงานที่ 2-blog (1)
ใบงานที่ 2-blog (1)
 

More from ชัยวัฒน์ จิโน

More from ชัยวัฒน์ จิโน (13)

Project D
Project DProject D
Project D
 
project
projectproject
project
 
Project xx
Project xxProject xx
Project xx
 
แผ่นที่ 5
แผ่นที่ 5แผ่นที่ 5
แผ่นที่ 5
 
แผ่นที่ 4
แผ่นที่ 4แผ่นที่ 4
แผ่นที่ 4
 
แผ่นที่ 6
แผ่นที่ 6แผ่นที่ 6
แผ่นที่ 6
 
แผ่นที่ 3
แผ่นที่ 3แผ่นที่ 3
แผ่นที่ 3
 
แผ่นที่ 2
แผ่นที่ 2แผ่นที่ 2
แผ่นที่ 2
 
แผ่นที่ 1
แผ่นที่ 1แผ่นที่ 1
แผ่นที่ 1
 
พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560
พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560
พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560
 
ประวัติคอม
ประวัติคอมประวัติคอม
ประวัติคอม
 
พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560
พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560
พรบ. คอมพิวเตอร์ 2560
 
ใบงานที่ 1 สำรวจตนเอง
ใบงานที่ 1 สำรวจตนเอง ใบงานที่ 1 สำรวจตนเอง
ใบงานที่ 1 สำรวจตนเอง
 

ความรู้เรื่อง Blog

  • 1. มารู้จักความหมาย ของประโยคคาถาม ที่มักจะมีคนถามผมบ่อย ๆ เวลาไปบรรยายตามที่ต่าง ๆ ว่า “Blog คืออะไร” กัน ดีกว่าครับ Blog มาจากศัพท์คาว่า WeBlog บางคนอ่านคา ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง สองคาบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog) ความหมายของคาว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้อง ถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทาให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของ ตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์ เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่อง ส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาใน ประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็น ต้น จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียน บล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้มีเครื่องมือหรือ ซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น
  • 2. ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึง ระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของ กลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสาคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสานักข่าวชั้นนา จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสานักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ และจากเหตุการณ์เหล่านี้นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เรา สามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สาคัญอย่างแท้จริง สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ที่มา : http://keng.com/2005/09/30/what-is-blog/ ประโยชน์ของบล็อก ผลการศึกษาจากเว็บไซต์ GotoKnow.org ซึ่งเปิดให้บริการบล็อกเพื่อเขียนบันทึก และมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ของกลุ่มคนทางาน จากจานวนสมาชิกที่มากมายทาให้พบว่าบล็อกแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ซึ่งเปิดให้บริการเพื่อเขียนบล็อกเท่านั้น แต่ยัง เป็นคลังซึ่งใช้เก็บประโยชน์ต่างๆ มากมายอีกด้วย คลังประโยชน์ของบล็อก คลังความรู้ มีความรู้มากมายให้ค้นหา ให้อ่านตามความสนใจ คลังมิตรภาพ เกิดการปฏิสัมพันธ์กันทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์จนกลายเป็นมิตรภาพดีๆ คลังแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงความคิดเห็น และต่อยอดความรู้ออกไป คลังแห่งความสุข เป็นที่ระบายความเครียด ช่วยผ่อนคลาย และเพิ่มความสุขในชีวิต คลังข้อมูล ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทางานของสมาชิกที่สาคัญ ช่วยให้เจ้าของข้อมูลสามารถดึงดูดข้อมูลออกมา ใช้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว คลังเพื่อการฝึกฝน เป็นแหล่งฝึกฝนระบบการคิด ทักษะการเขียน และความสามารถด้านถ่ายทอดข้อมูลความรู้ต่างๆ และ ยังเป็นแหล่งฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตได้อย่างดีอีกด้วย
  • 3. คลัง KM ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีผู้เชียวชาญด้านการจัดการความรู้ (KM) มากมาย อีกทั้งสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการ จัดการความรู้ (KM) ได้ง่ายเพียงแค่คลิก คลังประชาสัมพันธ์และกิจกรรมงานบุญ เป็นแหล่งประชาสัมพันธ์กิจกรรมดีๆ เพื่อสร้างสรรค์สังคมมากมาย คลังแห่งองค์กรต่างๆ บางองค์กรเลือกเว็บไซต์ GOtoKnow.org เป็นเครื่องมือเพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างกัน คลังเพื่อนช่วยเพื่อน เมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันทั้งทางออนไลน์ จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน พบว่าเกิดกระบวนการเพื่อน ช่วยเพื่อน ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ช่วยสอนวิธีการใช้งานบล็อก คลังความรู้ฝังลึก อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ที่มี่เป็นคลังความรู้ มีสารประโยชน์ต่างๆ มากมายให้เลือกอ่าน และที่สาคัญ ความรู้ส่วนใหญ่นั้นเป็นความรู้สึกฝังลึกที่ซ่อนอยู่ ในตัวคนทุกคนนั่นเอง ที่นี่จึงกลายเป๋ นคลังความรู้ฝังลึกที่ใหญ่มาก และ ถ้าหากสามารถสกัดความรู้ฝังลึกเหล่านี้ให้กลายเป็นความรู้ชัดแจ้งได้ ที่มี่กลายเป็นคลังแก่นความรู้ได้ต่อไป ทั้ง 11 ข้อ เป็นปะโยชน์ที่เกิดจากการสกัดข้อมูลออกมาจากบันทึกจานวนมาก และแน่นอนว่าประโยชน์ของบล็อก ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ยังมีอีกมากมายหลากหลายข้อ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าสามารถนาบล็อกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากน้อย เพียงใดนั่นเอง ที่มา : http://portal.in.th/blog-km/pages/13338/ KM กับ บล็อก หลายปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของการจัดการความรู้ (KM) ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและ เอกชนต่างก็สนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการและกระบวนการจัดทา KM รวมทั้งเครื่องมืออื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการ จัดการความรู้ เช่น เรื่องเล่าเร้าพลัง สุนทรียสนทนาและอื่นๆ เพื่อให้สามารถนาองค์กรก้าวไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการ เรียนรู้ นอกจากนี้หลายองค์กรจะได้รับคาแนะนาให้ใช้บล็อกเป็นเครื่องมือเพื่อนาองค์กรสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ อย่างที่กล่าวไว้ แต่ก็มักจะมีคาถามอยู่เสมอว่า จริงๆ แล้วบล็อกสามารถนาไปจัดการความรู้ได้จริงหรือไม่ บล็อกช่วย พัฒนางาน พัฒนาองค์กรได้อย่างไร และที่ผ่านมายังไม่เคยมีคาตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจนสักครั้ง บทนี้จะเป็นการนาเสนอเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการความรู้ หรื KM กับบล็อก ว่าทั้งสองอย่างนั้น เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันอย่างไร ก่อนเปิดอ่านบทต่อไปขอเครียมความพร้อมอีกสักนิดด้วยการให้ผู้อ่านจินตนาการว่า เว็บไซต์ GotoKnow.org เปรียบได้กับองค์กร หรือ หน่วยงานที่ผู้อ่านได้ทางานอยู่ร่วมกัน บล็อกเกอร์ทุกๆ ท่าน ในเว็บไซต์แห่งนี้เปรียบได้กับคนทางานในหน่วยงานเดียวกัน เป็นเพื่อร่วมงานที่ต้องพบเจอกันทุกวัน อาจจะเคยพูดคุยกันเป็นประจา ปรึกษาหารือ และแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ มากมาย หรืออาจจะไม่พูดคุยกันเลย หรืออาจจะ เพียงแค่ทักทายกันบ้างเป็นบางครั้ง หรืออาจจะเป็นเพียงแค่เห็นหน้า หรือบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักกันเลย
  • 4. หากผู้อ่านท่านใดเคยทากิจกรรมสุนทรียสนทนา กิจกรรมเรื่องเล่าเร้าพลัง หรือกิจกรรม AAR มาบ้างแล้ว ให้จินตนาการ ต่อไปว่วันนี้ท่านได้เฟลี่ยนกิจกรรมเหล่านั้นจากการทาในลักษณะ face to face ที่ได้เจอตัวจริงของผู้เข้าร่วมกิจกรรม มา เป็นการทากิจกรรมเดียวกันแต่ทาผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผ่านเครื่องมือสื่อสารที่เรียกว่าบล็อก ผ่านการถ่ายทอดเป็น หนังสือแทนคาพูด เมื่อจินตนาการมาถึงตรงนี้ขอให้ผู้อ่านจดจาจิตนาการเหล่านี้ไว้ เพื่อนาไปใช้ยังการอ่านบทต่อไป แต่สาหรับผู้อ่าน ท่านใดที่ยังไม่เคยทากิจกรรมที่กล่าวมาเลยก็ไม่เป็นไร เพราะสามารถเริ่มเรียนรู้และจินตนาการตามไปพร้อมๆ กันได้ เมื่อพร้อมแล้วอย่ารอช้าขอเชิญก้าวสู่โลกของการจัดการความรู้ผ่านบล็อกในบทต่อไปของหนังสือ บล็อก:เครื่องมือ เพื่อการจัดการความรู้ ที่มา : http://portal.in.th/blog-km/pages/keyword/blog/