SlideShare a Scribd company logo
1 of 28
การนาเสนอ
วัตถุประสงค์ในการนาเสนอ
ผู้ฟัง
ผู้นาเสนอ
ข้อมูลที่ใช้ในการนาเสนอ
กระบวนการในการนาเสนอ
หลักการนาเสนอที่ดี
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน
อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนองานมีอะไรบ้างพร้อมบอกหน้าที่
ซอฟแวร์ที่ใช้ในการนาเสนองานมีอะไรบ้างพร้อมทั้งบอกลักษณะ
เมนู
เป็นวิธีการหรือเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร (Communication) ด้วยการ
ถ่ายทอด(Delivery) ข้อมูล แผนงาน โครงการ ข้อเสนอ ฯลฯ จากผู้นาเสนอผลงาน
กับผู้พิจารณาผลงานหรือจากผู้นาเสนอ ไปสู่บุคคล กลุ่มเป้ าหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจ
ร่วมกัน ให้บุคคลกลุ่มเป้ าหมายหรือผู้รับสาร เห็นด้วย คล้อยตาม สนับสนุน อนุมัติ ให้
ดาเนินการ
การนาเสนออาจมีความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจหลายอย่างเพื่อให้เกิดความ
เข้าใจ เพื่อโน้นน้าวใจ เพื่อให้พิจารณาผลงาน เพื่อให้เห็นด้วย ให้การสนับสนุน หรือ
อนุมัติ
การพูดให้ประสบความสาเร็จและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ฟังได้นั้น ผู้พูดต้องทาหาร
วิเคราะห์เสียก่อน เนื่องจากผู้ฟังนั้น ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบ ที่สาคัญมากประการหนึ่ง
ที่จะทาให้การพูดบรรลุผล สมตามจุดมุ่งหมายที่ ผู้พูดวางไว้ ผู้พูดที่ดีจึงต้องให้ความสนใจ
และปรับการพูดให้เข้ากับผู้ฟัง ที่ประกอบด้วย บุคคลต่างเพศ ต่างวัย ต่างประสบการณ์
ซึ่งก็ย่อมมีความรู้สึกนึกคิด ความสนใจ รสนิยม หรือทัศนคติที่แตกต่างออกไป ซึ่งวิธีที่ดี
ที่สุด ที่ผู้พูดพึงกระทาก็คือ พยายามวิเคราะห์ผู้ฟังให้ดีว่า อยู่ในลักษณะใดบ้าง แล้วมี
ความชอบอย่างไร สนใจอย่างไร ฯลฯ เพื่อทาความรู้จักและทาความเข้าใจกับกลุ่มผู้ฟังไว้
ล่วงหน้า เพื่อจะได้พูดได้ถูกต้องและ สามารถวางรากฐาน ในการเตรียมการพูด การใช้
ถ้อยคา วิธีอธิบาย การยกตัวอย่าง ตลอดจน การเสนอความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ ต่อ
ผู้ฟังให้ได้มากและดีที่สุด นักปราชญ์ทางวาทศาสตร์ในยุคโบราณ เช่น อริสโตเติล ก็ใช้การ
วิเคราะห์ผู้ฟังเป็นหลัก ในการสร้างความสาเร็จ
ในการนาเสนอด้วยวาจา คุณสมบัติอันเป็นลักษณะประจาตัวของผู้นาเสนอ ถือได้ว่าเป็น
ส่วนสาคัญของความสาเร็จในการนาเสนอ เพราะคุณสมบัติของผู้นาเสนอจะมีอิทธิพลต่อ
การโน้นน้าวชักจูงให้เกิดความสนใจ ความไว้วางใจ เชื่อถือ และการยอมรับได้
มาก เท่ากับหรือมากกว่าเนื้อหาที่นาเสนอ
การนาเสนอข้อมูล หรือรายงานการค้นคว้า คือ การเรียบเรียงความรู้ความคิดของ
ผู้รายงาน โดยใช้เอกสารอ้างอิงต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ โดยลาดับเนื้อเรื่องของรายงาน
ให้สัมพันธ์กัน
 การนาเสนองาน เป็นการทางานที่เป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ซึ่ง
ประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
 1. ทำควำมเข้ำใจเกี่ยวกับประเด็นหรือเรื่องรำวที่จะนำเสนอ
การนาเสนอที่ดีควรดาเนินไปตามจุดมุ่งหมายที่ได้วางไว้ การจะเสนอเรื่องราว
หรือผลงานควรได้ทาความเข้าใจประเด็นของเรื่องราวที่ต้องการนาเสนอว่าจะนาเสนออะไร
ในลักษณะใดและต้องการผลอย่างไร ถ้ามีความชัดเจนในประเด็นย่อมจะนาเสนอได้ดี ได้ผล
ตามที่ตั้งเป้ าประสงค์ไว้ในตอนแรก
 2. กำรเตรียมและรวบรวมข้อมูล
เป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องจากการทาความเข้าใจในประเด็นและเรื่องราวที่จะนาเสนอ
เพื่อให้การนาเสนอมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปที่มีการนาเสนอ เช่น การอภิปราย
ในที่ประชุมรัฐสภามีการใช้แผนภูมิ ใช้เทปบันทึกเสียง ในการนาเสนอเพื่อขอรับทุน ขอเป็น
เจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬา ต้องเตรียมสื่อประกอบเพื่อให้ผู้ฟังสามารถเห็นด้วยและ
คล้อยตามอันจะนาไปสู่การพิจารณาเรื่องที่เราจะขออนุมัติ
 3. กำรจัดทำสื่อเพื่อนำเสนอ
โดยทั่วไปการนาเสนอนิยมจัดทาด้วยโปรแกรม Microsoft Power Point ซึ่งเดิม
ทีเดียวนั้นใช้เพียงการพูด การใช้แผ่นใสประกอบ สื่อในการนาเสนอสามารถจัดทาได้มากมายขึ้นอยู่
กับความเหมาะสมของเรื่องราว ระยะเวลา สถานที่ และโอกาสของการนาเสนอ กลุ่มเป้ าหมายหรือ
ผู้ฟัง ผู้ชม ก็เป็นองค์ประกอบที่สาคัญอย่างหนึ่งในการจัดทาสื่อ โดยภาพรวมแล้วการจัดทาสื่อควร
พิจารณาว่าทาอะไร ทาอย่างไร ผู้รับชมเป็นใครและคาดหวังผลอย่างไร
 4. กำรตรวจสอบและฝึ กซ้อมกำรนำเสนอ
ในกระบวนการนาเสนอ เมื่อมีการวางแผน เตรียมการจัดทาสื่อแล้ว ควรตรวจดู ความ
ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไข มีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ ให้คาแนะนาปรึกษา จากนั้นทดลองใช้หรือทดลอง
การนาเสนอ จับเวลา เพื่อให้เกิดความพอดี หรือป้ องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า
 5. ขั้นกำรนำเสนอ
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่มีความสาคัญมาก เพราะความสาเร็จมีมากน้อยเพียงใด หรืออาจจะ
เกิดความผิดพลาด ล้มเหลว จากการที่ได้ตระเตรียมทั้งหมด
 1. ความเรียบง่าย: จัดทาสไลด์ให้ดูเรียบง่ายที่สุดเท่าที่ทาได้ เช่น ใช้สีอ่อนเป็นพื้น
หลังเพื่อไม่รบกวนสายตาในการอ่าน และสามารถเห็นเนื้อหาได้อย่างชัดเจน หรือใช้
พื้นหลังตามลักษณะเนื้อหา
 2. มีความคงตัว (Consistent): เป็น สิ่งสาคัญที่สุดในการนาเสนอสไลด์ซึ่ง
เป็นเนื้อหาในเรื่องเดียวกัน คือ ต้องมีความคงตัวในการออกแบบสไลด์ ซึ่งหมายถึง
ต้องใช้รูปแบบสไลด์เดียวกันทุกแผ่นที่เกี่ยวกับเนื้อหานั้น โดยไม่จาเป็นต้องเปลี่ยนสี
พื้นหลัง หรือขนาดและแบบตัวอักษร แต่หากต้องการเน้นจุดสาคัญ หรือเป็นเนื้อหา
ย่อยออกไปจะสามารถเปลี่ยนบางสิ่ง เช่น สีตัวอักษรในสไลด์ให้ดูแตกต่างไปได้บ้าง
หรืออาจมีการเปลี่ยนสีพื้นหลังให้แตกต่างจากเนื้อหาสักเล็กน้อยก็อาจทาได้ เช่นกัน
 การนาเสนองาน เป็นการสื่อสารเพื่อนาเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น ความ
ต้องการไปยังผู้ฟังหรือผู้รับสาร โดยใช้วิธีการ เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ผู้รับสารเกิด
ความเข้าใจตามเจตนาหรือวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสาร (ผู้นาเสนอ) และเนื่องจากใน
ปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีความเจริญก้าวหน้า ทาให้รูปแบบการนาเสนองาน
ในปัจจุบันมีความแตกต่างจากสมัยก่อน ผู้นาเสนองานจึงต้องเลือกรูปแบบการ
นาเสนอ เลือกประเภทของซอฟต์แวร์เพื่อสร้างงานนาเสนอ รวมทั้งเลือกใช้เครื่องมือ
อุปกรณ์ช่วยในการนาเสนอ ปฏิบัติตามกระบวนการนาเสนอ อันประกอบด้วย 1)
ทาความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นหรือเรื่องราวที่จะนาเสนอ 2) การเตรียมและ
รวบรวมข้อมูล 3) การจัดทาสื่อเพื่อนาเสนอ 4) การตรวจสอบและฝึกซ้อมการ
นาเสนอ 5) การนาเสนอ เพื่อนาไปสู่การนาเสนอที่ประสบความสาเร็จ
 อุปกรณ์ดิจิตัลที่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงในงานนาเสนอเพื่อให้งานนาเสนอมี
คุณภาพเข้าถึงผู้ชมและผู้ฟัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
 1. เครื่องเสียงและเครื่องขยำยเสียง
ใช้ในการบันทึกเสียงหรือกระจายเสียง ในการนาเสนอรูปแบบของการ
บรรยายเพื่อให้ผู้รับฟังได้ยินเสียงผู้บรรยายชัดเจนและน่าสนใจ
 2. เครื่องคอมพิวเตอร์
จัดเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ซึ่งสามารถนามาใช้ใน
การนาเสนอได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพสูง สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้
หลายรูปแบบ คอมพิวเตอร์จึงสามารถนาเสนอข้อมูลได้ทุกรูปแบบอย่างมี
ประสิทธิภาพ โดยการใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผล และนาเสนอผ่านอุปกรณ์
แสดงผลและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ
 3. โปรเจ็คเตอร์(Projector)
Projector เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนาเสนอ โดยสามารถรองรับ
สัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องกาเนิด
ภาพอื่น ๆ แล้วแสดงผล ขยายขนาดบนจอรับภาพ ช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น เหมาะ
สาหรับการนาเสนอข้อมูลในห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าประชุมมองเห็นภาพหรือ
ข้อความได้อย่างชัดเจน
 4. วิชวลไลเซอร์ (Visualizer)
เป็นอุปกรณ์ฉายภาพระบบดิจิตอลประเภทหนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากโอเวอร์เฮด
หรือเครื่องฉายข้ามศีรษะ ใช้แสดงภาพวัตถุและเอกสารสู่จอรับภาพที่มีอยู่จริงได้เลย
โดยไม่ต้องดัดแปลง อุปกรณ์นี้เหมาะสาหรับใช้ในการนาเสนองานต่าง ๆ โดยเฉพาะ
ครู อาจารย์ นักขาย ใช้ในการนาเสนอภาพนิ่งได้ดีกว่าภาพเคลื่อนไหว แต่ภาพที่
แสดงออกมานั้นมีความคมชัด มีสีสันที่สดใส และมีโหมดของการแสดงภาพให้ปรับ
การทางานด้วย การควบคุมการทางานทาได้โดยใช้รีโมต
 5. เครื่องพิมพ์
เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์สามารถพิมพ์ได้ทั้งสี และขาวดา สามารถ
พิมพ์ข้อความและรูปภาพได้ โดยผ่านทางโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 6. กล่องถ่ำยรูปดิจิตัล (Digital Camera)
เป็นอุปกรณ์รับภาพที่เปลี่ยนจากฟิล์มมาเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อ
ถ่ายรูปที่ต้องการแล้ว รูปจะถูกเก็บลงในหน่วยความจา (Memory) ที่อยู่ใน
กล้อง เมื่อต้องการดูรูปทาได้โดยการถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจาลงบน
เครื่องพิมพ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาพที่ได้จะมีขนาดตามที่ต้องการ สามารถย่อ
หรือขยาย ปรับแสงหรือเงาแล้วแต่ความพอใจหรือเพิ่มรูปแบบก็สามารถทาได้ และ
เมื่อจะถ่ายใหม่ก็สามารถใช้หน่วยความจาเดิมได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อฟิล์ม
 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software) หมายถึง โปรแกรมที่
ทาให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานเฉพาะอย่างตามความต้องการของผู้ใช้ ซอฟต์แวร์
ประยุกต์ที่ได้รับความนิยม เช่น โปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมคานวณ
โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล โปรแกรมค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่ง
ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ซอฟต์แวร์ประยุกต์
เฉพาะงาน และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป
 3.1 ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพำะงำน
ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพำะงำน (Application Software for
Specific Surpose) เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้น เพื่อนาไปประยุกต์ใช้กับ
งานขององค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะ ออกแบบและสร้างขึ้นโดยผู้ผลิตซอฟต์แวร์
ที่มีความชานาญงานในด้านนั้น หรือพัฒนาโดยบุคลากรฝ่ายคอมพิวเตอร์ของ
องค์กรนี้ก็ได้ โดยผ่านการวิเคราะห์ ออกแบบ ลงมือสร้าง และทดสอบโปรแกรมให้
สามารถทางานได้ถูกต้องก่อน จึงจะสามารถนามาใช้งานได้ เช่น โปรแกรมคานวณ
ภาษีของกรมศุลกากร โปรแกรมฝากถอนเงินของธนาคาร โปรแกรมระบบสินค้า
ของห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
 3.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป (General Purpose
Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนาไปประยุกต์ใช้กับงานให้เหมาะสม
กับลักษณะงานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เช่น การจัดพิมพ์รายงาน การนาเสนองาน
การจัดทาบัญชี การตกแต่งภาพ การออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์
ทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท ดังต่อไปนี้
 1) ซอฟต์แวร์จัดกำรฐำนข้อมูล (Database Management Software) คอมพิวเตอร์
สามารถใช้จัดเก็บข้อมูลและจัดการกับข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลที่
สัมพันธ์กันไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า ฐานข้อมูล (Database) ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลเป็น
โปรแกรมที่ทาหน้าที่สร้างฐานข้อมูลและจัดการกับข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการข้อมูลได้อย่าง
รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียกค้นข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล การเพิ่มข้อมูล และการลบข้อมูล ซอฟต์แวร์
จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น Dbase , Paradox , Foxbase , Microsoft Access
เป็นต้น โปรแกรมที่จัดการฐานข้อมูล จะเก็บข้อมูลในรูปแบบของตารางที่มีความสัมพันธ์กันแต่ละตารางจะ
ประกอบด้วยแถวที่เรียกว่า ระเบียน หรือ เรคคอร์ด (Record) และคอลัมน์ที่เรียกว่า ฟิลด์ (Field) แต่
ละเรคคอร์ดจะประกอบด้วยฟิลด์ของข้อมูลที่ต้องการเก็บ เช่น ฐานข้อมูลโรงเรียน จะมีการจัดเก็บประวัติ
นักเรียน ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดของข้อมูล ได้แก่ เลขประจาตัว ชื่อ นามสกุล วันเกิด เพศ ที่อยู่ และ
เบอร์โทรศัพท์
 2) ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Word Processing
Software) เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้ในการสร้าง แก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และ
จัดการรูปแบบเอกสาร ทาให้เอกสารมีรูปแบบที่สวยงาม น่าสนใจ ซึ่งเอกสารที่ผู้ใช้
พิมพ์ไว้จะถูกจัดเป็นแฟ้ มข้อมูล (File) สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้และสั่งพิมพ์ทาง
เครื่องพิมพ์ได้ด้วย ซอฟต์แวร์ประมวลผลคาที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Office
Word , Adobe Indesign , CorelDraw , WordPerfect ,
OpenOffice , Pladao Office เป็นต้น
 3) ซอฟต์แวร์ทำกำรคำนวณ (Caculation Software) เป็น
ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคานวณ การทางานของซอฟต์แวร์ใช้หลักการเสมือนมีโต๊ะ
ทางาน ที่มีกระดาษขนาดใหญ่วางไว้ มีเครื่องมือคล้ายปากกา ยางลบ และเครื่อง
คานวณเตรียมไว้ให้เสร็จ บนกระดาษมีช่องให้ใส่ตัวเลข ข้อความหรือสูตร สามารถ
สั่งให้คานวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่กาหนด นอกจานี้ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างกราฟ
เพื่อนาเสนอได้อย่างง่ายดาย ซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Office
Excel , OpenOffice Cale ในโปรแกรมชุด Pladao Office เป็น
ต้น
 4) ซอฟต์แวร์นำเสนอข้อมูล (Presentation Software) เป็น
โปรแกรมที่ใช้ในการนาเสนอข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ สร้างเอกสารที่ประกอบด้วย
ตัวอักษร รูปภาพ แผนผัง ภาพเคลื่อนไหว นิยมใช้ในการนาเสนอข้อมูลในการ
บรรยายในชั้นเรียนหรือการประชุม ซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft
Office PowerPoint , OpenOffice Impress , Pladao
Office เป็นต้น
 5) ซอฟต์แวร์ทำงด้ำนกรำฟฟิ กและมัลติมีเดีย (Graphics and
Multimedia Software) เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยทางานด้าน
กราฟฟิกและมัลติมีเดีย เช่น ตกแต่งภาพ วาดรูป ปรับเสียง ตัดต่อภาพเคลื่อนไหว
สร้างสรรค์งานสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงการสร้างและออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ให้มีรูปแบบ
สวยงาม ทันสมัย เหมาะสมกับสื่อแต่ละประเภท เป็นโปรแกรมที่ง่ายต่อการศึกษา
เรียนรู้ด้วยตัวเอง มีลูกเล่นหลากหลาย สามารถสั่งงานตามความต้องการได้ง่าย
ซึ่งถือเป็นโปรแกรมหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานทุกระดับ
 6) ซอฟต์แวร์กำรใช้งำนบนเว็บไซต์และกำรติดต่อสื่อสำร (Web Site
and Communications Software) เป็นโปรแกรมที่พัฒนาเพื่อ
การติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งการเติบโตของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ทาให้มีผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้งานเฉพาะอย่างเพิ่มขึ้น เช่น โปรแกรมสาหรับ
ตรวจสอบอีเมล การท่องเว็บไซต์ การจัดการและดูแลเว็บไซต์ การส่งข้อความ
รวมถึงการประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย เป็นต้น
http://www.bangkapi.ac.th/MediaOnLine/weerawanWMD/unit6
_part15.htm
http://www.stat.rmutt.ac.th/wordpress/?p=41
http://www.bangkapi.ac.th/MediaOnLine/weerawanWMD/unit6
_part15.htm
1.ชื่อด.ช.รัชพล คชรินทร์ ชั้น ม.3/4 เลขที่4
2.ชื่อด.ช.ธนภัทร แสงเจริญโรจน์ ชั้น ม.3/4 เลขที่4

More Related Content

Viewers also liked

Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1petya17
 
FOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSAS
FOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSASFOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSAS
FOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSASGuilherme Müller
 
Question 3
Question 3Question 3
Question 3petya17
 
Presentation - 1
Presentation - 1Presentation - 1
Presentation - 1petya17
 
An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...
An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...
An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...Loven Felix Opiana
 
Evaluating the rough cut
Evaluating the rough cutEvaluating the rough cut
Evaluating the rough cutpetya17
 
2015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November2015
2015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November20152015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November2015
2015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November2015Leah Taylor
 
Analysing digipaks
Analysing digipaksAnalysing digipaks
Analysing digipakspetya17
 
Local-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-Moulding
Local-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-MouldingLocal-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-Moulding
Local-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-MouldingGEORGE PITSILIS
 
Technology skills powerpoint petya
Technology skills powerpoint   petyaTechnology skills powerpoint   petya
Technology skills powerpoint petyapetya17
 
William Shakespeare - ppt
William Shakespeare - ppt  William Shakespeare - ppt
William Shakespeare - ppt Ahmed Hesham
 
Arman Celis (Airport Project Portfolio)
Arman Celis (Airport Project Portfolio)Arman Celis (Airport Project Portfolio)
Arman Celis (Airport Project Portfolio)Arman Celis
 
Question 3
Question 3Question 3
Question 3petya17
 
Photo albumrrr
Photo albumrrrPhoto albumrrr
Photo albumrrrpetya17
 

Viewers also liked (20)

Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
FOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSAS
FOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSASFOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSAS
FOTO PUBLICITÁRIA - CATÁLOGO DE MASSAS
 
Question 3
Question 3Question 3
Question 3
 
Presentation - 1
Presentation - 1Presentation - 1
Presentation - 1
 
Teste de slide
Teste de slideTeste de slide
Teste de slide
 
An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...
An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...
An-Indelible-Nexus-between-Philippine-China-Relations-Reminiscing-the-World-A...
 
Evaluating the rough cut
Evaluating the rough cutEvaluating the rough cut
Evaluating the rough cut
 
army cert austin
army cert austinarmy cert austin
army cert austin
 
2015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November2015
2015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November20152015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November2015
2015 U.S. Dairy Nutrition and Management-FINAL-3November2015
 
Mcb
McbMcb
Mcb
 
Analysing digipaks
Analysing digipaksAnalysing digipaks
Analysing digipaks
 
Local-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-Moulding
Local-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-MouldingLocal-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-Moulding
Local-Temperature-and-Flatness-Error-in-the-Process-of-Injection-Moulding
 
Technology skills powerpoint petya
Technology skills powerpoint   petyaTechnology skills powerpoint   petya
Technology skills powerpoint petya
 
William Shakespeare - ppt
William Shakespeare - ppt  William Shakespeare - ppt
William Shakespeare - ppt
 
SUSTAINABILITY Presentation
SUSTAINABILITY PresentationSUSTAINABILITY Presentation
SUSTAINABILITY Presentation
 
Arman Celis (Airport Project Portfolio)
Arman Celis (Airport Project Portfolio)Arman Celis (Airport Project Portfolio)
Arman Celis (Airport Project Portfolio)
 
What is Evaluation forms?
What is Evaluation forms?What is Evaluation forms?
What is Evaluation forms?
 
Tendencia en la asistencia y cuidado holistico
Tendencia en la asistencia y cuidado holisticoTendencia en la asistencia y cuidado holistico
Tendencia en la asistencia y cuidado holistico
 
Question 3
Question 3Question 3
Question 3
 
Photo albumrrr
Photo albumrrrPhoto albumrrr
Photo albumrrr
 

Similar to Work1m34 4-15

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานNuttanun Wisetsumon
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอNorthSamed
 
Work1m34 34-47
Work1m34 34-47Work1m34 34-47
Work1m34 34-47marootkwa
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศYongyut Nintakan
 
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอM.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอchaya fam
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศYongyut Nintakan
 
การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองานtanachot1898
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศEveEim Elf
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานtanachot1898
 
work1m32-3842
work1m32-3842work1m32-3842
work1m32-3842march0123
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองานPaloy Jiraphong
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศYongyut Nintakan
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานYanisa Tean
 
2 multimedia property
2 multimedia property2 multimedia property
2 multimedia propertyApida Runvat
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศPungka' Oil
 

Similar to Work1m34 4-15 (20)

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ
 
Work1m34 34-47
Work1m34 34-47Work1m34 34-47
Work1m34 34-47
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
 
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอM.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
M.3/4 NO.25,26 การนำเสนอ
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสานเทศ
 
คอม2
คอม2คอม2
คอม2
 
การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนองาน
 
Work1m32 33-37
Work1m32 33-37Work1m32 33-37
Work1m32 33-37
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
Work1m32 12-18-1
Work1m32 12-18-1Work1m32 12-18-1
Work1m32 12-18-1
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
 
Work1m34 37-38
Work1m34 37-38Work1m34 37-38
Work1m34 37-38
 
work1m32-3842
work1m32-3842work1m32-3842
work1m32-3842
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองาน
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
 
2 multimedia property
2 multimedia property2 multimedia property
2 multimedia property
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
Work1m34 37-38
Work1m34 37-38Work1m34 37-38
Work1m34 37-38
 

Work1m34 4-15

  • 1.
  • 3. เป็นวิธีการหรือเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร (Communication) ด้วยการ ถ่ายทอด(Delivery) ข้อมูล แผนงาน โครงการ ข้อเสนอ ฯลฯ จากผู้นาเสนอผลงาน กับผู้พิจารณาผลงานหรือจากผู้นาเสนอ ไปสู่บุคคล กลุ่มเป้ าหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจ ร่วมกัน ให้บุคคลกลุ่มเป้ าหมายหรือผู้รับสาร เห็นด้วย คล้อยตาม สนับสนุน อนุมัติ ให้ ดาเนินการ
  • 5. การพูดให้ประสบความสาเร็จและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ฟังได้นั้น ผู้พูดต้องทาหาร วิเคราะห์เสียก่อน เนื่องจากผู้ฟังนั้น ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบ ที่สาคัญมากประการหนึ่ง ที่จะทาให้การพูดบรรลุผล สมตามจุดมุ่งหมายที่ ผู้พูดวางไว้ ผู้พูดที่ดีจึงต้องให้ความสนใจ และปรับการพูดให้เข้ากับผู้ฟัง ที่ประกอบด้วย บุคคลต่างเพศ ต่างวัย ต่างประสบการณ์ ซึ่งก็ย่อมมีความรู้สึกนึกคิด ความสนใจ รสนิยม หรือทัศนคติที่แตกต่างออกไป ซึ่งวิธีที่ดี ที่สุด ที่ผู้พูดพึงกระทาก็คือ พยายามวิเคราะห์ผู้ฟังให้ดีว่า อยู่ในลักษณะใดบ้าง แล้วมี ความชอบอย่างไร สนใจอย่างไร ฯลฯ เพื่อทาความรู้จักและทาความเข้าใจกับกลุ่มผู้ฟังไว้ ล่วงหน้า เพื่อจะได้พูดได้ถูกต้องและ สามารถวางรากฐาน ในการเตรียมการพูด การใช้ ถ้อยคา วิธีอธิบาย การยกตัวอย่าง ตลอดจน การเสนอความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ ต่อ ผู้ฟังให้ได้มากและดีที่สุด นักปราชญ์ทางวาทศาสตร์ในยุคโบราณ เช่น อริสโตเติล ก็ใช้การ วิเคราะห์ผู้ฟังเป็นหลัก ในการสร้างความสาเร็จ
  • 6. ในการนาเสนอด้วยวาจา คุณสมบัติอันเป็นลักษณะประจาตัวของผู้นาเสนอ ถือได้ว่าเป็น ส่วนสาคัญของความสาเร็จในการนาเสนอ เพราะคุณสมบัติของผู้นาเสนอจะมีอิทธิพลต่อ การโน้นน้าวชักจูงให้เกิดความสนใจ ความไว้วางใจ เชื่อถือ และการยอมรับได้ มาก เท่ากับหรือมากกว่าเนื้อหาที่นาเสนอ
  • 7. การนาเสนอข้อมูล หรือรายงานการค้นคว้า คือ การเรียบเรียงความรู้ความคิดของ ผู้รายงาน โดยใช้เอกสารอ้างอิงต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ โดยลาดับเนื้อเรื่องของรายงาน ให้สัมพันธ์กัน
  • 8.  การนาเสนองาน เป็นการทางานที่เป็นระบบ สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ซึ่ง ประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้  1. ทำควำมเข้ำใจเกี่ยวกับประเด็นหรือเรื่องรำวที่จะนำเสนอ การนาเสนอที่ดีควรดาเนินไปตามจุดมุ่งหมายที่ได้วางไว้ การจะเสนอเรื่องราว หรือผลงานควรได้ทาความเข้าใจประเด็นของเรื่องราวที่ต้องการนาเสนอว่าจะนาเสนออะไร ในลักษณะใดและต้องการผลอย่างไร ถ้ามีความชัดเจนในประเด็นย่อมจะนาเสนอได้ดี ได้ผล ตามที่ตั้งเป้ าประสงค์ไว้ในตอนแรก  2. กำรเตรียมและรวบรวมข้อมูล เป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องจากการทาความเข้าใจในประเด็นและเรื่องราวที่จะนาเสนอ เพื่อให้การนาเสนอมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปที่มีการนาเสนอ เช่น การอภิปราย ในที่ประชุมรัฐสภามีการใช้แผนภูมิ ใช้เทปบันทึกเสียง ในการนาเสนอเพื่อขอรับทุน ขอเป็น เจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬา ต้องเตรียมสื่อประกอบเพื่อให้ผู้ฟังสามารถเห็นด้วยและ คล้อยตามอันจะนาไปสู่การพิจารณาเรื่องที่เราจะขออนุมัติ
  • 9.  3. กำรจัดทำสื่อเพื่อนำเสนอ โดยทั่วไปการนาเสนอนิยมจัดทาด้วยโปรแกรม Microsoft Power Point ซึ่งเดิม ทีเดียวนั้นใช้เพียงการพูด การใช้แผ่นใสประกอบ สื่อในการนาเสนอสามารถจัดทาได้มากมายขึ้นอยู่ กับความเหมาะสมของเรื่องราว ระยะเวลา สถานที่ และโอกาสของการนาเสนอ กลุ่มเป้ าหมายหรือ ผู้ฟัง ผู้ชม ก็เป็นองค์ประกอบที่สาคัญอย่างหนึ่งในการจัดทาสื่อ โดยภาพรวมแล้วการจัดทาสื่อควร พิจารณาว่าทาอะไร ทาอย่างไร ผู้รับชมเป็นใครและคาดหวังผลอย่างไร  4. กำรตรวจสอบและฝึ กซ้อมกำรนำเสนอ ในกระบวนการนาเสนอ เมื่อมีการวางแผน เตรียมการจัดทาสื่อแล้ว ควรตรวจดู ความ ถูกต้อง มีการปรับปรุง แก้ไข มีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ ให้คาแนะนาปรึกษา จากนั้นทดลองใช้หรือทดลอง การนาเสนอ จับเวลา เพื่อให้เกิดความพอดี หรือป้ องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้า  5. ขั้นกำรนำเสนอ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่มีความสาคัญมาก เพราะความสาเร็จมีมากน้อยเพียงใด หรืออาจจะ เกิดความผิดพลาด ล้มเหลว จากการที่ได้ตระเตรียมทั้งหมด
  • 10.  1. ความเรียบง่าย: จัดทาสไลด์ให้ดูเรียบง่ายที่สุดเท่าที่ทาได้ เช่น ใช้สีอ่อนเป็นพื้น หลังเพื่อไม่รบกวนสายตาในการอ่าน และสามารถเห็นเนื้อหาได้อย่างชัดเจน หรือใช้ พื้นหลังตามลักษณะเนื้อหา  2. มีความคงตัว (Consistent): เป็น สิ่งสาคัญที่สุดในการนาเสนอสไลด์ซึ่ง เป็นเนื้อหาในเรื่องเดียวกัน คือ ต้องมีความคงตัวในการออกแบบสไลด์ ซึ่งหมายถึง ต้องใช้รูปแบบสไลด์เดียวกันทุกแผ่นที่เกี่ยวกับเนื้อหานั้น โดยไม่จาเป็นต้องเปลี่ยนสี พื้นหลัง หรือขนาดและแบบตัวอักษร แต่หากต้องการเน้นจุดสาคัญ หรือเป็นเนื้อหา ย่อยออกไปจะสามารถเปลี่ยนบางสิ่ง เช่น สีตัวอักษรในสไลด์ให้ดูแตกต่างไปได้บ้าง หรืออาจมีการเปลี่ยนสีพื้นหลังให้แตกต่างจากเนื้อหาสักเล็กน้อยก็อาจทาได้ เช่นกัน
  • 11.  การนาเสนองาน เป็นการสื่อสารเพื่อนาเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น ความ ต้องการไปยังผู้ฟังหรือผู้รับสาร โดยใช้วิธีการ เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ผู้รับสารเกิด ความเข้าใจตามเจตนาหรือวัตถุประสงค์ของผู้ส่งสาร (ผู้นาเสนอ) และเนื่องจากใน ปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีความเจริญก้าวหน้า ทาให้รูปแบบการนาเสนองาน ในปัจจุบันมีความแตกต่างจากสมัยก่อน ผู้นาเสนองานจึงต้องเลือกรูปแบบการ นาเสนอ เลือกประเภทของซอฟต์แวร์เพื่อสร้างงานนาเสนอ รวมทั้งเลือกใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยในการนาเสนอ ปฏิบัติตามกระบวนการนาเสนอ อันประกอบด้วย 1) ทาความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นหรือเรื่องราวที่จะนาเสนอ 2) การเตรียมและ รวบรวมข้อมูล 3) การจัดทาสื่อเพื่อนาเสนอ 4) การตรวจสอบและฝึกซ้อมการ นาเสนอ 5) การนาเสนอ เพื่อนาไปสู่การนาเสนอที่ประสบความสาเร็จ
  • 12.  อุปกรณ์ดิจิตัลที่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงในงานนาเสนอเพื่อให้งานนาเสนอมี คุณภาพเข้าถึงผู้ชมและผู้ฟัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้  1. เครื่องเสียงและเครื่องขยำยเสียง ใช้ในการบันทึกเสียงหรือกระจายเสียง ในการนาเสนอรูปแบบของการ บรรยายเพื่อให้ผู้รับฟังได้ยินเสียงผู้บรรยายชัดเจนและน่าสนใจ
  • 13.  2. เครื่องคอมพิวเตอร์ จัดเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ซึ่งสามารถนามาใช้ใน การนาเสนอได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพสูง สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ หลายรูปแบบ คอมพิวเตอร์จึงสามารถนาเสนอข้อมูลได้ทุกรูปแบบอย่างมี ประสิทธิภาพ โดยการใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผล และนาเสนอผ่านอุปกรณ์ แสดงผลและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ
  • 14.  3. โปรเจ็คเตอร์(Projector) Projector เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนาเสนอ โดยสามารถรองรับ สัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องกาเนิด ภาพอื่น ๆ แล้วแสดงผล ขยายขนาดบนจอรับภาพ ช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น เหมาะ สาหรับการนาเสนอข้อมูลในห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าประชุมมองเห็นภาพหรือ ข้อความได้อย่างชัดเจน
  • 15.  4. วิชวลไลเซอร์ (Visualizer) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพระบบดิจิตอลประเภทหนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากโอเวอร์เฮด หรือเครื่องฉายข้ามศีรษะ ใช้แสดงภาพวัตถุและเอกสารสู่จอรับภาพที่มีอยู่จริงได้เลย โดยไม่ต้องดัดแปลง อุปกรณ์นี้เหมาะสาหรับใช้ในการนาเสนองานต่าง ๆ โดยเฉพาะ ครู อาจารย์ นักขาย ใช้ในการนาเสนอภาพนิ่งได้ดีกว่าภาพเคลื่อนไหว แต่ภาพที่ แสดงออกมานั้นมีความคมชัด มีสีสันที่สดใส และมีโหมดของการแสดงภาพให้ปรับ การทางานด้วย การควบคุมการทางานทาได้โดยใช้รีโมต
  • 16.  5. เครื่องพิมพ์ เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์สามารถพิมพ์ได้ทั้งสี และขาวดา สามารถ พิมพ์ข้อความและรูปภาพได้ โดยผ่านทางโปรแกรมคอมพิวเตอร์
  • 17.  6. กล่องถ่ำยรูปดิจิตัล (Digital Camera) เป็นอุปกรณ์รับภาพที่เปลี่ยนจากฟิล์มมาเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อ ถ่ายรูปที่ต้องการแล้ว รูปจะถูกเก็บลงในหน่วยความจา (Memory) ที่อยู่ใน กล้อง เมื่อต้องการดูรูปทาได้โดยการถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจาลงบน เครื่องพิมพ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาพที่ได้จะมีขนาดตามที่ต้องการ สามารถย่อ หรือขยาย ปรับแสงหรือเงาแล้วแต่ความพอใจหรือเพิ่มรูปแบบก็สามารถทาได้ และ เมื่อจะถ่ายใหม่ก็สามารถใช้หน่วยความจาเดิมได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อฟิล์ม
  • 18.  ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application software) หมายถึง โปรแกรมที่ ทาให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานเฉพาะอย่างตามความต้องการของผู้ใช้ ซอฟต์แวร์ ประยุกต์ที่ได้รับความนิยม เช่น โปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมคานวณ โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล โปรแกรมค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่ง ซอฟต์แวร์ประยุกต์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เฉพาะงาน และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป
  • 19.  3.1 ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพำะงำน ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพำะงำน (Application Software for Specific Surpose) เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้น เพื่อนาไปประยุกต์ใช้กับ งานขององค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะ ออกแบบและสร้างขึ้นโดยผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ที่มีความชานาญงานในด้านนั้น หรือพัฒนาโดยบุคลากรฝ่ายคอมพิวเตอร์ของ องค์กรนี้ก็ได้ โดยผ่านการวิเคราะห์ ออกแบบ ลงมือสร้าง และทดสอบโปรแกรมให้ สามารถทางานได้ถูกต้องก่อน จึงจะสามารถนามาใช้งานได้ เช่น โปรแกรมคานวณ ภาษีของกรมศุลกากร โปรแกรมฝากถอนเงินของธนาคาร โปรแกรมระบบสินค้า ของห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
  • 20.  3.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป (General Purpose Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนาไปประยุกต์ใช้กับงานให้เหมาะสม กับลักษณะงานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เช่น การจัดพิมพ์รายงาน การนาเสนองาน การจัดทาบัญชี การตกแต่งภาพ การออกแบบเว็บไซต์ เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทั่วไปสามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท ดังต่อไปนี้
  • 21.  1) ซอฟต์แวร์จัดกำรฐำนข้อมูล (Database Management Software) คอมพิวเตอร์ สามารถใช้จัดเก็บข้อมูลและจัดการกับข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ สัมพันธ์กันไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า ฐานข้อมูล (Database) ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลเป็น โปรแกรมที่ทาหน้าที่สร้างฐานข้อมูลและจัดการกับข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการข้อมูลได้อย่าง รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียกค้นข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล การเพิ่มข้อมูล และการลบข้อมูล ซอฟต์แวร์ จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น Dbase , Paradox , Foxbase , Microsoft Access เป็นต้น โปรแกรมที่จัดการฐานข้อมูล จะเก็บข้อมูลในรูปแบบของตารางที่มีความสัมพันธ์กันแต่ละตารางจะ ประกอบด้วยแถวที่เรียกว่า ระเบียน หรือ เรคคอร์ด (Record) และคอลัมน์ที่เรียกว่า ฟิลด์ (Field) แต่ ละเรคคอร์ดจะประกอบด้วยฟิลด์ของข้อมูลที่ต้องการเก็บ เช่น ฐานข้อมูลโรงเรียน จะมีการจัดเก็บประวัติ นักเรียน ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดของข้อมูล ได้แก่ เลขประจาตัว ชื่อ นามสกุล วันเกิด เพศ ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์
  • 22.  2) ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Word Processing Software) เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้ในการสร้าง แก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และ จัดการรูปแบบเอกสาร ทาให้เอกสารมีรูปแบบที่สวยงาม น่าสนใจ ซึ่งเอกสารที่ผู้ใช้ พิมพ์ไว้จะถูกจัดเป็นแฟ้ มข้อมูล (File) สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้และสั่งพิมพ์ทาง เครื่องพิมพ์ได้ด้วย ซอฟต์แวร์ประมวลผลคาที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Office Word , Adobe Indesign , CorelDraw , WordPerfect , OpenOffice , Pladao Office เป็นต้น
  • 23.  3) ซอฟต์แวร์ทำกำรคำนวณ (Caculation Software) เป็น ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคานวณ การทางานของซอฟต์แวร์ใช้หลักการเสมือนมีโต๊ะ ทางาน ที่มีกระดาษขนาดใหญ่วางไว้ มีเครื่องมือคล้ายปากกา ยางลบ และเครื่อง คานวณเตรียมไว้ให้เสร็จ บนกระดาษมีช่องให้ใส่ตัวเลข ข้อความหรือสูตร สามารถ สั่งให้คานวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่กาหนด นอกจานี้ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างกราฟ เพื่อนาเสนอได้อย่างง่ายดาย ซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Office Excel , OpenOffice Cale ในโปรแกรมชุด Pladao Office เป็น ต้น
  • 24.  4) ซอฟต์แวร์นำเสนอข้อมูล (Presentation Software) เป็น โปรแกรมที่ใช้ในการนาเสนอข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ สร้างเอกสารที่ประกอบด้วย ตัวอักษร รูปภาพ แผนผัง ภาพเคลื่อนไหว นิยมใช้ในการนาเสนอข้อมูลในการ บรรยายในชั้นเรียนหรือการประชุม ซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Office PowerPoint , OpenOffice Impress , Pladao Office เป็นต้น
  • 25.  5) ซอฟต์แวร์ทำงด้ำนกรำฟฟิ กและมัลติมีเดีย (Graphics and Multimedia Software) เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยทางานด้าน กราฟฟิกและมัลติมีเดีย เช่น ตกแต่งภาพ วาดรูป ปรับเสียง ตัดต่อภาพเคลื่อนไหว สร้างสรรค์งานสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงการสร้างและออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ให้มีรูปแบบ สวยงาม ทันสมัย เหมาะสมกับสื่อแต่ละประเภท เป็นโปรแกรมที่ง่ายต่อการศึกษา เรียนรู้ด้วยตัวเอง มีลูกเล่นหลากหลาย สามารถสั่งงานตามความต้องการได้ง่าย ซึ่งถือเป็นโปรแกรมหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานทุกระดับ
  • 26.  6) ซอฟต์แวร์กำรใช้งำนบนเว็บไซต์และกำรติดต่อสื่อสำร (Web Site and Communications Software) เป็นโปรแกรมที่พัฒนาเพื่อ การติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งการเติบโตของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทาให้มีผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อใช้งานเฉพาะอย่างเพิ่มขึ้น เช่น โปรแกรมสาหรับ ตรวจสอบอีเมล การท่องเว็บไซต์ การจัดการและดูแลเว็บไซต์ การส่งข้อความ รวมถึงการประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย เป็นต้น
  • 28. 1.ชื่อด.ช.รัชพล คชรินทร์ ชั้น ม.3/4 เลขที่4 2.ชื่อด.ช.ธนภัทร แสงเจริญโรจน์ ชั้น ม.3/4 เลขที่4