SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
ข้อเสนอการปฏิรูปประเทศไทย
โดย
นายสันชัย ประเสริฐสุวรรณ
 รัฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์ รุ่นที่ 23
 วปรอ.399และปปปร. รุ่นที่6
 อดีตเลขานุการประจาสานักนายกรัฐมนตรี ปี 2518-2519
 อดีตข้าราชการสามัญกรุงเทพมหานคร ปี 2519-2523
 อดีตรองผู้อานวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ปี 2523-2536
 อดีตผู้อานวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ปี 2536-2544
 อดีตผู้รักษาการผู้อานวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ปี 2544
 อดีตผู้อานวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ปี 2544-2545
1 แนวทางการปฏิรูปการเมือง
1.1 แยกอานาจฝ่ายบริหาร (คณะรัฐมนตรี) ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา) ให้มีความเป็นอิสสระต่อกัน แต่จะต้อง
กาหนดหลักเกณฑ์การถ่วงดุลอานาจซึ่งกันและกัน ซึ่งจะมีการพัฒนาด้วยการ แก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง
เพื่อความสมบูรณ์ยิ่งๆขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
1.2 ให้ฝ่ายบริหารต้องได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งประเทศในลักษณะ
เป็นทีม มิใช่การเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงแบบประเทศอิสราเอลที่นามายกเป็นตัวอย่างความล้มเหลวของ
การได้มาซึ่งฝ่ายบริหารจากการเลือกตั้งโดยตรง สาหรับข้อเสนอนี้ การสมัครรับเลือกตั้ง ทุกทีมจะต้องเสนอ
รายชื่อผู้ที่จะดารงตาแหน่งทุกตาแหน่ง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ รัฐมนตรีว่าการและช่วยว่าการ
กระทรวง ทบวง ทุกกระทรวง ทบวง และอาจจะกาหนดให้เสนอรายชื่อทดแทนหรือสารองกรณีที่ผู้ดารง
ตาแหน่งต้องพ้นจากตาแหน่ง เนื่องจากการตาย ลาออก หรือด้วยเหตุอื่นใดตามที่รัฐธรรมนูญกาหนด เพื่อ
ป้องกันมิให้มีการแต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลที่มิได้ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนเข้ามาดารงตาแหน่ง แต่ถ้า
"รัฐมนตรี" ซึ่งหมายรวมถึง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการหรือช่วยว่าการ กระทรวง
ทบวง บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคนต้องพ้นผิดอันเนื่องจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ หรือ
ประพฤติมิชอบด้วยเหตุใดใดจากการกล่าวหาหรือกล่าวโทษโดยผู้มีสิทธิที่กระทาได้ตามบทบัญญัติแห่ง
รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใดและถูกชี้ขาดโดยศาลรัฐธรรมนูญแล้วฝ่ายบริหารหรือคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้อง
พ้นจากตาแหน่งทั้งคณะ เว้นแต่การพ้นตาแหน่งของรัฐมนตรีคนหนึ่งคนใดจากการลงโทษโดยคณะรัฐมนตรี
เท่านั้นจึงจะไม่มีผลให้ต้องพ้นจากตาแหน่งทั้งคณะ เพราะเมื่ออาสาสมัครและได้รับความไว้วางใจจาก
ประชาชนให้เข้ามาบริหารประเทศร่วมกันเป็นทีมจาเป็นจะต้องให้รับผิด-รับชอบ ร่วมกันเป็นทีม ทั้งนี้
แนวทางดังกล่าวควรจะเป็นมาตรฐานที่นามาใช้ในการบริหารองค์กรทุกระดับแม้แต่การปกครอง ส่วนภูมิภาค
ส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นข้อเสนอในลาดับถัดไป
1.3 ฝ่ายนิติบัญญัติ ให้มี 2 สภา เช่นเดิมหรือจะยุบรวมให้คงเหลือสภาเดียวก็ได้ แต่มีข้อเสนอดังนี้
1.3.1 ให้ยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนในระบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากพรรคการเมืองมิได้สร้างความเชื่อถือและ
ศรัทธาให้สมกับการที่ประชาชนจะไว้วางใจและมอบให้มีอานาจเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อมาดารง
ตาแหน่งสมกับคาว่า"พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค" จนกว่าพัฒนาการทางการเมืองไทยสร้าง
พรรคการเมืองหรือมีพรรคการเมืองที่คานึงถึงประโยชน์สาธารณะมากกว่าของบุคคลผู้จัดตั้งพรรค
วงศาคณาญาติและพรรคพวกดังที่เป็นและเห็นอยู่ในปัจจุบัน มีผู้เป็นเจ้าของและมีอานาจสั่งการทุก
เรื่องด้วยเหตุปัจจัยในการเป็นนายทุนทางการเงินสนับสนุนพรรคและผู้ที่พรรคจะส่งสมัครรับเลือกตั้ง
ในแต่ละเขตเลือกตั้ง แต่ที่แปลกประหลาดที่สุดคือการเชิดบุคคลอื่นขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคตามลัทธิ
นิยมลอกแบบการถือหุ้นแทนในตลาดหลักทรัพย์ อันเนื่องจากความไร้ซึ่งความรับผิดชอบที่พึงมีพึง
เป็นของผู้จะทาหน้าที่ผู้นาประเทศ แต่ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอีแอบจะโผล่หน้าสลอนบนสื่อ
โฆษณาทุกรูปแบบทั่วประเทศ ยังจะให้ราคาต่อพรรคการเมืองประเภทนี้อยู่อีกหรือ จึงขอให้ตัดวงจร
การใช้ทุนทางการเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งอานาจรัฐในห้วงเวลานี้ไปจนกว่าพัฒนาทางการเมืองมีความ
เข้มแข็งเพียงพอและมีพรรคการเมืองที่คานึงถึงประโยชน์ชาติมากกว่าเจ้าขิองพรรคหรือไม่มีพรรค
การเมืองที่มีความเป็นเจ้าของประหนึ่งองค์กรธุรกิจเพียงพอแล้วเท่านั้น
1.3.2 เมื่อข้อเสนอนี้ให้ความสาคัญต่อพรรคการเมืองในเบื้องต้นแล้ว ดังนั้นการสมัครรับเลือกตั้งผู้ที่จะเข้า
มาดารงตาแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงไม่มีความจาเป็นใดที่จะต้องกาหนดให้สังกัดพรรค
การเมืองเพื่อเข้าไปทาหน้าที่ในรัฐสภาตามใบสั่งของเจ้าของพรรค การพัฒนาการเมืองไทยโดยเฉพาะ
ฝ่ายนิติบัญญัติคงต้องเริ่มในลักษณะปัจเจกแทนการเป็นทีมเช่นกับฝายบริหารเพราะความ
หลากหลายมากเท่าใดก่อนบัญญัติกฎหมายนามาใช้กับคนส่วนใหญ่เป็นประโยชน์มากกว่าให้คนบาง
กลุ่มบางพวกเข้ามาชี้นา ดังจะเห็นได้ในความแตกต่างของการประชุม สนช. และสปช.ปัจจุบันกับการ
ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อนการปฏิวัติซึ่งนามาสู่การพิจารณาเพื่อปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ ทั้งนี้มิใช่
ว่าไม่เห็นด้วยกับระบอบประชาธิปไตยที่จะต้องมีพรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองรองรับเป็น
ฐานราก แต่ระบบที่เป็นต้นแบบและถือใช้กันอยู่ในปัจจุบันเป็นความเพี้ยนของผู้จะเข้ามามีอานาจรัฐ
โดยปราศจากมโนธรรมสาคัญที่สุดของการเป็นผู้นาประเทศ คือ"จิตสาธารณะ" คงไม่ต้องแปล
ความหมายเพราะยิ่งจะตอกย้าความด้อยมาตรฐานและไร้คุณค่าอย่างสิ้นเชิงของผู้นั้น ประเทศไทยย่า
เท้าอยู่กับที่และอาจจะนับว่าถอยหลังต่อระบบการได้มาซึ่งบุคคลและคณะบุคคลที่เข้ามารับผิดชอบ
ชะตากรรมของประเทศชาติและประชาชนมายาวนานเกือบศตวรรษ มาหาทางให้หลุดวังวนโดยไม่มี
วาระซ่อนเร้นเพื่อใครคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนเพื่อคนส่วนใหญ่และประเทศชาติโดยรวมสักครั้ง
เถอะครับ
1.3.3 สาหรับวุฒิสภา ให้มีสมาชิกประกอบด้วยบุคคลที่ดารงตาแหน่งสูงสุดของข้าราชการประจาคือ
ปลัดกระทรวง ทบวงทุกแห่ง ให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตาแหน่ง เนื่องจากถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิใน
บรรดาข้าราชการประจาทุกกระทรวง ทบวงแล้ว ยังจะต้องเป็นผู้รักษาการในตาแหน่ง นายกรัฐมนตรี
รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เมื่อฝ่ายบริหารที่มาจากการเลือกตั้งครบวาระการดารงตาแหน่งหรือพ้น
จากตาแหน่งทั้งคณะด้วยเหตุอื่นใดที่มีผลให้ต้องมีการเลือกตั้งฝ่ายบริหารชุดใหม่ นอกจากนี้ให้มี
บุคคลหรือคณะบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพตามที่จะกาหนดกลุ่มอาชีพและหรือจานวนตาแหน่ง
เนื่องจากต้องการให้มีความหลากหลายในการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติโดยเฉพาะในวุฒิสภาซึง
ถือว่าเป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิอย่างแท้จริง บุคคลเหล่านี้อาจจะประกอบด้วยตัวแทนของแต่ละสาขา
อาชีพซึ่งมีจรรยาบรรณของแต่ละอาชีพควบคุมกากับอยู่แล้วเช่นกัน อาทิ แพทย์ วิศวกร สถาปนิก
ครูอาจารย์ นักวิชาการ เกษตรกรหรือตัวแทนสถาบันเกษตรกร นักร้องนักแสดง ผู้ส่งออก ผู้สื่อข่าว
หรือผู้แทนสื่อสารมวลชน ฯลฯ การดารงตาแหน่งของวุฒิสภานี้เป็นไปตามวาระได้อย่างต่อเนื่องโดย
ไม่มีผลกระทบเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย ทั้งนี้จะเปลี่ยนชื่อสภานี้เป็นสภา
ผู้ทรงคุณวุฒิก็ยังได้ ความหลากหลายและความเป็นอิสสระของสภานี้จะเป็นบรรทัดฐานให้ประชาชน
ได้เรียนรู้และรับรู้การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างดียิ่งรวมทั้งเป็นต้นแบบให้สภาผู้แทน
ดาเนินการในการประชุมที่มีมาตรฐานสูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ยังแทรกแซงและมีใบสั่ง
ครอบงาความคิดได้ยากเช่นกัน เนื่องจากความเป็นตัวแทนมีจรรยาบันตามสายอาชีพแล้วบุคคลที่เป็น
ตัวแทนในสายอาชีพนั้นอาจจะถูกเปลี่ยนตัวได้หากไปปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงและ
ศรัทธาต่ออาชีพนั้น
แต่อย่างไรก็ตามการกาหนดบทบาทอานาจหน้าที่ของแต่ละสภาจะมีความเหมือนและแตกต่างกันแค่ไหน เพียงไร
อย่างไรฝากให้ สปช.และ สนช. รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิรูปการเมืองพิจารณากาหนดตามสมควรและ
เหมาะสมต่อไป
ความคาดหวังต่อข้อเสนอนี้
ประเทศไทยจะได้ผู้บริหารประเทศที่มีต้นทุนทางสังคมสูงแทนการมีต้นทุนทางการเงินสูง มีระบบการ
ทางานร่วมกันเป็นทีมอย่างแท้จริงแทนการให้สัมภาษณ์เรื่องบูรณาการจากฝ่ายบริหารทุกระดับ โดยการสร้าง
โอกาสให้คณะบุคคลที่มี คุณวุฒิ ความรู้ความสามารถประสบการณ์การผ่านงานด้านบริหารในองค์กรขนาดใหญ่
และนาพา8องค์กรนั้นประสบความสาเร็จเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้จากสังคม ก้าวออกมารวมตัวกันเพื่อ
อาสาสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะผู้บริหารประเทศร่วมกันด้วยการจัดตาแหน่งที่จะรับผิดชอบในคณะรัฐมนตรีตาม
ความเชี่ยวชาญของแต่ละบุคคล การกาหนดนโยบายการบริหารและพัฒนาประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาวจะ
ถูกนาเสนอต่อประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเพื่อให้การสนับสนุนทีมของตนจนชนะการเลือกตั้ง อันเป็นการ
แก้ไขปัญหาเรื่องรัฐบาลผสม ซึ่งเมื่อมีการรับรองผลการเลือกตั้งจากกกต. แถลงนโยบายต่อรัฐสภาและเข้าเฝ้าเพื่อ
ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วสามารถเริ่มต้นบริหารประเทศได้ทันที แทนที่จะต้องผ่านกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรี
และให้อานาจนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งรัฐมนตรีร่วมคณะแต่ผู้เดียว ถึงเวลาหรือยังที่ประชาชนชาวไทยจะมีอานาจ
แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีผ่านกระบวนการการเลือกตั้งได้โดยตรงแทนการมอบอานาจให้ตัวแทนที่ผ่านกระบวนการการ
เลือกตั้งที่ใช้เงินซื้อเสียงกันอย่างที่ผ่านมาและยังคงดารงอยู่โดยยังไม่มีมาตรการและวิธีการใดที่จะขจัดให้หมดสิ้น
หรือลดน้อยถอยลงเพราะระบบการได้มาซึ่งผู้บริหารประเทศอย่างที่เป็นอยู่เอื้ออานวยให้แก่ผู้ที่มีต้นทุนทางการเงิน
สูงหรือนักเลือกตั้งที่มุ่งหวังชัยชนะการเลือกตั้งมาเป็นข้ออ้างความชอบธรรมต่อการได้มาซึ่งอานาจรัฐ แม้แต่จะต้อง
ละเมิดกฎหมายเลือกตั้งเพื่อชัยชนะแต่ละครั้งมาก็ตาม ระบบธุรกิจการเมืองเป็นต้นเหตุของปัญหาการทุจริต
คอรัปชั่นต่อเนื่องมายาวนานและนับวันจะมีพัฒนาการที่ก้าวหน้ามากขึ้นๆเป็นที่รู้และยอมรับกันทั่วไปแต่ไม่อาจจะ
แก้ไขได้ ผมคาดหวังว่าการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ซึ่งมีคณะบุคคลที่มีทั้งองค์ความรู้ ประสบการณ์และต้นทุนทาง
สังคมสูง จะได้หาแนวทางและกาหนดมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาการเมืองไทยที่ผ่านมาแทนการแสวงหาและลอก
รูปแบบที่ใช้ในประเทศอื่นมาเป็นต้นแบบ แต่จะต้องมีคาตอบว่าการปฏิรูปครั้งนี้ประเทศชาติและประชาชนจะได้
ประโยชน์ในเรื่องใด อย่างไร? ด้วยกระบวนการและวิธีการใด?เป็นที่ตั้ง อาทิ
การมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบประชาธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งมักจะเป็นข้ออ้างมาโดยตลอดทุก
ยุคทุกสมัยว่า"คนไทยส่วนใหญ่ไม่สนใจ ขาดความรู้ ความเข้าใจ ทางการเมือง" การปฏิรูปการเมืองครั้งนี้อะไรคือ
คาตอบ ทาไมไม่สร้างโอกาสการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับชาติให้แก่ประชาชนชาวไทยด้วยการให้มีอานาจ
เลือกผู้บริหารประเทศหรือคณะรัฐมนตรีได้โดยตรงผ่านกระบวนการการเลือกตั้งทั้งประเทศ แต่มิใช่เลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรีโดยตรงซึ่งมีโอกาสเป็นการสร้างประมุขใหม่ตามที่มักกล่าวอ้างกันได้หรือการได้มาซึ่งฝ่ายบริหารผ่าน
ระบบตัวแทนดังเช่นในอดีตและยังจะคงให้ดารงอยู่ในปัจจุบัน อันเป็นการมีส่วนร่วมในการแต่งตั้งผู้บริหารทางอ้อม
หรือมีส่วนร่วมทางอ้อมเท่านั้น ถึงเวลาหรือยังที่จะมอบอานาจนี้ให้แก่ประชาชนชาวไทยเป็นของขวัญก่อนครบ
ศตวรรษประชาธิปไตยไทยเพื่อกระตุ้นและยกระดับการตื่นรู้ทางการเมืองให้แก่ประชาชนไทยทั้งประเทศ
การมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบการเมืองไทยตามข้อเสนอข้างต้นยังไม่เพียงพอ สมควรที่จะสร้าง
โอกาสการมีส่วนร่วมในการเข้ามาดารงตาแหน่งฝ่ายบริหารสูงสุดของชาติหรือดารงตาแหน่งในคณะรัฐมนตรีได้
อย่างกว้างขวางขึ้น แทนที่จะจากัดอยู่ในฐานของพรรคการเมืองซึ่งมิใช่สถาบันทางการเมืองที่มีอุดมการณ์เพื่อ
ประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริงดังเช่นอารยประเทศที่เรานามาเป็นต้นแบบการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยของประเทศไทย เพราะพรรคการเมืองไทยแทบจะทุกพรรคมีความผูกขาดหรือรับรู้ความเป็นเจ้าของ
และมีพฤติการณ์การบริหารเปรียบเสมือนเป็นองค์กรธุรกิจการเมืองมากกว่าการเป็นองค์กรเพื่อประโยชน์
สาธารณะแทบจะทั้งสิ้น (มีเพียงพรรคประชาธิปปัตย์เพียงพรรคเดียวที่พอจะอนุมานได้ว่าเป็นสถาบันทางการเมือง
ในฐานะพรรคการเมือง)
การเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2475 ถึงปัจจุบัน ประเทศไทยอาจจะเป็นเจ้าของสถิติมี
พรรคการเมืองจานวนมากที่สุดในโลก(นับรวมพรรคการเมืองที่จดทะเบียนทั้งที่ยังอยู่และล้มเลิกไปด้วยเหตุต่างๆ)
หากยังคงให้ความสาคัญต่อพรรคการเมืองโดยเฉพาะการเข้ามาใช้อานาจทางฝ่ายบริหารสูงสุดควบคู่กับการใช้
อานาจนิติบัญัติดังที่ผ่านมา วังวนของการเมืองไทยยากจะหลุดพ้นวงจรอุบาทว์เช่นที่เห็นในทศวรรษที่ผ่านมา
ดังนั้นการสร้างโอกาสให้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์การผ่านงานบริหารองค์กรขนาดใหญ่
มาแล้วเท่ากับการสร้างโอกาสให้ชาติและประชาชนด้วยเช่นกัน
สิ่งที่จะได้เห็นในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรก คือ องครักษ์พิทักษ์รัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น รัฐบาลจะ
หายไปจากรัฐสภา การประชุมรัฐสภาจะได้เนื้อหาสาระในหัวข้อเรื่องที่พิจารณามากกว่าระบบเดิม การค้นคว้า
ขวนขวายถึงข้อดี ข้อเสีย ผลประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับจะเป็นประเด็นสาคัญที่จะให้การ
สนับสนุนหรือทักท้วงของบรรดาส.สในรัฐสภามากกว่าการคานึงถึงผลการเมืองในฐานะของฝ่ายค้านหรือ
ฝ่ายรัฐบาล
วาระการดารงตาแหน่งของฝ่ายบริหาร(ครม.)และฝ่ายนิติบัญญัติ(สมาชิกรัฐสภา)จะกาหนดให้มี วาระการ
ดารงตาแหน่งเท่ากันหรือต่างกันก็ได้ จะเริ่มต้นและสิ้นสุดไม่พร้อมกันก็ได้ แต่รัฐบาลหรือครม.ทุกรัฐบาลจะต้อง
แถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศและรับรองผลการเลือกตั้ง การเสนอร่างกฎหมายสู่การ
พิจารณาของรัฐสภาโดยสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาไม่มีผลผูกพันต่อ
การยุบสภาหรือการลาออกของรัฐบาล
การลงมติในเรื่องใดใดที่รัฐสภาจะต้องลงมติ ต้องใช้วิธีการลงมติโดยเปิดเผย ห้ามมิให้ใช้วิธีการลงคะแนน
ลับ ยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและรัฐสภามีมติเห็นชอบให้ลงคะแนนลับก่อนการพิจารณาเรื่องนั้น
การประชุมของรัฐสภาที่มีการพิจารณาและลงมติในเรื่องใด รัฐสภาจะต้องประกาศผลการลงมติและรายชื่อผู้ลงมติ
แต่ละวาระทุกครั้งภายในไม่เกิน 15 วันนับจากวันประชุม
2. แนวทางการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
ให้เปลี่ยนการสรรหาผู้บริหารสูงสุดเพียงคนเดียวมาเป็นการสรรหาผู้บริหารเป็นทีม โดยทีมบริหารที่จะ
สรรหาชุดแรกของแต่ละรัฐวิสาหกิจจะต้องประกอบด้วยพนักงานในสังกัดรัฐวิสาหกิจนั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ
จานวนผู้บริหารในทีมนั้น ส่วนพนักงานในระดับบริหารเดิมที่มิได้รับการคัดเลือกจากทีมที่สมัครเข้ารับการสรรหา
หรืออยู่ในทีมที่มิได้รับการสรรหาให้ถือว่ายินยอมสมัครใจเกษียณอายุก่อนครบวาระการดารงตาแหน่ง (early
retirement) โดยกระทรวงการคลังจะต้องกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการจ่ายเงินชดเชยกรณีดังกล่าวไว้ทุก
รัฐวิสาหกิจ ให้เหมาะสมและสูงเพียงพอเพื่อป้องกันกระแสต่อต้าน
สาหรับกระบวนการสรรหาทีมบริหารรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีการกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในด้านต่างๆ
ด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ ที่มาและคุณวุฒิ คุณสมบัติ ของคณะกรรมการสรรหา. ทีมบริหารรวมทั้งคุณสมบัติเฉพาะ
ตาแหน่งของผู้ที่จะดารงตาแหน่งผู้บริหารของทุกรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง
เอกสารที่กาหนดให้แต่ละทีมบริหารที่สมัครเข้ารับการสรรหารวมทั้งเอกสารประกอบการเสนอของทีมที่
ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจะต้องนามาเป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาจ้างทีมบริหารนั้นและให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ
สัญญาจ้างด้วย
ให้แต่ละกระทรวงต้นสังกัดแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมกากับ ตรวจสอบและประเมินผล(audit
committee) เพื่อให้คาปรึกษา แนะนา ตรวจสอบและประเมินผลปฏิบัติของทีมบริหารเปรียบเทียบกับแผนงาน
ตามสัญญาจ้าง โดยทีมบริหารจะต้องจัดทาเสนอต่อaudit committe เพื่อพิจารณาก่อนนาเสนอต่อรัฐมนตรีต้น
สังกัดพร้อมความเห็นประกอบรายงานดังกล่าวให้ทราบเป็นรายเดือนทุกเดือน
กรณีกระทรวงต้นสังกัดจะมอบหมายภารกิจพิเศษตามนโยบายสาคัญของรัฐบาลและหรือของกระทรวงต้น
สังกัดอันมีผลกระทบต่อการปฏิบัติการหรือการบริหารรัฐวิสาหกิจตามที่กาหนดไว้ในสัญญาจ้าง หากทีมบริหารนั้น
เห็นว่าจะทาให้กระทบต่อผลสัมฤทธิ์ตามสัญญาจ้างจาเป็นต้องมีการปรับแผนและแก้ไขสัญญาจ้าง จะต้อง
ดาเนินการให้ด้วยความเห็นชอบของครม.
การดาเนินการสรรหาผู้บริหารเป็นทีมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสร้างนักบริหารรัฐวิสาหกิจมืออาชีพมา
บริหารรวมกันเป็นทีมแต่ละรัฐวิสาหกิจแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ทีมบริหารนั้นก้าวไปสมัครเป็นทีมบริหารใน
รัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย รวมทั้งอาจจะเป็นบุคคลากรหรือทีมที่ไต่เต้าขึ้นไปสมัครเป็นทีมบริหารประเทศชาติใน
อนาคตได้อีกด้วยถ้ามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชนทั้งศักยภาพประสิทธิภาพประสิทธิผล ความมีคุณธรรม
ความซื่อสัตย์สุจริตฯอันเป็นแบบอย่างที่ได้รับความเชื่อถือและศรัทธาจากสังคมทุกระดับ
การให้ผลตอบแทนที่สูงทั้งในรูปที่เป็นตัวเงินหรือมิใช่ตัวเงินแลกเปลี่ยนกับการลงโทษที่รุนแรงทั้งทางแพ่ง
และอาญาเมื่อประสบผลสาเร็จในการบริหารตามเป้าหมายหรือเมื่อมีการประพฤฒิมิชอบจะต้องเป็นกรอบบรรทัด
ฐานที่นามาถือใช้สาหรับการจ้างทีมบริหารรูปแบบนี้ การจัดทารายงานต่อสาธารณชนเป็นรายไตนมาสหรือราย
ครึ่งปีเป็นเรื่องที่ต้องกาหนดเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการควบคุมและประเมินการบริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง
ทุกระยะ มิใช่เป็นเรื่องปกปิดซ่อนเร้นกันต่อไปดังในอดีตไดัอีก
3. แนวทางการปฏิรูปการบริหารราชการ
รูปแบบการบริหารราชการ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นปัจจุบันสมควรให้การบริหารส่วน
ท้องถิ่นมีบทบาทในการบริหารราชการแทนการบริหารราชการส่วนภูมิภาคมากขึ้น โดยมีหลักการให้มีการเลือกตั้ง
ทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดในตาแหน่งผู้ว่าราชการ รองผู้ว่าราชการ และนายอาเภอโดยตรงแต่จะต้องสมัคร
รับเลือกตั้งเป็นทีมทานองเดียวกับกับการเลือกตั้งครม. ระบุรายชื่อผู้ที่จะดารงตาแหน่งทุกตาแหน่งยกเว้นหัวหน้า
ส่วนราชการส่วนภูมิภาคที่เป็นผู้แทน กระทรวง ทบวงกรมในตาแหน่งต่างๆรองลงไป อาทิปลัดจังหวัด ปลัดอาเภอ
สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอาเภอ ฯลฯ ตามที่กาหนดอัตราและตาแหน่งไว้ในโครงสร้างการบริหารราชการ
ส่วนภูมิภาคเดิมให้ดารงไว้จนกว่าทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดแต่ละจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดจะมี
ข้อเสนอในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความมีประสิทธิภาพและความเหมาะสมกับสภาพสังคมหรือเหตุผลอื่นใด
ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการส่วนจังหวัดแต่ละจังหวัด โดยความเห็นชอบของครม.
ให้ทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดต้องแถลงนโยบายการบริหารต่อสภาจังหวัด ภายใน 30 วันต่อสภา
จังหวัดซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยสมาชิก 2 ประเภท คือ จากการเลือกตั้งตามระบบเดิมกับสมาชิกที่มาจากแต่ละ
สาขาอาชีพตามที่กาหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับสมาชิกรัฐสภา
ทั้งนี้วาระในการดารงตาแหน่งของสภาจังหวัดกับทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดอาจจะเริ่มต้นและสิ้นสุด
ไม่เท่ากันเช่นเดียวกับครม.และรัฐสภาก็ได้ รวมทั้งหลักการและหลักเกณฑ์ต่างๆในการบริหารราชการอื่นๆระหว่าง
ครม.กับรัฐสภา กาหนดไว้เช่นใด ทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดกับสภาจังหวัดให้เลียนแบบในทานองเดียวกันเกือบ
ทั้งสิ้น ยกเว้นแต่เรื่องใดที่เห็นว่าควรกาหนดให้แตกต่างเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือประโยชน์
ของประเทศชาติและประชาชน. จึงจะกาหนดในเรื่องนั้นนั้นไว้อย่างชัดเจนในความแตกต่างพร้อมคาอธิบายเหตุผล
ประกอบไว้อย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้าหากจะมีการปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มเติม จะทาให้การรับรู้
เรียนรู้ ของประชาชนเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ข้อห้ามที่พึงจะต้องกาหนดไว้ในการปฏิรูปเพื่อป้องกันการทุจริต คอรัปชั่น คือ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่รัฐ
รวมทั้งวงศาคณาญาติใกล้ชิดในกิจการใดใดที่จะมีข้อผูกพันที่ได้ผลตอบแทนจากรัฐในทุกระดับมาเป็นคู่สัญญากับ
ภาครัฐ ตรวจสอบพบเมื่อใดถือว่ามีเจตนาฝ่าฝืนตั้งแต่ก่อนวันทาสัญญานั้นแล้ว บทกาหนดโทษทั้งทางแพ่งและ
อาญาจะต้องกาหนดควบคู่กับการตัดสิทธิทางการเมืองด้วยเช่นกัน
สรุปหลักการของแนวทางการปฏิรูปตามข้อเสนอนี้
คือการให้มีผู้บริหารภาครัฐในทุกระดับเป็นทีม แทนที่จะใช้การบูรณาการระหว่างกระทรวง ทบวงกรม
ต่างกระทรวงต่างกรม มาเป็นกระบวนการดังหลายยุค หลายรัฐบาลที่ผ่านมา โดยขาดพื้นฐานของระบบการทางาน
เป็นทีมเพื่อผลสัมฤทธิ์ทั้งประสิทธิผลและประสิทธิผลฃองแผนงานและโครงการของรัฐ จึงจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง
สร้างทีมบริหารภาครัฐในทุกระดับมาเป็นฐานรากของการบูรณาการ ดังนี้
ในระดับประเทศ ให้มีทีมบริหารคือคณะรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งทั่วไปโดยตรงทั้งทีมตามข้อเสนอ
ข้างต้น เพื่อให้ประชาชนใช้อานาจจัดตั้งรัฐบาลโดยตรงแทนการผ่านระบบพรรคการเมืองเช่นในอดีตจะได้มี
เอกภาพในการบริหารตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาและให้สัญญาประชาคมต่อประชาชนทั้งประเทศ การบูรณา
การระหว่างกระทรวงทบวงกรมจะเริ่มจากกลไกดังกล่าวนับแต่ครม.เข้ามาบริหารประเทศ
ในทานองเดียวกัน ให้มีทีมบริหารในระดับจังหวัด ซึ่งถือเป็นการกระจายอานาจครั้งสาคัญของประเทศ
ไทยด้วยการเพิ่มอานาจบทบาทของประชาชนในแต่ละจังหวัดและอาเภอให้มีสิทธิในการเลือกตั้งผู้บริหารที่เป็น
บุคคลในจังหวัดและอาเภอของตนมาเป็นทีมบริหารของแต่ละจังหวัด โดยการเลือกตั้งแทนการแต่งตั้งผู้ว่าราชการ
รองผู้ว่าราชการ นายอาเภอ เช่นในอดีตซึ่งต้องยอมรับว่ามีความผูกพันต่อประชาชนและความมุ่งมั่นในการพัฒนา
พื้นที่แต่ละจังหวัดในระยะยาวมากกว่าความก้าวหน้าในตาแหน่งหน้าที่ของตนเองตามสภาพการเมืองของประเทศ
ในปัจจุบัน ระบบการเลือกตั้งเป็นทีมเช่นเดียวกับการเลือกตั้งผู้บริหารระดับประเทศจะสร้างความรู้ ความเข้าใจ
ต่อความรับผิดชอบในหน้าที่ของผู้บริหารต่อภารกิจที่เป็นสาธารณประโยชน์อย่างดียิ่งอันจะเป็นพื้นฐานการได้
ผู้บริหารที่ใส่ใจต่อทุกข์สุขของประชาชนและประโยชน์ส่วนรวมได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต แต่จะต้องสมัครรับเลือกตั้งเป็ม
ทีมดังที่เสนอไว้ข้างต้นเช่นกัน
สาหรับรัฐวิสาหกิจก็ให้มีการสรรหาผู้บริหารเป็นทีมเช่นกันแตกต่างเพียงมิได้ใช้ระบบการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม รายละเอียด หลักเกณฑ์วิธีการปลีกย่อยเพื่อจะนาแนวคิดข้อเสนอนี้ไปสู่ภาคปฏิบัติยังมี
กระบวนการ ขั้นตอนอีกมากมาย ให้ถือเป็นภารกิจขององค์กรและหน่วยงานต่างๆตามที่ทีมบริหารระดับชาติจะ
แสดงความสามารถและประสิทธิภาพให้เป็นที่ประจักษ์และศรัทธาให้บริหารประเทศต่อไป

More Related Content

Viewers also liked

Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium
Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium
Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium Philips
 
Welkominde zorg 14052014
Welkominde zorg 14052014Welkominde zorg 14052014
Welkominde zorg 14052014Philips
 
Challenges of e-learning
Challenges of e-learningChallenges of e-learning
Challenges of e-learningburns8839
 
Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR
Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR
Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR Philips
 
Stoma 051113
Stoma 051113Stoma 051113
Stoma 051113Philips
 
Netwerkarbeidszaken 290911
Netwerkarbeidszaken 290911Netwerkarbeidszaken 290911
Netwerkarbeidszaken 290911Philips
 
1elijns manager 160113 DOKh
1elijns manager 160113 DOKh1elijns manager 160113 DOKh
1elijns manager 160113 DOKhPhilips
 
ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)
ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)
ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)Chasaran
 
Digital divide
Digital divideDigital divide
Digital divideburns8839
 
E-learning Implimentation
E-learning ImplimentationE-learning Implimentation
E-learning Implimentationburns8839
 
Dwi 21082015 social mediatraining amsterdam
Dwi 21082015 social mediatraining amsterdamDwi 21082015 social mediatraining amsterdam
Dwi 21082015 social mediatraining amsterdamPhilips
 
E-Learning Models
E-Learning ModelsE-Learning Models
E-Learning Modelsburns8839
 

Viewers also liked (12)

Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium
Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium
Lievensberg 050313 Presentatie VAR symposium
 
Welkominde zorg 14052014
Welkominde zorg 14052014Welkominde zorg 14052014
Welkominde zorg 14052014
 
Challenges of e-learning
Challenges of e-learningChallenges of e-learning
Challenges of e-learning
 
Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR
Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR
Trimbos workshop 5 juni 2014 Netwerk I&HR
 
Stoma 051113
Stoma 051113Stoma 051113
Stoma 051113
 
Netwerkarbeidszaken 290911
Netwerkarbeidszaken 290911Netwerkarbeidszaken 290911
Netwerkarbeidszaken 290911
 
1elijns manager 160113 DOKh
1elijns manager 160113 DOKh1elijns manager 160113 DOKh
1elijns manager 160113 DOKh
 
ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)
ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)
ABI Project Proposal (ข้อเสนอโครงการกองทุนตั้งตัวได้)
 
Digital divide
Digital divideDigital divide
Digital divide
 
E-learning Implimentation
E-learning ImplimentationE-learning Implimentation
E-learning Implimentation
 
Dwi 21082015 social mediatraining amsterdam
Dwi 21082015 social mediatraining amsterdamDwi 21082015 social mediatraining amsterdam
Dwi 21082015 social mediatraining amsterdam
 
E-Learning Models
E-Learning ModelsE-Learning Models
E-Learning Models
 

ข้อเสนอการปฏิรูปประเทศไทย2

  • 1. ข้อเสนอการปฏิรูปประเทศไทย โดย นายสันชัย ประเสริฐสุวรรณ  รัฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์ รุ่นที่ 23  วปรอ.399และปปปร. รุ่นที่6  อดีตเลขานุการประจาสานักนายกรัฐมนตรี ปี 2518-2519  อดีตข้าราชการสามัญกรุงเทพมหานคร ปี 2519-2523  อดีตรองผู้อานวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ปี 2523-2536  อดีตผู้อานวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ปี 2536-2544  อดีตผู้รักษาการผู้อานวยการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ปี 2544  อดีตผู้อานวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ปี 2544-2545 1 แนวทางการปฏิรูปการเมือง 1.1 แยกอานาจฝ่ายบริหาร (คณะรัฐมนตรี) ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา) ให้มีความเป็นอิสสระต่อกัน แต่จะต้อง กาหนดหลักเกณฑ์การถ่วงดุลอานาจซึ่งกันและกัน ซึ่งจะมีการพัฒนาด้วยการ แก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อความสมบูรณ์ยิ่งๆขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง 1.2 ให้ฝ่ายบริหารต้องได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งประเทศในลักษณะ เป็นทีม มิใช่การเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงแบบประเทศอิสราเอลที่นามายกเป็นตัวอย่างความล้มเหลวของ การได้มาซึ่งฝ่ายบริหารจากการเลือกตั้งโดยตรง สาหรับข้อเสนอนี้ การสมัครรับเลือกตั้ง ทุกทีมจะต้องเสนอ รายชื่อผู้ที่จะดารงตาแหน่งทุกตาแหน่ง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ รัฐมนตรีว่าการและช่วยว่าการ กระทรวง ทบวง ทุกกระทรวง ทบวง และอาจจะกาหนดให้เสนอรายชื่อทดแทนหรือสารองกรณีที่ผู้ดารง ตาแหน่งต้องพ้นจากตาแหน่ง เนื่องจากการตาย ลาออก หรือด้วยเหตุอื่นใดตามที่รัฐธรรมนูญกาหนด เพื่อ
  • 2. ป้องกันมิให้มีการแต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลที่มิได้ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนเข้ามาดารงตาแหน่ง แต่ถ้า "รัฐมนตรี" ซึ่งหมายรวมถึง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการหรือช่วยว่าการ กระทรวง ทบวง บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคนต้องพ้นผิดอันเนื่องจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ หรือ ประพฤติมิชอบด้วยเหตุใดใดจากการกล่าวหาหรือกล่าวโทษโดยผู้มีสิทธิที่กระทาได้ตามบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใดและถูกชี้ขาดโดยศาลรัฐธรรมนูญแล้วฝ่ายบริหารหรือคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้อง พ้นจากตาแหน่งทั้งคณะ เว้นแต่การพ้นตาแหน่งของรัฐมนตรีคนหนึ่งคนใดจากการลงโทษโดยคณะรัฐมนตรี เท่านั้นจึงจะไม่มีผลให้ต้องพ้นจากตาแหน่งทั้งคณะ เพราะเมื่ออาสาสมัครและได้รับความไว้วางใจจาก ประชาชนให้เข้ามาบริหารประเทศร่วมกันเป็นทีมจาเป็นจะต้องให้รับผิด-รับชอบ ร่วมกันเป็นทีม ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวควรจะเป็นมาตรฐานที่นามาใช้ในการบริหารองค์กรทุกระดับแม้แต่การปกครอง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นข้อเสนอในลาดับถัดไป 1.3 ฝ่ายนิติบัญญัติ ให้มี 2 สภา เช่นเดิมหรือจะยุบรวมให้คงเหลือสภาเดียวก็ได้ แต่มีข้อเสนอดังนี้ 1.3.1 ให้ยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนในระบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากพรรคการเมืองมิได้สร้างความเชื่อถือและ ศรัทธาให้สมกับการที่ประชาชนจะไว้วางใจและมอบให้มีอานาจเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อมาดารง ตาแหน่งสมกับคาว่า"พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค" จนกว่าพัฒนาการทางการเมืองไทยสร้าง พรรคการเมืองหรือมีพรรคการเมืองที่คานึงถึงประโยชน์สาธารณะมากกว่าของบุคคลผู้จัดตั้งพรรค วงศาคณาญาติและพรรคพวกดังที่เป็นและเห็นอยู่ในปัจจุบัน มีผู้เป็นเจ้าของและมีอานาจสั่งการทุก เรื่องด้วยเหตุปัจจัยในการเป็นนายทุนทางการเงินสนับสนุนพรรคและผู้ที่พรรคจะส่งสมัครรับเลือกตั้ง ในแต่ละเขตเลือกตั้ง แต่ที่แปลกประหลาดที่สุดคือการเชิดบุคคลอื่นขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคตามลัทธิ นิยมลอกแบบการถือหุ้นแทนในตลาดหลักทรัพย์ อันเนื่องจากความไร้ซึ่งความรับผิดชอบที่พึงมีพึง เป็นของผู้จะทาหน้าที่ผู้นาประเทศ แต่ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอีแอบจะโผล่หน้าสลอนบนสื่อ โฆษณาทุกรูปแบบทั่วประเทศ ยังจะให้ราคาต่อพรรคการเมืองประเภทนี้อยู่อีกหรือ จึงขอให้ตัดวงจร การใช้ทุนทางการเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งอานาจรัฐในห้วงเวลานี้ไปจนกว่าพัฒนาทางการเมืองมีความ เข้มแข็งเพียงพอและมีพรรคการเมืองที่คานึงถึงประโยชน์ชาติมากกว่าเจ้าขิองพรรคหรือไม่มีพรรค การเมืองที่มีความเป็นเจ้าของประหนึ่งองค์กรธุรกิจเพียงพอแล้วเท่านั้น 1.3.2 เมื่อข้อเสนอนี้ให้ความสาคัญต่อพรรคการเมืองในเบื้องต้นแล้ว ดังนั้นการสมัครรับเลือกตั้งผู้ที่จะเข้า มาดารงตาแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงไม่มีความจาเป็นใดที่จะต้องกาหนดให้สังกัดพรรค การเมืองเพื่อเข้าไปทาหน้าที่ในรัฐสภาตามใบสั่งของเจ้าของพรรค การพัฒนาการเมืองไทยโดยเฉพาะ ฝ่ายนิติบัญญัติคงต้องเริ่มในลักษณะปัจเจกแทนการเป็นทีมเช่นกับฝายบริหารเพราะความ หลากหลายมากเท่าใดก่อนบัญญัติกฎหมายนามาใช้กับคนส่วนใหญ่เป็นประโยชน์มากกว่าให้คนบาง กลุ่มบางพวกเข้ามาชี้นา ดังจะเห็นได้ในความแตกต่างของการประชุม สนช. และสปช.ปัจจุบันกับการ ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อนการปฏิวัติซึ่งนามาสู่การพิจารณาเพื่อปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ ทั้งนี้มิใช่
  • 3. ว่าไม่เห็นด้วยกับระบอบประชาธิปไตยที่จะต้องมีพรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองรองรับเป็น ฐานราก แต่ระบบที่เป็นต้นแบบและถือใช้กันอยู่ในปัจจุบันเป็นความเพี้ยนของผู้จะเข้ามามีอานาจรัฐ โดยปราศจากมโนธรรมสาคัญที่สุดของการเป็นผู้นาประเทศ คือ"จิตสาธารณะ" คงไม่ต้องแปล ความหมายเพราะยิ่งจะตอกย้าความด้อยมาตรฐานและไร้คุณค่าอย่างสิ้นเชิงของผู้นั้น ประเทศไทยย่า เท้าอยู่กับที่และอาจจะนับว่าถอยหลังต่อระบบการได้มาซึ่งบุคคลและคณะบุคคลที่เข้ามารับผิดชอบ ชะตากรรมของประเทศชาติและประชาชนมายาวนานเกือบศตวรรษ มาหาทางให้หลุดวังวนโดยไม่มี วาระซ่อนเร้นเพื่อใครคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนเพื่อคนส่วนใหญ่และประเทศชาติโดยรวมสักครั้ง เถอะครับ 1.3.3 สาหรับวุฒิสภา ให้มีสมาชิกประกอบด้วยบุคคลที่ดารงตาแหน่งสูงสุดของข้าราชการประจาคือ ปลัดกระทรวง ทบวงทุกแห่ง ให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตาแหน่ง เนื่องจากถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิใน บรรดาข้าราชการประจาทุกกระทรวง ทบวงแล้ว ยังจะต้องเป็นผู้รักษาการในตาแหน่ง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เมื่อฝ่ายบริหารที่มาจากการเลือกตั้งครบวาระการดารงตาแหน่งหรือพ้น จากตาแหน่งทั้งคณะด้วยเหตุอื่นใดที่มีผลให้ต้องมีการเลือกตั้งฝ่ายบริหารชุดใหม่ นอกจากนี้ให้มี บุคคลหรือคณะบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพตามที่จะกาหนดกลุ่มอาชีพและหรือจานวนตาแหน่ง เนื่องจากต้องการให้มีความหลากหลายในการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติโดยเฉพาะในวุฒิสภาซึง ถือว่าเป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิอย่างแท้จริง บุคคลเหล่านี้อาจจะประกอบด้วยตัวแทนของแต่ละสาขา อาชีพซึ่งมีจรรยาบรรณของแต่ละอาชีพควบคุมกากับอยู่แล้วเช่นกัน อาทิ แพทย์ วิศวกร สถาปนิก ครูอาจารย์ นักวิชาการ เกษตรกรหรือตัวแทนสถาบันเกษตรกร นักร้องนักแสดง ผู้ส่งออก ผู้สื่อข่าว หรือผู้แทนสื่อสารมวลชน ฯลฯ การดารงตาแหน่งของวุฒิสภานี้เป็นไปตามวาระได้อย่างต่อเนื่องโดย ไม่มีผลกระทบเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย ทั้งนี้จะเปลี่ยนชื่อสภานี้เป็นสภา ผู้ทรงคุณวุฒิก็ยังได้ ความหลากหลายและความเป็นอิสสระของสภานี้จะเป็นบรรทัดฐานให้ประชาชน ได้เรียนรู้และรับรู้การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างดียิ่งรวมทั้งเป็นต้นแบบให้สภาผู้แทน ดาเนินการในการประชุมที่มีมาตรฐานสูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ยังแทรกแซงและมีใบสั่ง ครอบงาความคิดได้ยากเช่นกัน เนื่องจากความเป็นตัวแทนมีจรรยาบันตามสายอาชีพแล้วบุคคลที่เป็น ตัวแทนในสายอาชีพนั้นอาจจะถูกเปลี่ยนตัวได้หากไปปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงและ ศรัทธาต่ออาชีพนั้น แต่อย่างไรก็ตามการกาหนดบทบาทอานาจหน้าที่ของแต่ละสภาจะมีความเหมือนและแตกต่างกันแค่ไหน เพียงไร อย่างไรฝากให้ สปช.และ สนช. รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิรูปการเมืองพิจารณากาหนดตามสมควรและ เหมาะสมต่อไป
  • 4. ความคาดหวังต่อข้อเสนอนี้ ประเทศไทยจะได้ผู้บริหารประเทศที่มีต้นทุนทางสังคมสูงแทนการมีต้นทุนทางการเงินสูง มีระบบการ ทางานร่วมกันเป็นทีมอย่างแท้จริงแทนการให้สัมภาษณ์เรื่องบูรณาการจากฝ่ายบริหารทุกระดับ โดยการสร้าง โอกาสให้คณะบุคคลที่มี คุณวุฒิ ความรู้ความสามารถประสบการณ์การผ่านงานด้านบริหารในองค์กรขนาดใหญ่ และนาพา8องค์กรนั้นประสบความสาเร็จเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้จากสังคม ก้าวออกมารวมตัวกันเพื่อ อาสาสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะผู้บริหารประเทศร่วมกันด้วยการจัดตาแหน่งที่จะรับผิดชอบในคณะรัฐมนตรีตาม ความเชี่ยวชาญของแต่ละบุคคล การกาหนดนโยบายการบริหารและพัฒนาประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาวจะ ถูกนาเสนอต่อประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเพื่อให้การสนับสนุนทีมของตนจนชนะการเลือกตั้ง อันเป็นการ แก้ไขปัญหาเรื่องรัฐบาลผสม ซึ่งเมื่อมีการรับรองผลการเลือกตั้งจากกกต. แถลงนโยบายต่อรัฐสภาและเข้าเฝ้าเพื่อ ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วสามารถเริ่มต้นบริหารประเทศได้ทันที แทนที่จะต้องผ่านกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรี และให้อานาจนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งรัฐมนตรีร่วมคณะแต่ผู้เดียว ถึงเวลาหรือยังที่ประชาชนชาวไทยจะมีอานาจ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีผ่านกระบวนการการเลือกตั้งได้โดยตรงแทนการมอบอานาจให้ตัวแทนที่ผ่านกระบวนการการ เลือกตั้งที่ใช้เงินซื้อเสียงกันอย่างที่ผ่านมาและยังคงดารงอยู่โดยยังไม่มีมาตรการและวิธีการใดที่จะขจัดให้หมดสิ้น หรือลดน้อยถอยลงเพราะระบบการได้มาซึ่งผู้บริหารประเทศอย่างที่เป็นอยู่เอื้ออานวยให้แก่ผู้ที่มีต้นทุนทางการเงิน สูงหรือนักเลือกตั้งที่มุ่งหวังชัยชนะการเลือกตั้งมาเป็นข้ออ้างความชอบธรรมต่อการได้มาซึ่งอานาจรัฐ แม้แต่จะต้อง ละเมิดกฎหมายเลือกตั้งเพื่อชัยชนะแต่ละครั้งมาก็ตาม ระบบธุรกิจการเมืองเป็นต้นเหตุของปัญหาการทุจริต คอรัปชั่นต่อเนื่องมายาวนานและนับวันจะมีพัฒนาการที่ก้าวหน้ามากขึ้นๆเป็นที่รู้และยอมรับกันทั่วไปแต่ไม่อาจจะ แก้ไขได้ ผมคาดหวังว่าการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ซึ่งมีคณะบุคคลที่มีทั้งองค์ความรู้ ประสบการณ์และต้นทุนทาง สังคมสูง จะได้หาแนวทางและกาหนดมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาการเมืองไทยที่ผ่านมาแทนการแสวงหาและลอก รูปแบบที่ใช้ในประเทศอื่นมาเป็นต้นแบบ แต่จะต้องมีคาตอบว่าการปฏิรูปครั้งนี้ประเทศชาติและประชาชนจะได้ ประโยชน์ในเรื่องใด อย่างไร? ด้วยกระบวนการและวิธีการใด?เป็นที่ตั้ง อาทิ การมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบประชาธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งมักจะเป็นข้ออ้างมาโดยตลอดทุก ยุคทุกสมัยว่า"คนไทยส่วนใหญ่ไม่สนใจ ขาดความรู้ ความเข้าใจ ทางการเมือง" การปฏิรูปการเมืองครั้งนี้อะไรคือ คาตอบ ทาไมไม่สร้างโอกาสการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับชาติให้แก่ประชาชนชาวไทยด้วยการให้มีอานาจ เลือกผู้บริหารประเทศหรือคณะรัฐมนตรีได้โดยตรงผ่านกระบวนการการเลือกตั้งทั้งประเทศ แต่มิใช่เลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีโดยตรงซึ่งมีโอกาสเป็นการสร้างประมุขใหม่ตามที่มักกล่าวอ้างกันได้หรือการได้มาซึ่งฝ่ายบริหารผ่าน ระบบตัวแทนดังเช่นในอดีตและยังจะคงให้ดารงอยู่ในปัจจุบัน อันเป็นการมีส่วนร่วมในการแต่งตั้งผู้บริหารทางอ้อม หรือมีส่วนร่วมทางอ้อมเท่านั้น ถึงเวลาหรือยังที่จะมอบอานาจนี้ให้แก่ประชาชนชาวไทยเป็นของขวัญก่อนครบ ศตวรรษประชาธิปไตยไทยเพื่อกระตุ้นและยกระดับการตื่นรู้ทางการเมืองให้แก่ประชาชนไทยทั้งประเทศ
  • 5. การมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบการเมืองไทยตามข้อเสนอข้างต้นยังไม่เพียงพอ สมควรที่จะสร้าง โอกาสการมีส่วนร่วมในการเข้ามาดารงตาแหน่งฝ่ายบริหารสูงสุดของชาติหรือดารงตาแหน่งในคณะรัฐมนตรีได้ อย่างกว้างขวางขึ้น แทนที่จะจากัดอยู่ในฐานของพรรคการเมืองซึ่งมิใช่สถาบันทางการเมืองที่มีอุดมการณ์เพื่อ ประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริงดังเช่นอารยประเทศที่เรานามาเป็นต้นแบบการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยของประเทศไทย เพราะพรรคการเมืองไทยแทบจะทุกพรรคมีความผูกขาดหรือรับรู้ความเป็นเจ้าของ และมีพฤติการณ์การบริหารเปรียบเสมือนเป็นองค์กรธุรกิจการเมืองมากกว่าการเป็นองค์กรเพื่อประโยชน์ สาธารณะแทบจะทั้งสิ้น (มีเพียงพรรคประชาธิปปัตย์เพียงพรรคเดียวที่พอจะอนุมานได้ว่าเป็นสถาบันทางการเมือง ในฐานะพรรคการเมือง) การเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2475 ถึงปัจจุบัน ประเทศไทยอาจจะเป็นเจ้าของสถิติมี พรรคการเมืองจานวนมากที่สุดในโลก(นับรวมพรรคการเมืองที่จดทะเบียนทั้งที่ยังอยู่และล้มเลิกไปด้วยเหตุต่างๆ) หากยังคงให้ความสาคัญต่อพรรคการเมืองโดยเฉพาะการเข้ามาใช้อานาจทางฝ่ายบริหารสูงสุดควบคู่กับการใช้ อานาจนิติบัญัติดังที่ผ่านมา วังวนของการเมืองไทยยากจะหลุดพ้นวงจรอุบาทว์เช่นที่เห็นในทศวรรษที่ผ่านมา ดังนั้นการสร้างโอกาสให้บุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์การผ่านงานบริหารองค์กรขนาดใหญ่ มาแล้วเท่ากับการสร้างโอกาสให้ชาติและประชาชนด้วยเช่นกัน สิ่งที่จะได้เห็นในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรก คือ องครักษ์พิทักษ์รัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น รัฐบาลจะ หายไปจากรัฐสภา การประชุมรัฐสภาจะได้เนื้อหาสาระในหัวข้อเรื่องที่พิจารณามากกว่าระบบเดิม การค้นคว้า ขวนขวายถึงข้อดี ข้อเสีย ผลประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับจะเป็นประเด็นสาคัญที่จะให้การ สนับสนุนหรือทักท้วงของบรรดาส.สในรัฐสภามากกว่าการคานึงถึงผลการเมืองในฐานะของฝ่ายค้านหรือ ฝ่ายรัฐบาล วาระการดารงตาแหน่งของฝ่ายบริหาร(ครม.)และฝ่ายนิติบัญญัติ(สมาชิกรัฐสภา)จะกาหนดให้มี วาระการ ดารงตาแหน่งเท่ากันหรือต่างกันก็ได้ จะเริ่มต้นและสิ้นสุดไม่พร้อมกันก็ได้ แต่รัฐบาลหรือครม.ทุกรัฐบาลจะต้อง แถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศและรับรองผลการเลือกตั้ง การเสนอร่างกฎหมายสู่การ พิจารณาของรัฐสภาโดยสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาไม่มีผลผูกพันต่อ การยุบสภาหรือการลาออกของรัฐบาล การลงมติในเรื่องใดใดที่รัฐสภาจะต้องลงมติ ต้องใช้วิธีการลงมติโดยเปิดเผย ห้ามมิให้ใช้วิธีการลงคะแนน ลับ ยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและรัฐสภามีมติเห็นชอบให้ลงคะแนนลับก่อนการพิจารณาเรื่องนั้น
  • 6. การประชุมของรัฐสภาที่มีการพิจารณาและลงมติในเรื่องใด รัฐสภาจะต้องประกาศผลการลงมติและรายชื่อผู้ลงมติ แต่ละวาระทุกครั้งภายในไม่เกิน 15 วันนับจากวันประชุม 2. แนวทางการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ให้เปลี่ยนการสรรหาผู้บริหารสูงสุดเพียงคนเดียวมาเป็นการสรรหาผู้บริหารเป็นทีม โดยทีมบริหารที่จะ สรรหาชุดแรกของแต่ละรัฐวิสาหกิจจะต้องประกอบด้วยพนักงานในสังกัดรัฐวิสาหกิจนั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ จานวนผู้บริหารในทีมนั้น ส่วนพนักงานในระดับบริหารเดิมที่มิได้รับการคัดเลือกจากทีมที่สมัครเข้ารับการสรรหา หรืออยู่ในทีมที่มิได้รับการสรรหาให้ถือว่ายินยอมสมัครใจเกษียณอายุก่อนครบวาระการดารงตาแหน่ง (early retirement) โดยกระทรวงการคลังจะต้องกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการจ่ายเงินชดเชยกรณีดังกล่าวไว้ทุก รัฐวิสาหกิจ ให้เหมาะสมและสูงเพียงพอเพื่อป้องกันกระแสต่อต้าน สาหรับกระบวนการสรรหาทีมบริหารรัฐวิสาหกิจ จะต้องมีการกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในด้านต่างๆ ด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ ที่มาและคุณวุฒิ คุณสมบัติ ของคณะกรรมการสรรหา. ทีมบริหารรวมทั้งคุณสมบัติเฉพาะ ตาแหน่งของผู้ที่จะดารงตาแหน่งผู้บริหารของทุกรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เอกสารที่กาหนดให้แต่ละทีมบริหารที่สมัครเข้ารับการสรรหารวมทั้งเอกสารประกอบการเสนอของทีมที่ ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจะต้องนามาเป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาจ้างทีมบริหารนั้นและให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ สัญญาจ้างด้วย ให้แต่ละกระทรวงต้นสังกัดแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมกากับ ตรวจสอบและประเมินผล(audit committee) เพื่อให้คาปรึกษา แนะนา ตรวจสอบและประเมินผลปฏิบัติของทีมบริหารเปรียบเทียบกับแผนงาน ตามสัญญาจ้าง โดยทีมบริหารจะต้องจัดทาเสนอต่อaudit committe เพื่อพิจารณาก่อนนาเสนอต่อรัฐมนตรีต้น สังกัดพร้อมความเห็นประกอบรายงานดังกล่าวให้ทราบเป็นรายเดือนทุกเดือน กรณีกระทรวงต้นสังกัดจะมอบหมายภารกิจพิเศษตามนโยบายสาคัญของรัฐบาลและหรือของกระทรวงต้น สังกัดอันมีผลกระทบต่อการปฏิบัติการหรือการบริหารรัฐวิสาหกิจตามที่กาหนดไว้ในสัญญาจ้าง หากทีมบริหารนั้น เห็นว่าจะทาให้กระทบต่อผลสัมฤทธิ์ตามสัญญาจ้างจาเป็นต้องมีการปรับแผนและแก้ไขสัญญาจ้าง จะต้อง ดาเนินการให้ด้วยความเห็นชอบของครม. การดาเนินการสรรหาผู้บริหารเป็นทีมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสร้างนักบริหารรัฐวิสาหกิจมืออาชีพมา บริหารรวมกันเป็นทีมแต่ละรัฐวิสาหกิจแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ทีมบริหารนั้นก้าวไปสมัครเป็นทีมบริหารใน รัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย รวมทั้งอาจจะเป็นบุคคลากรหรือทีมที่ไต่เต้าขึ้นไปสมัครเป็นทีมบริหารประเทศชาติใน
  • 7. อนาคตได้อีกด้วยถ้ามีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชนทั้งศักยภาพประสิทธิภาพประสิทธิผล ความมีคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตฯอันเป็นแบบอย่างที่ได้รับความเชื่อถือและศรัทธาจากสังคมทุกระดับ การให้ผลตอบแทนที่สูงทั้งในรูปที่เป็นตัวเงินหรือมิใช่ตัวเงินแลกเปลี่ยนกับการลงโทษที่รุนแรงทั้งทางแพ่ง และอาญาเมื่อประสบผลสาเร็จในการบริหารตามเป้าหมายหรือเมื่อมีการประพฤฒิมิชอบจะต้องเป็นกรอบบรรทัด ฐานที่นามาถือใช้สาหรับการจ้างทีมบริหารรูปแบบนี้ การจัดทารายงานต่อสาธารณชนเป็นรายไตนมาสหรือราย ครึ่งปีเป็นเรื่องที่ต้องกาหนดเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการควบคุมและประเมินการบริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ทุกระยะ มิใช่เป็นเรื่องปกปิดซ่อนเร้นกันต่อไปดังในอดีตไดัอีก 3. แนวทางการปฏิรูปการบริหารราชการ รูปแบบการบริหารราชการ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นปัจจุบันสมควรให้การบริหารส่วน ท้องถิ่นมีบทบาทในการบริหารราชการแทนการบริหารราชการส่วนภูมิภาคมากขึ้น โดยมีหลักการให้มีการเลือกตั้ง ทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดในตาแหน่งผู้ว่าราชการ รองผู้ว่าราชการ และนายอาเภอโดยตรงแต่จะต้องสมัคร รับเลือกตั้งเป็นทีมทานองเดียวกับกับการเลือกตั้งครม. ระบุรายชื่อผู้ที่จะดารงตาแหน่งทุกตาแหน่งยกเว้นหัวหน้า ส่วนราชการส่วนภูมิภาคที่เป็นผู้แทน กระทรวง ทบวงกรมในตาแหน่งต่างๆรองลงไป อาทิปลัดจังหวัด ปลัดอาเภอ สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอาเภอ ฯลฯ ตามที่กาหนดอัตราและตาแหน่งไว้ในโครงสร้างการบริหารราชการ ส่วนภูมิภาคเดิมให้ดารงไว้จนกว่าทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดแต่ละจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดจะมี ข้อเสนอในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความมีประสิทธิภาพและความเหมาะสมกับสภาพสังคมหรือเหตุผลอื่นใด ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการส่วนจังหวัดแต่ละจังหวัด โดยความเห็นชอบของครม. ให้ทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดต้องแถลงนโยบายการบริหารต่อสภาจังหวัด ภายใน 30 วันต่อสภา จังหวัดซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยสมาชิก 2 ประเภท คือ จากการเลือกตั้งตามระบบเดิมกับสมาชิกที่มาจากแต่ละ สาขาอาชีพตามที่กาหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้วาระในการดารงตาแหน่งของสภาจังหวัดกับทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดอาจจะเริ่มต้นและสิ้นสุด ไม่เท่ากันเช่นเดียวกับครม.และรัฐสภาก็ได้ รวมทั้งหลักการและหลักเกณฑ์ต่างๆในการบริหารราชการอื่นๆระหว่าง ครม.กับรัฐสภา กาหนดไว้เช่นใด ทีมบริหารราชการส่วนจังหวัดกับสภาจังหวัดให้เลียนแบบในทานองเดียวกันเกือบ ทั้งสิ้น ยกเว้นแต่เรื่องใดที่เห็นว่าควรกาหนดให้แตกต่างเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือประโยชน์ ของประเทศชาติและประชาชน. จึงจะกาหนดในเรื่องนั้นนั้นไว้อย่างชัดเจนในความแตกต่างพร้อมคาอธิบายเหตุผล ประกอบไว้อย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้าหากจะมีการปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มเติม จะทาให้การรับรู้ เรียนรู้ ของประชาชนเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเข้าใจได้ง่ายขึ้น
  • 8. ข้อห้ามที่พึงจะต้องกาหนดไว้ในการปฏิรูปเพื่อป้องกันการทุจริต คอรัปชั่น คือ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งวงศาคณาญาติใกล้ชิดในกิจการใดใดที่จะมีข้อผูกพันที่ได้ผลตอบแทนจากรัฐในทุกระดับมาเป็นคู่สัญญากับ ภาครัฐ ตรวจสอบพบเมื่อใดถือว่ามีเจตนาฝ่าฝืนตั้งแต่ก่อนวันทาสัญญานั้นแล้ว บทกาหนดโทษทั้งทางแพ่งและ อาญาจะต้องกาหนดควบคู่กับการตัดสิทธิทางการเมืองด้วยเช่นกัน สรุปหลักการของแนวทางการปฏิรูปตามข้อเสนอนี้ คือการให้มีผู้บริหารภาครัฐในทุกระดับเป็นทีม แทนที่จะใช้การบูรณาการระหว่างกระทรวง ทบวงกรม ต่างกระทรวงต่างกรม มาเป็นกระบวนการดังหลายยุค หลายรัฐบาลที่ผ่านมา โดยขาดพื้นฐานของระบบการทางาน เป็นทีมเพื่อผลสัมฤทธิ์ทั้งประสิทธิผลและประสิทธิผลฃองแผนงานและโครงการของรัฐ จึงจาเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง สร้างทีมบริหารภาครัฐในทุกระดับมาเป็นฐานรากของการบูรณาการ ดังนี้ ในระดับประเทศ ให้มีทีมบริหารคือคณะรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งทั่วไปโดยตรงทั้งทีมตามข้อเสนอ ข้างต้น เพื่อให้ประชาชนใช้อานาจจัดตั้งรัฐบาลโดยตรงแทนการผ่านระบบพรรคการเมืองเช่นในอดีตจะได้มี เอกภาพในการบริหารตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาและให้สัญญาประชาคมต่อประชาชนทั้งประเทศ การบูรณา การระหว่างกระทรวงทบวงกรมจะเริ่มจากกลไกดังกล่าวนับแต่ครม.เข้ามาบริหารประเทศ ในทานองเดียวกัน ให้มีทีมบริหารในระดับจังหวัด ซึ่งถือเป็นการกระจายอานาจครั้งสาคัญของประเทศ ไทยด้วยการเพิ่มอานาจบทบาทของประชาชนในแต่ละจังหวัดและอาเภอให้มีสิทธิในการเลือกตั้งผู้บริหารที่เป็น บุคคลในจังหวัดและอาเภอของตนมาเป็นทีมบริหารของแต่ละจังหวัด โดยการเลือกตั้งแทนการแต่งตั้งผู้ว่าราชการ รองผู้ว่าราชการ นายอาเภอ เช่นในอดีตซึ่งต้องยอมรับว่ามีความผูกพันต่อประชาชนและความมุ่งมั่นในการพัฒนา พื้นที่แต่ละจังหวัดในระยะยาวมากกว่าความก้าวหน้าในตาแหน่งหน้าที่ของตนเองตามสภาพการเมืองของประเทศ ในปัจจุบัน ระบบการเลือกตั้งเป็นทีมเช่นเดียวกับการเลือกตั้งผู้บริหารระดับประเทศจะสร้างความรู้ ความเข้าใจ ต่อความรับผิดชอบในหน้าที่ของผู้บริหารต่อภารกิจที่เป็นสาธารณประโยชน์อย่างดียิ่งอันจะเป็นพื้นฐานการได้ ผู้บริหารที่ใส่ใจต่อทุกข์สุขของประชาชนและประโยชน์ส่วนรวมได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต แต่จะต้องสมัครรับเลือกตั้งเป็ม ทีมดังที่เสนอไว้ข้างต้นเช่นกัน สาหรับรัฐวิสาหกิจก็ให้มีการสรรหาผู้บริหารเป็นทีมเช่นกันแตกต่างเพียงมิได้ใช้ระบบการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม รายละเอียด หลักเกณฑ์วิธีการปลีกย่อยเพื่อจะนาแนวคิดข้อเสนอนี้ไปสู่ภาคปฏิบัติยังมี กระบวนการ ขั้นตอนอีกมากมาย ให้ถือเป็นภารกิจขององค์กรและหน่วยงานต่างๆตามที่ทีมบริหารระดับชาติจะ แสดงความสามารถและประสิทธิภาพให้เป็นที่ประจักษ์และศรัทธาให้บริหารประเทศต่อไป