ทิศทางราคาทองยังรอให้เกิดสัญญาณบวกจากแท่งเขียวแท่งแรกซึ่งเป็นแท่งแดงมาตั้งแต่หลุดแนวหนุนสำคัญที่ 1280 ่ลงมา ทิศทางค่าเงินบาท มองอยู่ 3 ประเด็น การเข้าซื้อ/ขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ,ค่าเงินดอลล่าร์และความน่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคใกล้เคียงทั้งอาเซียนและเอเชียตะวันออก สำหรับประเด็นแรกนั้นเมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนนักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมราว 65 พันล้านบาทเมื่อพิจารณาจาก(เริ่มต้นคำวนณเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2554 ) และขายออกต่ำสุดที่ราว -167 พันล้านรวมขายออกมาราว 232 พันล้านบาท ถึงปัจจุบันมีการซื้อกลับของนักลงทุนต่างชาติไปแล้ว 30 พันล้านบาทคิดเป็น 12.93 % ของการขายออกมาทั้งหมด ทั้งนี้การขายรอบหลักๆ มีขายออกตอนทำจุดสูงสุดในหุ้นกลางปี 2556 และตอนที่ประเทศไทยเริ่มต้นมีการชุมนุมทางการเมือง ทำให้มองเฉพาะรอบการชุมนุมต่างชาติยังซื้อกลับน้อยมาก หากว่าประตูการลงทุนเปิดมากขึ้น(ยกเลิกกฎอัยการศึก) และความสนใจลงทุนกลับมาเหมือนเดิมก่อนชุมนุมระดับการถือครองหุ้นไทยจะสูงกว่านี้นั่นหมายถึงเม็ดเงินอีกจำนวนราว 50 - 80 พันล้านบาทจะกลับมาซื้อหุ้นไทย ทั้งหุ้นไทยที่จะถูกซื้อและเงินบาทที่จะแข็งค่า จากสมมติฐานนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยระยะกลางถึงยาวที่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่ามากกว่าอ่อนค่า เพียงแต่ในช่วงสั้นนี้ที่ค่าเงินบาทมีทิศทางไปตามค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมากกว่าปัจจัยอื่นๆจึงมองว่าเป็นช่วงที่อาจจะอ่อนค่าลงได้ แต่ระยะสั้นเริ่มมี upside จำกัดสำหรับค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวขึนต่อเนื่องมาทดสอบระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีทีระดับ 84.5 จุดรวมถึงค่าเงินบาทที่มีแนวต้านสำคัญบริเวณ 32.35 - 32.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ