More Related Content
Similar to ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต (20)
More from วีรวัฒน์ สว่างแสง (11)
ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
- 2. อินเทอร์เน็ต (internet) มาจากคาว่า inter connection network
หมายถึง เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ เชื่อมโยงเครื่อง
คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลกให้สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้ โดยใช้มาตรฐาน
เดียวกันในการรับส่งข้อมูล (สุวิช ถิระโคตร, 2554, หน้า 9) ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์
แต่ละเครื่องสามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่างๆ เช่น ตัวอักษร ภาพและเสียงได้
สามารถค้นหาข้อมูลจากที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพราะอินเทอร์เน็ตมี
มาตรฐานในการรับส่งข้อมูลที่ชัดเจนเป็นหนึ่งเดียวจึงทาให้การเชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์ต่างชนิดกันสามารถทาได้อย่างสะดวก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคอมพิวเตอร์
ที่เชื่อมต่อกันเข้าเป็นเครือข่ายหลักของอินเทอร์เน็ต มักจะเป็นระบบเครือข่ายของ
มินิคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายท้องถิ่นและเครือข่ายของ
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ จึงอาจกล่าวได้ว่าอินเทอร์เน็ตเป็น เครือข่ายของเครือข่าย
(network of network) ส่วนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นมักจะไม่เชื่อมต่อกับ
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเพียงแต่เชื่อมต่อเข้าไปตามความต้องการในการ
ใช้งานเท่านั้น
- 4. อินเทอร์เน็ต (tranmission contocol protocol/internet protocol : TCP/IP)
เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถติอต่อกันได้โดยใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งถือ
ว่าเป็นสิ่ง สาคัญที่อาร์พาเน็ตได้วางรากฐานไว้ให้กับอินเทอร์เน็ตเพราะจาก
มาตรฐานการรับส่งข้อมูลแบบ TCP/IP ทาให้ครื่องคอมพิวเตอร์ต่างชนิดกัน
สามารถติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูลไปมาระหว่างกันได้
- 6. อินเทอร์เน็ต (tranmission contocol protocol/internet protocol : TCP/IP)
เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถติอต่อกันได้โดยใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งถือ
ว่าเป็นสิ่ง สาคัญที่อาร์พาเน็ตได้วางรากฐานไว้ให้กับอินเทอร์เน็ตเพราะจาก
มาตรฐานการรับส่งข้อมูลแบบ TCP/IP ทาให้ครื่องคอมพิวเตอร์ต่างชนิดกัน
สามารถติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูลไปมาระหว่างกันได้
- 7. เทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างเว็บ 3.0 ประกอบด้วย
1. artificial intelligence (AI) เป็นการนาปัญญาประดิษฐ์มาใช้วิเคราะห์
พฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดการทางานอย่างอัตโนมัติ
2. automated reasoning เป็นการสร้างระบบให้มีการประมวลผลอย่างสม
เหตุผลแบบอัตโนมัติ โดยใช้หลักการทางคณิตศาสตร์มาช่วยในการวิเคราะห์และ
ประมวลผล
3. cognitive architecture เป็นการนาเสนอระบบประมวลผลที่มีการทางาน
เหมือนกันด้วยการสร้างเครื่องมือในโลกเสมือนมาใช้ในการทางานจริง
- 8. 4. composite applications เป็นระบบประยุกต์ที่สร้างจากการรวมหลายระบบ
เข้าด้วยกัน เพื่อทาให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น
5. distributed computing เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่อง ที่สามารถ
สื่อสารถึงกันได้บนเครือข่ายในการประมวลผล โดยใช้ส่วนที่แตกต่างกันของ
โปรแกรมเข้ามาช่วยประมวลผลในการทางาน
6. human-based genetic algorithms เป็นกระบวนการที่อนุญาตให้มนุษย์
สามารถสร้างนวัตกรรมที่ทาให้สามารถเปลี่ยนแปลง เกี่ยวพันและเชื่อมโยงกันได้
หลายรูปแบบแล้วแต่ความต้องการ
- 9. 7. knowledge representation เป็นวิธีการที่ระบบใช้ในการเข้ารหัสและเก็บ
ความรู้ในฐานความรู้
8. web ontology language (OWL) เป็นภาษาที่ใช้อธิบายข้อมูลในเว็บไซต์จาก
ความสัมพันธ์ โดยพิจารณาจากความหมายของสิ่งต่างๆ ทาให้เกิดประสิทธิภาพ
ในการค้นหาข้อมูล
9. scalable vector graphics (SVG) เป็นรูปแบบของ XML ที่นิยามวัตถุใน
ภาพวาดด้วย point path และ shape
- 10. 10. semantic web เป็นเว็บเชิงความหมายที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่สัมพันธ์
กันเข้าด้วยกันทั้งจากแหล่งข้อมูลเดียวกันและต่างแหล่งกัน ทาให้เกิดการ
เชื่อมโยงฐานข้อมูลเข้าด้วยกัน
11. semantic wiki เป็นการอธิบายข้อมูลซอนข้อมูล และให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
กับคาที่ต้องการได้อย่างถูกต้องและแม่นยาขึ้น
12. software agent เป็นโปรแกรมที่สามารถเป็นตัวแทนในการทางานตามที่
กาหนดแบบอัตโนมัติ
องค์กรเว็บไซต์สากล (world wide web consortium : W3C) ได้กาหนดคา
สาคัญที่เป็นมาตรฐานสาหรับเว็บ 3.0 คือ ต้องเป็นเว็บที่มีคุณลักษณะเว็บเชิง
- 11. ความหมายที่สามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่เชื่อมโยงกันจากความ
ต้องการของผู้ใช้ อาจกล่าวได้ว่า เว็บเชิงความหมาย เป็นเทคโนโลยีหนึ่งของเว็บ
3.0 ที่เน้นการจัดการกับเนื้อหาที่มีการจัดเก็บใน metadata ที่มีการแบ่งข้อมูล
ออกเป็นส่วนย่อยหรือฐานข้อมูลความรู้ ontology เพื่อนิยามความหมายของ
ข้อมูลและอาศัยหลักการเชื่อมโยงชุดข้อมูลที่สัมพันธ์กัน โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ
เช่น RDF, OWL ทาให้ระบบสืบค้นของเว็บเชิงความหมายนาไปประมวลผลและ
แสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพในประเด็นที่ตรงกับความต้องการ โดยผู้ใช้
สามารถเชื่อมต่อการใช้งานแอพพลิเคชันบนอุปกรณ์ใดก็ได้ ทั้งคอมพิวเตอร์และ
โทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่ายผ่านการเชื่อมโยง
ฐานข้อมูลความรู้