More Related Content
More from วีรวัฒน์ สว่างแสง (6)
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับที่มาขององค์ความรู้
- 2. ความหมายและที่มาของความรู้
คำว่ำ ข้อมูล สำรสนเทศ ควำมรู้ และปัญญำ เป็นคำที่มีควำมหมำยคล้ำยคลึงกัน ซึ่ง
ซึ่งผู้เชี่ยวชำญได้ให้รำยละเอียดไว้ดังนี้ บดินทร์ วิจำรณ์ (2550, หน้ำ 113-115)
กล่ำวว่ำ ควำมรู้มีต้นกำเนิดมำจำก ข้อมูล ซึ่งมีควำมหมำยคือ สิ่งที่เกิดจำกกำรสังเกต
สังเกต และเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยยังไม่ผ่ำนกระบวนกำรวิเครำะห์ และ
กลั่นกรอง ขณะที่ สำรสนเทศ คือกลุ่มข้อมูลที่มีกำรจัดกำรที่สำมำรถบ่งบอกถึงสำระ
สำระแนวโน้ม และทิศทำงที่มีควำมหมำยสำมำรถทำกำรวิเครำะห์ได้ แต่สำรสนเทศจะ
สำรสนเทศจะเป็นองค์ควำมรู้ได้ก็ต่อเมื่อสำมำรถตีควำม และทำควำมเข้ำใจกับ
ข้อควำมได้ซึ่งขึ้นอยู่กับควำมสำมำรถของผู้รับว่ำจะสำมำรถถอดรหัสข่ำวสำร
ดังกล่ำวได้หรือไม่ มีควำมรู้ในด้ำนนี้หรือไม่ หำกตีควำมหรือถอดรหัสได้จะเกิดเป็น
เป็นควำมเข้ำใจ และเป็น ควำมรู้ ในที่สุด ซึ่งเมื่อเข้ำใจหลักกำร วัตถุประสงค์ของ
ควำมรู้อย่ำงถ่องแท้แล้วสำมำรถพัฒนำกำรให้เห็นถึงที่มำของปัญญำได้ในที่สุด ซึ่ง
ซึ่งสำมำรถสรุปรำยละเอียดได้ดังนี้
- 3. 1 ข้อมูล (data) เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกบันทึกลงไป และยังไม่มีการนามาแปล
ความหมาย โดยอาจมีจุดประสงค์เพื่อการตรวจสอบ หรือสอบกลับว่างานมี
ปัญหาหรือมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง ถือว่าการบันทึกข้อมูลเป็นเรื่องพื้นฐานที่
ต้องจัดทา เช่น การบันทึกข้อมูลนักศึกษาใหม่ จานวนนักศึกษาแต่ละชั้นปี การ
บันทึกเวลาปฏิบัติงานแต่ละวัน เป็นต้น
2 สารสนเทศ (information) เป็นข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ หรือ
สังเคราะห์ ให้ข้อมูลเกิดการตกผลึก มีการแปลงรูปของบันทึกและข้อมูลให้ง่าย
ต่อการทาความเข้าใจมากขึ้น เช่น การรวบรวมเวลาการปฏิบัติงานในแต่ละวัน
เพื่อดูสถิติการมา สาย ลา ขาดการปฏิบัติงาน ผลการเรียนแต่ละภาคเรียนแสดง
เกรดเฉลี่ยโดยภาพรวมของนักศึกษาทั้งหมด เป็นต้น
- 4. 3 ความรู้ (knowledge) หมายถึง สิ่งที่สั่งสมมาจากปฏิบัติ ประสบการณ์
ปรากฏการณ์ซึ่งได้ยิน ได้ฟัง การคิดจากการดาเนินชีวิตประจาวันหรือเรียกว่า
เป็นความรู้ที่ได้โดย ธรรมชาติ นอกจากนี้ความรู้ยังได้จากการศึกษาเล่าเรียน การ
ค้นคว้า วิจัย จากการศึกษาองค์วิชาใน แต่ละสาขาวิชา
4 ปัญญา (wisdom) เป็นความรู้ที่มีอยู่นามาคิดหรือต่อยอดให้เกิดคุณค่า หรือ
คุณประโยชน์มากขึ้น เช่น การลดปริมาณของพนักงานที่มาสายทาให้เกิดความ
พึงพอใจแก่ผู้มาใช้บริการมากขึ้น ลดคาร้องเรียน หรือการหาวิธีเพิ่มความรู้ให้แก่
นักศึกษาทาให้นักศึกษาสาเร็จ การศึกษาในปริมาณที่มากขึ้น ถือว่าเป็นการ
ประกันคุณภาพของการศึกษา เป็นต้น
- 6. 1.1 การเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อนาเข้าสู่การประมวลผล โดยการสร้างและการ
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูล และมีการบันทึกเป็นหลักฐานไว้ในสื่อประเภท
ต่างๆ ซึ่งข้อมูลที่นาเข้าอาจได้มาจากการเก็บรวบรวมมาจากสภาพแวดล้อมของ
องค์กร
1.2 การจัดระเบียบข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และ
สะดวกในการใช้ข้อมูล มีกระบวนการดังนี้
- 7. 1) การประเมินคุณค่าของข้อมูล และคัดข้อมูลที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ออก
2) การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่จะนาเข้าสู่
กระบวนการประมวลผลเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ สมบูรณ์ และอยู่ในรูปแบบที่พร้อม
จะนาเข้า
3) การตรวจแก้ข้อมูล มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความผิดพลาดจากการเก็บรวบรวม
ข้อมูล มักอยู่ในขั้นตอนการนาเข้าเข้ามูล หากพบสิ่งผิดพลาดจะได้ทาการแก้ไข
ก่อน
4) การนาเข้าข้อมูล เป็นขั้นตอนที่ข้อมูลแบบตัวเลข ข้อความ ภาพนิ่ง
ภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ อาจคัดลอกรายการข้อมูลจากเอกสารต้นฉบับเข้า
เครื่องประมวลผล หรือนาเข้าข้อมูลโดยพิมพ์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยตรง
และบันทึกไว้ในสื่อจัดเก็บจนกว่าจะถึงเวลาเรียกข้อมูลมาประมวลผล
- 8. 2 การประมวลผลข้อมูล (data processing) เป็นการจัดดาเนินการทางสถิติ หรือ
การเปลี่ยนข้อมูลที่นาเข้าสู่กระบวนการให้ออกมาเป็นผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือเป็น
การสร้างสารสนเทศใหม่จากสารสนเทศเก่าที่นาเข้าสู่กระบวนการประมวลผล
ซึ่งทาได้หลายวิธีดังนี้
2.1 การเรียงลาดับ (arranging)
2.2 การจัดหมวดหมู่ข้อมูล (classify
2.3 การคานวณ (calculation)
2.4 การสรุป (summarizing)
2.5 การวิเคราะห์ข้อมูล (data analysis)
- 9. 3 การจัดเก็บสารสนเทศ (storing) สารสนเทศที่ได้จากการประมวลผลจะถูก
จัดเก็บไว้ในแหล่งจัดเก็บ เพื่อการค้นคืนมาใช้ต่อไป แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
3.1 การจัดเก็บสารสนเทศไว้ที่แหล่งเดียวกัน โดยการจัดรวบรวมข้อมูลของเรื่อง
ต่างๆ จัดระเบียบไว้ตามลาดับชั้นของข้อมูลไว้ที่แหล่งเดียวกันซึ่งเรียกว่า
ฐานข้อมูล
3.2 การจัดเก็บสารสนเทศที่เป็นผลผลิตจากกระบวนการประมวลผลไว้ในสื่อ
จัดเก็บประเภทต่างๆ เพื่อการเรียกใช้อีกภายหลัง ได้แก่ การบันทึกข้อมูลลงแถบ
บันทึกคอมพิวเตอร์ การบันทึกข้อมูลลงบนจานบันทึก และการปรับข้อมูลให้เป็น
ปัจจุบัน
- 10. 3.3 การสืบค้นเพื่อใช้งาน (retrieval) เป็นกระบวนการในการค้นหาตาแหน่งที่
จัดเก็บสารสนเทศที่ต้องการใช้งานมาใช้งาน หรือหากต้องการเป็นหลักฐานอาจ
สั่งให้พิมพ์สารสนเทศออกมาเป็นเอกสารก็ได้
4 การส่งออกหรือการแสดงผล (output) เป็นกระบวนการของการประมวลผล
ไปสู่บุคคลที่ต้องการนาสารสนเทศไปใช้ในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น ในรูปแบบ
แผนภาพ แผนภูมิ รายงาน และการบันทึกตัวเลขลงบนแผ่นกระดาษ เป็นต้น
- 11. 5 การสื่อสารสารสนเทศ (information communicating) เป็นการส่งสารสนเทศ
ไปยังบุคคลอื่นหรือสถานที่อื่นโดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
โทรคมนาคมในการกระจายสารสนเทศไปสู่ผู้ใช้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ
กระบวนการแปลงข้อมูลเป็นสารสนเทศข้างต้นบ่งชี้ได้ว่าข้อมูลจะกลายเป็น
สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานได้ทันที เมื่อสารสนเทศนั้นสร้างจากการ
ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดการเพื่อให้ได้สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้
งานขององค์กร
- 13. การจัดการความรู้เป็นการดาเนินการอย่างน้อย 6 ประการต่อความรู้ ได้แก่
1) การกาหนดความรู้หลักที่จาเป็น หรือสาคัญต่องาน หรือกิจกรรมของกลุ่มหรือ
องค์กร
2) การเสาะหาความรู้ที่ต้องการ
3) การปรับปรุง ดัดแปลง หรือสร้างความรู้บางส่วนให้เหมาะต่อการใช้งานของ
ตน
4) การประยุกต์ใช้ความรู้ในกิจการงานของตน
5) การนาประสบการณ์จากการทางาน และการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ และสกัดขุมความรู้ออกมาบันทึกไว้
6) การจดบันทึก “ขุมความรู้” และ “แก่นความรู้” สาหรับไว้ใช้งาน และปรับปรุง
เป็นชุดความรู้ที่ครบถ้วน