SlideShare a Scribd company logo
1 of 13
สภาปฏิวัติแห่งชาติกับทางออกการเมืองไทย
หนังสือ“คดีสภาปฏิวัติแห่งชาติ” แผนพัฒนาการเมืองไปสู่ “ระบอบประชาธิปไตย” ตามแนวทาง
พระราชดำาริของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อผู้สนใจการเมือง โดยเฉพาะใน
สถานการณ์บ้านเมืองเราต้องการแสวงหาทางออกเพื่อสลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ในประเทศไทย
แม้ว่าจะมีการถกวิเคราะห์กันมามากกว่า ๒๐ ปีที่ผ่านมา แต่ปัญหาหลักคือ ระบอบการเมือง ยังไม่เคยแก้ให้
ตกไปได้
ฉะนั้นเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จึงเหมาะควรที่เราท่านน่าจะได้นำามาทบทวนกันอีกครั้ง ตามความ
คิดเห็นของผม ผมยังมองว่าเนื้อหาในนี้มีความก้้้าวหน้ามากทีเดียว และขอได้โปรดพินิจเคราะห์กันเอง
เถิด
นโยบายหลักของสภาปฏิวัติแห่งชาติ
ประกาศโดยที่ประชุมผู้แทนประชาชนทั่วประเทศ ก่อตั้งสภาปฏิวัติแห่งชาติ ณ โรงแรมเอเชีย
กรุงเทพมหานคร วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๐
สภาปฏิวัติแห่งชาติซึ่งเป็นองค์กรลักษณะผู้แทนปวงชนชาวไทยอันแท้จริง ขอแถลงนโยบายหลักของการ
ปฏิวัติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย ๖๖/๒๕๒๓ อันเป็นนโยบายที่ถูกต้อง เพื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตย
สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ ดังต่อไปนี้
1
๑. สถาปนาระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จ
ระบอบประชาธิปไตย นอกจากจะเป็นความต้องการของประเทศชาติและประชาชนแล้ว ยังเป็นปัจจัยอัน
จำาเป็นของการแก้ปัญหาทั้งปวงของชาติอีกด้วย จะต้องสร้างประชาธิปไตยให้สำาเร็จจึงจะแก้ปัญหา
การเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาวัฒนธรรมให้ตกไปได้ สภาปฏิวัติแห่งชาติจะสร้างสรรค์
ระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จด้วยมาตรการต่อไปนี้
๑.๑ เทิดทูนและพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติไทย และคู่กับชาติไทยมาแต่บรรพกาล แม้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราช
พระมหากษัตริย์ไทยก็ประกอบด้วยลักษณะประชาธิปไตยเป็นอันมากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของระบอบ
พระมหากษัตริย์ในประเทศไทย จึงเป็นการถูกต้องและจำาเป็นอย่างยิ่งที่ระบอบประชาธิปไตยของไทยจะมี
พระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ ซึ่งเป็นอุปการคุณสำาคัญที่สุดไม่เฉพาะแต่ในการสร้างระบอบ
ประชาธิปไตยให้สำาเร็จเท่านั้น หากในการแก้ปัญหาพิเศษต่างๆ ซึ่งสถาบันอื่นไม่อาจแก้ปัญหาได้อีกด้วย
๑.๒ การส่งเสริมความรู้ประชาธิปไตย
การที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จก็ดี การจะใช้ระบอบประชาธิปไตยแก้ปัญหาต่างๆ ของชาติก็
ดีขึ้นอยู่กับความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ผ่านมา
เป็นเพราะขาดความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมความรู้ประชาธิปไตยอย่างกว้างขวาง
ทั้งในด้านทฤษฎีและด้านการประยุกต์ทฤษฎีกับสภาวการณ์ และลักษณะพิเศษของประเทศไทย
๑.๓ ทำาให้อำานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
หัวใจของระบอบประชาธิปไตย คือ อำานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน นัยหนึ่งคือ การปกครองโดย
ประชาชน เพื่อประชาชนและของประชาชน แต่ความเป็นจริงอำานาจอธิปไตยยังไม่เป็นของประชาชน
อย่างแท้จริง เพราะนโยบายของรัฐที่ผ่านมายังไม่สนองความต้องการของประเทศชาติและประชาชนอย่าง
แท้จริง ฉะนั้น จึงต้องปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลทั้งนโยบายภายในประเทศและนโยบายต่างประเทศ ให้
สอดคล้องกับความต้องการของประเทศชาติและประชาชน และปรับปรุงรัฐสภาให้ทำาหน้าที่ของปวงชน
อย่างแท้จริง
๑.๔ ทำาให้บุคคลมีเสรีภาพบริบูรณ์
เสรีภาพบริบูรณ์ของบุคคลจะมีได้ก็แต่เฉพาะภายใต้อำานาจอธิปไตยของปวงชน เสรีภาพที่ไม่อยู่ภายใต้
อำานาจอธิปไตยของปวงชนนั้น ไม่ใช่เสรีภาพที่บริบูรณ์ ถ้าไม่เป็นเสรีภาพที่เกินขอบเขตแบบอนาธิปไตย
ก็เป็นเสรีภาพที่จำากัดเกินควรแบบเผด็จการ และเสรีภาพบริบูรณ์ของบุคคลย่อมทำาให้เกิดความรับผิดชอบ
แก่บุคคล ฉะนั้น เพื่อให้บังเกิดเสรีภาพชนิดนี้จะต้องทำาให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง ในขณะเดียวกันก็ต้อง
ยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่บั่นทอนเสรีภาพของบุคคล
๑.๕ สร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้มั่นคง
เสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยอันจำาเป็นของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย และปัจจัยอันสำาคัญที่สุด
ของเสถียรภาพทางการเมือง ก็คือ ความสนับสนุนของประชาชน และปัจจัยความสนับสนุนของประชาชน
ก็คือ นโยบายที่ถูกต้อง และปฏิบัตินโยบายนั้นให้ได้ผลประจักษ์แก่ประชาชน ฉะนั้นนอกจากจะต้อง
ปรับปรุงนโยบายให้ถูกต้องอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับระบอบ
2
ประชาธิปไตยด้วย
๑.๖ สร้างระบบพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง
พรรคการเมืองประชาธิปไตย คือ ผู้แทนทางการเมืองของประชาชนทำาหน้าที่จรรโลงและพัฒนาระบอบ
ประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่เข้มแข็งจะต้องเป็นพรรคที่มีนโยบายสอดคล้องกับนโยบายแห่งชาติที่ถูก
ต้อง จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรอย่างเป็นระบบและมีลักษณะเป็นพรรคมวลชน มิใช่เป็นเพียงพรรคสภาหรือ
พรรคนักการเมืองเท่านั้น ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมให้การสร้างพรรคการเมืองชนิดนี้บรรลุผลสำาเร็จ ซึ่ง
เงื่อนไขประการแรกคือ จะต้องยกเลิกกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อให้ระบบพรรคการเมืองพัฒนาไปตาม
ธรรมชาติ
๑.๗ ปรับปรุงระบบราชการให้เป็นประชาธิปไตย
ระบบราชการในประเทศไทย ยังเป็นปฏิปักษ์อย่างมากต่อระบอบประชาธิปไตย จึงยังไม่สามารถสนอง
ความต้องการของระบอบประชาธิปไตยได้ การปรับปรุงระบบราชการให้เป็นประชาธิปไตย จึงเป็นปัจจัยที่
จะขาดเสียมิได้ของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย วิธีการปรุงก็คือ ประสานระบบราชการเข้ากับระบบ
พรรคการเมือง โดยให้ข้าราชการเข้าร่วมกิจการของพรรคการเมืองได้อย่างเสรี ซึ่งจะยังผลให้ข้าราชการ
ได้มีจิตสำานึกทางการเมืองของตน และจิตสำานึกทางการเมืองนั้น จะทำาให้ข้าราชการเป็นข้าราชการของ
ประชาชนได้
๑.๘ ส่งเสริมกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ
กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ เป็นสิ่งแสดงออกของพลังมวลชนและเป็นพลังผลักดันทางการเมืองในการพัฒนา
ระบอบประชาธิปไตย แต่กลุ่มผลประโยชน์ย่อมมีความขัดแย้งกัน เพราะมีผลประโยชน์แตกต่างกัน ระบอบ
ประชาธิปไตยย่อมแก้ไขความขัดแย้งด้วยการไม่ทำาลายกัน แต่ด้วยการประสานประโยชน์ระหว่างกัน โดย
การทำาให้ผลประโยชน์ของแต่ละกลุ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผลประโยชน์ของชาติ โดยนายทุน
กรรมกร ชาวนา นักศึกษา ฯลฯ จะคำานึงถึงผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวไม่ได้ แต่จะต้องคำานึงถึงผล
ประโยชน์ของฝ่ายอื่นด้วย โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
๑.๙ ส่งเสริมสถาบันหนังสือพิมพ์และการแสดงประชามติประชาธิปไตย
สถาบันหนังสือพิมพ์ในฐานะฐานันดรที่ ๔ ย่อมเป็นกลไกอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยนอกเหนือจาก
เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของการแสดงประชามติ ฉะนั้นผู้ทำาหนังสือพิมพ์จึงเป็นบุคคลในสถาบันซึ่งจะต้องมี
ความรับผิดชอบกว่าบุคคลธรรมดา การส่งเสริมเสรีภาพบริบูรณ์ของคนทำาหนังสือพิมพ์ จึงแตกต่างกับ
บุคคลนอกสถาบัน จะถือว่า “เสรีภาพของหนังสือพิมพ์ คือ เสรีภาพของประชาชน” หาได้ไม่
ประชามติที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนจึงจะเป็น และความถูกต้องของ
ประชามติก็มิได้วัดด้วยจำานวนคนที่แสดง แต่วัดด้วยผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม ประชามติใดแม้
จะแสดงด้วยคนจำานวนน้อย แต่ถ้าสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมก็เป็นประชามติ
ประชาธิปไตย ฉะนั้น สภาปฏิวัติแห่งชาติจึงสนับสนุนประชามติที่ถูกต้อง แต่จะป้องกันประชามติที่ไม่ถูก
ต้อง
๑.๑๐ สนับสนุนขบวนการประชาธิปไตย
ขบวนการประชาธิปไตยย่อมประกอบด้วยบุคคลกลุ่มต่างๆ ที่มีความมุ่งหมายเพื่อความสำาเร็จของระบอบ
ประชาธิปไตย แต่เนื่องจากแนวโน้มแห่งวิวัฒนาการของประเทศไทยเป็นแนวโน้มทางประชาธิปไตย จึง
3
ทำาให้กลุ่มชนที่เป็นปรปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย จำาเป็นต้องแอบแฝงโดยยกเอาประชาธิปไตยขึ้นนำา
หน้า
สภาปฏิวัติแห่งชาติสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริงทั้งสิ้น แต่จะขัดขวางขบวนการที่ขัดขวาง
ขบวนการประชาธิปไตยที่แอบแฝงอำาพราง
๑.๑๑ ทำาลายการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพล
การกดขี่ด้วยประการใดๆ โดยผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพลเป็นลักษณะของระบอบเผด็จการ ตราบใดที่มีการ
กดขี่โดยผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพลตราบนั้นยังไม่มีระบอบประชาธิปไตย หรือไม่มีระบอบประชาธิปไตยอัน
แท้จริง ฉะนั้นจึงต้องกำาจัดการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพลทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นให้หมดไป
๑.๑๒ จัดระบอบบริหารส่วนท้องถิ่น ส่วนภูมิภาคและส่วนกลางให้สอดคล้องกันยิ่งขึ้น
การกระจายอำานาจเป็นลักษณะหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย วิธีการคือ ทำาให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
มีอิสระมากขึ้น และให้องค์การบริหารส่วนภูมิภาคมีฐานะเป็นตัวแทนขององค์การบริหารส่วนกลางอย่าง
แท้จริง ไม่ใช่องค์การบริหารส่วนกลางทำางานแข่งขันซำ้าซ้อนกับองค์การบริหารส่วนภูมิภาคหรือส่วนท้อง
ถิ่น แต่ให้องค์การบริหารสามส่วนนี้มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี
๑.๑๓ สร้างสันติภาพภายในประเทศให้สมบูรณ์ และกระชับความสามัคคีแห่งชาติ
สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย ถึงแม้ว่ากองทัพสามารถยุติสงครามกลางเมืองลงได้โดยพื้นฐานแล้ว
ก็ตาม แต่การต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายคอมมิวนิสต์แนวทางอาวุธยังดุเดือดเข้มข้นอยู่ โดย
ฝ่ายคอมมิวนิสต์แนวทางอาวุธพยายามทุกวิถีทางที่จะฟื้นฟูสงครามขึ้นใหม่ ซึ่งถ้าหากฝ่ายคอมมิวนิสต์
สามารถทำาได้แล้ว สงครามครั้งใหม่จะยังความหายนะแก่ประเทศชาติ และยังความทุกข์ยากแก่ประชาชน
มากกว่าสงครามครั้งที่แล้วหลายเท่านัก อันเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงแก่การสร้างระบอบประชาธิปไตย จึง
จำาเป็นที่จะต้องสกัดกั้นการฟื้นฟูสงครามของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เปลี่ยนแนวทางการต่อสู้
ด้วยอาวุธเป็นการต่อสู้ในแนวทางสันติ ตามนโยบายประชาธิปไตยที่ถูกต้องที่ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่งเป็น
นโยบายรากฐานของความสามัคคีแห่งชาติ และเป็นเส้นด้ายทองคำาร้อยพวงมาลัยแห่งความสามัคคี
ระหว่างประชาชนทุกหมู่เหล่าอีกด้วย
๒. พัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติให้สำาเร็จ
ระบบเศรษฐกิจเป็นรากฐานของระบอบการเมือง และระบอบการเมืองมีบทบาทผลักดันพัฒนาการของ
ระบบเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงจะดำาเนินการโดยเอกเทศมิได้ แต่จะต้องนำาเอาการแก้ปัญหา
เศรษฐกิจไปสัมพันธ์กับการแก้ปัญหาการเมือง โดยลงมือแก้ปัญหาการเมืองทันที และลงมือแก้ปัญหา
เศรษฐกิจไปพร้อมกัน การที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยตกอยู่ในภาวะล้าหลังมาเป็นเวลานาน ยังผล
ให้ประเทศไทยเป็นประเทศยากจน ฐานะการครองชีพของประชาชนตำ่า ไม่สามารถพัฒนาขึ้นเป็นประเทศ
รำ่ารวย และยกฐานะการครองชีพของประชนชนให้สูงขึ้นได้ ทั้ง ๆ ที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาตินั้น ก็
เพราะได้ดำาเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาโดยไม่ได้แก้ปัญหาการเมือง คือ ไม่ดำาเนินการเพื่อบรรลุถึงซึ่ง
ระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง ฉะนั้น บนรากฐานของการแก้ปัญหาการเมืองเพื่อความสำาเร็จของระบอบ
ประชาธิปไตยดังกล่าวมาแล้ว สภาปฏิวัติแห่งชาติจะพัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติใดสำาเร็จด้วยมาตรการ
ต่อไปนี้
๒.๑ ปรับปรุงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ความมุ่งหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คือ เพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยสังคม
4
ประชาธิปไตย คือ สังคมที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย และมีระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม ระบอบ
เศรษฐกิจเสรีนิยมที่พัฒนาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง จะนำามาซึ่งความไพบูลย์และความ
ยุติธรรม แต่การที่จะบรรลุความมุ่งหมายดังกล่าวนี้ได้ จะต้องใช้ระบอบประชาธิปไตยทำาการเปลี่ยนระบบ
เสรีนิยมที่ล้าหลังและผูกขาดดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้เป็นระบบเสรีนิยมที่ก้าวหน้าและเสรี และแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีบทบาทสำาคัญอันดับแรกต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ ฉะนั้นจึงต้องทบทวน
โครงสร้างของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกับความมุ่งหมาย
เพื่อบรรลุถึงสังคมประชาธิปไตยที่พัฒนา ซึ่งเป็นแผนที่มีเนื้อหาในการทำาให้ประเทศไทยเป็นประเทศ
อุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับภาวการณ์ของประเทศไทยโดยเฉพาะคือ เน้นหนักการพัฒนาการเกษตรกรรม
และพัฒนาอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่งให้สอดคล้องกัน
๒.๒ การกระจายทุน
การรวมศูนย์ทุน ทำาให้วิสาหกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะคือ วิสาหกิจเส้นเลือดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
อุตสาหกรรมหนัก การค้าต่างประเทศ การค้าส่งสินค้าหลักภายในประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การ
ขนส่งหลักภายในประเทศ มีอำานาจครอบงำาและบงการต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เป็นอุปสรรค
ต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉะนั้น จึงต้องลดอำานาจของการครอบงำาและบงการดังกล่าวลง
โดยทำาให้ทุนกระจายไปสู่ประชาชนด้วยมาตรการเหล่านี้คือ
๒.๒.๑ การปฏิรูปที่ดิน
เป็นวิธีการกระจายทุนทางที่ดินไปสู่ชาวไร่ชาวนา ในขณะเดียวกันรายได้ของเจ้าของที่ดินจากการเวนคืน
ที่ดิน ก็จะกระจายไปสู่รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และอื่นๆ โดยเฉพาะในรูปของพันธบัติหุ้น
ส่วนในรัฐวิสาหกิจเหล่านั้น การกระจายทุนทางที่ดินด้วยการปฏิรูปที่ดิน เป็นปัจจัยอันดับแรกของความ
เติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่ง โดยทำา
เกษตรกรรมสามารถสนองวัตถุดิบแก่อุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมสนองเครื่องมือวัตถุอุปกรณ์และการ
ป้องกันภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกรรม และเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมต่างก็สนองตลาดให้แก่กันและกัน
ฉะนั้น การปฏิรูปที่ดินจึงมิใช่เพียงเพื่อการเกษตรกรรม หรือเพียงเพื่อช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ให้มีที่ทำากิน
แต่ข้อสำาคัญเพื่อความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้งระบบ
๒.๒.๒ เปลี่ยนบริษัทครอบครัวของวิสาหกิจเอกชนต่างๆ เป็นบริษัทมหาชน
๒.๒.๓ ให้สหกรณ์เป็นเครื่องมือของการกระจายทุน
๒.๒.๔ รัฐเข้ามีส่วนร่วมนากรบริหารวิสาหกิจเอกชน
แต่เดิมรัฐเพียงแต่ควบคุมวิสาหกิจเอกชน เช่น ธนาคารชาติควบคุมธนาคารพาณิชย์ด้วยการจดทะเบียน
ปริมาณทุนปริมาณเงินฝาก ปริมาณเงินวางธนาคารชาติ ฯลฯ ซึ่งไม่เพียงพอแก่การลดการรวมศูนย์ทุน แต่
รัฐจะต้องทำาการควบคุมโดยตรง เช่น ผู้แทนของรัฐเข้ามีส่วนในการบริหารเป็นต้นอีกด้วย
๒.๓ สร้างความสมดุลระหว่างภาคสาธารณะกับภาคเอกชน
ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมของประเทศไทย มิใช่มีแต่เศรษฐกิจเอกชนอย่างเดียว แต่มีเศรษฐกิจสาธารณะ
โดยเฉพาะคือเศรษฐกิจของรัฐอีกด้วย โดยภาคสาธารณะตั้งอยู่บนรากฐานของภาคเอกชน แต่ภาค
สาธารณะแม้ว่าจะเป็นฝ่ายข้างน้อยก็มีความสำาคัญในฐานะเป็นหลักนำาต่อภาคเอกชน และส่งเสริมช่วย
5
เหลือภาคเอกชน ภาคสาธารณะกับภาคเอกชนจะต้องมีความสมดุลกัน จึงจะสามารถเป็นปัจจัยให้แก่การ
ขยายตัวของกันและกัน วิธีการสร้างความสมดุล คือ ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะโดยเฉพาะของ
รัฐวิสาหกิจเสียใหม่ทั้งหมดทั้งฝ่ายสาธารณูปโภคและฝ่ายบริโภค ทั้งที่ผูกขาดและไม่ผูกขาด เพื่อให้
รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นมีประสิทธิภาพเท่าเทียมหรือเหนือกว่าวิสาหกิจเอกชน เพื่อจะได้ทำาหน้าที่เป็นหลักนำา
และส่งเสริมช่วยเหลือวิสาหกิจเอกชน และเพื่อคานวิสาหกิจเอกชนในการรักษาเสถียรภาพของตลาด การ
ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะนั้น ให้องค์การแรงงานของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เข้าร่วมดำาเนินการด้วย
๒.๔ สร้างความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรม
สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน เกษตรกรรมเป็นฝ่ายครอบงำา แต่ทิศทางของพัฒนาการจะต้อง
มุ่งไปสู่ความเป็นอุตสาหกรรม ภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าวการพัฒนาจะต้องเน้นหนักในการพัฒนา
เกษตรกรรม ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาอุตสาหกรรมให้ได้สัดส่วนกัน และการพัฒนาอุตสาหกรรมจะต้อง
เน้นหนักการพัฒนาอุตสาหกรรมเบา (อุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบเกษตรกรรมภายในประเทศ เป็นสินค้า
สำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูป) แต่การพัฒนาอุตสาหกรรมเบาก็ต้องมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก (อุ
ตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมเครื่องจักร อุตสาหกรรมเคมี) ซึ่งเป็นรากฐานอัน
สำาคัญที่สุดของการทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย
๒.๕ สร้างความสมดุลระหว่างเมืองกับชนบท
ที่แล้วมาการขยายตัวของเมืองและชนบทเป็นไปอย่างไม่สมำ่าเสมอ ความเจริญเข้ามารวมอยู่ในเมืองหลวง
และนครใหญ่ ชนบทยังล้าหลังห่างไกล ฉะนั้น จึงต้องเร่งรัดสร้างความเจริญให้แก่ชนบทในทุกทาง และ
ทำาให้ชนบทให้เป็นที่อยู่ดีกินดี ขณะเดียวกันก็ระบายความแออัดยัดเยียดออกจากเมืองหลวงและนครใหญ่
วิธีการคือ จะต้องแบ่งสันปันส่วนภาษีอากรระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นอย่างเหมาะสม
และทำาให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นไม่ต้องอาศัยงบประมาณส่วนกลาง กับขยายอุตสาหกรรมไปสู่ชนบทให้
สอดคล้องกับเกษตรกรรม ที่ไหนมีเกษตรกรรมอย่างไรก็ขยายอุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบอย่างนั้น สร้าง
ความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมขึ้นในท้องถิ่นและยกระดับของชนบทจนถึงขนาดที่คนไม่
ไหลเข้าสู่เมือง แต่ชนบทกลับเป็นที่ดึงดูดคนในเมืองให้ระบายออกไป
๒.๖ สร้างความสมดุลระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจกับการขยายตัวของประชากร
ปัญหาร้ายแรงในปัจจุบันก็คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ทันกับการขยายตัวของประชากร จึงจำาเป็น
อย่างรีบด่วนที่จะต้องเร่งรัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างงานให้เพียงพอกับคน ขณะเดียวกันก็จะ
ต้องลดการขยายตัวของประชากรอย่างน้อยชั่วระยะหนึ่ง การเร่งรัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็คือ
๒.๖.๑ เพิ่มการผลิตทางการเกษตร บนรากฐานของการปฏิรูปที่ดินและทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย
ทำาการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยเฉพาะคือพืชเศรษฐกิจด้วยการใช้วิชาการเกษตรกรรมแบบใหม่ให้ทั่วถึง
ปรับปรุงระบบชลประทาน จัดหาและจำาหน่ายปุ๋ยในราคาเยา ส่งเสริมการปลูกพืชหมุนเวียน ให้การศึกษา
ด้านเกษตรกรรมแก่ชาวนาชาวไร่อย่างเต็มที่ ขยายกิจการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ให้กว้าง
ขวางทั่วประเทศ เพิ่มบริการชาวนาชาวไร่อย่างมีประสิทธิภาพ จัดประเภทการผลิตทางเกษตรกรรมให้
เหมาะสมกับท้องที่ และแนะนำาเกษตรกรให้ปลูกพืชให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด ประกันราคา
ของสินค้าเกษตรกรรม โดยขยายและรักษาตลาดต่างประเทศอย่างมั่นคงและใช้ค่าพรีเมี่ยมทั้งหมดเป็นก
องทุนสงเคราะห์เกษตรกร ใช้วิธีการสหกรณ์เข้าช่วยเหลือการขยายเกษตรกรรมอย่างเต็มที่ และสนับสนุน
การรวมกลุ่มเกษตรกรเป็นสถาบันการเกษตร
6
๒.๖.๒ เพิ่มการผลิตทางอุตสาหกรรม เน้นหนักอุตสาหกรรมที่แปรรูปวัตถุดิบเกษตรกรรมภายในประเทศ
ให้เป็นสินค้าสำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูปพร้อมทั้งขยายการผลิตของอุตสาหกรรมครอบครัว ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพูน
สินค้าบริโภคให้มากที่สุด และการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว จะต้องมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอุตสห
กรรมขั้นมูลฐาน ป้องกันการโจมตีจากต่างประเทศโดยตั้งกำาแพงภาษี หรือห้ามสั่งสินค้าเข้าตามความ
เหมาะสม กระจายอุตสาหกรรมไปยังแหล่งวัตถุดิบขยายการฝึกอบรมแรงงาน ส่งเสริมสมาคมนายจ้างและ
สหภาพแรงงาน และส่งเสริมหลักการผลประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างนายทุนกับแรงงาน ส่งเสริม
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
๒.๖.๓ ขยายพาณิชยกรรม ขยายตลาดต่างประเทศทั้งสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม พยายาม
ขยายตลาดเข้าไปในตลาดสังคมนิยมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำาได้ และรัฐเข้าดำาเนินการค้าต่างประเทศเอง
ตามความจำาเป็น แก้ไขความเสียเปรียบในวิธีดำาเนินการค้าและธุริจของต่างประเทศ แก้ไขการเสียเปรียบ
ดุลการค้า โดยลดปริมาณสินค้าปัจจัยบริโภคโดยเฉพาะ คือ ของฟุ้มเฟือย และเพิ่มปริมาณสินค้าปัจจัยการ
ผลิตโดยเฉพาะคือ เครื่องจักร พยายามตัดคนกลางในการส่งวัตถุดิบไปต่างประเทศ พร้อมทั้งกวดขันการ
ควบคุมมาตรฐานสินค้า เพิ่มปริมาณส่งออกวัตถุแปรรูป การค้าบางอย่างใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรง
ส่วนตลาดภายในประเทศจะต้องทำาให้มีเสถียรภาพ โดยให้องค์การค้าของรัฐทำาหน้าที่ตรึงราคาอย่างมี
ประสิทธิภาพ และใช้สหกรณ์กำาจัดคนกลาง
๒.๖.๔ ขยายการขนส่ง โดยเพิ่มปัจจัยการขนส่งอย่างรอบด้าน ควบคุมค่าขนส่งให้พอเหมาะพอดี มิให้มี
ผลกระทบกระเทือนต่อการตลาดและการผลิต
๒.๖.๕ ขยายทุน ระดมและกระจายทุนทั้งทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่ง โดย
เน้นหนักในการขยายทุนทางเกษตรกรรม แหล่งของทุนเอามาจากการผลิต ภาษีอากร การประหยัด และ
ทุนจากต่างประเทศที่ไม่มีเงื่อนไขทางการเมือง
๒.๗ ควบคุมการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติให้เป็นธรรม
ตามสภาพที่เป็นอยู่รายได้แห่งชาติ ๙๐ % เฉลี่ยระหว่างคนรวย และรายได้แห่งชาติ ๑๐% เฉลี่ยระหว่าง
คนจน ซึ่งเป็นการเฉลี่ยที่ไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยกว้างมาก รัฐจึงต้อง
ควบคุมการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติให้เป็นธรรม เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนให้แคบลง การ
ควบคุมเฉลี่ยรายได้แห่งชาตินั้น มิใช่กระทำาด้วยกฎหมายหรืออำานาจบังคับ แต่กระทำาโดยการส่งเสริมการ
พัฒนาระบบเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพของประเทศไทย ตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง เพื่อให้
เศรษฐกิจแห่งชาติได้ขยายตัวไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เช่น การจำากัดการผูกขาด การกระจายทุน การ
ขยายการผลิต การตัดคนกลาง การเฉลี่ยงบประมาณระหว่างส่วนกลางกับส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น
เป็นต้น การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างได้ผลตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง ทำาให้รายได้เฉลี่ยของประชากร
ทั่วไปสูงขึ้น และการใช้ระบบผูกขาดควบคุมการครองชีพของประชาชนก็จะเบาบางหรือหมดสิ้นไป ทำาให้
เกิดการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติเป็นธรรมโดยอัตโนมัติ แม้จะใช้กฎหมายบ้างก็เป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่ถ้า
ไม่พัฒนาเศรษฐกิจให้ได้ผล การใช้กฎหมายในเรื่องนี้ก็ไม่มีประโยชน์ อย่างกฎหมายกำาหนัดค่าจ้างขั้นตำ่า
ถ้าพัฒนาเศรษฐกิจล้มเหลว กฎหมายนั้นก็เป็นเพียงเศษกระดาษชิ้นหนึ่ง รวมความว่าการควบคุมเฉลี่ยราย
ได้แห่งชาติ ก็คือการพัฒนาระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบายและ
แผนอันถูกต้อง
7
๒.๘ ร่วมมือทางเศรษฐกิจกับนานาประเทศ โดยไม่เลือกระบบสังคม ภายใต้หลักการของความเป็นอิสระ
และพึ่งตนเอง
การเมืองตั้งอยู่บนรากฐานของเศรษฐกิจ ฉะนั้น การร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่จะไม่เกี่ยวข้อง
กับการเมืองเลยจึงเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศในระบบสังคมเดียวกัน หรือคนละ
ระบบสังคมก็ตาม ถ้ายอมรับว่าเศรษฐกิจและการค้าขึ้นต่อการเมืองและดำาเนินไปตามหลักการนี้ โดยทำาให้
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศสังคมนิยมและประเทศเสรีนิยมด้วยกันขึ้นต่อนโยบายต่าง
ประเทศที่ถูกต้องแล้ว การร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้ากับนานาประเทศโดยไม่เลือกระบบสังคม ก็จะ
เป็นผลดีแก่การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติอย่างใหญ่หลวง และนี่คือการร่วมมือภายใต้หลักการของความ
เป็นอิสระ และพึ่งตนเองตามลักษณะพิเศษของนโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องของไทย คือ นโยบายอิสระ
๒.๙ ปัญหาการคลังและการเงิน
การคลังและการเงินเป็นองค์ประกอบสำาคัญของเศรษฐกิจ จึงต้องแก้ปัญหาการคลังและการเงินโดย
สัมพันธ์กับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ การขยายเศรษฐกิจจะต้องดูจากการผลิตการภาษีว่าขยายตัวได้
อย่างไร ไม่ให้เกินตัวจนต้องอาศัยเงินกู้จนเกินควร การเก็บภาษีควรเอาจากการผลิตเป็นอันดับแรก ภาษี
สินค้าขาเข้าขาออกเป็นอันดับต่อมา ภาษีเอกชนเป็นอันดับสุดท้าย แต่ภาษีสินค้าเข้าสินค้าออกจะต้องไม่
ทำาลายการส่งเสริมการผลิตและการค้าต่างประเทศ ปัญหาการเงินที่สำาคัญนั้นอยู่ที่จะต้องรักษาเสถียรภาพ
ของเงินบาท วิธีการคือ เปลี่ยนมาตรฐานเงินตราต่างประเทศเป็นมาตรฐานทองคำาเป็นหลัก เพราะใน
ปัจจุบันเงินตราต่างประเทศ เช่นสกุลดอลล่าร์มักจะขาดเสถียรภาพ แต่ไม่หมายความว่าจะยกเลิก
มาตรฐานเงินตราต่างประเทศเพียงมาตรฐานดอลล่าร์ มาตรฐานปอนด์ ฯลฯ เป็นส่วนประกอบ วิธีการเช่นนี้
จะเป็นส่วนช่วยอย่างสำาคัญในการรักษาเสถียรภาพของเงินบาท
๓. การสังคม
๓.๑ แก้ปัญหาสังคมบนรากฐานของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการศึกษาอบรม
ปัญหาสังคม เช่น ปัญหาการว่างงาน ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาคอรัปชั่น และความเน่าเฟะต่างๆ ใน
สังคม ส่วนสำาคัญเกิดจากความยากจนและการไม่มีงานทำา อันเนื่องมาจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแห่งชาติ
ไม่ตก ฉะนั้น ถ้าความยากจนและการไม่มีงานทำายังครอบงำาสังคมอยู่ การพรำ่าสอนไม่ทำาให้ทำาชั่วและขยัน
ขันแข็งประกอบสัมมาอาชีพจึงไม่ใคร่จะได้ผล เพราะถ้าไม่ประกอบอาชญากรรม ทำาคอรัปชั่น หรือ
ประกอบมิจฉาชีพก็ไม่มีอะไรจะกิน และถึงแม้จะขยันขันแข็งก็ไม่มีงานทำา แต่การศึกษาอบรมจะได้ผลเต็ม
ที่ถ้าความยากจนบรรเทาลง คนมีงานทำาและอาชญากรรมแก้ไขได้ คอรัปชั่นปราบได้ การว่างงานขจัดได้
ด้วยการศึกษาอบรมและมาตรการทางกฎหมาย ถ้าพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผนอันถูก
ต้อง
๓.๒ แผนการศึกษาแห่งชาติขึ้นต่อแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ
สมัยก่อน การบำารุงการศึกษาไม่มีขอบเขตจำากัด เพราะสมัยนั้นความเจริญของบ้านเมืองขึ้นอยู่กับการ
ศึกษาของประชาชน ยิ่งขยายการศึกษามากเพียงใดบ้านเมืองก็เจริญมากเพียงนั้น แต่ในปัจจุบัน การ
ขยายตัวทางการศึกษาจำากัดด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การขยายตัวทางการศึกษาอย่างไม่มีขอบเขต
จำากัดแทนที่จะเป็นผลดีกลับเป็นผลร้าย โดยเฉพาะจะเป็นเหตุหนึ่งของการว่างงาน การจำากัดการขยายตัว
ของการศึกษานั้น ไม่หมายถึงการลดงบประมาณการศึกษา งบประมาณการศึกษาจะต้องเพิ่มขึ้นโดยลำาดับ
อย่างแน่นอน การจำากัดการขยายตัวของการศึกษา หมายความถึงแผนการศึกษาจะต้องขึ้นต่อแผน
เศรษฐกิจ ซึ่งจะกำาหนดให้การขยายการศึกษาเป็นไปตามความต้องการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ
8
ในสภาวการณ์ใดระดับการศึกษาและวิชาชีพใดเพียงพอแก่ความต้องการก็ลดลว ในสภาวการณ์ใดระดับ
การศึกษาและสาขาอาชีพใดเป็นความต้องการ ก็เพิ่มขึ้น ส่วนด้านสามัญศึกษาจะต้องขยายให้มากที่สุด
ไม่มีขอบเขตจำากัด ตามระดับความสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นลำาดับไป ทั้งนี้ จะเป็นไปได้โดย
ขยายการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาให้มากที่สุด และควบคุมการศึกษาของเอกชนอย่าง
เคร่งครัด การศึกษาของชาติจะประสบความสำาเร็จสมความมุ่งหมายขึ้นอยู่กับความถูกต้องของแผน
เศรษฐกิจแห่งชาติ และประสานแผนการศึกษาแห่งชาติเข้ากับแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ
๓.๓ ดำาเนินการประกันสังคมทั่วทุกด้าน
ความไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ อันเกิดจากผลสำาเร็จของการสร้างระบบเศรษฐกิจของระบอบประชาธิปไตย
ตามนโยบายที่ถูกต้อง ย่อมจะเป็นปัจจัยให้มีงานให้ประชาชนทำามากขึ้น และเป็นปัจจัยให้รัฐสามารถ
ขยายการศึกษา การสาธารณสุข และสาธารณูปการอย่างอื่นให้กว้างขวางออกไปตามส่วน ประชาชนมี
โอกาสทำางาน มีโอกาสศึกษา มีโอกาสรักษาพยายาบาล และมีโอกาสอื่นๆ เพิ่มขึ้นโดยลำาดับ เมื่อเกิดความ
ไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ การว่างงานก็ค่อย ๆ หมดไป การศึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน การรักษาโดยไม่
ต้องเสียค่ารักษาตลอดจนบำาเหน็จบำานาญของคนชราและทุพลภาพก็จะมีขึ้นโดยลำาดับ ฉะนั้น ความ
ไพบูลย์ทางเศรษฐกิจจึงเป็นการประกันสังคมอยู่ในตัว และมาตรการประกันสังคมที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็
คือ การดำาเนินการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผนอันถูกต้องให้บรรลุผลสำาเร็จนั่นเอง
กฎหมายประกันสังคมจะต้องออกตามผลสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แม้ว่าจะออกกฎหมาย
ประกันสังคมอย่างสวยงามเพียงใด แต่ถ้าการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติล้มเหลวกฎหมายนั้นก็ปฏิบัติไม่ได้
๔ การป้องกันประเทศ
๔.๑ หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพแห่งชาติ
กองทัพแห่งชาติไม่ใช่กองทัพของบุคคลหรือคณะบุคคล แต่เป็นกองทัพของชาติและของประชาชน
กองทัพแห่งชาติไม่สนับสนุนการเมืองของบุคคลหรือคณะบุคคล แต่สนับสนุนการเมืองของชาติ ที่ว่าทหาร
ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น ไม่หมายความกองทัพแห่งชาติจะไม่สนับสนุนการเมืองของชาติ แต่
หมายความว่าทหารไม่สนับสนุนการเมืองของบุคคลหรือการเมืองที่ไม่ถูกต้อง เอกราชของชาติและ
อธิปไตยของปวงชน คือ สาระสำาคัญของการเมืองของชาติ ซึ่งจะต้องอาศัยความสนับสนุนของกองทัพ
แห่งชาติ จึงจะดำารงอยู่ได้ ฉะนั้น หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพแห่งชาติ จึงอยู่ที่การรักษาเอกราชของ
ชาติและรักษาอธิปไตยของประชาชน
การที่กองทัพแห่งชาติจะต้องรักษาไว้ซึ่งเอกราชของชาตินั้น เข้ากันดี แต่การที่กองทัพแห่งชาติจะต้อง
รักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยของปวงชนนั้น ดูเหมือนจะยังไม่ชัดเจนพอ ความจริงแล้วเอกราชขึ้นอยู่
กับประชาธิปไตย ประเทศชาติจะต้องเป็นประชาธิปไตยจึงจะมีเอกราชได้ และการที่ระบอบประชาธิปไตย
ล้มเหลวตลอดมา ก็เพราะกองทัพแห่งชาติไม่เข้าไปทำาหน้าที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตยให้เพียงพอ
นั่นเอง ฉะนั้น กองทัพแห่งชาติจึงไม่เพียงแต่มีหน้าที่ทางทหารเท่านั้น หากยังมีหน้าที่ทางการเมืองอีกด้วย
คือ หน้าที่ทางการเมืองของชาติ อันได้แก่การรักษาเอกราชของชาติ และรักษาอธิปไตยของปวงชน
๔.๒ ปรับปรุงขีดความสามารถของกองทัพแห่งชาติ
การที่กองทัพแห่งชาติจะปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์สองประการอย่างมีประสิทธิภาพได้ จะต้องปรับปรุงขีด
ความสามารถของกองทัพให้สูงขึ้น เนื่องจากสงครามในปัจจุบันซึ่งกองทัพแห่งชาติเผชิญอยู่ มีลักษณะ
9
แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับสงครามในอดีต ทำาให้ยุทธศาสตร์ของกองทัพแห่งชาติที่มีอยู่เดิมไม่เพียงพอ
สำาหรับทำาสงครามในลักษณะใหม่ให้ชนะ ฉะนั้น สารสำาคัญของการปรับปรุงขีดความสามารถของกองทัพ
จึงอยู่ที่การปรับปรุงยุทธศาสตร์ เมื่อปรับปรุงยุทธศาสตร์ให้สมบูรณ์ ทั้งยุทธศาสตร์ทหารและยุทธศาสตร์
การเมืองแล้ว การปรับปรุงขีดความสามารถอื่นๆ เช่นด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ก็จะสำาเร็จตามไปด้วย
๔.๓ ปรับปรุงสวัสดิการทหาร
การที่กองทัพจะมารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยขีดความสามารถในระดับสูงได้นั้น ทหารจะต้องได้รับสวัสดิการใน
ทุกด้านอย่างเพียงพอ ฉะนั้น จึงต้องปรับปรุงสวัสดิการทหารในทุกด้านให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำาได้
๕ นโยบายต่างประเทศ
๕.๑ รักษาลักษณะพิเศษของนโยบายต่างประเทศของชาติไทย
นโยบายต่างประเทศกำาหนดขึ้นจากรากฐานของวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์และทางสังคมของ
ประเทศไทย ภายใต้หลักนำาของลักษณะพิเศษประจำาชาติไทย ๓ ประการ คือ
๕.๑.๑ รักความเป็นไท
๕.๑.๒ อหิงสา
๕.๑.๓ รู้จักประสานผลประโยชน์
ชาติไทย เป็นชาติเก่าแก่ซึ่งมีลักษณะประจำาชาติสูงส่ง จึงมีนโยบายต่างประเทศอันแน่นอน เป็นมรดก
ลำ้าค่าตกทอดมาแต่บรรพกาล เรียกว่า “นโยบายอิสระ” วิธีดำาเนินนโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องก็คือ นำาเอา
นโยบายอิสระมาใช้กับปัญหาความสัมพันธ์กับต่างประเทศตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ฉะนั้น
สำาหรับนโยบายต่างประเทศของไทยแล้ว นโยบายหลักไม่เปลี่ยนแปลง แต่นโยบายตามสถานการณ์
เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และจะต้องใช้นโยบายสองอย่างนี้ควบคู่กันตลอดไป โดยนโยบายตามสถานการณ์
ตั้งอยู่บนรากฐานของนโยบายหลัก ไม่ว่าจะดำาเนินนโยบายต่อประเทศใด หรือต่อปัญหาใด ใน
สถานการณ์ใด เช่น ต่อสหรัฐอเมริกา ต่อสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อสหภาพโซเวียต ต่อสหประชาชาติ
ต่ออาเซี่ยน ต่ออินโดจีน ฯลฯ จะต้องยึดถือนโยบายอิสระเป็นหลักอยู่ตลอดเวลา วิธีดำาเนินนโยบายต่าง
ประเทศเช่นนี้ ประเทศไทยเคยใช้มาแต่อดีต ยังผลให้รอดพ้นภัยพิบัติและดำารงเอกราชอธิปไตยไว้ได้ ใน
ปัจจุบันสภาวการณ์ทางภูมิศาสตร์และทางการเมือง กำาหนดให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุด
ในความขัดแย้งของโลก ทั้งความขัดแย้งระหว่างเสรีนิยมกับสังคมนิยม ความขัดแย้งภายในระบบเสรีนิยม
ความขัดแย้งภายในระบบสังคมนิยม และในท่ามกลางความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ไม่มีประเทศใดไม่ว่า
มหาอำานาจหรือมิช่มหาอำานาจ จะเป็นหลักในการแก้ความขัดแย้งได้ ทำาให้มีอันตรายแห่งสงคราม ทั้งใน
ขอบเขตภูมิภาคและขอบเขตโลก แต่ประเทศไทยซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุดและมีนโยบายต่าง
ประเทศที่อยู่บนรากฐานของลักษณะประจำาชาติอันสูงส่ง เป็นประเทศเดียวที่อยู่ในฐานะที่จะแก้ความขัด
แย้งของโลก ป้องกันสงครามและรักษาสันติภาพซึ่งเป็นหลักประกันของการรักษาผลประโยชน์ของ
ประเทศไทยอย่างถึงที่สุด ฉะนั้น ประเทศไทยจึงต้องวางตัวเป็นหลักตามความหมายที่แท้จริงของ “นโยบา
ยอิสระ” ในท่ามกลางความขัดแย้งทั้งในภูมิภาคและในโลก
๕.๒ ส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับทุกประเทศ โดยไม่คำานึงถึงความ
10
แตกต่างในระบอบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจและสังคม
๕.๓ ส่งเสริมชักชวนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีหลักประกันที่เป็นธรรม และร่วมมือกับประเทศกำาลัง
พัฒนา เพื่อเสริมสร้างประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระหว่างประเทศ
๕.๔ ยับยั้งการสร้างสถานการณ์เพื่อเปลี่ยนสงครามในประเทศเป็นสงครามประชาชาติ และกำาจัด
บรรยากาศสงครามประชาชาติ
๕.๕ ดำาเนินนโยบายเป็นกลางบนรากฐานของ “นโยบายอิสระ” ของชาติไทย ในปัญหาความขัดแย้ง
ภายในระบบสังคมนิยม
๕.๖ เรียกร้องให้มีการประชุมนานาชาติ เพื่อรับรองสถานภาพเป็นกลางของประเทศไทย เพื่อเป็นเงื่อนไข
ให้ประเทศไทย ในฐานะเป็นจุดยุทธศาสตร์อันสำาคัญที่สุดในความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ได้แสดง
บทบาทอย่างเต็มภาคภูมิในการป้องกันสงครามและรักษาสันติภาพถาวรของโลก
๖ วัฒนธรรม
๖.๑ กำาจัดวัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่หลายมาจากต่างประเทศ และรับวัฒนธรรมต่างประเทศโดยกลั่นกรอง
วัฒนธรรมเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญอย่างหนึ่งของระบบสังคม และมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับองค์
ประกอบสำาคัญอีกสองประการ คือ เศรษฐกิจและการเมือง ฉะนั้น การแก้ปัญหาวัฒนธรรมจึงต้องประสาน
กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง เศรษฐกิจซึ่งระบบผูกขาดของเอกชนครอบงำาการครองชีพของ
ประชาชน และการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย นอกจากจะบั่นทอนวัฒนธรรมอันดีงาม ยังเป็นแหล่งรองรับ
วัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่มาจากต่างประเทศอีกด้วย การพัฒนาระบบเศรษฐกิจระบบเสรีนิยมที่ก้าวหน้า
และพัฒนาการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ มาตรการพื้นฐานในการป้องกันและกำาจัด
วัฒนธรรมตำ่าทรามต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและที่แพร่มาจากต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็ใช้
มาตรการทางกฎหมายและทางการศึกษาอบรมควบคู่กันไปด้วย วัฒนธรรมตำ่าทรามนั้นไม่เป็นสิ่งพึง
ประสงค์ไม่ว่าของเทศใดๆ แต่วัฒนธรรมที่ดีของแต่ละชาติก็ไม่ใช่ว่าจะยอมรับซึ่งกันและกันใด้เสมอไป
วัฒนธรรมซึ่งชาติหนึ่งถือว่าดี อีกชาติหนึ่อาจถือว่าไม่ดีก็ได้ เช่น ประเพณีความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง
ซึ่งชาติหนึ่งถือว่าดีงาม แต่อีกชาติหนึ่งถือว่าเป็นการอนาจารไปก็มี ฉะนั้น การรับวัฒนธรรมจากต่างชาติ
จึงต้องคัดเลือกกลั่นกรองเอาแต่เฉพาะที่ไม่ขัดกับวัฒนธรรมไทย แม้ว่าวัฒนธรรมเหล่านั้นจะไม่ใช่
วัฒนธรรมตำ่าทรามก็ตาม
๖.๒ เชิดชูวัฒนธรรมไทยอันสูงส่งมาแต่บรรพกาล
ภูมิแห่งจิตใจของชนชาติไทยซึ่งแสดงออกทางขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วรรณคดี และความสัมพันธ์
กับต่างชาติ เป็นต้นนั้นสูงส่งอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องรักษาและเชิดชูไว้ตลอดไป วัฒนธรรมอันสูงส่งย่อมอาศัย
ระบอบประชาธิปไตยเป็นพื้นฐาน เพราะวัฒนธรรมอันสูงส่งก็คือวัฒนธรรมของประชาชน ถ้าไม่มี
ประชาธิปไตย วัฒนธรรมของประชาชนก็จะไม่สามารถพัฒนาอย่างเต็มที่ได้ การปกครองประเทศไทยมี
ลักษณะประชาธิปไตยมาตั้งแต่บรรพกาล นี่คือ ปัจจัยสำาคัญให้วัฒนธรรมของประชาชนได้พัฒนาอย่าง
เต็มที่ จึงส่งเสริมให้วัฒนธรรมไทยเป็นวัฒนธรรมที่สูงส่ง ฉะนั้น มาตรการพื้นฐานของการเชิดชูวัฒนธรรม
ไทยก็คือ การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทยนั่นเอง ประสานกับการส่งเสริม
11
วัฒนธรรมใดด้านต่าง ๆ โดยตรงด้วย
๖.๓ ส่งเสริมเสรีภาพของกลุ่มชนต่างเชื้อชาติในประเทศไทยในการพัฒนาวัฒนธรรมของตน
คนไทยประกอบด้วยชนหลายเชื้อชาติ นอกจากเชื้อชาติไทยแล้วยังมีชนเชื้อชาติอื่นๆ เช่น ชาวเขา ชาว
มาเลย์ เป็นต้น ความแตกต่างทางเชื้อชาติย่อมกำาหนดความแตกต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่
ระบอบประชาธิปไตยยอมรับ ฉะนั้น ระบอบประชาธิปไตยจึงต้องให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมแก่ชนเชื้อชาติ
ต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อให้วัฒนธรรมของประชาชนเชื้อชาติเหล่านั้นได้พัฒนาไปอย่างเต็มที่ แม้ว่า
วัฒนธรรมของชนเชื้อชาติอื่นจะแตกต่างกับวัฒนธรรมของชนเชื้อชาติไทยก็ตาม แต่เมื่อเป็นวัฒนธรรม
ของประชาชนก็ย่อมเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามทั้งสิ้น ฉะนั้น การให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมจึงมีผลดี โดยเฉพาะ
คือ ผลดีในการกระชับความสามัคคีแห่งชาติ
๖.๔ พัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองบนรากฐานของการส่งเสริมทรรศนะที่ถือว่า การเมืองคือคุณธรรมตาม
คตินิยมของคนไทยแต่โบราณ
โดยลักษณะการเมืองคือคุณธรรม เพราะมีความมุ่งหมายเพื่อความสุขของประชาชน ความจริงข้อนี้คน
ไทยได้ถือเป็นคตินิยมมาแต่โบราณ เช่น ทศพิธราชธรรม เป็นต้น
ในบรรดาระบอบการปกครองทั้งหลาย ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่มีคุณธรรมสูงสุด เพราะระบอบ
ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น ประชาธิปไตยก็คือธรรมาธิปไตย
นั่นเอง จึงไม่มีการเมืองใดจะมีคุณธรรมสูงส่งเสมอด้วยการเมืองประชาธิปไตย และดังนั้นถ้าจะเป็น
ประชาธิปไตยก็จำาเป็นจะต้องกำาจัดทรรศนะที่เห็นการเมืองเป็นของสกปรกและกลับไปสู่ทรรศนะเดิม คือ
การเมืองเป็นคุณธรรมต่อไป และบนรากฐานของทรรศนะที่ถูกต้องนี้ ดำาเนินการพัฒนาวัฒนธรรมทางการ
เมืองในระบอบประชาธิปไตย เช่นความสามารถในการทำางานร่วมกับผู้อื่น ความอดทนต่อความเห็นที่ตรง
กันข้ามกับของตน ความมีวินัย ความยอมรับเสียงข้างมาก ความยืนหยัดในหลักการที่ถูกต้องแม้ว่าจะเป็น
ฝ่ายข้างน้อย ความใจกว้าง ความยอมแพ้ต่อเหตุผล ความเคารพในหลักวิชา ความอุทิศตนเพื่อประเทศ
ชาติเพื่อประชาชน และเพื่อคุณธรรม เป็นต้น ให้มีทรรศนะที่เห็นการเมืองเป็นคุณธรรม และให้สมบูรณ์
ด้วยวัฒนธรรทางการเมืองอย่างมากที่สุด
๖.๕ ส่งเสริมความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาประจำาชาติไทย รวมทั้งศาสนาอื่นๆ ใน
ประเทศไทย
พระพุทธศาสนาเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญที่สุดของวัฒนธรรมไทย เพราะหลักธรรมของพระพุทธศาสนา
สอดคล้องอย่างลึกซึ้งกับลักษณะพิเศษประจำาชาติไทย โดยเฉพาะคือ อหิงสา (ความไม่เบียดเบียน) เป็น
ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของคนไทย และหลักธรรมอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนาคือ อหิงสา ปรโม ธมฺโม (
ความไม่เบียดเบียนเป็นธรรมอย่างยิ่ง) ด้วยเหตุนี้ คนไทยซึ่งรับเอาพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำาชาติ
จึงเข้ากับศาสนาอื่นได้เป็นอย่างดี ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยไม่เคยมีการเลือกปฏิบัติต่อศาสนาอื่น และ
ไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงอันเนื่องมาจากความแตกต่างทางศาสนา การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะนับถือพุทธ
ศาสนาของคนไทยนั้น โดยพื้นฐานเป็นการนับถือหลักธรรมอันแท้จริง แม้ว่าจะประกอบด้วยพิธีการ และ
ลัทธินิยมอื่นๆ มากมาย แต่โดยพื้นฐานก็มิได้ละทิ้งหลักธรรมอันแท้จริง หลักธรรมอันแท้จริงนี่เอง คือ
12
ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของศาสนา ซึ่งควรเน้นหนักในการส่งเสริมโดยร่วมมือกับบรรดานักปฏิบัติธรรมที่ถูก
ต้อง
เหล่านี้ คือนโยบายหลักของสภาปฏิวัติแห่งชาติ สภาปฏิวัติแห่งชาติ มีปณิธานอันแน่วแน่ที่จะปฏิบัติ
นโยบายนี้เพื่อให้เป็นผลสำาเร็จ โดยถือเป็นภารกิจอันสำาคัญที่สุดในการนำาประเทศชาติและประชาชนผ่าน
พ้นภัยพิบัติ ผลักดันความเจริญก้าวหน้าไปสู่สังคมประชาธิปไตย ยังความไพบูลย์แก่ประเทศชาติและความ
ผาสุกแก่ประชาชน และรักษาชาติไทยให้ดำารงอยู่ชั่วนิรันดร.
ลงชื่อ
(นายประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์)
ประธานสภาปฏิวัติแห่งชาติ
วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๐
(ตอนหนึ่งในหนังสือ”คดีสภาปฏิวัติแห่งชาติ”)
การขัดแย้งทางการเมืองจะยุติได้ต่อเมื่อทุกฝ่ายมีนโยบายเดียวกันในทางความคิดและตามแนวทาง
ปฏิบัติบนหลักการและนโยบายที่รักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน
Thongkum@yahoo.com
13

More Related Content

More from Thongkum Virut

More from Thongkum Virut (20)

หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
 
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
 
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริหนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
 
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
 
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
 
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
 
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการสหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
 
ประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวูประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวู
 
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกเหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
 
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
 
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตยเรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
 
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทยคู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
 
ระบอบเผด็จการรัฐสภา
ระบอบเผด็จการรัฐสภาระบอบเผด็จการรัฐสภา
ระบอบเผด็จการรัฐสภา
 
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทยปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
 
ลัทธิประชาธิปไตย
ลัทธิประชาธิปไตยลัทธิประชาธิปไตย
ลัทธิประชาธิปไตย
 
พรรคการเมือง
พรรคการเมืองพรรคการเมือง
พรรคการเมือง
 
ปัญหาทางด้านการเมือง และปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะ
ปัญหาทางด้านการเมือง และปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะปัญหาทางด้านการเมือง และปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะ
ปัญหาทางด้านการเมือง และปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะ
 
ระบอบประชาธิปไตย คือ การเลือกตั้ง ใช่หรือไม่
ระบอบประชาธิปไตย คือ การเลือกตั้ง ใช่หรือไม่ระบอบประชาธิปไตย คือ การเลือกตั้ง ใช่หรือไม่
ระบอบประชาธิปไตย คือ การเลือกตั้ง ใช่หรือไม่
 
นโยบายปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทย
นโยบายปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทยนโยบายปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทย
นโยบายปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทย
 
ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
 

สภาปฏิวัติแห่งชาติกับทางออกการเมืองไทย

  • 1. สภาปฏิวัติแห่งชาติกับทางออกการเมืองไทย หนังสือ“คดีสภาปฏิวัติแห่งชาติ” แผนพัฒนาการเมืองไปสู่ “ระบอบประชาธิปไตย” ตามแนวทาง พระราชดำาริของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อผู้สนใจการเมือง โดยเฉพาะใน สถานการณ์บ้านเมืองเราต้องการแสวงหาทางออกเพื่อสลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ในประเทศไทย แม้ว่าจะมีการถกวิเคราะห์กันมามากกว่า ๒๐ ปีที่ผ่านมา แต่ปัญหาหลักคือ ระบอบการเมือง ยังไม่เคยแก้ให้ ตกไปได้ ฉะนั้นเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จึงเหมาะควรที่เราท่านน่าจะได้นำามาทบทวนกันอีกครั้ง ตามความ คิดเห็นของผม ผมยังมองว่าเนื้อหาในนี้มีความก้้้าวหน้ามากทีเดียว และขอได้โปรดพินิจเคราะห์กันเอง เถิด นโยบายหลักของสภาปฏิวัติแห่งชาติ ประกาศโดยที่ประชุมผู้แทนประชาชนทั่วประเทศ ก่อตั้งสภาปฏิวัติแห่งชาติ ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพมหานคร วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๐ สภาปฏิวัติแห่งชาติซึ่งเป็นองค์กรลักษณะผู้แทนปวงชนชาวไทยอันแท้จริง ขอแถลงนโยบายหลักของการ ปฏิวัติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย ๖๖/๒๕๒๓ อันเป็นนโยบายที่ถูกต้อง เพื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตย สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ ดังต่อไปนี้ 1
  • 2. ๑. สถาปนาระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จ ระบอบประชาธิปไตย นอกจากจะเป็นความต้องการของประเทศชาติและประชาชนแล้ว ยังเป็นปัจจัยอัน จำาเป็นของการแก้ปัญหาทั้งปวงของชาติอีกด้วย จะต้องสร้างประชาธิปไตยให้สำาเร็จจึงจะแก้ปัญหา การเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาวัฒนธรรมให้ตกไปได้ สภาปฏิวัติแห่งชาติจะสร้างสรรค์ ระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จด้วยมาตรการต่อไปนี้ ๑.๑ เทิดทูนและพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติไทย และคู่กับชาติไทยมาแต่บรรพกาล แม้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราช พระมหากษัตริย์ไทยก็ประกอบด้วยลักษณะประชาธิปไตยเป็นอันมากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของระบอบ พระมหากษัตริย์ในประเทศไทย จึงเป็นการถูกต้องและจำาเป็นอย่างยิ่งที่ระบอบประชาธิปไตยของไทยจะมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ ซึ่งเป็นอุปการคุณสำาคัญที่สุดไม่เฉพาะแต่ในการสร้างระบอบ ประชาธิปไตยให้สำาเร็จเท่านั้น หากในการแก้ปัญหาพิเศษต่างๆ ซึ่งสถาบันอื่นไม่อาจแก้ปัญหาได้อีกด้วย ๑.๒ การส่งเสริมความรู้ประชาธิปไตย การที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จก็ดี การจะใช้ระบอบประชาธิปไตยแก้ปัญหาต่างๆ ของชาติก็ ดีขึ้นอยู่กับความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ผ่านมา เป็นเพราะขาดความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมความรู้ประชาธิปไตยอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านทฤษฎีและด้านการประยุกต์ทฤษฎีกับสภาวการณ์ และลักษณะพิเศษของประเทศไทย ๑.๓ ทำาให้อำานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน หัวใจของระบอบประชาธิปไตย คือ อำานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน นัยหนึ่งคือ การปกครองโดย ประชาชน เพื่อประชาชนและของประชาชน แต่ความเป็นจริงอำานาจอธิปไตยยังไม่เป็นของประชาชน อย่างแท้จริง เพราะนโยบายของรัฐที่ผ่านมายังไม่สนองความต้องการของประเทศชาติและประชาชนอย่าง แท้จริง ฉะนั้น จึงต้องปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลทั้งนโยบายภายในประเทศและนโยบายต่างประเทศ ให้ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศชาติและประชาชน และปรับปรุงรัฐสภาให้ทำาหน้าที่ของปวงชน อย่างแท้จริง ๑.๔ ทำาให้บุคคลมีเสรีภาพบริบูรณ์ เสรีภาพบริบูรณ์ของบุคคลจะมีได้ก็แต่เฉพาะภายใต้อำานาจอธิปไตยของปวงชน เสรีภาพที่ไม่อยู่ภายใต้ อำานาจอธิปไตยของปวงชนนั้น ไม่ใช่เสรีภาพที่บริบูรณ์ ถ้าไม่เป็นเสรีภาพที่เกินขอบเขตแบบอนาธิปไตย ก็เป็นเสรีภาพที่จำากัดเกินควรแบบเผด็จการ และเสรีภาพบริบูรณ์ของบุคคลย่อมทำาให้เกิดความรับผิดชอบ แก่บุคคล ฉะนั้น เพื่อให้บังเกิดเสรีภาพชนิดนี้จะต้องทำาให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง ในขณะเดียวกันก็ต้อง ยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่บั่นทอนเสรีภาพของบุคคล ๑.๕ สร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้มั่นคง เสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยอันจำาเป็นของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย และปัจจัยอันสำาคัญที่สุด ของเสถียรภาพทางการเมือง ก็คือ ความสนับสนุนของประชาชน และปัจจัยความสนับสนุนของประชาชน ก็คือ นโยบายที่ถูกต้อง และปฏิบัตินโยบายนั้นให้ได้ผลประจักษ์แก่ประชาชน ฉะนั้นนอกจากจะต้อง ปรับปรุงนโยบายให้ถูกต้องอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับระบอบ 2
  • 3. ประชาธิปไตยด้วย ๑.๖ สร้างระบบพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง พรรคการเมืองประชาธิปไตย คือ ผู้แทนทางการเมืองของประชาชนทำาหน้าที่จรรโลงและพัฒนาระบอบ ประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่เข้มแข็งจะต้องเป็นพรรคที่มีนโยบายสอดคล้องกับนโยบายแห่งชาติที่ถูก ต้อง จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรอย่างเป็นระบบและมีลักษณะเป็นพรรคมวลชน มิใช่เป็นเพียงพรรคสภาหรือ พรรคนักการเมืองเท่านั้น ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมให้การสร้างพรรคการเมืองชนิดนี้บรรลุผลสำาเร็จ ซึ่ง เงื่อนไขประการแรกคือ จะต้องยกเลิกกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อให้ระบบพรรคการเมืองพัฒนาไปตาม ธรรมชาติ ๑.๗ ปรับปรุงระบบราชการให้เป็นประชาธิปไตย ระบบราชการในประเทศไทย ยังเป็นปฏิปักษ์อย่างมากต่อระบอบประชาธิปไตย จึงยังไม่สามารถสนอง ความต้องการของระบอบประชาธิปไตยได้ การปรับปรุงระบบราชการให้เป็นประชาธิปไตย จึงเป็นปัจจัยที่ จะขาดเสียมิได้ของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย วิธีการปรุงก็คือ ประสานระบบราชการเข้ากับระบบ พรรคการเมือง โดยให้ข้าราชการเข้าร่วมกิจการของพรรคการเมืองได้อย่างเสรี ซึ่งจะยังผลให้ข้าราชการ ได้มีจิตสำานึกทางการเมืองของตน และจิตสำานึกทางการเมืองนั้น จะทำาให้ข้าราชการเป็นข้าราชการของ ประชาชนได้ ๑.๘ ส่งเสริมกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ เป็นสิ่งแสดงออกของพลังมวลชนและเป็นพลังผลักดันทางการเมืองในการพัฒนา ระบอบประชาธิปไตย แต่กลุ่มผลประโยชน์ย่อมมีความขัดแย้งกัน เพราะมีผลประโยชน์แตกต่างกัน ระบอบ ประชาธิปไตยย่อมแก้ไขความขัดแย้งด้วยการไม่ทำาลายกัน แต่ด้วยการประสานประโยชน์ระหว่างกัน โดย การทำาให้ผลประโยชน์ของแต่ละกลุ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผลประโยชน์ของชาติ โดยนายทุน กรรมกร ชาวนา นักศึกษา ฯลฯ จะคำานึงถึงผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวไม่ได้ แต่จะต้องคำานึงถึงผล ประโยชน์ของฝ่ายอื่นด้วย โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ๑.๙ ส่งเสริมสถาบันหนังสือพิมพ์และการแสดงประชามติประชาธิปไตย สถาบันหนังสือพิมพ์ในฐานะฐานันดรที่ ๔ ย่อมเป็นกลไกอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยนอกเหนือจาก เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของการแสดงประชามติ ฉะนั้นผู้ทำาหนังสือพิมพ์จึงเป็นบุคคลในสถาบันซึ่งจะต้องมี ความรับผิดชอบกว่าบุคคลธรรมดา การส่งเสริมเสรีภาพบริบูรณ์ของคนทำาหนังสือพิมพ์ จึงแตกต่างกับ บุคคลนอกสถาบัน จะถือว่า “เสรีภาพของหนังสือพิมพ์ คือ เสรีภาพของประชาชน” หาได้ไม่ ประชามติที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนจึงจะเป็น และความถูกต้องของ ประชามติก็มิได้วัดด้วยจำานวนคนที่แสดง แต่วัดด้วยผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม ประชามติใดแม้ จะแสดงด้วยคนจำานวนน้อย แต่ถ้าสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมก็เป็นประชามติ ประชาธิปไตย ฉะนั้น สภาปฏิวัติแห่งชาติจึงสนับสนุนประชามติที่ถูกต้อง แต่จะป้องกันประชามติที่ไม่ถูก ต้อง ๑.๑๐ สนับสนุนขบวนการประชาธิปไตย ขบวนการประชาธิปไตยย่อมประกอบด้วยบุคคลกลุ่มต่างๆ ที่มีความมุ่งหมายเพื่อความสำาเร็จของระบอบ ประชาธิปไตย แต่เนื่องจากแนวโน้มแห่งวิวัฒนาการของประเทศไทยเป็นแนวโน้มทางประชาธิปไตย จึง 3
  • 4. ทำาให้กลุ่มชนที่เป็นปรปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย จำาเป็นต้องแอบแฝงโดยยกเอาประชาธิปไตยขึ้นนำา หน้า สภาปฏิวัติแห่งชาติสนับสนุนขบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริงทั้งสิ้น แต่จะขัดขวางขบวนการที่ขัดขวาง ขบวนการประชาธิปไตยที่แอบแฝงอำาพราง ๑.๑๑ ทำาลายการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพล การกดขี่ด้วยประการใดๆ โดยผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพลเป็นลักษณะของระบอบเผด็จการ ตราบใดที่มีการ กดขี่โดยผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพลตราบนั้นยังไม่มีระบอบประชาธิปไตย หรือไม่มีระบอบประชาธิปไตยอัน แท้จริง ฉะนั้นจึงต้องกำาจัดการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพลทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นให้หมดไป ๑.๑๒ จัดระบอบบริหารส่วนท้องถิ่น ส่วนภูมิภาคและส่วนกลางให้สอดคล้องกันยิ่งขึ้น การกระจายอำานาจเป็นลักษณะหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย วิธีการคือ ทำาให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มีอิสระมากขึ้น และให้องค์การบริหารส่วนภูมิภาคมีฐานะเป็นตัวแทนขององค์การบริหารส่วนกลางอย่าง แท้จริง ไม่ใช่องค์การบริหารส่วนกลางทำางานแข่งขันซำ้าซ้อนกับองค์การบริหารส่วนภูมิภาคหรือส่วนท้อง ถิ่น แต่ให้องค์การบริหารสามส่วนนี้มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี ๑.๑๓ สร้างสันติภาพภายในประเทศให้สมบูรณ์ และกระชับความสามัคคีแห่งชาติ สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย ถึงแม้ว่ากองทัพสามารถยุติสงครามกลางเมืองลงได้โดยพื้นฐานแล้ว ก็ตาม แต่การต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายคอมมิวนิสต์แนวทางอาวุธยังดุเดือดเข้มข้นอยู่ โดย ฝ่ายคอมมิวนิสต์แนวทางอาวุธพยายามทุกวิถีทางที่จะฟื้นฟูสงครามขึ้นใหม่ ซึ่งถ้าหากฝ่ายคอมมิวนิสต์ สามารถทำาได้แล้ว สงครามครั้งใหม่จะยังความหายนะแก่ประเทศชาติ และยังความทุกข์ยากแก่ประชาชน มากกว่าสงครามครั้งที่แล้วหลายเท่านัก อันเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงแก่การสร้างระบอบประชาธิปไตย จึง จำาเป็นที่จะต้องสกัดกั้นการฟื้นฟูสงครามของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ ด้วยอาวุธเป็นการต่อสู้ในแนวทางสันติ ตามนโยบายประชาธิปไตยที่ถูกต้องที่ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่งเป็น นโยบายรากฐานของความสามัคคีแห่งชาติ และเป็นเส้นด้ายทองคำาร้อยพวงมาลัยแห่งความสามัคคี ระหว่างประชาชนทุกหมู่เหล่าอีกด้วย ๒. พัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติให้สำาเร็จ ระบบเศรษฐกิจเป็นรากฐานของระบอบการเมือง และระบอบการเมืองมีบทบาทผลักดันพัฒนาการของ ระบบเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงจะดำาเนินการโดยเอกเทศมิได้ แต่จะต้องนำาเอาการแก้ปัญหา เศรษฐกิจไปสัมพันธ์กับการแก้ปัญหาการเมือง โดยลงมือแก้ปัญหาการเมืองทันที และลงมือแก้ปัญหา เศรษฐกิจไปพร้อมกัน การที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยตกอยู่ในภาวะล้าหลังมาเป็นเวลานาน ยังผล ให้ประเทศไทยเป็นประเทศยากจน ฐานะการครองชีพของประชาชนตำ่า ไม่สามารถพัฒนาขึ้นเป็นประเทศ รำ่ารวย และยกฐานะการครองชีพของประชนชนให้สูงขึ้นได้ ทั้ง ๆ ที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาตินั้น ก็ เพราะได้ดำาเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาโดยไม่ได้แก้ปัญหาการเมือง คือ ไม่ดำาเนินการเพื่อบรรลุถึงซึ่ง ระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง ฉะนั้น บนรากฐานของการแก้ปัญหาการเมืองเพื่อความสำาเร็จของระบอบ ประชาธิปไตยดังกล่าวมาแล้ว สภาปฏิวัติแห่งชาติจะพัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติใดสำาเร็จด้วยมาตรการ ต่อไปนี้ ๒.๑ ปรับปรุงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ความมุ่งหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คือ เพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยสังคม 4
  • 5. ประชาธิปไตย คือ สังคมที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย และมีระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม ระบอบ เศรษฐกิจเสรีนิยมที่พัฒนาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง จะนำามาซึ่งความไพบูลย์และความ ยุติธรรม แต่การที่จะบรรลุความมุ่งหมายดังกล่าวนี้ได้ จะต้องใช้ระบอบประชาธิปไตยทำาการเปลี่ยนระบบ เสรีนิยมที่ล้าหลังและผูกขาดดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้เป็นระบบเสรีนิยมที่ก้าวหน้าและเสรี และแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีบทบาทสำาคัญอันดับแรกต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ ฉะนั้นจึงต้องทบทวน โครงสร้างของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแก้ไขปรับปรุงให้สอดคล้องกับความมุ่งหมาย เพื่อบรรลุถึงสังคมประชาธิปไตยที่พัฒนา ซึ่งเป็นแผนที่มีเนื้อหาในการทำาให้ประเทศไทยเป็นประเทศ อุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับภาวการณ์ของประเทศไทยโดยเฉพาะคือ เน้นหนักการพัฒนาการเกษตรกรรม และพัฒนาอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่งให้สอดคล้องกัน ๒.๒ การกระจายทุน การรวมศูนย์ทุน ทำาให้วิสาหกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะคือ วิสาหกิจเส้นเลือดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ อุตสาหกรรมหนัก การค้าต่างประเทศ การค้าส่งสินค้าหลักภายในประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การ ขนส่งหลักภายในประเทศ มีอำานาจครอบงำาและบงการต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เป็นอุปสรรค ต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉะนั้น จึงต้องลดอำานาจของการครอบงำาและบงการดังกล่าวลง โดยทำาให้ทุนกระจายไปสู่ประชาชนด้วยมาตรการเหล่านี้คือ ๒.๒.๑ การปฏิรูปที่ดิน เป็นวิธีการกระจายทุนทางที่ดินไปสู่ชาวไร่ชาวนา ในขณะเดียวกันรายได้ของเจ้าของที่ดินจากการเวนคืน ที่ดิน ก็จะกระจายไปสู่รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และอื่นๆ โดยเฉพาะในรูปของพันธบัติหุ้น ส่วนในรัฐวิสาหกิจเหล่านั้น การกระจายทุนทางที่ดินด้วยการปฏิรูปที่ดิน เป็นปัจจัยอันดับแรกของความ เติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่ง โดยทำา เกษตรกรรมสามารถสนองวัตถุดิบแก่อุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมสนองเครื่องมือวัตถุอุปกรณ์และการ ป้องกันภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกรรม และเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมต่างก็สนองตลาดให้แก่กันและกัน ฉะนั้น การปฏิรูปที่ดินจึงมิใช่เพียงเพื่อการเกษตรกรรม หรือเพียงเพื่อช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ให้มีที่ทำากิน แต่ข้อสำาคัญเพื่อความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้งระบบ ๒.๒.๒ เปลี่ยนบริษัทครอบครัวของวิสาหกิจเอกชนต่างๆ เป็นบริษัทมหาชน ๒.๒.๓ ให้สหกรณ์เป็นเครื่องมือของการกระจายทุน ๒.๒.๔ รัฐเข้ามีส่วนร่วมนากรบริหารวิสาหกิจเอกชน แต่เดิมรัฐเพียงแต่ควบคุมวิสาหกิจเอกชน เช่น ธนาคารชาติควบคุมธนาคารพาณิชย์ด้วยการจดทะเบียน ปริมาณทุนปริมาณเงินฝาก ปริมาณเงินวางธนาคารชาติ ฯลฯ ซึ่งไม่เพียงพอแก่การลดการรวมศูนย์ทุน แต่ รัฐจะต้องทำาการควบคุมโดยตรง เช่น ผู้แทนของรัฐเข้ามีส่วนในการบริหารเป็นต้นอีกด้วย ๒.๓ สร้างความสมดุลระหว่างภาคสาธารณะกับภาคเอกชน ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมของประเทศไทย มิใช่มีแต่เศรษฐกิจเอกชนอย่างเดียว แต่มีเศรษฐกิจสาธารณะ โดยเฉพาะคือเศรษฐกิจของรัฐอีกด้วย โดยภาคสาธารณะตั้งอยู่บนรากฐานของภาคเอกชน แต่ภาค สาธารณะแม้ว่าจะเป็นฝ่ายข้างน้อยก็มีความสำาคัญในฐานะเป็นหลักนำาต่อภาคเอกชน และส่งเสริมช่วย 5
  • 6. เหลือภาคเอกชน ภาคสาธารณะกับภาคเอกชนจะต้องมีความสมดุลกัน จึงจะสามารถเป็นปัจจัยให้แก่การ ขยายตัวของกันและกัน วิธีการสร้างความสมดุล คือ ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะโดยเฉพาะของ รัฐวิสาหกิจเสียใหม่ทั้งหมดทั้งฝ่ายสาธารณูปโภคและฝ่ายบริโภค ทั้งที่ผูกขาดและไม่ผูกขาด เพื่อให้ รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นมีประสิทธิภาพเท่าเทียมหรือเหนือกว่าวิสาหกิจเอกชน เพื่อจะได้ทำาหน้าที่เป็นหลักนำา และส่งเสริมช่วยเหลือวิสาหกิจเอกชน และเพื่อคานวิสาหกิจเอกชนในการรักษาเสถียรภาพของตลาด การ ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะนั้น ให้องค์การแรงงานของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เข้าร่วมดำาเนินการด้วย ๒.๔ สร้างความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรม สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน เกษตรกรรมเป็นฝ่ายครอบงำา แต่ทิศทางของพัฒนาการจะต้อง มุ่งไปสู่ความเป็นอุตสาหกรรม ภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าวการพัฒนาจะต้องเน้นหนักในการพัฒนา เกษตรกรรม ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาอุตสาหกรรมให้ได้สัดส่วนกัน และการพัฒนาอุตสาหกรรมจะต้อง เน้นหนักการพัฒนาอุตสาหกรรมเบา (อุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบเกษตรกรรมภายในประเทศ เป็นสินค้า สำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูป) แต่การพัฒนาอุตสาหกรรมเบาก็ต้องมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก (อุ ตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมเครื่องจักร อุตสาหกรรมเคมี) ซึ่งเป็นรากฐานอัน สำาคัญที่สุดของการทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย ๒.๕ สร้างความสมดุลระหว่างเมืองกับชนบท ที่แล้วมาการขยายตัวของเมืองและชนบทเป็นไปอย่างไม่สมำ่าเสมอ ความเจริญเข้ามารวมอยู่ในเมืองหลวง และนครใหญ่ ชนบทยังล้าหลังห่างไกล ฉะนั้น จึงต้องเร่งรัดสร้างความเจริญให้แก่ชนบทในทุกทาง และ ทำาให้ชนบทให้เป็นที่อยู่ดีกินดี ขณะเดียวกันก็ระบายความแออัดยัดเยียดออกจากเมืองหลวงและนครใหญ่ วิธีการคือ จะต้องแบ่งสันปันส่วนภาษีอากรระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นอย่างเหมาะสม และทำาให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นไม่ต้องอาศัยงบประมาณส่วนกลาง กับขยายอุตสาหกรรมไปสู่ชนบทให้ สอดคล้องกับเกษตรกรรม ที่ไหนมีเกษตรกรรมอย่างไรก็ขยายอุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบอย่างนั้น สร้าง ความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมขึ้นในท้องถิ่นและยกระดับของชนบทจนถึงขนาดที่คนไม่ ไหลเข้าสู่เมือง แต่ชนบทกลับเป็นที่ดึงดูดคนในเมืองให้ระบายออกไป ๒.๖ สร้างความสมดุลระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจกับการขยายตัวของประชากร ปัญหาร้ายแรงในปัจจุบันก็คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ทันกับการขยายตัวของประชากร จึงจำาเป็น อย่างรีบด่วนที่จะต้องเร่งรัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างงานให้เพียงพอกับคน ขณะเดียวกันก็จะ ต้องลดการขยายตัวของประชากรอย่างน้อยชั่วระยะหนึ่ง การเร่งรัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็คือ ๒.๖.๑ เพิ่มการผลิตทางการเกษตร บนรากฐานของการปฏิรูปที่ดินและทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย ทำาการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยเฉพาะคือพืชเศรษฐกิจด้วยการใช้วิชาการเกษตรกรรมแบบใหม่ให้ทั่วถึง ปรับปรุงระบบชลประทาน จัดหาและจำาหน่ายปุ๋ยในราคาเยา ส่งเสริมการปลูกพืชหมุนเวียน ให้การศึกษา ด้านเกษตรกรรมแก่ชาวนาชาวไร่อย่างเต็มที่ ขยายกิจการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ให้กว้าง ขวางทั่วประเทศ เพิ่มบริการชาวนาชาวไร่อย่างมีประสิทธิภาพ จัดประเภทการผลิตทางเกษตรกรรมให้ เหมาะสมกับท้องที่ และแนะนำาเกษตรกรให้ปลูกพืชให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด ประกันราคา ของสินค้าเกษตรกรรม โดยขยายและรักษาตลาดต่างประเทศอย่างมั่นคงและใช้ค่าพรีเมี่ยมทั้งหมดเป็นก องทุนสงเคราะห์เกษตรกร ใช้วิธีการสหกรณ์เข้าช่วยเหลือการขยายเกษตรกรรมอย่างเต็มที่ และสนับสนุน การรวมกลุ่มเกษตรกรเป็นสถาบันการเกษตร 6
  • 7. ๒.๖.๒ เพิ่มการผลิตทางอุตสาหกรรม เน้นหนักอุตสาหกรรมที่แปรรูปวัตถุดิบเกษตรกรรมภายในประเทศ ให้เป็นสินค้าสำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูปพร้อมทั้งขยายการผลิตของอุตสาหกรรมครอบครัว ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพูน สินค้าบริโภคให้มากที่สุด และการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว จะต้องมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอุตสห กรรมขั้นมูลฐาน ป้องกันการโจมตีจากต่างประเทศโดยตั้งกำาแพงภาษี หรือห้ามสั่งสินค้าเข้าตามความ เหมาะสม กระจายอุตสาหกรรมไปยังแหล่งวัตถุดิบขยายการฝึกอบรมแรงงาน ส่งเสริมสมาคมนายจ้างและ สหภาพแรงงาน และส่งเสริมหลักการผลประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างนายทุนกับแรงงาน ส่งเสริม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ๒.๖.๓ ขยายพาณิชยกรรม ขยายตลาดต่างประเทศทั้งสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม พยายาม ขยายตลาดเข้าไปในตลาดสังคมนิยมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำาได้ และรัฐเข้าดำาเนินการค้าต่างประเทศเอง ตามความจำาเป็น แก้ไขความเสียเปรียบในวิธีดำาเนินการค้าและธุริจของต่างประเทศ แก้ไขการเสียเปรียบ ดุลการค้า โดยลดปริมาณสินค้าปัจจัยบริโภคโดยเฉพาะ คือ ของฟุ้มเฟือย และเพิ่มปริมาณสินค้าปัจจัยการ ผลิตโดยเฉพาะคือ เครื่องจักร พยายามตัดคนกลางในการส่งวัตถุดิบไปต่างประเทศ พร้อมทั้งกวดขันการ ควบคุมมาตรฐานสินค้า เพิ่มปริมาณส่งออกวัตถุแปรรูป การค้าบางอย่างใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรง ส่วนตลาดภายในประเทศจะต้องทำาให้มีเสถียรภาพ โดยให้องค์การค้าของรัฐทำาหน้าที่ตรึงราคาอย่างมี ประสิทธิภาพ และใช้สหกรณ์กำาจัดคนกลาง ๒.๖.๔ ขยายการขนส่ง โดยเพิ่มปัจจัยการขนส่งอย่างรอบด้าน ควบคุมค่าขนส่งให้พอเหมาะพอดี มิให้มี ผลกระทบกระเทือนต่อการตลาดและการผลิต ๒.๖.๕ ขยายทุน ระดมและกระจายทุนทั้งทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่ง โดย เน้นหนักในการขยายทุนทางเกษตรกรรม แหล่งของทุนเอามาจากการผลิต ภาษีอากร การประหยัด และ ทุนจากต่างประเทศที่ไม่มีเงื่อนไขทางการเมือง ๒.๗ ควบคุมการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติให้เป็นธรรม ตามสภาพที่เป็นอยู่รายได้แห่งชาติ ๙๐ % เฉลี่ยระหว่างคนรวย และรายได้แห่งชาติ ๑๐% เฉลี่ยระหว่าง คนจน ซึ่งเป็นการเฉลี่ยที่ไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยกว้างมาก รัฐจึงต้อง ควบคุมการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติให้เป็นธรรม เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนให้แคบลง การ ควบคุมเฉลี่ยรายได้แห่งชาตินั้น มิใช่กระทำาด้วยกฎหมายหรืออำานาจบังคับ แต่กระทำาโดยการส่งเสริมการ พัฒนาระบบเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพของประเทศไทย ตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง เพื่อให้ เศรษฐกิจแห่งชาติได้ขยายตัวไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เช่น การจำากัดการผูกขาด การกระจายทุน การ ขยายการผลิต การตัดคนกลาง การเฉลี่ยงบประมาณระหว่างส่วนกลางกับส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น เป็นต้น การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างได้ผลตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง ทำาให้รายได้เฉลี่ยของประชากร ทั่วไปสูงขึ้น และการใช้ระบบผูกขาดควบคุมการครองชีพของประชาชนก็จะเบาบางหรือหมดสิ้นไป ทำาให้ เกิดการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติเป็นธรรมโดยอัตโนมัติ แม้จะใช้กฎหมายบ้างก็เป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่ถ้า ไม่พัฒนาเศรษฐกิจให้ได้ผล การใช้กฎหมายในเรื่องนี้ก็ไม่มีประโยชน์ อย่างกฎหมายกำาหนัดค่าจ้างขั้นตำ่า ถ้าพัฒนาเศรษฐกิจล้มเหลว กฎหมายนั้นก็เป็นเพียงเศษกระดาษชิ้นหนึ่ง รวมความว่าการควบคุมเฉลี่ยราย ได้แห่งชาติ ก็คือการพัฒนาระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบายและ แผนอันถูกต้อง 7
  • 8. ๒.๘ ร่วมมือทางเศรษฐกิจกับนานาประเทศ โดยไม่เลือกระบบสังคม ภายใต้หลักการของความเป็นอิสระ และพึ่งตนเอง การเมืองตั้งอยู่บนรากฐานของเศรษฐกิจ ฉะนั้น การร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่จะไม่เกี่ยวข้อง กับการเมืองเลยจึงเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศในระบบสังคมเดียวกัน หรือคนละ ระบบสังคมก็ตาม ถ้ายอมรับว่าเศรษฐกิจและการค้าขึ้นต่อการเมืองและดำาเนินไปตามหลักการนี้ โดยทำาให้ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศสังคมนิยมและประเทศเสรีนิยมด้วยกันขึ้นต่อนโยบายต่าง ประเทศที่ถูกต้องแล้ว การร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการค้ากับนานาประเทศโดยไม่เลือกระบบสังคม ก็จะ เป็นผลดีแก่การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติอย่างใหญ่หลวง และนี่คือการร่วมมือภายใต้หลักการของความ เป็นอิสระ และพึ่งตนเองตามลักษณะพิเศษของนโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องของไทย คือ นโยบายอิสระ ๒.๙ ปัญหาการคลังและการเงิน การคลังและการเงินเป็นองค์ประกอบสำาคัญของเศรษฐกิจ จึงต้องแก้ปัญหาการคลังและการเงินโดย สัมพันธ์กับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ การขยายเศรษฐกิจจะต้องดูจากการผลิตการภาษีว่าขยายตัวได้ อย่างไร ไม่ให้เกินตัวจนต้องอาศัยเงินกู้จนเกินควร การเก็บภาษีควรเอาจากการผลิตเป็นอันดับแรก ภาษี สินค้าขาเข้าขาออกเป็นอันดับต่อมา ภาษีเอกชนเป็นอันดับสุดท้าย แต่ภาษีสินค้าเข้าสินค้าออกจะต้องไม่ ทำาลายการส่งเสริมการผลิตและการค้าต่างประเทศ ปัญหาการเงินที่สำาคัญนั้นอยู่ที่จะต้องรักษาเสถียรภาพ ของเงินบาท วิธีการคือ เปลี่ยนมาตรฐานเงินตราต่างประเทศเป็นมาตรฐานทองคำาเป็นหลัก เพราะใน ปัจจุบันเงินตราต่างประเทศ เช่นสกุลดอลล่าร์มักจะขาดเสถียรภาพ แต่ไม่หมายความว่าจะยกเลิก มาตรฐานเงินตราต่างประเทศเพียงมาตรฐานดอลล่าร์ มาตรฐานปอนด์ ฯลฯ เป็นส่วนประกอบ วิธีการเช่นนี้ จะเป็นส่วนช่วยอย่างสำาคัญในการรักษาเสถียรภาพของเงินบาท ๓. การสังคม ๓.๑ แก้ปัญหาสังคมบนรากฐานของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการศึกษาอบรม ปัญหาสังคม เช่น ปัญหาการว่างงาน ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาคอรัปชั่น และความเน่าเฟะต่างๆ ใน สังคม ส่วนสำาคัญเกิดจากความยากจนและการไม่มีงานทำา อันเนื่องมาจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ตก ฉะนั้น ถ้าความยากจนและการไม่มีงานทำายังครอบงำาสังคมอยู่ การพรำ่าสอนไม่ทำาให้ทำาชั่วและขยัน ขันแข็งประกอบสัมมาอาชีพจึงไม่ใคร่จะได้ผล เพราะถ้าไม่ประกอบอาชญากรรม ทำาคอรัปชั่น หรือ ประกอบมิจฉาชีพก็ไม่มีอะไรจะกิน และถึงแม้จะขยันขันแข็งก็ไม่มีงานทำา แต่การศึกษาอบรมจะได้ผลเต็ม ที่ถ้าความยากจนบรรเทาลง คนมีงานทำาและอาชญากรรมแก้ไขได้ คอรัปชั่นปราบได้ การว่างงานขจัดได้ ด้วยการศึกษาอบรมและมาตรการทางกฎหมาย ถ้าพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผนอันถูก ต้อง ๓.๒ แผนการศึกษาแห่งชาติขึ้นต่อแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ สมัยก่อน การบำารุงการศึกษาไม่มีขอบเขตจำากัด เพราะสมัยนั้นความเจริญของบ้านเมืองขึ้นอยู่กับการ ศึกษาของประชาชน ยิ่งขยายการศึกษามากเพียงใดบ้านเมืองก็เจริญมากเพียงนั้น แต่ในปัจจุบัน การ ขยายตัวทางการศึกษาจำากัดด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การขยายตัวทางการศึกษาอย่างไม่มีขอบเขต จำากัดแทนที่จะเป็นผลดีกลับเป็นผลร้าย โดยเฉพาะจะเป็นเหตุหนึ่งของการว่างงาน การจำากัดการขยายตัว ของการศึกษานั้น ไม่หมายถึงการลดงบประมาณการศึกษา งบประมาณการศึกษาจะต้องเพิ่มขึ้นโดยลำาดับ อย่างแน่นอน การจำากัดการขยายตัวของการศึกษา หมายความถึงแผนการศึกษาจะต้องขึ้นต่อแผน เศรษฐกิจ ซึ่งจะกำาหนดให้การขยายการศึกษาเป็นไปตามความต้องการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ 8
  • 9. ในสภาวการณ์ใดระดับการศึกษาและวิชาชีพใดเพียงพอแก่ความต้องการก็ลดลว ในสภาวการณ์ใดระดับ การศึกษาและสาขาอาชีพใดเป็นความต้องการ ก็เพิ่มขึ้น ส่วนด้านสามัญศึกษาจะต้องขยายให้มากที่สุด ไม่มีขอบเขตจำากัด ตามระดับความสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นลำาดับไป ทั้งนี้ จะเป็นไปได้โดย ขยายการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาให้มากที่สุด และควบคุมการศึกษาของเอกชนอย่าง เคร่งครัด การศึกษาของชาติจะประสบความสำาเร็จสมความมุ่งหมายขึ้นอยู่กับความถูกต้องของแผน เศรษฐกิจแห่งชาติ และประสานแผนการศึกษาแห่งชาติเข้ากับแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ ๓.๓ ดำาเนินการประกันสังคมทั่วทุกด้าน ความไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ อันเกิดจากผลสำาเร็จของการสร้างระบบเศรษฐกิจของระบอบประชาธิปไตย ตามนโยบายที่ถูกต้อง ย่อมจะเป็นปัจจัยให้มีงานให้ประชาชนทำามากขึ้น และเป็นปัจจัยให้รัฐสามารถ ขยายการศึกษา การสาธารณสุข และสาธารณูปการอย่างอื่นให้กว้างขวางออกไปตามส่วน ประชาชนมี โอกาสทำางาน มีโอกาสศึกษา มีโอกาสรักษาพยายาบาล และมีโอกาสอื่นๆ เพิ่มขึ้นโดยลำาดับ เมื่อเกิดความ ไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ การว่างงานก็ค่อย ๆ หมดไป การศึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน การรักษาโดยไม่ ต้องเสียค่ารักษาตลอดจนบำาเหน็จบำานาญของคนชราและทุพลภาพก็จะมีขึ้นโดยลำาดับ ฉะนั้น ความ ไพบูลย์ทางเศรษฐกิจจึงเป็นการประกันสังคมอยู่ในตัว และมาตรการประกันสังคมที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็ คือ การดำาเนินการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผนอันถูกต้องให้บรรลุผลสำาเร็จนั่นเอง กฎหมายประกันสังคมจะต้องออกตามผลสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แม้ว่าจะออกกฎหมาย ประกันสังคมอย่างสวยงามเพียงใด แต่ถ้าการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติล้มเหลวกฎหมายนั้นก็ปฏิบัติไม่ได้ ๔ การป้องกันประเทศ ๔.๑ หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพแห่งชาติ กองทัพแห่งชาติไม่ใช่กองทัพของบุคคลหรือคณะบุคคล แต่เป็นกองทัพของชาติและของประชาชน กองทัพแห่งชาติไม่สนับสนุนการเมืองของบุคคลหรือคณะบุคคล แต่สนับสนุนการเมืองของชาติ ที่ว่าทหาร ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น ไม่หมายความกองทัพแห่งชาติจะไม่สนับสนุนการเมืองของชาติ แต่ หมายความว่าทหารไม่สนับสนุนการเมืองของบุคคลหรือการเมืองที่ไม่ถูกต้อง เอกราชของชาติและ อธิปไตยของปวงชน คือ สาระสำาคัญของการเมืองของชาติ ซึ่งจะต้องอาศัยความสนับสนุนของกองทัพ แห่งชาติ จึงจะดำารงอยู่ได้ ฉะนั้น หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพแห่งชาติ จึงอยู่ที่การรักษาเอกราชของ ชาติและรักษาอธิปไตยของประชาชน การที่กองทัพแห่งชาติจะต้องรักษาไว้ซึ่งเอกราชของชาตินั้น เข้ากันดี แต่การที่กองทัพแห่งชาติจะต้อง รักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยของปวงชนนั้น ดูเหมือนจะยังไม่ชัดเจนพอ ความจริงแล้วเอกราชขึ้นอยู่ กับประชาธิปไตย ประเทศชาติจะต้องเป็นประชาธิปไตยจึงจะมีเอกราชได้ และการที่ระบอบประชาธิปไตย ล้มเหลวตลอดมา ก็เพราะกองทัพแห่งชาติไม่เข้าไปทำาหน้าที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตยให้เพียงพอ นั่นเอง ฉะนั้น กองทัพแห่งชาติจึงไม่เพียงแต่มีหน้าที่ทางทหารเท่านั้น หากยังมีหน้าที่ทางการเมืองอีกด้วย คือ หน้าที่ทางการเมืองของชาติ อันได้แก่การรักษาเอกราชของชาติ และรักษาอธิปไตยของปวงชน ๔.๒ ปรับปรุงขีดความสามารถของกองทัพแห่งชาติ การที่กองทัพแห่งชาติจะปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์สองประการอย่างมีประสิทธิภาพได้ จะต้องปรับปรุงขีด ความสามารถของกองทัพให้สูงขึ้น เนื่องจากสงครามในปัจจุบันซึ่งกองทัพแห่งชาติเผชิญอยู่ มีลักษณะ 9
  • 10. แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับสงครามในอดีต ทำาให้ยุทธศาสตร์ของกองทัพแห่งชาติที่มีอยู่เดิมไม่เพียงพอ สำาหรับทำาสงครามในลักษณะใหม่ให้ชนะ ฉะนั้น สารสำาคัญของการปรับปรุงขีดความสามารถของกองทัพ จึงอยู่ที่การปรับปรุงยุทธศาสตร์ เมื่อปรับปรุงยุทธศาสตร์ให้สมบูรณ์ ทั้งยุทธศาสตร์ทหารและยุทธศาสตร์ การเมืองแล้ว การปรับปรุงขีดความสามารถอื่นๆ เช่นด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ก็จะสำาเร็จตามไปด้วย ๔.๓ ปรับปรุงสวัสดิการทหาร การที่กองทัพจะมารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยขีดความสามารถในระดับสูงได้นั้น ทหารจะต้องได้รับสวัสดิการใน ทุกด้านอย่างเพียงพอ ฉะนั้น จึงต้องปรับปรุงสวัสดิการทหารในทุกด้านให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำาได้ ๕ นโยบายต่างประเทศ ๕.๑ รักษาลักษณะพิเศษของนโยบายต่างประเทศของชาติไทย นโยบายต่างประเทศกำาหนดขึ้นจากรากฐานของวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์และทางสังคมของ ประเทศไทย ภายใต้หลักนำาของลักษณะพิเศษประจำาชาติไทย ๓ ประการ คือ ๕.๑.๑ รักความเป็นไท ๕.๑.๒ อหิงสา ๕.๑.๓ รู้จักประสานผลประโยชน์ ชาติไทย เป็นชาติเก่าแก่ซึ่งมีลักษณะประจำาชาติสูงส่ง จึงมีนโยบายต่างประเทศอันแน่นอน เป็นมรดก ลำ้าค่าตกทอดมาแต่บรรพกาล เรียกว่า “นโยบายอิสระ” วิธีดำาเนินนโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องก็คือ นำาเอา นโยบายอิสระมาใช้กับปัญหาความสัมพันธ์กับต่างประเทศตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ฉะนั้น สำาหรับนโยบายต่างประเทศของไทยแล้ว นโยบายหลักไม่เปลี่ยนแปลง แต่นโยบายตามสถานการณ์ เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และจะต้องใช้นโยบายสองอย่างนี้ควบคู่กันตลอดไป โดยนโยบายตามสถานการณ์ ตั้งอยู่บนรากฐานของนโยบายหลัก ไม่ว่าจะดำาเนินนโยบายต่อประเทศใด หรือต่อปัญหาใด ใน สถานการณ์ใด เช่น ต่อสหรัฐอเมริกา ต่อสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อสหภาพโซเวียต ต่อสหประชาชาติ ต่ออาเซี่ยน ต่ออินโดจีน ฯลฯ จะต้องยึดถือนโยบายอิสระเป็นหลักอยู่ตลอดเวลา วิธีดำาเนินนโยบายต่าง ประเทศเช่นนี้ ประเทศไทยเคยใช้มาแต่อดีต ยังผลให้รอดพ้นภัยพิบัติและดำารงเอกราชอธิปไตยไว้ได้ ใน ปัจจุบันสภาวการณ์ทางภูมิศาสตร์และทางการเมือง กำาหนดให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุด ในความขัดแย้งของโลก ทั้งความขัดแย้งระหว่างเสรีนิยมกับสังคมนิยม ความขัดแย้งภายในระบบเสรีนิยม ความขัดแย้งภายในระบบสังคมนิยม และในท่ามกลางความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ไม่มีประเทศใดไม่ว่า มหาอำานาจหรือมิช่มหาอำานาจ จะเป็นหลักในการแก้ความขัดแย้งได้ ทำาให้มีอันตรายแห่งสงคราม ทั้งใน ขอบเขตภูมิภาคและขอบเขตโลก แต่ประเทศไทยซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุดและมีนโยบายต่าง ประเทศที่อยู่บนรากฐานของลักษณะประจำาชาติอันสูงส่ง เป็นประเทศเดียวที่อยู่ในฐานะที่จะแก้ความขัด แย้งของโลก ป้องกันสงครามและรักษาสันติภาพซึ่งเป็นหลักประกันของการรักษาผลประโยชน์ของ ประเทศไทยอย่างถึงที่สุด ฉะนั้น ประเทศไทยจึงต้องวางตัวเป็นหลักตามความหมายที่แท้จริงของ “นโยบา ยอิสระ” ในท่ามกลางความขัดแย้งทั้งในภูมิภาคและในโลก ๕.๒ ส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับทุกประเทศ โดยไม่คำานึงถึงความ 10
  • 11. แตกต่างในระบอบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจและสังคม ๕.๓ ส่งเสริมชักชวนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีหลักประกันที่เป็นธรรม และร่วมมือกับประเทศกำาลัง พัฒนา เพื่อเสริมสร้างประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระหว่างประเทศ ๕.๔ ยับยั้งการสร้างสถานการณ์เพื่อเปลี่ยนสงครามในประเทศเป็นสงครามประชาชาติ และกำาจัด บรรยากาศสงครามประชาชาติ ๕.๕ ดำาเนินนโยบายเป็นกลางบนรากฐานของ “นโยบายอิสระ” ของชาติไทย ในปัญหาความขัดแย้ง ภายในระบบสังคมนิยม ๕.๖ เรียกร้องให้มีการประชุมนานาชาติ เพื่อรับรองสถานภาพเป็นกลางของประเทศไทย เพื่อเป็นเงื่อนไข ให้ประเทศไทย ในฐานะเป็นจุดยุทธศาสตร์อันสำาคัญที่สุดในความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ได้แสดง บทบาทอย่างเต็มภาคภูมิในการป้องกันสงครามและรักษาสันติภาพถาวรของโลก ๖ วัฒนธรรม ๖.๑ กำาจัดวัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่หลายมาจากต่างประเทศ และรับวัฒนธรรมต่างประเทศโดยกลั่นกรอง วัฒนธรรมเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญอย่างหนึ่งของระบบสังคม และมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับองค์ ประกอบสำาคัญอีกสองประการ คือ เศรษฐกิจและการเมือง ฉะนั้น การแก้ปัญหาวัฒนธรรมจึงต้องประสาน กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง เศรษฐกิจซึ่งระบบผูกขาดของเอกชนครอบงำาการครองชีพของ ประชาชน และการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย นอกจากจะบั่นทอนวัฒนธรรมอันดีงาม ยังเป็นแหล่งรองรับ วัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่มาจากต่างประเทศอีกด้วย การพัฒนาระบบเศรษฐกิจระบบเสรีนิยมที่ก้าวหน้า และพัฒนาการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ มาตรการพื้นฐานในการป้องกันและกำาจัด วัฒนธรรมตำ่าทรามต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศและที่แพร่มาจากต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็ใช้ มาตรการทางกฎหมายและทางการศึกษาอบรมควบคู่กันไปด้วย วัฒนธรรมตำ่าทรามนั้นไม่เป็นสิ่งพึง ประสงค์ไม่ว่าของเทศใดๆ แต่วัฒนธรรมที่ดีของแต่ละชาติก็ไม่ใช่ว่าจะยอมรับซึ่งกันและกันใด้เสมอไป วัฒนธรรมซึ่งชาติหนึ่งถือว่าดี อีกชาติหนึ่อาจถือว่าไม่ดีก็ได้ เช่น ประเพณีความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ซึ่งชาติหนึ่งถือว่าดีงาม แต่อีกชาติหนึ่งถือว่าเป็นการอนาจารไปก็มี ฉะนั้น การรับวัฒนธรรมจากต่างชาติ จึงต้องคัดเลือกกลั่นกรองเอาแต่เฉพาะที่ไม่ขัดกับวัฒนธรรมไทย แม้ว่าวัฒนธรรมเหล่านั้นจะไม่ใช่ วัฒนธรรมตำ่าทรามก็ตาม ๖.๒ เชิดชูวัฒนธรรมไทยอันสูงส่งมาแต่บรรพกาล ภูมิแห่งจิตใจของชนชาติไทยซึ่งแสดงออกทางขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วรรณคดี และความสัมพันธ์ กับต่างชาติ เป็นต้นนั้นสูงส่งอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องรักษาและเชิดชูไว้ตลอดไป วัฒนธรรมอันสูงส่งย่อมอาศัย ระบอบประชาธิปไตยเป็นพื้นฐาน เพราะวัฒนธรรมอันสูงส่งก็คือวัฒนธรรมของประชาชน ถ้าไม่มี ประชาธิปไตย วัฒนธรรมของประชาชนก็จะไม่สามารถพัฒนาอย่างเต็มที่ได้ การปกครองประเทศไทยมี ลักษณะประชาธิปไตยมาตั้งแต่บรรพกาล นี่คือ ปัจจัยสำาคัญให้วัฒนธรรมของประชาชนได้พัฒนาอย่าง เต็มที่ จึงส่งเสริมให้วัฒนธรรมไทยเป็นวัฒนธรรมที่สูงส่ง ฉะนั้น มาตรการพื้นฐานของการเชิดชูวัฒนธรรม ไทยก็คือ การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทยนั่นเอง ประสานกับการส่งเสริม 11
  • 12. วัฒนธรรมใดด้านต่าง ๆ โดยตรงด้วย ๖.๓ ส่งเสริมเสรีภาพของกลุ่มชนต่างเชื้อชาติในประเทศไทยในการพัฒนาวัฒนธรรมของตน คนไทยประกอบด้วยชนหลายเชื้อชาติ นอกจากเชื้อชาติไทยแล้วยังมีชนเชื้อชาติอื่นๆ เช่น ชาวเขา ชาว มาเลย์ เป็นต้น ความแตกต่างทางเชื้อชาติย่อมกำาหนดความแตกต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ ระบอบประชาธิปไตยยอมรับ ฉะนั้น ระบอบประชาธิปไตยจึงต้องให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมแก่ชนเชื้อชาติ ต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อให้วัฒนธรรมของประชาชนเชื้อชาติเหล่านั้นได้พัฒนาไปอย่างเต็มที่ แม้ว่า วัฒนธรรมของชนเชื้อชาติอื่นจะแตกต่างกับวัฒนธรรมของชนเชื้อชาติไทยก็ตาม แต่เมื่อเป็นวัฒนธรรม ของประชาชนก็ย่อมเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามทั้งสิ้น ฉะนั้น การให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมจึงมีผลดี โดยเฉพาะ คือ ผลดีในการกระชับความสามัคคีแห่งชาติ ๖.๔ พัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองบนรากฐานของการส่งเสริมทรรศนะที่ถือว่า การเมืองคือคุณธรรมตาม คตินิยมของคนไทยแต่โบราณ โดยลักษณะการเมืองคือคุณธรรม เพราะมีความมุ่งหมายเพื่อความสุขของประชาชน ความจริงข้อนี้คน ไทยได้ถือเป็นคตินิยมมาแต่โบราณ เช่น ทศพิธราชธรรม เป็นต้น ในบรรดาระบอบการปกครองทั้งหลาย ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่มีคุณธรรมสูงสุด เพราะระบอบ ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น ประชาธิปไตยก็คือธรรมาธิปไตย นั่นเอง จึงไม่มีการเมืองใดจะมีคุณธรรมสูงส่งเสมอด้วยการเมืองประชาธิปไตย และดังนั้นถ้าจะเป็น ประชาธิปไตยก็จำาเป็นจะต้องกำาจัดทรรศนะที่เห็นการเมืองเป็นของสกปรกและกลับไปสู่ทรรศนะเดิม คือ การเมืองเป็นคุณธรรมต่อไป และบนรากฐานของทรรศนะที่ถูกต้องนี้ ดำาเนินการพัฒนาวัฒนธรรมทางการ เมืองในระบอบประชาธิปไตย เช่นความสามารถในการทำางานร่วมกับผู้อื่น ความอดทนต่อความเห็นที่ตรง กันข้ามกับของตน ความมีวินัย ความยอมรับเสียงข้างมาก ความยืนหยัดในหลักการที่ถูกต้องแม้ว่าจะเป็น ฝ่ายข้างน้อย ความใจกว้าง ความยอมแพ้ต่อเหตุผล ความเคารพในหลักวิชา ความอุทิศตนเพื่อประเทศ ชาติเพื่อประชาชน และเพื่อคุณธรรม เป็นต้น ให้มีทรรศนะที่เห็นการเมืองเป็นคุณธรรม และให้สมบูรณ์ ด้วยวัฒนธรรทางการเมืองอย่างมากที่สุด ๖.๕ ส่งเสริมความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาประจำาชาติไทย รวมทั้งศาสนาอื่นๆ ใน ประเทศไทย พระพุทธศาสนาเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญที่สุดของวัฒนธรรมไทย เพราะหลักธรรมของพระพุทธศาสนา สอดคล้องอย่างลึกซึ้งกับลักษณะพิเศษประจำาชาติไทย โดยเฉพาะคือ อหิงสา (ความไม่เบียดเบียน) เป็น ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของคนไทย และหลักธรรมอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนาคือ อหิงสา ปรโม ธมฺโม ( ความไม่เบียดเบียนเป็นธรรมอย่างยิ่ง) ด้วยเหตุนี้ คนไทยซึ่งรับเอาพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำาชาติ จึงเข้ากับศาสนาอื่นได้เป็นอย่างดี ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยไม่เคยมีการเลือกปฏิบัติต่อศาสนาอื่น และ ไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงอันเนื่องมาจากความแตกต่างทางศาสนา การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะนับถือพุทธ ศาสนาของคนไทยนั้น โดยพื้นฐานเป็นการนับถือหลักธรรมอันแท้จริง แม้ว่าจะประกอบด้วยพิธีการ และ ลัทธินิยมอื่นๆ มากมาย แต่โดยพื้นฐานก็มิได้ละทิ้งหลักธรรมอันแท้จริง หลักธรรมอันแท้จริงนี่เอง คือ 12
  • 13. ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของศาสนา ซึ่งควรเน้นหนักในการส่งเสริมโดยร่วมมือกับบรรดานักปฏิบัติธรรมที่ถูก ต้อง เหล่านี้ คือนโยบายหลักของสภาปฏิวัติแห่งชาติ สภาปฏิวัติแห่งชาติ มีปณิธานอันแน่วแน่ที่จะปฏิบัติ นโยบายนี้เพื่อให้เป็นผลสำาเร็จ โดยถือเป็นภารกิจอันสำาคัญที่สุดในการนำาประเทศชาติและประชาชนผ่าน พ้นภัยพิบัติ ผลักดันความเจริญก้าวหน้าไปสู่สังคมประชาธิปไตย ยังความไพบูลย์แก่ประเทศชาติและความ ผาสุกแก่ประชาชน และรักษาชาติไทยให้ดำารงอยู่ชั่วนิรันดร. ลงชื่อ (นายประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์) ประธานสภาปฏิวัติแห่งชาติ วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๐ (ตอนหนึ่งในหนังสือ”คดีสภาปฏิวัติแห่งชาติ”) การขัดแย้งทางการเมืองจะยุติได้ต่อเมื่อทุกฝ่ายมีนโยบายเดียวกันในทางความคิดและตามแนวทาง ปฏิบัติบนหลักการและนโยบายที่รักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน Thongkum@yahoo.com 13