SlideShare a Scribd company logo
1 of 34
โรคกลัวที่แคบ
Claustrophobia
ที่มาและ
ความสาคัญ
วัตถุประสงค์
ผลที่คาดว่า
จะได้รับ
สาเหตุของโรค
กลัวที่แคบ
ลักษณะการ
กลัวที่แคบ
อาการโรค
กลัวที่แคบ
การรักษาโรค
กลัวที่แคบ
วิดิโอที่
เกี่ยวข้อง
ผู้จัดทำ
ที่มาและความสาคัญ
เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยผู้คนร้อยละ 20 มี
การเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม ความคิด
รวมถึงปัญหาในชีวิตต่างๆ จนเป็นสาเหตุเกิด
ปัญหาของผู้คนเหล่านั้น อาทิเช่น โรคกลัวที่
แคบ คือ กลุ่มอาการวิตกกังวลผิดปกติจนอยู่
เฉยไม่ได้เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่รู้สึก
ว่าหนีไม่ได้ถูกกักล้อมในที่แคบ ๆ หรือต้อง
อยู่คนเดียวในช่องเล็ก ๆ ทุกอย่างดูประชิดตัว
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้องอยู่ภายในลิฟต์โดยสาร
ที่มีคนหนาแน่น ต้องอยู่ในห้องขนาดเล็กที่ไม่
มีแม้กระทั่งหน้าต่าง หรือตกอยู่ในที่นั่งด้านใน
สุดของเครื่องบิน
ที่มาและความสาคัญ
โดยมีผู้โดยสารคนอื่น ๆ ล้อมรอบตัวอยู่ผู้ป่วย
บางรายอาจมีอาการกลัวเกิดขึ้นได้เมื่อต้องสวม
ชุดที่รัดแน่นจนเกินไป ดังนั้นทางผู้จัดทาจึง
สนใจในการศึกษาในเรื่องโรคกลัวที่แคบ
เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุปัจจัยและวิธีการป้องกัน
ซึ่งสามารถนาข้อมูลจากการศึกษานี้ นาไป
แนะนาบุคลทั่วไปหรือกลุ่มผู้ป่วยในโรคนี้ใน
การดูแลรักษาตนเอง การควบคุมตนเอง
เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในโรคนี้ และเป็นความรู้
ติดตัวสาหรับบุคคลทั่วไปเพื่อที่จะสามารถใช้
ความรู้ในการช่วยเหลือผู้ที่มีอาการของโรคนี้ได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มาและความสาคัญ
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาสาเหตุของการเกิดโรคที่แคบ
2.เพื่อศึกษาผลกระทบของการเป็นโรคกลัวที่
แคบ
3.นาความรู้จากการศึกษามาเผยแพร่ให้แก่
ประชาชน
4.เพื่อให้ผู้ป่วยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
วัตถุประสงค์
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่ศึกษามาก
ขึ้น
2. สามารถนาไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวัน
3.ได้นาความรู้ไปใช้ในการช่วยเหลืออย่าง
เป็นระบบ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
ความกลัวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในมนุษย์
แทบทุกคน เป็นสันชาตญาณที่ทาให้มนุษย์
ดารงชีวิตรอดอยู่ได้เพราะเมื่อเกิดความกลัว ไม่ว่า
จะเป็นกลัวความสูง กลัวสัตว์ร้าย หรือกลัวคน
แปลกหน้า มนุษย์จะหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทาให้เกิดความ
กลัวนั้นซึ่งเท่ากับลดโอกาสที่จะเกิดอันตรายกับ
ตัวเองลง ความกลัวในสิ่งที่น่ากลัวและกลัวอย่าง
พอดีจึงจาเป็นและมีประโยชน์ แต่ความกลัวสิ่งของ
หรือสถานการณ์บางอย่างที่มากเกินไปทั้งที่ไม่น่า
กลัวและคนทั่วไปก็ไม่กลัวกัน แต่ก็เกิดความกลัว
จนทาให้เป็นทุกข์มากทาให้เสียงานเสียการ และทา
ให้เกิดพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ
ตามมาในกรณีนี้ถือว่าเป็นโรคกลัวซึ่งจัดเป็นความ
ผิดปกติทางจิตเวชอย่างหนึ่ง
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
โดยปกติแล้วโรคกลัวที่แคบมักจะมีสาเหตุจาก
ประสบการณ์เลวร้ายอันเกี่ยวกับที่แคบที่เกิดขึ้น
ตอนยังเป็นเด็ก ซึ่งฝังใจผู้ป่วยให้รู้สึกกลัว คิดว่าที่
แคบนั้นมีอันตรายนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์
จนกระทั่งกลัวฝังใจมาจนถึงตอนโต เช่น เคยเกือบ
จมน้าในสระว่ายน้า พลัดหลงจากผู้ปกครองใน
สถานที่ที่มีคนแออัด หรือเล่นซนในท่อ หรือหลุม
อะไรสักอย่าง แล้วติดอยู่ในนั้นเป็นเวลาหนึ่ง เป็น
ต้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทาให้ผู้ป่วยรู้สึก
กลัวจับใจ จนสมองจดจาว่าสิ่งที่เล็ก ๆ แคบ ๆ
นั้นอันตราย หากกลับไปเข้าอีกจะทาให้รู้สึก
กลัวอย่างที่เคยเป็นมา จนแม้จะเติบโตเป็น
ผู้ใหญ่และรู้ว่าที่แคบไม่อันตรายขนาดนั้น
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
แต่จิตใต้สานึกก็จะสั่งให้รู้สึกกลัวอย่างไม่มี
เหตุผลอยู่นั่นเอง และนอกจากนี้ความกลัวที่
แคบยังอาจเกิดได้จากพฤติกรรมเลียนแบบ จาก
การที่ผู้ปกครองหรือคนใกล้ตัวกลัวที่แคบด้วย
ทั้งนี้ยังมีการศึกษาทางการแพทย์ที่ถูกตีพิมพ์ใน
( Psychiatry and Clinical Neurosciences )
พบว่า อาการโฟเบียหรืออาการกลัวต่าง ๆ อ่าน
มีเบื้องหลังอยู่ที่ความผิดปกติของสมอง
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
อะมิกดะลา ( amygdala )
อะมิกดะลา มีขนาดเล็กเกินไป
( Fumi Hayano ) และทีมนักวิจัยพบว่า
ภายในสมองของผู้ป่วยโรคกลัวที่แคบและโรค
กลัวประเภทอื่น ๆ มักจะมีขนาดอมิกดาลา หรือ
ต่อมเล็ก ๆ ใต้สมองที่มีไว้ควบคุมเหตุผลและ
อารมณ์ รวมถึงการแสดงออกของร่างกายกับ
ความรู้สึกแบบต่าง ๆ ที่เล็กกว่าปกติ ซึ่งปัจจัยนี้
อาจทาให้ร่างกายจัดการกับอารมณ์และ
ความรู้สึกกลัวได้ไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก
จนเกิดเป็นโรคโฟเบียต่าง ๆ ได้
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
ยีน ( gene )
การศึกษาพบว่าในบางรายมีอาการกลัวอันฝัง
รากลึกมาจากยีนในร่างกาย โดยเฉพาะกับกลุ่ม
คนที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องเอาตัวรอด
ให้ได้ถูกฝึกให้มีความระแวดระวังตลอดเวลา
หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามีสัญชาติญาณในการเอาชีวิต
รอดค่อนข้างสูง ซึ่งความกลัวของคนเหล่านี้จะ
เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาหนึ่ง และอาจหายเป็นปกติ
ได้เองเมื่อเวลาผ่านไป
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
นอกจากพื้นที่เล็กแคบแล้ว ความกลัวนี้อาจ
เกิดได้จากความรู้สึกแออัด สับสน เมื่อต้องอยู่
ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือเมื่อรู้สึกอากาศ
หายใจในที่นั้น ๆ มีน้อย อาการกลัวก็อาจ
เกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่ในเบื้องต้นเราอาจสังเกต
ความกลัวของเราได้จากอาการและความกลัว
เมื่อต้องอยู่ในที่เหล่านี้
- ลิฟต์โดยสาร
- ห้างสรรพสินค้าหรือที่ที่คุ้นเคยที่ถูกจัดแต่ง
ใหม่ เปลี่ยนแปลงไป
- อุโมงค์
- ห้องใต้ดิน
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
- รถไฟใต้ดิน
- ห้องขนาดเล็ก แคบ
- ห้องพักที่ไม่มีหน้าต่าง หรือหน้าต่างไม่
สามารถเปิดได้
- ประตูหมุน
- เครื่องบิน
- ห้องน้าสาธารณะ
- ห้องที่ถูกล็อก
- รถยนต์ที่มีระบบล็อกประตูอัตโนมัติ
- ตู้รถไฟ
- ชุมชนที่มีคนแออัด/สถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน
สาเหตุของโรคกลัวที่แคบ
ลักษณะการกลัวที่แคบ
1. ชนิดแรกคือกลัวการกาหนดขอบเขต (เช่น ที่
แคบ ที่ลงกลอน ในรถ บนเครื่องบิน ในท่อหรือถ้า)
ซึ้งส่วนมากไม่ได้กลัวการเจ็บปวดแต่ เป็นการกลัว
การถูกบังคับและถูกจากัดพื้นที่
ลักษณะการกลัวที่แคบ
2. อีกลักษณะคือกลัวการหายใจไม่ออกเพราะ
อากาศไม่พอ ผู้ที่มีอาการของโรคมักจะถอดเสื้อผ้า
ที่ใส่ออกเพราะเชื่อว่าเป็นการผ่อนคลาย
ลักษณะการกลัวที่แคบ
อาการโรคกลัวที่แคบ
- เหงื่อออก
- ตัวสั่น
- อัตราการเต้นของหัวใจแรงขึ้น
- ความดันโลหิตสูง
- วิงเวียนศีรษะ และมึนหัว
- ริมฝีปากซีดแห้ง
- แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก
- ท้องไส้ปั่นป่วน
อาการข้างต้นสามารถหายเองได้ ภายใน 5-30
นาทีสังเกตอาการของตนเองให้ถี่ถ้วนว่าอยู่ในภาวะ
ที่รุนแรงหรือไม่ เพื่อรับการรักษาได้ทัน
อาการโรคกลัวที่แคบ
การรักษาโรคกลัวที่แคบ
การรักษาโรคกลัวที่แคบ
หลังจากวินิจฉัยแล้วว่าผู้ป่วยเป็นโรคกลัวที่
แคบจริง จิตแพทย์จะต้องประเมินความรุนแรง
ของอาการ เพื่อเลือกแนวทางรักษาโรคกลัวที่
แคบ ซึ่งมีวิธีรักษาดังต่อไปนี้
ความคิดและพฤติกรรมบาบัด
วิธีรักษาด้วยความคิดและพฤติกรรมบาบัด
หรือ CBT เป็นแนวทางการรักษาโรคกลัวที่
แคบด้วยการให้ผู้ป่วยทาความเข้าใจความกลัว
ของตัวเอง ค่อย ๆ ปรับทัศนคติที่ผู้ป่วยมีต่อที่
แคบอย่างช้า ๆ จนผู้ป่วยเขาถึงความกลัวของ
ตัวเองและเข้าใจจนหายกลัวสิ่งนั้น ๆ
การรักษาโรคกลัวที่แคบ
การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยาจะเน้นไปที่การบาบัดความ
วิตกกังวล ลดความเครียดเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่
รู้สึกกลัว แต่การรักษาด้วยวิธีนี้อาจมี
ผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจิตแพทย์จะใช้วิธีนี้
ก็ต่อเมื่อใช้วิธีบาบัดด้วยความคิดไม่ค่อยได้ผล
รวมไปถึงต้องดูความเหมาะของผู้ป่วยด้วย
การรักษาโรคกลัวที่แคบ
การผ่อนคลาย
ในบางเคสที่ความรุนแรงของอาการไม่มาก
อาจบาบัดได้ด้วยการผ่อนคลายร่างกายและ
สมอง โดยการฝึกหายใจลึก ๆ หรือบริหาร
กล้ามเนื้อร่างกาย เพื่อลดความวิตกกังวลและ
ความเครียดเมื่อรู้สึกกลัว
การรักษาโรคกลัวที่แคบ
วิดิโอที่เกี่ยวข้อง
วิดิโอที่เกี่ยวข้อง
วิดิโอที่เกี่ยวข้อง
วิดิโอที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลผู้จัดทา
นาย ธีรเทพ แก้วเรือน
ชั้น ม.6/8 เลขที่ 6
นาย ธิติ แก้วจา
ชั้น ม.6/8 เลขที่ 6
ผู้จัดทา
นาเสนอ
ครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
แหล่งอ้างอิง
https://health.kapook.com/view136488.html
https://www.bumrungrad.com/th/conditions/phobias
https://www.sanook.com/health/19469/

More Related Content

Featured

How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
ThinkNow
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Kurio // The Social Media Age(ncy)
 

Featured (20)

Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage EngineeringsProduct Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
Product Design Trends in 2024 | Teenage Engineerings
 
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental HealthHow Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
How Race, Age and Gender Shape Attitudes Towards Mental Health
 
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 

Final project