More Related Content
Similar to นางสาวศิริพร เทพศรีหาม.5 (6)
นางสาวศิริพร เทพศรีหาม.5
- 1. ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิรยาเคมี
ิ
อัตราเร็วในการเกิดปฏิกิริยา หมายถึง ปริมาณของสารตั้งต้นที่ลดลง หรือปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นต่อหน่วย
เวลา โดยอาจวัดปริมาณของสารได้จากความเข้มข้น ปริมาตร หรือมวลของสารที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเกิดปฏิกิริยา ซึ่ง
สามารถเขียนสูตรแสดงความสัมพันธ์ได้ดังนี้
ปริมาณสารตั้งต้นที่ลดลง
อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี = ---------------------------------------
เวลาที่ใช้ในการเกิดปฏิกิริยา
ปริมาณสารผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น
= ----------------------------------------
เวลาที่ใช้ในการเกิดปฏิกิริยา
ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นอยู่รอบ ๆ ตัวเรานั้น บางปฏิกิริยาก็เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่บางปฏิกิริยาก็เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ แม้แต่
ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดจากสารตั้งต้นชนิดเดียวกัน บางครั้งก็ยังเกิดขึ้นได้ด้วยอัตราเร็วที่แตกต่างกัน โดยอัตราเร็วของปฏิกิริยาจะ
ขึ้นอยู่กบชนิดของสารตั้งต้นและปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ดังนี้
ั
1. ชนิดของสารตั้งต้น สารตั้งต้นแต่ละชนิดจะมีความสามารถเกิดปฏิกิริยาเคมีที่แตกต่างกัน โดยสารตั้งต้นชนิดหนึ่ง
อาจจะสามารถเกิดปฏิกิริยาได้เร็วกับสารชนิดหนึ่ง แต่อาจเกิดปฏิกิริยาได้ช้ากับสารอีกชนิดหนึ่งก็ได้ ตัวอย่างเช่น โลหะ
แมกนีเซียมจะสามารถทำาปฏิกิริยาได้ดีกับสารละลายกรดเกิดเป็นแก๊สไฮโดรเจน แต่แมกนีเซียมจะทำาปฏิกิริยากับออกซิเจน
ได้ช้ามาก หรือการที่โลหะ โซเดียมที่สามารถทำาปฏิกิริยากับนำ้าได้อย่างรวดเร็วมาก ขณะที่โลหะแมกนีเซียมจะทำาปฏิกิริยา
กับนำ้าได้ช้า เป็นต้น
2. ความเข้มข้นของสารตั้งต้น ปฏิกิริยาโดยส่วนมากจะเกิดได้เร็วมากขึ้น ถ้าหากเราใช้สารตั้งต้นมีความเข้มข้นมาก
ขึ้น เนื่องจากการเพิ่มความเข้มข้นของสารจะทำาใหมีอนุภาคของสารอยู่รวมกันอย่างหนาแน่นมากขึ้น อนุภาคของสารจึงมี
โอกาสชนกันแล้วเกิดปฏิกิริยาได้มากขึ้น
3. อุณหภูมิ หรือ พลังงานความร้อนจะมีผลต่อพลังงานภายในสาร โดยการเพิ่มอุณหภูมิจะเป็นการเพิ่ม
พลังงานจลน์ให้แก่อนุภาคของสารทำาให้อนุภาคของสารเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการชนกันของอนุภาคมาก
ขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มพลังงานให้แก่สารจะช่วยทำาให้สารมีพลังงานภายในมากกว่าค่าพลังงานก่อกัมมันต์จึงทำาให้เกิด
ปฏิกิริยาเร็วขึ้นได้ เช่น การเก็บอาหารในตู้เย็นเพื่อป้องการการเน่าเสีย เป็นต้น
4. ตัวเร่งปฏิกิริยา เป็นสารที่เติมลงไปในปฏิกิริยาโดยสารเหล่านี้จะไม่มีผลต่อการเกิดผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาทำาให้
ปฏิกิริยาแต่จะมีผลไปลดค่าพลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยาแต่จะมีผลไปลดค่าพลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยาทำาให้
ปฏิกิริยานั้นเกิดได้ง่ายมากขึ้น และหลังจากการเกิดปฏิกิริยาแล้ว ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใส่ลงไปจะยังคงมีสมบัติและปริมาณ
เหมือนเดิม โดยตัวเร่งปฏิกิริยาที่สามารถพบได้ในชีวิตประจำาวัน ได้แก่ เอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกายของเราซึ่งมีลักษณะเป็นตัว
เร่งปฏิกิริยาช่วยให้เกิดการย่อยอาหารได้เร็วมากขึ้น เป็นต้น
5. ตัวหน่วงปฏิกิริยา เป็นสารที่เติมลงไปในปฏิกิริยาโดยที่สารเหล่านี้จะไม่มีผลต่อการเกิดผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยา แต่
จะมีผลไปเพิ่มค่าพลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยา จึงทำาให้สารเกิดปฏิกิริยาได้ยากขึ้นหรือมีผลยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาแล้ว ตัว
หน่วงปฏิกิริยาทางเคมีและมีมวลเท่าเดิม แต่อาจมีสมบัติทางภาพบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีขนาด หรือรูปร่างเปลี่ยน
ไป โดยตัวหน่วงปฏิกิริยาที่พบได้ชีวิตประจำาวัน ได้แก่ สารกันบูดในอาหาร ที่ช่วยยับยั้งปฏิกิริยาที่ทำาให้เกิดการเน่าเสียของ
อาหาร เป็นต้น
6. พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น ในกรณีที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง การเพิ่มพื้นที่ผิวของสารจะช่วยให้เกิดปฏิกิริยาเคมีเร็วขึ้น
ได้ เนืองจากพื้นที่ผิวที่เพิ่มขึ้นจะทำาให้สารมีพื้นที่สำาหรับการเข้าทำาปฏิกิริยากันได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การเคี้ยวอาหารให้
่
ละเอียดก่อนกลืน จะช่วยทำาให้อาหารมีขนาดเล็กลง และมีพื้นที่ผิวเพิ่มมากขึ้น จึงทำาให้นำ้าย่อยในระบบทางเดินอาหาร
สามารถเข้าย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น เป็นต้น
7. ความดัน จะมีผลทำาให้สารที่เป็นแก๊สสามารถทำาปฏิกิริยากันได้ดีขึ้น เนื่องจากการเพิ่มความดันจะช่วยทำาให้โมเลกุล
ของแก๊สเข้าอยู่มาอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น มีจำานวนโมเลกุลของแก๊สต่อหน่วยพื้นที่เพิ่มขึ้น จึงมีโอกาสชนกันและเกิดปฏิกิริยา
เคมีมากขึ้น ซึ่งลักษณะเช่นนี้ก็คล้ายกับกรณีที่สารที่มีความเข้มข้นมากจะสามารถเกิดปฏิกิริยาได้เร็วขึ้นนั่นเอง
ที่มาและได้รับอนุญาตจาก :
พงศธร นันทธเนศ และสุนทร ภูรีปรีชาเลิศ. สารและสมบัติของสาร ม.4 - ม.6. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญ
ทัศน์.