แก้ไขแล้ว !!! จริยธรรมของนักการเมือง
- 9. Karl Emil Maximilian "Max" Weber
คาร์ล เอมิล มักซิมิเลียน "มักซ์" เวเบอร์
(Karl Emil Maximilian "Max" Weber)
(21 เมษายน ค.ศ. 1864 – 14 มิถุนายน ค.ศ. 1920)
เป
็ นนักเศรษฐศาสตร์การเมือง
และนักสังคมวิทยาชาวเยอรมัน ถือกัน
ว่าเวเบอร์เป
็ นผู้ก่อตั้งวิชาสังคมวิทยา
สมัยใหม่และรัฐประศาสนศาสตร์ งาน
ชิ้นหลัก ๆ ของเขาเกี่ยวข้องกับสังคม
วิทยาศาสนาและสังคมวิทยาการ
ปกครอง
- 10. ในทรรศนะของเวเบอร์
นักการเมืองจึงควรมีคุณสมบัติที่สาคัญ ๓ ประการคือ
1. มีอารมณ์ผูกพันแน่วแน่ จริงจังต่ออุดมการณ์ (Passion)
หมายความว่า นักการเมืองจะต้องรู้สึกห่วง กังวล
เอาใจใส่ต่อสิ่งที่เขาต้องการจะต่อสู้ คาว่า Passion ไม่ใช่
อารมณ์ที่เป็นความตื่นเต้นที่ไร้ความหมาย หรือเป็นเพียง
เจตคติภายใน (Inner Attitude) เท่านั้น แม้แต่การปฏิวัติที่
ปราศจากความรับผิดชอบก็ไม่ถือว่าเป็น Passion
- 24. ปัญหาของนักการเมืองไทยในปัจจุบัน
• ประชานิยม ซึ่งปรากฏชัดเจนนับตั้งแต่ พ.ศ. 2544 ของ
รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะไม่มีปัญหา
หากช่วยให้ประชาชนเลี้ยงตัวเองได้ในระยะยาว แต่กลับ
ไม่เป็ นเช่นนั้น เพราะการให้เงินประชาชนเปล่าๆ ทาให้
เกิดหนี้สินและไม่สามารถตั้งตัวได้
สาหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต้องปฏิรูประบบการศึกษา ปรับค่านิยมยกย่อง
คนมีความรู้ความสามารถมากกว่าคนร่ารวย กาหนดบทลงโทษเพิ่มเติมสาหรับจริยธรรม
วิชาชีพ จัดตั้งหน่วยงายเฉพาะดูแลจริยธรรมนักการเมือง ให้ความรู้และกระตุ้นจิตสานึก
ประชาชนให้สอดส่องดูแลจริยธรรม Social Sanction หรือคว่าบาตรนักการเมืองที่ประพฤติ
ผิดทางจริยธรรม ที่สาคัญสังคมไทยควรเปลี่ยนแปลงระบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ใช้
วัฒนธรรมสร้างชาติไม่โกงกิน ทั้งนี้ สื่อควรแสดงบทบาทเป
ิ ดโอกาสให้สังคมรับรู้พฤติกรรม
นักการเมือง และควรให้นักการเมืองที่จะลงสมัครเลือกตั้งต้องผ่านการอบรมจริยธรรมก่อน
- 32. • การชุมนุมทางการเมืองที่มีต่อเนื่องมาถึง 6 เดือน ซึ่งมีสาเหตุมา
จากความขัดแย้งทางความคิด และการแก่งแย่งผลประโยชน์ทาง
การเมือง ตลอดระยะเวลา 9 ป
ี ที่ผ่านมา (วิกฤตการณ์การ
เมืองไทย พ.ศ. 2548–2553 และ พ.ศ. 2556–2557) ส่งผล
กระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทาให้ประชาชน
แตกความสามัคคี จนไม่อาจปรองดองกันได้
• การบังคับใช้กฎหมายปกติต่อปัญหาข้างต้น บังคับใช้ไม่ได้ทุก
กลุ่ม ทาให้เกิดความหวาดระแวง เกลียดชังกันในหมู่ประชาชน
เป
็ นวงกว้าง ความเคลื่อนไหวของทุกฝ
่ าย โดยเฉพาะแกนนาที่มี
ความผิด ตามกระบวนการยุติธรรม นาไปสู่การยุยงปลุกปั่นแนว
ร่วมของฝ
่ ายตน ให้พร้อมที่จะกระทาการใด ๆ ต่อฝ
่ ายตรงข้าม
ด้วยความรุนแรง
- 41. แน่นอนว่า...
ในการปฏิรูปครั้งนี้ คงจะไม่มีฝ
่ ายใดเป็ นผู้ “ได้”
หรือ “เสีย” ทั้งหมด ความสาคัญจึงอยู่ที่ว่า แต่ละ
ฝ
่ ายที่เข้ามามีส่วนร่วมจะยอมเป็ นฝ
่ าย “เสีย” และ
“ได้” ในบางเรื่องมากน้อยเพียงใด ซึ่งหาก คสช.
สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ โอกาสที่จะประสบ
ความสาเร็จก็มีมาก แต่หากไม่สามารถจัดการได้
โอกาสแห่งความล้มเหลวก็มีมากเช่นเดียวกัน...