More Related Content
More from Rujira Kongsub (8)
Work3.39
- 6. 1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
Educational Media
⦁ เป็นโครงงำนที่ใช้ผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดยกำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียน ซึ่งอำจจะต้องบท
ทบทวน และคำถำมคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่ม โดย
ใช้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ Online ให้
นักเรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ได้
⦁ โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำง ๆ โดย
นักเรียนอำจคัดเลือกหัวข้อที่ทำควำมเข้ำใจได้ยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำโปรแกรม
6
- 10. 5. โครงงานพัฒนาเกม
(GameDevelopment)
เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้ และ ควำมเพลิดเพลิน ซึ่งเกมที่
พัฒนำขึ้นนี้น่ำจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมองเพื่อคิดอย่ำงมีหลักกำร และจะมีกำร
ออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไป
ด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนำมำ
ปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำง ๆ
10
- 14. ขั้นตอนการทาโครงงาคอมพิวเตอร์
⦁ ชื่อโครงงาน
⦁ ประเภทโครงงำน
⦁ ชื่อผู้จัดทำโครงงำน
⦁ ครูที่ปรึกษำโครงงำน
⦁ ครูที่ปรึกษำร่วม
⦁ ระยะเวลำดำเนินงำน
⦁ 3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน
14
⦁ ที่มาและความสาคัญ
⦁ วัตถุประสงค์
⦁ หลักกำรและทฤษฎี
⦁ วิธีดำเนินงำน
⦁ ขั้นตอนกำรปฏิบัติ
⦁ ผลที่คำดว่ำจะได้รับ
⦁ เอกสำรอ้ำงอิง
- 15. ขั้นตอนการทาโครงงาคอมพิวเตอร์
4.1 การเตรียมการ
⦁ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ และวัสดุอื่นๆ ให้พร้อม และบันทึกกิจกรรมต่ำงๆ ระหว่ำงทำโครงงำน
4.2 การลงมือพัฒนา
⦁ 1. ปฏิบัติตำมแผนงำนที่วำงไว้
⦁ 2. ทำส่วนสำคัญให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทำส่วนที่เป็นส่วนประกอบ
⦁ 3. พัฒนำด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่ำงเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข
⦁ เพื่อให้แน่ใจว่ำผลงำนที่พัฒนำขึ้นทำงำนได้ถูกต้องตรงกับควำมต้องกำรที่ระบุไว้ในเป้ำหมำยและมี คุณภำพ
⦁ 4. การลงมือทาโครงงาน
15
- 16. ขั้นตอนการทาโครงงาคอมพิวเตอร์
⦁ 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
⦁ เมื่อผลงำนเรียบร้อยแล้ว ให้สรุปอย่ำงครอบคลุม และอภิปรำยผล เพื่อพิจำรณำข้อมูลและผลที่ได้พร้อมนำไปอ้ำงอิงกับ
หลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนที่ผู้อื่นได้ศึกษำไว้แล้ว รวมถึงนำผลงำนของผู้อื่นมำใช้ประกอบกำรอภิปรำยผลที่ได้ด้วย
⦁
⦁ 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
⦁ เมื่อทำโครงงำนเสร็จแล้ว อำจพบข้อสังเกต หรือปัญหำ ซึ่งสำมำรถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษำและหรือใช้
ประโยชน์ต่อไปได้
⦁ 4. การลงมือทาโครงงาน
16
- 17. 5. การเขียนรายงาน
⦁ 5.1 ส่วนนา
⦁ 5.2 บทนา
⦁ 5.3 หลักการและทฤษฎี
⦁ 5.4 วิธีดาเนินการ
⦁ 5.5 ผลการศึกษา
⦁ 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
⦁ กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ำใจแนวคิดเกี่ยวกับโครงงำนนั้น ในกำรเขียนรำยงำน
ควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ครอบคลุมหัวข้อต่ำงๆเหล่ำนี้
17
⦁ 5.7 ประโยชน์
⦁ 5.8 บรรณานุกรม
⦁ 5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน
- 18. 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
⦁ 1. ชื่อโครงงำน
⦁ 2. ชื่อผู้จัดทำโครงงำน
⦁ 3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ
⦁ 4. คำอธิบำยถึงที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
⦁ 5. วิธีกำรดำเนินกำรที่สำคัญ
⦁ 6. กำรสำธิตผลงำน
⦁ 7. ผลกำรสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จำกกำรทำโครงงำน
⦁ ผลงำนที่นำมำเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
18