More Related Content
Similar to ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
ใบงานที่ 5 โครงงานคอมพิวเตอร์
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน เทคโนโลยีสมัยใหม่
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นายฤทธิพร พรจากฟ้า เลขที่ 35 ชั้น ม. 6 ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นายฤทธิพร พรจากฟ้า เลขที่ 35 ชั้น ม. 6 ห้อง 5
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
เทคโนโลยีสมัยใหม่
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Modern technology
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายฤทธิพร พรจากฟ้า
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน 2 วัน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เทคโนโลยีสมัยใหม่ ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบท ที่เชื่อมโยง
ต่อเนื่องกัน ในลักษณะ เศรษฐศาสตร์เครือข่าย หรือที่เรียกว่า ( networked economy) มีการเปลี่ยนแปลง
เคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว (เพียงแค่กดเม้าส์ของคอมพิวเตอร์) เสมือนดังไม่มีพรมแดนของประเทศ ปรับเปลี่ยน
โครงสร้างความสัมพันธ์ ทาง เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ระหว่างประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารและ
สารสนเทศ ส่งผลให้โลกมีสภาพ เหมือนเป็นหนึ่งเดียว มีการแข่งขันสูงผลกระทบในวงกว้าง ( systemic and
dynamism ) ต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนที่ทาไห้ทรัพยากร
มนุษย์เกิดการปรับตัวพัฒนาให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่อยู่ในโลกเศรษฐกิจใหม่ของสังคมอุดมปัญญา (Knowledge
Based Economy) กลายเป็นศัพท์ที่ต้องคิด ของคนใน สหัสวรรษที่ 21
เทคโนโลยีได้เข้าไปมีบทบาทต่อวิถีชีวิตผู้คนและสังคมในรูปแบบต่าง ๆ กล่าวคือ
1. ด้านการศึกษา
มีการนาเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยสอน (CAI) โดยทาเป็นสื่อประสม (Multimedia) มีระบบการเรียนการ
สอนทางไกล (Tele-Education) มีห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้น นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาสเรียนรู้และ
ปฏิบัติจริงได้มากขึ้น สาหรับโรงเรียนมัธยม ก็มีการจัดการเรียนการสอนด้านคอมพิวเตอร์ โดยกาหนดให้เป็น
รายวิชาเลือก ในระดับวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย มีเปิดสอนสาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา วิทยาการคอมพิวเตอร์
- 3. 3
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศโดยเฉพาะ เพื่อผลิตบุคลากร สนองความต้องการของตลาด ในยุค
ปัจจุบัน
2. ด้านการแพทย์
เริ่มตั้งแต่การจัดทาประวัติคนไข้ไปจนถึงการออกใบเสร็จรับเงิน การพิมพ์ฉลากยา ก็ยังใช้ระบบ
คอมพิวเตอร์ โดยจะพิมพ์ใส่กระดาษกาวไว้ก่อน เมื่อจะส่งให้คนไข้ก็ติดที่ขวดหรือถุงยา จะได้ไม่ผิดพลาดในการ
ให้ยาตรงตามแพทย์สั่ง บางแห่งให้แพทย์สั่งยาผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อลดความผิดพลาดในการตีความหมาย
จากลายมือของแพทย์ นอกจากนี้บางแห่งยังมีการรักษาทางไกลโดยผ่านดาวเทียมสื่อสารความเร็วสูง ที่แพทย์
ต่างประเทศ สามารถมองเห็นคนไข้ในประเทศไทย และให้คาแนะนา ในการรักษาผ่าตัดทันที แต่ไม่เป็นที่นิยม
เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก
3. ด้านการธนาคาร
มีการให้บริการฝาก-ถอนเงิน โอนเงิน ซึ่งมีมานานแล้ว และในปัจจุบันนี้เริ่มมีระบบ e-banking โดย
สามารถใช้โทรศัพท์มาทารายการที่ธนาคารได้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางมาที่ธนาคาร นอกจากนี้ ให้บริการ
บัตรเครดิต อีกหลากหลายประเภท ซึ่งสามารถถอนเงินที่ตู้ATM ที่ใดก็ได้แม้ในต่างประเทศ ก็สามารถถอนเงินได้
ไม่ต้องพกเงินจานวนมาก ไปเที่ยวต่างประเทศ ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีธนาคารบางแห่ง
ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นชาวประเทศ จะนาเอาระบบธนาคารอิเล็กทรอนิสก์ มาใช้เต็มรูปแบบโดยให้บริการฝาก - ถอน -
โอนเงินด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ซึ่งในต่างประเทศได้มีใช้กันมานานแล้ว
4. ด้านห้องสมุด
การให้บริการยืม-คืนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จะเป็นลักษณะที่ต้องยืมผ่านเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ ซึ่งจะ
ป้อนข้อมูลการยืม เข้าไป หรือใช้เครื่องอ่านรหัสแท่ง (Bar code) และเมื่อคืนหนังสือก็ต้องผ่านเจ้าหน้าที่
บรรณารักษ์เช่นเดิม หลายแห่ง เปลี่ยนมาใช้การฝังแถบแม่เหล็กเข้าไปในหนังสือ และมีเครื่องตรวจจับหนังสือที่
ถูกนาออกห้องสมุดโดยที่ยังไม่ถูกยืม เพื่อป้องกัน หนังสือสูญหาย สาหรับในต่างประเทศ เช่น ประเทศ
ออสเตรเลีย ห้องสมุดบางแห่ง ให้บริการยืมหนังสือ ผ่านเครื่อง ยืมหนังสือ คือผู้ยืมสามารถสืบค้นหนังสือได้ทั้งใน
สถาบันและนอกสถาบัน เมื่อรู้ตาแหน่งที่เก็บหนังสือแล้วไปนาหนังสือ ผ่านเครื่องยืมหนังสือ เวลาคืนก็นามาใส่ใน
ตู้รับหนังสือ จะมีเจ้าหน้าที่นาไปเข้าเครื่องอ่านแถบแม่เหล็กที่ฝังอยู่ในหนังสือ มีการ ให้บริการสืบค้นข้อมูลบน
CD-ROM บนระบบ Internet ห้องสมุดหลายแห่งได้ลงทุน ของเช่าฐานข้อมูลที่สาคัญ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่
ผู้ใช้บริการ ห้องสมุด โลกปัจจุบันนี้ "ข้อมูลขายได้" ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศจึงทาให้เกิด
ห้องสมุดเสมือนจริง Visual Library และยังมีพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง Visual Museum ทาให้ภาพของจริงในทุก
มุมมอง โดยไม่ต้องจับต้องของจริง
5. ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย
แต่เดิมจะไม่สะดวกกับผู้ซื้อเพราะซื้อตั๋วที่ไหนจะต้องขึ้นรถไฟที่นั่น แต่ในปัจจุบันมีบริการซื้อตั๋วด้วย
ระบบคอมพิวเตอร์ ทาให้สามารถจะซื้อตั๋วที่สถานีใดก็ได้ กาหนดสถานีต้นปลายทาง ปลายทางได้อย่างอิสระ
สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้มากกว่าเดิม และมีบริการเสริมขึ้นมากมาย เช่น สามารถคืนตั๋วก่อนออกเดินทางที่สถานี
ใดก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบที่นั่ง ว่าว่างหรือไม่ว่าง ทาได้ทันที ทาให้ไม่เกิดการซื้อตั๋วซ้อนกัน ช่วยลด
ความผิดพลาดได้มาก และเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ในการให้บริการ
- 4. 4
6. ด้านธุรกิจ
บริษัท ห้างร้านส่วนใหญ่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ทั่วไป ระดับผู้ใช้งานโปรแกรม
(Users) ซึ่งจะต้องใช้โปรแกรมที่มีใช้ในสานักงานได้เช่น โปรแกรมพิมพ์เอกสาร
(Word Processor) โปรแกรมตารางการทางาน (Speedsheet) โปรแกรมนาเสนองาน (Presentation) และโปรแกรม
สนับสนุนอื่นๆ บางแห่งต้องการเฉพาะทางเช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) นักวิเคราะห์ระบบ (System
Analysis) นักควบคุมระบบ (Administrator) นักคอมพิวเตอร์กราฟฟิค (Computer Graphic) เป็นต้น
จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ต้น คงพอสรุปได้ว่าเทคโนโลยีสาระสนเทศ มีความสาคัญทั้งในปัจจุบัน
และอนาคตข้างหน้า เทคโนโลยีสารสนเทศได้กระจายองค์ความรู้ไปทุกพื้นที่ในโลก ขึ้นอยู่กับใครสามารถเข้าถึง
ข้อมูลเร็วกว่าหาข้อมูลได้มากว่ากัน นอกเนื้อจากนั้น จะต้องสามารถเลือกและวิเคราะห์ข้อมูล ที่จะนามาปรับใช้
เป็นองค์ความรู้ สังเคราะห์เพื่อตัดสินใจแก้ปัญหาจนเกิดเป็นปัญญาที่ สะสมไว้ในตัวคน และถ้าทุกคนมีการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันก็จะสามารถเป็นสังคมอุดมปัญญาในองค์กร เพื่อแก้ปัญหา และตัดสินใจได้เร็วขึ้น
เป็นจุดที่สาคัญที่จะทาให้คนและองค์กรนั้นๆเก่งกว่ากัน หรือเหนือกว่ากัน หรือช่วงชิงในทุกๆเรื่องได้ก่อนใคร
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
- เพื่อรับรู้และทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่
- เพื่อเห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
- เพื่อที่จะเป็นคนที่สนใจในการค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ในการศึกษาโครงงานนี้ได้หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ในขอบเขตของเทคโนโลยีสมัยใหม่
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
เทคโนโลยี (Technology) คือ การใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี
กระบวนการตลอดจน
ผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน
การทางานให้ดียิ่งขึ้น
และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น
การนาเทคโนโลยีมาใช้กับงานในสาขาใดสาขาหนึ่งนั้นเทคโนโลยี มีความสาคัญ 3 ประการ คือ
1.ประสิทธิภาพ (Efficiency) เทคโนโลยีจะช่วยให้การทางานบรรลุผลตามเป้าหมายได้เที่ยงตรงและรวดเร็ว
2.ประสิทธิผล (Productivity) เกิดผลผลิตเต็มที่ ได้ประสิทธิผลสูงสุด
3.ประหยัด (Economy) ประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน ลงทุนน้อยแต่ได้ผลมาก
- 5. 5
ความสาคัญของเทคโนโลยี
1.เป็นพื้นฐานปัจจัยจาเป็นในการดาเนินชีวิตของมนุษย์
2.เป็นปัจจัยหลักที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา
3.เป็นเรื่องราวของมนุษย์และธรรมชาติ
ในช่วงสองทศวรรษทีผ่านมา วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี ได้มีบทบาทสาคัญเพิ่มขึ้นจนสามารถสร้าง
นวัตกรรม (Innovation) ซึงก็คือ การเรียนรู้ การผลิตและ การใช้ประโยชน์จากความคิดใหม่ ให้เกิดผลทั้งทาง
เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เทคโนโลยีทาให้สังคมโลกทีเ รียบง่าย กลายเป็นสังคมที่มี
การดารงชีวิตที สลับซับซ้อนมากขึ้น ก่อให้เกิดกระแสแห่งความไร้พรมแดน หรือกระแสโลกาภิวัฒน์ ทีเข้ามาสู่ทุก
ประเทศอย่าง รวดเร็ว จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ อันเป็นการผสมผสาน 4 ศาสตร์ เข้าด้วยกัน
ได้แก่ อิเล็อทรอ นิกส์ โทรคมนาคม และข่าวสาร (Electronics , Computer ,Telecomunication and Information
หรือเรียกย่อๆ ว่า ECTI ) ทาให้สังคมโลกสามารถสื่อสารกันได้ทุกแห่งทั่วโลกอย่างรวดเร็ว สามารถรับรู้ข่าวสาร
ความเคลื อนไหวต่างๆ ได้พร้อมกัน สามารถบริหารจัดการและตัดสินใจได้ทุกขณะเวลา การลงทุนค้าขาย และ
ธุรกรรมการเงินทได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเทคโนโลยี กาลังทาให้โลกใบนี้ “เล็กลง” ทุกขณะ
วิวัฒนาการเทคโนโลยี (Evolution of Technolgy)
เทคโนโลยี มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาเมื่อเวลาผ่านไปขั้นตอนการเปลี่ยนนแปลงขึ้นอยู่กับกระบวนการ
ทางวิวัฒนาการ (Evolution) ของระบบหรือเครื่องมือนั้นๆ ดังนั้นคาว่าวิวัฒนาการของเทคโนโลยี (Evolution of
Technology) จึงหมายถึง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบหรือเครื่องมือที่เกิดขึ้นอย่างซับซ้อนและมีการ
เปลี่ยนแปลงตามลาดับอย่างต่อเนื่องอันมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ
วิวัฒนาการสามารถแบ่งได้เป็น 5 ยุค
- ยุคหิน (Stone age)
- ยุคทองสัมฤทธิ์ ( Bronze age)
- ยุคเหล็ก (Iron age)
- ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution)
- ยุคศตวรรษที่ 20 (The 20th Century)
ความสัมพันธ์ระหว่าง เทคโนโลยี กับ นวัตกรรม
คาว่า นวัตกรรม เป็นคาที่ใช้ควบคู่กับ เทคโนโลยี เสมอๆ ในภาษาอังกฤษใช้คาว่า Innotech ความจริงแล้ว
นวัตกรรมและเทคโนโลยีนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดเนื่องจากนวัตกรรมเป็นเรื่องของการคิดค้นหรือการ
กระทาใหม่ ๆเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นซึ่งอาจจะอยู่ในขั้นของการเสนอความคิดหรือในขั้นของการ
ทดลองอยู่ก็ได้ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยของสังคม ส่วนเทคโนโลยีนั้นมุ่งไปที่การนาสิ่งต่าง ๆรวมทั้งวิธีการเข้ามา
ประยุกต์ใช้กับการทางาน หรือแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าหากพิจารณาว่านวัตกรรมหรือสิ่งที่เกิดขึ้น
- 6. 6
ใหม่นี้น่าจะนามาใช้ การนาเอานวัตกรรมเข้ามาใช้นี้ ก็จัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีด้วย และในการใช้เทคโนโลยีนี้ถ้าเรา
ทาให้เกิดวิธีการหรือสิ่งใหม่ๆ ขึ้น สิ่งนั้นก็เรียกว่าเป็นนวัตกรรม เราจึงมักเห็นคา นวัตกรรม และ เทคโนโลยี อยู่
ควบคู่กันเสมอ
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
งบประมาณ
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน