SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
...ฉันได้บันทึกสิ่งเหล่านี้ด้วยความเจ็บปวด...
วันนั้นเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ญาติของฉันคนหนึ่งกาลังมาเยี่ยม ฉันกาลังทาตัวขี้เกียจอยู่บนเตียง
นอนของฉันสักพัก พี่ชายของฉันเดินเข้ามาในห้อง “เธอเลิกทาตัวขี้เกียจได้รึเปล่าคุณน้องสาว” พี่ชายฉันพูด
ขึ้น ฉันมองหน้าพี่ขยับแว่นตา วางหนังสืออ่านเล่นบนโต๊ะข้างเตียงแล้วพูดว่า “เมย์ไขคดีได้อีกแล้วรึไง เลย
มาพูดแบบนี้” พี่ชายฉันเงียบไป 3 วินาที แล้วพูดว่า “ถูกต้อง เธอรู้ได้ไง ยังไม่อ่านหนังสือพิมพ์วันนี้เลย” ฉัน
ขยับแว่นตา พร้อมพูดว่า “นี่มันครั้งที่ 9 แล้วที่พี่เดินเข้ามาในห้องของหนูโดยไม่เคาะประตู และทุกครั้งที่ไม่
เคาะประตูจะเกี่ยวกับเมย์”
พี่ชายเข้ามาดีดหน้าผากฉัน “โอ๊ย” ฉันร้องออกไป พี่เลยบอกต่อว่า “ทาไมไม่หัดเป็นนักสืบบ้างเธอ IQ สูงกว่าเมย์อีกนะ”
ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับเขาอีกแล้ว(เฮ้อ....) “นี่หนูบอกแล้วไงว่า IQ ของหนูไม่ค่อยคงที่” “มันยังไม่แน่ชัดน่า” พี่ชายชั้นตอบ
มา “จะมาบอกเรื่องอะไรกันแน่” ฉันถามแบบตรงๆ พี่ชายตอบกลับมาว่า “วันนี้อเล็กจะมาเยี่ยม” ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอน
ถอดแว่น แต่งตัว แปรงฟัน แต่พอฉันมองนาฬิกาฉันถึงกับพูดไม่ออก “.....4....โมง.....เย็น.....” พี่ชายฉันมองหน้าฉัน แล้ว
แสยะยิ้ม “กาลังอนุมานกับหนังที่ดูเมื่อวานสินะ ว่าภาคต่อไปจะเป็นยังไง หนังสือนั้นก็เป็นนิยายของหนังเรื่องนั้น” พี่ชี้ไปที่
หนังสือ ฉันพูดไม่ออก อ้าปากค้าง ปกติพี่แทบอนุมานไม่ได้เลยนี่นาทาไมถึงรู้ได้ “ฉันไม่ได้อนุมาน การกระทาของเธอมัน
ชัดมากอยู่แล้ว” พี่พูดออกมา “มันชัดมากเลย...ไม่จริงอะ”ฉันพูดออกมา “ใครละหลังดูหนังจบก็ไปซื้อเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้น
ทันที แล้ววันต่อมาก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เธอทาอย่างนี้มา 10 กว่าครั้งแล้วนะ ใครจะจับไม่ได้” พี่ชายชั้นตอบ “ไปลงไป
ทาอาหารกันเถอะคุยกันจะ 20 นาทีแล้ว” พี่บอก ฉันยิ้ม ตอบว่า “อืม”
.....“สนุกจัง” ฉันพูดหลังจากทาอาหารเสร็จ ตอนนี้4 โมง 50 นาที “ขอบคุณนะที่ยอมลงมาช่วยน่ะ” พี่ชายชั้นพูด
ฉันอมยิ้ม ตอนนี้บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารต่างๆที่น่ารับระทาน แต่อเล็กทาอาหารได้น่าทานกว่านี้มาก ตอนที่ฉันเห็นเขา
ทาอาหาร ฉันก็หลงเขาไปอย่างเต็มใจ แต่อเล็กคือคนฉลาดน้อยที่สุดในหมู่ตระกูล Richards(ตระกูลของเมย์) เขาเป็น
ญาติฝ่ายแม่ของเมย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับฉัน แต่ฉันรู้จักเขามากกว่าเมย์ซะอีก ถึงตอนแรกเขาไม่ถูกยอมรับ เพราะเขาฉลาด
น้อยที่สุดในตระกูลก็ตามที “กริ๊งงงงงงงง” เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น พี่ฉันกาลังดื่มน้าอยู่ ขมวดคิ้ว เดินที่ประตู “เธอขึ้นไป
ชั้น 2 นะ” พี่พูด “วันนี้พ่อกลับดึก แม่อยู่ในห้องหนังสือ อเล็กก็มาตอน 1 ทุ่ม แล้วใครมาเนี่ย” พี่พูดขึ้นมา ฉันจึงตอบ
กลับไประหว่างเดินขึ้นบันไดว่า “ไม่ต้องพูดละเอียดขนาดนั้นหรอก” พี่เริ่มพูดแบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว เพราะตอนนี้ที่ โรม
เกิดเหตุอาชญากรขึ้น 2 – 3 เดือนแล้ว แต่เหตุฆาตกรรมเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง พี่ระวังตัวทุกครั้ง นั่นก็เป็นเรื่องดี แต่มันมัก
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเราหรอก เพราะพวกเรา รวย มากเลยล่ะ แล้วบ้านเราก็อยู่บนภูเขาไม่มีคนลงทุนมาหรอก “ปัง”
ประตูเปิดอัดหน้าพี่ พี่รีบตั้งหลัก เตรียมใช้ศิลปะป้องกันตัว แต่มีเลื่อยไฟฟ้า “ตัด” ร่างพี่ชายฉัน ขาด เป็น 2 ท่อน ฉันเห็น
ลาไส้ ของเขาไหลออกมา ฉันรู้ว่าเขาตายทันที ฉันพูดไม่ออกอ้าอึ้งอยู่ในปาก น้าตาไหลออกมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว ฆาตกร
มองหน้าฉัน แต่ฉันมองไม่เห็นอะไรบนหน้าเขา นอกจาก ดวงตาที่เป็นวงกลม ลูกตาดามองมาที่ฉัน รอยยิ้มอย่างสะใจ
“สวัสดี เจน”เจ้าฆาตกรพูดขึ้น
ฉันช็อกมาก มองไม่ยังศพของพี่ชาย ร้องไห้ แต่สักพักฉันมองไปที่ฆาตกร เพราะเขาเรียกชื่อฉัน พอได้สติฉันรีบ
เปิดประตูห้องพี่ นั่นเป็นทางหนีที่ใกล้ที่สุด ฉันพยายามดึงประตูแต่มันฝืดมาก ฉันบอกพี่กี่ครั้งแล้วว่าให้หยอดน้ามัน ฉันรีบ
ดึงประตูออกให้เร็วที่สุด พอฉันง้างประตูได้ เจ้าฆาตกรก็เอามีดครัวแทงมือขวาของฉัน เขาดึงประตูออกมานามีดที่แทงมือ
ฉันอยู่แทงทะลุประตูไปด้วย ฉันร้องมอโอดครวญ เจ้าฆาตกรจึงพูดขึ้นว่า “จะหนีรึเจน” พร้อมยิ้มแบบสะใจ “เธอคง
อยากรู้ว่าฉันรู้ชื่อเธอได้ไงสินะ” เจ้าฆาตกรบอก ตอนนั้นฉันพยายามมองใบหน้าเขาให้ชัดที่สุด แต่ลักษณะของเขา
เป็นคนอ้วนท้วม ร้อยยิ้มสีดา และดวงตากลม ส่วนอื่นอย่างหน้าตา เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า สีผิว ฉันเห็นเขาเป็น “สีดา”
มองไม่เห็นจุดเด่นของเขาเพื่อจดจาเลย “เธอคือคนฉลาด ฉันจะทาอะไรกับเธอดี และ ฉันรู้ชื่อเธอมาจากคนใน
วงการ” เขาพูดขึ้นเริ่มเลียใบหน้าของฉัน ฉันหลับตา กันฟัน ร้องไห้ กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้น
หนึ่งนัด แม่ของฉันใช้ปืนลูกโม่ลากล้องยาวพิเศษ ยิงทะลุกลางอกเจ้าฆาตกร “เจน เจน เป็นอะไรรึเปล่า!? ” แม่ฉันพูด ร่าง
ของเจ้าฆาตกรร่วงลงกองกับพื้น แม่วิ่งเข้ามาหาฉัน “เจน ลูกเป็นอะไรรึเปล่า!?” แม่พูดกับฉันอีกครั้งหนึ่ง วิ่งมากอดฉัน ฉัน
ยังพูดไม่ออก อ้าอึ้งอยู่ในปากอยากจะบอกเรื่องของพี่ แต่พูดไม่ออก มันรู้สึกปวดหัว แม่พูด “แม่เรียกรถพยาบาลกับรถ
ตารวจมาแล้วมาแล้ว ไม่เป็นไรนะลูกแม่” แต่จู่ๆมือขวาของฉันก็ตกลงพื้นมีดครัวหายไปแล้ว “เดี๋ยวอีกประมาณ 15 นา
.......ที.....” แม่ฉันกระอักเลือด ล้มลง แม่พูคาหนึ่งก่อนที่จะล้มลงไป “เจน” “ฮิ ฮิ ฮิ ฮิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันเดาชื่อแม่
สาวน้อยถูกจริงๆด้วย แม่เธอสวยดีนะว่าไหม” เจ้าฆาตกรพูดพร้อมหัวเราะอย่างสะใจ “อนุมานพลาด 2 ครั้ง
แล้วนะแม่สาวน้อย” ถึงไม่อยากยอมรับสิ่งที่เจ้าฆาตกรพูด แต่ฉันพลาดจริงๆ ฉันอนุมานทุกอย่างที่อยู่รอบตัวฉัน และ
มันถูกต้องเสมอ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่การอนุมานของฉันมันผิดพลาด นี่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ “ที่เธอพลาดเพราะฉันไม่ใช่
คนแบบพวกเธอ” เจ้าฆาตกรพูด ฉันรีบหยิบปืนถ้าฉันยิงเจ้าฆาตกรที่หัวเขาต้องตายแน่ ฉันเล็งปืน แต่เจ้าฆาตกรจับมือ
ฉันไว้ดึงมือขวาฉันขึ้นมา “เด็กดื้อต้องโดนลงโทษ เอาสักประมาณ 1 กาปั้นแล้วกันนะ” ฉันคิดว่าเขาคงต่อยฉัน แต่
มันไม่ใช่เขามองมือซ้ายของฉัน ตัดมือขวาของฉัน ฉันร้องโอดครวญอย่างทรมาน เจ้าฆาตกรยิ้มอย่างสะใจ ปากฉันเริ่ม
ขยับได้ ฉันจึงพูดออกไปว่า “คะ.....คุ....ณ.....ทา.....อย่าง......นี้....ทา....ไม” ฉันหายใจหอบ ร้องไห้ เจ้าฆาตกรยิ้มแสยะ
มองมาที่ฉันจับแก้มของฉันด้วยมือข้างเดียวฉัน “เพื่อความสนุกสนานของฉัน” เจ้าฆาตกรยิ้มแบบสะใจ ตอนนี้ฉันเป็น
เพียง “ลูกไก่ในกามือ” ของเจ้าฆาตกร เจ้าฆาตกรโยนมือขวาของฉันของฉันลงบนพื้น พูดว่า “มือซ้ายฉันตัดแบบช้าๆ
ให้เธอทรมานโดยเฉพาะเลยล่ะ” เจ้าฆาตกรเริ่มกรีดแขนของฉันถัดจากมือ 1 กาปั้น ฉันร้องโอดครวญอย่างทรมาน
เจ้าฆาตกรตัดแขนของฉันจนเหลือประมาณหนึ่งนิ้วโป้งมันก็จะขาดจากต้นแขนของฉัน เจ้าฆาตกรจึงพูดว่า “พวกตัวป่วน
มาแล้วสินะ เฮ้อ... น่าจะได้สนุกอีกนิดนึงนะน่าเสียดายจริงๆ” เจ้าฆาตกรมากระซิบข้างหูฉันก่อนที่ฉันจะล้มลง
ว่า “ยังเหลือพ่อสินะ จาไว้เลยนะแม่สาวน้อย พ่อของแกน่ะตายไปแล้ว” เจ้าฆาตกรเดินไปหยิบมือขวาของฉัน
“ขอเป็นของที่ระลึกแล้วกัน ส่วนมือซ้ายขอทิ้งไว้อย่างนั้นแล้วกันนะแม่สาวน้อย” เจ้าฆาตกรเดินไปด้านหลัง
ของฉัน ฉันหันหลังไปมอง แต่สิ่งที่เห็นคือแผ่นหลัง สีดา ของเจ้าฆาตกร ตาฉันพร่ามัวมองเจ้าฆาตกร เจ้าฆาตกรเดินไปถึง
ทางตันทีอยู่ด้านหลังของฉัน และ เจ้าฆาตกรก็หายไป ฉันหันหน้ากลับไปมองข้างหน้า พ่อรีบวิ่งเข้ามา “มาเรียอา! มาเรีย
อา!” พ่อฉันตะโกนชื่อเล่นที่เมย์ตั้งให้ หลังจากนั้นฉันก็สลบไป
ฉันตื่นขึ้นที่โรงพยาบาลพ่อของฉันนอนอยูข้างเตียงในชุดทางาน สักฉันมองไปที่มือของตนเอง มือขวาของฉันของ
ฉันขาดไปแล้ว ส่วนมือซ้ายเย็บเสร็จแล้ว ประมาณ 30 เข็มได้ “พ่อ...พ่อ......” พ่อฉันลืมตามองฉัน แล้วร้องไห้ “มาเรียอา!
โชคดีจริงๆที่ลูกปลอดภัย” พ่อกอดฉัน ฉันร้องไห้ออกมา ฉันดีใจมากที่พ่อยังไม่เป็นอะไร
พ่อเล่าเรื่องให้ฉันฟังว่า อเล็กพักอยู่ที่ห้องเช่า ตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนเมย์กาลังรีบทางานที่เจนัวให้เสร็จ
แล้วจะรีบมาสืบคดีให้ พอคุยกับพ่อไปสักพักพรุ่งนี้พ่อบอกว่ามี Surprise ให้ฉัน พอตอนเช้าพ่อก็เดินเข้ามาในห้องพร้อม
มือขวาหุ่นยนต์ ขนาดใหญ่กว่ามือขวาของฉันที่ตัดไปนิดหน่อย พ่อให้หมอนามาต่อให้ มันก็ขยับได้คล้ายๆของจริง แขนนี่
มันใช้ได้ดีทีเดียว ในตอนนั้นโรงพยาบาลเต็มไปด้วยทหาร มีทหารหน่วยรบพิเศษมาเฝ้าหน้าห้องฉัน มันไม่แปลกหรอก เรา
รวย นี่นา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทาให้ฉันไม่มั่นใจใน ความรวย อีกแล้วล่ะนะ วันที่สามที่ฉันอยู่ในโรงพยาบาล มันเหมือนเป็น
วันธรรมดาวันหนึ่ง เป็นวันที่ไม่มีแม่ และ พี่ ฉันมองวิวนอกหน้าต่างสักพัก แล้วหลับตาลง จู่น้าตามันก็ไหลออกมา “ปัง”
ฉันลืมตา ประตูกระเด็นมาชนหน้าต่าง พ่อของฉัน ร่างขาด 2 ท่อน เจ้าฆาตกรจับหัวพ่อชั้นด้วยมือข้างเดียว ลาไส้
ของพ่อร่วงลงมาจาร่างท่อนบน มือข้างอีกถือขาพ่อฉันเดินเข้ามาหา เจ้าฆาตกรพูดว่า “บอกแล้วไงพ่อของแกน่ะตายไป
แล้ว” ฉันกรีดร้องลั่นห้อง เอามือกุมหัว ร้องไห้ ตะโกนอย่างไร้สติออกไปว่า “พระเจ้า...... ท่านทาอย่างนี้ทาไม...ท่านทาไป
เพื่ออะไร” ฉันร้องไห้ งอแง ตะโกน ฉันอนุมานพลาดอีกแล้ว เจ้าหน้าที่มากขนาดนั้นเจ้าฆาตกรผ่านมาได้ไง “พระเจ้าไม่
เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่ฉันทาเลย และ ฉันทาทุกอย่างตามความต้องการของตัวฉันเอง” เจ้าฆาตกรพูด มองหน้า
ฉัน พร้อมเอามีดครัวที่แทงมือและฆ่าแม่ฉันนั่นแหละ “ชอบอาวุธนี่จัง” แล้วเจ้าฆาตกรก็เดินออกจากห้องไป ฉันสลบไป
ตื่นขึ้นมาอีกที มองมือของตนเองที่สั่นไม่หยุด กลัว แต่พอมองไปยังศพของพ่อ ฉันอยากจะบ้า แต่สักพักผิวสีซีดลง
ความรู้สึกกลัวก็หายไป ความรู้สึกทุกอย่างหายไป เหลือแค่ความทุกทรมาน
สักพักหมอคนหนึ่งขึ้นมาถึงชั้นที่ฉันอยู่ เขาตกใจมาก หมอและพยาบาลทุกคนในชั้น ตาย หมดทุกคน แต่คนไข้
ปลอดภัยทุกคนเขาได้ให้การกับตารวจ แล้วฉันก็ได้รู้ข้อมูลนี้เพราะฉันเป็นนั่งฟังอยู่ตอนฉันถูกช่วย ขณะหมอคนนั้นให้การ
ตอนที่ทหารและตารวจมาช่วยฉันออกจากห้อง ห้องของฉันเป็นห้องเดียวที่โดนโจมตี เจ้าหน้าอุ้มฉัน พาลงไปนั่งที่ชั้นหนึ่ง
ช่วยปฐมพยาบาล แต่ตอนนั้นร่างกายฉันไม่บาดเจ็บเลย แต่จิตใจของฉันในตอนนั้นเย็นชา ไม่รู้สึกอะไรเลย นอกจากความ
ทุกข์ทรมาน หมอคนหนึ่งเห็นฉันจึงอาสาเจ้าหน้าที่จะช่วยดูแลเธอให้สักพักหนึ่ง ตรวจดูอาการฉัน เข้าจึงขอเจ้าหน้าที่ให้
เข้าได้เป็นหมอประจาตัวฉันเขารู้ทันทีว่าฉันจิตใจไม่ปกติ เพราะดวงตาของฉันดูโศกเศร้า เจ้าหน้าที่มองมาทางฉัน ฉันจึง
พยักหน้า เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้หมอคนนั้นดูแลฉัน เมื่อหมอตรวจดู บอกว่า ฉัน พูดไม่ได้ ยืนไม่ได้ เดินไม่ได้ มือซ้ายขยับ
ไม่ได้ ส่วนมือขวาขยับได้เพราะเป็นมือหุ่นยนต์ ทั้งหมดนี้เกิดจากจิตใจเธอทั้งหมด หมอสรุป ฉันมองใบหน้าอันอ่อนโอน
ของเขา แล้วฉันก็เผลอหลับไป และฝันร้ายยังครอบงาฉันอยู่ ฉันกลัวเจ้าฆาตกรในฝันของฉัน แต่ในโลกแห่งความจริง ฉัน
กลับไม่รู้สึกอะไรเลย
วันต่อมา ฉันผมของฉันกลายเป็นสีขาวภายในวันเดียวทั้งหัว ผิวสีซีดออกเป็นสีเนื้ออ่อน หมอที่ดูแลฉันตกใจมาก
เขาตรวจฉัน คิดว่าน่าจะมาจากความเครียด สักพัก เขานาผ้าพันแผลมาพันมือขวาของฉันจนถึงต้นแขน และ พันต้นแขน
ซ้ายที่ถูกตัดไป เข็มที่เย็บยังเอาออกไม่ได้จึงพันผ้าพันแผลไปก่อน จากนั้นเขาพาฉันนั่งรถเข็นไปชั้นล่างสุด มีตารวจอยู่นาย
หนึ่ง ตารวจได้ให้ข้อมูลกับฉันว่า กล้องวงจรปิดทุกตัวจับภาพเจ้าฆาตกรได้เป็นเงาดา สักพักกล้องก็เสียไป จึงไม่สามารถ
หาร่องรอยคนร้ายได้เลย รอยเท้า รอยนิ้วมือ ไม่มีหลักฐานอะไรที่จับเขาได้เลย แล้วสิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือจู่คนร้ายก็
โผล่มาหน้าลิฟต์เฉยๆ แล้วกล้องก็เสียในตอนนั้น จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ตารวจให้ข้อมูลเพราะหมอที่ดูแลฉันขอให้บอก
ตารวจเลยถามฉันต่อว่า “ศพพ่อ แม่ และ พี่ชายของเธอ พวกเราชันสูตรศพหมดแล้ว ไม่มีร่องรอยที่คนร้ายทิ้งเอาไว้เลย
เธอจะเก็บศพไว้หรือจะนาไปฝังตามพิธีทางศาสนา ก็แล้วแต่เธอนะ” หมอที่ดูแลฉันอยู่นากระดาษมาแผ่นหนึ่งเขียน
ตัวเลือกที่ตารวจให้เลือก ฉันใช้มือขวาชี้ไปที่ “ฝังตามพิธีทางศาสนา” ไม่มีร่องรอยจะเก็บไปทาไมล่ะ ฉันคิดในใจ ฉันลุกขึ้น
เดิน หมอที่ดูแลชั้นอยู่ตกใจ และพูดว่า “.....ขอ....เปลี่ยน......ชุด......อื่น.....ได้....ไหม.......และ...จัด...งาน....วัน..นี้...เลย...
ช่วย...พา...ไป...ห้าง...หน่อย...นะ” หมอพยายามห้ามไม่ให้ฉันไป เพราะฉันป่วยอยู่ แต่ในที่สุดฉันพูดว่า “.....ขอ.....ร้อง”
จึงยอมพาฉันไปห้างซื้อเสื้อผ้า ฉันเลือกเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว พร้อมเสื้อนอกเป็นสูทแขนกุดสีน้าตาล กางเกงยีน รองเท้า
หนังสีดา และ ถุงมือสีดาหนึ่งคู่ ถุงมือสีขาวหนึ่งคู่ ฉันใช้บัตรเดบิตที่พ่อทาให้จ่ายค่าชุด และ ซื้อ ชุดสูตรทั้งชุดให้หมอคน
นั้นด้วย ตอนแรกเขาก็ปฏิเสธ แต่พอฉันมองตาเขา เขาก็รับมัน หลังจากฉันแต่งชุดเสร็จมือขวาใส่ถุงมือสีดา มือซ้ายใส่สี
ขาว ฉันบอกหมอว่า “.....โทร..ระ...ศัพท์.... หน่อย....” หมอจึงยื่นโทรศัพท์ให้ฉัน ฉันโทรหา ’ญาติ’ ตระกูล Rickและ
Richardคุยกันสักพัก ฉันจึงบอกหมอให้พาไปที่สุสานแห่งหนึ่ง ภูเขาข้างบ้านฉันนั่นแหละ
ฉันยืนมองหลุมศพ พ่อ แม่ และ พี่ชายที่ฝังเสร็จแล้ว ญาติทุกคน และ หมอ ยืนอยู่ห่างๆ ฉันใช้แขนขวาดันตัวเอง
ไว้กับขอนไม้ที่อยู่ข้างๆ แต่ลูกพี่ลูกน้องหนึ่งยังไม่มา มองท้องฟ้ายามเย็นพระอาทิตย์กาลังจะตกดิน มีรถยนต์วิ่งมาจอด
อย่างรวดเร็ว เมย์วิ่งออกมาอย่างไว เธอยังใส่ชุดเดรส และ เสื้อนอกสีดามาแค่นั้น เธอตะโกนออกมาว่า”ฉันมาทันรึเปล่า!?”
แต่พอเห็นหลุมศพของทั้งสามคน เธอก็ ทรุดตัวลง ร้องไห้ทันที “มาไม่ทันงานฝัง อุส่าพยายามมาให้เร็วที่สุดแล้วเชียว” เธอ
กาหญ้าที่อยู่บนพื้น แต่พอเธอทาแบบนั้นมันทาให้ฉันโมโหมาก ฉันเลยกระชากคอเสื้อเธอพูดออกไปว่า “เธอจะร้องไห้
ทาไม เธอจะร้องทาไม!!!!!??” ฉันตวาดออกไปน้าตาไหลลงข้างแก้ม แต่เมย์กับลูบหัวฉัน ฉันจึงรีบเดินออกมา ไปหาอเล็กที่
นั่งถือขวดเหล้า นั่งหน้าหลุมศพใครก็ไม่รู้ “ฉันขอโทษ.....ขอโทษจริงๆ.....” ฉันได้ยินอเล็กพูดขึ้น ฉันจึงไปกอดุขาข้างหลัง
“.....อย่า.....โทษ....ตน...เอง....เลย...” อเล็กเข้าใจฉันเขาจึงวางขวดเหล้าลงเดินไปรวมกับญาติคนอื่น
.....หลังจากเสร็จพิธีฉันขอหมอไปพักหอพักที่ห้องเช่า แน่นอนเขาให้ แต่เขาต้องอยู่ดูแลเธอ เขาจะนอนอยู่อีกห้อง
หนึ่ง กลางดึกฉันฝันร้ายขึ้นมานั่งร้องให้คนเดียวพยายามไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวนหมอ เพราะเขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แต่จู่ๆ
ประตูก็เปิดออก เมย์เดินเข้ามา ฉันมองหน้าเธอ ขณะร้องไห้อยู่ ฉันหันหลังพยายามเมินเธอ แต่เธอก็มากอดฉันจากข้าง
หลัง เธออดทนมามากพอแล้วล่ะ” ฉันกัดฟัน แต่มันทนไม่ไหวแล้ว ฉันร้องลั่น แน่นอนมันไม่รบกวนคนอื่นหรอก เพราะ
ตระกูลฉันเหมาทั้งโรงแรมเลย ส่วนหมอเมย์น่าจะไปบอกแล้ว แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันเล่าเรื่องต่างๆให้เธอฟังทั้ง
น้าตา โดยพูดแบบปกติ ไม่รู้ว่าพูดได้ยังไงเหมือนกัน สักพักหลังจากเล่าเสร็จ พวกเราเงียบไป แต่ฉันก็พยายามไล่เธอออก
จากห้อง เพราะต้องการเวลาที่จะอยู่คนเดียวสักพัก แต่สิ่งที่เมย์ทากับฉันคือสิ่งที่ทาให้ฉันกลับมามี
ความรู้สึกสักพักหนึ่ง เธอ “จูบฉัน” ประมาณ 15 วินาที ฉันตกใจมาก แต่ก็ดันหลงไปกับมัน มันรู้สึกแปลก ลิ้น
ของฉันมันพันกับลิ้นของเมย์ ความรู้สึกก็กลับมาอีกครั้ง ฉันหน้าแดง พอได้สติฉันก็กามัดทุบไปที่เธอเบาๆ ร้องไห้ ตะโกน
โวยวาย เมย์ก็จับกดฉันทันที ฉันตกใจมากเมย์ค่อมตัวฉันอยู่ ฉันมองใบหน้าที่แสนสวยงามของเธอ เธอเลียมุมปาก พูดว่า
“จะเอาส่วนไหนก่อนดีนะ” ฉันหลับตา ร้องไห้ ไม่มีแรงเหลือ เพราะความตื่นเต้น แต่ “ฮิๆๆๆๆ “ เมย์หัวเราะ “แกล้งแค่นี้เอง”
เธอพูด “เอาลุกขึ้น” เธอพยุงตัวฉันขึ้นมา “เธอน่ารักไม่เปลี่ยนไปเลยน้า” เมย์พูดพร้อมมองหน้าฉัน ฉันก้มหน้าที่แดงก่า
เผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้า “จูบแรก...ของฉัน” ฉันอายมาก ไม่กล้ามองหน้าเมย์เลย แต่เธอก็จับหน้าฉันเข้าไปใกล้
หน้าของเธอ “ทาอีกสักครั้งไหมล่ะ” “ม่ายยยย” ฉันลากเสียงมองหน้าเธอฉัน ลืมอาการที่ฉันเป็นอยู่ไปสักพัก แต่พอฉันมือ
ตัวเอง อาการเหล่านั้นก็กลับมา ฉันจึงพูดประโยคสุดท้ายก่อนที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม “พาฉันกลับได้ไหม”
เช้าวันต่อมา ฉัน เมย์ และ หมอ ไปยังบ้านของฉัน ทางตระกูลให้ตารวจ เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญหลายแขนง มาช่วย
เมย์ได้เข้าไปในบ้าน ฉันนั้นยังยืนอยู่หน้าประตู พอก้าวเข้าไปภาพเหตุการณ์ที่เกิดเข้ามาในหัวฉัน แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือ
ใบหน้าของเจ้าฆาตกร ฉันล้มลงไม่เหลือเรี่ยวแรง ร้องไห้ จนสลบไป
ฉันตื่นมาอีกทีที่โรงพยาบาล ไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่ความเจ็บปวด เมย์มีคดีใหม่ที่เจนัวจึงรีบกลับไป ฉันอยู่
โรงพยาบาล ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แต่มันก็ไม่รู้สึกอะไร
สามวันหลังจากนั้นฉันหมอ และ พยาบาล พาฉันลงไปเดินเล่น (นั่งรถเข็นนั่นแหละ) พอลงไปถึงชั้นหนึ่ง
พยาบาลพาฉันไปดูแถวๆสวน ส่วนหมอมีผ่าตัดด่วน จึงรีบไป แต่ฉันก็เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นอีกแล้ว ฉันเหลือไปเห็นผู้ชายคน
หนึ่งมีเศษแก้วปักเต็มตัว หมอและพยาบาลพาไปยังห้องผ่าตัดอื่น เพราะห้องที่ใกล้น่าจะเต็มหมดแล้ว จู่ๆการอนุมานของ
ฉันก็ทางาน ‘ผู้ชายคนนั้นอายุประมาณ 30 ต้นๆ ถูก แผ่นกระจกหล่นใส่ น่าจะถูกฆาตกรรม’ ฉันคิดในหัว แล้วพูดออกไปว่า
“ชายคนนั้นถูกฆาตกรรม” ฉันพูดไม่มีติดขัดอีกแล้ว “ขอข้อมูลของชายคนนั้นหน่อยสิ” ฉันบอกพยาบาล ตอนนี้ฉันเดินได้
แล้วไม่มีปัญหาอีกต่อไป แต่จิตใจฉันยังคงเสร้าหมองอยู่เหมือนเดิม
สักพัก ตารวจได้นาข้อมูลมาให้ตามที่ฉันขอ ตารวจคนเดิมนั่นแหละ หมอที่ขอให้ก็เป็นคนเดิม เหตุผลจริงๆทีฉัน
ได้ข้อมูลมาเพราะฉันเป็นญาติกับเมย์ ฉันได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขา เขาชื่อ ไมเคิล อาชีพนักธุรกิจ มีปัญหากับเพื่อนเมื่อ 2 - 3
เดือนก่อน แต่ปัญหาก็จบลงด้วยดี มีคนเห็นคนโยนกระจกแผ่นใหญ่ลงมาดาดฟ้าตึก แล้วก็หนีไป คนร้ายน่าจะหนีไปทาง
ประตูดาดฟ้า
วันต่อมา ไมเคิลปลอดภัยดี แค่มีแผลเต็มตัว ตารวจคนเดิมได้นาข้อมูลมาให้ ฉันได้เรียบเรียงเรื่องราวต่างๆในหัว
ของฉัน และ การอนุมานเริ่มทางาน ฉันจะไม่พลาดอีกแล้ว ฉันจะไม่ให้เกิดการสูญเสียอีกต่อไปแล้วละ ฉันได้บอกตารวจ
คนนั้น ให้นาข้อมูลที่ฉันคิดได้ไปใช้ในการสืบคดี ฉันพูดแบบหน้าตาย ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ สามวันต่อมา ทาง
ตารวจสามารถรวบตัวคนร้ายได้ ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับหรอก แต่สักพัก หลังจากตารวจบอกข้อสันนิษฐาน ให้กับคนร้าย
เขาหน้าซีด ตกใจ จนในที่สุดก็ยอมรับ ตารวจนายเดิมมาบอกฉัน ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่รู้สึกเลย
ในสัปดาห์ต่อมา ฉันยังอยู่ในโรงพยาบาล พรุ่งนี้หมอบอกว่า ‘น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว’ ฉันไม่มีอาการ
อื่นๆอีกแล้ว อวัยวะทุกส่วนก็ปกติดีแล้ว แผลที่เย็บก็หายแล้ว หมอตกใจเพราะแผลหายเร็วมาก แต่ความรู้สึกก็ยังไม่
กลับมา ยังเย็นชาอยู่ และฉันเดินไปข้างหน้าโรงพยาบาลเห็นเมย์ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก “อ้าว!! มาเรียอามาอยู่
นี่ได้ไงล่ะ อาการป่วยหายรึยังล่ะ? พูดเป็นประโยครึยังล่ะ? แล้ว.......” “เงียบซะ ยัยปากมาก!!!!” ฉันพูดตัดบทสิ่งที่เธอพูด
อยู่ เธอเงียบไปสักพัก ตอบกลับมาว่า “เธอก็เหมือนกัน ยัยเขลา” ฉันไม่รู้สึกโกรธมันก็เป็นแค่คาๆหนึ่ง ฉันถามเธอออกไปว่า
“มาเที่ยวโรมรึไง?” “เปล่า มาอยู่กับเธอ” ฉันทาหน้างง ยัยนี่พูดอะไร มาอยู่กับฉันเนี่ยนะ “ทางญาติผ่ายฉันและเธอ
เห็นชอบให้ฉันมาดูแลเธอ แล้วก็ออกเอกสารให้หมอคนนั้นกลายเป็นหมอประจาตัวเธอ และ ทางตระกูลซื้อที่อยู่ให้เราด้วย
ล่ะ เป็นตึกสองชั้น อยู่ในเมือง และ....” “เป็นสานักงานนักสืบ” ฉันพูดตัดบทเธอรอบสอง เธอมองหน้าฉันแล้วยิ้ม “ยินดี
ต้อนรับนะ ยัยนักสืบไอคิวสูง” “เธอต้องเป็นผู้ช่วยฉัน” “ไม่มีทาง” เธอพูดตอนที่ฉันยื่นข้อเสนอ “เราน่ะเป็นนักสืบที่ทางาน
ร่วมกันนะ” เธอพูด “ก็ได้ ยัยหวาน” ฉันตอบกลับไปห้วนๆ เมย์ยิ้ม “เออ ยัยขม” เธอตอบ มันอาจนาความรู้สึกฉันคืนมาได้
ภาพใบหน้าของเจ้าฆาตกรอยู่ในหัวฉัน แต่ตอนนี้ชีวิตของฉันได้เริ่มใหม่แล้ว……
โลแลน สเตฟานี่ เจน
(Rick Stephaine Jane)
ป.ล. นี่ไม่ใช่สิ่งที่ มาเรียอา เขียนฉัน คือ Richards Mayเป็นคนชวนยัยนี่ให้เป็นนักสืบ ตอนฉันอายุ 8 ขวบ ฉันตั้งชื่อให้เจน
ว่า “มาเรียอา(Marea)” เป็นชื่อของพระแม่มารีย์ ตอนนั้นเธอดูน่ารักมาก และเธอดูสวยงามมาก ตอนนั้นเธอตั้งชื่อให้ฉันว่า
มีตา แปลว่า เพื่อน เพราะฉันเป็นมิตรกับทุกคนไปหมด แต่ตอนนี้คนที่มาขอให้เธอสืบคดีเรียกเธอว่า “Amaro” แปลว่า ขม
เหมือนนิสัยที่เย็นชา ไร้ความรู้สึก เหมือนความขม ส่วนฉันก็ถูกเรียกว่า “Dolce” แปลว่า หวาน เพราะฉันอ่อนหวาน และ
ปลอบใจเธอเหล่านั้น เมื่อโดนมาเรียอาพูดแรงๆใส่ เหตุการณ์ที่เธอเล่ามาเกิดในวันที่ 23พ.ค. ค.ศ. 2015 แม่และพี่ชาย
ของเธอถูกฆ่าตาย อีกสามวัน พ่อเธอก็ถูกฆ่าตาย น่าสงสารจริงๆ ตอนที่ฉันไปบ้านของเธอตอนที่เธอสลบไป ฉันสืบ
เบาะแสไปเรื่อยๆ คนร้ายคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ฉันจึงขอทางตระกูลย้ายมาอยู่โรม เพื่อดูอาการของมาเรียอา ตอนนี้2 ปี
ผ่านมาแล้ว เธอก็ยังเหมือนเดิม แต่เธอปิดไปกว่า 10คดี ตอนนี้เธอเริ่มกลับมามีรอยยิ้มแต่ก็เป็นเวลาสั้นๆ ก็ดีกว่าเธอไม่มี
เลยล่ะนะ ส่วนคนร้ายในคดีฆาตกรรมก็ยังหาไม่พบว่าเขาเป็นใคร แต่ฉันเจอเงื่อนงาหนึ่งอย่าง ในหนังสือเธออ่านมีคาว่า
“Hello” เขียนด้วยเลือดของมาเรียอา น่าจะมาจากมือขวา แสดงว่าคนร้ายต้องเคยกลับมาที่นี่ครั้งหนึ่ง
ริชาร์ดเมย์
(Richards May)
ศ/2/มิ.ย./2017

More Related Content

Featured

AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfmarketingartwork
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024Neil Kimberley
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)contently
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024Albert Qian
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsKurio // The Social Media Age(ncy)
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Search Engine Journal
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summarySpeakerHub
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Tessa Mero
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentLily Ray
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best PracticesVit Horky
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementMindGenius
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...RachelPearson36
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Applitools
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at WorkGetSmarter
 

Featured (20)

AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdfAI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
AI Trends in Creative Operations 2024 by Artwork Flow.pdf
 
Skeleton Culture Code
Skeleton Culture CodeSkeleton Culture Code
Skeleton Culture Code
 
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
PEPSICO Presentation to CAGNY Conference Feb 2024
 
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
Content Methodology: A Best Practices Report (Webinar)
 
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
How to Prepare For a Successful Job Search for 2024
 
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie InsightsSocial Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
Social Media Marketing Trends 2024 // The Global Indie Insights
 
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
Trends In Paid Search: Navigating The Digital Landscape In 2024
 
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
5 Public speaking tips from TED - Visualized summary
 
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
ChatGPT and the Future of Work - Clark Boyd
 
Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next Getting into the tech field. what next
Getting into the tech field. what next
 
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search IntentGoogle's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
Google's Just Not That Into You: Understanding Core Updates & Search Intent
 
How to have difficult conversations
How to have difficult conversations How to have difficult conversations
How to have difficult conversations
 
Introduction to Data Science
Introduction to Data ScienceIntroduction to Data Science
Introduction to Data Science
 
Time Management & Productivity - Best Practices
Time Management & Productivity -  Best PracticesTime Management & Productivity -  Best Practices
Time Management & Productivity - Best Practices
 
The six step guide to practical project management
The six step guide to practical project managementThe six step guide to practical project management
The six step guide to practical project management
 
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
Beginners Guide to TikTok for Search - Rachel Pearson - We are Tilt __ Bright...
 
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
Unlocking the Power of ChatGPT and AI in Testing - A Real-World Look, present...
 
12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work12 Ways to Increase Your Influence at Work
12 Ways to Increase Your Influence at Work
 
ChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slidesChatGPT webinar slides
ChatGPT webinar slides
 
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike RoutesMore than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
More than Just Lines on a Map: Best Practices for U.S Bike Routes
 

Holme of Italy

  • 1. ...ฉันได้บันทึกสิ่งเหล่านี้ด้วยความเจ็บปวด... วันนั้นเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ญาติของฉันคนหนึ่งกาลังมาเยี่ยม ฉันกาลังทาตัวขี้เกียจอยู่บนเตียง นอนของฉันสักพัก พี่ชายของฉันเดินเข้ามาในห้อง “เธอเลิกทาตัวขี้เกียจได้รึเปล่าคุณน้องสาว” พี่ชายฉันพูด ขึ้น ฉันมองหน้าพี่ขยับแว่นตา วางหนังสืออ่านเล่นบนโต๊ะข้างเตียงแล้วพูดว่า “เมย์ไขคดีได้อีกแล้วรึไง เลย มาพูดแบบนี้” พี่ชายฉันเงียบไป 3 วินาที แล้วพูดว่า “ถูกต้อง เธอรู้ได้ไง ยังไม่อ่านหนังสือพิมพ์วันนี้เลย” ฉัน ขยับแว่นตา พร้อมพูดว่า “นี่มันครั้งที่ 9 แล้วที่พี่เดินเข้ามาในห้องของหนูโดยไม่เคาะประตู และทุกครั้งที่ไม่ เคาะประตูจะเกี่ยวกับเมย์” พี่ชายเข้ามาดีดหน้าผากฉัน “โอ๊ย” ฉันร้องออกไป พี่เลยบอกต่อว่า “ทาไมไม่หัดเป็นนักสืบบ้างเธอ IQ สูงกว่าเมย์อีกนะ” ฉันต้องบอกเรื่องนี้กับเขาอีกแล้ว(เฮ้อ....) “นี่หนูบอกแล้วไงว่า IQ ของหนูไม่ค่อยคงที่” “มันยังไม่แน่ชัดน่า” พี่ชายชั้นตอบ มา “จะมาบอกเรื่องอะไรกันแน่” ฉันถามแบบตรงๆ พี่ชายตอบกลับมาว่า “วันนี้อเล็กจะมาเยี่ยม” ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอน ถอดแว่น แต่งตัว แปรงฟัน แต่พอฉันมองนาฬิกาฉันถึงกับพูดไม่ออก “.....4....โมง.....เย็น.....” พี่ชายฉันมองหน้าฉัน แล้ว แสยะยิ้ม “กาลังอนุมานกับหนังที่ดูเมื่อวานสินะ ว่าภาคต่อไปจะเป็นยังไง หนังสือนั้นก็เป็นนิยายของหนังเรื่องนั้น” พี่ชี้ไปที่ หนังสือ ฉันพูดไม่ออก อ้าปากค้าง ปกติพี่แทบอนุมานไม่ได้เลยนี่นาทาไมถึงรู้ได้ “ฉันไม่ได้อนุมาน การกระทาของเธอมัน ชัดมากอยู่แล้ว” พี่พูดออกมา “มันชัดมากเลย...ไม่จริงอะ”ฉันพูดออกมา “ใครละหลังดูหนังจบก็ไปซื้อเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้น ทันที แล้ววันต่อมาก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เธอทาอย่างนี้มา 10 กว่าครั้งแล้วนะ ใครจะจับไม่ได้” พี่ชายชั้นตอบ “ไปลงไป ทาอาหารกันเถอะคุยกันจะ 20 นาทีแล้ว” พี่บอก ฉันยิ้ม ตอบว่า “อืม” .....“สนุกจัง” ฉันพูดหลังจากทาอาหารเสร็จ ตอนนี้4 โมง 50 นาที “ขอบคุณนะที่ยอมลงมาช่วยน่ะ” พี่ชายชั้นพูด ฉันอมยิ้ม ตอนนี้บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารต่างๆที่น่ารับระทาน แต่อเล็กทาอาหารได้น่าทานกว่านี้มาก ตอนที่ฉันเห็นเขา ทาอาหาร ฉันก็หลงเขาไปอย่างเต็มใจ แต่อเล็กคือคนฉลาดน้อยที่สุดในหมู่ตระกูล Richards(ตระกูลของเมย์) เขาเป็น ญาติฝ่ายแม่ของเมย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับฉัน แต่ฉันรู้จักเขามากกว่าเมย์ซะอีก ถึงตอนแรกเขาไม่ถูกยอมรับ เพราะเขาฉลาด น้อยที่สุดในตระกูลก็ตามที “กริ๊งงงงงงงง” เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น พี่ฉันกาลังดื่มน้าอยู่ ขมวดคิ้ว เดินที่ประตู “เธอขึ้นไป ชั้น 2 นะ” พี่พูด “วันนี้พ่อกลับดึก แม่อยู่ในห้องหนังสือ อเล็กก็มาตอน 1 ทุ่ม แล้วใครมาเนี่ย” พี่พูดขึ้นมา ฉันจึงตอบ กลับไประหว่างเดินขึ้นบันไดว่า “ไม่ต้องพูดละเอียดขนาดนั้นหรอก” พี่เริ่มพูดแบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว เพราะตอนนี้ที่ โรม เกิดเหตุอาชญากรขึ้น 2 – 3 เดือนแล้ว แต่เหตุฆาตกรรมเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง พี่ระวังตัวทุกครั้ง นั่นก็เป็นเรื่องดี แต่มันมัก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเราหรอก เพราะพวกเรา รวย มากเลยล่ะ แล้วบ้านเราก็อยู่บนภูเขาไม่มีคนลงทุนมาหรอก “ปัง” ประตูเปิดอัดหน้าพี่ พี่รีบตั้งหลัก เตรียมใช้ศิลปะป้องกันตัว แต่มีเลื่อยไฟฟ้า “ตัด” ร่างพี่ชายฉัน ขาด เป็น 2 ท่อน ฉันเห็น ลาไส้ ของเขาไหลออกมา ฉันรู้ว่าเขาตายทันที ฉันพูดไม่ออกอ้าอึ้งอยู่ในปาก น้าตาไหลออกมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว ฆาตกร
  • 2. มองหน้าฉัน แต่ฉันมองไม่เห็นอะไรบนหน้าเขา นอกจาก ดวงตาที่เป็นวงกลม ลูกตาดามองมาที่ฉัน รอยยิ้มอย่างสะใจ “สวัสดี เจน”เจ้าฆาตกรพูดขึ้น ฉันช็อกมาก มองไม่ยังศพของพี่ชาย ร้องไห้ แต่สักพักฉันมองไปที่ฆาตกร เพราะเขาเรียกชื่อฉัน พอได้สติฉันรีบ เปิดประตูห้องพี่ นั่นเป็นทางหนีที่ใกล้ที่สุด ฉันพยายามดึงประตูแต่มันฝืดมาก ฉันบอกพี่กี่ครั้งแล้วว่าให้หยอดน้ามัน ฉันรีบ ดึงประตูออกให้เร็วที่สุด พอฉันง้างประตูได้ เจ้าฆาตกรก็เอามีดครัวแทงมือขวาของฉัน เขาดึงประตูออกมานามีดที่แทงมือ ฉันอยู่แทงทะลุประตูไปด้วย ฉันร้องมอโอดครวญ เจ้าฆาตกรจึงพูดขึ้นว่า “จะหนีรึเจน” พร้อมยิ้มแบบสะใจ “เธอคง อยากรู้ว่าฉันรู้ชื่อเธอได้ไงสินะ” เจ้าฆาตกรบอก ตอนนั้นฉันพยายามมองใบหน้าเขาให้ชัดที่สุด แต่ลักษณะของเขา เป็นคนอ้วนท้วม ร้อยยิ้มสีดา และดวงตากลม ส่วนอื่นอย่างหน้าตา เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า สีผิว ฉันเห็นเขาเป็น “สีดา” มองไม่เห็นจุดเด่นของเขาเพื่อจดจาเลย “เธอคือคนฉลาด ฉันจะทาอะไรกับเธอดี และ ฉันรู้ชื่อเธอมาจากคนใน วงการ” เขาพูดขึ้นเริ่มเลียใบหน้าของฉัน ฉันหลับตา กันฟัน ร้องไห้ กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้น หนึ่งนัด แม่ของฉันใช้ปืนลูกโม่ลากล้องยาวพิเศษ ยิงทะลุกลางอกเจ้าฆาตกร “เจน เจน เป็นอะไรรึเปล่า!? ” แม่ฉันพูด ร่าง ของเจ้าฆาตกรร่วงลงกองกับพื้น แม่วิ่งเข้ามาหาฉัน “เจน ลูกเป็นอะไรรึเปล่า!?” แม่พูดกับฉันอีกครั้งหนึ่ง วิ่งมากอดฉัน ฉัน ยังพูดไม่ออก อ้าอึ้งอยู่ในปากอยากจะบอกเรื่องของพี่ แต่พูดไม่ออก มันรู้สึกปวดหัว แม่พูด “แม่เรียกรถพยาบาลกับรถ ตารวจมาแล้วมาแล้ว ไม่เป็นไรนะลูกแม่” แต่จู่ๆมือขวาของฉันก็ตกลงพื้นมีดครัวหายไปแล้ว “เดี๋ยวอีกประมาณ 15 นา .......ที.....” แม่ฉันกระอักเลือด ล้มลง แม่พูคาหนึ่งก่อนที่จะล้มลงไป “เจน” “ฮิ ฮิ ฮิ ฮิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันเดาชื่อแม่ สาวน้อยถูกจริงๆด้วย แม่เธอสวยดีนะว่าไหม” เจ้าฆาตกรพูดพร้อมหัวเราะอย่างสะใจ “อนุมานพลาด 2 ครั้ง แล้วนะแม่สาวน้อย” ถึงไม่อยากยอมรับสิ่งที่เจ้าฆาตกรพูด แต่ฉันพลาดจริงๆ ฉันอนุมานทุกอย่างที่อยู่รอบตัวฉัน และ มันถูกต้องเสมอ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่การอนุมานของฉันมันผิดพลาด นี่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ “ที่เธอพลาดเพราะฉันไม่ใช่ คนแบบพวกเธอ” เจ้าฆาตกรพูด ฉันรีบหยิบปืนถ้าฉันยิงเจ้าฆาตกรที่หัวเขาต้องตายแน่ ฉันเล็งปืน แต่เจ้าฆาตกรจับมือ ฉันไว้ดึงมือขวาฉันขึ้นมา “เด็กดื้อต้องโดนลงโทษ เอาสักประมาณ 1 กาปั้นแล้วกันนะ” ฉันคิดว่าเขาคงต่อยฉัน แต่ มันไม่ใช่เขามองมือซ้ายของฉัน ตัดมือขวาของฉัน ฉันร้องโอดครวญอย่างทรมาน เจ้าฆาตกรยิ้มอย่างสะใจ ปากฉันเริ่ม ขยับได้ ฉันจึงพูดออกไปว่า “คะ.....คุ....ณ.....ทา.....อย่าง......นี้....ทา....ไม” ฉันหายใจหอบ ร้องไห้ เจ้าฆาตกรยิ้มแสยะ มองมาที่ฉันจับแก้มของฉันด้วยมือข้างเดียวฉัน “เพื่อความสนุกสนานของฉัน” เจ้าฆาตกรยิ้มแบบสะใจ ตอนนี้ฉันเป็น เพียง “ลูกไก่ในกามือ” ของเจ้าฆาตกร เจ้าฆาตกรโยนมือขวาของฉันของฉันลงบนพื้น พูดว่า “มือซ้ายฉันตัดแบบช้าๆ ให้เธอทรมานโดยเฉพาะเลยล่ะ” เจ้าฆาตกรเริ่มกรีดแขนของฉันถัดจากมือ 1 กาปั้น ฉันร้องโอดครวญอย่างทรมาน เจ้าฆาตกรตัดแขนของฉันจนเหลือประมาณหนึ่งนิ้วโป้งมันก็จะขาดจากต้นแขนของฉัน เจ้าฆาตกรจึงพูดว่า “พวกตัวป่วน มาแล้วสินะ เฮ้อ... น่าจะได้สนุกอีกนิดนึงนะน่าเสียดายจริงๆ” เจ้าฆาตกรมากระซิบข้างหูฉันก่อนที่ฉันจะล้มลง ว่า “ยังเหลือพ่อสินะ จาไว้เลยนะแม่สาวน้อย พ่อของแกน่ะตายไปแล้ว” เจ้าฆาตกรเดินไปหยิบมือขวาของฉัน “ขอเป็นของที่ระลึกแล้วกัน ส่วนมือซ้ายขอทิ้งไว้อย่างนั้นแล้วกันนะแม่สาวน้อย” เจ้าฆาตกรเดินไปด้านหลัง ของฉัน ฉันหันหลังไปมอง แต่สิ่งที่เห็นคือแผ่นหลัง สีดา ของเจ้าฆาตกร ตาฉันพร่ามัวมองเจ้าฆาตกร เจ้าฆาตกรเดินไปถึง
  • 3. ทางตันทีอยู่ด้านหลังของฉัน และ เจ้าฆาตกรก็หายไป ฉันหันหน้ากลับไปมองข้างหน้า พ่อรีบวิ่งเข้ามา “มาเรียอา! มาเรีย อา!” พ่อฉันตะโกนชื่อเล่นที่เมย์ตั้งให้ หลังจากนั้นฉันก็สลบไป ฉันตื่นขึ้นที่โรงพยาบาลพ่อของฉันนอนอยูข้างเตียงในชุดทางาน สักฉันมองไปที่มือของตนเอง มือขวาของฉันของ ฉันขาดไปแล้ว ส่วนมือซ้ายเย็บเสร็จแล้ว ประมาณ 30 เข็มได้ “พ่อ...พ่อ......” พ่อฉันลืมตามองฉัน แล้วร้องไห้ “มาเรียอา! โชคดีจริงๆที่ลูกปลอดภัย” พ่อกอดฉัน ฉันร้องไห้ออกมา ฉันดีใจมากที่พ่อยังไม่เป็นอะไร พ่อเล่าเรื่องให้ฉันฟังว่า อเล็กพักอยู่ที่ห้องเช่า ตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนเมย์กาลังรีบทางานที่เจนัวให้เสร็จ แล้วจะรีบมาสืบคดีให้ พอคุยกับพ่อไปสักพักพรุ่งนี้พ่อบอกว่ามี Surprise ให้ฉัน พอตอนเช้าพ่อก็เดินเข้ามาในห้องพร้อม มือขวาหุ่นยนต์ ขนาดใหญ่กว่ามือขวาของฉันที่ตัดไปนิดหน่อย พ่อให้หมอนามาต่อให้ มันก็ขยับได้คล้ายๆของจริง แขนนี่ มันใช้ได้ดีทีเดียว ในตอนนั้นโรงพยาบาลเต็มไปด้วยทหาร มีทหารหน่วยรบพิเศษมาเฝ้าหน้าห้องฉัน มันไม่แปลกหรอก เรา รวย นี่นา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทาให้ฉันไม่มั่นใจใน ความรวย อีกแล้วล่ะนะ วันที่สามที่ฉันอยู่ในโรงพยาบาล มันเหมือนเป็น วันธรรมดาวันหนึ่ง เป็นวันที่ไม่มีแม่ และ พี่ ฉันมองวิวนอกหน้าต่างสักพัก แล้วหลับตาลง จู่น้าตามันก็ไหลออกมา “ปัง” ฉันลืมตา ประตูกระเด็นมาชนหน้าต่าง พ่อของฉัน ร่างขาด 2 ท่อน เจ้าฆาตกรจับหัวพ่อชั้นด้วยมือข้างเดียว ลาไส้ ของพ่อร่วงลงมาจาร่างท่อนบน มือข้างอีกถือขาพ่อฉันเดินเข้ามาหา เจ้าฆาตกรพูดว่า “บอกแล้วไงพ่อของแกน่ะตายไป แล้ว” ฉันกรีดร้องลั่นห้อง เอามือกุมหัว ร้องไห้ ตะโกนอย่างไร้สติออกไปว่า “พระเจ้า...... ท่านทาอย่างนี้ทาไม...ท่านทาไป เพื่ออะไร” ฉันร้องไห้ งอแง ตะโกน ฉันอนุมานพลาดอีกแล้ว เจ้าหน้าที่มากขนาดนั้นเจ้าฆาตกรผ่านมาได้ไง “พระเจ้าไม่ เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่ฉันทาเลย และ ฉันทาทุกอย่างตามความต้องการของตัวฉันเอง” เจ้าฆาตกรพูด มองหน้า ฉัน พร้อมเอามีดครัวที่แทงมือและฆ่าแม่ฉันนั่นแหละ “ชอบอาวุธนี่จัง” แล้วเจ้าฆาตกรก็เดินออกจากห้องไป ฉันสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกที มองมือของตนเองที่สั่นไม่หยุด กลัว แต่พอมองไปยังศพของพ่อ ฉันอยากจะบ้า แต่สักพักผิวสีซีดลง ความรู้สึกกลัวก็หายไป ความรู้สึกทุกอย่างหายไป เหลือแค่ความทุกทรมาน สักพักหมอคนหนึ่งขึ้นมาถึงชั้นที่ฉันอยู่ เขาตกใจมาก หมอและพยาบาลทุกคนในชั้น ตาย หมดทุกคน แต่คนไข้ ปลอดภัยทุกคนเขาได้ให้การกับตารวจ แล้วฉันก็ได้รู้ข้อมูลนี้เพราะฉันเป็นนั่งฟังอยู่ตอนฉันถูกช่วย ขณะหมอคนนั้นให้การ ตอนที่ทหารและตารวจมาช่วยฉันออกจากห้อง ห้องของฉันเป็นห้องเดียวที่โดนโจมตี เจ้าหน้าอุ้มฉัน พาลงไปนั่งที่ชั้นหนึ่ง ช่วยปฐมพยาบาล แต่ตอนนั้นร่างกายฉันไม่บาดเจ็บเลย แต่จิตใจของฉันในตอนนั้นเย็นชา ไม่รู้สึกอะไรเลย นอกจากความ ทุกข์ทรมาน หมอคนหนึ่งเห็นฉันจึงอาสาเจ้าหน้าที่จะช่วยดูแลเธอให้สักพักหนึ่ง ตรวจดูอาการฉัน เข้าจึงขอเจ้าหน้าที่ให้ เข้าได้เป็นหมอประจาตัวฉันเขารู้ทันทีว่าฉันจิตใจไม่ปกติ เพราะดวงตาของฉันดูโศกเศร้า เจ้าหน้าที่มองมาทางฉัน ฉันจึง พยักหน้า เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้หมอคนนั้นดูแลฉัน เมื่อหมอตรวจดู บอกว่า ฉัน พูดไม่ได้ ยืนไม่ได้ เดินไม่ได้ มือซ้ายขยับ ไม่ได้ ส่วนมือขวาขยับได้เพราะเป็นมือหุ่นยนต์ ทั้งหมดนี้เกิดจากจิตใจเธอทั้งหมด หมอสรุป ฉันมองใบหน้าอันอ่อนโอน
  • 4. ของเขา แล้วฉันก็เผลอหลับไป และฝันร้ายยังครอบงาฉันอยู่ ฉันกลัวเจ้าฆาตกรในฝันของฉัน แต่ในโลกแห่งความจริง ฉัน กลับไม่รู้สึกอะไรเลย วันต่อมา ฉันผมของฉันกลายเป็นสีขาวภายในวันเดียวทั้งหัว ผิวสีซีดออกเป็นสีเนื้ออ่อน หมอที่ดูแลฉันตกใจมาก เขาตรวจฉัน คิดว่าน่าจะมาจากความเครียด สักพัก เขานาผ้าพันแผลมาพันมือขวาของฉันจนถึงต้นแขน และ พันต้นแขน ซ้ายที่ถูกตัดไป เข็มที่เย็บยังเอาออกไม่ได้จึงพันผ้าพันแผลไปก่อน จากนั้นเขาพาฉันนั่งรถเข็นไปชั้นล่างสุด มีตารวจอยู่นาย หนึ่ง ตารวจได้ให้ข้อมูลกับฉันว่า กล้องวงจรปิดทุกตัวจับภาพเจ้าฆาตกรได้เป็นเงาดา สักพักกล้องก็เสียไป จึงไม่สามารถ หาร่องรอยคนร้ายได้เลย รอยเท้า รอยนิ้วมือ ไม่มีหลักฐานอะไรที่จับเขาได้เลย แล้วสิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือจู่คนร้ายก็ โผล่มาหน้าลิฟต์เฉยๆ แล้วกล้องก็เสียในตอนนั้น จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ตารวจให้ข้อมูลเพราะหมอที่ดูแลฉันขอให้บอก ตารวจเลยถามฉันต่อว่า “ศพพ่อ แม่ และ พี่ชายของเธอ พวกเราชันสูตรศพหมดแล้ว ไม่มีร่องรอยที่คนร้ายทิ้งเอาไว้เลย เธอจะเก็บศพไว้หรือจะนาไปฝังตามพิธีทางศาสนา ก็แล้วแต่เธอนะ” หมอที่ดูแลฉันอยู่นากระดาษมาแผ่นหนึ่งเขียน ตัวเลือกที่ตารวจให้เลือก ฉันใช้มือขวาชี้ไปที่ “ฝังตามพิธีทางศาสนา” ไม่มีร่องรอยจะเก็บไปทาไมล่ะ ฉันคิดในใจ ฉันลุกขึ้น เดิน หมอที่ดูแลชั้นอยู่ตกใจ และพูดว่า “.....ขอ....เปลี่ยน......ชุด......อื่น.....ได้....ไหม.......และ...จัด...งาน....วัน..นี้...เลย... ช่วย...พา...ไป...ห้าง...หน่อย...นะ” หมอพยายามห้ามไม่ให้ฉันไป เพราะฉันป่วยอยู่ แต่ในที่สุดฉันพูดว่า “.....ขอ.....ร้อง” จึงยอมพาฉันไปห้างซื้อเสื้อผ้า ฉันเลือกเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว พร้อมเสื้อนอกเป็นสูทแขนกุดสีน้าตาล กางเกงยีน รองเท้า หนังสีดา และ ถุงมือสีดาหนึ่งคู่ ถุงมือสีขาวหนึ่งคู่ ฉันใช้บัตรเดบิตที่พ่อทาให้จ่ายค่าชุด และ ซื้อ ชุดสูตรทั้งชุดให้หมอคน นั้นด้วย ตอนแรกเขาก็ปฏิเสธ แต่พอฉันมองตาเขา เขาก็รับมัน หลังจากฉันแต่งชุดเสร็จมือขวาใส่ถุงมือสีดา มือซ้ายใส่สี ขาว ฉันบอกหมอว่า “.....โทร..ระ...ศัพท์.... หน่อย....” หมอจึงยื่นโทรศัพท์ให้ฉัน ฉันโทรหา ’ญาติ’ ตระกูล Rickและ Richardคุยกันสักพัก ฉันจึงบอกหมอให้พาไปที่สุสานแห่งหนึ่ง ภูเขาข้างบ้านฉันนั่นแหละ ฉันยืนมองหลุมศพ พ่อ แม่ และ พี่ชายที่ฝังเสร็จแล้ว ญาติทุกคน และ หมอ ยืนอยู่ห่างๆ ฉันใช้แขนขวาดันตัวเอง ไว้กับขอนไม้ที่อยู่ข้างๆ แต่ลูกพี่ลูกน้องหนึ่งยังไม่มา มองท้องฟ้ายามเย็นพระอาทิตย์กาลังจะตกดิน มีรถยนต์วิ่งมาจอด อย่างรวดเร็ว เมย์วิ่งออกมาอย่างไว เธอยังใส่ชุดเดรส และ เสื้อนอกสีดามาแค่นั้น เธอตะโกนออกมาว่า”ฉันมาทันรึเปล่า!?” แต่พอเห็นหลุมศพของทั้งสามคน เธอก็ ทรุดตัวลง ร้องไห้ทันที “มาไม่ทันงานฝัง อุส่าพยายามมาให้เร็วที่สุดแล้วเชียว” เธอ กาหญ้าที่อยู่บนพื้น แต่พอเธอทาแบบนั้นมันทาให้ฉันโมโหมาก ฉันเลยกระชากคอเสื้อเธอพูดออกไปว่า “เธอจะร้องไห้ ทาไม เธอจะร้องทาไม!!!!!??” ฉันตวาดออกไปน้าตาไหลลงข้างแก้ม แต่เมย์กับลูบหัวฉัน ฉันจึงรีบเดินออกมา ไปหาอเล็กที่ นั่งถือขวดเหล้า นั่งหน้าหลุมศพใครก็ไม่รู้ “ฉันขอโทษ.....ขอโทษจริงๆ.....” ฉันได้ยินอเล็กพูดขึ้น ฉันจึงไปกอดุขาข้างหลัง “.....อย่า.....โทษ....ตน...เอง....เลย...” อเล็กเข้าใจฉันเขาจึงวางขวดเหล้าลงเดินไปรวมกับญาติคนอื่น
  • 5. .....หลังจากเสร็จพิธีฉันขอหมอไปพักหอพักที่ห้องเช่า แน่นอนเขาให้ แต่เขาต้องอยู่ดูแลเธอ เขาจะนอนอยู่อีกห้อง หนึ่ง กลางดึกฉันฝันร้ายขึ้นมานั่งร้องให้คนเดียวพยายามไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวนหมอ เพราะเขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แต่จู่ๆ ประตูก็เปิดออก เมย์เดินเข้ามา ฉันมองหน้าเธอ ขณะร้องไห้อยู่ ฉันหันหลังพยายามเมินเธอ แต่เธอก็มากอดฉันจากข้าง หลัง เธออดทนมามากพอแล้วล่ะ” ฉันกัดฟัน แต่มันทนไม่ไหวแล้ว ฉันร้องลั่น แน่นอนมันไม่รบกวนคนอื่นหรอก เพราะ ตระกูลฉันเหมาทั้งโรงแรมเลย ส่วนหมอเมย์น่าจะไปบอกแล้ว แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันเล่าเรื่องต่างๆให้เธอฟังทั้ง น้าตา โดยพูดแบบปกติ ไม่รู้ว่าพูดได้ยังไงเหมือนกัน สักพักหลังจากเล่าเสร็จ พวกเราเงียบไป แต่ฉันก็พยายามไล่เธอออก จากห้อง เพราะต้องการเวลาที่จะอยู่คนเดียวสักพัก แต่สิ่งที่เมย์ทากับฉันคือสิ่งที่ทาให้ฉันกลับมามี ความรู้สึกสักพักหนึ่ง เธอ “จูบฉัน” ประมาณ 15 วินาที ฉันตกใจมาก แต่ก็ดันหลงไปกับมัน มันรู้สึกแปลก ลิ้น ของฉันมันพันกับลิ้นของเมย์ ความรู้สึกก็กลับมาอีกครั้ง ฉันหน้าแดง พอได้สติฉันก็กามัดทุบไปที่เธอเบาๆ ร้องไห้ ตะโกน โวยวาย เมย์ก็จับกดฉันทันที ฉันตกใจมากเมย์ค่อมตัวฉันอยู่ ฉันมองใบหน้าที่แสนสวยงามของเธอ เธอเลียมุมปาก พูดว่า “จะเอาส่วนไหนก่อนดีนะ” ฉันหลับตา ร้องไห้ ไม่มีแรงเหลือ เพราะความตื่นเต้น แต่ “ฮิๆๆๆๆ “ เมย์หัวเราะ “แกล้งแค่นี้เอง” เธอพูด “เอาลุกขึ้น” เธอพยุงตัวฉันขึ้นมา “เธอน่ารักไม่เปลี่ยนไปเลยน้า” เมย์พูดพร้อมมองหน้าฉัน ฉันก้มหน้าที่แดงก่า เผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้า “จูบแรก...ของฉัน” ฉันอายมาก ไม่กล้ามองหน้าเมย์เลย แต่เธอก็จับหน้าฉันเข้าไปใกล้ หน้าของเธอ “ทาอีกสักครั้งไหมล่ะ” “ม่ายยยย” ฉันลากเสียงมองหน้าเธอฉัน ลืมอาการที่ฉันเป็นอยู่ไปสักพัก แต่พอฉันมือ ตัวเอง อาการเหล่านั้นก็กลับมา ฉันจึงพูดประโยคสุดท้ายก่อนที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม “พาฉันกลับได้ไหม” เช้าวันต่อมา ฉัน เมย์ และ หมอ ไปยังบ้านของฉัน ทางตระกูลให้ตารวจ เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญหลายแขนง มาช่วย เมย์ได้เข้าไปในบ้าน ฉันนั้นยังยืนอยู่หน้าประตู พอก้าวเข้าไปภาพเหตุการณ์ที่เกิดเข้ามาในหัวฉัน แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือ ใบหน้าของเจ้าฆาตกร ฉันล้มลงไม่เหลือเรี่ยวแรง ร้องไห้ จนสลบไป ฉันตื่นมาอีกทีที่โรงพยาบาล ไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่ความเจ็บปวด เมย์มีคดีใหม่ที่เจนัวจึงรีบกลับไป ฉันอยู่ โรงพยาบาล ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แต่มันก็ไม่รู้สึกอะไร สามวันหลังจากนั้นฉันหมอ และ พยาบาล พาฉันลงไปเดินเล่น (นั่งรถเข็นนั่นแหละ) พอลงไปถึงชั้นหนึ่ง พยาบาลพาฉันไปดูแถวๆสวน ส่วนหมอมีผ่าตัดด่วน จึงรีบไป แต่ฉันก็เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นอีกแล้ว ฉันเหลือไปเห็นผู้ชายคน หนึ่งมีเศษแก้วปักเต็มตัว หมอและพยาบาลพาไปยังห้องผ่าตัดอื่น เพราะห้องที่ใกล้น่าจะเต็มหมดแล้ว จู่ๆการอนุมานของ ฉันก็ทางาน ‘ผู้ชายคนนั้นอายุประมาณ 30 ต้นๆ ถูก แผ่นกระจกหล่นใส่ น่าจะถูกฆาตกรรม’ ฉันคิดในหัว แล้วพูดออกไปว่า “ชายคนนั้นถูกฆาตกรรม” ฉันพูดไม่มีติดขัดอีกแล้ว “ขอข้อมูลของชายคนนั้นหน่อยสิ” ฉันบอกพยาบาล ตอนนี้ฉันเดินได้ แล้วไม่มีปัญหาอีกต่อไป แต่จิตใจฉันยังคงเสร้าหมองอยู่เหมือนเดิม
  • 6. สักพัก ตารวจได้นาข้อมูลมาให้ตามที่ฉันขอ ตารวจคนเดิมนั่นแหละ หมอที่ขอให้ก็เป็นคนเดิม เหตุผลจริงๆทีฉัน ได้ข้อมูลมาเพราะฉันเป็นญาติกับเมย์ ฉันได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขา เขาชื่อ ไมเคิล อาชีพนักธุรกิจ มีปัญหากับเพื่อนเมื่อ 2 - 3 เดือนก่อน แต่ปัญหาก็จบลงด้วยดี มีคนเห็นคนโยนกระจกแผ่นใหญ่ลงมาดาดฟ้าตึก แล้วก็หนีไป คนร้ายน่าจะหนีไปทาง ประตูดาดฟ้า วันต่อมา ไมเคิลปลอดภัยดี แค่มีแผลเต็มตัว ตารวจคนเดิมได้นาข้อมูลมาให้ ฉันได้เรียบเรียงเรื่องราวต่างๆในหัว ของฉัน และ การอนุมานเริ่มทางาน ฉันจะไม่พลาดอีกแล้ว ฉันจะไม่ให้เกิดการสูญเสียอีกต่อไปแล้วละ ฉันได้บอกตารวจ คนนั้น ให้นาข้อมูลที่ฉันคิดได้ไปใช้ในการสืบคดี ฉันพูดแบบหน้าตาย ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ สามวันต่อมา ทาง ตารวจสามารถรวบตัวคนร้ายได้ ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับหรอก แต่สักพัก หลังจากตารวจบอกข้อสันนิษฐาน ให้กับคนร้าย เขาหน้าซีด ตกใจ จนในที่สุดก็ยอมรับ ตารวจนายเดิมมาบอกฉัน ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่รู้สึกเลย ในสัปดาห์ต่อมา ฉันยังอยู่ในโรงพยาบาล พรุ่งนี้หมอบอกว่า ‘น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว’ ฉันไม่มีอาการ อื่นๆอีกแล้ว อวัยวะทุกส่วนก็ปกติดีแล้ว แผลที่เย็บก็หายแล้ว หมอตกใจเพราะแผลหายเร็วมาก แต่ความรู้สึกก็ยังไม่ กลับมา ยังเย็นชาอยู่ และฉันเดินไปข้างหน้าโรงพยาบาลเห็นเมย์ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก “อ้าว!! มาเรียอามาอยู่ นี่ได้ไงล่ะ อาการป่วยหายรึยังล่ะ? พูดเป็นประโยครึยังล่ะ? แล้ว.......” “เงียบซะ ยัยปากมาก!!!!” ฉันพูดตัดบทสิ่งที่เธอพูด อยู่ เธอเงียบไปสักพัก ตอบกลับมาว่า “เธอก็เหมือนกัน ยัยเขลา” ฉันไม่รู้สึกโกรธมันก็เป็นแค่คาๆหนึ่ง ฉันถามเธอออกไปว่า “มาเที่ยวโรมรึไง?” “เปล่า มาอยู่กับเธอ” ฉันทาหน้างง ยัยนี่พูดอะไร มาอยู่กับฉันเนี่ยนะ “ทางญาติผ่ายฉันและเธอ เห็นชอบให้ฉันมาดูแลเธอ แล้วก็ออกเอกสารให้หมอคนนั้นกลายเป็นหมอประจาตัวเธอ และ ทางตระกูลซื้อที่อยู่ให้เราด้วย ล่ะ เป็นตึกสองชั้น อยู่ในเมือง และ....” “เป็นสานักงานนักสืบ” ฉันพูดตัดบทเธอรอบสอง เธอมองหน้าฉันแล้วยิ้ม “ยินดี ต้อนรับนะ ยัยนักสืบไอคิวสูง” “เธอต้องเป็นผู้ช่วยฉัน” “ไม่มีทาง” เธอพูดตอนที่ฉันยื่นข้อเสนอ “เราน่ะเป็นนักสืบที่ทางาน ร่วมกันนะ” เธอพูด “ก็ได้ ยัยหวาน” ฉันตอบกลับไปห้วนๆ เมย์ยิ้ม “เออ ยัยขม” เธอตอบ มันอาจนาความรู้สึกฉันคืนมาได้ ภาพใบหน้าของเจ้าฆาตกรอยู่ในหัวฉัน แต่ตอนนี้ชีวิตของฉันได้เริ่มใหม่แล้ว…… โลแลน สเตฟานี่ เจน (Rick Stephaine Jane) ป.ล. นี่ไม่ใช่สิ่งที่ มาเรียอา เขียนฉัน คือ Richards Mayเป็นคนชวนยัยนี่ให้เป็นนักสืบ ตอนฉันอายุ 8 ขวบ ฉันตั้งชื่อให้เจน ว่า “มาเรียอา(Marea)” เป็นชื่อของพระแม่มารีย์ ตอนนั้นเธอดูน่ารักมาก และเธอดูสวยงามมาก ตอนนั้นเธอตั้งชื่อให้ฉันว่า มีตา แปลว่า เพื่อน เพราะฉันเป็นมิตรกับทุกคนไปหมด แต่ตอนนี้คนที่มาขอให้เธอสืบคดีเรียกเธอว่า “Amaro” แปลว่า ขม เหมือนนิสัยที่เย็นชา ไร้ความรู้สึก เหมือนความขม ส่วนฉันก็ถูกเรียกว่า “Dolce” แปลว่า หวาน เพราะฉันอ่อนหวาน และ ปลอบใจเธอเหล่านั้น เมื่อโดนมาเรียอาพูดแรงๆใส่ เหตุการณ์ที่เธอเล่ามาเกิดในวันที่ 23พ.ค. ค.ศ. 2015 แม่และพี่ชาย ของเธอถูกฆ่าตาย อีกสามวัน พ่อเธอก็ถูกฆ่าตาย น่าสงสารจริงๆ ตอนที่ฉันไปบ้านของเธอตอนที่เธอสลบไป ฉันสืบ
  • 7. เบาะแสไปเรื่อยๆ คนร้ายคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ฉันจึงขอทางตระกูลย้ายมาอยู่โรม เพื่อดูอาการของมาเรียอา ตอนนี้2 ปี ผ่านมาแล้ว เธอก็ยังเหมือนเดิม แต่เธอปิดไปกว่า 10คดี ตอนนี้เธอเริ่มกลับมามีรอยยิ้มแต่ก็เป็นเวลาสั้นๆ ก็ดีกว่าเธอไม่มี เลยล่ะนะ ส่วนคนร้ายในคดีฆาตกรรมก็ยังหาไม่พบว่าเขาเป็นใคร แต่ฉันเจอเงื่อนงาหนึ่งอย่าง ในหนังสือเธออ่านมีคาว่า “Hello” เขียนด้วยเลือดของมาเรียอา น่าจะมาจากมือขวา แสดงว่าคนร้ายต้องเคยกลับมาที่นี่ครั้งหนึ่ง ริชาร์ดเมย์ (Richards May) ศ/2/มิ.ย./2017