SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Present Tense
Tenses หมายถึง กาล หรือเวลา
ซึ่งก็คือรูปแบบของกริยาที่แสดงเหตุการณ์ หรือการกระทาต่างๆ
ว่าเกิดขึ้นในปัจจุบัน ในอดีต หรือในอนาคต แบ่ง Tenses
ออกเป็น 3 จาพวกใหญ่ๆ ได้แก่
1. Present Tense ปัจจุบันกาล
2. Past Tense อดีตกาล
3. Future Tense อนาคตกาล
Present Tense
Present Tense คือ
รูปแบบของคากริยาที่แสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้
นในกาลปัจจุบัน แบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
รูปแบบของ Present Tense โครงสร้างของ Present Tense
1. Present Simple Subject + Verb 1
2. Present Continuous Subject + is, am,
are + Verb (ing)
3. Present Perfect Subject + have, has
+ Verb 3
4. Present Perfect Continuous Subject + have, has
+ been + Verb (ing)
Present Simple Tense (โครงสร้าง Subject + Verb 1)
1. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เป็นจริงเสมอไป
หรือเป็นเรื่องจริงของธรรมชาติ
เช่น It's hot in summer. มันร้อนในฤดูร้อน
The sun rises in the east. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงในขณะที่พูด
ไม่ว่าก่อนหน้าที่พูดหรือหลังจากพูดจะเป็นอย่างไรก็ไม่สาคัญ
ที่สาคัญคือต้องเป็นจริงในขณะที่พูดก็พอ
เช่น I have a pen in my purse.
ฉันมีปากกาหนึ่งด้ามในกระเป๋าของฉัน
(ประโยคข้างต้นนั้นเป็นจริงในขณะที่พูด
คือในขณะนั้นฉันมีปากกาอยู่หนึ่งด้ามในกระเป๋าจริงๆ)
3. ใช้กับกริยาที่ไม่แสดงลักษณะอาการที่สังเกตเห็นได้
แต่เป็นกริยาที่เกี่ยวกับความนึกคิดหรือจิตใจ
เช่น I love him so much. ฉันรักเขามาก
This car belongs to him. รถคันนี้เป็นของเขา
4. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นเป็นประจา
หรือเป็นนิสัย
โดยในกรณีนี้มักใช้ร่วมกับคาหรือกลุ่มคาที่แสดงความถี่ในประ
โยค
คาที่แสดงความถี่ ยกตัวอย่างเช่น
always เสมอ often บ่อยๆ
sometimes บางครั้ง frequently บ่อยๆ
usually เป็นปกติ naturally โดยธรรมชาติ
generally โดยทั่วไป rarely ไม่บ่อย
seldom นานๆ ครั้ง once a week หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์
everyday ทุกๆ วัน twice a year สองครั้งต่อปี
every week ทุกสัปดาห์ on Saturdays ทุกๆ วันเสาร์ เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
I always get up early. ฉันตื่นนอนเช้าเสมอ
We play football everyday. พวกเราเล่นฟุตบอลทุกวัน
Present Continuous Tense (โครงสร้าง Subject + is, am,
are + Verb(ing)
มีวิธีการใช้แบ่งออกได้ดังนี้
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทาที่กาลังเกิดขึ้น
หรือกาลังกระทาในขณะที่พูด ในกรณีนี้มักจะมีกริยาวิเศษณ์
(Adverb) ร่วมอยู่ในประโยคด้วย
เช่น My mother is cooking in the kitchen now.
แม่ของฉันกาลังทาอาหารอยู่ในตอนนี้
2. ใช้กับเหตุการณ์
หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลายาวนานพอสมควร
โดยมักจะมีคาที่บ่งบอกระยะเวลาอยู่ในประโยคด้วย
เช่น She is learning English this month.
หล่อนกาลังเรียนภาษาอังกฤษในเดือนนี้
3. ใช้เพื่อบอกถึงเหตุการณ์ หรือการกระทาที่กาลังจะเกิดขึ้น
หรือเป็นอนาคตอันใกล้ที่ค่อนข้างแน่นอน
และมักมีคาบอกเวลาอยู่ในประโยคด้วย
เช่น We are going to Koh Chang next week.
พวกเราจะไปเกาะช้างกันในสัปดาห์หน้า
ข้อสังเกต เมื่อในประโยค 2
ประโยคถูกเชื่อมไว้ด้วยกันเป็นประโยคเดียวโดยที่มีประธานตัวเ
ดียวกันนั้น ไม่ต้องใส่กริยาช่วยในประโยคที่ 2
เช่น I am doing my homework and listening to the radio.
ฉันกาลังทาการบ้านและฟังวิทยุ
(ไม่ใช่ I am doing my homework and am listening to the
radio เพราะมี I เป็นประธานตัวเดียวกันของกริยาทั้ง doing
และ listening จึงไม่ต้องมี am หลัง and อีก)
Present Perfect Tense (โครงสร้าง Subject + have, had +
Verb 3)
มีวิธีการใช้ดังนี้
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นในอดีต
และยังคงดาเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันในขณะที่พูด
เช่น I have lived here since 2000 (ฉันได้อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี
ค.ศ. 2000 และในตอนนี้ก็ยังคงอาศัยอยู่)
2. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต
และอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตโดยไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นเมื่อไร
แต่มักมีคากริยาวิเศษณ์ (Adverb)
ที่บอกความถี่ประกอบอยู่ในประโยคด้วยเสมอ
เช่น She has driven to that beach several times.
(หล่อนขับรถไปที่ชายหาดแห่งนั้นหลายครั้ง)
3. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เคยหรือไม่เคยทาในอดีต
โดยมักจะมีคากริยาวิเศษณ์ (Adverb)
เหล่านี้ประกอบอยู่ในประโยคด้วย ได้แก่ ever (เคย), never
(ไม่เคย), once (ครั้งหนึ่ง), twice (สองครั้ง) เป็นต้น
เช่น I have never been to London before.
(ฉันยังไม่เคยไปลอนดอนมาก่อน)
4. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีต
และส่งผลมาถึงปัจจุบันหรือในขณะที่พูดอยู่
เช่น He has turned on the light. (เขาได้เปิดไฟไว้แล้ว)
5. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เพิ่งจบลงไปไม่นาน
โดยมักจะมีกริยาวิเศษณ์ (Adverb)
เหล่านี้มาประกอบอยู่ในประโยคด้วย ได้แก่ just (เพิ่งจะ), yet
(ยัง), finally (ในที่สุด), eventually (ในที่สุด), recently
(เมื่อเร็วๆ นี้) เป็นต้น
เช่น We have already had dinner.
พวกเราทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว
Present Perfect Continuous Tense (โครงสร้าง Subject +
have, has + been + Verb (ing)
มีวิธีการใช้ดังนี้
1. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีต
ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและดาเนินต่อไปในอนาคต
เช่น I have been driving for an hour.
(ผมได้ขับรถมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงและยังขับต่อไปอยู่)
ข้อสังเกต ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Tense กับ
Present Perfect Continuous Tense ต่างกันตรงที่ Present
Perfect Tense นั้นเป็นเหตุการณ์
หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
หรือในขณะที่พูดแต่ไม่แน่ว่าจะดาเนินต่อไปในอนาคตหรือไม่
ส่วน Present Perfect Continuous Tense
เป็นเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่องมาจน
ถึงปัจจุบัน และที่สาคัญคือ ยังดาเนินต่อไปในอนาคตด้วย

More Related Content

What's hot

รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษรู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษJane Suttida
 
Past Simple Tense
Past Simple TensePast Simple Tense
Past Simple Tenseppraisin
 
12tenses
12tenses12tenses
12tensesmookpps
 
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องโครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องNinew Koonvong
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tenseKtbcom Huso
 
Present perfect tense
Present perfect tensePresent perfect tense
Present perfect tenseRatty Krutae
 
สื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
สื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษสื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
สื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษJane Suttida
 

What's hot (12)

รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษรู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
 
Past Simple Tense
Past Simple TensePast Simple Tense
Past Simple Tense
 
Tense
TenseTense
Tense
 
12tenses
12tenses12tenses
12tenses
 
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่องโครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
โครงงานเรื่อง 12 Tense จำง่ายแบบไม่ต้องท่อง
 
Past simple tense
Past simple tensePast simple tense
Past simple tense
 
Present perfect tense
Present perfect tensePresent perfect tense
Present perfect tense
 
12tenses
12tenses12tenses
12tenses
 
Tense12
Tense12Tense12
Tense12
 
Present tenses
Present tensesPresent tenses
Present tenses
 
สื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
สื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษสื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
สื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง รู้ทัน Tense ภาษาอังกฤษ
 
Active&passive voice
Active&passive voiceActive&passive voice
Active&passive voice
 

Similar to Present tense

12tenses
12tenses12tenses
12tensesmookpps
 
Tense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดTense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดpitukpong
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓vino_3026
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓vino_3026
 
Structer present continuous tense
Structer present continuous tenseStructer present continuous tense
Structer present continuous tenseparichartyommawan
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมmookpps
 
Present continuous tense
Present continuous tensePresent continuous tense
Present continuous tenseBen Benjawan
 
English conversation
English conversationEnglish conversation
English conversationPinyaphat29
 
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Nattharika Phumnum
 
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuousใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuousสมใจ จันสุกสี
 

Similar to Present tense (20)

12tenses
12tenses12tenses
12tenses
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Tense
TenseTense
Tense
 
Tense by yuwadee wongnoi
Tense by yuwadee wongnoiTense by yuwadee wongnoi
Tense by yuwadee wongnoi
 
Tense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมดTense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมด
 
Present perfect tense
Present perfect tensePresent perfect tense
Present perfect tense
 
Present perfect tense
Present perfect tensePresent perfect tense
Present perfect tense
 
Project english
Project englishProject english
Project english
 
Project english
Project englishProject english
Project english
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
 
สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓สรุปบทรียนม.๓
สรุปบทรียนม.๓
 
Structer present continuous tense
Structer present continuous tenseStructer present continuous tense
Structer present continuous tense
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
Present Perfect Tense
Present  Perfect  TensePresent  Perfect  Tense
Present Perfect Tense
 
Present continuous tense
Present continuous tensePresent continuous tense
Present continuous tense
 
English conversation
English conversationEnglish conversation
English conversation
 
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
Tenses มีทั้งหมด-12-หลัก-แบ่งตามชนิดได้ดังนี้
 
Present perfect
Present perfect Present perfect
Present perfect
 
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuousใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
ใบงานและใบความรู้ เรื่อง Past continuous
 

Present tense

  • 1. Present Tense Tenses หมายถึง กาล หรือเวลา ซึ่งก็คือรูปแบบของกริยาที่แสดงเหตุการณ์ หรือการกระทาต่างๆ ว่าเกิดขึ้นในปัจจุบัน ในอดีต หรือในอนาคต แบ่ง Tenses ออกเป็น 3 จาพวกใหญ่ๆ ได้แก่ 1. Present Tense ปัจจุบันกาล 2. Past Tense อดีตกาล 3. Future Tense อนาคตกาล Present Tense Present Tense คือ รูปแบบของคากริยาที่แสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้ นในกาลปัจจุบัน แบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
  • 2. รูปแบบของ Present Tense โครงสร้างของ Present Tense 1. Present Simple Subject + Verb 1 2. Present Continuous Subject + is, am, are + Verb (ing) 3. Present Perfect Subject + have, has + Verb 3 4. Present Perfect Continuous Subject + have, has + been + Verb (ing) Present Simple Tense (โครงสร้าง Subject + Verb 1) 1. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เป็นจริงเสมอไป หรือเป็นเรื่องจริงของธรรมชาติ เช่น It's hot in summer. มันร้อนในฤดูร้อน The sun rises in the east. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก 2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงในขณะที่พูด
  • 3. ไม่ว่าก่อนหน้าที่พูดหรือหลังจากพูดจะเป็นอย่างไรก็ไม่สาคัญ ที่สาคัญคือต้องเป็นจริงในขณะที่พูดก็พอ เช่น I have a pen in my purse. ฉันมีปากกาหนึ่งด้ามในกระเป๋าของฉัน (ประโยคข้างต้นนั้นเป็นจริงในขณะที่พูด คือในขณะนั้นฉันมีปากกาอยู่หนึ่งด้ามในกระเป๋าจริงๆ) 3. ใช้กับกริยาที่ไม่แสดงลักษณะอาการที่สังเกตเห็นได้ แต่เป็นกริยาที่เกี่ยวกับความนึกคิดหรือจิตใจ เช่น I love him so much. ฉันรักเขามาก This car belongs to him. รถคันนี้เป็นของเขา 4. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นเป็นประจา หรือเป็นนิสัย โดยในกรณีนี้มักใช้ร่วมกับคาหรือกลุ่มคาที่แสดงความถี่ในประ โยค คาที่แสดงความถี่ ยกตัวอย่างเช่น always เสมอ often บ่อยๆ sometimes บางครั้ง frequently บ่อยๆ usually เป็นปกติ naturally โดยธรรมชาติ generally โดยทั่วไป rarely ไม่บ่อย seldom นานๆ ครั้ง once a week หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ everyday ทุกๆ วัน twice a year สองครั้งต่อปี
  • 4. every week ทุกสัปดาห์ on Saturdays ทุกๆ วันเสาร์ เป็นต้น ตัวอย่างประโยค I always get up early. ฉันตื่นนอนเช้าเสมอ We play football everyday. พวกเราเล่นฟุตบอลทุกวัน Present Continuous Tense (โครงสร้าง Subject + is, am, are + Verb(ing) มีวิธีการใช้แบ่งออกได้ดังนี้ 1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทาที่กาลังเกิดขึ้น หรือกาลังกระทาในขณะที่พูด ในกรณีนี้มักจะมีกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ร่วมอยู่ในประโยคด้วย เช่น My mother is cooking in the kitchen now. แม่ของฉันกาลังทาอาหารอยู่ในตอนนี้ 2. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลายาวนานพอสมควร โดยมักจะมีคาที่บ่งบอกระยะเวลาอยู่ในประโยคด้วย เช่น She is learning English this month. หล่อนกาลังเรียนภาษาอังกฤษในเดือนนี้
  • 5. 3. ใช้เพื่อบอกถึงเหตุการณ์ หรือการกระทาที่กาลังจะเกิดขึ้น หรือเป็นอนาคตอันใกล้ที่ค่อนข้างแน่นอน และมักมีคาบอกเวลาอยู่ในประโยคด้วย เช่น We are going to Koh Chang next week. พวกเราจะไปเกาะช้างกันในสัปดาห์หน้า ข้อสังเกต เมื่อในประโยค 2 ประโยคถูกเชื่อมไว้ด้วยกันเป็นประโยคเดียวโดยที่มีประธานตัวเ ดียวกันนั้น ไม่ต้องใส่กริยาช่วยในประโยคที่ 2 เช่น I am doing my homework and listening to the radio. ฉันกาลังทาการบ้านและฟังวิทยุ (ไม่ใช่ I am doing my homework and am listening to the radio เพราะมี I เป็นประธานตัวเดียวกันของกริยาทั้ง doing และ listening จึงไม่ต้องมี am หลัง and อีก) Present Perfect Tense (โครงสร้าง Subject + have, had + Verb 3)
  • 6. มีวิธีการใช้ดังนี้ 1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นในอดีต และยังคงดาเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันในขณะที่พูด เช่น I have lived here since 2000 (ฉันได้อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 และในตอนนี้ก็ยังคงอาศัยอยู่) 2. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต และอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตโดยไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นเมื่อไร แต่มักมีคากริยาวิเศษณ์ (Adverb) ที่บอกความถี่ประกอบอยู่ในประโยคด้วยเสมอ เช่น She has driven to that beach several times. (หล่อนขับรถไปที่ชายหาดแห่งนั้นหลายครั้ง) 3. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เคยหรือไม่เคยทาในอดีต โดยมักจะมีคากริยาวิเศษณ์ (Adverb) เหล่านี้ประกอบอยู่ในประโยคด้วย ได้แก่ ever (เคย), never (ไม่เคย), once (ครั้งหนึ่ง), twice (สองครั้ง) เป็นต้น เช่น I have never been to London before. (ฉันยังไม่เคยไปลอนดอนมาก่อน)
  • 7. 4. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีต และส่งผลมาถึงปัจจุบันหรือในขณะที่พูดอยู่ เช่น He has turned on the light. (เขาได้เปิดไฟไว้แล้ว) 5. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เพิ่งจบลงไปไม่นาน โดยมักจะมีกริยาวิเศษณ์ (Adverb) เหล่านี้มาประกอบอยู่ในประโยคด้วย ได้แก่ just (เพิ่งจะ), yet (ยัง), finally (ในที่สุด), eventually (ในที่สุด), recently (เมื่อเร็วๆ นี้) เป็นต้น เช่น We have already had dinner. พวกเราทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว Present Perfect Continuous Tense (โครงสร้าง Subject + have, has + been + Verb (ing) มีวิธีการใช้ดังนี้ 1. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและดาเนินต่อไปในอนาคต เช่น I have been driving for an hour.
  • 8. (ผมได้ขับรถมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงและยังขับต่อไปอยู่) ข้อสังเกต ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Tense กับ Present Perfect Continuous Tense ต่างกันตรงที่ Present Perfect Tense นั้นเป็นเหตุการณ์ หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หรือในขณะที่พูดแต่ไม่แน่ว่าจะดาเนินต่อไปในอนาคตหรือไม่ ส่วน Present Perfect Continuous Tense เป็นเหตุการณ์หรือการกระทาที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่องมาจน ถึงปัจจุบัน และที่สาคัญคือ ยังดาเนินต่อไปในอนาคตด้วย