More Related Content More from Pichitnan Nantavichit (18) 21. ขนาดของที่ตั้งโครงการประมาณ
: 13,459 ตารางเมตร หรือประมาณ 8.4 ไร่
วิเคราะห์ทาเลที่ตั้ง (site analysis)
รูปร่างและขนาดที่ดิน (Site Dimension)
ถนนและการเข้าถึง (Accessibility)
ภาพที่แสดงตั้งโครงการ
ถนนสายหลักที่เข้าถึงโครงการคือ ถนนประเสริฐมนูกิจ
ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปสู่พื้นที่อื่นๆได้อย่างสะดวก
ถนนสายรองที่เข้าถึงโครงการคือ ถนนเสนานิเวศน์
ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าว
ถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนเสนานิเวศน์
22. วิเคราะห์ทาเลที่ตั้ง (site analysis)
มุมมอง (View)
เนื่องโครงการนี้เป็นโครงการอาคารสาธารณะ จึงสามารถที่จะเกิดกิจกรรมได้
ทั้งจากภายนอกโครงการและภายในโครงการ ดังนั้น มุมมองทั้ง
จาก 2 มุมมองจึงควรที่จะมีการคานึงถึงด้วยในการออกแบบ โดยมุมมองที่
น่าสนใจจากภายในโครงการ
A B C D
23. วิเคราะห์ทาเลที่ตั้ง (site analysis)
ลักษณะแดดและลม (Sun and Wind Direction)
เนื่องจากสภาพของที่ตั้งโดยรวมเป็นอาคารสานักงาน
ดังนั้นเรื่อง ของทิศทางแดด,ลม จึงจะมีผลต่ออาคารโดยรวม จึงควรที่จะมี
การออกแบบอาคารให้มีศักยภาพและสามารถที่จะดึงเอาแสงธรรมชาติเข้ามา
ใช้ยังโครงการ และสามารถที่จะระบายอากาศได้ดี
เสียงและมลพิษ (Noise and Pollution)
เสียงและมลพิษส่วนใหญ่มาจากทิศเหนือ ด้านหน้าของที่ตั้งโครงการ
เนื่องจากอยู่ติดกับถนนซึ่งมีการจราจรคับคั่งตลอดวัน
24. : ทางเข้าจุด A ติดกับถนนหลัก มีความเหมาะสมที่
น่าจะเป็นจุดทางเข้าหลักของโครงการ ซึ่งสามารถ
สังเกตเห็นได้ง่าย
: ทางเข้าจุด B อยู่บริเวณถนนที่เป็นสายรอง จึงน่าจะ
มีความเหมาะสมกับ ทางเข้ารอง รวมไปถึงเส้นทาง
ขนส่งหรือบริการอาคาร
25. : จุดจอดรถ C จะเป็นจุดจอดรถสาหรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้
โครงการ จึงเลือกจุดทางเข้าติดกับถนนหลัก ซึ่งสามารถ
สังเกต และเข้า-ออกได้สะดวก เลือกอยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว
เนื่องจากด้านกฎหมายทางเข้า-ออก และติดกับพื้นที่ข้างเคียง
ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง
: จุดจอดรถ S เป็นจุดจอดรถสาหรับพนักงานและ
บริการ ซึ่งจะอยู่บริเวณถนนที่เป็นสายรอง เนื่องจากจะ
ช่วยลดปัญหาการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งมี
ปริมาณการจราจรที่หนาแน่นอยู่แล้ว และเพื่อความเป็น
ระเบียบเรียบร้อยในด้านการจัดการ
29. เลือกจุดที่ตั้งในบริเวณด้านที่ติดกับถนนหลัก ซึ่งจะเป็นจุดที่รับและดึงดูดคน นอกจากจะสังเกตได้ง่ายแล้วยังมี linkage
กับโครงการที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
เลือกพื้นที่ในบริเวณที่ถัดจากส่วนสาธารณะ ซึ่งมีลักษณะพื้นที่จะมีความเป็น semi=public มากขึ้น แต่ก็ยังสามารถที่จะ
มองเห็นได้จากถนน มีความเชื่องโยงระหว่างกิจกรรมภายนอกและภายใน
เลือกพื้นที่ ที่อยู่ติดกับส่วน showroom และอาคารบริการ เพื่อที่จะสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และต้องตั้งอยู่ใน
บริเวณที่แยกออกจากส่วนสาธารณะ
เลือกพื้นที่บริเวณด้านในของพื้นที่ ซึ่งมีความ private มากขึ้น ซึ่งจาเป็นต่อการดาเนินธุรกิจ แต่ก็ยังคงมีความสัมพันธ์
ต่ออาคารต่างๆ ในโครงการ
30. เลือกจุดที่ตั้งในบริเวณด้านที่ติดกับถนนหลัก ซึ่งจะเป็นจุดที่รับและดึงดูดคน นอกจากจะสังเกตได้ง่ายแล้วยังมี linkage
กับโครงการที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
เลือกพื้นที่ในบริเวณที่ถัดจากส่วนสาธารณะ ซึ่งมีลักษณะพื้นที่จะมีความเป็น semi=public มากขึ้น แต่ก็ยังสามารถที่จะ
มองเห็นได้จากถนน มีความเชื่องโยงระหว่างกิจกรรมภายนอกและภายใน
เลือกพื้นที่ ที่อยู่ติดกับส่วน showroom และอาคารบริการ เพื่อที่จะสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และต้องตั้งอยู่ใน
บริเวณที่แยกออกจากส่วนสาธารณะ
เลือกพื้นที่บริเวณด้านในของพื้นที่ ซึ่งมีความ private มากขึ้น ซึ่งจาเป็นต่อการดาเนินธุรกิจ แต่ก็ยังคงมีความสัมพันธ์
ต่ออาคารต่างๆ ในโครงการ
เลือกพื้นที่ในบริเวณด้านในสุดของโครงการ แต่ต้องอยู่ในบริเวณที่สามารถบริการอาคารต่างๆ ได้อย่างสะดวก
34. เทคโนโลยีพิเศษอาคาร(Specific Building)
เทคโนโลยีเกี่ยวกับอาคารประหยัดพลังงาน
เนื่องจากโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งมีผู้ใช้งานจานวนมาก จึงมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในปริมาณที่สูง ดังนั้นในทางที่ดี โครงการก็มี
ความเหมาะสมที่จะนาเทคโนโลยีที่สามารถช่วยอาคารลดใช้พลังงาน เข้ามาใช้กับโครงการ เช่น การใช้น้าหมุนเวียน กักเก็บน้า หรือการใช้แผงโซล่า
เซล อีกทั้งยังรวมไปถึงแนวความคิดในการออกแบบอาคารอีกด้วย
ระบบการจัดเก็บสินค้าด้วยหุ่นยนต์
เพื่อยกระดับและการจัดการที่เป็นระบบ จึงเลือกใช้การจัดเก็บสินค้าด้วยหุ่นยนต์ โดยเริ่มกระบวนการตั้งแต่รับสินค้าเข้ามาจนกระทั้งสินค้านั้นได้นา
ออกจาหน่าย เป็นการลดอัตราจ้างพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน เนื่องจากหุ่นยนต์นั้นสามารถทางานหนักและมีข้อผิดพลาดได้
น้อยกว่ามนุษย์
