More Related Content
Similar to ภูมิปัญญา (20)
ภูมิปัญญา
- 3. ชุมชนกุฎีจีน เป็นชุมชนของชาวไทยเชือ ้
สายโปรตุเกสที่อพยพมาจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อ
กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310
ปัจจุบันลูกหลานของชาวโปรตุเกสเหล่านั้น
หน้าตาออกไปทางคนไทยไปหมดแล้วหรือ
กล่าวง่ายๆก็คือต้องตั้งใจสังเกตุถึงจะดูออกว่ามี
เชือสายโปรตุเกส ชุมชนแห่งนี้มีโบสถ์ซางตาครู้
้
ส เป็นศูนย์กลางของชุมชน ชุมชนแห่งนี้มีขนม
ฝรั่งกุฎีจีนขายเป็นขนมพื้นเมืองของชุมชนนี้
และขนมฝรั่งกุฎีจีนของชุมชนนีถือได้ว่าเป็น
้
ขนมพื้นเมืองของกรุงเทพมหานครเลยทีเดียว
ชุมชนกุฎีจีนตั้ง อยู่ริมแม่นำ้าเจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่
- 8. ขนมฝรั่งกุฎีจีนของร้าน "ธนูสิงห์"ปัจจุบนนี้
ั
มีคณภาคภูมิ สุจจิตรจูล ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 5
ุ
เป็นเจ้าของและเป็นผู้ทำาขนมฝรั่งกุฎีจีนตามแบบ
ฉบับสูตรต้นตำารับขนานแท้
ร้านธนูสิงห์ เป็นร้านที่ขายความเป็นขนม
ฝรั่งกุฎีจีนแบบโบราณคือ มีลักษณะเด่นตรงที่ใช้
วัตถุดิบอย่างดีมาทำาขนม คือมีแป้ง ไข่ และ
นำ้าตาล เพียงแค่ 3 อย่างนี้ตีให้สวนผสมเข้ากัน
่
จนขึ้นฟู ด้วยความชำานาญส่วนตัวเท่านั้น โดย
ไม่ได้ใส่ผงฟู หรือว่าวัตถุกันเสียแต่อย่างใด แล้ว
ก็นำาไปเทใส่แม่พิมพ์แล้วอบจนขนมสุกได้ที่ โดย
จะทำาแบบสดใหม่ เรียกว่าจะได้กลิ่นของขนม
ฝรั่งกุฎีจีนที่อบใหม่ๆ ร้อนๆ จากเตาส่งกลิ่นหอม
- 9. ขนมฝรั่งกุฎจีนทีร้านนี้จะมีอยู่ 2 แบบ คือ มี
ี ่
ขนมฝรั่งกุฎจีนแบบดังเดิม (ชิ้นเล็ก) คือไม่มหน้า
ี ้ ี
สามารถเก็บไว้ได้นาน 7-10 วัน ตัวขนมเนือจะเบา
้
นุมหอม ออกรสไม่หวานมาก
่
ส่วนอีกแบบมีหน้าชิ้นใหญ่ คือโรยหน้าด้วยลูกเกด
ลูกพลับ ชิ้นฟัก และนำ้าตาลทราย (แต่ถ้าเป็นชิ้นเล็ก
จะไม่ใส่ลูกพลับ) สามารถเก็บไว้ได้ 10-14 วัน ตัว
เนือขนมแห้งฟูนมร่วน แต่ตรงหน้าขนมจะเคี้ยวก
้ ุ่
รุบๆ เพราะตัวนำ้าตาลโรยหน้า ส่วนราคาขนมถือว่า
ไม่แพง ขนมฝรั่งกุฎจนชิ้นใหญ่ (ชิ้นละ 20 บาท) ถ้า
ี ี
- 11. พื้นเพในชุมชนบ้านครัวเป็นชาวจาม หรือ เขมรจาม ที่อพยพเพื่อจะ
พึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราช โดยตั้งถิ่นฐานอยูที่ริมครองแสนแสบ ซึ่งเป็นที่ดินที่พระองค์
่
พระราชทานให้ และได้อาสาเข้าร่วมรบขับไล่ขาศึกที่เข้ามารุกราน
้
กรุงรัตนโกสินทร์ มีอาชีพดั้งเดิมคือการทำาประมงและการทอผ้าไหม
พื้นเมือง ในยุคแรกจะทอเป็นผ้าขาวม้า ผ้าโสร่ง
ชุมชนนี้อายุกว่า 50 ปี ชุมชนตั้งอยูแถวสองฟากคลองแสนแสบ
่
สภาพบ้านเรือนเป็นไม้เก่าแก่ บางหลังมีอายุเกือบร้อยปี ชุมชนบ้าน
ครัว แบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน คือ บ้านครัวเหนือ บ้านครัวใต้ และ
บ้านครัวตะวันตก การแบ่งออก 3 ส่วนเพื่อการดูแลจัดการชุมชนจะได้
ง่ายขึ้น
ต่อมาเมื่อจิม ทอมป์สัน เข้ามาประกอบธุรกิจผ้าไหมส่งออกไปต่าง
ประเทศ ก็ได้ช่วยพัฒนาปรับปรุงออกแบบลวดลายสีสันและใช้ฝีมือ
การทอจากชาวชุมชนเป็นหลักซึ่งจุดเด่นของผ้าไหมของชุมชนแห่งนี้
ก็คือเนื้อผ้าจะมีคุณภาพสูง เส้นไหมจะเนื้อแน่นละเอียด สีจะสดสวย
เมื่อปี พ.ศ.2510 เหตุการณ์การหายตัวของ จิม ทอมป์สัน ที่
ประเทศมาเลเซีย ทำาให้ส่งผลกระทบต่อการดำาเนินงานของชุมชนแห่ง
นี้ และสาเหตุหนึ่งคือการขาดสนับสนุนจากส่วนต่างๆจึงทำาให้หลาย
- 12. ในชุมชนแห่งนี้มความสำาคัญดังนี้
ี
1.สามารถให้ผู้ทอยากศึกษาเรื่องผ้า
ี่ กระบวนการ
การทำาผ้า และภูมปัญญาการทอผ้าไหมสามารถ
ิ
ศึกษาได้
2.สามารถเรียนรู้วิถีชุมชนของชุมชนบ้านครัวได้
- 15. ชุม ชนบ้า นบาตร
ปัจจุบันตั้งอยู่ : บริเวณสี่แยกเมรุปูน ซอยบ้านบาตร ถนน
บำารุงเมืองและถนนบริพตร แขวงสำาราญราษฎร์ เขต
ั
ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร มีพนที่ประมาณ 4 ไร่ 37
ื้
งาน ที่ดินเป็นของสำานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
สภาพทั่วไปเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวและสองชั้น
- 16. เนื้อความในพงศาวดารฉบับหนึ่งกล่าวถึงภูมิสถานอยุธยาว่า
ตลาดหน้าวัดพระมหาธาตุที่กลางกรุง เป็นตลาดค้าบาตรถลก
บาตร เฉกเช่นเดียวกับตลาดเสาชิงช้ากลางกรุงเทพมหานคร
อันเป็นย่านการค้าพระพุทธรูปใหญ่น้อยและเครื่องสังฆภัณฑ์
นานาชนิด สถานที่ดังกล่าวนี้เองเคยเป็นตลาดใหญ่ขายส่ง
บาตรของชาวบ้านเมื่อหลายสิบปีล่วงมาแล้ว ทั้งนี้ด้วยอาศัยแรง
ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำานุบำารุงค้าชูพระศาสนา
โดยประเพณีบวชลูกหลานสืบเนื่องต่อกันมาโดยไม่ขาดสาย
ชาวบ้านบาตรจึงมีงามอุดมพอเลี้ยงชีพและผดุงศิลปะการทำา
บาตร
ต่อมาในชุมชนบ้านบาตรทุกเหย้าเรือน
"จนกระทั่งปีพ.ศ.2514มีการก่อตั้งโรงงานผลิตบาตรพระขึ้นมา
จึงทำาให้กจการทำาบาตรพระที่บ้านบาตรค่อยๆลดน้อย
ิ
ลงไป "ก่อนหน้านั้นบ้านบาตรทำาบาตรพระกันทั้งหมู่บ้าน พอ
เจอบาตรปั๊มจากโรงงานตีตลาด
เราก็หยุดไปประมาณ 20-30 ปี มาปี พ.ศ.2544 มีการตั้งกลุมทำา
่
บาตรพระขึ้นมา โดยท่านชาญชัย วามะศิริ ผู้อำานวยการเขต
ป้อมปราบฯ ท่านได้ส่งเสริมอนุรักษ์การทำาบาตรของเรา โดย
- 17. วัสดุที่ใช้ทำาบาตร ในอดีตคือ ตัวถังเหล็กยางมะตอย ทีทาง
่
เทศบาลกรุงเทพมหานครใช้ใส่ยางมะตอยเพื่อราดถนน เมื่อถึง
เวลาจะมีคนนำาถังยางมะตอยที่ใช้แล้วมาส่งให้ที่ชุมชน ราคา
ประมาณ 10 กว่าบาทต่อถัง 1 ใบ โดยถังยางมะตอยทำาจาก
เหล็ก มีเนือบาง ทำาให้สามารถตีบาตรได้ง่าย
้
จึงต้องทำาจากเหล็กหนา ด้วยขั้นตอนที่ซับซ้อนในการทำาบาตร
ด้วยเหล็กคุณภาพดี
ด้วยคุณสมบัติของบาตรที่ทำาด้วยมือของชาวบ้านบาตร เมื่อ
เทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับ
บาตรปั๊มที่ทำาจากเครื่องจักรกล นอกจากนั้น บาตรยังต้องกับ
พระวินัยและ ยังมีความคงทนมีความหลากหลายในรูปทรงที่
สืบทอดภูมิปัญญามาแต่โบราณ ซึ่งช่างทำาบาตรที่ยึดอาชีพนี้จะ
ต้องทำาด้วยใจรักอย่างแท้จริง ทำาขึ้นด้วยความศรัทธาใน
พระพุทธศาสนา ด้วยความเคารพในวิชาความรู้ ครูบาอาจารย์
ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้สอยในการยังชีพทุกชิ้น ตาม
แบบแผนขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทย บาตรของชาว
บ้านบาตรจึงกอปรด้วยคุณค่าที่ผสานฝีมือแรงงานและจิตใจไว้
- 18. การทำาบาตรแบบโบราณ มีทั้งหมด 21 ขั้นตอน ซึ่งค่อน
ข้างละเอียด แต่ที่ป้ายชุมชนเขียนไว้ประมาณ 12-13 ขั้น
ตอนคือหลักใหญ่
ขั้นตอนแรก คือ การตีปากบาตร หรือ ขอบบาตร หลังจาก
นั้น แล้วก็ ไปตัดแผ่นเหล็ก ตามอัตราส่วนของบาตร แต่ละ
ใบ แต่ละขนาด แล้วก็มาขึ้นรูป หลังจากขึนรูปแล้ว เราก็
้
เอาไปเชื่อม พอเชื่อมเสร็จเราก็มาตีตะเข็บ ตีตะเข็บเสร็จก็
มาทำาทรง ทำาทรงเสร็จก็ตีเก็บเนื้อ คือการตีเม็ด คือต้องตี
ให้เรียบเหมือนอย่างเดิม แล้วก็ไปตะไบผิวให้มันเกลี้ยง
แล้วไปทำาสี คือวิธีการรมดำา นั่นคือขั้นตอนสุดท้าย อันนี้คือ
แบบคร่าวคร่าว
- 19. แบบใหม่กับแบบเก่า ซึ่งที่หมายถึงคือบาตรปั๊มนั้น ที่ทำา
ด้วยเครื่องไม่มีตะเข็บ เค้าจะสามารถทำาด้วยเครื่อง ได้เป็น
ร้อยร้อยพันพันใบ คือเค้ามีบล็อกของเค้าแล้ว แต่ถ้าถามว่า
วัสดุของเค้าเกรดค่อนข้างจะตำ่ากว่าบาตรของบ้านบาตร
แต่ถ้าบาตรทำามือมันจะใช้เวลาค่อนข้างนาน อย่างบาตร
ใบใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 9 นิ้ว จะใช้เวลา
ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ทำาไมถึงช้า ช้าเพราะว่าตอนนี้
จำานวนช่างที่ทำามันเหลือน้อยลง มีผู้ประกอบการเพียง 5
ครอบครัว รวมทั้งช่างด้วย ไม่เกิน 20 คน ขั้นตอนการทำา
เหมือนอย่างเดิม แต่เวลาจะค่อนข้างช้า
- 20. รูป ทรงต่า ง ๆ
รูปทรงต่าง ๆ เป็นแบบโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยา มี 4 รูปทรง
ทรงไทยเดิม ทรงตะโก ทรงมะนาว ทรงลูกจันทร์ แต่ปัจจุบัน
พระจะเรียกขึ้นมาอีกชื่อหนึ่ง คือ ทรงหัวเสือ ซึ่งไม่ใช่ทรงที่ 5
มันเป็นทรงเดียวกับทรงตะโก 4 รูปทรงก็ยังเป็นโบราณอยู่
เพียงแต่เพิ่มชื่อขึ้นมา เท่านั้น แล้วก็ตามพระวินัย กำาหนดให้
ใช้คือบาตรทีทำาจากดินและโลหะ
่
- 21. ข้อ แตกต่า งระหว่า งบาตรเหล็ก กับ บาตรสแตนเลส
บาตรเหล็กก็คือ 1 พระสายธรรมยุติ เวลาท่านมาสังซื้อใน ่
ชุมชนบ้านเราไปแล้ว ท่านจะต้องไปทำาวิธีบ่มบาตร คือการ
เผาบาตร เผาบาตรตั้งแต่ 18 ชั่วโมงขึ้นไป ทิ้งให้เย็นเป็น
เวลาประมาณ 2 วัน แล้วก็ผิวของวัสดุที่ถกเผาไปเนี่ย มันจะ
ู
เปลี่ยนไปเป็นคล้าย ๆ เหมือนสารเทฟลอนที่เคลือบ แต่อันนี้
เค้าไม่ได้ใช้สารอะไร ใช้แต่เผาอย่างเดียว วัสดุก็จะเปลี่ยน
ไป แต่บาตรใบนั้นก็จะถูกนำ้าได้โดยไม่เป็นสนิม ถ้าถามอันนี้
เป็นภูมิปัญญาของพระมั้ย ไม่ใช่ เป็นพุทธวินัยกำาหนดใน
พระไตรปิฎกเลย ให้สุ่มบาตรเป็น 5ไฟ ไฟนึงเนี่ยจะใช้เวลา
ครั้งแรกคือถือไปแล้วใช้ไปแล้วประมาณ 2 เดือนแล้วก็สีมัน
อาจจะลอก ก็สุ่มอีกครั้งที่ 2 ที่ 3 จนถึงครั้งที่ 5ต่างกับเหล็ก
กับสแตนเลส ก็คือ สแตนเลสปัจจุบันไม่เป็นสนิม และเกรด
ของสแตนเลสทีเราใช้อยู่เป็นเกรดที่ดี ลูกค้าอันดับหนึ่งเป็น
่
ชาวต่างประเทศ รองลงมาก็คือพระสงฆ์ แต่พระสงฆ์ส่วน
ใหญ่จะเป็นธรรมยุตินิกายหรือพระป่า จะนิยมใช้บาตรที่ทำา
แบบโบราณ แต่ถ้าเป็นมหานิกาย เค้าใช้ความสะดวก
สามารถซื้อที่ไหนก็ได้ แม้จะเป็นบาตรปั๊มเค้าก็ซื้อได้
- 24. นายสมชาย ล้วนวิลัยได้รับการฝากฝังจากผู้ใหญ่
ให้เข้าฝึกหัดทำาโขนจากครูชิด แก้วดวงใหญ่ช่าง
ทำาหัวโขนฝีมอเยี่ยมทีได้รับการถ่ายทอดวิชาการ
ื ่
ทำาหัวโขนจากคุณพระเทพยนต์และขุนสกล
บัณฑิตช่างหลวงในกรมช่างสิบหมูสมัยรัชกาลที่
่
๕-๖
นายสมชายเป็นลูกมือของครูชิดจนกระทั่งลา
สิกขาแล้วเข้ารับราชการสังกัดกรมสรรพาวุธ
ทหารบก ในระหว่างที่รับราชการก็รับทำาและ
ซ่อมแซมหัวโขนรวมทังเครื่องละคร จนกระทั่งลา
้
ออกจากราชการและได้ถ่ายทอดวิชาเกี่ยวกับการ
ทำาหัวโขนให้ภรรยาและลูกๆได้ทำาเป็นอาชีพ
- 28. ….”วัดไผ่ตัน” ตั้งอยู่ริมคลองบางซื่อ ซอยพหลโยธิน 15 มี
เนือที่ 13 ไร่เศษ
้
แต่เดิมชื่อวัดไส้ตัน มีอายุกว่า 200 ปี วิหารจตุรมุข
ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรจำาลอง ซึ่งหล่อในปี พ.ศ.
2496
โบสถ์วิหาร หอระฆัง ของเดิมเก่าแก่ชำารุดทรุดโทรม ได้ถูก
รือและสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2504
้
พร้อมพระประธานปางสะดุ้งมาร บานประตู หน้าต่างลงรัก
ปิดทองภาพเรื่องราวพุทธประวัติ
….เนื่องจากเป็นวัดแห่งเดียวในพื้นที่เขตพญาไท จึงเป็น
สถานที่จัดกิจกรรมงานประเพณี เป็นประจำาทุกปี อาทิ งาน
ปิดทองหลวงพ่อพุทธโสธรจำาลอง วันที่ 1 – 7 เมษายน,
งานทำาบุญสงกรานต์ของชาวชุมชนประมาณวันที่ 11 – 13
เมษายน, พิธีแห่และถวายเทียนจำานำาพรรษา ก่อนวันขึ้น 1
5 คำ่า เดือน 8, ประเพณีตักบาตรเทโว วันแรม 1 คำ่า เดือน 8
, ประเพณีตักบาตรเทโววันแรม 1 คำ่า เดือน 11 และ
- 29. ที่อ ยู่: ซ.พหลโยธิน15 ถ.พหลโยธิน ต.สามเสนใน
อ.พญาไท จ.กรุงเทพ
เปิด : ทุกวัน
รถโดยสารประจำา ทาง: 8 26 27 29 34 38 96 97
บีท ีเ อส: สถานีสะพานควาย