SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
Download to read offline
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
1
ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
คนใน
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
2
สุนทรียปรัศนี
เริ่มต้นด้วยการตั้งคาถามที่เสริมสร้างพลัง ร่วมสนทนากันอย่างออกรส
ก่อให้เกิดการมีส่วน“ร่วมคิด ร่วมทา”อย่างสร้างสรรค์
ของทีมงาน องค์กรและชุมชน
---------------------------------------------------------------------
สุนทรียปรัศนี....... กระบวนการพัฒนาที่ “คนตายแล้วเสียดาย ที่ไม่ได้ทา”
แนวความคิดและหลักการ .......ไปยังไงมายังไง?
ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา มีแนวคิดและหลักการมาจากความเชื่อที่ว่า.....
1. ความรู้ / ประสบการณ์ / ทักษะ/ สติปัญญา/ที่จาเป็นต้องใช้นั้น มีอยู่แล้วในตัวคน
และสามารถผุดพรายได้ เข้าถึงได้หากมีวิธีการที่ชาญฉลาดในการค้นหา
2. เราสามารถค้นพบ”ปัญญารวมหมู่”ที่น่าอัศจรรย์ได้ดีกว่าการให้แต่ละคนคิด”แล้ว
เรามารวมกัน
3. การมีมุมมองที่เป็นบวก ก่อให้เกิดผล บวก
4. ผลที่ได้จากการใช้พลัง บวก ร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน มีพลังการเปลี่ยนแปลงสูง
5. ความเปลี่ยนแปลงในระบบใดหรือ องค์กรใดก็ตาม จะเกิดขึ้นจาก
- การมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
- ความภาคภูมิใจ เลื่อมใส ศรัทธาในตัวเอง พี่น้องผองเพื่อนและชุมชน
- แรงดลใจที่จะทาความดี
- ความต่อเนื่องจากความคิดสู่การกระทา
-เมื่อสานึกว่าเรามีความสามารถ ความคิดและการทางานอย่างขันอาสาก็ตามมา
6. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ยืนหยัดในพันธสัญญาร่วมกัน สามารถ
เปลี่ยนแปลงโลกได้(Small groups of Committed People can Change the world)
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
3
ดังบทกวีที่บรรยายการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาชุมชนร่วมสมัย ที่ว่า....
 ริเริ่มจากชาวบ้าน ร่วมก่อสานกับชุมชน
เรียนรู้จากใจคน รับรู้คนคิดอะไร
 รองรับความต้องการ ไม่หักหาญซึ่งน้าใจ
ประชามิใช่ไพร่ ต้องก้าวไปคู่เคียงกัน
 เริ่มจากที่เขารู้ ไม่ลบหลู่หรือเหยียดหยัน
ร่วมจิดคิดถูกพัน ร่วมสร้างสรรค์สิ่งมุ่งหมาย
 เสริมสร้างจากข้างใน กาลังใจไม่คลอนคลาย
ชีวีมีความหมาย เราลิขิตชะตาเรา
 มาเถิดพี่น้องข้า ร่วมฟันฝ่าทั้งหนักเบา
กาลังเป็นของเรา ยิ่งออกแรงยิ่งแข็งขัน
 บทบาทของชาติใหม่ ราษฏร์ -รัฐไทยไปด้วยกัย
ด้วยหวังต่างมุ่งมั่น พัฒนา “ประชาสังคม”
เวทีชาวบ้านมีลักษณะเป็นเช่นไร?
- เป็นการจัดเวทีง่าย ๆ เช่น ปูเสื่อนั่งสนทนาใต้ร่มไม้ วงน้าชา จนถึง ในโรงแรมที่มีเก้าอี้
- บรรยากาศสบาย ๆ ไม่มีพิธีรีตองให้รู้สึกอึดอัด
- ลักษณะกลุ่มย่อย ล้อมเป็นวง เหมือนวงน้าชา ร้านกาแฟ จะนั่งกับพื้น หรือเก้าอี้ตาม
ถนัด (อาจมีน้าชาสักป้าน น้าเปล่า คนโทรับรอง)
- ลักษณะกลุ่มย่อย เหมือนวงกาแฟนั่งบนเก้าอี้ (อาจมีกาแฟ น้าเปล่า คนโทรับรอง)
-จานวนคนมีตั้งแต่ 4-8 คน ต่อ 1 วงสนทนา
- อาจมีตั้งแต่ 3 – 300 วง หรือ 12 – 1,200 คน
- มีทีมงาน “คุณเอื้อ” ที่เฉียบคม / สามารถ
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
4
ผู้เอื้ออานวยการประชุม / “คุณเอื้อ” ทาหน้าที่อะไร?
 โอภาปราศรัยต้อนรับ
 บอกถึงประเด็นการสนทนาโดยติดใบงานไว้บนโต๊ะที่ท้าทาย
 บอกกฎกติกามารยาท / หารือข้อตกลงกันก่อนการประชุม
 บอกทิศทางการเคลื่อที่ของกลุ่มที่จะขยับจากวงหนึ่งไปสู่อีกวงหนึ่ง
หรือโต๊ะหนึ่งสู่อีกโต๊ะหนึ่งโดยไม่สับสน
มีความเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ
 บอกลักษณะการสนทนาเป็นการระดม
ความคิดที่ สร้างสรรค์ มองในมุมบวก
ลักษณะของสุนทรียสนทนา
 เริ่มจากการตั้งคาถามที่เสริมสร้างพลัง คือ ถามถึงสิ่งดีที่มีอยู่ในตัวของผู้สนทนา
ก่อน เช่น สิ่งที่ตนเองรู้สึกว่ามีคุณค่า ความสุข ความสามารถ ความสาเร็จ ความ
ใฝ่ฝัน สิ่งที่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้นในอนาคต
 ขอบเขตการสนทนาเริ่มจากแคบไปหากว้าง อาทิ เรื่องของตัวเอง ทีมงาน องค์กร
ชุมชน จนถึงสังคมใหญ่
 ประเด็นการสนทนา เริ่มจากสิ่งที่กลุ่มสนใจ ภูมิปัญญาเดิมของท้องถิ่น
วัฒนธรรมของชุมชน ประเพณี เทศกาล
 ผู้เข้าร่วมสนทนาจะพูดคุยและบันทึกการสนทนาตามประเด็นแล้วทิ้งหลักฐานที่
น่าสนใจติดตามและมีศิลปะไว้ที่โต๊ะนั้น เช่นบัตรคา โปสเตอร์ ภาพที่วาดทิ้งไว้
หรือ ประโยคสาคัญ ๆ โดยใช้ กระดาษสี หลายขนาด ป้ายผ้าดิบที่มีรูป ถ้อยคา
ที่บรรเลงด้วยสีเทียน ปากกาเคมี
รู้เท่านั้นยังไม่พอ ต้องนาไปใช้ด้วย
แค่เจตนาดียังไม่พอ ต้องลงมือทาด้วย
-เกอเต้
“ความชาญฉลาดและสติปัญญาจะผุดพรายได้จากร่วมกันคุย / คิด ในวิธีการทีใหม่ ๆและหลากหลาย”
- อุทัยวรรณ (2543)
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
5
แล้วจะทาได้ยังไง ?
แท้จริงแล้วสามารถทาได้ในพื้นที่โล่ง อาทิ ข่วงบ้าน ลานวัด ศาลาประชาคม ห้อง
ประชุมอบต. เทศบาล ร้านกาแฟ วงน้าชา และจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีปัจจัยสาคัญมา
ประกอบกัน คือ ทีมวิทยากรกระบวนการ (Facilitator) ทาหน้าที่ดาเนินการประชุม
1 มีการตั้ง คาถามที่เป็นสุนทรียะและทรงพลัง
คาถามที่ก่อเกิดความคิด จุดประเด็น ให้อยากสนทนามีลักษณะ
จุดประกาย/กระตุ้น
สร้างสรรค์
 ปลุกเร้า
ดลใจ
โดนใจ
มีสาระ
มีคุณค่า
“เมื่อใดก็ตามที่มีผู้พูด ......เขากาลังเสนอมุมมองซึ่งจะทาให้ส่วนรวมมีความชาญฉลาดเพิ่มขึ้น
และเกิดการหยั่งรู้ตามมาภายหลัง......อย่างน่าพิศวง - อุทัยวรรณ (2549)
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
6
2. มีการสร้างบรรยากาศและเตรียมที่ทางเอื้ออานวยต่อการประชุม
ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีใครใหญ่ใครเล็ก นั่งพื้น ขัดสมาธิได้ยิ่งดี
อบอุ่น
เป็นกัลยาณมิตร
ไม่เป็นทางการ
จบแล้วจบเลยไม่ ค้างคา
รู้สึกปลอดภัย
ไม่รู้สึกถูกทาโทษ ภายหลังจากพูดอะไรบางอย่างผิด ไม่มีผู้มีอานาจ
สะดวก สบาย
3.. ที่ประชุมมีการสนทนาอย่างอารยะ และถ้อยทีถ้อยฟังกัน”
- อาศัยสติ / ปัญญา / ความรู้ อยู่ในตัวของคู่สนทนา
- ถือว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็น ศิลปะชั้นสูง
- ยิ่งคุยยิ่งออกรส ผุดพรายสติปัญญารวมหมู่ มีการยอมรับ / นับถือกัน
- มีการให้ เกียรติ และชื่นชมกันและกัน
4. มีคาถามที่เจาะใจ ปลุกจิตวิญญาณและก่อเกิดการเสาะแสวงหา
 ผู้คนมาพูดคุยกัน เอาความรู้และประสบการณ์ของตนมาแบ่งปัน
 ในคาถามเจาะใจ ปลุกจิตวิญญาณ เป็น กุญแจดอกสาคัญคือเมื่อค้นพบร่วมกัน
แล้วชื่นชมก็จะเกิดการ“สืบค้นอย่างลึกซึ้ง”ยิ่งขึ้นไปอีก
เขาเหล่านั้นเอา”สิ่งที่เขารู้มาด้วย “รู้สึก” “คิด / นึก (ซึ่งมีอยู่แล้วในคาถามบนโต๊ะ)
มากเกินกว่านั้นก็คือพลังในการทางานร่วมกันที่จะเห็นว่ามีความหยั่งรู้ในมุมมองที่
หลากหลายยิ่งขึ้น
“แท้จริงแล้ว ความน่าอัศจรรย์ของความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้หมายความถึงการสร้างสิ่งใหม่ ๆ เป็นหลัก
หากแต่เป็นเรื่องของ การมองในมุมใหม่ ในสิ่งที่ มีอยู่แล้วแต่เดิม ต่างหาก” - อุทัยวรรณ (2554)
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
7
5 มีความอยากรู้อยากเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม ในสิ่งที่ไม่เคยได้รู้ได้เห็นจะช่วย
เอาชนะการต่อต้านความคิดใหม่และความคิดที่ไม่เหมือนตน
ดังนั้นหน้าที่ของคุณเอื้อที่จะทาให้การประชุมประสพความสาเร็จคือ
1. วางเป้าหมายการประชุมให้ชัด
2. จัดบรรยากาศเหมาะสม
3. ทาให้คนอารมณ์แจ่มใส
4. ชักชวนให้ทุกคนมีส่วนร่วม
5. “เริ่ม”ด้วยคาถามที่ทรงพลัง ขับประเด็นสนทนาให้ทุกคนรู้ว่าพวกเราใส่ใจจะคุยกัน
ในเรื่องอะไร?
6. เกาะติดและใช้วิธีการเชื่อมโยง / ตกผลึก / หลอมรวม / ความคิด / ที่หลากหลาย
7. ฟังอย่างตั้งใจ / ลุ่มลึก (Silent = Listen,deep listening)
8. ตรองตรึกในส่วนที่ได้ค้นพบ
ในแต่ละช่วงการขยับไปสู่โต๊ะใหม่ จะมีเหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นคือ
 ผู้เข้าร่วมสนทนาจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นสาคัญที่วางอยู่บนโต๊ะ
 พวกเขาจะศึกษาสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ และใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสนทนา
 ผู้สนทนาจะเริ่มสนทนา ต่อเนื่องจากกลุ่มที่ทิ้งสาระ หรือสิ่งของไว้ให้เมื่อการ
สนทนาจบลงก็ทิ้งหลักฐานการสนทนาไว้ที่นั้นอีก
 การนาเสนอทิ้งไว้จะมีลักษณะเครือข่ายความคิดดุจดัง ผึ้งเกาะบนดอกไม้ที่มี
เกสร แล้วโบยบินจากดอกหนึ่งไปสู่อีกดอกหนึ่ง นาผงเกสรติดขาไปด้วยทาให้
เกิดการผสมเกสรดอกไม้โดยปริยาย
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
8
เราคาดหวังผลที่ได้ว่าอย่างไร?
ความสามารถในการ“ชูความคิดในลักษณะทาให้เกิดการหยั่งรู้ (Insight) เป็นละลอก
ได้ความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น ไปเรื่อย ๆ
ซึ่งมาจากการตั้งคาถามทั้งสิ้น ในลักษณะดังต่อไปนี้คือ
1. ระเบิดจากภายใน เป็นถามที่มี เริ่มจากสิ่งที่เขารู้ สามารถกล่าวได้อย่าง
ภาคภูมิใจ
2. บันดาลใจให้ร่วมคิด เป็นมีคาถามระดมความคิด ที่มาจากสมอง สติปัญญา
ความทรงจา และความประทับใจ
3. เนรมิตนวัตกรรม เป็นคาถามที่ทาให้เกิดความคิดใหม่ ๆ นาไปสู่สิ่งใหม่ที่
ดีกว่าเดิม หรือเป็นอุดมคติ
4. เหนี่ยวนาให้เกิดปฏิบัติการ เป็นคาถามที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่
สามารถออกแบบแล้วนาไปใช้ได้เลย หรือเป็นความคิดที่กลุ่มสามารถทาได้เอง
มากว่าคิดให้คนอื่นทา
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
9
บทสรุป ของการสนทนาจะทาให้เกิดคลังความคิดที่เรียกว่า “ปัญญารวมหมู่”
เป็นวงจรการสนทนาที่มี 4 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
ร่วมออกแบบ
ร่วมออกแบบ
ทางานอย่างสุนทรีย
ทางานอย่างสุนทรียะ
ะ
(
(D
De
es
si
ig
gn
n)
)
ร่วมค้นพบ
สิ่งดีแล้วชื่นชม
(Discovery)
ร่วมถักทอฝัน
อย่างสมศักดิ์ศรี
(Destiny)
ร่วมสร้างสรรค์
สิ่งดีเพื่อสังคม
(Destiny)
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
10
ความคิดดีๆ ในวงสนทนาจะไปสู่การกระทาได้ ด้วยการตั้งคาถามที่เจาะใจ
ดังต่อไปนี้
1) สิ่งที่อยากให้เกิดในกลุ่มเป้าหมายหรือ ภาคหุ้นส่วนของเรา คืออะไร?
ท่านใฝ่ฝันอยากจะเห็นอะไรเกิดขึ้นที่ชุมชน ?
2) กลุ่มเป้าหมายหรือ ภาคหุ้นส่วนของเรา เป็นใคร?
นักเรียน
เจ้าของสุขภาพ
ผู้บริโภค
อสม.
ผู้นาธรรมชาติ
ชาวบ้าน ฯลฯ
3) หากจะให้บรรลุเป้าหมายจะต้องอาศัยเทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ/กลยุทธ์ กลวิธี
อะไร?
4) มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องในการทางานครั้งนี้บ้าง? พหุภาคีเป็นอยู่ในส่วนใหน?
ภาคีหุ้นส่วนเป็นใคร?
5) ภาคีหุ้นส่วนต้องปรับเปลี่ยนบทบาทอย่างไรเพื่อทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลง?
จาก ผู้ให้บริการ/ ปฏิบัติการ/เจ้าของโครงการฯ
มาเป็นผู้จุดประกาย ก่อกระแส ส่งเสริม สนับสนุน ที่ปรึกษา ครูฝึกและพี่เลี้ยง
6) มีการท้าทายกลุ่มว่าท่านจะเติมเต็มอย่างไรในกลุ่มสนทนาของตนเอง?
(ที่เวียนกลับมาแล้วภายหลังการไประดมสมองในกลุ่มอื่นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้)
7) เมื่อประมวลจากสิ่งที่ปรับเปลี่ยนร่วมกัน เพื่อนาไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง
คาดว่าว่าเจ้าของสุขภาพ หรือกลุ่มเป้าหมายจะเป็นไปตามที่วาดหวังหรือไม่?
(เช่น จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่? )
8) ท่านมีความรู้สึกอย่างไรภายหลังการบรรลุเป้าหมายของการดาเนินงาน ?
9) แม้จะประสพความสาเร็จมาแล้วระดับหนึ่งยังมีอะไรอีกที่ท่านรู้สึกเสียดายที่ยังไม่ได้
ทา?
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
11
บทสรุปของการเป็นผู้อานวยการประชุมที่สามารถ
เริ่มจาก คาถาหัวใจนักปราชญ์ “สุ จิ ปุ ลิ”
ฟังให้ลึก ฟังให้ดี มีจิตมั่น
คิดให้ทัน คิดให้กว้าง สว่างใส
ถามให้ถูก ถามไพเราะ ถามเจาะใจ
เขียนให้ชัด จัดกรอบได้ ตรงใจความ
จบลงด้วยการแสดงความชื่นชมหลังการนาเสนอของความคิดของผู้สนทนาเสมอ จบให้
จับใจ หาให้เจอว่าเขาได้ให้แสงสว่างแห่งปัญญาในเรื่องใด ชมให้ถูกที่ ทั้งในเนื้อหา
หรือลีลาท่าทีที่เขาแสดงออก
ในตอนต้น ต้องตื่นเต้น ให้ที่ประชุม...ตื่นเต้น
สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา
(Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล
12
ในตอนกลาง ต้องกลมกลืน ให้ที่ประชุม ร่วมกันคิดร่วมกันทาอย่าง.....กลมกลืน
ในตอนจบ ต้องจับใจ ให้ที่ประชุม จับใจจากการได้ยินคาที่ไพเราะ เกิดแรงบันดาลใจ...
ปัจฉิมบท......ด้วยคาถามชวนให้คิด
ในวงสนทนา เมื่อยามผู้คนมาพบปะกัน
 ผู้ยิ่งใหญ่ มักคุยกันเรื่อง ความคิดอ่าน...... เราจะทาอะไรกันดี? (Great people talk about IDEAS)
 คนธรรมดามักคุยกันเรื่อง ดินฟ้าอากาศ...สัพเพเหระ (Ordinary people talk about THINGS)
 คนเล็กคนน้อย มักคุยกันเรื่อง คนอื่น.......สุมหัวนินทา (Small people talk about OTHER PEOPLE)
โปรดลองตั้งข้อสังเกตว่า.....ทุกครั้งที่ตั้งวงคุยกัน วงของท่านจัดอยู่ในแบบใหน?

More Related Content

Viewers also liked

แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบokแผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
Dental Faculty,Phayao University.
 
Php 5 Power Programming
Php 5 Power ProgrammingPhp 5 Power Programming
Php 5 Power Programming
kansas
 
สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-
สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-
สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-
Dental Faculty,Phayao University.
 
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สากระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
Dental Faculty,Phayao University.
 
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวกการเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
Dental Faculty,Phayao University.
 

Viewers also liked (11)

แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบokแผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
แผนที่ ชุมชน 3 ชุก 3 แบบok
 
A Social Vaccine for Globalization.Full paper.
A Social Vaccine for Globalization.Full paper.A Social Vaccine for Globalization.Full paper.
A Social Vaccine for Globalization.Full paper.
 
Php 5 Power Programming
Php 5 Power ProgrammingPhp 5 Power Programming
Php 5 Power Programming
 
Andrea
AndreaAndrea
Andrea
 
สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-
สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-
สุนทรียภาพแห่งการเรียนรู้ จากครูสู่นักเรียน-
 
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สากระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
กระบวนการ 4 ค จัดทำแผนที่เดินดิน บ้านแม่สา
 
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวกการเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก
 
Ai ที่ป่าไหน่ พัฒนา
Ai ที่ป่าไหน่ พัฒนาAi ที่ป่าไหน่ พัฒนา
Ai ที่ป่าไหน่ พัฒนา
 
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การให้บริการสุขภาพสู่ความเป็นเลิศโดยการมีส่วนร่วมขอ...
 
Ai ที่บางน้ำผึ้ง
Ai ที่บางน้ำผึ้งAi ที่บางน้ำผึ้ง
Ai ที่บางน้ำผึ้ง
 
แผนที่เดินดิน อุทัยวรรณ กาญจนกามล
แผนที่เดินดิน   อุทัยวรรณ กาญจนกามลแผนที่เดินดิน   อุทัยวรรณ กาญจนกามล
แผนที่เดินดิน อุทัยวรรณ กาญจนกามล
 

More from Dental Faculty,Phayao University.

สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามลสุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
Dental Faculty,Phayao University.
 
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
Dental Faculty,Phayao University.
 

More from Dental Faculty,Phayao University. (7)

Globalization Vaccine for Marginalize pelple in Health
Globalization Vaccine for Marginalize pelple in HealthGlobalization Vaccine for Marginalize pelple in Health
Globalization Vaccine for Marginalize pelple in Health
 
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามลสุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล
 
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
สุนทรียปรัศนี :กระบวนการพัฒนาชุมชน องค์กร และทีมงานโดยใช้ศิลปะในการตั้งคำถามท...
 
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณเพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
เพลงซอล้านนา คนซุกยู้ อุทัยวรรณ
 
A Social Vaccine for Globalization.
A Social Vaccine for Globalization.A Social Vaccine for Globalization.
A Social Vaccine for Globalization.
 
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก อุทัยวรรณ กาญจนกามล
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก  อุทัยวรรณ กาญจนกามลการเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก  อุทัยวรรณ กาญจนกามล
การเข้าถึงชุมชนในเชิงบวก อุทัยวรรณ กาญจนกามล
 
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคมการอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
การอบรมเชิงปฏิบัติการ สุนทรียปรัศนี นวัตกรสังคม
 

สุนทรียปรัศนี in facilitator's world uthaiwan kanchanakamol

  • 1. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 1 ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา คนใน
  • 2. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 2 สุนทรียปรัศนี เริ่มต้นด้วยการตั้งคาถามที่เสริมสร้างพลัง ร่วมสนทนากันอย่างออกรส ก่อให้เกิดการมีส่วน“ร่วมคิด ร่วมทา”อย่างสร้างสรรค์ ของทีมงาน องค์กรและชุมชน --------------------------------------------------------------------- สุนทรียปรัศนี....... กระบวนการพัฒนาที่ “คนตายแล้วเสียดาย ที่ไม่ได้ทา” แนวความคิดและหลักการ .......ไปยังไงมายังไง? ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา มีแนวคิดและหลักการมาจากความเชื่อที่ว่า..... 1. ความรู้ / ประสบการณ์ / ทักษะ/ สติปัญญา/ที่จาเป็นต้องใช้นั้น มีอยู่แล้วในตัวคน และสามารถผุดพรายได้ เข้าถึงได้หากมีวิธีการที่ชาญฉลาดในการค้นหา 2. เราสามารถค้นพบ”ปัญญารวมหมู่”ที่น่าอัศจรรย์ได้ดีกว่าการให้แต่ละคนคิด”แล้ว เรามารวมกัน 3. การมีมุมมองที่เป็นบวก ก่อให้เกิดผล บวก 4. ผลที่ได้จากการใช้พลัง บวก ร่วมกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน มีพลังการเปลี่ยนแปลงสูง 5. ความเปลี่ยนแปลงในระบบใดหรือ องค์กรใดก็ตาม จะเกิดขึ้นจาก - การมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง - ความภาคภูมิใจ เลื่อมใส ศรัทธาในตัวเอง พี่น้องผองเพื่อนและชุมชน - แรงดลใจที่จะทาความดี - ความต่อเนื่องจากความคิดสู่การกระทา -เมื่อสานึกว่าเรามีความสามารถ ความคิดและการทางานอย่างขันอาสาก็ตามมา 6. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ยืนหยัดในพันธสัญญาร่วมกัน สามารถ เปลี่ยนแปลงโลกได้(Small groups of Committed People can Change the world)
  • 3. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 3 ดังบทกวีที่บรรยายการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาชุมชนร่วมสมัย ที่ว่า....  ริเริ่มจากชาวบ้าน ร่วมก่อสานกับชุมชน เรียนรู้จากใจคน รับรู้คนคิดอะไร  รองรับความต้องการ ไม่หักหาญซึ่งน้าใจ ประชามิใช่ไพร่ ต้องก้าวไปคู่เคียงกัน  เริ่มจากที่เขารู้ ไม่ลบหลู่หรือเหยียดหยัน ร่วมจิดคิดถูกพัน ร่วมสร้างสรรค์สิ่งมุ่งหมาย  เสริมสร้างจากข้างใน กาลังใจไม่คลอนคลาย ชีวีมีความหมาย เราลิขิตชะตาเรา  มาเถิดพี่น้องข้า ร่วมฟันฝ่าทั้งหนักเบา กาลังเป็นของเรา ยิ่งออกแรงยิ่งแข็งขัน  บทบาทของชาติใหม่ ราษฏร์ -รัฐไทยไปด้วยกัย ด้วยหวังต่างมุ่งมั่น พัฒนา “ประชาสังคม” เวทีชาวบ้านมีลักษณะเป็นเช่นไร? - เป็นการจัดเวทีง่าย ๆ เช่น ปูเสื่อนั่งสนทนาใต้ร่มไม้ วงน้าชา จนถึง ในโรงแรมที่มีเก้าอี้ - บรรยากาศสบาย ๆ ไม่มีพิธีรีตองให้รู้สึกอึดอัด - ลักษณะกลุ่มย่อย ล้อมเป็นวง เหมือนวงน้าชา ร้านกาแฟ จะนั่งกับพื้น หรือเก้าอี้ตาม ถนัด (อาจมีน้าชาสักป้าน น้าเปล่า คนโทรับรอง) - ลักษณะกลุ่มย่อย เหมือนวงกาแฟนั่งบนเก้าอี้ (อาจมีกาแฟ น้าเปล่า คนโทรับรอง) -จานวนคนมีตั้งแต่ 4-8 คน ต่อ 1 วงสนทนา - อาจมีตั้งแต่ 3 – 300 วง หรือ 12 – 1,200 คน - มีทีมงาน “คุณเอื้อ” ที่เฉียบคม / สามารถ
  • 4. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 4 ผู้เอื้ออานวยการประชุม / “คุณเอื้อ” ทาหน้าที่อะไร?  โอภาปราศรัยต้อนรับ  บอกถึงประเด็นการสนทนาโดยติดใบงานไว้บนโต๊ะที่ท้าทาย  บอกกฎกติกามารยาท / หารือข้อตกลงกันก่อนการประชุม  บอกทิศทางการเคลื่อที่ของกลุ่มที่จะขยับจากวงหนึ่งไปสู่อีกวงหนึ่ง หรือโต๊ะหนึ่งสู่อีกโต๊ะหนึ่งโดยไม่สับสน มีความเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ  บอกลักษณะการสนทนาเป็นการระดม ความคิดที่ สร้างสรรค์ มองในมุมบวก ลักษณะของสุนทรียสนทนา  เริ่มจากการตั้งคาถามที่เสริมสร้างพลัง คือ ถามถึงสิ่งดีที่มีอยู่ในตัวของผู้สนทนา ก่อน เช่น สิ่งที่ตนเองรู้สึกว่ามีคุณค่า ความสุข ความสามารถ ความสาเร็จ ความ ใฝ่ฝัน สิ่งที่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้นในอนาคต  ขอบเขตการสนทนาเริ่มจากแคบไปหากว้าง อาทิ เรื่องของตัวเอง ทีมงาน องค์กร ชุมชน จนถึงสังคมใหญ่  ประเด็นการสนทนา เริ่มจากสิ่งที่กลุ่มสนใจ ภูมิปัญญาเดิมของท้องถิ่น วัฒนธรรมของชุมชน ประเพณี เทศกาล  ผู้เข้าร่วมสนทนาจะพูดคุยและบันทึกการสนทนาตามประเด็นแล้วทิ้งหลักฐานที่ น่าสนใจติดตามและมีศิลปะไว้ที่โต๊ะนั้น เช่นบัตรคา โปสเตอร์ ภาพที่วาดทิ้งไว้ หรือ ประโยคสาคัญ ๆ โดยใช้ กระดาษสี หลายขนาด ป้ายผ้าดิบที่มีรูป ถ้อยคา ที่บรรเลงด้วยสีเทียน ปากกาเคมี รู้เท่านั้นยังไม่พอ ต้องนาไปใช้ด้วย แค่เจตนาดียังไม่พอ ต้องลงมือทาด้วย -เกอเต้ “ความชาญฉลาดและสติปัญญาจะผุดพรายได้จากร่วมกันคุย / คิด ในวิธีการทีใหม่ ๆและหลากหลาย” - อุทัยวรรณ (2543)
  • 5. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 5 แล้วจะทาได้ยังไง ? แท้จริงแล้วสามารถทาได้ในพื้นที่โล่ง อาทิ ข่วงบ้าน ลานวัด ศาลาประชาคม ห้อง ประชุมอบต. เทศบาล ร้านกาแฟ วงน้าชา และจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีปัจจัยสาคัญมา ประกอบกัน คือ ทีมวิทยากรกระบวนการ (Facilitator) ทาหน้าที่ดาเนินการประชุม 1 มีการตั้ง คาถามที่เป็นสุนทรียะและทรงพลัง คาถามที่ก่อเกิดความคิด จุดประเด็น ให้อยากสนทนามีลักษณะ จุดประกาย/กระตุ้น สร้างสรรค์  ปลุกเร้า ดลใจ โดนใจ มีสาระ มีคุณค่า “เมื่อใดก็ตามที่มีผู้พูด ......เขากาลังเสนอมุมมองซึ่งจะทาให้ส่วนรวมมีความชาญฉลาดเพิ่มขึ้น และเกิดการหยั่งรู้ตามมาภายหลัง......อย่างน่าพิศวง - อุทัยวรรณ (2549)
  • 6. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 6 2. มีการสร้างบรรยากาศและเตรียมที่ทางเอื้ออานวยต่อการประชุม ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีใครใหญ่ใครเล็ก นั่งพื้น ขัดสมาธิได้ยิ่งดี อบอุ่น เป็นกัลยาณมิตร ไม่เป็นทางการ จบแล้วจบเลยไม่ ค้างคา รู้สึกปลอดภัย ไม่รู้สึกถูกทาโทษ ภายหลังจากพูดอะไรบางอย่างผิด ไม่มีผู้มีอานาจ สะดวก สบาย 3.. ที่ประชุมมีการสนทนาอย่างอารยะ และถ้อยทีถ้อยฟังกัน” - อาศัยสติ / ปัญญา / ความรู้ อยู่ในตัวของคู่สนทนา - ถือว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็น ศิลปะชั้นสูง - ยิ่งคุยยิ่งออกรส ผุดพรายสติปัญญารวมหมู่ มีการยอมรับ / นับถือกัน - มีการให้ เกียรติ และชื่นชมกันและกัน 4. มีคาถามที่เจาะใจ ปลุกจิตวิญญาณและก่อเกิดการเสาะแสวงหา  ผู้คนมาพูดคุยกัน เอาความรู้และประสบการณ์ของตนมาแบ่งปัน  ในคาถามเจาะใจ ปลุกจิตวิญญาณ เป็น กุญแจดอกสาคัญคือเมื่อค้นพบร่วมกัน แล้วชื่นชมก็จะเกิดการ“สืบค้นอย่างลึกซึ้ง”ยิ่งขึ้นไปอีก เขาเหล่านั้นเอา”สิ่งที่เขารู้มาด้วย “รู้สึก” “คิด / นึก (ซึ่งมีอยู่แล้วในคาถามบนโต๊ะ) มากเกินกว่านั้นก็คือพลังในการทางานร่วมกันที่จะเห็นว่ามีความหยั่งรู้ในมุมมองที่ หลากหลายยิ่งขึ้น “แท้จริงแล้ว ความน่าอัศจรรย์ของความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้หมายความถึงการสร้างสิ่งใหม่ ๆ เป็นหลัก หากแต่เป็นเรื่องของ การมองในมุมใหม่ ในสิ่งที่ มีอยู่แล้วแต่เดิม ต่างหาก” - อุทัยวรรณ (2554)
  • 7. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 7 5 มีความอยากรู้อยากเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม ในสิ่งที่ไม่เคยได้รู้ได้เห็นจะช่วย เอาชนะการต่อต้านความคิดใหม่และความคิดที่ไม่เหมือนตน ดังนั้นหน้าที่ของคุณเอื้อที่จะทาให้การประชุมประสพความสาเร็จคือ 1. วางเป้าหมายการประชุมให้ชัด 2. จัดบรรยากาศเหมาะสม 3. ทาให้คนอารมณ์แจ่มใส 4. ชักชวนให้ทุกคนมีส่วนร่วม 5. “เริ่ม”ด้วยคาถามที่ทรงพลัง ขับประเด็นสนทนาให้ทุกคนรู้ว่าพวกเราใส่ใจจะคุยกัน ในเรื่องอะไร? 6. เกาะติดและใช้วิธีการเชื่อมโยง / ตกผลึก / หลอมรวม / ความคิด / ที่หลากหลาย 7. ฟังอย่างตั้งใจ / ลุ่มลึก (Silent = Listen,deep listening) 8. ตรองตรึกในส่วนที่ได้ค้นพบ ในแต่ละช่วงการขยับไปสู่โต๊ะใหม่ จะมีเหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นคือ  ผู้เข้าร่วมสนทนาจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นสาคัญที่วางอยู่บนโต๊ะ  พวกเขาจะศึกษาสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ และใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสนทนา  ผู้สนทนาจะเริ่มสนทนา ต่อเนื่องจากกลุ่มที่ทิ้งสาระ หรือสิ่งของไว้ให้เมื่อการ สนทนาจบลงก็ทิ้งหลักฐานการสนทนาไว้ที่นั้นอีก  การนาเสนอทิ้งไว้จะมีลักษณะเครือข่ายความคิดดุจดัง ผึ้งเกาะบนดอกไม้ที่มี เกสร แล้วโบยบินจากดอกหนึ่งไปสู่อีกดอกหนึ่ง นาผงเกสรติดขาไปด้วยทาให้ เกิดการผสมเกสรดอกไม้โดยปริยาย
  • 8. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 8 เราคาดหวังผลที่ได้ว่าอย่างไร? ความสามารถในการ“ชูความคิดในลักษณะทาให้เกิดการหยั่งรู้ (Insight) เป็นละลอก ได้ความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น ไปเรื่อย ๆ ซึ่งมาจากการตั้งคาถามทั้งสิ้น ในลักษณะดังต่อไปนี้คือ 1. ระเบิดจากภายใน เป็นถามที่มี เริ่มจากสิ่งที่เขารู้ สามารถกล่าวได้อย่าง ภาคภูมิใจ 2. บันดาลใจให้ร่วมคิด เป็นมีคาถามระดมความคิด ที่มาจากสมอง สติปัญญา ความทรงจา และความประทับใจ 3. เนรมิตนวัตกรรม เป็นคาถามที่ทาให้เกิดความคิดใหม่ ๆ นาไปสู่สิ่งใหม่ที่ ดีกว่าเดิม หรือเป็นอุดมคติ 4. เหนี่ยวนาให้เกิดปฏิบัติการ เป็นคาถามที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่ สามารถออกแบบแล้วนาไปใช้ได้เลย หรือเป็นความคิดที่กลุ่มสามารถทาได้เอง มากว่าคิดให้คนอื่นทา
  • 9. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 9 บทสรุป ของการสนทนาจะทาให้เกิดคลังความคิดที่เรียกว่า “ปัญญารวมหมู่” เป็นวงจรการสนทนาที่มี 4 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ ร่วมออกแบบ ร่วมออกแบบ ทางานอย่างสุนทรีย ทางานอย่างสุนทรียะ ะ ( (D De es si ig gn n) ) ร่วมค้นพบ สิ่งดีแล้วชื่นชม (Discovery) ร่วมถักทอฝัน อย่างสมศักดิ์ศรี (Destiny) ร่วมสร้างสรรค์ สิ่งดีเพื่อสังคม (Destiny)
  • 10. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 10 ความคิดดีๆ ในวงสนทนาจะไปสู่การกระทาได้ ด้วยการตั้งคาถามที่เจาะใจ ดังต่อไปนี้ 1) สิ่งที่อยากให้เกิดในกลุ่มเป้าหมายหรือ ภาคหุ้นส่วนของเรา คืออะไร? ท่านใฝ่ฝันอยากจะเห็นอะไรเกิดขึ้นที่ชุมชน ? 2) กลุ่มเป้าหมายหรือ ภาคหุ้นส่วนของเรา เป็นใคร? นักเรียน เจ้าของสุขภาพ ผู้บริโภค อสม. ผู้นาธรรมชาติ ชาวบ้าน ฯลฯ 3) หากจะให้บรรลุเป้าหมายจะต้องอาศัยเทคนิค/วิธีการ/กระบวนการ/กลยุทธ์ กลวิธี อะไร? 4) มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องในการทางานครั้งนี้บ้าง? พหุภาคีเป็นอยู่ในส่วนใหน? ภาคีหุ้นส่วนเป็นใคร? 5) ภาคีหุ้นส่วนต้องปรับเปลี่ยนบทบาทอย่างไรเพื่อทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลง? จาก ผู้ให้บริการ/ ปฏิบัติการ/เจ้าของโครงการฯ มาเป็นผู้จุดประกาย ก่อกระแส ส่งเสริม สนับสนุน ที่ปรึกษา ครูฝึกและพี่เลี้ยง 6) มีการท้าทายกลุ่มว่าท่านจะเติมเต็มอย่างไรในกลุ่มสนทนาของตนเอง? (ที่เวียนกลับมาแล้วภายหลังการไประดมสมองในกลุ่มอื่นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้) 7) เมื่อประมวลจากสิ่งที่ปรับเปลี่ยนร่วมกัน เพื่อนาไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง คาดว่าว่าเจ้าของสุขภาพ หรือกลุ่มเป้าหมายจะเป็นไปตามที่วาดหวังหรือไม่? (เช่น จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่? ) 8) ท่านมีความรู้สึกอย่างไรภายหลังการบรรลุเป้าหมายของการดาเนินงาน ? 9) แม้จะประสพความสาเร็จมาแล้วระดับหนึ่งยังมีอะไรอีกที่ท่านรู้สึกเสียดายที่ยังไม่ได้ ทา?
  • 11. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 11 บทสรุปของการเป็นผู้อานวยการประชุมที่สามารถ เริ่มจาก คาถาหัวใจนักปราชญ์ “สุ จิ ปุ ลิ” ฟังให้ลึก ฟังให้ดี มีจิตมั่น คิดให้ทัน คิดให้กว้าง สว่างใส ถามให้ถูก ถามไพเราะ ถามเจาะใจ เขียนให้ชัด จัดกรอบได้ ตรงใจความ จบลงด้วยการแสดงความชื่นชมหลังการนาเสนอของความคิดของผู้สนทนาเสมอ จบให้ จับใจ หาให้เจอว่าเขาได้ให้แสงสว่างแห่งปัญญาในเรื่องใด ชมให้ถูกที่ ทั้งในเนื้อหา หรือลีลาท่าทีที่เขาแสดงออก ในตอนต้น ต้องตื่นเต้น ให้ที่ประชุม...ตื่นเต้น
  • 12. สถาบันเสริมสร้างพลังชุมชน ล้อมวงกลางลานบ้าน สืบสานธารปัญญา (Institute for Community Empowerment) อุทัยวรรณ กาญจนกามล 12 ในตอนกลาง ต้องกลมกลืน ให้ที่ประชุม ร่วมกันคิดร่วมกันทาอย่าง.....กลมกลืน ในตอนจบ ต้องจับใจ ให้ที่ประชุม จับใจจากการได้ยินคาที่ไพเราะ เกิดแรงบันดาลใจ... ปัจฉิมบท......ด้วยคาถามชวนให้คิด ในวงสนทนา เมื่อยามผู้คนมาพบปะกัน  ผู้ยิ่งใหญ่ มักคุยกันเรื่อง ความคิดอ่าน...... เราจะทาอะไรกันดี? (Great people talk about IDEAS)  คนธรรมดามักคุยกันเรื่อง ดินฟ้าอากาศ...สัพเพเหระ (Ordinary people talk about THINGS)  คนเล็กคนน้อย มักคุยกันเรื่อง คนอื่น.......สุมหัวนินทา (Small people talk about OTHER PEOPLE) โปรดลองตั้งข้อสังเกตว่า.....ทุกครั้งที่ตั้งวงคุยกัน วงของท่านจัดอยู่ในแบบใหน?