SlideShare a Scribd company logo
1 of 134
Download to read offline
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 1
สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม
ลางปราชัย (ตอนที่551)
ในการบุกวุยกกครั้งที่สี่ ทั้งสุมาอี้และขงเบงไดตกลงประลองความรูและสติปญญากันดวยคายกลพยุหะ
เมื่อขงเบงตั้งคายกลพยุหะแลวสุมาอี้ก็รูจัก แตครั้นรับคําทาใหเขาตีคายกลพยุหะนั้นกลับแปรขบวนสําแดง
อานุภาพแหงมายา ทําใหทหารวุยกกที่เขาไปในคายกลตกเปนเชลยศึกของขงเบงทั้งสิ้น
ขงเบงเห็นทหารควบคุมตัวเชลยศึกทั้งเกาสิบคนเขามา จึงกลาวกับเชลยศึกทั้งนั้นวา เราถือสัจจะไมทํา
อันตรายทานและจะปลอยตัวพวกทานกลับไป กลาวแลวขงเบงจึงสั่งใหทหารเปลื้องเอาเสื้อเกราะและ
หมวกเกราะของทหารเชลย ยึดมาศึกและอาวุธไวจนหมดสิ้น ใหทหารเอาดินหมอสีดําทาเชลยศึกทั้งเกา
สิบคน และสั่งวา ทานกลับไปบอกสุมาอี้นายทานเถิด วาใหไปศึกษาเลาเรียนอาจารยที่ดีเสียอีกกอนจึงมา
สูกับเรา
กลาวแลวขงเบงจึงสั่งใหปลอยตัวเชลยศึกกลับไป และสั่งทหารทั้งปวงใหเตรียมพรอมในที่ตั้ง เมื่อเชลย
ศึกทั้งเกาสิบคนกลับไปหาสุมาอี้แลวไดรายงานความที่ขงเบงสั่งมานั้นทุกประการ
สุมาอี้พายแพความรูและสติปญญาในกระบวนรบดวยคายกลพยุหะกับขงเบงตอหนาบรรดาสายตาทหารทั้ง
ปวงก็รูสึกอัปยศอดสูเปนอันมาก ครั้นไดยินคํารายงานของทหารเชลยศึก ก็ลืมคําสัญญาที่ใหไวกับขงเบง
วาจะไมยอมนําทัพมารบกับขงเบงอีก กลาวกับแมทัพนายกองทั้งปวงในที่นั้นดวยความโกรธวา ขงเบงทํา
หยาบชาแกเราใหไดความอัปยศนัก แมเรามิเอาชนะไดครั้งนี้ ที่ไหนจะมีหนากลับมาเมืองลกเอี๋ยงได ทาน
ทั้งปวงจงอุตสาหชวยกันเอาชัยชนะใหได
สุมาอี้แรงดวยแรงโทสะและความอัปยศ เผลอตัวลืมไปวาเปนแมทัพใหญ ขี่มาออกไปหนาทหาร ชักเอา
กระบี่คูประจํากายชูขึ้นบนฟา แลวสั่งทหารทั้งปวงใหยกเขาตีกองทัพของขงเบง ทหารสุมาอี้ไดยินคําสั่งก็
โหรองแลวพากันกรูรุกไปขางหนาพรอมกัน
ขงเบงเห็นดังนั้นก็หัวเราะดวยการสมคะเนที่คิดไว จึงโบกพัดขนนกเปนสัญญาณ ใหทหารพลกลองลั่น
กลองทํานองเผด็จศึก และสั่งใหถอยเกวียนกลับเขามาในขบวนทหาร
ทหารจกกกไดยินคําสั่งและสัญญาณจากขงเบงแลวจึงพากันกรูขึ้นหนา รุกเขาประจัญบานกับกองทหาร
ของสุมาอี้ ในขณะที่ทหารทั้งสองฝายกําลังตอสูกันเปนชุลมุนนั้นเสียงประทัดสัญญาณไดดังกึกกองขึ้น
จากแนวปาดานหลังกองทหารของสุมาอี้ ทหารเมืองเสฉวนภายใตธงของกวนหินไดโหรองกองกระหึ่มยก
ออกจากแนวปา โจมตีกระหนาบเขามาทางดานหลังของทหารวุยกก
สุมาอี้เห็นดังนั้นก็ตกใจ สั่งทหารใหแปรขบวนเปนสองกอง กองหนึ่งรับศึกทหารเมืองเสฉวนทางดานหนา
อีกกองหนึ่งหันกลับไปรับศึกกับกวนหินทางดานหลัง
ทหารวุยกกแปรขบวนทามกลางความตระหนกตกใจ ครั้นถูกตีกระทบกระหนาบเขามาทั้งสองดานก็พากัน
รวนเร ในทันใดนั้นเสียงประทัดสัญญาณก็ดังกึกกองมาจากในปาดานขางเขากิสาน ปรากฏทหารเมืองเสฉ
วนอีกกองใหญภายใตธงเกียงอุยไดโหรองเสียงประสานกับเสียงกลองรบดังสนั่นหวั่นไหว แลวยกเขาตี
กลางขบวนของกองทัพสุมาอี้
กองทหารของเกียงอุยพอยกเขาถึงหวางกลางกองทหารของสุมาอี้ทั้งสองขบวนก็แปรขบวนเปนสองกอง
กองหนึ่งตีกระทบไปทางดานหนา อีกกองหนึ่งตีกระทบไปทางดานหลัง ทําใหทหารของสุมาอี้ทั้งสองกอง
ตกอยูทามกลางศึกกระหนาบ และถูกทหารจกกกฆาฟนบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก
สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ระบุวาทหารสุมาอี้ตายประมาณสวนหนึ่ง ในขณะที่ฉบับภาษาจีนระบุ
วาทหารสุมาอี้ทั้งสองกองถูกลอมตีกระหนาบแบบไมมีทางสู ทหารของขงเบงไดใชเกาทัณฑยิงไปดุจหา
ฝน จนทหารวุยกกตองเรรวน เหยียบกันตายเองก็มาก ตายดวยคมเกาทัณฑก็มาก ถูกอาวุธของทหารขง
เบงบาดเจ็บลมตายก็มาก สุมาอี้เสียทหารไปหกสวนในเจ็ดสวน
สุมาอี้เห็นดังนั้นก็ตกใจ สั่งทหารใหตีฝาออกไปทางริมแมน้ําอุยโห แลวรีบลงเรือที่ตระเตรียมไวหนีขาม
แมน้ําอุยโหไปยังอีกฟากหนึ่ง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นหนีขามฟากแมน้ําอุยโหไปไดแลว สุมาอี้จึงใหรวบรวมทหารแลวตั้งคายมั่นไวที่ริมแมน้ํา ใหมาเร็วรีบ
ถือฎีกาเขาไปเมืองลกเอี๋ยงขอกําลังสนับสนุนใหเสริมเติมมาชวยโดยเร็วที่สุด และนับแตวันนั้นสุมาอี้ก็ไม
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 2
ยอมยกออกไปรบกับขงเบงอีกเลย แตละวันไดแตนั่งหมกมุนอยูภายในคายดวยความละอายใจและอดสูใจ
ที่พายแพแกขงเบงอยางสิ้นรูปหมดเชิง
ฝายขงเบงครั้นไดชัยชนะตอกองทัพสุมาอี้แลว จึงพาทหารกลับไปที่คายเขากิสาน ใหรวบรวมมาศึก
ศาสตราวุธ และเสื้อเกราะ หมวกเกราะเปนสินศึก และใหปูนบําเหน็จแกทหารซึ่งมีความชอบเปนอันมาก
ค่ําลงขงเบงนั่งไตรตรองแผนการสงครามก็ใหวิตกรอนใจเปนอันมาก ดวยเสบียงอาหารกําลังขาดแคลนลง
เนื่องจากการลําเลียงเสบียงอาหารซึ่งลิเงียมไดสั่งใหกิอั๋นเปนแมกองคุมเสบียงมาสงแกกองทัพนั้นได
ลาชาผิดนัดไปรวมสิบวันแลว หากเสบียงอาหารยังไมลําเลียงมาอีก ในไมกี่วันขางหนากองทัพก็จะขาด
เสบียงลง
อันกิอั๋นผูนี้เปนคนสนิทของลิเงียมซึ่งเปนขุนนางผูใหญในราชสํานักของพระเจาเลาเสี้ยน รับราชการมาแต
ครั้งพระเจาเลาปยังทรงพระชนมอยู กิอั๋นนี้เปนผูมักทําความชอบยิ่งกวาทําความดี ดังนั้นแมวาอุปนิสัย
สวนตัวจะเปนนักเลงสุรา บาผูหญิง แตกับผูเปนนายแลวกลับเอาใจใสพินอบพิเทาเฝาแหนอยางใกลชิด
หมั่นเอาของกํานัลไปมอบแกลิเงียมอยูเนือง ๆ ไปเหนือ ไปใตก็จะนําของขวัญกํานัลไปมอบแกลิเงียม
และฮูหยินทุกครั้งไป วันตรุษ วันสารทก็ไมเคยหลงลืม ยามวางก็จะไปเฝาคอยรับใชลิเงียมอยางสนิทสนม
มิหนําซ้ํายังใหผูเปนศรีภรรยาไปรับใชใกลชิดกับฮูหยินของลิเงียมอีก ดังนั้นกิอั๋นจึงเปนที่โปรดปรานของลิ
เงียม และสนับสนุนใหมีตําแหนงหนาที่สูงขึ้นโดยลําดับอยางรวดเร็วเกินหนาคาตาของขุนนางทั้งปวง ใน
ที่สุดกิอั๋นไดรับตําแหนงเปนแมกองรับผิดชอบลําเลียงเสบียงเอาไปใหแกขงเบง
เพราะเหตุที่กิอั๋นเปนนักเลงสุรา ดังนั้นบรรดาลูกนองคนสนิทจึงเปนคนจําพวกเดียวกัน แตละวันทั้งไพร
และนายตั้งวงเสพสุรากันเปนที่สนุกสนาน จนงานราชการลําเลียงเสบียงผิดพลาดคลาดเคลื่อนเนิ่นชาไป
ถึงสิบวัน
ในวันรุงขึ้นครั้นกิอั๋นลําเลียงเสบียงไปถึงกองทัพจึงเขาไปรายงานความแกขงเบง ขงเบงเห็นหนาของกิอั๋น
กล่ําไปดวยสุราก็โกรธ สั่งทหารใหคุมตัวกิอั๋นไปประหารชีวิตตามพระอัยการศึก
เตียวหงีเห็นดังนั้นจึงเขาไปคํานับทัดทานขงเบงวากิอั๋นเปนคนสนิทของลิเงียม ซึ่งกิอั๋นสงเสบียงมิทัน
กําหนด มหาอุปราชจะฆาเสียนั้นก็ควรอยู แตวาราชการศึกจะมีไปเมื่อหนา ขาพเจาเห็นวาผูใดซึ่งจะรับคุม
เสบียงอาหารมาสงนั้นขัดสนนัก ขอใหงดโทษครั้งหนึ่งกอน
ขงเบงเกรงใจและเห็นแกหนาของเตียวหงีเพราะไดรวมกรําศึกตลอดมา ทั้งเกรงใจลิเงียมซึ่งเปนเพื่อนขุน
นางมาแตครั้งพระเจาเลาป ครั้นไดยินคําทัดทานของเตียวหงี ขงเบงจึงจําตองงดโทษตายใหกับกิอั๋น
เปลี่ยนเปนโทษโบยแปดสิบที
กิอั๋นถูกลงทัณฑโบยถึงแปดสิบที ไดรับความเจ็บปวดเปนอันมาก วิสัยนักเลงสุราอันเปนคนพาลก็กําเริบ
ขึ้น แทนที่จะรูสึกสํานึกตัวกลับพาลโทษโกรธและคิดแกแคนขงเบง ดังนั้นพอค่ําลงกิอั๋นจึงพาพรรคพวก
ซึ่งตามมาในกองลําเลียงเสบียงสามสิบคนหนีขามแมน้ําอุยโหไปขอสวามิภักดิ์กับสุมาอี้ และเลาความใหสุ
มาอี้ฟงทุกประการ
สุมาอี้ไดยินคํากิอั๋นแลวแมจะเห็นรองรอยบาดแผลจากการถูกโบยตี ก็ยังกริ่งวาซึ่ง กิอั๋นมาเขาสวามิภักดิ์
ในครั้งนี้จะเปนกลอุบายของขงเบง จึงกลาวขันตอกับกิอั๋นวาซึ่งทานจะมาขอออนนอมตอเรานั้นยังจะ
วางใจมิได ทานจะตองทําการพิสูจนตัวเองใหประจักษแกเราสักครั้งหนึ่งกอนจึงจะเชื่อได
กิอั๋นจึงวา ทานแมทัพจะใหขาพเจาพิสูจนประการใด ขาพเจาจะเพียรพยายามทําตามคําสั่งทุกประการเพื่อ
พิสูจนใหเห็นความจริงใจของขาพเจา
สุมาอี้ไดยินดังนั้นก็มีความยินดี กลาววา ถาฉะนั้นทานจงรีบกลับไปเมืองเสฉวน ไปเลาแกคนทั้งปวงให
ปรากฏไปวาขงเบงคิดขบถ จะจับพระเจาเลาเสี้ยนฆาเสีย จะชิงเอาราชสมบัติตั้งตัวเปนใหญ ถามีผูเลื่อง
ลือเอิกเกริกไปรูถึงพระเจาเลาเสี้ยน พระเจาเลาเสี้ยนก็จะมิไวใจขงเบง ดีรายจะมีตราใหหากองทัพเลิก
กลับไป ถาทานทําไดฉะนี้ เราจะทูลพระเจาโจยอยตามความชอบ ตั้งใหเปนขุนนางผูใหญ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
สุมาอี้เกรงกลัวขงเบง มิรูที่จะทําประการใด ไดแตตั้งคายมั่นอยูคนละฟากฝงแมน้ําอุยโห จึงคิดอุบายยอน
รอยขงเบง เหมือนกับอุบายที่มาเจกเสนอขงเบงใหปลอยขาวเลาลือวาสุมาอี้เปนขบถ ทําใหพระเจาโจ
ยอยหลงเชื่อถอดสุมาอี้ออกจากตําแหนงหนาที่ทั้งปวง ใหกิอั๋นปลอยขาวลือยอนสนองเอากับขงเบงบาง
หวังจะพิสูจนความสุจริตใจของกิอั๋นอยางหนึ่ง และหวังเอาความระแวงแคลงพระทัยของพระเจาเลาเสี้ยน
ใหเรียกกองทัพของขงเบงกลับไปเมืองเสฉวนอีกอยางหนึ่ง กิอั๋นซึ่งเปนคนพาลประเภทขาขายเจา บาว
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 3
ขายนาย พรอมจะขายทุกสิ่งทุกอยางแมกระทั่งชาติบานเมืองเพียงเพื่อผลประโยชนเฉพาะหนาของตน
เทานั้น ครั้นไดฟงคําสุมาอี้ก็ตกลงรับคํา
สุมาอี้เห็นดังนั้นก็มีความยินดี สั่งกิอั๋นใหรีบกลับไปเมืองเสฉวนและใหเอาเงินทองปูนบําเหน็จติดสินบนแก
กิอั๋นเปนอันมาก
ครั้นกิอั๋นกลับไปถึงเมืองเสฉวนก็ลงมือปฏิบัติการณตามแผนการของสุมาอี้ ปลอยขาวเลาลือไปทั้งในและ
นอกราชสํานักวาขงเบงคิดกบฎตอแผนดิน หมายจะสังหารพระเจาเลาเสี้ยนแลวตั้งตนขึ้นเปนฮองเตแทน
บรรดาพวกขันทีซึ่งไดรับแตงตั้งเพิ่มขึ้นเปนจํานวนมากในสมัยของพระเจาเลาเสี้ยนเปนพวกคนวิปริตผิด
เพศ บางถึงแมจะรูเทาทันแตดวยอุปนิสัยวิปริตก็กลาวความเลาขานขยายไปอยางกวางขวาง บางที่รูไม
เทาทันหรือบางที่เห็นวาขงเบงเปนขุนนางผูภักดีตอ แผนดิน เปนอุปสรรคกีดขวางความเลวทรามต่ําชา
โสมมของพวกตน ก็พากันเอาขาวลือเขาไปกราบบังคมทูลตอพระเจาเลาเสี้ยน
พระเจาเลาเสี้ยนเปนกษัตริยผูเยาว เอาแตเสพสุขอยูกับสุรา นารีและขันที มิไดใสใจราชการบานเมือง
เหมือนกับพระเจาเลาป ประกอบทั้งโงเขลาเบาสติปญญา พอไดยินคํากราบทูลคําเลาขาวลือก็พลอย
เชื่อถือตาม
พระเจาเลาเสี้ยนเชื่อคําเลาขาวลือแลวก็ตกพระทัย แตแทนที่จะทรงปรึกษาหารือกับขุนนางผูใหญที่เปน
หลักชัยของบานเมือง กลับรับสั่งเรียกหาบรรดาขันทีซึ่งใกลชิดโปรดปรานมาปรึกษาวา ขงเบงยกไปตั้งอยู
ที่เมืองฮันตงนานชา ไมคอยเขามาเฝาถึงเมืองเสฉวน หลายปมานี้ไดคุมกองทัพยกไปทําการกับวุยกก
อยางตอเนื่อง ขงเบงจึงเรืองอํานาจขึ้นในทางการทหาร ไมมีใครเทียมเทียบได เมื่อมีขาวคราววาคิดอาน
เปนขบถดังนี้จะทําประการใด
พวกขันทีผูวิปริตไดฟงรับสั่งดังนั้นก็เออออหอหมกตามพระทัยวา บัดนี้พระองคใหอาญาสิทธิ์แกขงเบง คน
ทั้งปวงก็อยูในอํานาจสิ้น ขงเบงจะวาสิ่งใดก็จะกระทําตาม
ดังนั้นจึงกราบบังคมทูลแนะนําใหตัดรอนอํานาจของขงเบงเสีย ขอใหพระเจาเลาเสี้ยนมีหมายรับสั่งเรียก
กองทัพของขงเบงกลับมา แลวถอนตราอาญาสิทธิ์ที่ใหอํานาจขงเบงเสียทั้งสิ้น ขงเบงสิ้นอํานาจทาง
ทหารแลวเห็นจะไมเปนภัยสืบไป
พระเจาเลาเสี้ยนพระหัตถหนึ่งกําลังคลองอยูที่คอของขันที พระหัตถหนึ่งถือจอกน้ําจันทน ไดฟงคํากราบ
ทูลดังนั้นก็ทรงเห็นชอบ โปรดใหมีหมายรับสั่งไปถึงขงเบง ตรัสสั่งเรียกกองทัพกลับคืนเมืองเสฉวน
ในทันที
อา! ลางปราชัยไดปรากฏเหนือแผนดินจกกกชัดเจนขึ้นแลว นาเวทนาพญามังกรผูมีความภักดีตอพระ
ราชวงศฮั่นและพระเจาเลาปยิ่งนัก หรือวานี่คือลิขิตสวรรคอันใครไหนจักฝนได?
สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม
กลอุบายเตาไฟ (ตอนที่552)
สุมาอี้คิดเผด็จศึกวุยกกครั้งที่สี่ จึงยอนกลขงเบง ใหกิอั๋นคนทรยศปลอยขาวลือวาขงเบงเปนขบถ พระเจา
เลาเสี้ยนทรงเชื่อตามขาวลือและคําทูลของขันที จึงมีพระบรมราชโองการใหขงเบงเลิกทัพยกกลับเมือง
เสฉวนในทันที
ขาวเลาลือแพรหลายกระจายไปทั่วราชสํานัก ไดยินไปถึงหูของเจียวอวนขุนนางผูใหญ ครั้นเจียวอวน
ทราบวาพระเจาเลาเสี้ยนมีพระบรมราชโองการใหขงเบงยกกองทัพกลับ จึงรีบเขาไปเฝาแลวกราบบังคม
ทูลวา มหาอุปราชยกไปครั้งนี้เห็นทําการไดทวงทีนัก จะไดเมืองลกเอี๋ยงเปนมั่นคง เหตุใดพระองคจะให
หากลับมาเสียเลา
พระเจาเลาเสี้ยนทรงทราบดีวาเจียวอวนเปนขุนนางตงฉิน และนับถือศรัทธาขงเบงมาแตครั้งรัชกาลกอน
จึงทรงกริ่งวาหากบอกความจริงแลวเจียวอวนก็จะกราบทูลทัดทานไมใหสงพระบรมราชโองการเรียก
กองทัพกลับ จึงทรงบายเบี่ยงเสียวา เรามีธุระเปนความลับจะหามหาอุปราชมา จะปรึกษาดวย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นเจียวอวนไดยินรับสั่งแสดงเหตุผลในการเรียกขงเบงกลับวาเกี่ยวดวยขอราชการลับ ก็มิรูที่จะกราบ
บังคมทูลตอไปประการใด เพราะเมื่ออางเปนเรื่องลับเสียอยางหนึ่งแลวก็จะปดหูปดตาปดปากผูคนไมให
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 4
เกี่ยวของไดอีกตอไป และเพราะเหตุที่มักอางความลับเปนเหตุผลปดกั้นผูคนมิใหลวงรูทัดทานดังนี้ จึง
บังเกิดความฉิบหายวายวอดใหญหลวงมากนักตอนักโดยที่ไมอาจมีผูใดรูเห็นทัดทานหรือทักทวงไดเลย
แตเปนที่นาประหลาดที่การอางความลับเชนนี้ไดกลายเปนแบบอยางสืบทอดตอมา แมกระทั่งในทุกวันนี้
พระเจาเลาเสี้ยนเห็นเจียวอวนนิ่งอึ้งดังนั้น จึงตรัสสั่งใหขาหลวงรีบเชิญพระบรมราชโองการไปใหแกขง
เบงที่ตําบลเขากิสาน
ฝายขงเบงตั้งคายมั่นอยูที่ภูเขากิสานนั้น ไดเตรียมการที่จะยกพลขามแมน้ําอุยโหเพื่อตีคายของสุมาอี้ซึ่ง
ออนเปลี้ยเพลียแรง และเหลือทหารนอยลงเปนอันมากแลว จากนั้นจึงรุกเขายึดเอาเมืองเตียงอัน แมได
เมืองเตียงอันแลว เมืองลกเอี๋ยงก็จะเหมือนลูกไกอยูในกํามือ ขงเบงกําหนดแผนการเคลื่อนทัพและ
ตระเตรียมกําลังทหาร ตลอดจนเสบียงเสร็จสิ้นแลว จึงสั่งใหทหารสามหมื่นนายตัดไมไผผูกแพเตรียมไว
รอวันฤกษดีแลวจะยกพลขามแมน้ําอุยโห
ในขณะที่ทหารของขงเบงกําลังทําแพอยูนั้น ขาหลวงของพระเจาเลาเสี้ยนก็เดินทางไปถึงคายหลวงของ
ขงเบง ครั้นขงเบงทราบวาขาหลวงเชิญพระบรมราชโองการมาใหก็ออกไปตอนรับ และตั้งพิธีรับพระบรม
ราชโองการตามประเพณี
พอทราบวาพระเจาเลาเสี้ยนมีพระบรมราชโองการเรียกกองทัพกลับเมืองเสฉวน ขงเบงก็ถามขาหลวงนั้น
วา ซึ่งมีพระบรมราชโองการมาทั้งนี้เปนเพราะมีกองทัพจากเมืองกังตั๋งยกมาหรือไฉน
ขาหลวงนั้นไดตอบขงเบงโดยซื่อวาซึ่งกองทัพเมืองกังตั๋งจะยกมานั้นหามิได สัมพันธไมตรีระหวางจกกก
กับงอกกยังคงเปนปกติทุกประการ
ขงเบงไดฟงดังนั้นก็คะเนการณวาเหตุที่พระเจาเลาเสี้ยนมีพระบรมราชโองการมาครั้งนี้ยอมเกิดแตปญหา
ภายในราชสํานัก เพราะขงเบงรูดีตั้งแตยกกองทัพกลับจากการปราบปรามเบงเฮ็กแลววา พระเจาเลาเสี้ยน
นี้ผิดกับพระเจาเลาป เพราะทรงเอาแตเสพสุข มักเสวยน้ําจันทน คลอเคลาใกลชิดสนิทสนมกับพวกขันที
และพวกปากหอยปากปูจนแทบไมเปนอันออกวาราชการ จึงประดุจดังพระอาทิตย แมจะมีฤทธิ์และอํานาจ
สักเทาใดก็ยอมมัวหมองอับแสงไปดวยเมฆหมอก คือเหลาขันทีและคนพาลซึ่งแวดลอมพระองคอยูฉะนั้น
ขงเบงคิดดังนั้นแลวสีหนาก็เศราหมองลง แหงนหนามองเพดานทอดถอนใจใหญ แลวรําพึงวา เจาเรานี้
หนุมแกความนัก มาเชื่อถอยคําขุนนางสอพลอยุยุงฉะนี้ ที่ไหนเราจะทําการตอไปได ครั้นเรามิไปบัดนี้ก็จะ
เปนขอขัดรับสั่ง ถาจะไปบัดนี้ก็เสียดายนัก สืบไปเบื้องหนาจะกลับมาทําการสักรอยครั้งก็มิอาจลวงเขา
มาถึงที่นี้ได
ขงเบงรูดีวาศึกวุยกกครั้งที่สี่นี้ไดบุกรุกลึกเขามาในแดนวุยกก จักแหลนจะยึดเมืองเตียงอันและเขายึดเมือง
ลกเอี๋ยงไดอยูแลว เพราะแนวหลังที่กองทัพผานมาก็ไดยึดบรรดาหัวเมืองทั้งปวงมิใหทําอันตรายไดอีก
ตอไป ทั้งไดแปรใหเปนฐานสงกําลังบํารุงแกกองทัพอยางแนนแฟน กองทัพสุมาอี้ซึ่งยกมารับมือนั้นเลาก็
ถูกทําลายจนกําลังเหลือนอยเต็มที ทั้งจิตใจสูรบของสุมาอี้ผูเปนแมทัพนั้นไดถูกทําลายลงแทบจะสิ้นเชิง
เปนสถานการณอันดียิ่งที่จะยึดแผนดินตงงวนไดสําเร็จ หากจะตองถอยกลับไปก็เปนเรื่องนาเสียดายอยาง
ยิ่ง แตหากจะไมยกกองทัพกลับ ขุนนางสอพลอก็จะยิ่งยุยงใหพระเจาเลาเสี้ยนแคลงพระทัยมากขึ้น ดีราย
ก็จะถูกขอหาวาเปนกบฏตอแผนดินไปเสียเอง
ดังนั้นขงเบงจึงจําเปนตองตัดสินใจเลิกทัพกลับไปเมืองเสฉวนตามรับสั่ง
พอเกียงอุยทราบความดังนั้นก็มิไดติดใจในเหตุผลของการถอยทัพวาจะเปนประการใด เพราะวางใจในการ
ใชดุลยพินิจตัดสินใจของขงเบง แตกริ่งเกรงวากองทัพไดยกลึกเขามาในแดนวุยกกมากนัก การถอยทัพยิ่ง
เปนอันตรายมากขึ้น เพราะสุมาอี้จะฉวยโอกาสไลตามตีในยามที่ลาถอย จึงเขาไปหาขงเบงแลวถามวา
มหาอุปราชจะลาทัพไปครั้งนี้ ถาสุมาอี้รูยกทหารตามมารบพุง จะคิดประการใด
ขงเบงแมตกอยูในภาวะสลดใจที่จําตองละโอกาสอันเยี่ยมยอดที่จะยึดแผนดินตงงวน แตครั้นไดฟงคํา
เกียงอุยก็หันหนามาหา แลวกลาวดวยน้ําเสียงอันเมตตาปรานีวา อันตรายจากการถอยทัพจากพื้นที่ที่ลึก
เขามาในดินแดนของขาศึกนั้นเราก็แจงอยูวาอันตรายใหญหลวงนัก ยิ่งสุมาอี้รูแลวเห็นจะอันตรายเปน
ทวีคูณ แตทานอยาไดปรารมภเลย เราจะคิดอานอุบายมิใหสุมาอี้ยกกองทัพไลตามตีได
ขงเบงกลาวแลวก็หันไปบอกขาหลวงวา เสร็จธุระของทานแลว จงรีบกลับไปเมืองเสฉวนเถิด เราจะรีบยก
กองทัพกลับไปตามรับสั่ง ขาหลวงไดยินดังนั้นจึงคํานับลาขงเบงแลวเดินทางกลับไปเมืองเสฉวน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 5
พอขาหลวงออกไปจากคาย ขงเบงจึงบอกเกียงอุยวา ในการลาถอยทัพครั้งนี้อันตรายใหญหลวงนัก จําจะ
คิดอุบายใหแยบยลจึงจะทําใหสุมาอี้เกรงขามไมกลายกกองทัพไลตามตี เราจะแบงทหารเปนหากอง ให
คอยๆ ทยอยลาถอยออกจากที่ตั้ง ใหทําทีถอยทัพอยางชาๆ แตละกองยกไปตั้ง ณ ที่ใดแลวก็ใหทําเตา
ไฟหุงขาวเพิ่มขึ้นทุกครั้งไป สุมาอี้รูวาเตาไฟหุงขาวเพิ่มมากขึ้นก็จะสงสัยวาเปนอุบายลวงใหไลตามตี เห็น
จะไมกลาติดตามอีกตอไป
เอียวหงีซึ่งเปนนายทหารชั้นผูใหญไดยินดังนั้นจึงกลาววา อันอุบายเตาไฟนี้เมื่อครั้งที่ซุนปนรบกับผังเจียน
ในยุคสมัยเลียดกกนั้นก็เคยใชเตาไฟหุงขาวเปนกลอุบาย แตในครั้งนั้นทุกระยะที่ถอยทัพซุนปนไดลด
จํานวนเตาไฟใหเหลือนอยลง ผังเจียนไดยกกองทัพไลตามตีจึงเสียทีแกซุนปน มาครั้งนี้เหตุไฉนมหา
อุปราชจึงใหเพิ่มเตาไฟหุงขาวเลา
ขงเบงจึงวา กลอุบายทั้งปวงนั้นจะนํามาใชอยางตายตัวไมได เมื่อครั้งซุนปนทําศึก กับผังเจียนนั้น ซุนป
นมีทหารเปนอันมาก แตมีเสบียงอาหารนอย จึงแสรงทําทีเปนถอยทัพ ลอใหผังเจียนตามตี จึงลดจํานวน
เตาหุงขาวลง ผังเจียนทราบความจากหนวยสอดแนมก็สําคัญวาทหารของซุนปนหนีทัพจนเหลือนอยลงจึง
ยกกองทัพมาตามตี เหตุนี้จึงเสียทีแกซุนปน
ขงเบงกลาวสืบไปวา สุมาอี้นี้มีสติปญญาในการสงครามเปนอันมาก กลอุบายเตาไฟอันมีมาแตโบราณสุมา
อี้ยอมแจงอยู ณ บัดนี้สุมาอี้เกรงกลัวเรา ไมกลายกกองทัพออกมารบ ครั้นเห็นเราถอยทัพก็จะสงสัยวาเปน
กลอุบาย เห็นจะระมัดระวังไมบุมบามไลตามตี ครั้นเมื่อเราลาถอยไปแลวสุมาอี้รูวาเตาไฟหุงขาวเพิ่มขึ้น ก็
จะคิดถึงกลอุบายของซุนปนวาเราพลิกกลับกลอุบายของซุนปนเสีย ลวงใหหลงวามีทหารนอย จึงแสรงทํา
เปนเพิ่มเตาไฟหุงขาวเปนมีทหารมากแลวซุมทหารไวคอยโจมตี สุมาอี้คะเนการณดังนี้แลวเห็นจะไมกลาย
กกองทัพไลตาม เราก็จะลาถอยทัพกลับเขาเมืองเสฉวนไดโดยสะดวก
เกียงอุยและเอียวหงีไดฟงคําขงเบงอธิบายเหตุผลแหงกลอุบายเตาไฟโดยละเอียดดังนั้นก็สรรเสริญขง
เบงวามีสติปญญาลึกซึ้งแหลมคมยิ่งกวาเทพยดา ครั้นปรึกษาพรอมกันแลวขงเบงจึงสั่งใหเลิกทัพลาถอย
กลับไปทางเมืองฮันตงตามแผนการที่วางไวทุกประการ
ฝายสุมาอี้หลังจากบอกใหกิอั๋นกลับไปเมืองเสฉวนแลว ก็ใหหนวยสอดแนมติดตามความเคลื่อนไหวของ
กองทัพขงเบง ในขณะเดียวกันก็สั่งเตรียมกองทัพใหพรอมที่จะยกขามแมน้ําไลตามตีกองทัพของขงเบง
ในขณะถอยทัพ
ครั้นสุมาอี้ไดทราบรายงานจากหนวยสอดแนมวา เมื่อใกลรุงวันนี้กองทัพของขงเบงไดเลิกทัพถอยกลับไป
แลว สุมาอี้ไดฟงรายงานดังนั้นน้ําใจหนึ่งก็มีความยินดี คิดวาแผนการที่ไดมอบหมายใหกิอั๋นไปทํานั้น
ประสบความสําเร็จแลว แตใจหนึ่งก็กริ่งวาขงเบงทําการไดชัยชนะรุกลึกเขามาถึงเพียงนี้แลว ซึ่งจะลาถอย
ไปโดยงายนั้นยังเปนที่สงสัยนัก นาจะเปนกลอุบายอยางใดอยางหนึ่ง ดังนั้นสุมาอี้จึงสั่งทหารใหตั้งมั่นอยู
ในคาย และใหเพิ่มการสอดแนมติดตามขาวคราวการถอยทัพของขงเบงตอไป
ในแตละวันหนวยสอดแนมไดกลับมารายงานแกสุมาอี้วา กองทัพของขงเบงไดถอยทัพไปอยางเชื่องชา
แตเปนที่นาสังเกตวาเตาไฟสําหรับหุงขาวของทหารมีจํานวนเพิ่มขึ้นทุกครั้งไป
สุมาอี้ไดทราบดังนั้นก็สงสัย จึงปลอมตัวเปนทหารเลว ขี่มาพาทหารองครักษลอบออกไปสังเกตการณตาม
คายเกาของทหารเมืองเสฉวนเปนหลายแหง ปรากฏวาตามที่ตั้งคายของทหารยังปรากฏรองรอยของเตา
ไฟหุงขาววามีจํานวนเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ลาถอยทัพ
สุมาอี้ทราบดังนั้นก็หัวเราะ แลวกลาวกับแมทัพนายกองทั้งปวงวา ขงเบงเห็นเราไมยกออกไปสูรบก็คิด
อุบายลอเตาออกจากกระดอง ทําทีเปนถอยทัพ หวังจะใหเรายกไปตามตี หากเรายกไปก็จะตองดวยกลขง
เบง เห็นจะถูกซุมโจมตีเสียทีเปนมั่นคง
แมทัพนายกองทั้งปวงไดยินคําสุมาอี้ก็สงสัย จึงกลาววากองทัพขงเบงไดลาถอยทัพออกจากที่ตั้งและ
เดินทัพกลับไปเมืองฮันตงอยางไมหยุดยั้ง ไมมีวี่แวววาจะยกกลับมารบอีกเลย ขอใหทานแมทัพรีบยก
กองทัพไลตามตีก็จะไดชัยชนะโดยงาย
สุมาอี้จึงวา เราไดกําชับไวแลววาถาผูใดมาเสนอใหยกไปรบกับขงเบง เราก็จะตัดศีรษะเสีย เหตุการณเมื่อ
ครั้งเตียวคับดึงดันยกไปรบกับขงเบงเพิ่งผานพนไปไมนานนัก ไฉนพวกทานจึงหลงลืมเสียได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
สุมาอี้เห็นแมทัพนายกองทั้งปวงเกรงอาญาพากันนิ่งอึ้ง จึงกลาวสืบไปวาขงเบงนี้มีสติปญญาเลหกลเปน
อันมาก จะดูเบาแกความคิดของขงเบงนั้นไมได ขงเบงบุกความจริงก็อาจเปนการถอย ซึ่งไดปรากฏใหเห็น
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 6
แลว ครั้นจะถอยเลาเนื้อแทก็คือการเตรียมรุกบุกโจมตี ก็ปรากฏใหเห็นอีกเชนกัน พวกทานมิไดสังเกตหรือ
วาเหตุใดเตาหุงขาวทหารจึงเพิ่มขึ้นทุกครั้งเลา
แมทัพนายกองทั้งปวงไดยินคําถามของสุมาอี้ก็มิรูที่จะตอบประการใด สุมาอี้จึงกลาวตอไปวาขงเบงรูวาเรา
รูอุบายเตาไฟของซุนปน หากลดจํานวนเตาไฟหุงขาวเสียเราก็จะรูเทาทันไมยกไปตี จึงแสรงพลิกกลเตา
ไฟของซุนปน กลับเพิ่มเตาไฟหุงขาวใหมากขึ้น เพื่อลวงเราวามีทหารนอยจึงตองเพิ่มเตาไฟหุงขาว ให
สําคัญวามีทหารมาก หากหลงกลของขงเบงยกทหารตามไปแลวขงเบงดักซุมทหารไว ก็จะเสียทีแกขง
เบงเปนมั่นคง
สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม
กาฝากราชบัลลังก (ตอนที่553)
ขงเบงพลิกกลอุบายของซุนปนในยุคเลียดกก จากการลดเตาไฟหุงขาวของทหารในขณะถอยทัพ เปนการ
เพิ่มจํานวนเตาไฟหุงขาวทุกครั้งที่ลาถอย เพื่อปองกันอันตรายจากการไลตามตีของกองทัพวุยกก สุมาอี้รู
ความแลวสําคัญวาเปนการทํากลอุบายของขงเบง หวังจะลวงใหสุมาอี้ยกตามไปรบพุง แลวซุมทหารคอย
โจมตี หากขืนยกไปก็จะเสียทีแกขงเบง
ครั้นแมทัพนายกองไดฟงคําสุมาอี้ดังนั้นก็พากันคํานับแลวสรรเสริญวาสติปญญาของทานแมทัพหลัก
แหลมลึกซึ้งยิ่งนัก หากมิไดทานแมทัพชี้แนะแผนการอุบายของขงเบง เห็นจะเสียทียับเยินเปนแนแท
สุมาอี้ยิ้มแยมกลาวถอมตัวตามธรรมเนียมแลว สั่งใหทหารทั้งปวงตั้งมั่นรักษาคายไวมิใหประมาท หลังจาก
นั้นอีกหลายวันหนวยสอดแนมที่อยูชายแดนเมืองฮันตงไดสงใบบอกเขามารายงานความแกสุมาอี้วา
กองทัพของขงเบงไดลาถอยกลับเขาไปในแดนเมืองฮันตงหมดสิ้นแลว
สุมาอี้ไดทราบดังนั้นก็ทอดถอนใจใหญ เอามือตบที่หนาอก แลวกลาววา ขงเบงทํากลลวงเราครั้งนี้ รูมิทัน
เลย ตัวเรามีปญญานอย ซึ่งจะทําศึกไปเบื้องหนานั้น ยากที่จะประมาณกลศึกขงเบงได
สุมาอี้ไดตรวจสอบขาวสารความเคลื่อนไหวของกองทัพขงเบงอีกครั้งหนึ่ง พอทราบแนชัดวากองทัพเมือง
เสฉวนไดลาทัพกลับเขาแดนเมืองฮันตงหมดสิ้นจริงแลว จึงสั่งใหเลิกทัพแลวยกกลับไปเมืองลกเอี๋ยง
ฝายขงเบง ครั้นพาทหารลาถอยกลับไปถึงเมืองฮันตงแลว ใหพักทหารไวในเมืองฮันตง กําชับใหฝกปรือ
บํารุงทแกลวทหารไวใหพรอม ตัวขงเบงและทหารองครักษเดินทางกลับเขาไปเมืองเสฉวน แลวรีบเขาไป
เฝาพระเจาเลาเสี้ยน
ขงเบงไดกราบถวายบังคมพระเจาเลาเสี้ยนตามประเพณี แลวกราบทูลถามวา ขาพระองคถือรับสั่งยก
กองทัพไปตีวุยกก ไดยกลวงเขาไปจนถึงริมแมน้ําอุยโห เตรียมการจะยกขามแมน้ําเขายึดเอาเมืองเตียง
อันแลวยกจะไปตีเมืองลกเอี๋ยง การของพระเจาเลาปที่ทรงสั่งเสียไวจวนเจียนใกลจะสําเร็จแลว เหตุไฉน
พระองคจึงมีหมายรับสั่งเรียกขาพระพุทธเจากลับมาเมืองเสฉวนเลา
พระเจาเลาเสี้ยนเห็นสีหนาขงเบงขึงขัง ถอยคําซึ่งกราบบังคมทูลก็หนักแนน และทวงทาขงเบงที่เปยม
ดวยความจงรักภักดีก็มิไดแปรเปลี่ยนไปจากครั้งที่พระองคยังทรงพระเยาวเลยแมแตนอยนิด จึงรูสึก
ละอายพระทัยที่ทรงระแวงสงสัยขงเบง แตครั้นจะตรัสความไปตามตรงก็ทรงเกรงวาจะเปนความผิดถึง
พระองค จึงทรงตอบบายเบี่ยงเลี่ยงไปวา มหาอุปราชยกทัพไปแดนไกลนานชาแลว เรามีความรําลึกถึง
เปนอันมาก อยากจะสนทนาดวย จึงใหหามหาอุปราชกลับมา
ขงเบงคาดคะเนอยูแตกอนแลววา พระเจาเลาเสี้ยนตรัสสั่งใหเลิกทัพกลับมาก็เพราะหลงคําคนพาลยุยง
ครั้นไดฟงคําตรัสที่เหลวไหลเลอะเทอะยิ่งกวาถอยคําของเด็กทารกก็มิปาน ก็มั่นใจวาที่คาดคะเนนั้นมิได
ผิดพลาด จึงกราบบังคมทูลวา เหตุทั้งนี้ขาพเจาแจงอยู ไอเหลาสอพลอทูลยุยงพระองควาขาพเจาเอาใจ
ออกหาก พระองคจึงใหหากลับมา
พระเจาเลาเสี้ยนไดยินคําขงเบงถูกตรงน้ําพระทัยลึกก็รูสึกอดสู มิรูที่จะตรัสตอบประการใด จึงทรงนิ่งอึ้งอยู
บนพระราชบัลลังกนั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ขงเบงเห็นดังนั้นจึงกราบทูลดวยสีหนาที่เศราสลด และดวยน้ําเสียงที่สุดรันทดวา ตัวขาพเจาชราถึงเพียงนี้
แลว แลวก็รับสั่งพระเจาเลาปไว จึงตั้งใจทํานุบํารุงแผนดินของพระองค บัดนี้ศัตรูยุยงอยู เหมือนวัณโรค
อันมีพิษกําเริบอยูในอกขาพเจา ซึ่งขาพเจาจะคิดอานกําจัดศัตรูภายนอกเสียนั้นเห็นขัดสน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 7
ความจริงในขณะนั้นขงเบงเพิ่งมีอายุเพียงหาสิบเอ็ดปเทานั้น แตเพราะความตรอมใจที่พระเจาเลาเสี้ยน
มิไดเปนหลักชัยแกนสารของบานเมือง จะฆาเสียตามรับสั่งลับของพระเจาเลาปเลาก็หักใจทํามิได จะทํา
การสืบไปเบื้องหนาก็อับจนขัดสนไปทั้งสิ้น เพราะพระเจาเลาเสี้ยนทรงอยูในทามกลางแวดลอมของเหลา
พาลที่ไมเห็นแกความ รมเย็นเปนสุขของบานเมืองและราษฎร เอาแตเสพสุขทุกคืนวัน ทั้งมิไดรูจักผิดถูกดี
ชั่ว ประกอบทั้งหลายปมานี้ขงเบงตองตรากตรํากรําศึกทั้งเหนือใต ไมเคยวางเวนแมแตวันเดียว ตอง
เผชิญหนาและแกไขปญหามิไดหยุดหยอน เวลาหลับนอนแทบจะไมมี ดังนั้นขงเบงจึงดูเหมือนชราภาพ
ลง ผมสีขาวไดแซมประปรายทั่วทั้งศีรษะ หนวดเคราเลาก็เริ่มมีสีขาวแซมใหเห็นเดนชัดขึ้น ในขณะที่
สุขภาพก็ออนแอลง ขงเบงรูตัวดีจึงกราบทูลวา ตัวเองชราภาพแลว
สามกกฉบับสมบูรณไดพรรณนาความซึ่งขงเบงกราบทูลในตอนนี้วา ขาพระพุทธเจาขุนนางผูเกาแก ไดรับ
พระมหากรุณาธิคุณจากเจาเหนือหัวองคกอน ไดใหสัตยปฏิญาณตนขอเอาความตายเขาตอบแทนถวาย
ความจงรักภักดี บัดนี้แมนวาภายในราชสํานักมีพวกมิจฉาคดโกง ขาพระพุทธเจาไฉนจะสามารถปฏิบัติการ
ปราบโจรกบฎได
พระเจาเลาเสี้ยนไดฟงคําทูลของขงเบงที่เปยมไปดวยความจงรักภักดีในพระเจา เลาปและพระองคก็สลด
พระทัย ไมอาจบายเบี่ยงปกปดสืบไป จึงตรัสสารภาพตามตรงวา อันเหตุทั้งนี้เพราะเราเบาความเชื่อฟงคํา
คนชั่ว หากมหาอุปราชมาวากลาวออกเราจึงรูเหตุ ซึ่งทานจะถือโทษนั้นไมควร ดวยทุกวันนี้ตัวเราเหมือน
หนึ่งคนจักษุมืด ทานชวยนําทางใหจึงคอยเดินตามไปไดบาง ครั้งนี้เราคิดผิดทานจึงตองยกทัพกลับมา
ครั้นพระเจาเลาเสี้ยนทรงตรัสความเปนทํานองสํานึกผิดที่หลงฟงคําคนพาลยุยงใหขงเบงยกทัพกลับแลว
จึงทรงตรัสตอไปวาทานพอมหาอุปราชจะสะสางแกไขเรื่องนี้อยางไร ก็สุดแทแตใจจะเห็นชอบนั้นเถิด เรา
มิไดขัด
ตรัสแลวก็เสด็จขึ้น ขงเบงและขุนนางทั้งปวงตางพากันถวายบังคมตามประเพณี
ขงเบงจึงเปดการไตสวนสืบสาวตนสายปลายเหตุวาขุนนางชั่วผูใดเปนผูยุยงใสไคลใหพระเจาเลาเสี้ยน
ระแวงแคลงพระทัย ในที่สุดก็ทราบวากิอั๋นเปนผูปลอยขาวลือ จึงสั่งทหารใหไปควบคุมตัวกิอั๋น แตปรากฏ
วากิอั๋นไดหนีไปสวามิภักดิ์กับสุมาอี้กอนแลว
ขงเบงจึงเรียกขุนนางผูใหญเขามาพรอมกัน แลวกลาวกับเจียวอวนและบิฮุยซึ่งเปนขุนนางผูใหญใกลชิด
พระเจาเลาเสี้ยนวา เมื่อเกิดคําเลาขาวลืออัปมงคล และมีผูนําความขึ้นกราบบังคมทูลยุยงพระเจาเลาเสี้ยน
เหตุไฉนพวกทานซึ่งเปนขุนนางผูใหญจึงไมกราบทูลทัดทาน ทําใหเสียการใหญของแผนดินไปดังนี้
เจียวอวนและบิฮุยไดยินคําตอวาของขงเบงก็รูสึกสํานึกผิด จึงกลาววาเปนความผิดของพวกขาพเจาเอง
พวกขาพเจาไดเขาไปกราบทูลทัดทานแลว แตฮองเตมีกระแสพระราชดํารัสวา ซึ่งเรียกมหาอุปราชเขามา
เมืองเสฉวนนั้นเพราะมีราชการลับเปนสําคัญ จึงมิกลาทูลถามความสืบไป
ขงเบงจึงกลาวกับขุนนางชั้นผูใหญทั้งปวงวา ราชบัลลังกนี้เปนหลักชัยของแผนดิน เปนศูนยรวมและเปน
ศูนยกลางแหงอํานาจวาสนาทั้งปวง ดังนั้นผูคนทั้งปวงทั้งชั่วและดีตางเขามาแวดลอมเปนอันมาก ยิ่งเปน
คนพาลสันดานชั่วยิ่งมีวิสัยคิดอานทําการหาชองทางเขาใกลชิดราชบัลลังก แตหาใชเปนไปเพื่อประโยชน
สุขของอาณาประชาราษฎรและบานเมืองไม หากเปนไปเพื่อแสวงหาลาภยศสุขสรรเสริญสวนตนเทานั้น
คนพาลหยาบชาเชนนี้เปรียบประดุจดังกาฝาก เกาะกินกิ่งไมใดแลว ก็จะสูบน้ําเนื้อจนกิ่งนั้นตองตายซาก
ราชบัลลังกของเจาเราก็เชนเดียวกัน หากมีกาฝากเกาะกินแนนหนาขึ้นแลว ก็เหลือที่ศีรษะของอาณา
ประชาราษฎรจะเทิดทูนแบกรับเอาไวได เห็นจะลมสลายลงในวันหนึ่ง ตัวเราจําตองไปทําศึกทางไกล
พวกทานอยูทางใกลจงรับเปนธุระ กําจัดเหลากาฝากราชบัลลังกใหสิ้นสูญ ทําใหศีรษะของอาณา
ประชาราษฎรที่เทิดทูนราชบัลลังกนั้นไดบรรเทาบางเบาลง ชวยกันคิดอานปองกันมิใหกาฝากราชบัลลังก
ใหมกอเกิดขึ้น ดังนี้แผนดินก็จะเปนสุขสืบไป
บรรดาขุนนางชั้นผูใหญทั้งปวงไดฟงคําขงเบงดังนั้นตางพากันคํานับรับคํา ขงเบงจึงหันไปทางลิเงีย
มแลวกลาววา ตัวทานกับเรานี้ไดรับราชการสนองพระเดชพระคุณพระเจาเลาป รวมทุกขรวมสุขรวมเสี่ยง
มาดวยกัน จงชวยกันทํานุบํารุงพระเจาเลาเสี้ยนใหจําเริญในราชสมบัติ เปนประโยชนสุขแกอาณา
ประชาราษฎรเถิด ขาพเจาจะรีบกลับไปเมืองฮันตงเพื่อเตรียมกองทัพยกไปตีวุยกกซึ่งกําลังเพลี่ยงพล้ําอีก
ครั้งหนึ่ง ฝากฝงใหทานดูแลการจัดสงเสบียงอาหารอยาใหขัดสน และอยาใหเกิดเหตุการณแบบกิอั๋นอีก
เปนอันขาด
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 8
ลิเงียมรับคําขงเบงแลว จึงพรอมดวยขุนนางทั้งปวงคํานับลาขงเบงกลับออกไป วันรุงขึ้นขงเบงจึงเขาไป
เฝาพระเจาเลาเสี้ยนถึงในพระตําหนัก แลวกราบถวายบังคมลากลับไปเมืองฮันตง
ครั้นถึงเมืองฮันตง ขงเบงจึงสั่งชุมนุมทหาร สํารวจตรวจสอบไพรพล เสบียงอาหารและศาสตราวุธทั้งปวง
ใหเตรียมความพรอมรอวันฤกษดีแลวจะยกไปตีวุยกกตอไป
เอียวหงีเห็นขงเบงจัดแจงกองทัพจะยกไปตีวุยกกก็เขาไปหาขงเบง แลวกลาววามหาอุปราชจัดเตรียม
กองทัพถึงยี่สิบหมื่น จะยกไปตีวุยกกอีกเลา ก็แลกองทัพเพิ่งลาถอยมาจากแดนวุยกก ยังออนลาอิดโรย
อยู ชอบที่จะงดกองทัพไวกอน แลวทํานุบํารุงทแกลวทหารใหพรักพรอมจึงคอยยกไป
ขงเบงจึงวา การศึกครั้งที่แลวเราทําการไดที และสุมาอี้ก็สิ้นความคิดที่จะตอสูอยูแลว หากละเวลาใหเนิ่น
ชาไป สุมาอี้ตระเตรียมทหารและวางแผนการตั้งรับ เราจะยกไปก็ขัดสน
เอียวหงีไดฟงก็เห็นดวย แตติงวาทหารของเราเพิ่งเสร็จศึกมาไมทันนาน จะยกไปทั้งหมดทีเดียวยอมออน
ลาอิดโรย ชอบที่จะแบงทหารออกเปนสองกอง กองละสิบหมื่น กองแรกยกเขาตีวุยกกกอน อีกกองหนึ่ง
ซองสุมบํารุงอยูในเมืองฮันตง กําหนดเวลารอยวันใหกองที่ยกไปตีวุยกกกลับมาพักฟน ใหกองที่ตั้งอยูใน
เมืองฮันตงยกไปเปลี่ยนเวรแทน จะไดมีกําลังทําศึกอยางเต็มที่
ขงเบงไดฟงดังนั้นจึงวา ความคิดของทานตองดวยความคิดเรา การศึกครั้งนี้เรากะจะทําการศึกระยะยาว
จนกวาจะเผด็จศึกยึดเอาเมืองลกเอี๋ยงไดโดยเด็ดขาด ซึ่งอาจตองใชเวลาเปนป
กลาวแลวขงเบงจึงสั่งใหจัดทหารเปนสองกอง กําหนดเวลาหนึ่งรอยวันใหผลัดเปลี่ยนเวรกันตามแผนการ
ของเอียวหงีทุกประการ และกําชับวาเมื่อครบกําหนดรอยวันแลวใหกองทหารซึ่งตั้งบํารุงอยูในเมืองฮันตง
รีบยกไปในแดนวุยกก สับเปลี่ยนใหกองทหารที่ยกไปกอนไดกลับมาฟนบํารุง ถาถึงกําหนดแลวผูใดฝาฝน
หรือลาชาก็จะตัดศีรษะเสียตามพระอัยการศึก แมทัพนายกองและทหารทั้งปวงไดฟงแผนการของขงเบง
แลวตางคํานับรับคํา
พระพุทธศาสนายุกาลลวงแลวไดเจ็ดรอยเจ็ดสิบสี่พรรษา เดือนสี่ ขงเบงไดกรีฑาทัพพลสิบหมื่นยกออก
จากเมืองฮันตง บุกเขาแดนวุยกกเปนครั้งที่หา ในขณะนั้นพระเจาโจยอยไดเสวยราชสมบัติแลวหาป
ครั้นกองทัพของขงเบงยกลวงเขาถึงแดนวุยกก มาเร็วก็ไดนําความเขาไปกราบบังคมทูลพระเจาโจยอยให
ทรงทราบวา บัดนี้ขงเบงยกกองทัพสิบหมื่นลวงลึกเขามาตั้งอยูที่ตําบลเขากิสานแลว
พระเจาโจยอยไดทราบรายงานดังนั้นก็ตกพระทัย รับสั่งใหหาสุมาอี้มาปรึกษาวา ขงเบงยกกองทัพมาครั้ง
นี้จะคิดอานปองกันประการใด
สุมาอี้ไดฟงพระราชปรารภดังนั้นแลว จึงขออาสาเปนแมทัพยกไปรบกับขงเบง พระเจาโจยอยไดฟงคํา
อาสาก็ดีพระทัย โปรดเกลาแตงตั้งใหสุมาอี้เปนแมทัพใหญ ยกไปรบกับขงเบง
ครั้นถึงวันฤกษดีสุมาอี้จัดแจงแตงกองทัพแลวก็สั่งใหชุมนุมกองทัพไวที่หนาประตูเมืองลกเอี๋ยง พระเจาโจ
ยอยไดประทับบนรถพระที่นั่งเสด็จออกไปสงกองทัพถึงนอกเมือง ครั้นไดเวลาฤกษสุมาอี้ไดกราบถวาย
บังคมลาแลวเคลื่อนทัพออกจากเมืองลกเอี๋ยง พระเจาโจยอยประทับยืนทอดพระเนตรกองทัพที่กําลัง
เคลื่อนไปอยูครูหนึ่งจึงเสด็จกลับ
สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม
อุบาย กินขาวขาศึก (ตอนที่554)
ขงเบงบุกวุยกกครั้งที่หาโดยแบงทหารเปนสองกอง แตละกองกําลังพลสิบหมื่น กองหนึ่งตั้งมั่นอยูใน
เมืองฮันตง อีกกองหนึ่งยกไปตั้งอยูที่ตําบลเขากิสาน กําหนดเวลารอยวันใหผลัดเปลี่ยนเวรกันครั้งหนึ่ง
พระเจาโจยอยทราบความก็โปรดใหสุมาอี้ยกกองทัพออกไปรบกับขงเบง
เมื่อสุมาอี้ยกกองทัพไปถึงเมืองเตียงอันก็เรียกประชุมแมทัพนายกองทั้งปวง ปรึกษาแผนการที่จะยกทหาร
ไปตั้งรับศึกกองทัพขงเบงที่ริมแมน้ําอุยโห คนละฝงกับตําบลเขากิสานที่ขงเบงตั้งคายพักทหารอยู
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
เตียวคับไดขออาสาสุมาอี้ยกทหารขามแมน้ําอุยโหไปรบกับขงเบง แตสุมาอี้ทัดทานวาการจะรบพุงกับขง
เบงนั้นชอบที่จะรวมศูนยกําลังทหารจึงจะไดชัยชนะ ซึ่งทานอาสาทั้งนี้ก็ขอบใจ แตการแบงทหารออกเปน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 9
สองสวน กําลังแตละสวนก็ลดลง เห็นจะสูขงเบงไมได ชอบที่จะยกไปพรอมกัน และใหทานเปนกองทัพ
หนา ทานจะเห็นเปนประการใด
เตียวคับไดยินดังนั้นจึงคํานับขอบคุณสุมาอี้ที่ไววางใจ ครั้นจัดแจงกองทัพเสร็จแลวสุมาอี้จึงสั่งใหเคลื่อน
ทัพจากเมืองเตียงอันแลวยกไปตั้งอยูที่ริมฝงแมน้ําอุยโห
ฝายกองทัพของขงเบง ครั้นตั้งคายลงที่ตําบลเขากิสานแลว ขงเบงจึงเรียกแมทัพนายกองทั้งปวงมา
ปรึกษาวา เรายกกองทัพรุกวุยกกครั้งนี้หวังจะรุกรบใหแตกหัก และไมตองการใหสุมาอี้พักกําลังตั้งตัว จึง
ไดใชกองทัพมารีบรุดมาโดยเร็ว เหตุนี้จึงมีเสบียงอาหารมาแตนอย เวลานี้ลวงพนมาเดือนหนึ่งแลว ลิเงียม
ยังไมสงเสบียงอาหารมาตามกําหนด เห็นกองทัพเราจะขัดสน
เกียงอุยจึงวา ขาพเจาก็แปลกใจวาเหตุไฉนมหาอุปราชจึงกรีฑาทัพมาโดยมิไดลําเลียงเสบียงอาหารมา
พรอมกันใหเพียงพอตอการรับมือขาศึกในระยะยาว เมื่อเปนเชนนี้ชอบที่มหาอุปราชจะไดมีหนังสือไปเรงลิ
เงียมใหรีบสงเสบียงอาหาร อยาใหกองทัพตองขัดสน
ขงเบงจึงวา เราไดมีหนังสือใหมาเร็วนําไปแจงใหลิเงียมทราบแลว แตการจะหวังพึ่งพาเสบียงอาหารซึ่ง
ตองลําเลียงมาเปนระยะทางไกลจากเมืองเสฉวนนั้นเห็นจะไมทันการ เราไดเตรียมการจัดหาเสบียงจาก
แดนของขาศึกเปนกําลังของกองทัพไวพรอมกอนที่จะเดินทัพออกจากเมืองฮันตงแลว
เกียงอุยจึงถามวา มหาอุปราชจะทําประการใดจึงจะอาศัยเสบียงอาหารจากขาศึกมาบํารุงกองทัพ
ขงเบงจึงวา อันประเพณีการสงครามแตโบราณมากําหนดวา กินขาวของขาศึกหนึ่งถัง ดีกวากินขาวของเรา
เองสิบถัง ปมเงื่อนก็คือใหขวนขวายหาเสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณจากขาศึกยึดมาเปนกําลังของ
กองทัพเรา ขาศึกจะออนแอลง เราจะเติบใหญเขมแข็งขึ้น เทศกาลนี้เปนเทศกาลขาวโพดสาลีสุก แล
เมืองหลงเสนั้นก็เปนแหลงปลูกขาวโพดสาลีอันอุดม เรากําหนดการที่จะยึดเอาขาวสาลีจากเมืองหลง
เสมาเปนเสบียงของกองทัพ จึงไดรีบรุดมาโดยที่ไมไดนําพากองเสบียงมาเหมือนครั้งกอน
เกียงอุยไดฟงดังนั้นก็คํานับขงเบง สรรเสริญความคิดของขงเบงเปนอันมาก
วันรุงขึ้นขงเบงสั่งใหอองเปงและเตียวหงีคุมทหารหาหมื่นรักษาคายที่ตําบล เขากิสาน สวนขงเบงพรอม
กับเกียงอุยและอุยเอี๋ยนไดคุมทหารอีกกองหนึ่งจํานวนหาหมื่นยกไปทางเมืองโลเสียจะไปเมืองหลงเส
ฝายสุมาอี้ครั้นยกทหารมาตั้งอยูที่ริมแมน้ําอุยโหแลว ก็ใหทหารหนวยสอดแนมสืบขาวคราวความ
เคลื่อนไหวของกองทัพขงเบง พอรูขาววาขงเบงพาทหารยกออกจากตําบลเขากิสานจะไปที่เมืองโลเสียสุ
มาอี้ก็ตกใจ รีบเรียกเตียวคับมาปรึกษาแลวปรารภวาเทศกาลนี้เปนฤดูขาวโพดสาลีสุก ซึ่งกองทัพขงเบง
ยกไปทางเมืองโลเสียนั้น เห็นจะไปยึดเอาเมืองหลงเสแลวเก็บเกี่ยวขาวโพดสาลีเปนเสบียงเปนมั่นคง
สุมาอี้เห็นเตียวคับนั่งงงอยูจึงกลาวสืบไปวา เมืองโลเสียนั้นมีเขตแดนติดตอกับเมืองหลงเส ซึ่งเปนแหลง
นาขาวโพดสาลีของวุยกก หากขงเบงยึดขาวโพดสาลีจากเมืองหลงเสไดแลว วุยกกเราจะขาดเสบียง
อาหารลง ในขณะที่ขงเบงมีเสบียงอาหารอุดมสมบูรณ สามารถตั้งหนาทําศึกระยะยาวกับเราได จําจะตอง
ยกกองทัพไปปองกันเมืองหลงเสไวกอน
กลาวแลวสุมาอี้จึงสั่งใหเตียวคับคุมทหารตั้งขัดตาทัพกองทัพของขงเบงซึ่งตั้งอยูที่ตําบลเขากิสาน ไมให
ยกรุกขามแมน้ําอุยโหมาได สวนสุมาอี้จะยกกองทัพไปปองกันเสบียงที่เมืองหลงเสดวยตนเอง
ครั้นจัดแจงทหารปองกันระมัดระวังกองทัพจกกกที่ตั้งประจันอยูริมแมน้ําอุยโหเสร็จสิ้นแลว สุมาอี้จึงมอบ
อาญาสิทธิ์สําหรับบังคับบัญชาทหารใหกับเตียวคับเพื่อบังคับบัญชาทหารแทนตัว แลวใหโกฉุยเปน
กองทัพหนา สุมาอี้คุมกองทัพหลวง เรงเดินทัพทั้งกลางวันและกลางคืนไปที่เมืองหลงเสและเขาไปตั้ง
คายมั่นไวขางในเมือง
ฝายขงเบงครั้นนํากองทัพยกไปถึงเมืองโลเสียก็สั่งทหารใหยกเขาประชิดเมือง กินอซึ่งเปนเจาเมืองเห็น
กองทัพขงเบงยกมาเปนอันมากก็กลัว จึงพาขุนนางและกรมการเมืองทั้งปวงออกไปคํานับยอมนบนอบตอ
ขงเบง และเชิญขงเบงเขาไปในเมือง
ครั้นขงเบงเขาไปในเมืองโลเสียแลวจึงถามกินอวา ในพื้นที่บริเวณนี้ทองที่ใดที่ขาวโพดสาลีสุกพรอมจะ
เก็บเกี่ยวได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12
Samkok12

More Related Content

Viewers also liked

16 appendix 1_521625064614-5
16 appendix 1_521625064614-516 appendix 1_521625064614-5
16 appendix 1_521625064614-5
Tay Chaloeykrai
 
Osx project update english_november
Osx project update english_novemberOsx project update english_november
Osx project update english_november
osxri
 
Hanson Identifying Influentials
Hanson   Identifying InfluentialsHanson   Identifying Influentials
Hanson Identifying Influentials
pbohannon88
 
Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002
Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002
Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002
ខ្មែរមហានគរ
 
Innovation birmingham firenze
Innovation birmingham   firenzeInnovation birmingham   firenze
Innovation birmingham firenze
Patrick1Willcocks
 
Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...
Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...
Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...
nadiaadnan1
 
SLM Q308EarningsStatisticsFinal
SLM  Q308EarningsStatisticsFinalSLM  Q308EarningsStatisticsFinal
SLM Q308EarningsStatisticsFinal
finance42
 
She says final-jargon-khepp
She says final-jargon-kheppShe says final-jargon-khepp
She says final-jargon-khepp
SheSays US
 
Com score 2010 mobile year in review
Com score 2010 mobile year in reviewCom score 2010 mobile year in review
Com score 2010 mobile year in review
guernica5666
 

Viewers also liked (19)

2.1 notes
2.1 notes2.1 notes
2.1 notes
 
Recent Economic Developments in Latvia and Medium-term Outlook
Recent Economic Developments in Latvia and Medium-term OutlookRecent Economic Developments in Latvia and Medium-term Outlook
Recent Economic Developments in Latvia and Medium-term Outlook
 
Uzņēmuma sagatavošana latu un eiro vienlaicīgās apgrozības periodam un dzīvei...
Uzņēmuma sagatavošana latu un eiro vienlaicīgās apgrozības periodam un dzīvei...Uzņēmuma sagatavošana latu un eiro vienlaicīgās apgrozības periodam un dzīvei...
Uzņēmuma sagatavošana latu un eiro vienlaicīgās apgrozības periodam un dzīvei...
 
16 appendix 1_521625064614-5
16 appendix 1_521625064614-516 appendix 1_521625064614-5
16 appendix 1_521625064614-5
 
Performance report - May 2013
Performance report - May 2013Performance report - May 2013
Performance report - May 2013
 
Osx project update english_november
Osx project update english_novemberOsx project update english_november
Osx project update english_november
 
Alampalk
AlampalkAlampalk
Alampalk
 
An econometric measurement of the impact of marketing communication on sales ...
An econometric measurement of the impact of marketing communication on sales ...An econometric measurement of the impact of marketing communication on sales ...
An econometric measurement of the impact of marketing communication on sales ...
 
Modelling the rate of treasury bills in ghana
Modelling the rate of treasury bills in ghanaModelling the rate of treasury bills in ghana
Modelling the rate of treasury bills in ghana
 
Lbs talk
Lbs talkLbs talk
Lbs talk
 
Hanson Identifying Influentials
Hanson   Identifying InfluentialsHanson   Identifying Influentials
Hanson Identifying Influentials
 
Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002
Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002
Law on decentralization of responsibilities to commune level 2002
 
Olmito agriquatic investor presentation deck 2
Olmito agriquatic investor presentation deck 2Olmito agriquatic investor presentation deck 2
Olmito agriquatic investor presentation deck 2
 
Innovation birmingham firenze
Innovation birmingham   firenzeInnovation birmingham   firenze
Innovation birmingham firenze
 
Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...
Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...
Evaluation Question 1 In what ways does your media product use, develop or ch...
 
SLM Q308EarningsStatisticsFinal
SLM  Q308EarningsStatisticsFinalSLM  Q308EarningsStatisticsFinal
SLM Q308EarningsStatisticsFinal
 
She says final-jargon-khepp
She says final-jargon-kheppShe says final-jargon-khepp
She says final-jargon-khepp
 
E3 MAWD recap
E3 MAWD recapE3 MAWD recap
E3 MAWD recap
 
Com score 2010 mobile year in review
Com score 2010 mobile year in reviewCom score 2010 mobile year in review
Com score 2010 mobile year in review
 

More from Rose Banioki

Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุนSpm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Rose Banioki
 
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
Rose Banioki
 
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fundTechinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
Rose Banioki
 
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญาหนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญา
Rose Banioki
 
Nutritive values of foods
Nutritive values of foodsNutritive values of foods
Nutritive values of foods
Rose Banioki
 
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7
Rose Banioki
 
Iphone user guide th
Iphone user guide thIphone user guide th
Iphone user guide th
Rose Banioki
 
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greeceThe differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greece
Rose Banioki
 
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspeToilets pierre daspe
Toilets pierre daspe
Rose Banioki
 
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_beaPps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_bea
Rose Banioki
 
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobauPhotos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobau
Rose Banioki
 

More from Rose Banioki (20)

Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุนSpm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
 
2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway2013ar-Berkshire Hathaway
2013ar-Berkshire Hathaway
 
Instant tax
Instant taxInstant tax
Instant tax
 
Techinque mutual-fund
Techinque mutual-fundTechinque mutual-fund
Techinque mutual-fund
 
หนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญาหนังสือความทรงอภิญญา
หนังสือความทรงอภิญญา
 
Nutritive values of foods
Nutritive values of foodsNutritive values of foods
Nutritive values of foods
 
Thaifood table
Thaifood tableThaifood table
Thaifood table
 
Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7Ipad user guide ios7
Ipad user guide ios7
 
Iphone user guide th
Iphone user guide thIphone user guide th
Iphone user guide th
 
P4
P4P4
P4
 
P3
P3P3
P3
 
P1
P1P1
P1
 
To myfriends
To myfriendsTo myfriends
To myfriends
 
The differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greeceThe differencebetweenbeachesinindia&greece
The differencebetweenbeachesinindia&greece
 
Toilets pierre daspe
Toilets pierre daspeToilets pierre daspe
Toilets pierre daspe
 
Tibet
TibetTibet
Tibet
 
Pps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_beaPps hollywood dorado_bea
Pps hollywood dorado_bea
 
Photosdutempspass
PhotosdutempspassPhotosdutempspass
Photosdutempspass
 
Photo mix7
Photo mix7Photo mix7
Photo mix7
 
Photos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobauPhotos carlosalbertobau
Photos carlosalbertobau
 

Samkok12

  • 1. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 1 สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม ลางปราชัย (ตอนที่551) ในการบุกวุยกกครั้งที่สี่ ทั้งสุมาอี้และขงเบงไดตกลงประลองความรูและสติปญญากันดวยคายกลพยุหะ เมื่อขงเบงตั้งคายกลพยุหะแลวสุมาอี้ก็รูจัก แตครั้นรับคําทาใหเขาตีคายกลพยุหะนั้นกลับแปรขบวนสําแดง อานุภาพแหงมายา ทําใหทหารวุยกกที่เขาไปในคายกลตกเปนเชลยศึกของขงเบงทั้งสิ้น ขงเบงเห็นทหารควบคุมตัวเชลยศึกทั้งเกาสิบคนเขามา จึงกลาวกับเชลยศึกทั้งนั้นวา เราถือสัจจะไมทํา อันตรายทานและจะปลอยตัวพวกทานกลับไป กลาวแลวขงเบงจึงสั่งใหทหารเปลื้องเอาเสื้อเกราะและ หมวกเกราะของทหารเชลย ยึดมาศึกและอาวุธไวจนหมดสิ้น ใหทหารเอาดินหมอสีดําทาเชลยศึกทั้งเกา สิบคน และสั่งวา ทานกลับไปบอกสุมาอี้นายทานเถิด วาใหไปศึกษาเลาเรียนอาจารยที่ดีเสียอีกกอนจึงมา สูกับเรา กลาวแลวขงเบงจึงสั่งใหปลอยตัวเชลยศึกกลับไป และสั่งทหารทั้งปวงใหเตรียมพรอมในที่ตั้ง เมื่อเชลย ศึกทั้งเกาสิบคนกลับไปหาสุมาอี้แลวไดรายงานความที่ขงเบงสั่งมานั้นทุกประการ สุมาอี้พายแพความรูและสติปญญาในกระบวนรบดวยคายกลพยุหะกับขงเบงตอหนาบรรดาสายตาทหารทั้ง ปวงก็รูสึกอัปยศอดสูเปนอันมาก ครั้นไดยินคํารายงานของทหารเชลยศึก ก็ลืมคําสัญญาที่ใหไวกับขงเบง วาจะไมยอมนําทัพมารบกับขงเบงอีก กลาวกับแมทัพนายกองทั้งปวงในที่นั้นดวยความโกรธวา ขงเบงทํา หยาบชาแกเราใหไดความอัปยศนัก แมเรามิเอาชนะไดครั้งนี้ ที่ไหนจะมีหนากลับมาเมืองลกเอี๋ยงได ทาน ทั้งปวงจงอุตสาหชวยกันเอาชัยชนะใหได สุมาอี้แรงดวยแรงโทสะและความอัปยศ เผลอตัวลืมไปวาเปนแมทัพใหญ ขี่มาออกไปหนาทหาร ชักเอา กระบี่คูประจํากายชูขึ้นบนฟา แลวสั่งทหารทั้งปวงใหยกเขาตีกองทัพของขงเบง ทหารสุมาอี้ไดยินคําสั่งก็ โหรองแลวพากันกรูรุกไปขางหนาพรอมกัน ขงเบงเห็นดังนั้นก็หัวเราะดวยการสมคะเนที่คิดไว จึงโบกพัดขนนกเปนสัญญาณ ใหทหารพลกลองลั่น กลองทํานองเผด็จศึก และสั่งใหถอยเกวียนกลับเขามาในขบวนทหาร ทหารจกกกไดยินคําสั่งและสัญญาณจากขงเบงแลวจึงพากันกรูขึ้นหนา รุกเขาประจัญบานกับกองทหาร ของสุมาอี้ ในขณะที่ทหารทั้งสองฝายกําลังตอสูกันเปนชุลมุนนั้นเสียงประทัดสัญญาณไดดังกึกกองขึ้น จากแนวปาดานหลังกองทหารของสุมาอี้ ทหารเมืองเสฉวนภายใตธงของกวนหินไดโหรองกองกระหึ่มยก ออกจากแนวปา โจมตีกระหนาบเขามาทางดานหลังของทหารวุยกก สุมาอี้เห็นดังนั้นก็ตกใจ สั่งทหารใหแปรขบวนเปนสองกอง กองหนึ่งรับศึกทหารเมืองเสฉวนทางดานหนา อีกกองหนึ่งหันกลับไปรับศึกกับกวนหินทางดานหลัง ทหารวุยกกแปรขบวนทามกลางความตระหนกตกใจ ครั้นถูกตีกระทบกระหนาบเขามาทั้งสองดานก็พากัน รวนเร ในทันใดนั้นเสียงประทัดสัญญาณก็ดังกึกกองมาจากในปาดานขางเขากิสาน ปรากฏทหารเมืองเสฉ วนอีกกองใหญภายใตธงเกียงอุยไดโหรองเสียงประสานกับเสียงกลองรบดังสนั่นหวั่นไหว แลวยกเขาตี กลางขบวนของกองทัพสุมาอี้ กองทหารของเกียงอุยพอยกเขาถึงหวางกลางกองทหารของสุมาอี้ทั้งสองขบวนก็แปรขบวนเปนสองกอง กองหนึ่งตีกระทบไปทางดานหนา อีกกองหนึ่งตีกระทบไปทางดานหลัง ทําใหทหารของสุมาอี้ทั้งสองกอง ตกอยูทามกลางศึกกระหนาบ และถูกทหารจกกกฆาฟนบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ระบุวาทหารสุมาอี้ตายประมาณสวนหนึ่ง ในขณะที่ฉบับภาษาจีนระบุ วาทหารสุมาอี้ทั้งสองกองถูกลอมตีกระหนาบแบบไมมีทางสู ทหารของขงเบงไดใชเกาทัณฑยิงไปดุจหา ฝน จนทหารวุยกกตองเรรวน เหยียบกันตายเองก็มาก ตายดวยคมเกาทัณฑก็มาก ถูกอาวุธของทหารขง เบงบาดเจ็บลมตายก็มาก สุมาอี้เสียทหารไปหกสวนในเจ็ดสวน สุมาอี้เห็นดังนั้นก็ตกใจ สั่งทหารใหตีฝาออกไปทางริมแมน้ําอุยโห แลวรีบลงเรือที่ตระเตรียมไวหนีขาม แมน้ําอุยโหไปยังอีกฟากหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นหนีขามฟากแมน้ําอุยโหไปไดแลว สุมาอี้จึงใหรวบรวมทหารแลวตั้งคายมั่นไวที่ริมแมน้ํา ใหมาเร็วรีบ ถือฎีกาเขาไปเมืองลกเอี๋ยงขอกําลังสนับสนุนใหเสริมเติมมาชวยโดยเร็วที่สุด และนับแตวันนั้นสุมาอี้ก็ไม
  • 2. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 2 ยอมยกออกไปรบกับขงเบงอีกเลย แตละวันไดแตนั่งหมกมุนอยูภายในคายดวยความละอายใจและอดสูใจ ที่พายแพแกขงเบงอยางสิ้นรูปหมดเชิง ฝายขงเบงครั้นไดชัยชนะตอกองทัพสุมาอี้แลว จึงพาทหารกลับไปที่คายเขากิสาน ใหรวบรวมมาศึก ศาสตราวุธ และเสื้อเกราะ หมวกเกราะเปนสินศึก และใหปูนบําเหน็จแกทหารซึ่งมีความชอบเปนอันมาก ค่ําลงขงเบงนั่งไตรตรองแผนการสงครามก็ใหวิตกรอนใจเปนอันมาก ดวยเสบียงอาหารกําลังขาดแคลนลง เนื่องจากการลําเลียงเสบียงอาหารซึ่งลิเงียมไดสั่งใหกิอั๋นเปนแมกองคุมเสบียงมาสงแกกองทัพนั้นได ลาชาผิดนัดไปรวมสิบวันแลว หากเสบียงอาหารยังไมลําเลียงมาอีก ในไมกี่วันขางหนากองทัพก็จะขาด เสบียงลง อันกิอั๋นผูนี้เปนคนสนิทของลิเงียมซึ่งเปนขุนนางผูใหญในราชสํานักของพระเจาเลาเสี้ยน รับราชการมาแต ครั้งพระเจาเลาปยังทรงพระชนมอยู กิอั๋นนี้เปนผูมักทําความชอบยิ่งกวาทําความดี ดังนั้นแมวาอุปนิสัย สวนตัวจะเปนนักเลงสุรา บาผูหญิง แตกับผูเปนนายแลวกลับเอาใจใสพินอบพิเทาเฝาแหนอยางใกลชิด หมั่นเอาของกํานัลไปมอบแกลิเงียมอยูเนือง ๆ ไปเหนือ ไปใตก็จะนําของขวัญกํานัลไปมอบแกลิเงียม และฮูหยินทุกครั้งไป วันตรุษ วันสารทก็ไมเคยหลงลืม ยามวางก็จะไปเฝาคอยรับใชลิเงียมอยางสนิทสนม มิหนําซ้ํายังใหผูเปนศรีภรรยาไปรับใชใกลชิดกับฮูหยินของลิเงียมอีก ดังนั้นกิอั๋นจึงเปนที่โปรดปรานของลิ เงียม และสนับสนุนใหมีตําแหนงหนาที่สูงขึ้นโดยลําดับอยางรวดเร็วเกินหนาคาตาของขุนนางทั้งปวง ใน ที่สุดกิอั๋นไดรับตําแหนงเปนแมกองรับผิดชอบลําเลียงเสบียงเอาไปใหแกขงเบง เพราะเหตุที่กิอั๋นเปนนักเลงสุรา ดังนั้นบรรดาลูกนองคนสนิทจึงเปนคนจําพวกเดียวกัน แตละวันทั้งไพร และนายตั้งวงเสพสุรากันเปนที่สนุกสนาน จนงานราชการลําเลียงเสบียงผิดพลาดคลาดเคลื่อนเนิ่นชาไป ถึงสิบวัน ในวันรุงขึ้นครั้นกิอั๋นลําเลียงเสบียงไปถึงกองทัพจึงเขาไปรายงานความแกขงเบง ขงเบงเห็นหนาของกิอั๋น กล่ําไปดวยสุราก็โกรธ สั่งทหารใหคุมตัวกิอั๋นไปประหารชีวิตตามพระอัยการศึก เตียวหงีเห็นดังนั้นจึงเขาไปคํานับทัดทานขงเบงวากิอั๋นเปนคนสนิทของลิเงียม ซึ่งกิอั๋นสงเสบียงมิทัน กําหนด มหาอุปราชจะฆาเสียนั้นก็ควรอยู แตวาราชการศึกจะมีไปเมื่อหนา ขาพเจาเห็นวาผูใดซึ่งจะรับคุม เสบียงอาหารมาสงนั้นขัดสนนัก ขอใหงดโทษครั้งหนึ่งกอน ขงเบงเกรงใจและเห็นแกหนาของเตียวหงีเพราะไดรวมกรําศึกตลอดมา ทั้งเกรงใจลิเงียมซึ่งเปนเพื่อนขุน นางมาแตครั้งพระเจาเลาป ครั้นไดยินคําทัดทานของเตียวหงี ขงเบงจึงจําตองงดโทษตายใหกับกิอั๋น เปลี่ยนเปนโทษโบยแปดสิบที กิอั๋นถูกลงทัณฑโบยถึงแปดสิบที ไดรับความเจ็บปวดเปนอันมาก วิสัยนักเลงสุราอันเปนคนพาลก็กําเริบ ขึ้น แทนที่จะรูสึกสํานึกตัวกลับพาลโทษโกรธและคิดแกแคนขงเบง ดังนั้นพอค่ําลงกิอั๋นจึงพาพรรคพวก ซึ่งตามมาในกองลําเลียงเสบียงสามสิบคนหนีขามแมน้ําอุยโหไปขอสวามิภักดิ์กับสุมาอี้ และเลาความใหสุ มาอี้ฟงทุกประการ สุมาอี้ไดยินคํากิอั๋นแลวแมจะเห็นรองรอยบาดแผลจากการถูกโบยตี ก็ยังกริ่งวาซึ่ง กิอั๋นมาเขาสวามิภักดิ์ ในครั้งนี้จะเปนกลอุบายของขงเบง จึงกลาวขันตอกับกิอั๋นวาซึ่งทานจะมาขอออนนอมตอเรานั้นยังจะ วางใจมิได ทานจะตองทําการพิสูจนตัวเองใหประจักษแกเราสักครั้งหนึ่งกอนจึงจะเชื่อได กิอั๋นจึงวา ทานแมทัพจะใหขาพเจาพิสูจนประการใด ขาพเจาจะเพียรพยายามทําตามคําสั่งทุกประการเพื่อ พิสูจนใหเห็นความจริงใจของขาพเจา สุมาอี้ไดยินดังนั้นก็มีความยินดี กลาววา ถาฉะนั้นทานจงรีบกลับไปเมืองเสฉวน ไปเลาแกคนทั้งปวงให ปรากฏไปวาขงเบงคิดขบถ จะจับพระเจาเลาเสี้ยนฆาเสีย จะชิงเอาราชสมบัติตั้งตัวเปนใหญ ถามีผูเลื่อง ลือเอิกเกริกไปรูถึงพระเจาเลาเสี้ยน พระเจาเลาเสี้ยนก็จะมิไวใจขงเบง ดีรายจะมีตราใหหากองทัพเลิก กลับไป ถาทานทําไดฉะนี้ เราจะทูลพระเจาโจยอยตามความชอบ ตั้งใหเปนขุนนางผูใหญ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สุมาอี้เกรงกลัวขงเบง มิรูที่จะทําประการใด ไดแตตั้งคายมั่นอยูคนละฟากฝงแมน้ําอุยโห จึงคิดอุบายยอน รอยขงเบง เหมือนกับอุบายที่มาเจกเสนอขงเบงใหปลอยขาวเลาลือวาสุมาอี้เปนขบถ ทําใหพระเจาโจ ยอยหลงเชื่อถอดสุมาอี้ออกจากตําแหนงหนาที่ทั้งปวง ใหกิอั๋นปลอยขาวลือยอนสนองเอากับขงเบงบาง หวังจะพิสูจนความสุจริตใจของกิอั๋นอยางหนึ่ง และหวังเอาความระแวงแคลงพระทัยของพระเจาเลาเสี้ยน ใหเรียกกองทัพของขงเบงกลับไปเมืองเสฉวนอีกอยางหนึ่ง กิอั๋นซึ่งเปนคนพาลประเภทขาขายเจา บาว
  • 3. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 3 ขายนาย พรอมจะขายทุกสิ่งทุกอยางแมกระทั่งชาติบานเมืองเพียงเพื่อผลประโยชนเฉพาะหนาของตน เทานั้น ครั้นไดฟงคําสุมาอี้ก็ตกลงรับคํา สุมาอี้เห็นดังนั้นก็มีความยินดี สั่งกิอั๋นใหรีบกลับไปเมืองเสฉวนและใหเอาเงินทองปูนบําเหน็จติดสินบนแก กิอั๋นเปนอันมาก ครั้นกิอั๋นกลับไปถึงเมืองเสฉวนก็ลงมือปฏิบัติการณตามแผนการของสุมาอี้ ปลอยขาวเลาลือไปทั้งในและ นอกราชสํานักวาขงเบงคิดกบฎตอแผนดิน หมายจะสังหารพระเจาเลาเสี้ยนแลวตั้งตนขึ้นเปนฮองเตแทน บรรดาพวกขันทีซึ่งไดรับแตงตั้งเพิ่มขึ้นเปนจํานวนมากในสมัยของพระเจาเลาเสี้ยนเปนพวกคนวิปริตผิด เพศ บางถึงแมจะรูเทาทันแตดวยอุปนิสัยวิปริตก็กลาวความเลาขานขยายไปอยางกวางขวาง บางที่รูไม เทาทันหรือบางที่เห็นวาขงเบงเปนขุนนางผูภักดีตอ แผนดิน เปนอุปสรรคกีดขวางความเลวทรามต่ําชา โสมมของพวกตน ก็พากันเอาขาวลือเขาไปกราบบังคมทูลตอพระเจาเลาเสี้ยน พระเจาเลาเสี้ยนเปนกษัตริยผูเยาว เอาแตเสพสุขอยูกับสุรา นารีและขันที มิไดใสใจราชการบานเมือง เหมือนกับพระเจาเลาป ประกอบทั้งโงเขลาเบาสติปญญา พอไดยินคํากราบทูลคําเลาขาวลือก็พลอย เชื่อถือตาม พระเจาเลาเสี้ยนเชื่อคําเลาขาวลือแลวก็ตกพระทัย แตแทนที่จะทรงปรึกษาหารือกับขุนนางผูใหญที่เปน หลักชัยของบานเมือง กลับรับสั่งเรียกหาบรรดาขันทีซึ่งใกลชิดโปรดปรานมาปรึกษาวา ขงเบงยกไปตั้งอยู ที่เมืองฮันตงนานชา ไมคอยเขามาเฝาถึงเมืองเสฉวน หลายปมานี้ไดคุมกองทัพยกไปทําการกับวุยกก อยางตอเนื่อง ขงเบงจึงเรืองอํานาจขึ้นในทางการทหาร ไมมีใครเทียมเทียบได เมื่อมีขาวคราววาคิดอาน เปนขบถดังนี้จะทําประการใด พวกขันทีผูวิปริตไดฟงรับสั่งดังนั้นก็เออออหอหมกตามพระทัยวา บัดนี้พระองคใหอาญาสิทธิ์แกขงเบง คน ทั้งปวงก็อยูในอํานาจสิ้น ขงเบงจะวาสิ่งใดก็จะกระทําตาม ดังนั้นจึงกราบบังคมทูลแนะนําใหตัดรอนอํานาจของขงเบงเสีย ขอใหพระเจาเลาเสี้ยนมีหมายรับสั่งเรียก กองทัพของขงเบงกลับมา แลวถอนตราอาญาสิทธิ์ที่ใหอํานาจขงเบงเสียทั้งสิ้น ขงเบงสิ้นอํานาจทาง ทหารแลวเห็นจะไมเปนภัยสืบไป พระเจาเลาเสี้ยนพระหัตถหนึ่งกําลังคลองอยูที่คอของขันที พระหัตถหนึ่งถือจอกน้ําจันทน ไดฟงคํากราบ ทูลดังนั้นก็ทรงเห็นชอบ โปรดใหมีหมายรับสั่งไปถึงขงเบง ตรัสสั่งเรียกกองทัพกลับคืนเมืองเสฉวน ในทันที อา! ลางปราชัยไดปรากฏเหนือแผนดินจกกกชัดเจนขึ้นแลว นาเวทนาพญามังกรผูมีความภักดีตอพระ ราชวงศฮั่นและพระเจาเลาปยิ่งนัก หรือวานี่คือลิขิตสวรรคอันใครไหนจักฝนได? สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม กลอุบายเตาไฟ (ตอนที่552) สุมาอี้คิดเผด็จศึกวุยกกครั้งที่สี่ จึงยอนกลขงเบง ใหกิอั๋นคนทรยศปลอยขาวลือวาขงเบงเปนขบถ พระเจา เลาเสี้ยนทรงเชื่อตามขาวลือและคําทูลของขันที จึงมีพระบรมราชโองการใหขงเบงเลิกทัพยกกลับเมือง เสฉวนในทันที ขาวเลาลือแพรหลายกระจายไปทั่วราชสํานัก ไดยินไปถึงหูของเจียวอวนขุนนางผูใหญ ครั้นเจียวอวน ทราบวาพระเจาเลาเสี้ยนมีพระบรมราชโองการใหขงเบงยกกองทัพกลับ จึงรีบเขาไปเฝาแลวกราบบังคม ทูลวา มหาอุปราชยกไปครั้งนี้เห็นทําการไดทวงทีนัก จะไดเมืองลกเอี๋ยงเปนมั่นคง เหตุใดพระองคจะให หากลับมาเสียเลา พระเจาเลาเสี้ยนทรงทราบดีวาเจียวอวนเปนขุนนางตงฉิน และนับถือศรัทธาขงเบงมาแตครั้งรัชกาลกอน จึงทรงกริ่งวาหากบอกความจริงแลวเจียวอวนก็จะกราบทูลทัดทานไมใหสงพระบรมราชโองการเรียก กองทัพกลับ จึงทรงบายเบี่ยงเสียวา เรามีธุระเปนความลับจะหามหาอุปราชมา จะปรึกษาดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นเจียวอวนไดยินรับสั่งแสดงเหตุผลในการเรียกขงเบงกลับวาเกี่ยวดวยขอราชการลับ ก็มิรูที่จะกราบ บังคมทูลตอไปประการใด เพราะเมื่ออางเปนเรื่องลับเสียอยางหนึ่งแลวก็จะปดหูปดตาปดปากผูคนไมให
  • 4. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 4 เกี่ยวของไดอีกตอไป และเพราะเหตุที่มักอางความลับเปนเหตุผลปดกั้นผูคนมิใหลวงรูทัดทานดังนี้ จึง บังเกิดความฉิบหายวายวอดใหญหลวงมากนักตอนักโดยที่ไมอาจมีผูใดรูเห็นทัดทานหรือทักทวงไดเลย แตเปนที่นาประหลาดที่การอางความลับเชนนี้ไดกลายเปนแบบอยางสืบทอดตอมา แมกระทั่งในทุกวันนี้ พระเจาเลาเสี้ยนเห็นเจียวอวนนิ่งอึ้งดังนั้น จึงตรัสสั่งใหขาหลวงรีบเชิญพระบรมราชโองการไปใหแกขง เบงที่ตําบลเขากิสาน ฝายขงเบงตั้งคายมั่นอยูที่ภูเขากิสานนั้น ไดเตรียมการที่จะยกพลขามแมน้ําอุยโหเพื่อตีคายของสุมาอี้ซึ่ง ออนเปลี้ยเพลียแรง และเหลือทหารนอยลงเปนอันมากแลว จากนั้นจึงรุกเขายึดเอาเมืองเตียงอัน แมได เมืองเตียงอันแลว เมืองลกเอี๋ยงก็จะเหมือนลูกไกอยูในกํามือ ขงเบงกําหนดแผนการเคลื่อนทัพและ ตระเตรียมกําลังทหาร ตลอดจนเสบียงเสร็จสิ้นแลว จึงสั่งใหทหารสามหมื่นนายตัดไมไผผูกแพเตรียมไว รอวันฤกษดีแลวจะยกพลขามแมน้ําอุยโห ในขณะที่ทหารของขงเบงกําลังทําแพอยูนั้น ขาหลวงของพระเจาเลาเสี้ยนก็เดินทางไปถึงคายหลวงของ ขงเบง ครั้นขงเบงทราบวาขาหลวงเชิญพระบรมราชโองการมาใหก็ออกไปตอนรับ และตั้งพิธีรับพระบรม ราชโองการตามประเพณี พอทราบวาพระเจาเลาเสี้ยนมีพระบรมราชโองการเรียกกองทัพกลับเมืองเสฉวน ขงเบงก็ถามขาหลวงนั้น วา ซึ่งมีพระบรมราชโองการมาทั้งนี้เปนเพราะมีกองทัพจากเมืองกังตั๋งยกมาหรือไฉน ขาหลวงนั้นไดตอบขงเบงโดยซื่อวาซึ่งกองทัพเมืองกังตั๋งจะยกมานั้นหามิได สัมพันธไมตรีระหวางจกกก กับงอกกยังคงเปนปกติทุกประการ ขงเบงไดฟงดังนั้นก็คะเนการณวาเหตุที่พระเจาเลาเสี้ยนมีพระบรมราชโองการมาครั้งนี้ยอมเกิดแตปญหา ภายในราชสํานัก เพราะขงเบงรูดีตั้งแตยกกองทัพกลับจากการปราบปรามเบงเฮ็กแลววา พระเจาเลาเสี้ยน นี้ผิดกับพระเจาเลาป เพราะทรงเอาแตเสพสุข มักเสวยน้ําจันทน คลอเคลาใกลชิดสนิทสนมกับพวกขันที และพวกปากหอยปากปูจนแทบไมเปนอันออกวาราชการ จึงประดุจดังพระอาทิตย แมจะมีฤทธิ์และอํานาจ สักเทาใดก็ยอมมัวหมองอับแสงไปดวยเมฆหมอก คือเหลาขันทีและคนพาลซึ่งแวดลอมพระองคอยูฉะนั้น ขงเบงคิดดังนั้นแลวสีหนาก็เศราหมองลง แหงนหนามองเพดานทอดถอนใจใหญ แลวรําพึงวา เจาเรานี้ หนุมแกความนัก มาเชื่อถอยคําขุนนางสอพลอยุยุงฉะนี้ ที่ไหนเราจะทําการตอไปได ครั้นเรามิไปบัดนี้ก็จะ เปนขอขัดรับสั่ง ถาจะไปบัดนี้ก็เสียดายนัก สืบไปเบื้องหนาจะกลับมาทําการสักรอยครั้งก็มิอาจลวงเขา มาถึงที่นี้ได ขงเบงรูดีวาศึกวุยกกครั้งที่สี่นี้ไดบุกรุกลึกเขามาในแดนวุยกก จักแหลนจะยึดเมืองเตียงอันและเขายึดเมือง ลกเอี๋ยงไดอยูแลว เพราะแนวหลังที่กองทัพผานมาก็ไดยึดบรรดาหัวเมืองทั้งปวงมิใหทําอันตรายไดอีก ตอไป ทั้งไดแปรใหเปนฐานสงกําลังบํารุงแกกองทัพอยางแนนแฟน กองทัพสุมาอี้ซึ่งยกมารับมือนั้นเลาก็ ถูกทําลายจนกําลังเหลือนอยเต็มที ทั้งจิตใจสูรบของสุมาอี้ผูเปนแมทัพนั้นไดถูกทําลายลงแทบจะสิ้นเชิง เปนสถานการณอันดียิ่งที่จะยึดแผนดินตงงวนไดสําเร็จ หากจะตองถอยกลับไปก็เปนเรื่องนาเสียดายอยาง ยิ่ง แตหากจะไมยกกองทัพกลับ ขุนนางสอพลอก็จะยิ่งยุยงใหพระเจาเลาเสี้ยนแคลงพระทัยมากขึ้น ดีราย ก็จะถูกขอหาวาเปนกบฏตอแผนดินไปเสียเอง ดังนั้นขงเบงจึงจําเปนตองตัดสินใจเลิกทัพกลับไปเมืองเสฉวนตามรับสั่ง พอเกียงอุยทราบความดังนั้นก็มิไดติดใจในเหตุผลของการถอยทัพวาจะเปนประการใด เพราะวางใจในการ ใชดุลยพินิจตัดสินใจของขงเบง แตกริ่งเกรงวากองทัพไดยกลึกเขามาในแดนวุยกกมากนัก การถอยทัพยิ่ง เปนอันตรายมากขึ้น เพราะสุมาอี้จะฉวยโอกาสไลตามตีในยามที่ลาถอย จึงเขาไปหาขงเบงแลวถามวา มหาอุปราชจะลาทัพไปครั้งนี้ ถาสุมาอี้รูยกทหารตามมารบพุง จะคิดประการใด ขงเบงแมตกอยูในภาวะสลดใจที่จําตองละโอกาสอันเยี่ยมยอดที่จะยึดแผนดินตงงวน แตครั้นไดฟงคํา เกียงอุยก็หันหนามาหา แลวกลาวดวยน้ําเสียงอันเมตตาปรานีวา อันตรายจากการถอยทัพจากพื้นที่ที่ลึก เขามาในดินแดนของขาศึกนั้นเราก็แจงอยูวาอันตรายใหญหลวงนัก ยิ่งสุมาอี้รูแลวเห็นจะอันตรายเปน ทวีคูณ แตทานอยาไดปรารมภเลย เราจะคิดอานอุบายมิใหสุมาอี้ยกกองทัพไลตามตีได ขงเบงกลาวแลวก็หันไปบอกขาหลวงวา เสร็จธุระของทานแลว จงรีบกลับไปเมืองเสฉวนเถิด เราจะรีบยก กองทัพกลับไปตามรับสั่ง ขาหลวงไดยินดังนั้นจึงคํานับลาขงเบงแลวเดินทางกลับไปเมืองเสฉวน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 5. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 5 พอขาหลวงออกไปจากคาย ขงเบงจึงบอกเกียงอุยวา ในการลาถอยทัพครั้งนี้อันตรายใหญหลวงนัก จําจะ คิดอุบายใหแยบยลจึงจะทําใหสุมาอี้เกรงขามไมกลายกกองทัพไลตามตี เราจะแบงทหารเปนหากอง ให คอยๆ ทยอยลาถอยออกจากที่ตั้ง ใหทําทีถอยทัพอยางชาๆ แตละกองยกไปตั้ง ณ ที่ใดแลวก็ใหทําเตา ไฟหุงขาวเพิ่มขึ้นทุกครั้งไป สุมาอี้รูวาเตาไฟหุงขาวเพิ่มมากขึ้นก็จะสงสัยวาเปนอุบายลวงใหไลตามตี เห็น จะไมกลาติดตามอีกตอไป เอียวหงีซึ่งเปนนายทหารชั้นผูใหญไดยินดังนั้นจึงกลาววา อันอุบายเตาไฟนี้เมื่อครั้งที่ซุนปนรบกับผังเจียน ในยุคสมัยเลียดกกนั้นก็เคยใชเตาไฟหุงขาวเปนกลอุบาย แตในครั้งนั้นทุกระยะที่ถอยทัพซุนปนไดลด จํานวนเตาไฟใหเหลือนอยลง ผังเจียนไดยกกองทัพไลตามตีจึงเสียทีแกซุนปน มาครั้งนี้เหตุไฉนมหา อุปราชจึงใหเพิ่มเตาไฟหุงขาวเลา ขงเบงจึงวา กลอุบายทั้งปวงนั้นจะนํามาใชอยางตายตัวไมได เมื่อครั้งซุนปนทําศึก กับผังเจียนนั้น ซุนป นมีทหารเปนอันมาก แตมีเสบียงอาหารนอย จึงแสรงทําทีเปนถอยทัพ ลอใหผังเจียนตามตี จึงลดจํานวน เตาหุงขาวลง ผังเจียนทราบความจากหนวยสอดแนมก็สําคัญวาทหารของซุนปนหนีทัพจนเหลือนอยลงจึง ยกกองทัพมาตามตี เหตุนี้จึงเสียทีแกซุนปน ขงเบงกลาวสืบไปวา สุมาอี้นี้มีสติปญญาในการสงครามเปนอันมาก กลอุบายเตาไฟอันมีมาแตโบราณสุมา อี้ยอมแจงอยู ณ บัดนี้สุมาอี้เกรงกลัวเรา ไมกลายกกองทัพออกมารบ ครั้นเห็นเราถอยทัพก็จะสงสัยวาเปน กลอุบาย เห็นจะระมัดระวังไมบุมบามไลตามตี ครั้นเมื่อเราลาถอยไปแลวสุมาอี้รูวาเตาไฟหุงขาวเพิ่มขึ้น ก็ จะคิดถึงกลอุบายของซุนปนวาเราพลิกกลับกลอุบายของซุนปนเสีย ลวงใหหลงวามีทหารนอย จึงแสรงทํา เปนเพิ่มเตาไฟหุงขาวเปนมีทหารมากแลวซุมทหารไวคอยโจมตี สุมาอี้คะเนการณดังนี้แลวเห็นจะไมกลาย กกองทัพไลตาม เราก็จะลาถอยทัพกลับเขาเมืองเสฉวนไดโดยสะดวก เกียงอุยและเอียวหงีไดฟงคําขงเบงอธิบายเหตุผลแหงกลอุบายเตาไฟโดยละเอียดดังนั้นก็สรรเสริญขง เบงวามีสติปญญาลึกซึ้งแหลมคมยิ่งกวาเทพยดา ครั้นปรึกษาพรอมกันแลวขงเบงจึงสั่งใหเลิกทัพลาถอย กลับไปทางเมืองฮันตงตามแผนการที่วางไวทุกประการ ฝายสุมาอี้หลังจากบอกใหกิอั๋นกลับไปเมืองเสฉวนแลว ก็ใหหนวยสอดแนมติดตามความเคลื่อนไหวของ กองทัพขงเบง ในขณะเดียวกันก็สั่งเตรียมกองทัพใหพรอมที่จะยกขามแมน้ําไลตามตีกองทัพของขงเบง ในขณะถอยทัพ ครั้นสุมาอี้ไดทราบรายงานจากหนวยสอดแนมวา เมื่อใกลรุงวันนี้กองทัพของขงเบงไดเลิกทัพถอยกลับไป แลว สุมาอี้ไดฟงรายงานดังนั้นน้ําใจหนึ่งก็มีความยินดี คิดวาแผนการที่ไดมอบหมายใหกิอั๋นไปทํานั้น ประสบความสําเร็จแลว แตใจหนึ่งก็กริ่งวาขงเบงทําการไดชัยชนะรุกลึกเขามาถึงเพียงนี้แลว ซึ่งจะลาถอย ไปโดยงายนั้นยังเปนที่สงสัยนัก นาจะเปนกลอุบายอยางใดอยางหนึ่ง ดังนั้นสุมาอี้จึงสั่งทหารใหตั้งมั่นอยู ในคาย และใหเพิ่มการสอดแนมติดตามขาวคราวการถอยทัพของขงเบงตอไป ในแตละวันหนวยสอดแนมไดกลับมารายงานแกสุมาอี้วา กองทัพของขงเบงไดถอยทัพไปอยางเชื่องชา แตเปนที่นาสังเกตวาเตาไฟสําหรับหุงขาวของทหารมีจํานวนเพิ่มขึ้นทุกครั้งไป สุมาอี้ไดทราบดังนั้นก็สงสัย จึงปลอมตัวเปนทหารเลว ขี่มาพาทหารองครักษลอบออกไปสังเกตการณตาม คายเกาของทหารเมืองเสฉวนเปนหลายแหง ปรากฏวาตามที่ตั้งคายของทหารยังปรากฏรองรอยของเตา ไฟหุงขาววามีจํานวนเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ลาถอยทัพ สุมาอี้ทราบดังนั้นก็หัวเราะ แลวกลาวกับแมทัพนายกองทั้งปวงวา ขงเบงเห็นเราไมยกออกไปสูรบก็คิด อุบายลอเตาออกจากกระดอง ทําทีเปนถอยทัพ หวังจะใหเรายกไปตามตี หากเรายกไปก็จะตองดวยกลขง เบง เห็นจะถูกซุมโจมตีเสียทีเปนมั่นคง แมทัพนายกองทั้งปวงไดยินคําสุมาอี้ก็สงสัย จึงกลาววากองทัพขงเบงไดลาถอยทัพออกจากที่ตั้งและ เดินทัพกลับไปเมืองฮันตงอยางไมหยุดยั้ง ไมมีวี่แวววาจะยกกลับมารบอีกเลย ขอใหทานแมทัพรีบยก กองทัพไลตามตีก็จะไดชัยชนะโดยงาย สุมาอี้จึงวา เราไดกําชับไวแลววาถาผูใดมาเสนอใหยกไปรบกับขงเบง เราก็จะตัดศีรษะเสีย เหตุการณเมื่อ ครั้งเตียวคับดึงดันยกไปรบกับขงเบงเพิ่งผานพนไปไมนานนัก ไฉนพวกทานจึงหลงลืมเสียได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สุมาอี้เห็นแมทัพนายกองทั้งปวงเกรงอาญาพากันนิ่งอึ้ง จึงกลาวสืบไปวาขงเบงนี้มีสติปญญาเลหกลเปน อันมาก จะดูเบาแกความคิดของขงเบงนั้นไมได ขงเบงบุกความจริงก็อาจเปนการถอย ซึ่งไดปรากฏใหเห็น
  • 6. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 6 แลว ครั้นจะถอยเลาเนื้อแทก็คือการเตรียมรุกบุกโจมตี ก็ปรากฏใหเห็นอีกเชนกัน พวกทานมิไดสังเกตหรือ วาเหตุใดเตาหุงขาวทหารจึงเพิ่มขึ้นทุกครั้งเลา แมทัพนายกองทั้งปวงไดยินคําถามของสุมาอี้ก็มิรูที่จะตอบประการใด สุมาอี้จึงกลาวตอไปวาขงเบงรูวาเรา รูอุบายเตาไฟของซุนปน หากลดจํานวนเตาไฟหุงขาวเสียเราก็จะรูเทาทันไมยกไปตี จึงแสรงพลิกกลเตา ไฟของซุนปน กลับเพิ่มเตาไฟหุงขาวใหมากขึ้น เพื่อลวงเราวามีทหารนอยจึงตองเพิ่มเตาไฟหุงขาว ให สําคัญวามีทหารมาก หากหลงกลของขงเบงยกทหารตามไปแลวขงเบงดักซุมทหารไว ก็จะเสียทีแกขง เบงเปนมั่นคง สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม กาฝากราชบัลลังก (ตอนที่553) ขงเบงพลิกกลอุบายของซุนปนในยุคเลียดกก จากการลดเตาไฟหุงขาวของทหารในขณะถอยทัพ เปนการ เพิ่มจํานวนเตาไฟหุงขาวทุกครั้งที่ลาถอย เพื่อปองกันอันตรายจากการไลตามตีของกองทัพวุยกก สุมาอี้รู ความแลวสําคัญวาเปนการทํากลอุบายของขงเบง หวังจะลวงใหสุมาอี้ยกตามไปรบพุง แลวซุมทหารคอย โจมตี หากขืนยกไปก็จะเสียทีแกขงเบง ครั้นแมทัพนายกองไดฟงคําสุมาอี้ดังนั้นก็พากันคํานับแลวสรรเสริญวาสติปญญาของทานแมทัพหลัก แหลมลึกซึ้งยิ่งนัก หากมิไดทานแมทัพชี้แนะแผนการอุบายของขงเบง เห็นจะเสียทียับเยินเปนแนแท สุมาอี้ยิ้มแยมกลาวถอมตัวตามธรรมเนียมแลว สั่งใหทหารทั้งปวงตั้งมั่นรักษาคายไวมิใหประมาท หลังจาก นั้นอีกหลายวันหนวยสอดแนมที่อยูชายแดนเมืองฮันตงไดสงใบบอกเขามารายงานความแกสุมาอี้วา กองทัพของขงเบงไดลาถอยกลับเขาไปในแดนเมืองฮันตงหมดสิ้นแลว สุมาอี้ไดทราบดังนั้นก็ทอดถอนใจใหญ เอามือตบที่หนาอก แลวกลาววา ขงเบงทํากลลวงเราครั้งนี้ รูมิทัน เลย ตัวเรามีปญญานอย ซึ่งจะทําศึกไปเบื้องหนานั้น ยากที่จะประมาณกลศึกขงเบงได สุมาอี้ไดตรวจสอบขาวสารความเคลื่อนไหวของกองทัพขงเบงอีกครั้งหนึ่ง พอทราบแนชัดวากองทัพเมือง เสฉวนไดลาทัพกลับเขาแดนเมืองฮันตงหมดสิ้นจริงแลว จึงสั่งใหเลิกทัพแลวยกกลับไปเมืองลกเอี๋ยง ฝายขงเบง ครั้นพาทหารลาถอยกลับไปถึงเมืองฮันตงแลว ใหพักทหารไวในเมืองฮันตง กําชับใหฝกปรือ บํารุงทแกลวทหารไวใหพรอม ตัวขงเบงและทหารองครักษเดินทางกลับเขาไปเมืองเสฉวน แลวรีบเขาไป เฝาพระเจาเลาเสี้ยน ขงเบงไดกราบถวายบังคมพระเจาเลาเสี้ยนตามประเพณี แลวกราบทูลถามวา ขาพระองคถือรับสั่งยก กองทัพไปตีวุยกก ไดยกลวงเขาไปจนถึงริมแมน้ําอุยโห เตรียมการจะยกขามแมน้ําเขายึดเอาเมืองเตียง อันแลวยกจะไปตีเมืองลกเอี๋ยง การของพระเจาเลาปที่ทรงสั่งเสียไวจวนเจียนใกลจะสําเร็จแลว เหตุไฉน พระองคจึงมีหมายรับสั่งเรียกขาพระพุทธเจากลับมาเมืองเสฉวนเลา พระเจาเลาเสี้ยนเห็นสีหนาขงเบงขึงขัง ถอยคําซึ่งกราบบังคมทูลก็หนักแนน และทวงทาขงเบงที่เปยม ดวยความจงรักภักดีก็มิไดแปรเปลี่ยนไปจากครั้งที่พระองคยังทรงพระเยาวเลยแมแตนอยนิด จึงรูสึก ละอายพระทัยที่ทรงระแวงสงสัยขงเบง แตครั้นจะตรัสความไปตามตรงก็ทรงเกรงวาจะเปนความผิดถึง พระองค จึงทรงตอบบายเบี่ยงเลี่ยงไปวา มหาอุปราชยกทัพไปแดนไกลนานชาแลว เรามีความรําลึกถึง เปนอันมาก อยากจะสนทนาดวย จึงใหหามหาอุปราชกลับมา ขงเบงคาดคะเนอยูแตกอนแลววา พระเจาเลาเสี้ยนตรัสสั่งใหเลิกทัพกลับมาก็เพราะหลงคําคนพาลยุยง ครั้นไดฟงคําตรัสที่เหลวไหลเลอะเทอะยิ่งกวาถอยคําของเด็กทารกก็มิปาน ก็มั่นใจวาที่คาดคะเนนั้นมิได ผิดพลาด จึงกราบบังคมทูลวา เหตุทั้งนี้ขาพเจาแจงอยู ไอเหลาสอพลอทูลยุยงพระองควาขาพเจาเอาใจ ออกหาก พระองคจึงใหหากลับมา พระเจาเลาเสี้ยนไดยินคําขงเบงถูกตรงน้ําพระทัยลึกก็รูสึกอดสู มิรูที่จะตรัสตอบประการใด จึงทรงนิ่งอึ้งอยู บนพระราชบัลลังกนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ขงเบงเห็นดังนั้นจึงกราบทูลดวยสีหนาที่เศราสลด และดวยน้ําเสียงที่สุดรันทดวา ตัวขาพเจาชราถึงเพียงนี้ แลว แลวก็รับสั่งพระเจาเลาปไว จึงตั้งใจทํานุบํารุงแผนดินของพระองค บัดนี้ศัตรูยุยงอยู เหมือนวัณโรค อันมีพิษกําเริบอยูในอกขาพเจา ซึ่งขาพเจาจะคิดอานกําจัดศัตรูภายนอกเสียนั้นเห็นขัดสน
  • 7. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 7 ความจริงในขณะนั้นขงเบงเพิ่งมีอายุเพียงหาสิบเอ็ดปเทานั้น แตเพราะความตรอมใจที่พระเจาเลาเสี้ยน มิไดเปนหลักชัยแกนสารของบานเมือง จะฆาเสียตามรับสั่งลับของพระเจาเลาปเลาก็หักใจทํามิได จะทํา การสืบไปเบื้องหนาก็อับจนขัดสนไปทั้งสิ้น เพราะพระเจาเลาเสี้ยนทรงอยูในทามกลางแวดลอมของเหลา พาลที่ไมเห็นแกความ รมเย็นเปนสุขของบานเมืองและราษฎร เอาแตเสพสุขทุกคืนวัน ทั้งมิไดรูจักผิดถูกดี ชั่ว ประกอบทั้งหลายปมานี้ขงเบงตองตรากตรํากรําศึกทั้งเหนือใต ไมเคยวางเวนแมแตวันเดียว ตอง เผชิญหนาและแกไขปญหามิไดหยุดหยอน เวลาหลับนอนแทบจะไมมี ดังนั้นขงเบงจึงดูเหมือนชราภาพ ลง ผมสีขาวไดแซมประปรายทั่วทั้งศีรษะ หนวดเคราเลาก็เริ่มมีสีขาวแซมใหเห็นเดนชัดขึ้น ในขณะที่ สุขภาพก็ออนแอลง ขงเบงรูตัวดีจึงกราบทูลวา ตัวเองชราภาพแลว สามกกฉบับสมบูรณไดพรรณนาความซึ่งขงเบงกราบทูลในตอนนี้วา ขาพระพุทธเจาขุนนางผูเกาแก ไดรับ พระมหากรุณาธิคุณจากเจาเหนือหัวองคกอน ไดใหสัตยปฏิญาณตนขอเอาความตายเขาตอบแทนถวาย ความจงรักภักดี บัดนี้แมนวาภายในราชสํานักมีพวกมิจฉาคดโกง ขาพระพุทธเจาไฉนจะสามารถปฏิบัติการ ปราบโจรกบฎได พระเจาเลาเสี้ยนไดฟงคําทูลของขงเบงที่เปยมไปดวยความจงรักภักดีในพระเจา เลาปและพระองคก็สลด พระทัย ไมอาจบายเบี่ยงปกปดสืบไป จึงตรัสสารภาพตามตรงวา อันเหตุทั้งนี้เพราะเราเบาความเชื่อฟงคํา คนชั่ว หากมหาอุปราชมาวากลาวออกเราจึงรูเหตุ ซึ่งทานจะถือโทษนั้นไมควร ดวยทุกวันนี้ตัวเราเหมือน หนึ่งคนจักษุมืด ทานชวยนําทางใหจึงคอยเดินตามไปไดบาง ครั้งนี้เราคิดผิดทานจึงตองยกทัพกลับมา ครั้นพระเจาเลาเสี้ยนทรงตรัสความเปนทํานองสํานึกผิดที่หลงฟงคําคนพาลยุยงใหขงเบงยกทัพกลับแลว จึงทรงตรัสตอไปวาทานพอมหาอุปราชจะสะสางแกไขเรื่องนี้อยางไร ก็สุดแทแตใจจะเห็นชอบนั้นเถิด เรา มิไดขัด ตรัสแลวก็เสด็จขึ้น ขงเบงและขุนนางทั้งปวงตางพากันถวายบังคมตามประเพณี ขงเบงจึงเปดการไตสวนสืบสาวตนสายปลายเหตุวาขุนนางชั่วผูใดเปนผูยุยงใสไคลใหพระเจาเลาเสี้ยน ระแวงแคลงพระทัย ในที่สุดก็ทราบวากิอั๋นเปนผูปลอยขาวลือ จึงสั่งทหารใหไปควบคุมตัวกิอั๋น แตปรากฏ วากิอั๋นไดหนีไปสวามิภักดิ์กับสุมาอี้กอนแลว ขงเบงจึงเรียกขุนนางผูใหญเขามาพรอมกัน แลวกลาวกับเจียวอวนและบิฮุยซึ่งเปนขุนนางผูใหญใกลชิด พระเจาเลาเสี้ยนวา เมื่อเกิดคําเลาขาวลืออัปมงคล และมีผูนําความขึ้นกราบบังคมทูลยุยงพระเจาเลาเสี้ยน เหตุไฉนพวกทานซึ่งเปนขุนนางผูใหญจึงไมกราบทูลทัดทาน ทําใหเสียการใหญของแผนดินไปดังนี้ เจียวอวนและบิฮุยไดยินคําตอวาของขงเบงก็รูสึกสํานึกผิด จึงกลาววาเปนความผิดของพวกขาพเจาเอง พวกขาพเจาไดเขาไปกราบทูลทัดทานแลว แตฮองเตมีกระแสพระราชดํารัสวา ซึ่งเรียกมหาอุปราชเขามา เมืองเสฉวนนั้นเพราะมีราชการลับเปนสําคัญ จึงมิกลาทูลถามความสืบไป ขงเบงจึงกลาวกับขุนนางชั้นผูใหญทั้งปวงวา ราชบัลลังกนี้เปนหลักชัยของแผนดิน เปนศูนยรวมและเปน ศูนยกลางแหงอํานาจวาสนาทั้งปวง ดังนั้นผูคนทั้งปวงทั้งชั่วและดีตางเขามาแวดลอมเปนอันมาก ยิ่งเปน คนพาลสันดานชั่วยิ่งมีวิสัยคิดอานทําการหาชองทางเขาใกลชิดราชบัลลังก แตหาใชเปนไปเพื่อประโยชน สุขของอาณาประชาราษฎรและบานเมืองไม หากเปนไปเพื่อแสวงหาลาภยศสุขสรรเสริญสวนตนเทานั้น คนพาลหยาบชาเชนนี้เปรียบประดุจดังกาฝาก เกาะกินกิ่งไมใดแลว ก็จะสูบน้ําเนื้อจนกิ่งนั้นตองตายซาก ราชบัลลังกของเจาเราก็เชนเดียวกัน หากมีกาฝากเกาะกินแนนหนาขึ้นแลว ก็เหลือที่ศีรษะของอาณา ประชาราษฎรจะเทิดทูนแบกรับเอาไวได เห็นจะลมสลายลงในวันหนึ่ง ตัวเราจําตองไปทําศึกทางไกล พวกทานอยูทางใกลจงรับเปนธุระ กําจัดเหลากาฝากราชบัลลังกใหสิ้นสูญ ทําใหศีรษะของอาณา ประชาราษฎรที่เทิดทูนราชบัลลังกนั้นไดบรรเทาบางเบาลง ชวยกันคิดอานปองกันมิใหกาฝากราชบัลลังก ใหมกอเกิดขึ้น ดังนี้แผนดินก็จะเปนสุขสืบไป บรรดาขุนนางชั้นผูใหญทั้งปวงไดฟงคําขงเบงดังนั้นตางพากันคํานับรับคํา ขงเบงจึงหันไปทางลิเงีย มแลวกลาววา ตัวทานกับเรานี้ไดรับราชการสนองพระเดชพระคุณพระเจาเลาป รวมทุกขรวมสุขรวมเสี่ยง มาดวยกัน จงชวยกันทํานุบํารุงพระเจาเลาเสี้ยนใหจําเริญในราชสมบัติ เปนประโยชนสุขแกอาณา ประชาราษฎรเถิด ขาพเจาจะรีบกลับไปเมืองฮันตงเพื่อเตรียมกองทัพยกไปตีวุยกกซึ่งกําลังเพลี่ยงพล้ําอีก ครั้งหนึ่ง ฝากฝงใหทานดูแลการจัดสงเสบียงอาหารอยาใหขัดสน และอยาใหเกิดเหตุการณแบบกิอั๋นอีก เปนอันขาด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 8. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 8 ลิเงียมรับคําขงเบงแลว จึงพรอมดวยขุนนางทั้งปวงคํานับลาขงเบงกลับออกไป วันรุงขึ้นขงเบงจึงเขาไป เฝาพระเจาเลาเสี้ยนถึงในพระตําหนัก แลวกราบถวายบังคมลากลับไปเมืองฮันตง ครั้นถึงเมืองฮันตง ขงเบงจึงสั่งชุมนุมทหาร สํารวจตรวจสอบไพรพล เสบียงอาหารและศาสตราวุธทั้งปวง ใหเตรียมความพรอมรอวันฤกษดีแลวจะยกไปตีวุยกกตอไป เอียวหงีเห็นขงเบงจัดแจงกองทัพจะยกไปตีวุยกกก็เขาไปหาขงเบง แลวกลาววามหาอุปราชจัดเตรียม กองทัพถึงยี่สิบหมื่น จะยกไปตีวุยกกอีกเลา ก็แลกองทัพเพิ่งลาถอยมาจากแดนวุยกก ยังออนลาอิดโรย อยู ชอบที่จะงดกองทัพไวกอน แลวทํานุบํารุงทแกลวทหารใหพรักพรอมจึงคอยยกไป ขงเบงจึงวา การศึกครั้งที่แลวเราทําการไดที และสุมาอี้ก็สิ้นความคิดที่จะตอสูอยูแลว หากละเวลาใหเนิ่น ชาไป สุมาอี้ตระเตรียมทหารและวางแผนการตั้งรับ เราจะยกไปก็ขัดสน เอียวหงีไดฟงก็เห็นดวย แตติงวาทหารของเราเพิ่งเสร็จศึกมาไมทันนาน จะยกไปทั้งหมดทีเดียวยอมออน ลาอิดโรย ชอบที่จะแบงทหารออกเปนสองกอง กองละสิบหมื่น กองแรกยกเขาตีวุยกกกอน อีกกองหนึ่ง ซองสุมบํารุงอยูในเมืองฮันตง กําหนดเวลารอยวันใหกองที่ยกไปตีวุยกกกลับมาพักฟน ใหกองที่ตั้งอยูใน เมืองฮันตงยกไปเปลี่ยนเวรแทน จะไดมีกําลังทําศึกอยางเต็มที่ ขงเบงไดฟงดังนั้นจึงวา ความคิดของทานตองดวยความคิดเรา การศึกครั้งนี้เรากะจะทําการศึกระยะยาว จนกวาจะเผด็จศึกยึดเอาเมืองลกเอี๋ยงไดโดยเด็ดขาด ซึ่งอาจตองใชเวลาเปนป กลาวแลวขงเบงจึงสั่งใหจัดทหารเปนสองกอง กําหนดเวลาหนึ่งรอยวันใหผลัดเปลี่ยนเวรกันตามแผนการ ของเอียวหงีทุกประการ และกําชับวาเมื่อครบกําหนดรอยวันแลวใหกองทหารซึ่งตั้งบํารุงอยูในเมืองฮันตง รีบยกไปในแดนวุยกก สับเปลี่ยนใหกองทหารที่ยกไปกอนไดกลับมาฟนบํารุง ถาถึงกําหนดแลวผูใดฝาฝน หรือลาชาก็จะตัดศีรษะเสียตามพระอัยการศึก แมทัพนายกองและทหารทั้งปวงไดฟงแผนการของขงเบง แลวตางคํานับรับคํา พระพุทธศาสนายุกาลลวงแลวไดเจ็ดรอยเจ็ดสิบสี่พรรษา เดือนสี่ ขงเบงไดกรีฑาทัพพลสิบหมื่นยกออก จากเมืองฮันตง บุกเขาแดนวุยกกเปนครั้งที่หา ในขณะนั้นพระเจาโจยอยไดเสวยราชสมบัติแลวหาป ครั้นกองทัพของขงเบงยกลวงเขาถึงแดนวุยกก มาเร็วก็ไดนําความเขาไปกราบบังคมทูลพระเจาโจยอยให ทรงทราบวา บัดนี้ขงเบงยกกองทัพสิบหมื่นลวงลึกเขามาตั้งอยูที่ตําบลเขากิสานแลว พระเจาโจยอยไดทราบรายงานดังนั้นก็ตกพระทัย รับสั่งใหหาสุมาอี้มาปรึกษาวา ขงเบงยกกองทัพมาครั้ง นี้จะคิดอานปองกันประการใด สุมาอี้ไดฟงพระราชปรารภดังนั้นแลว จึงขออาสาเปนแมทัพยกไปรบกับขงเบง พระเจาโจยอยไดฟงคํา อาสาก็ดีพระทัย โปรดเกลาแตงตั้งใหสุมาอี้เปนแมทัพใหญ ยกไปรบกับขงเบง ครั้นถึงวันฤกษดีสุมาอี้จัดแจงแตงกองทัพแลวก็สั่งใหชุมนุมกองทัพไวที่หนาประตูเมืองลกเอี๋ยง พระเจาโจ ยอยไดประทับบนรถพระที่นั่งเสด็จออกไปสงกองทัพถึงนอกเมือง ครั้นไดเวลาฤกษสุมาอี้ไดกราบถวาย บังคมลาแลวเคลื่อนทัพออกจากเมืองลกเอี๋ยง พระเจาโจยอยประทับยืนทอดพระเนตรกองทัพที่กําลัง เคลื่อนไปอยูครูหนึ่งจึงเสด็จกลับ สามกกฉบับคนขายชาติ:เรืองวิทยาคม อุบาย กินขาวขาศึก (ตอนที่554) ขงเบงบุกวุยกกครั้งที่หาโดยแบงทหารเปนสองกอง แตละกองกําลังพลสิบหมื่น กองหนึ่งตั้งมั่นอยูใน เมืองฮันตง อีกกองหนึ่งยกไปตั้งอยูที่ตําบลเขากิสาน กําหนดเวลารอยวันใหผลัดเปลี่ยนเวรกันครั้งหนึ่ง พระเจาโจยอยทราบความก็โปรดใหสุมาอี้ยกกองทัพออกไปรบกับขงเบง เมื่อสุมาอี้ยกกองทัพไปถึงเมืองเตียงอันก็เรียกประชุมแมทัพนายกองทั้งปวง ปรึกษาแผนการที่จะยกทหาร ไปตั้งรับศึกกองทัพขงเบงที่ริมแมน้ําอุยโห คนละฝงกับตําบลเขากิสานที่ขงเบงตั้งคายพักทหารอยู All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เตียวคับไดขออาสาสุมาอี้ยกทหารขามแมน้ําอุยโหไปรบกับขงเบง แตสุมาอี้ทัดทานวาการจะรบพุงกับขง เบงนั้นชอบที่จะรวมศูนยกําลังทหารจึงจะไดชัยชนะ ซึ่งทานอาสาทั้งนี้ก็ขอบใจ แตการแบงทหารออกเปน
  • 9. โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 12 ตอนที่ 551-600 หนาที่ 9 สองสวน กําลังแตละสวนก็ลดลง เห็นจะสูขงเบงไมได ชอบที่จะยกไปพรอมกัน และใหทานเปนกองทัพ หนา ทานจะเห็นเปนประการใด เตียวคับไดยินดังนั้นจึงคํานับขอบคุณสุมาอี้ที่ไววางใจ ครั้นจัดแจงกองทัพเสร็จแลวสุมาอี้จึงสั่งใหเคลื่อน ทัพจากเมืองเตียงอันแลวยกไปตั้งอยูที่ริมฝงแมน้ําอุยโห ฝายกองทัพของขงเบง ครั้นตั้งคายลงที่ตําบลเขากิสานแลว ขงเบงจึงเรียกแมทัพนายกองทั้งปวงมา ปรึกษาวา เรายกกองทัพรุกวุยกกครั้งนี้หวังจะรุกรบใหแตกหัก และไมตองการใหสุมาอี้พักกําลังตั้งตัว จึง ไดใชกองทัพมารีบรุดมาโดยเร็ว เหตุนี้จึงมีเสบียงอาหารมาแตนอย เวลานี้ลวงพนมาเดือนหนึ่งแลว ลิเงียม ยังไมสงเสบียงอาหารมาตามกําหนด เห็นกองทัพเราจะขัดสน เกียงอุยจึงวา ขาพเจาก็แปลกใจวาเหตุไฉนมหาอุปราชจึงกรีฑาทัพมาโดยมิไดลําเลียงเสบียงอาหารมา พรอมกันใหเพียงพอตอการรับมือขาศึกในระยะยาว เมื่อเปนเชนนี้ชอบที่มหาอุปราชจะไดมีหนังสือไปเรงลิ เงียมใหรีบสงเสบียงอาหาร อยาใหกองทัพตองขัดสน ขงเบงจึงวา เราไดมีหนังสือใหมาเร็วนําไปแจงใหลิเงียมทราบแลว แตการจะหวังพึ่งพาเสบียงอาหารซึ่ง ตองลําเลียงมาเปนระยะทางไกลจากเมืองเสฉวนนั้นเห็นจะไมทันการ เราไดเตรียมการจัดหาเสบียงจาก แดนของขาศึกเปนกําลังของกองทัพไวพรอมกอนที่จะเดินทัพออกจากเมืองฮันตงแลว เกียงอุยจึงถามวา มหาอุปราชจะทําประการใดจึงจะอาศัยเสบียงอาหารจากขาศึกมาบํารุงกองทัพ ขงเบงจึงวา อันประเพณีการสงครามแตโบราณมากําหนดวา กินขาวของขาศึกหนึ่งถัง ดีกวากินขาวของเรา เองสิบถัง ปมเงื่อนก็คือใหขวนขวายหาเสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณจากขาศึกยึดมาเปนกําลังของ กองทัพเรา ขาศึกจะออนแอลง เราจะเติบใหญเขมแข็งขึ้น เทศกาลนี้เปนเทศกาลขาวโพดสาลีสุก แล เมืองหลงเสนั้นก็เปนแหลงปลูกขาวโพดสาลีอันอุดม เรากําหนดการที่จะยึดเอาขาวสาลีจากเมืองหลง เสมาเปนเสบียงของกองทัพ จึงไดรีบรุดมาโดยที่ไมไดนําพากองเสบียงมาเหมือนครั้งกอน เกียงอุยไดฟงดังนั้นก็คํานับขงเบง สรรเสริญความคิดของขงเบงเปนอันมาก วันรุงขึ้นขงเบงสั่งใหอองเปงและเตียวหงีคุมทหารหาหมื่นรักษาคายที่ตําบล เขากิสาน สวนขงเบงพรอม กับเกียงอุยและอุยเอี๋ยนไดคุมทหารอีกกองหนึ่งจํานวนหาหมื่นยกไปทางเมืองโลเสียจะไปเมืองหลงเส ฝายสุมาอี้ครั้นยกทหารมาตั้งอยูที่ริมแมน้ําอุยโหแลว ก็ใหทหารหนวยสอดแนมสืบขาวคราวความ เคลื่อนไหวของกองทัพขงเบง พอรูขาววาขงเบงพาทหารยกออกจากตําบลเขากิสานจะไปที่เมืองโลเสียสุ มาอี้ก็ตกใจ รีบเรียกเตียวคับมาปรึกษาแลวปรารภวาเทศกาลนี้เปนฤดูขาวโพดสาลีสุก ซึ่งกองทัพขงเบง ยกไปทางเมืองโลเสียนั้น เห็นจะไปยึดเอาเมืองหลงเสแลวเก็บเกี่ยวขาวโพดสาลีเปนเสบียงเปนมั่นคง สุมาอี้เห็นเตียวคับนั่งงงอยูจึงกลาวสืบไปวา เมืองโลเสียนั้นมีเขตแดนติดตอกับเมืองหลงเส ซึ่งเปนแหลง นาขาวโพดสาลีของวุยกก หากขงเบงยึดขาวโพดสาลีจากเมืองหลงเสไดแลว วุยกกเราจะขาดเสบียง อาหารลง ในขณะที่ขงเบงมีเสบียงอาหารอุดมสมบูรณ สามารถตั้งหนาทําศึกระยะยาวกับเราได จําจะตอง ยกกองทัพไปปองกันเมืองหลงเสไวกอน กลาวแลวสุมาอี้จึงสั่งใหเตียวคับคุมทหารตั้งขัดตาทัพกองทัพของขงเบงซึ่งตั้งอยูที่ตําบลเขากิสาน ไมให ยกรุกขามแมน้ําอุยโหมาได สวนสุมาอี้จะยกกองทัพไปปองกันเสบียงที่เมืองหลงเสดวยตนเอง ครั้นจัดแจงทหารปองกันระมัดระวังกองทัพจกกกที่ตั้งประจันอยูริมแมน้ําอุยโหเสร็จสิ้นแลว สุมาอี้จึงมอบ อาญาสิทธิ์สําหรับบังคับบัญชาทหารใหกับเตียวคับเพื่อบังคับบัญชาทหารแทนตัว แลวใหโกฉุยเปน กองทัพหนา สุมาอี้คุมกองทัพหลวง เรงเดินทัพทั้งกลางวันและกลางคืนไปที่เมืองหลงเสและเขาไปตั้ง คายมั่นไวขางในเมือง ฝายขงเบงครั้นนํากองทัพยกไปถึงเมืองโลเสียก็สั่งทหารใหยกเขาประชิดเมือง กินอซึ่งเปนเจาเมืองเห็น กองทัพขงเบงยกมาเปนอันมากก็กลัว จึงพาขุนนางและกรมการเมืองทั้งปวงออกไปคํานับยอมนบนอบตอ ขงเบง และเชิญขงเบงเขาไปในเมือง ครั้นขงเบงเขาไปในเมืองโลเสียแลวจึงถามกินอวา ในพื้นที่บริเวณนี้ทองที่ใดที่ขาวโพดสาลีสุกพรอมจะ เก็บเกี่ยวได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด