More Related Content
Similar to จังหวัดนครราชสีมา502 (6)
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)
จังหวัดนครราชสีมา502
- 7. จังหวัดนครราชสีมา หรือรู้จักในชื่อ โคราช เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทยและมีประชากรเป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอาณาเขตติดกับจังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว
- 8. ภูมิศาสตร์ ตัวเมืองตั้งอยู่บนที่ราบสูงโคราช โดยมีลำตะคองและลำน้ำสาขาอื่น ๆ ไหลหล่อเลี้ยงบริเวณด้านเหนือของเมือง และ เป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำมูลซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตัวเมืองประกอบด้วยประตูเมืองนครราชสีมาทั้ง 4 ทิศ คือ ประตูชุมพล ( ทิศตะวันตก ) ประตูพลแสน ( ทิศเหนือ อีกชื่อคือประตูน้ำ ) ประตูพลล้าน ( ทิศตะวันออก ) และประตูไชยณรงค์ ( ทิศใต้ อีกชื่อคือประตูผี ) ภายในตัวเมืองมีสระน้ำ 4 สระ คือ สระแก้ว สระแมว สระขวัญ และสระบัว บริเวณรอบเมืองเป็นที่ราบ ทุ่งนา สวนผัก - ผลไม้ และ ที่เกษตรกรรม ปัจจุบันจากการขยายตัวของเมืองทำให้ค่อยๆเปลี่ยนสภาพเป็นแหล่งการค้า อุตสาหกรรม และ ที่อยู่อาศัย ในบริเวณด้านใต้ของเมืองเป็นเขตทหาร คือ ค่ายสุรนารี ของกองทัพบก และ กองบิน 1 ของกองทัพอากาศ โดยตำแหน่งที่ตั้งทำให้เมืองเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางบกทั้งทางถนนและทางราง ของภาคอีสาน โดยมีทางหลวงสายหลัก คือ ถนนมิตรภาพผ่าน และ เป็นชุมทางรถไฟของเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือทั้งสองสายคือ สายนครราชสีมา - อุบลราชธานีและ สายนครราชสีมา - ท่านาแล้ง ( ประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว )
- 12. เพลง “นครราชสีมา” เนื้อร้อง : พลตรี หลวงวิจิตร วาทการ บรรเลงโดย : วงดุริยางค์สากลกรมศิลปากร ( สร้อย ) ราชสีมาเหมือนดังศิลาที่ก่อกำแพง สยามจะเรืองกระเดื่องเขตแดน ด้วยมีกำแพงคือราชสีมา ( ชาย ) ชาวนครราชสีมาแต่โบราณ เหี้ยมฮึกกล้าหาญยิ่งหนักหนา ศึกเสือ เหนือใต้ที่ไหนมา เลือดนครราชสีมาไม่แพ้ใคร ( สร้อย ) ( หญิง ) แต่ก่อนกาลท่านวีรสตรี ท้าวสุรนารีผู้เป็นใหญ่ กล้าหาญยอดยิ่งผู้หญิงไทย มิ่งขวัญธงชัยของเมืองเรา ( สร้อย ) ( ชาย ) มาพวกเราชาวนครราชสีมา หน้าเดินรีบมาสู้กับเขา หากศัตรูไม่เกรง ข่มเหงเรา สู้เขา สู้กันอย่าพรั่นใจ ( สร้อย 2 ครั้ง )
- 15. รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พ . ศ . 2460 - 2465 10. พ . ต . พระยาบรมราชบรรหาร ( เย็น ภะระมรทัต ) พ . ศ . 2458 – 2460 9. พระยาสุริยราชวราภัย ( จร ) พ . ศ . 2456 – 2458 8. พระยศสุนทร ( ศิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ) พ . ศ . 2455 – 2456 7. พระเทพราชธานี ( โหมด ) รศ . 129 - 131 ( พ . ศ . 2453 - 2455) 6. พระไชยนฤนาท ( ทองดี ) รศ . 125 - 129 ( พ . ศ . 2449 - 2453) 5. พระบรมราชบรรหาร ( สวัสดิ์ วิเศษศิริ ) รศ . 124 - 125 ( พ . ศ . 2448 - 2449) 4. พระยาวรชัยวุฒิกร ( เลื่อง สนธิรัต ) รศ . 123 - 124 ( พ . ศ . 2447 - 2448) 3. พระยาสุริยเดช ( จาบ สุวรรณทัต ) รศ . 120 - 123 ( พ . ศ . 2444 - 2447) 2. พระรังสรรค์สารกิจ ( เลื่อน ศรีเพ็ญ ) รศ . 115 - 120 ( พ . ศ . 2439 - 2444) 1. พระยากำแหงสงคราม ( กาจ สิงห์เสนี ) วาระการดำรงตำแหน่ง รายนาม
- 16. 12 ต . ค . 2497 – 22 พ . ค . 2500 25. นายสุวรรณ รื่นยศ 21 มี . ค . 2495 – 11 ต . ค . 2497 24. นายยุทธ จรัณยานนท์ 23 มี . ค . 2492 – 20 มี . ค . 2495 23. ขุนวรคุตต์คณรักษ์ ( บุญฤทธิ์ วรนุตนานนท์ ) 6 ธ . ค . 2490 – 21 มี . ค . 2492 22. ขุนบริบาลบรรพตเขตต์ ( สังเวียน บริบาลบรรพตเขตต์ ) 21 ต . ค . 2489 – 5 ธ . ค . 2490 21. นายถนอม วิบูลมงคล 1 ส . ค . 2488 – 31 ก . ค . 2489 20. นายอุดม บุญประคอง 22 ธ . ค . 2487 – 31 ธ . ค . 2488 19. หลวงวิธสุรการ ( ถวิล เจียนมานพ ) 1 ต . ค . 2486 – 21 ธ . ค . 2487 18. ขุนทยานราญรอน ( วัชระ วัชรบูล ) 19 ธ . ค . 2484 – 19 พ . ย . 2486 17. พระสาครบุรานุรักษ์ ( ปริต สุวรรณานนท์ ) พ . ศ . 2484 – 2484 16. นายสุรินทร์ ชิโนทัย พ . ศ . 2479 – 2484 15. พ . อ . หลวงอาจศรศิลป ( ประพันธ์ ธนพุทธิ ) 2 พ . ย . 2476 – 1 มี . ค . 2479 14. พระยากำธรพายัพทิศ ( ดิส อินทโสฬส ) พ . ศ . 2474 – 2476 13. พระยานายกนรชร ( เจริญ ปริยานนท์ ) พ . ศ . 2471 – 2474 12. พระยาพิริยะพิชัย ( เทียบ สุวรรณนิน ) พ . ศ . 2465 – 2471 11. พระยานครราชเสนี ( สหัส สิงหเสนี )
- 17. 20 ต . ค . 2540 – 22 เม . ย . 2544 40. นายโยธิน เมธชนัน 1 ต . ค . 2539 – 19 ต . ค . 2540 39. นายประวิทย์ สีห์โสภณ 1 ต . ค . 2537 – 30 ก . ย . 2539 38. นายสุพร สุภสร 1 ต . ค . 2533 – 30 ก . ย . 2537 37. นายดำรง รัตนพานิช 1 ต . ค . 2531 – 30 ก . ย . 2533 36. นายไสว พราหมณี 1 เม . ย . 2524 – 30 ก . ย . 2531 35. นายสมบูรณ์ ไทยวัชรามาศ 1 ต . ค . 2520 – 31 มี . ค . 2524 34. นายเลิศ หงษ์ภักดี 1 ม . ค . 2520 – 30 ก . ย . 2520 33. นายจำรูญ ปิยัมปุตระ 6 ธ . ค . 2516 – 31 ธ . ค . 2519 32. นายวิชิต ศุขะวิริยะ 1 ต . ค . 2516 – 5 ธ . ค . 2516 31. นายประมูล ศรัทธาทิพย์ 13 เม . ย . 2513 – 30 ก . ย . 2516 30. ร . ต . ท . ระดม มหาศรานนท์ 2 ต . ค . 2511 – 15 เม . ย . 2513 29. นายสมชาย กลิ่นแก้ว 4 มี . ค . 2507 – 2 ต . ค . 2511 28. นายสวัสดิ์วงศ์ ปฏิทัศน์ 6 มี . ค . 2501 – 4 มี . ค . 2507 27. นายเจริญ ภมรบุตร 23 พ . ค . 2500 – 6 มี . ค . 2501 26. พ . ต . อ . เลื่อน กฤษณามระ
- 18. 1 ต . ค . 2553 - ปัจจุบัน 46. นายระพี ผ่องบุพกิจ 1 ต . ค . 2551 - 30 ก . ย . 2553 45. นายประจักษ์ สุวรรณภักดี 1 ต . ค . 2550 - 30 ก . ย . 2551 44. นายสุธี มากบุญ 1 ต . ค . 2548 – 30 ก . ย . 2550 43. นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ 1 ต . ค . 2547 – 30 ก . ย . 2548 42. นายพงศ์โพยม วาศภูติ 23 เม . ย . 2544 – 30 ก . ย . 2547 41. นายสุนทร ริ้วเหลือง
- 19. การปกครองส่วนท้องถิ่น แบ่งออกเป็น 1 เทศบาลนคร 3 เทศบาลเมือง 71 เทศบาลตำบลและ 263 องค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีรายชื่อเทศบาลดังนี้ - อำเภอปักธงชัย เทศบาลตำบลเมืองปัก เทศบาลตำบลปักธงชัย เทศบาลตำบลตะขบ เทศบาลตำบลนกออก เทศบาลตำบลบ่อปลาทอง เทศบาลตำบลลำนางแก้ว - อำเภอเมืองนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา เทศบาลตำบลโคกกรวด เทศบาลตำบลโคกสูง เทศบาลตำบลจอหอ เทศบาลตำบลปรุใหญ่ เทศบาลตำบลโพธิ์กลาง เทศบาลตำบลหนองไข่น้ำ เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม เทศบาลตำบลหัวทะเล - อำเภอปากช่อง เทศบาลเมืองปากช่อง เทศบาลตำบลกลางดง เทศบาลตำบลหมูสี เทศบาลตำบลวังไทร เทศบาลตำบลสีมามงคล - อำเภอสีคิ้ว เทศบาลเมืองสีคิ้ว เทศบาลตำบลคลองไผ่ เทศบาลตำบลลาดบัวขาว เทศบาลตำบลหนองน้ำใส - อำเภอบัวใหญ่ เทศบาลเมืองบัวใหญ่
- 20. - อำเภอครบุรี เทศบาลตำบลครบุรีใต้ เทศบาลตำบลจระเข้หิน เทศบาลตำบลแชะ เทศบาลตำบลไทรโยง - ไชยวาล เทศบาลตำบลอรพิมพ์ - อำเภอพิมาย เทศบาลตำบลพิมาย เทศบาลตำบลรังกาใหญ่ - อำเภอโนนสูง เทศบาลตำบลโนนสูง เทศบาลตำบลดอนหวาย เทศบาลตำบลตลาดแค เทศบาลตำบลด่านคล้า เทศบาลตำบลมะค่า เทศบาลตำบลใหม่ - อำเภอโชคชัย เทศบาลตำบลโชคชัย เทศบาลตำบลด่านเกวียน เทศบาลตำบลท่าเยี่ยม - อำเภอด่านขุนทด เทศบาลตำบลด่านขุนทด เทศบาลตำบลหนองกราด เทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด เทศบาลตำบลหนองบัวละคร - อำเภอสูงเนิน เทศบาลตำบลกุดจิก เทศบาลตำบลสูงเนิน - อำเภอขามทะเลสอ เทศบาลตำบลขามทะเลสอ - อำเภอขามสะแกแสง เทศบาลตำบลขามสะแกแสง เทศบาลตำบลหนองหัวฟาน เทศบาลตำบลโนนเมือง
- 21. - อำเภอประทาย เทศบาลตำบลประทาย - อำเภอคง เทศบาลตำบลเมืองคง เทศบาลตำบลเทพาลัย - อำเภอโนนไทย เทศบาลตำบลโนนไทย เทศบาลตำบลโคกสวาย เทศบาลตำบลบัลลังก์ - อำเภอห้วยแถลง เทศบาลตำบลห้วยแถลง เทศบาลตำบลหินดาด - อำเภอเสิงสาง เทศบาลตำบลเสิงสาง เทศบาลตำบลโนนสมบูรณ์ - อำเภอบ้านเหลื่อม เทศบาลตำบลบ้านเหลื่อม - อำเภอจักราช เทศบาลตำบลจักราช - อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลตำบลท่าช้าง - อำเภอชุมพวง เทศบาลตำบลชุมพวง - อำเภอโนนแดง เทศบาลตำบลโนนแดง - อำเภอบัวลาย เทศบาลตำบลหนองบัวลาย
- 22. - อำเภอแก้งสนามนาง เทศบาลตำบลบึงสำโรง - อำเภอพระทองคำ เทศบาลตำบลพระทองคำ - อำเภอเมืองยาง เทศบาลตำบลเมืองยาง - อำเภอลำทะเมนชัย เทศบาลตำบลหนองบัววง เทศบาลตำบลขุย - อำเภอวังน้ำเขียว เทศบาลตำบลศาลเจ้าพ่อ - อำเภอสีดา เทศบาลตำบลสีดา - อำเภอหนองบุญมาก เทศบาลตำบลหนองหัวแรต เทศบาลตำบลแหลมทอง
- 25. ไทย กลุ่มชาติพันธุ์ไทยที่อยู่ในนครราชสีมาเรียกอีกอย่างว่า ไทยโคราช เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา คนกลุ่มนี้ใช้ภาษาเหมือนไทยในส่วนกลาง เพียงแต่เสียงวรรณยุกต์เพี้ยนไปบ้าง และมีคำศัพท์สำนวนบางอย่างที่มีลักษณะเป็นของตนเอง เดิมถิ่นนี้ชาวพื้นเมืองเป็นละว้า ชาวไทยได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัย สมัยกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอู่ทองให้ขุนหลวงพะงั่วยกกองทัพมารวบรวมดินแดนแถบนี้เข้ากับกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอู่ทองโปรดฯ ให้กองทหารอยุธยาตั้งด่านอยู่ประจำ และส่งช่างชาวอยุธยามาก่อสร้างบ้านเรือนและวัดวาอารามเป็นอันมาก ชาวไทยอยุธยาได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และได้อพยพมาอยู่นครราชสีมาอีกระลอกหนึ่งคือ คราวเสียกรุงครั้งที่ 2 โดยมีชาวไทยชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้อพยพเข้ามาเพิ่มด้วย ชาวไทยกลุ่มนี้และชาวไทยพื้นเมืองเดิม ( เข้าใจว่าเป็นชาวสยามลุ่มน้ำมูล ( ไท - เสียม ) อาจมีเขมรและมอญปนอยู่ด้วย ) สืบเชื้อสายเป็นชาวไทยโคราชและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีสืบทอดกันมา
- 26. ลาว ลาว ( ลาวเวียง ไทยลาว หรือไทยอีสาน ) เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนประชากรมากรองจากกลุ่มไทยโคราช แต่อพยพเข้ามาทีหลัง อาศัยอยู่มากในบางอำเภอของจังหวัดนครราชสีมา เช่น อำเภอบัวใหญ่ ปักธงชัย สูงเนิน และบางส่วนของอำเภอประทาย ห้วยแถลง ชุมพวง และสีคิ้ว เป็นต้น ไทยอีสานพูดภาษาอีสานและมีขนบธรรมเนียมประเพณีเหมือนชาวอีสานทั่วไป กลุ่มไทยอีสานอพยพเข้ามาอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาหลายรุ่น ส่วนใหญ่อพยพเข้ามาอยู่สมัยสงครามปราบปรามเมืองเวียงจันทน์ สมัยธนบุรี มีการกวาดต้อนครอบครัวลาวเข้ามาอยู่ในหัวเมืองชั้นใน และอพยพเข้ามาโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นในระยะหลัง
- 27. มอญ จากการสำรวจสำมะโนประชากรของจังหวัดนครราชสีมา เมื่อปี พ . ศ . 2446 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พบว่า มีชาวมอญอยู่จำนวน 2 , 249 คน จากจำนวนประชากรของนครราชสีมา 402 , 668 คน ชาวมอญอพยพเข้ามาอยู่บริเวณเมืองนครราชสีมา ตั้งแต่ปี พ . ศ . 2318 ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระราชทานครัวมอญที่อพยพเข้ามาสวามิภักดิ์ มีพระมหาโยธา ( เจ่ง ) เป็นหัวหน้า แบ่งให้พระยานครราชสีมานำขึ้นมาอยู่ที่เมืองนครราชสีมา ตั้งครัวมอญที่ลำพระเพลิง เขตอำเภอปักธงชัยที่บ้านพลับพลา อำเภอโชคชัย พระยาศรีราชรามัญผู้เป็นหัวหน้าพาญาติพี่น้องมาอยู่ในเมืองเป็นสายกองส่วยทอง ตั้งบ้านเรือนเรียกว่าบ้านมอญ เมื่อเกิดกบฎเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ . ศ . 2336 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหาโยธา ( ทอเรีย ) คุมกองมอญมาสมทบมาร่วมรบกับกำลังฝ่ายไทย เมื่อเสร็จศึกแล้วพวกมอญเห็นเมืองปักธงชัยอุดมสมบูรณ์จึงมาตั้งถิ่นฐาน ปัจจุบันชาวมอญในนครราชสีมายังรักษาวัฒนธรรมประเพณีมอญไว้ เช่น ภาษา การไหว้ผี การเล่นสะบ้าในเขตบ้านท่าโพธิ บ้านสำราญเพลิง ตำบลนกออก อำเภอปักธงชัย ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ทำเครื่องปั้นดินเผา ภาษามอญจะใช้พูดในชาวไทยมอญที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป คนรุ่นหลังจากนี้จะพูดภาษาไทยโคราชทั้งสิ้น
- 28. ส่วย ส่วย หรือ ข่า เป็นชนพื้นเมืองของหัวเมืองเขมรป่าดงและเมืองนครราชสีมา พูดภาษาตระกูลมอญ - เขมร ได้อยู่ในพื้นที่นี้ก่อนที่คนไทยจะเข้ามามีอิทธิพลเหนือดินแดนบริเวณลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน เมื่อปี พ . ศ . 2362 เจ้าเมืองนครราชสีมา ( ทองอินทร์ ) ตีข่าได้ แล้วนำมายังเมืองนครราชสีมา ภาษาส่วย เป็นภาษาของชาวส่วยที่อพยพมาจากจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหัดบุรีรัมย์ ที่มาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ ตำบลห้วยแถลง อำเภอห้วยแถลง ปัจจุบันมีเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ที่ยังคงใช้ภาษาส่วยในกลุ่มของตนเอง นอกจากนั้นจะใช้ภาษาไทยโคราชเป็นพื้น
- 29. ญัฮกุร ญัฮกุร หรือ เนียะกุล เป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาหรือเนินเขาเตี้ย ๆ บริเวณด้านในของที่ราบสูงโคราช ชาวบนอาจสืบเชื้อสายมาจากคนในสมัยทวารวดี อยู่ในบางหมู่บ้านของอำเภอปักธงชัย อำเภอครบุรี และอำเภอหนองบุญมาก ภาษาชาวบน เป็นภาษาตระกูลมอญ - เขมร ปัจจุบันชาวบนพูดภาษาชาวบนเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นใช้ภาษาไทยโคราช
- 30. ไทยวน ไทยวน หรือ ไทยโยนก เป็นเผ่าไทยในภาคเหนือของไทย ได้อพยพเข้ามาอยู่ที่อำเภอสีคิ้วสองทางด้วยกันคือ พวกแรกอพยพจากทางเหนือมาอยู่ที่อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ต่อมาเจ้าเมืองสระบุรีต้องการตั้งกองเลี้ยงโคนมที่เมืองนครจันทึก จึงได้แบ่งครอบครัวชาวไทยยวนจากอำเภอเสาไห้ไปอยู่ที่อำเภอสีคิ้ว ส่วนอีกพวกหนึ่งอพยพมาจากเวียงจันทน์ ชาวไทยยวนยังรักษาประเพณีและวัฒนธรรมแบบโยนกไว้ได้ดีมาก ภาษาไทยยวน ใช้พูดในหมู่ไทยยวนด้วยกันเองซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 , 000 คน ในเขตอำเภอสีคิ้ว ในท้องที่ตำบลลาดบัวขาว ตำบลสีคิ้ว และตำบลบ้านหัน นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม ชาวจีน ชาวเวียดนาม และชาวแขก
- 34. ท้าวสุรนารี ( อักษรละติน : Thao Suranari) หรือ ย่าโม ( พ . ศ . 2314 — พ . ศ . 2395) บุคคลในประวัติศาสตร์ไทย ในฐานะวีร สตรีผู้กอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์แห่งเวียงจันทน์ เมื่อปี พ . ศ . 2369 อย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบันได้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าท้าวสุรนารีมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ เนื่องจากเรื่องราวของท้าวสุรนารีพบในหลักฐานเป็นบันทึกที่ออก เผยแพร่ภายหลัง พ . ศ . 2475 เท่านั้น
- 35. วีรกรรมของท้าวสุรนารี และบำเหน็จความชอบ วีรกรรมของคุณหญิงโมนั้นเป็นที่คนไทยรุ่นหลังทราบดีว่า เมื่อพุทธศักราช 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ เป็นกบฏต่อกรุงเทพมหานคร ยกกองทัพเข้ามายึดเมืองนครราชสีมาได้ แล้วกวาดต้อนครอบครัวชาวนครราชสีมาไป คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ ได้รวบรวมครอบครัวชาย หญิงชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2369 ช่วยให้ฝ่ายไทยสามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด เครื่องยศพระราชทานแก่ท้าวสุรนารี - ถาดทองคำใส่เครื่องเชี่ยนหมาก 1 ใบ - จอกหมากทองคำ 1 คู่ - ตลับทองคำ 3 ใบเถา - เต้าปูนทองคำ 1 ใบ - คนโท และขันน้ำทองคำอย่างละ 1 ใบ
- 36. นางสาวบุญเหลือ นางสาวบุญเหลือ หรือ ย่าเหลือ บุคคลในประวัติศาสตร์ไทย ในฐานะวีรสตรี ที่มีส่วนสำคัญในการกอบกู้เมืองนครราชสีมาร่วมกับท้าวสุรนารี จากการเข้ายึดตีเมือง ของกองทัพเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ ปี พ . ศ . 2369 ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
- 37. ประวัติ และวีรกรรมของนางสาวบุญเหลือ นางสาวบุญเหลือ เป็นบุตรีของ หลวงเจริญ กรมการผู้น้อยแห่งเมืองนครราชสีมา ครอบครัวของหลวงเจริญ มีความใกล้ชิดสนิทสนม และเคารพนับถือ พระยาปลัดเมืองนครราชสีมา และคุณหญิงโม เป็นอันมาก อีกทั้งพระยาปลัดเมือง และคุณหญิงโม ไม่มีบุตร และธิดา จึงได้รัก และเอ็นดูนางสาวบุญเหลือ ดุจว่าเป็นลูกหลานแท้ ๆ เมื่อ ปี พ . ศ . 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทน์ ได้ยกกองทัพเข้าแผ่นดินไทย จนถึงเมืองนครราชสีมา โดยอ้างว่า มีพระราชโองการให้ยกทัพไปกรุงเทพ เพื่อช่วยรบกับอังกฤษ และเนื่องจากในขณะนั้น เจ้าเมืองนครราชสีมา และพระยาปลัดเมืองไม่อยู่ ไปราชการเมืองขุขันธ์ เจ้าอนุวงศ์จึงยกทัพ เข้ายึดเมืองนคราชสีมาได้โดยง่าย แล้วกวาดต้อนผู้คนชาวนครราชสีมาเป็นเชลยขึ้นไปยังเวียงจันทน์ ในจำนวนเชลยเหล่านั้น มีคุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือรวมอยู่ด้วย
- 38. ระหว่างที่กองทัพเจ้าอนุวงศ์ และทหารลาว หยุดพักค้างแรมระหว่างเดินทางไปเวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ . ศ . 2369 คุณหญิงโม ร่วมกับ นางสาวบุญเหลือ และหลวงณรงค์สงคราม หัวหน้าชาวเมือง ได้ใช้กลอุบาย โดยให้ชาวเมืองเลี้ยงสุราอาหารแก่ทหารลาวที่ควบคุมตัวมา เมื่อทหารเจ้าอนุวงศ์หลงกลกินเหล้าเมายาจนขาดสติเกือบหมดกองทัพ เมื่อได้โอกาสอันเหมาะสมแล้ว กำลังชาวโคราชที่ทุ่งสัมฤทธิ์ทั้งชาย และหญิง ก็แย่งอาวุธโจมตีเข่นฆ่าทหารลาวจนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้แผนกอบกู้อิสรภาพของนครราชสีมาสำเร็จ และในเหตุการณ์ครั้งนั้น นางสาวบุญเหลือได้เสียสละพลีชีพด้วยการนำไม้ฟืนจากกองไฟ วิ่งหลอกล่อทหาร ตรงไปยังกองเกวียน กระสุนดินดำของกองทัพทหารลาว จนเกิดการระเบิด แสงเพลิงแดงฉานไปทั่วท้องทุ่งสัมฤทธิ์ ด้วยการตัดสินใจด้วยปฏิภาณอันห้าวหาญ เด็ดเดี่ยวในวีรกรรมครั้งนี้ ของนางสาวบุญเหลือ ยังคงประทับแน่นอยู่ในความทรงจำ ของลูกหลานชาวนครราชสีมาตลอดไม่รู้ลืม
- 39. ประตูเมืองนครราชสีมา ประตูเมืองนครราชสีมา รวมทั้ง กำแพงเมือง และ คูเมือง เป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของตัวเมืองนครราชสีมา ที่ได้ก่อสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ปัจจุบันมีประตูชุมพลที่ยังคงรูปลักษณ์เดิมอยู่ได้ และนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของนครราชสีมา ประตูเมืองนครราชสีมามีทั้งหมด 4 ประตู คือ 1. ประตูชุมพล 2. ประตูพลแสน 3. ประตูพลล้าน 4. ประตูไชยณรงค์
- 40. รายละเอียดของประตูเมือง ประตูชุมพล ก่อนการบูรณะ ประตูชุมพล ประตูเมืองทางทิศตะวันตกของเขตเมืองเก่า เป็นประตูเมืองเพียงแห่งเดียว ในบรรดาประตูเมืองทั้งหมด 4 ประตูของเมืองนครราชสีมา ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่พร้อมกำแพงเมืองเก่า สำหรับ ชื่อประตู " ชุมพล " นั้นหมายความถึง ที่ชุมนุมพลส่วนใหญ่ เป็นประตูสำหรับเตรียมไพร่พล และออกศึก เนื่องจากมีภูมิประเทศเปิดกว้าง ไม่มีป้อมปราการตามธรรมชาติเหมือนประตูอื่น ๆ ในอดีตมีความเชื่อว่า เมื่อลอดผ่านประตูชุมพลไปทำศึกแล้ว จะแคล้วคลาดได้กลับบ้านเมือง
- 42. ประตูไชยณรงค์ ประตูเมืองทางทิศใต้ ชาวเมืองเรียกประตูนี้ว่า " ประตูผี " เนื่องจากในอดีต มีประเพณีความเชื่อว่า เมื่อมีคนตายขึ้นในเมือง ห้ามมีการเผา หรือฝังเอาไว้ในเมือง ให้ออกไปจัดการกันที่นอกเมือง โดยให้นำศพผ่านออกทางประตูนี้เพียงประตูเดียว นอกจากนั้นแล้ว ทางทิศใต้นี้ยังมีบึงใหญ่ มีชื่อเรียกว่า " หนองบัว " สำหรับชื่อประตู " ไชยณรงค์ " นั้น เนื่องมาจาก เมื่อยามเกิดศึกสงคราม ประตูนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ยากต่อการโจมตีของข้าศึก เพราะภูมิประเทศด้านนี้ เต็มไปด้วยหนองน้ำขนาดใหญ่ และเล็ก แต่ในปัจจุบัน หนองน้ำเหล่านั้นได้ถูกถมไปหมดแล้ว
- 43. ประตูพลล้าน ประตูเมืองทางทิศตะวันออก ชาวเมืองเรียกประตูนี้ว่า " ประตูตะวันออก " หรือ " ประตูทุ่งสว่าง " แต่เดิม ทิศนี้มีบึงใหญ่ที่เรียกว่า " บึงทะเลหญ้าขวาง " มีพื้นที่กว้างไม่น้อยกว่า 10 ตารางกิโลเมตร ส่วนกลางเป็นบึงใหญ่ และมีพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์พาหนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ " วัดทุ่งสว่าง " สำหรับชื่อประตู " พลล้าน " นั้น นัยว่าเพื่อเป็นการข่มขวัญข้าศึก ที่ถึงจะยกทัพมาสักล้าน ก็ยังต่อสู้ได้
- 45. ประวัติ เมืองพิมายเป็นเมืองที่สร้างตามแบบแผนของศิลปะขอม มีลักษณะเป็นเวียงสี่เหลี่ยม ชื่อ พิมาย น่าจะมาจากคำว่า วิมาย หรือ วิมายปุระ ที่ปรากฏในจารึกภาษาขอมบนแผ่นหินตรงกรอบประตูระเบียงคดด้านหน้าของปราสาท จากหลักฐานศิลาจารึกและศิลปะสร้างบ่งบอกว่า ปราสาทหินพิมายคงเริ่มสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในฐานะเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ รูปแบบของศิลปะเป็นแบบบาปวนผสมผสานกับศิลปะแบบนครวัด ซึ่งหมายถึงปราสาทนี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นสถานที่ทางศาสนาพุทธในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
- 46. โบราณสถาน ตัวอุทยานตั้งอยู่ฟากทิศตะวันออกของแม่น้ำมูล บนพื้นที่ 115 ไร่ วางแผนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 565 เมตร ยาว 1 , 030 เมตร ลักษณะพิเศษของปราสาทหินพิมาย คือ ปราสาทหินแห่งนี้สร้างหันหน้าไปทางทิศใต้ ต่างจากปราสาทหินอื่นๆที่มักหันไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้หันรับกับเส้นทางตัดมาจากเมืองยโศธรปุระ เมืองหลวงในสมัยนั้นของขอม ซึ่งเข้ามาสู้เมืองพิมายทางทิศใต้
- 47. ปราสาทหินพนมวัน ปราสาทหินพนมวัน ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลโพธิ์ ถนนสายโคราช - ขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา เป็นโบราณสถานสถาปัตยกรรมในคติความเชื่อของเขมรโบราณ สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อเป็นเทวสถาน ต่อมาภายหลังดัดแปลงเป็นพุทธสถาน เป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
- 48. แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกที่เกิดจากคลองท่าด่าน น้ำตกเหวนรกเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นน้ำตกที่มีความสูงและสวยงามมากแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เดิมก่อนที่จะมีการตัดถนนสายปราจีนบุรี - เขาใหญ่นั้น จะต้องเดินเท้าเข้ามาโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง แต่หลังจากตัดถนนสายปราจีนบุรี - เขาใหญ่เสร็จแล้ว ถนนตัดผ่านใกล้น้ำตกเหวนรกมาก โดยมีลานจอดรถห่างจากตัวน้ำตกเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ระหว่างทางสามารถเดินชมธรรมชาติอันสวยงามสองข้างทางได้ เมื่อถึงตัวน้ำตกจะมีบันไดลงไปอีกราว 50 เมตร ซึ่งค่อนข้างแคบและชัน แต่เมื่อลงไปถึงจุดชมวิวก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกได้อย่างสวยงาม หากไปในฤดูฝนมีน้ำมาก ละอองน้ำจะกระเซ็นต้องกับแสงอาทิตย์เป็นสายรุ้งอย่างงดงาม แต่หากมาชมในหน้าแล้งนั้นอาจต้องผิดหวังเพราะไม่มีน้ำ เห็นแต่เพียงหน้าผาแห้งๆ เท่านั้น
- 49. น้ำตกผากล้วยไม้ เกิดจากห้วยลำตะคอง การเดินทางมาจะต้องจอดรถที่ลานกางเต๊นท์ผากล้วยไม้ แล้วเดินเท้าเลาะไปตามห้วยลำตะคอง ผ่านป่าดงดิบตลอดทาง หากโชคดีอาจพบนกบางชนิด เช่น นกกางเขนหลังเทา เมื่อเดินเข้ามาประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกผากล้วยไม้ มีป้ายเขียนเอาไว้ชัดเจน น้ำตกผากล้วยไม้นั้นลักษณะเป็นผาไม่สูงนัก ชื่อน้ำตกผากล้วยไม้นี้มาจากมีกล้วยไม้หลายชนิดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกล้วยไม้หวายแดง ซึ่งจะออกดอกช่วงเดินเมษายน
- 55. บรรณานุกรม วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี “ จังหวัดนครราชสีมา ,” ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดนครราชสีมา . 4 พ . ย . 2553 < ( http :// th . wikipedia . org / wiki> . 4 พ . ย . 2553 บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์ “ ปราสาทหินพิมาย ,” ปราสาทหินพิมาย . 4 พ . ย . 2553 < ( http :/ / www . oceansmile . com / N / Nan / NANm7 . htm> . 4 พ . ย . 2553 . Kapok “ แหล่งท่องเที่ยว จ . นครราชสีมา ,” นครราชสีมา เมืองหญิงกล้า . 4 พ . ย . 2553< ( http :// travel . kapook . com / view7171 . html ). 4 พ . ย . 2554
- 56. จัดทำโดย นางสาว สุพัตรา พยัฆชน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ร้อยเอ็ด