แมวเปอร์เซีย1
- 1. แมวเปอร์เซีย
ถิ่นกาเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซียหรืออิหร่าน ถูกนาไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ทั้งใน ยุโรปและอเมริกาเป็นเวลาเกือบ
ร้อยปีมาแล้ว สาหรับประเทศไทยจัดเป็นแมวต่างประเทศ พันธุ์แรกที่ถูกนามาเผยแพร่ เนื่องจากเป็นแมวที่มี
อุปนิสัยอ่อนโยน สุขุมเข้ากับคนง่าย มี ความร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจงและมีไหวพริบ
จะเป็นแมวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่มีโครงร่างหนา กระดูกจะดูใหญ่แข็งแรง หัวกลม ถ้ามองจากด้านข้างจะ
เห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากอย่างชัดเจน มองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา จะต่างกับแมว
เอเชียอย่างแมวไทยซึ่งจมูกกับหน้าผากเมื่อมองจากด้านข้างค่อนข้างจะเป็นเส้นตรง
แมวเปอร์เซียมีหน้าตาหลากหลายแบบ อาจจะดูยากหน่อยระหว่างแมวขนยาวสายพันธุ์อื่นกับ โครงร่างของแมว
เปอร์เซียลาตัวจะต้องสั้น ขาสั้นเตี้ยแต่หนาดูแข็งแรง หัวกลมหน้ากลม หูเล็กปลายหูมน หูอยู่ในตาแหน่งที่ห่าง
กันและไม่สูงเกินไป ตากลมโต หางสั้นแต่ก็ต้องเหมาะสมกับลาตัว หางตรงไม่คดงอบิดเบี้ยว ขนยาวหนาฟู
ท่วงท่าการเดินดูดีมีสง่า
- 2. การแบ่งแยกชนิดของแมวเปอร์เซีย
1.Solid colour
ประเภทSolid นี้ลักษณะขนจะต้องเป็นสีเดียวตลอดตัว ไม่ควรมีสีอื่นแซมเลย สีจะต้องเสมอกันตลอด เช่น
white ขนสีขาวบริสุทธิ์ ,blue ขนสีเทาเข้ม , black สีขนดาสนิท ,red ขนสีแดงเข้มและสดใส,
cream ขนสีครีมเข้ม, chocolate ขนสีน้าตาสช็อคโกแล็ต, lilac ขนสีลาเวนเดอร์
2.Sliver&Golden
Silver & Golden จะมีลักษณะพิเศษคือ ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้าเงินเท่านั้น
3.Shade&Smoke
ประเภทShade & Smoke จะมีลักษณะของสีขน3 แบบ คือ แบบ Shell จะมีสีที่ปลายขนเพียง
เล็กน้อย แบบ Shade จะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่า และแบบSmoke จะมีสีมากกว่าแบบShade
4.Tabby
Tabby จะมีลวดลายที่เป็นที่ยอมรับอยู่ 2 แบบ คือ Classic และ Mackerel
5.parti colour
ในประเภทParti-Color จะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น อันสืบเนื่องมาจากการสืบทอดทางโครโมโซม
6. Calico & Bi-Color
ประเภทCalico & Bi-Color สีทั่วไปตาจะเป็นสีทองแดง ถ้าเป็นตาสองสีตาข้างหนึ่งจะเป็นสีฟ้าอีกข้าง
เป็นสีทองแดง ความเข้มของสีตาทั้สองข้างเท่าๆกัน
7. Himalayan
เกิดจาการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวไทยวิเชียรมาส กับแมวเปอร์เซีย แมวประเภทนี้ก็จะมีลักษณะแต้มสี
ตาแหน่งเดียวกับแมววิเชียรมาส ของไทย คือ หูทั้งสองข้าง ที่หน้าครอบเหมือนหน้ากาก ขาทั้งสี่ ตาสีฟ้าสดใส
- 3. การให้อาหารแมว
อาหารสด
อาหารยอดฮิตได้แก่ ปลาทูนึ่ง ไก่ย่าง(โดยเฉพาะตับไก่แมวจะชอบมากแต่ต้องระวังพยาธิ) แมวไม่ชอบข้าวที่
แฉะเพราะจะติดฟันและเขี้ยวของมัน
อาหารแห้งสาเร็จรูป
การให้อาหารแห้งแมวต้องไม่ลืมที่จะเตรียมน้าไว้ให้มันเสมอ แมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเลีอกกิน ดังนั้นอาหารที่ให้
มันกินต้องมีกลิ่นหอม(สาหรับมัน)ไม่ว่าจะเป็น อาหารสดหรืออาหารแห้ง ยิ่งถ้าเป็นอาหารแห้งควรเทให้มันครั้ง
ละน้อยๆ แต่บ่อยๆ เพราะถ้าเททิ้งไว้นานๆ กลิ่นหอมจะหายหมด และในที่สุดอาหารเหล่านั้นก็กลายเป็น อาหาร
ของหนูและแมลงสาปแทน ถ้าเป็นไปได้ควรให้อาหารสดสลับกับอาหารแห้งแก่แมว เพราะบางครั้งมันอาจจะ
เบื่ออาหารที่จาเจถ้าเราอยากเอาใจมันก็น่าจะลอง สับเปลี่ยนชนิดอาหารให้มันบ้าง
อุปกรณ์สาหรับแมว
ชามใส่อาหาร ขนาดไม่เล็กกว่า6" ลึกไม่น้อยกว่า 1"
ชามใส่น้า ขนาดไม่เล็กกว่า6"
กะบะทราย ขนาดไม่เล็กกว่า8"ก x 12"ยx 2"ล หากใช้กะละมัง ควรมีขนาดไม่เล็กกว่า12" และมีความ
ลึก 2" หรือลึกกว่านี้ เพื่อไม่ให้ทรายกระเด็นออกนอกกะบะ ไม่ควรใช้กะบะทรายโลหะ เพราะจะขึ้นสนิมได้
ช้อนตักอุจจาระแมว (อาจไม่จาเป็นต้องใช้ก็ได้)
ไม้กวาดด้ามสั้นพร้อมที่ตักผง (อาจไม่จาเป็นต้องใช้ก็ได้)
เรื่องฟันของแมวเปอร์เซีย ซึ่งแมวหน้าหักจะมีปัญหาเกี่ยวกับฟันบ่อยมาก เค้าแนะนาว่า หากลูกแมว (ต้องลูก
แมวเท่านั้น) อายุประมาณ2 เดือน มีวี่แววว่าฟันจะเบี้ยว ให้ตัดเขี้ยวออกซะหนึ่งซี่ ด้วยกรรไกรตัดเล็บ โอ๊ะโอ
โอ๊ยโย๋... คาดว่าน่าจะเป็นเพราะ หากเราปล่อยให้แมวโตขึ้นมาด้วยฟันที่ผิดปรกติ เขี้ยวอาจไปแทงเหงือกทาให้
แมวเจ็บและทาปากเบี้ยวเพื่อหลีกเลี่ยงและหลบตรงที่เจ็บ และแมวก็จะโตขึ้นมาด้ายใบหน้าทีผิดรูป หมดสวยไป
เลย การตัดเขี้ยวออกก็เพื่อไม่ให้ไปแทงเหงือกนั่นเอง (อันนี้สันนิษฐานเอาเองนะว่าเป็นแบบนี้เพราะถามเค้าแล้ว
เค้าก็อธิบายไม่ละเอียด) แต่ฟันที่จะขึ้นใหม่นั้นจะเบี้ยวอีกหรือเปล่าไม่มีใครยืนยันได้ค่ะ ก่อนอาบน้าให้แมวก็
ต้องแปรงขน จัดการกับขนที่พันกันซะก่อน ม่ายงั้นพออาบน้าไปยิ่งพันกันมากกว่าเดิมอีกไม่รู้ด้วย