แมวเปอร์เซีย
- 2. ถือเป็นราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลางที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีประวัติแมวเปอร์เซีย
และวิธีเลี้ยงแมวเปอร์เซียมาฝาก
เพราะ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนยาว หน้าตาน่าเอ็นดู หัวกลมสวย ตากลมโต
มีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงหน้าตาก็มีหลายแบบ มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ร่าเริงซุกซน
ชอบประจบประแจง และมีไหวพริบ
ซึ่งแมวพันธุ์นี้นับเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนาเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นพันธุ์แรกด้วย
แมวเปอร์เซีย มีถิ่นกาเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1684
ได้มีการบันทึกลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับที่มาของ แมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน (Persian Cats) ว่า
พ่อค้าทะเลทราย (หรือที่เรียกว่ากองคาราวาน) ทางแถบๆ ตะวันตกของตุรกีและอิหร่าน
มักบรรทุกสินค้ามากมาย อาทิเครื่องเทศ อัญมณี และสินค้ามีค่าอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งก็มีแมวขนยาวติดมาด้วย
แมวขนยาวนั้นถูกซื้อโดยกะลาสีและได้นาแมวติดไปกับเรือสินค้าเดินทางเข้าทวีปยุโรป
ซึ่งหลายปีต่อมาแมวพันธุ์นั้นถูกรู้จักในชื่อ เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)
ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษเริ่มผสมพันธุ์แมวเตอร์กิส แองโกร่า กับแมวสายพันธุ์อื่น
และพัฒนาจนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม
กระทั่งในที่สุดแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับและจดทะเบียนขึ้นที่ประเทศอังกฤษในชื่อว่า Longhair
ซึ่งชื่อของมันก็ถูกตั้งขึ้นตามประเทศต้นกาเนิดนั่นเอง
นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว แมวเปอร์เซียยังถูกนาไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ
ทั้งยุโรปและอเมริกามานานหลายร้อยปี ซึ่งอเมริกาจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า Persian
แมวเปอร์เซีย
- 3. แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง
หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตาแหน่งที่ห่างกัน
มีจมูกที่หัก กล่าวคือ
สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน
เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา
สาหรับแมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ ควรจะมีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา
โครงสร้างลาตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตาแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นและตรง
ไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู มีท่วงท่าการเดินดูสง่างาม ทั้งนี้ แมวเปอร์เซียในสมัยแรก ๆ
มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างจากแมวเปอร์เซียในปัจจุบันมากทีเดียว ปัจจุบันมันถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น
ขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น
ลักษณะสายพัน
ธุ์
แมวเปอร์เซียถูกแบ่งออกเป็น 7 ชนิด โดยแบ่งตามสี
และลักษณะเป็นหลัก
- 4. 1.Solid colour ขนจะเป็นสีเดียวตลอดตัว ไม่ควรมีสีอื่นแซมเลย สีจะต้องเสมอกันตลอด เช่น white
ขนสีขาวบริสุทธิ์, blue ขนสีเทาเข้ม, black สีขนดาสนิท, redขนสีแดงเข้มและสดใส, cream ขนสีครีมเข้ม,
chocolate ขนสีน้าตาลช็อกโกแลต, lilac ขนสีลาเวนเดอร์
2.Sliver&Golden ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้าเงินเท่านั้น
- 5. 3.Shade&Smoke จะมีสีขน 3 แบบ คือแบบ Shell จะมีสีที่ปลายขนเพียงเล็กน้อย แบบ Shade
จะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่า และแบบ Smoke จะมีสีมากกว่าแบบ Shade
4.Tabbyจะมีลวดลายที่เป็นที่ยอมรับอยู่ 2 แบบ คือ Classic และ Mackerel
- 7. 7.Himalayan เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวไทยวิเชียรมาสกับแมวเปอร์เซีย
จะมีลักษณะแต้มสีตาแหน่งเดียวกับแมววิเชียรมาส คือหูทั้งสองข้าง ที่หน้าครอบเหมือนหน้ากาก ขาทั้งสี่
ตาสีฟ้าสดใส
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า แมวเปอร์เซียเป็นแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ
ค่าเลี้ยงดูและค่าตัวอาจแพงสักหน่อย ทั้งนี้ ราคาของแมวเปอร์เซีย มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน
ขึ้นกับเกรดของสายพันธุ์ สามารถแบ่งได้เป็น
เกรดเพ็ด (PET Quality) ส่วนมากเป็นแมวที่เลี้ยงตามบ้านทั่วไป ราคาประมาณ 5,000-15,000 บาท
จมูกยาว หน้าไม่บี้ หรือเรียกว่าหน้าตุ๊กตา
เกรดทาพันธุ์และโชว์ (Breed and Show Quality) ส่วนมากเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เลี้ยงไว้เพื่อประกวด
หรือโชว์ มีลักษณะของแมวเปอร์เซียที่ดีครบ โดยหน้าจะบี้ คือ จมูกและตาเกือบเสมอกัน
ราคาแมวเปอร์เซี
ย
- 8. นอกจากนี้ ระดับของราคายังแบ่งเป็นสายพันธุ์ในประเทศอยู่ที่ 25,000-35,000 บาท สายพันธุ์นาเข้า
35,000-100,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับสุขภาพของแมว และลักษณะเด่นตามสายพันธุ์
เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว จงพึงระลึกไว้เสมอว่า
การดูแลขนของแมวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่จาเป็นอย่างยิ่ง
ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทาความสะอาดถึงการแปลงและสางขนแมวอย่างสม่าเสมอจะช่วยป้ องกันการเกิดขนพันกัน
เพราะการที่ขนพันกันเป็นกระจุกนั้นจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรครวมทั้งพยาธิต่าง ๆ
ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบและเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย
ในเรื่องของอาหารการกินนั้น ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารของแมวไม่อุดตัน
เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียทาความสะอาดขน
อันเป็นสาเหตุในการกินหรือกลืนเส้นขนเข้าไปเป็นจานวนมาก
หากเส้นขนจะไปรวมตัวกันในช่องท้องจะทาให้แมวเปอร์เซียสารอกหรือเกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้
โรคที่พบบ่อยใน แมวเปอร์เซีย นั้นส่วนใหญ่จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นและถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น
โรคหายใจขัด หอบ หรือ ท่อน้าตาอุดตัน เป็นต้น นอกจากนี้
แมวเปอร์เซียที่มีสีขาวรวมถึงแมวเปอร์เซียที่มีตาสีฟ้าหรือตาข้างละสีมักมีความผิดปกติตั้งแต่กาเนิด คือ หูหนวก
อีกด้วย
อาหารและการเลี้ยงดู
โรคและวิธีการป้ องกัน
- 9. อย่างไรก็ตาม โรคท่อน้าตาอุดตัน และปัญหาคราบน้าตา เป็นปัญหาที่พบบ่อยและถูกถามถึงมากที่สุด
อาการที่พบ คือ มีน้าตา ไหลในตาข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ไม่มีอาการหรี่ตา น้าตาที่ไหลออกมาเป็นน้าตาใสๆ
ร่วมกับมีคราบติดบริเวณร่องจมูก ซึ่งโรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในท่อน้าตา
เนื่องจากท่อน้าตาและโพรงจมูกของแมวเปอร์เซียคดไปคดมา
เมื่อเจ้าเหมียวของคุณประสบปัญหานี้เข้า การแก้ปัญหาเบื้องต้น
ผู้เลี้ยงอาจใช้ผ้าชุบน้าอุ่นเคอยเช็ดคราบน้าตาเป็นประจา เพราะหากปล่อยไว้จนแห้ง อาจเช็ดไม่ออก
หมดสวยหมดหล่อไม่รู้ด้วยนะคะ
แต่ถ้าหากมีคราบน้าตามเยอะและข้นกว่าปกติ อาจต้องใช้ยาป้ายตาร่วมกับการเช็ดคราบน้าตา
หรืออาจพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อล้างท่อน้าตา และทาการรักษาต่อไป