SlideShare a Scribd company logo
1 of 23
เป็นหน่วยเริ่มต้นในการทางานของคอมพิวเตอร์ เพราะ มีหน้าที่ในการนาข้อมูลหรือคาสั่ง
ต่างๆ เข้าไปในระบบการทางานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์รับข้อมูลของหน่วยรับข้อมูล มีหลายชนิด เช่น แป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน
จอยสติก จอสัมผัส แต่ทุกชนิดทาหน้าที่รับข้อมูลหรือคาสั่ง เข้าสู่ระบบการทางานของ
คอมพิวเตอร์เหมือนกัน
อุปกรณ์ของหน่วยรับข้อมูลแต่ละชนิด มีวิธีการนาเข้าข้อมูล หรือรับคาสั่ง ตลอดจน
ลักษณะของรูปแบบข้อมูลนาเข้าที่ต่างกัน
หน้าที่สาคัญ
คือ เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูล หรือคาสั่ง เข้าสู่ระบบการทางานของคอมพิวเตอร์
หน่วยรับข้อมูลจึงเป็นหน่วยทางานที่ช่วยให้มนุษย์ สามารถติดต่อสั่งงานเครื่อง
คอมพิวเตอร์ได้
คีย์บอร์ด (Keyboard)
Keyboard เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการนาข้อมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะ
เป็นปุ่มตัวอักษรเหมือนปุ่มเครื่องพิมพ์ดีด เป็นอุปกรณ์รับเข้าพื้นฐานที่ต้องมีในคอมพิวเตอร์ทุก
เครื่อง จะรับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทาการเปลี่ยน เป็นรหัสเพื่อส่งต่อไปให้กับคอมพิวเตอร์
แป้นพิมพ์ที่ใช้ในการป้อนข้อมูลจะมีจานวนตั้งแต่ 50 แป้นขึ้นไป แผงแป้นอักขระส่วนใหญ่มีแป้น
ตัวเลขแยกไว้ต่างหาก เพื่อทาให้การป้อนข้อมูลตัวเลขทาได้ง่ายและสะดวกขึ้น การวางตาแหน่ง
แป้นอักขระ จะเป็นไปตามมาตรฐานของระบบพิมพ์สัมผัสของเครื่องพิมพ์ดีด ที่มีการใช้แป้นยก
แคร่ (shift) เพื่อทาให้สามารถใช้พิมพ์ได้ทั้งตัวอักษร ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก ซึ่งระบบ
รับรหัสตัวอักษรที่ใช้ในทางคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นรหัส 7 หรือ 8 บิต กล่าวคือ เมื่อมีการ
กดแป้นพิมพ์ แผงแป้นอักขระจะส่งรหัสขนาด 7 หรือ 8 บิต นี้เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์
ประเภทของ Keyboard ดูได้จากจานวนปุ่ม และรูปแบบการใช้งาน Key board ที่
มีอยู่ปัจจุบันจะมีอยู่ 5 แบบ
1. Desktop Keyboard
ซึ่ง Keyboard มาตรฐาน จะเป็นชนิด 101 คีย์
2. Desktop Keyboard with hot
keys
เป็น Keyboard ที่มีจานวนคีย์มากกว่า 101 คีย์ ขึ้นไปแล้วแต่วัตถุประสงค์ใช้
งาน ซึ่งจะมีปุ่มพิเศษ สาหรับระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งแต่เวอร์ชัน 95 เป็นต้น
ไป
3. Wireless Keyboard
Keyboard ไร้สายเป็น Keyboard ที่ทางานโดยไม่ต้องต่อสายเข้ากับ
ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์แต่จะมีอุปกรณ์ ที่รับสัญญาณจากตัว Keyboard อีกทีหนึ่ง การ
ทางานจะใช้ความถี่วิทยุในการสื่อสาร ซึ่งความถี่ที่ใช้จะอยู่ที่ 27 MHz อุปกรณ์ชนิด นี้
มักจะมาคู่กับอุปกรณ์ Mouse ด้วย
4. Security Keyboard
รูปร่างและรูปแบบการทางานจะเหมือนกับ Keyboard แบบ Desktop แต่
จะมีช่องสาหรับเสียบ Smart Card เพื่อป้องกันการใช้งานจากผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ
Keyboard ชนิดนี้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการ ปลอดภัยสูง หรือใช้ควบคุมเครื่อง
Server ที่ยอมให้เฉพาะ Admin เท่านั้นเป็นคนเปลี่ยนแปลงข้อมูล
5. Notebook Keyboard
เป็น Keyboard ที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดบางเบา ขนาดความกว้าง และยาว
จะขึ้นอยู่กับเครื่อง Notebook ที่ใช้ปุ่มบนแป้นพิมพ์จะอยู่ติดกันและบางมาก คีย์
พิเศษต่างจะถูกลด และเพิ่มเฉพาะปุ่มที่จา เป็นในการ Present งาน หรือ การพัก
เครื่องเพื่อประหยัดพลังงาน
คีย์บอดรุ่นเก่าในอดีต
คอมพิวเตอร์ในยุคเก่าๆ ราวๆ 20 กว่าปีก่อน คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานโดยการนา
คีย์บอร์ดไปเสียบกับจอทีวี ซึ่งหน่วยประมวลผลทั้งหลายก็จะรวมอยู่ในตัวคีย์บอร์ดนั้นเอง
และกลับมาอีกครั้งในยุคนี้ ซึ่งทาง Commodore เจ้าของผลิตภัณฑ์ในยุดนั้น ได้นา
แนวคิดกลับมาปัดฝุ่นใหม่ แล้วจับยัดอุปกรณ์สมัยใหม่ลงไปให้เราได้ใช้งานกันอีกครั้ง ใน
ชื่อใหม่ว่า Commodore 64
-สเปก
-Intel Atom D525 dual-core ความเร็ว 1.8 GHz
-NVIDIA ION 2
-RAM 2 GB
-Harddisk 160 GB
เมาส์(Mouse)
Mouse เป็น อุปกรณ์ที่ทาหน้าที่ป้อนข้อมูลอย่างหนึ่งแต่ที่เห็นการทางาน
โดยทั่วไปจะเป็นตัวที่ใช้ควบคุมลูกศรให้เคลื่อนที่ไปยังตาแหน่งต่างๆ บนจอภาพ เหมาะ
สาหรับใช้งานเมื่อต้องเลือก หรือเลื่อนวัตถุต่างๆ บนจอ Mouse ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์
ได้ 2 แบบ ได้แก่ 9 Pin, Serial Port และ PS/2 (Personal System
Version2)
Mouse แบ่งได้เป็นสองแบบคือ
1. แบบทางกล
เป็นแบบที่ใช้ลูกกลิ้งกลม ที่มีน้าหนักและแรงเสียดทานพอดี เมื่อเลื่อน Mouse
ไปในทิศทางใดจะทาให้ลูกกลิ้งเคลื่อนไปมาในทิศทางนั้น ลูกกลิ้งจะทาให้กลไกซึ่งทา
หน้าที่ปรับแกนหมุนในแกน X และแกน Y แล้วส่งผลไปเลื่อนตาแหน่งตัวชี้บนจอภาพ
Mouse แบบทางกลนี้มีโครงสร้างที่ออกแบบได้ง่าย มีรูปร่างพอเหมาะมือ ส่วนลูกกลิ้ง
จะต้องออกแบบให้กลิ้งได้ง่ายและไม่ลื่นไถล สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
สัมพันธ์ระหว่างทางเดินของMouseและจอ ภาพ
Ball Mouse
มีชนิดที่เป็น Ball อยู่ในแนวตั้งและแนวนอน Mouse แบบ Ball การใช้งาน
ต้องเลื่อน Mouse ยังแกนต่างๆบนหน้าจอเพื่อเลือก หรือยกเลิกโปรแกรมที่ทางานอยู่
ต่อมาได้พัฒนา Mouse ให้มี wheel เพื่อให้สะดวกในการใช้งานกับ Windows
ตั้งแต่เวอร์ชัน 95 เป็นต้นมา ซึ่งช่วยในการเลื่อนหน้าต่าง Window ได้ง่ายขึ้นโดยไม่
ต้องเลื่อน Mouse เพียงแต่ใช้นิ้วขยับไปที่ wheel ขึ้นลงเท่านั้น
Wireless Mouse
เป็น Mouse ที่มีการทางานเหมือน Mouse ทั่วไปเพียงแต่ไม่มีการใช้สายไฟ
ต่อออกมาจากตัว Mouse ซึ่ง Mouse ชนิดนี้จะมีตัวรับและตัวส่งสัญญาณซึ่ง
ทางด้านตัวรับสัญญาณอาจจะเป็นหัวต่อ แบบ PS/2 หรือ แบบ USB ที่เรียกว่า
Thumb USB receiver ซึ่งใช้ความถี่วิทยุอยู่ที่ 27MHz
Mouse สาหรับ Macintosh
เป็น Mouse ที่ใช้เฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh ซึ่งเป็น Mouse
ที่ไม่มี wheel และปุ่มคลิ๊ก ก็ มีเพียงปุ่มเดียวแต่สามารถใช้งาน ได้ครอบคลุมทุกหน้าที่
การทางาน ซึ่งทางบริษัท Apple ออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่อง Macintosh
เท่านั้น
2. Mouse แบบใช้แสง
อาศัยหลักการส่งแสงจาก Mouse ลงไปบนแผ่นรอง Mouse (mouse
pad)
เป็น Mouse ชนิดใช้แสงซึ่งปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิต Mouse ชนิดนี้ได้เพิ่มให้มี
ความสวยงามต่างๆกันไป เช่น ใส่แสงให้กับ wheel หรือไม่ก็ออกแบบให้มีแสงสว่าง
ทั้งตัว Mouse แต่หน้าที่การทางานก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก Ball Mouse
เมาส์ในอดีต
ในสมัยนั้นมันเมาส์จากไมโครซอฟต์ตัวนี้ถูกเรียกว่า “The Green-Eyed
Monster” หรือแปลเป็นไทยคืออสุรกายนัยย์ตาเขียว ถือเป็นการบุกเบิกในยุคแรกๆ
ของการใช้เมาส์ที่ช่วยให้การทางานกับคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้นกว่าการใช้แค่คีย์บอร์ดอย่าง
เดียว
แทรคบอล ( Trackball )
แทรคบอล ( Trackball ) เป็นอุปกรณ์ที่มีหลักการทางานคล้ายกับเมาส์ โดยมี
ลูกบอลติดตั้งไว้ส่วนบนเพื่อใช้สาหรับควบคุมทิศทาง เมื่อผู้ใช้หมุนลูกบอลก็คือการย้าย
ตาแหน่งตัวชี้นั่นเอง ลักษณะของลูกบอลมีขนาดใหญ่กว่าเมาส์มาก ส่วนใหญ่จะนาไปใช้
ติดตั้งแยกต่างหาก เพื่อช่วยให้การทางานกับคอมพิวเตอร์แบบพกพาสะดวกมากยิ่งขึ้น ใน
บางรุ่นอาจติดตั้งแทรคบอลอยู่ไว้ภายในด้วย แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว
จอยสติก (Joystick)
คือ อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นคันโยก มีปุ่มกดที่ด้ามคันโยก เพื่อควบคุมตาแหน่งบน
จอภาพได้ทุกตาแหน่งและทุกทิศทาง มักใช้ควบคุมโปรแกรมประเภทเกมส์ ที่เป็น
ภาพเคลื่อนไหว วีดีโอเกมส์ หรือ โปรแกรมประเภทการออกแบบทาให้ผู้ใช้สามารถ
ควบคุมและใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ง่ายและสะดวก เวลาใช้งานให้นาจอยสติกต่อ
พ่วงกับพอร์ตจอยสติก ซึ่งอยู่ในส่วนของการ์ดเสียงด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์
สแกนเนอร์ (Scanner)
สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์ซึ่งจับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพจากรูปแบบของแอนาลอกเป็น
ดิจิตอลซึ่งคอมพิวเตอร์ สามารถแสดง, เรียบเรียง, เก็บรักษาและผลิตออกมาได้ ภาพนั้น
อาจจะเป็นรูปถ่าย, ข้อความ, ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสามมิติ สามารถใช้สแกนเนอร์
ทางานต่างๆได้ดังนี้
- ในงานเกี่ยวกับงานศิลปะหรือภาพถ่ายในเอกสาร
- บันทึกข้อมูลลงในเวิร์ดโปรเซสเซอร์
- แฟ็กเอกสาร ภายใต้ดาต้าเบส และ เวิร์ดโปรเซสเซอร์
- เพิ่มเติมภาพและจินตนาการต่าง ๆ ลงไปในผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาต่าง ๆ
โดยพื้นฐานการทางานของสแกนเนอร์, ชนิดของสแกนเนอร์ และ
ความสามารถในการทางานของสแกนเนอร์แบ่งออกได้ดังต่อไปนี้
ชนิดของเครื่องสแกนเนอร์
สแกนเนอร์สามารถจัดแบ่งตามลักษณะทั่วๆ ไป ได้ 2 ชนิด คือ
Flatbed scanners, ซึ่งใช้สแกนภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์ต่าง ๆ
สแกนเนอร์ ชนิดนี้มีพื้นผิวแก้วบนโลหะที่เป็นตัวสแกน เช่น ScanMaker III
Transparency and slide scanners, ซึ่งถูกใช้สแกนโลหะโปร่ง เช่น ฟิล์ม
และ สไลด์
การทางานของสแกนเนอร์
การจับภาพของสแกนเนอร์ ทาโดยฉายแสงบนเอกสารที่จะสแกน แสงจะผ่าน
กลับไปมาและภาพ จะถูกจับโดยเซลล์ที่ไวต่อแสง เรียกว่า charge-couple
device หรือ CCD ซึ่งโดยปกติพื้นที่มืดบน กระดาษจะสะท้อนแสงได้น้อยและพื้นที่ที่
สว่างบนกระดาษจะสะท้อนแสงได้มากกว่า CCD จะสืบหาปริมาณแสงที่สะท้อนกลับ
จากแต่ละพื้นที่ของภาพนั้น และเปลี่ยนคลื่นของแสงที่สะท้อน กลับมาเป็นข้อมูล
ดิจิตอล หลังจากนั้นซอฟต์แวร์ที่ใช้สาหรับการสแกนภาพก็จะแปลงเอาสัญญาณเหล่านั้น
กลับมาเป็นภาพ บนคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง
สิ่งที่จาเป็นสาหรับการสแกนภาพมีดังนี้
- สแกนเนอร์
- สาย SCSI สาหรับต่อจากสแกนเนอร์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
- ซอฟต์แวร์สาหรับการสแกนภาพ ซึ่งทาหน้าที่ควบคุมการทางานของสแกนเนอร์ให้
สแกนภาพตามที่กาหนด
- สแกนเอกสารเก็บไว้เป็นไฟล์ที่นากลับมาแก้ไขได้อาจต้องมีซอฟต์แวร์ที่สนับสนุน
ด้าน OCR
- จอภาพที่เหมาะสมสาหรับการแสดงภาพที่สแกนมาจากสแกนเนอร์
- เครื่องมือสาหรับแสดงพิมพ์ภาพที่สแกน เช่น เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์หรือสไลด์
โปรเจคเตอร์
ประเภทของภาพที่เกิดจากการสแกน แบ่งเป็นประเภทดังนี้
1. ภาพ Single Bit แบ่งออกได้สองประเภทคือ
- Line Art
- Halftone
2. ภาพ Gray Scale
3. ภาพสี
4. ตัวหนังสือ
จอสัมผัส (touch screen)
touch screen (หน้าจอสัมผัส) เป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นอุปกรณ์นาเข้าด้วย
หน้าจออ่อนไหวกับแรงกด ผู้ใช้ปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์โดยการสัมผัสภาพหรือคาบน
หน้าจอ
touch screen แบ่งออกสามเทคโนโลยี
- Resistive
- Surface wave
- Capacitive
ขอบคุณ
ผู้จัดทา
1.นายอธิษฐ์ เส้งทั่น ม.4.11 เลขที่ 3
2.นายธนัสสรณ์ วงศ์พัชรธรรม ม.4.11 เลขที่ 6
3.นายกฤษฎา มหาวุฒิ ม.4.11 เลขที่ 9
4.นายศุภกร ปันแก้ว ม.4.11 เลขที่ 23
5.นายวงศธร สุภาวรรณ์ ม.4.11 เลขที่ 24
6.นายศรัณยพงศ์ ณ เชียงใหม่ ม.4.11 เลขที่ 26
7.นายสุวรพงศ์ ใบทอง ม.4.11 เลขที่ 33
8.นายเจษฎา กองธรรม ม.4.11 เลขที่ 37

More Related Content

What's hot

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
Rijin7
 
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)
micwatcharapong
 
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
micwatcharapong
 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
Rijin7
 
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุตบทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
Pokypoky Leonardo
 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
Rijin7
 

What's hot (20)

อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
 
Work3-12
Work3-12Work3-12
Work3-12
 
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานคอมพิวเตอร์
 
หน่วยที่2
หน่วยที่2หน่วยที่2
หน่วยที่2
 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
นวัตกรรม เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
 
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (1)
 
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
ส่งงานสไลด์ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ื
ส่งงานสไลด์  องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ืส่งงานสไลด์  องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ื
ส่งงานสไลด์ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ื
 
Hardware
Hardware Hardware
Hardware
 
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ PowerPoint
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ PowerPointอุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ PowerPoint
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์ PowerPoint
 
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์
 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
ฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์ฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์
 
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุตบทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
บทที่ 4 อินพุตและเอาท์พุต
 
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 

Viewers also liked

Viewers also liked (7)

Chapter 4 Storage Devices
Chapter 4 Storage DevicesChapter 4 Storage Devices
Chapter 4 Storage Devices
 
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
ก้าวไกลทันเทคโนโลยี 2
 
Wireless trackball
Wireless trackballWireless trackball
Wireless trackball
 
Chapter6 software
Chapter6 softwareChapter6 software
Chapter6 software
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
ข้อดี ข้อเสีย ของ E learning
ข้อดี ข้อเสีย ของ E learningข้อดี ข้อเสีย ของ E learning
ข้อดี ข้อเสีย ของ E learning
 
Chapter2 Input & Output Devices
Chapter2 Input & Output DevicesChapter2 Input & Output Devices
Chapter2 Input & Output Devices
 

Similar to หน่วยนำเข้าข้อมูล Present 4-11 (Group1)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
plamsilvia
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
plamsilvia
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
plamsilvia
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
plamsilvia
 
ฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์ฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์
jennysarida
 
หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)
Supaksorn Tatongjai
 
สื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
สื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้นสื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
สื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
Noppakhun Suebloei
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
natthaphorn_thepyoo
 
Computer
ComputerComputer
Computer
nuting
 
หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)
Supaksorn Tatongjai
 

Similar to หน่วยนำเข้าข้อมูล Present 4-11 (Group1) (20)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
ฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์ฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์
 
หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-9 (Group1)
 
สื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
สื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้นสื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
สื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
คียบอร์ด
คียบอร์ดคียบอร์ด
คียบอร์ด
 
ส่งสไลด์ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่งสไลด์  องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ส่งสไลด์  องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่งสไลด์ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
 
หน่วยที่ 4 1.หน่วยรับข้อมูล
หน่วยที่ 4  1.หน่วยรับข้อมูลหน่วยที่ 4  1.หน่วยรับข้อมูล
หน่วยที่ 4 1.หน่วยรับข้อมูล
 
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์3
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์3อุปกรณ์คอมพิวเตอร์3
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์3
 
Lesson2
Lesson2Lesson2
Lesson2
 
Lesson2
Lesson2Lesson2
Lesson2
 
หลักการทำงานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงานคอมพิวเตอร์หลักการทำงานคอมพิวเตอร์
หลักการทำงานคอมพิวเตอร์
 
หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)
หน่วยรับเข้า Present 4-10 (Group1)
 

More from Supaksorn Tatongjai (20)

Work30243 new58
Work30243 new58Work30243 new58
Work30243 new58
 
คำสั่งในโปรแกรมภาษาซี
คำสั่งในโปรแกรมภาษาซีคำสั่งในโปรแกรมภาษาซี
คำสั่งในโปรแกรมภาษาซี
 
7 3 condition
7 3 condition7 3 condition
7 3 condition
 
7 2โครงสร้าง
7 2โครงสร้าง7 2โครงสร้าง
7 2โครงสร้าง
 
7 1 dev c++
7 1 dev c++7 1 dev c++
7 1 dev c++
 
Work20253
Work20253Work20253
Work20253
 
Week4-16
Week4-16Week4-16
Week4-16
 
Week4-1
Week4-1Week4-1
Week4-1
 
Week3-14
Week3-14Week3-14
Week3-14
 
Week3-13
Week3-13Week3-13
Week3-13
 
Week3-2
Week3-2Week3-2
Week3-2
 
Week3-1
Week3-1Week3-1
Week3-1
 
Week2-13
Week2-13Week2-13
Week2-13
 
Week2-12
Week2-12Week2-12
Week2-12
 
Week2-2
Week2-2Week2-2
Week2-2
 
Week2-1
Week2-1Week2-1
Week2-1
 
Week1-11
Week1-11Week1-11
Week1-11
 
Week1-1
Week1-1Week1-1
Week1-1
 
M1-Programs1
M1-Programs1M1-Programs1
M1-Programs1
 
Work30243
Work30243Work30243
Work30243
 

หน่วยนำเข้าข้อมูล Present 4-11 (Group1)

  • 1. เป็นหน่วยเริ่มต้นในการทางานของคอมพิวเตอร์ เพราะ มีหน้าที่ในการนาข้อมูลหรือคาสั่ง ต่างๆ เข้าไปในระบบการทางานของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รับข้อมูลของหน่วยรับข้อมูล มีหลายชนิด เช่น แป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน จอยสติก จอสัมผัส แต่ทุกชนิดทาหน้าที่รับข้อมูลหรือคาสั่ง เข้าสู่ระบบการทางานของ คอมพิวเตอร์เหมือนกัน อุปกรณ์ของหน่วยรับข้อมูลแต่ละชนิด มีวิธีการนาเข้าข้อมูล หรือรับคาสั่ง ตลอดจน ลักษณะของรูปแบบข้อมูลนาเข้าที่ต่างกัน
  • 2. หน้าที่สาคัญ คือ เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูล หรือคาสั่ง เข้าสู่ระบบการทางานของคอมพิวเตอร์ หน่วยรับข้อมูลจึงเป็นหน่วยทางานที่ช่วยให้มนุษย์ สามารถติดต่อสั่งงานเครื่อง คอมพิวเตอร์ได้
  • 3. คีย์บอร์ด (Keyboard) Keyboard เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการนาข้อมูลลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะ เป็นปุ่มตัวอักษรเหมือนปุ่มเครื่องพิมพ์ดีด เป็นอุปกรณ์รับเข้าพื้นฐานที่ต้องมีในคอมพิวเตอร์ทุก เครื่อง จะรับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทาการเปลี่ยน เป็นรหัสเพื่อส่งต่อไปให้กับคอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ที่ใช้ในการป้อนข้อมูลจะมีจานวนตั้งแต่ 50 แป้นขึ้นไป แผงแป้นอักขระส่วนใหญ่มีแป้น ตัวเลขแยกไว้ต่างหาก เพื่อทาให้การป้อนข้อมูลตัวเลขทาได้ง่ายและสะดวกขึ้น การวางตาแหน่ง แป้นอักขระ จะเป็นไปตามมาตรฐานของระบบพิมพ์สัมผัสของเครื่องพิมพ์ดีด ที่มีการใช้แป้นยก แคร่ (shift) เพื่อทาให้สามารถใช้พิมพ์ได้ทั้งตัวอักษร ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก ซึ่งระบบ รับรหัสตัวอักษรที่ใช้ในทางคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นรหัส 7 หรือ 8 บิต กล่าวคือ เมื่อมีการ กดแป้นพิมพ์ แผงแป้นอักขระจะส่งรหัสขนาด 7 หรือ 8 บิต นี้เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ ประเภทของ Keyboard ดูได้จากจานวนปุ่ม และรูปแบบการใช้งาน Key board ที่ มีอยู่ปัจจุบันจะมีอยู่ 5 แบบ
  • 4. 1. Desktop Keyboard ซึ่ง Keyboard มาตรฐาน จะเป็นชนิด 101 คีย์
  • 5. 2. Desktop Keyboard with hot keys เป็น Keyboard ที่มีจานวนคีย์มากกว่า 101 คีย์ ขึ้นไปแล้วแต่วัตถุประสงค์ใช้ งาน ซึ่งจะมีปุ่มพิเศษ สาหรับระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งแต่เวอร์ชัน 95 เป็นต้น ไป
  • 6. 3. Wireless Keyboard Keyboard ไร้สายเป็น Keyboard ที่ทางานโดยไม่ต้องต่อสายเข้ากับ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์แต่จะมีอุปกรณ์ ที่รับสัญญาณจากตัว Keyboard อีกทีหนึ่ง การ ทางานจะใช้ความถี่วิทยุในการสื่อสาร ซึ่งความถี่ที่ใช้จะอยู่ที่ 27 MHz อุปกรณ์ชนิด นี้ มักจะมาคู่กับอุปกรณ์ Mouse ด้วย
  • 7. 4. Security Keyboard รูปร่างและรูปแบบการทางานจะเหมือนกับ Keyboard แบบ Desktop แต่ จะมีช่องสาหรับเสียบ Smart Card เพื่อป้องกันการใช้งานจากผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ Keyboard ชนิดนี้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการ ปลอดภัยสูง หรือใช้ควบคุมเครื่อง Server ที่ยอมให้เฉพาะ Admin เท่านั้นเป็นคนเปลี่ยนแปลงข้อมูล
  • 8. 5. Notebook Keyboard เป็น Keyboard ที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดบางเบา ขนาดความกว้าง และยาว จะขึ้นอยู่กับเครื่อง Notebook ที่ใช้ปุ่มบนแป้นพิมพ์จะอยู่ติดกันและบางมาก คีย์ พิเศษต่างจะถูกลด และเพิ่มเฉพาะปุ่มที่จา เป็นในการ Present งาน หรือ การพัก เครื่องเพื่อประหยัดพลังงาน
  • 9. คีย์บอดรุ่นเก่าในอดีต คอมพิวเตอร์ในยุคเก่าๆ ราวๆ 20 กว่าปีก่อน คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานโดยการนา คีย์บอร์ดไปเสียบกับจอทีวี ซึ่งหน่วยประมวลผลทั้งหลายก็จะรวมอยู่ในตัวคีย์บอร์ดนั้นเอง และกลับมาอีกครั้งในยุคนี้ ซึ่งทาง Commodore เจ้าของผลิตภัณฑ์ในยุดนั้น ได้นา แนวคิดกลับมาปัดฝุ่นใหม่ แล้วจับยัดอุปกรณ์สมัยใหม่ลงไปให้เราได้ใช้งานกันอีกครั้ง ใน ชื่อใหม่ว่า Commodore 64 -สเปก -Intel Atom D525 dual-core ความเร็ว 1.8 GHz -NVIDIA ION 2 -RAM 2 GB -Harddisk 160 GB
  • 10. เมาส์(Mouse) Mouse เป็น อุปกรณ์ที่ทาหน้าที่ป้อนข้อมูลอย่างหนึ่งแต่ที่เห็นการทางาน โดยทั่วไปจะเป็นตัวที่ใช้ควบคุมลูกศรให้เคลื่อนที่ไปยังตาแหน่งต่างๆ บนจอภาพ เหมาะ สาหรับใช้งานเมื่อต้องเลือก หรือเลื่อนวัตถุต่างๆ บนจอ Mouse ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ได้ 2 แบบ ได้แก่ 9 Pin, Serial Port และ PS/2 (Personal System Version2) Mouse แบ่งได้เป็นสองแบบคือ
  • 11. 1. แบบทางกล เป็นแบบที่ใช้ลูกกลิ้งกลม ที่มีน้าหนักและแรงเสียดทานพอดี เมื่อเลื่อน Mouse ไปในทิศทางใดจะทาให้ลูกกลิ้งเคลื่อนไปมาในทิศทางนั้น ลูกกลิ้งจะทาให้กลไกซึ่งทา หน้าที่ปรับแกนหมุนในแกน X และแกน Y แล้วส่งผลไปเลื่อนตาแหน่งตัวชี้บนจอภาพ Mouse แบบทางกลนี้มีโครงสร้างที่ออกแบบได้ง่าย มีรูปร่างพอเหมาะมือ ส่วนลูกกลิ้ง จะต้องออกแบบให้กลิ้งได้ง่ายและไม่ลื่นไถล สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง สัมพันธ์ระหว่างทางเดินของMouseและจอ ภาพ
  • 12. Ball Mouse มีชนิดที่เป็น Ball อยู่ในแนวตั้งและแนวนอน Mouse แบบ Ball การใช้งาน ต้องเลื่อน Mouse ยังแกนต่างๆบนหน้าจอเพื่อเลือก หรือยกเลิกโปรแกรมที่ทางานอยู่ ต่อมาได้พัฒนา Mouse ให้มี wheel เพื่อให้สะดวกในการใช้งานกับ Windows ตั้งแต่เวอร์ชัน 95 เป็นต้นมา ซึ่งช่วยในการเลื่อนหน้าต่าง Window ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ ต้องเลื่อน Mouse เพียงแต่ใช้นิ้วขยับไปที่ wheel ขึ้นลงเท่านั้น
  • 13. Wireless Mouse เป็น Mouse ที่มีการทางานเหมือน Mouse ทั่วไปเพียงแต่ไม่มีการใช้สายไฟ ต่อออกมาจากตัว Mouse ซึ่ง Mouse ชนิดนี้จะมีตัวรับและตัวส่งสัญญาณซึ่ง ทางด้านตัวรับสัญญาณอาจจะเป็นหัวต่อ แบบ PS/2 หรือ แบบ USB ที่เรียกว่า Thumb USB receiver ซึ่งใช้ความถี่วิทยุอยู่ที่ 27MHz
  • 14. Mouse สาหรับ Macintosh เป็น Mouse ที่ใช้เฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh ซึ่งเป็น Mouse ที่ไม่มี wheel และปุ่มคลิ๊ก ก็ มีเพียงปุ่มเดียวแต่สามารถใช้งาน ได้ครอบคลุมทุกหน้าที่ การทางาน ซึ่งทางบริษัท Apple ออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่อง Macintosh เท่านั้น
  • 15. 2. Mouse แบบใช้แสง อาศัยหลักการส่งแสงจาก Mouse ลงไปบนแผ่นรอง Mouse (mouse pad) เป็น Mouse ชนิดใช้แสงซึ่งปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิต Mouse ชนิดนี้ได้เพิ่มให้มี ความสวยงามต่างๆกันไป เช่น ใส่แสงให้กับ wheel หรือไม่ก็ออกแบบให้มีแสงสว่าง ทั้งตัว Mouse แต่หน้าที่การทางานก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก Ball Mouse
  • 16. เมาส์ในอดีต ในสมัยนั้นมันเมาส์จากไมโครซอฟต์ตัวนี้ถูกเรียกว่า “The Green-Eyed Monster” หรือแปลเป็นไทยคืออสุรกายนัยย์ตาเขียว ถือเป็นการบุกเบิกในยุคแรกๆ ของการใช้เมาส์ที่ช่วยให้การทางานกับคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้นกว่าการใช้แค่คีย์บอร์ดอย่าง เดียว
  • 17. แทรคบอล ( Trackball ) แทรคบอล ( Trackball ) เป็นอุปกรณ์ที่มีหลักการทางานคล้ายกับเมาส์ โดยมี ลูกบอลติดตั้งไว้ส่วนบนเพื่อใช้สาหรับควบคุมทิศทาง เมื่อผู้ใช้หมุนลูกบอลก็คือการย้าย ตาแหน่งตัวชี้นั่นเอง ลักษณะของลูกบอลมีขนาดใหญ่กว่าเมาส์มาก ส่วนใหญ่จะนาไปใช้ ติดตั้งแยกต่างหาก เพื่อช่วยให้การทางานกับคอมพิวเตอร์แบบพกพาสะดวกมากยิ่งขึ้น ใน บางรุ่นอาจติดตั้งแทรคบอลอยู่ไว้ภายในด้วย แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว
  • 18. จอยสติก (Joystick) คือ อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นคันโยก มีปุ่มกดที่ด้ามคันโยก เพื่อควบคุมตาแหน่งบน จอภาพได้ทุกตาแหน่งและทุกทิศทาง มักใช้ควบคุมโปรแกรมประเภทเกมส์ ที่เป็น ภาพเคลื่อนไหว วีดีโอเกมส์ หรือ โปรแกรมประเภทการออกแบบทาให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมและใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ง่ายและสะดวก เวลาใช้งานให้นาจอยสติกต่อ พ่วงกับพอร์ตจอยสติก ซึ่งอยู่ในส่วนของการ์ดเสียงด้านหลังเครื่องคอมพิวเตอร์
  • 19. สแกนเนอร์ (Scanner) สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์ซึ่งจับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพจากรูปแบบของแอนาลอกเป็น ดิจิตอลซึ่งคอมพิวเตอร์ สามารถแสดง, เรียบเรียง, เก็บรักษาและผลิตออกมาได้ ภาพนั้น อาจจะเป็นรูปถ่าย, ข้อความ, ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสามมิติ สามารถใช้สแกนเนอร์ ทางานต่างๆได้ดังนี้ - ในงานเกี่ยวกับงานศิลปะหรือภาพถ่ายในเอกสาร - บันทึกข้อมูลลงในเวิร์ดโปรเซสเซอร์ - แฟ็กเอกสาร ภายใต้ดาต้าเบส และ เวิร์ดโปรเซสเซอร์ - เพิ่มเติมภาพและจินตนาการต่าง ๆ ลงไปในผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาต่าง ๆ โดยพื้นฐานการทางานของสแกนเนอร์, ชนิดของสแกนเนอร์ และ ความสามารถในการทางานของสแกนเนอร์แบ่งออกได้ดังต่อไปนี้
  • 20. ชนิดของเครื่องสแกนเนอร์ สแกนเนอร์สามารถจัดแบ่งตามลักษณะทั่วๆ ไป ได้ 2 ชนิด คือ Flatbed scanners, ซึ่งใช้สแกนภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์ต่าง ๆ สแกนเนอร์ ชนิดนี้มีพื้นผิวแก้วบนโลหะที่เป็นตัวสแกน เช่น ScanMaker III Transparency and slide scanners, ซึ่งถูกใช้สแกนโลหะโปร่ง เช่น ฟิล์ม และ สไลด์ การทางานของสแกนเนอร์ การจับภาพของสแกนเนอร์ ทาโดยฉายแสงบนเอกสารที่จะสแกน แสงจะผ่าน กลับไปมาและภาพ จะถูกจับโดยเซลล์ที่ไวต่อแสง เรียกว่า charge-couple device หรือ CCD ซึ่งโดยปกติพื้นที่มืดบน กระดาษจะสะท้อนแสงได้น้อยและพื้นที่ที่ สว่างบนกระดาษจะสะท้อนแสงได้มากกว่า CCD จะสืบหาปริมาณแสงที่สะท้อนกลับ จากแต่ละพื้นที่ของภาพนั้น และเปลี่ยนคลื่นของแสงที่สะท้อน กลับมาเป็นข้อมูล ดิจิตอล หลังจากนั้นซอฟต์แวร์ที่ใช้สาหรับการสแกนภาพก็จะแปลงเอาสัญญาณเหล่านั้น กลับมาเป็นภาพ บนคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง
  • 21. สิ่งที่จาเป็นสาหรับการสแกนภาพมีดังนี้ - สแกนเนอร์ - สาย SCSI สาหรับต่อจากสแกนเนอร์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ - ซอฟต์แวร์สาหรับการสแกนภาพ ซึ่งทาหน้าที่ควบคุมการทางานของสแกนเนอร์ให้ สแกนภาพตามที่กาหนด - สแกนเอกสารเก็บไว้เป็นไฟล์ที่นากลับมาแก้ไขได้อาจต้องมีซอฟต์แวร์ที่สนับสนุน ด้าน OCR - จอภาพที่เหมาะสมสาหรับการแสดงภาพที่สแกนมาจากสแกนเนอร์ - เครื่องมือสาหรับแสดงพิมพ์ภาพที่สแกน เช่น เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์หรือสไลด์ โปรเจคเตอร์ ประเภทของภาพที่เกิดจากการสแกน แบ่งเป็นประเภทดังนี้ 1. ภาพ Single Bit แบ่งออกได้สองประเภทคือ - Line Art - Halftone 2. ภาพ Gray Scale 3. ภาพสี 4. ตัวหนังสือ
  • 22. จอสัมผัส (touch screen) touch screen (หน้าจอสัมผัส) เป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นอุปกรณ์นาเข้าด้วย หน้าจออ่อนไหวกับแรงกด ผู้ใช้ปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์โดยการสัมผัสภาพหรือคาบน หน้าจอ touch screen แบ่งออกสามเทคโนโลยี - Resistive - Surface wave - Capacitive
  • 23. ขอบคุณ ผู้จัดทา 1.นายอธิษฐ์ เส้งทั่น ม.4.11 เลขที่ 3 2.นายธนัสสรณ์ วงศ์พัชรธรรม ม.4.11 เลขที่ 6 3.นายกฤษฎา มหาวุฒิ ม.4.11 เลขที่ 9 4.นายศุภกร ปันแก้ว ม.4.11 เลขที่ 23 5.นายวงศธร สุภาวรรณ์ ม.4.11 เลขที่ 24 6.นายศรัณยพงศ์ ณ เชียงใหม่ ม.4.11 เลขที่ 26 7.นายสุวรพงศ์ ใบทอง ม.4.11 เลขที่ 33 8.นายเจษฎา กองธรรม ม.4.11 เลขที่ 37