เล่าความประทับใจในการการอ่านหนังสือชุดนี้

1. นิยายวิทยาศาสตร์ชุด สถาบันสถาปนา
(FOUNDATION SERIES)
หนังสือชุดสถาบันสถาปนา (Foundation Series) เป็นนิยายวิทยาศาสตร์หนักสมอง ประพันธ์โดย
ไอแซค อาซิมอฟ (Isaac Asimov) นักประพันธ์นิยายวิทยาศาสตร์และนักชีวเคมีชาวอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย
อาซิมอฟได้เล่าถึงอนาคตประวัติศาสตร์ย้อนผ่านเอนไซโคลปีเดียกาแล็กติกา หมายถึงคนเล่าได้เล่าถึงอดีต
ที่ผ่านมา แต่วันเวลาของเนื้อเรื่องนั้นเป็นเวลาของอนาคต
ได้อ่านและเป็นเจ้าของหนังสือชุดนี้ครั้งแรกเมื่ออยู่มัธยมศึกษาปีที่ ๒ พ.ศ.๒๕๒๐ หลังจากนั้นก็อ่านซ้้านับ
ครั้งไม่ถ้วน ทั้งวนอ่านจนจบและอ่านเป็นบท ๆ เมื่อแรกเริ่มอ่านมีเพียง ๓ เล่ม คือ
(๑.) สถาบันสถาปนา (Foundation)
(๒.) สถาบันสถาปนาและจักรวรรดิ (Foundation and Empire)
(๓.) สถาบันสถาปนาแห่งที่ ๒ (Second Foundation)
หนังสือชุดสถาบันสถาปนาในปี ๒๕๒๐ จัดพิมพ์โดยส้านักพิมพ์คอลเลจบุ๊ค สามเล่มนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์
ในอนาคตอีกนับหมื่นปีข้างหน้า เมื่อมนุษย์มีความเจริญจนถึงขั้นเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงได้ และขยายการ
ตั้งถิ่นฐานออกไปจนทั่วทั้งกาแลกซีทางช้างเผือก (Milky way) ก่อก้าเนิดเป็นจักรวรรดิสากลจักรวาล (Galactic
Empire) ขึ้นมา โดยมีพระมหาจักรพรรดิเป็นผู้ปกครอง เนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับความขัดแย้งของสังคมอนาคต
การเมือง วัฒนธรรม รวมไปถึงการแบ่งสรรทรัพยากร
เริ่มสะสมหนังสือชุดนี้อีกครั้งเมื่อส้านักพิมพ์ออร์บิทจัดพิมพ์ใหม่ คราวนี้เพิ่มมาอีก ๑ เล่ม คือ
(๔.) สถาบันสถาปนาและปฐมภพ (Foundation's Edge)
ปี ๒๕๔๕ ส้านักพิมพ์โปรวิชั่นทยอยออกหนังสือชุดนี้อีกครั้ง ทั้งรูปเล่ม การพิมพ์และเนื้อกระดาษสุดยอด
ซึ่งราคาถือว่าแพงมากในขณะนั้น แต่อดใจซื้อไม่ได้ ปัจจุบันมีครบ ๑๐ เล่ม คือ
(๕.) สถาบันสถาปนาและโลก (Foundation and Earth)
(๖.) ก้าเนิดสถาบันสถาปนา (Prelude to Foundation)
(๗.) สู่เส้นทางสถาบันสถาปนา (Forward the Foundation)
(๘.) สุดหนทางสถาบันสถาปนา (Foundation's Fear)
(๙.) ฝ่าวิกฤตสถาบันสถาปนา (Foundation and Chaos) และ
(๑๐.) ชัยชนะของสถาบันสถาปนา (Foundation's Triumph)
ปัจจุบันหนังสือชุดนี้มีค่ามาก หาซื้อไม่ได้แล้ว ยกเว้นว่าจะมีส้านักพิมพ์พิมพ์ขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่าราคาทั้ง
ชุดซื้อทองได้เลย (ถ้าโชคดีอาจมีหลงเข้ามาในเวปไซต์หนังสือมือสองสักเล่มสองเล่ม แล้วจะหายไปในทันทีที่ลง
จ้าหน่าย)
หนังสือชุดสถาบันสถาปนา เป็นมหากาพย์อวกาศที่ยิ่งใหญ่ เล่าถึงการล่มสลายของจักรวรรดิสากล
จักรวาล จักรวรรดินี้มีอาณาเขตบรมมหาศาลมโหฬารพันลึก เหยียดย่างผ่านพิภพนับล้าน จากปลายหนึ่งถึงอีก
ปลายหนึ่งของทางช้างเผือก ด้วยความมโหฬารนี้เอง ท้าให้การเสื่อมสลายค่อยๆ คืบคลานไปอย่างช้า ๆ กลุ่มดาว
ต่าง ๆ จะแยกตัวเป็นอิสระ ความสับสนวุ่นวายจะบังเกิดขึ้น และวิทยาการต่าง ๆ จะสูญสลายจากการรบราฆ่าฟัน
กันด้วยกิเลสและอ้านาจของมนุษย์
ด้วยความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดินี้เอง ท้าให้ไม่มีใครสามารถสังเกตุและรู้ส้านึกได้ ด้วยความเสื่อมนั้นกัดกิน
จากขอบจักรวาล แต่สามารถค้านวณได้จากสถิติทางคณิตศาสตร์ที่มีความแน่นอนด้วยจ้านวนประชากรเป็น
พันล้านล้านของสากลจักรวาล

2. สถาบันสถาปนาจึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมวิทยาการต่าง ๆ ของมนุษย์มิให้สูญหาย สามารถผ่านพ้น
"อนารยะยุค" ที่จักรวาลต้องรบราฆ่าฟันกันไปได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งพันปี และการล่มสลายของจักรวรรดิ “ไม่มี
ทางหลีกเลี่ยง”
“จักรวาลที่ประกอบด้วยดาวเคราะห์นับล้านดวงรวมกันเป็นอาณาจักรเดียว จักรวรรดิสากลจักรวาล มี
อาณาเขตจากปลายหนึ่งจดอีกปลายหนึ่งของกาแลกซีทางช้างเผือก มีพลเมืองกว่าล้านก้าลังสี่ มีพระมหาจักรพรรดิ
เป็นประมุข แต่ก็เฉกเช่นอาณาจักรต่าง ๆ ในอดีตที่มีความรุ่งเรืองแล้วดับสูญ จักรวรรดิสากลจักรวาลนี้ก้าลังเริ่ม
เสื่อมโทรมลง แต่ด้วยเหตุที่ว่ามีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าใหญ่ อาการเสื่อมโทรมจึงค่อยเป็นค่อยไป กินเวลานานยิ่งกว่า
นาน ช่วงว่างระหว่างความรุ่งเรืองแรกกับความรุ่งเรืองที่จะเกิดขึ้นใหม่ก็ต้องนานแสนนานด้วย โดยจะกินเวลาถึง
๓๐,๐๐๐ ปี โชคดีที่ ฮาริ เซลด็อน นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ ผู้บุกเบิกวิชาการด้านอนาคตประวัติศาสตร์
(Psychohistory) ได้สังเกตเห็นอาการเสื่อมโทรมดังว่านี้ จึงคิดแก้ไข “ย่น” ช่วงว่างนั้นให้สั้นลงเหลือเป็นอนารยะ
ยุคเพียง ๑,๐๐๐ ปี โดยการก่อตั้งสถาบันสถาปนาขึ้น" แค่อารัมภบทของเรื่องซึ่งแปลโดยบรรยงก์ก็พิศดารพันลึก
เหลือคณานับ
เคยน้าเนื้อเรื่องจากนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องนี้ไปประกอบการบรรยายวิชาสงครามอนาคต ที่โรงเรียนการ
สงครามทางอากาศ ศูนย์การสงครามทางอากาศ กองทัพอากาศ หลายปีมาแล้ว ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง แต่เนื้อหา
และจินตนาการที่อาซิมอฟประพันธ์มันอลังการมาก สะท้อนได้แม้กับสังคมปัจจุบัน อีกหมื่นปีข้างหน้า ความ
ขัดแย้ง สงครามและการสู้รบมิได้มาจากมนุษย์ต่างดาวใด ๆ มนุษย์ด้วยกันเองเท่านั้นที่แก่งแย่งชิงดีด้วยความ
ต้องการอ้านาจอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
ลาดับเหตุการณ์
ล้าดับเหตุการณ์นี้อ้างอิงถึงเรื่องในหนังสือเล่มต่าง ๆ ของอาซิมอฟ โดยอาจมีวงเล็บก้ากับไว้ว่ามาจากเล่มใด ซึ่ง
บางเหตุการณ์ก็ไม่ได้ระบุเวลาไว้อย่างชัดเจน จึงแสดงได้แต่เพียงปีโดยประมาณเท่านั้น
เหตุการณ์ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น ๓ ยุค คือ
(๑.) ยุคก่อนจักรวรรดิ ปีที่อ้างถึงจะใช้เป็น ค.ศ. (AD – Anno Domini) คือ คริสตศักราช ตามที่เรารู้จักกัน
ทั่วไป
(๒.) ยุคจักรวรรดิ ปีที่อ้างถึงจะใช้เป็น จ.ศ. (GE – Galactic Era) คือ จักรวาลศักราช เริ่มนับตั้งแต่มนุษย์
รวมตัวกันก่อตั้งจักรวรรดิสากลจักรวาลขึ้น โดยมีอาณาเขตครอบคลุมไปทั่วกาแลกซีทางช้างเผือก
(๓.) ยุคสถาบันสถาปนา ปีที่อ้างถึงจะใช้เป็น ส.ศ. (FE – Foundation Era) คือ สถาปนศักราช เริ่มนับตั้งแต่มี
การก่อตั้งสถาบันสถาปนาแห่งแรกขึ้นที่พิภพเทอร์มินัส ตั้งอยู่สุดขอบกาแลกซีทางช้างเผือก และปีเริ่มต้นของการ
ด้าเนินการสะสมองค์ความรู้ อารยธรรมและมรดกโลกตามแผนการเซลด็อน

3. ยุคก่อนจักรวรรดิ
ค.ศ. เหตุการณ์
๑๙๔๕ ระเบิดปรมาณูลูกแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ (จากเรื่อง "จุดดับแห่งนิรันดร์" –
The End of Eternity)
ก่อน ค.ศ.๓๐๐๐ มนุษย์จากโลกออกไปตั้งถิ่นฐานบนพิภพออโรราและระบบสุริยะอื่น ๆ อีก ๒๙ พิภพ
(จากเรื่องสั้น "ปฐมภพ" – Mother Earth)
๔๔๒๑ การก่อตั้งนิวยอร์คเป็น “มหาธานี”
๔๔๒๒ มนุษย์จากพิภพเนกซอนที่อยู่ใกล้เคียง เริ่มตั้งถิ่นฐานบนพิภพโซลาเรีย นับเป็นแห่งแรก
ที่ผู้อาศัยไม่ได้ไปจากโลกโดยตรง
ไม่ระบุ การปฏิวัติใหญ่ มีผลให้ชาวพิภพรอบนอก ("ชาวอวกาศ") แยกตัวเป็นอิสระจากโลก
๔๕๒๒ โซลาเรียประกาศตนเป็นอิสระ
๔๖๙๖ การก่อตั้งนครของชาวอวกาศบนโลก และการจลาจลต่อต้านชาวอวกาศ
๔๗๐๕ โลกเพียงพิภพเดียวมีประชากรราว ๘,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ (แปดพันล้าน) คน ในขณะที่
ชาวอวกาศ ๕๐ พิภพรวมกัน มีประชากรราว ๕,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ (ห้าพันห้าร้อยล้าน)
คน
๔๗๑๒ นักสังคมวิทยาชาวโลกเริ่มเตือนว่า ชาวอวกาศมีอ้านาจมากเกินไปจนเป็นอันตรายต่อ
อนาคตของโลก
๔๗๒๐ หุ่นยนต์มนุษย์ดานีลถูกสร้างขึ้น
๔๗๒๑ - รองศาสตรจารย์ รอจ ซาร์ตั้น นักวิทยาศาสตร์ชาวอวกาศ ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
บนโลก (จากเรื่อง "โลหะนคร" – The Caves of Steel)
- อีไลจาห์ เบลี่ย์ นักสืบชาวโลก พบกับ ห.ดานีล กับ ดร.ฟาสโตล์ฟ และคลี่คลายคดี
ฆาตกรรมได้ส้าเร็จทันเวลา
๔๗๒๔ – ๒๙ ชาวโลกเริ่มอพยพออกหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ในดวงดาวต่าง ๆ เป็นรอบที่สอง
๔๗๒๙ ชาวโลกและชาวอวกาศบรรลุข้อตกลงสันติภาพ โดยชาวโลกจะไม่ตั้งถิ่นฐานใหม่ในรัศมี
๒๐ ปีแสงจากพิภพใด ๆ ของชาวอวกาศ
๔๙๒๐ (ประมาณ) พิภพโซลาเรียเสื่อมโทรมลงจนไม่มีคนอาศัยอยู่
๔๙๒๔ แมนดามัสเริ่มกระบวนการที่ท้าให้โลกแผ่รังสีมากขึ้น จนมนุษย์จะอยู่อาศัยไม่ได้ภายใน
ไม่กี่ร้อยปี (จากเรื่อง Robot and Empire)
๔๙๒๔ จิสการ์ด "ตาย" หลังจากถ่ายทอดอ้านาจจิตให้กับ ห.ดานีล
๕๒๐๐ เริ่มการตั้งถิ่นฐานในเนบิวลารูปหัวม้า
๕๒๒๔ การก่อตั้งอาณาจักรไทแรนน์
๕๘๕๔ อาณาจักรไทแรนน์ขยายอิทธิพลเพื่อเป็นใหญ่เหนืออาณาจักรทั้งหลายในเนบิวลา

4. ๓๐๐๐๐ (ประมาณ) การตั้งถิ่นฐานบนพิภพกาเอีย
๓๒๕๐๐ (ประมาณ) ทุกชีวิตบนพิภพกาเอียเริ่มรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวกัน
ยุคจักรวรรดิ (จักรวาลศักราช ๑ – ๑๒๐๖๘)
จ.ศ. เหตุการณ์
๑ ก่อตั้งจักรวรรดิสากลจักรวาล มีแฟรงเกนที่ ๑ เป็นจักรพรรดิองค์แรก
ไม่ระบุ โลกก่อกบฏต่อต้านจักรวรรดิครั้งที่ ๑ และ ๒
๗๕๐ โลกก่อกบฏต่อต้านจักรวรรดิครั้งที่ ๓
๗๙๗ ซากโบราณอายุกว่า ๕๐,๐๐๐ ปี จากพิภพอาร์คตุรุส, ซิริอุส และ อัลฟาเซ็นทอรีช่วย
ให้สามารถถอดความหมายของภาษามนุษย์โบราณได้
๘๑๐ ผลการจัดท้าส้ามะโนประชากรที่เหลือของโลก คือ ๒๐ ล้านคน
๘๒๗ จักรวรรดิสากลจักรวาลประกอบด้วยดวงดาวที่มีคนอยู่ทั้งหมด ๒๐๐ ล้านพิภพ และ
ประชากรกว่าห้าแสนล้านล้านคน
๘๒๘ จักรวรรดิเริ่มจัดส่งดินส้าหรับเพาะปลูกมายังโลก
๑๑๓๑๙ (ประมาณ) โลกถูกลืมไปนานแล้ว จนกระทั้ง ลาเม็ธ รื้อฟื้นการค้นคว้าหาค้าตอบของปัญหา "พิภพ
ต้นก้าเนิดของมนุษย์" ขึ้นมาใหม่
๑๑๓๕๐ (ประมาณ) ทรานทอร์ นครหลวงของจักรวรรดิ ถูกสร้างให้ปกคลุมด้วยโลหะทั้งหมด
๑๑๔๘๘ (ประมาณ) คาลกันกลายเป็นพิภพที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ
๑๑๙๔๙ จักรพรรดิเสด็จเยือนอนาครีอ็อนครั้งสุดท้าย
๑๒๐๐๘ ฮาริ เซลด็อน เริ่มงานค้นคว้าด้านอนาคตประวัติศาสตร์
๑๒๐๒๐ ห.ดานีลมอบหมายให้ ดอร์ส วีนาบิลิ คอยคุ้มครอง เซลด็อน จากเรื่อง "ก้าเนิดสถาบัน
สถาปนา" – Prelude to Foundation)
๑๒๐๒๐ จักรพรรดิคลีออนที่ ๑ ขึ้นครองราชย์
๑๒๐๒๐ (ประมาณ) ฮาริ เซลด็อน เริ่มรวบรวมคณะผู้จัดท้าเอ็นไซโคลปิเดียที่ทรานทอร์
๑๒๐๒๙ ฮาริ เซลด็อน รอดพ้นจากการลอบสังหารครั้งที่ ๑
๑๒๐๓๘ ฮาริ เซลด็อน รอดพ้นจากการลอบสังหารครั้งที่ ๒
๑๒๐๓๘ จักรพรรดิคลีออนที่ ๑ ถูกลอบปลงพระชนม์
๑๒๐๓๘ บรรดานายทหารผู้คุมก้าลังรบเข้ายึดอ้านาจปกครองทรานทอร์
๑๒๐๕๘ จักรพรรดิเอจิสที่ ๑๔ คืนสู่บัลลังก์
๑๒๐๕๘ การก่อความไม่สงบที่พิภพแซนแทนนี่
๑๒๐๖๘ กาอัล ดอร์นิค พบกับ ฮาริ เซลด็อน (จากเรื่อง "สถาบันสถาปนา")

5. ๑๒๐๖๘ การพิจารณาคดี ฮาริ เซลด็อน และคณะ
๑๒๐๖๘ การก่อตั้งสถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งและสอง
๑๒๐๖๘ ฮาริ เซลด็อน บันทึกค้าเฉลยของวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ในห้องรโหฐาน (สาร์นอันจะน้าไป
เฉลยในอนาคต ตามห้วงเวลาที่สมการคณิตศาสตร์ค้านวณท้านายไว้)
ยุคสถาบันสถาปนา (สถาปนศักราช ๑ – ๑๐๒๐)
ส.ศ. เหตุการณ์
๑ ฮาริ เซลด็อน ถึงแก่กรรม
๑๘ ซาลวอร์ ฮาร์ดิน เกิดที่เทอร์มินัส
ไม่ระบุ สงครามระหว่างอาณาจักรอนาครีอ็อนและสเมอร์โน
๔๘ อุบัติเหตุที่โรงงานพลังปรมาณูในดาวเคราะห์ดวงที่ห้าของระบบแกมมาแอนโดรมีดา
๔๙ ผู้ส้าเร็จราชการแห่งจังหวัดอนาครีอ็อนตั้งตัวขึ้นเป็นกษัตริย์
๔๙ ประชากรของเทอร์มินัสเพิ่มขึ้นเป็น ๑ ล้านคน ในจ้านวนนี้มีเพียง ๑๕๐,๐๐๐ คนที่
ท้างานเกี่ยวข้องกับการจัดท้าเอ็นไซโคลปิเดีย
๔๙ อนาครีอ็อนเจรจาขอจัดตั้งฐานทัพที่เทอร์มินัส ตามด้วยการยื่นค้าขาด
๕๐ ซาลวอร์ ฮาร์ดิน นายกเทศมนตรีของเทอร์มินัส ท้ารัฐประหาร ปลดคณะกรรมการ
จัดการเอ็นไซโคลปิเดีย และยึดอ้านาจสูงสุดในการปกครองสถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่ง
(จากเรื่อง "สถาบันสถาปนา" Foundation)
๕๐ การปรากฏตัวครั้งแรกของ ฮาริ เซลด็อน ในห้องรโหฐาน เปิดเผยความจริงที่ว่า การ
จัดท้าเอ็นไซโคลปิเดียเป็นเพียงฉากก้าบังของแผนการก่อตั้งสถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งให้
เป็นแกนน้าในการก่อตั้งจักรวรรดิใหม่
๕๐ อนาครีอ็อนเข้ามาตั้งฐานทัพบนเทอร์มินัส แต่เพียง ๗ วันหลังจากนั้นก็ต้องถอนก้าลัง
ออกไปเมื่อเผชิญกับการบีบบังคับจากก้าลังของอาณาจักรอื่น ๆ อีกสี่อาณาจักรรอบ ๆ
เทอร์มินัส
๕๐ ซาลวอร์ ฮาร์ดิน วางระบบการใช้พระและศาสนาที่แสดงปาฏิหารย์โดยอาศัยเทคโนโลยีที่
เหนือกว่า เป็นเครื่องมือขยายอ้านาจของสถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งให้ครอบง้าเหนือสี่
อาณาจักร
๕๕ การจัดพิมพ์ครั้งแรกของเอ็นไซโคลปิเดียกาแล็กติก้า
๖๔ กษัตริย์เลโปลด์ที่ ๑ แห่งอนาครีอ็อนประสูติ
๖๖ เวริซอฟได้รับแต่งตั้งเป็นสังฆราชและทูตของสถาบันสถาปนาประจ้าอนาครีอ็อน
๗๘ พระบิดาของกษัตริย์เลโปลด์ถูกปลงพระชนม์ด้วยปืนกระสุนเข็มระหว่างการล่าสัตว์
๗๘ วีเอนิส ผู้ส้าเร็จราชการและลุงของกษัตริย์เลโปลด์ พยายามลิดรอนอ้านาจของวัดโดยการ
เก็บภาษี

6. ๗๘ อนาครีอ็อนค้นพบยานรบเก่าของจักรวรรดิ ซึ่งถูกร้างทิ้งในอวกาศ และพยายามบังคับให้
สถาบันสถาปนาช่วยซ่อมยานล้านี้ให้คืนสภาพเดิม
๘๐ พรรคปฏิรูปพยายามปลดฮาร์ดินออกจากต้าแหน่ง แต่แพ้โหวตในสภา ด้วยคะแนน ๒๐๖
ต่อ ๑๘๔
๘๐ ฮาร์ดินไปเยือนอนาครีอ็อน
๘๐ อนาครีอ็อนประกาศสงครามกับสถาบันสถาปนา
๘๑ กษัตริย์เลโปลด์ที่ ๑ แห่งอนาครีอ็อนขึ้นครองราชย์ ขณะที่บรรดาพระช่วยกันป้องกัน
ไม่ให้อนาครีอ็อนโจมตีสถาบันสถาปนาได้ส้าเร็จ
๘๑ ผู้ส้าเร็จราชการวีเอนิสฆ่าตัวตายหลังจากพ่ายต่ออุบายของสถาบันสถาปนา
๘๑ สถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับสี่อาณาจักร
๘๑ การปรากฏตัวครั้งที่สองของ ฮาริ เซลด็อน ในห้องรโหฐาน
๑๓๔ ลิมมาร์ ปอนเยต์ ช่วยเอสเคล กอรอฟ จากที่คุมขังในพิภพอัสโกเน และใช้อุบายในการ
เปลี่ยนเหล็กให้เป็นทองค้าเข้าแทรกแซงการเมือง จนชาวอัสโกเนยอมรับเทคโนโลยีและ
ตกอยู่ใต้อิทธิพลของสถาบันสถาปนา
๑๕๔ โฮเบอร์ มัลโลว์ บุกเบิกการค้าระหว่างสถาบันสถาปนากับ "คอมดอร์" แอสเปอร์ ผู้กุม
อ้านาจปกครองของโคเรล
๑๕๔ โฮเบอร์ มัลโลว์ ไปสืบข่าวที่ไซเว็นนา และพบกับโอนัม บารร์
๑๕๔ โฮเบอร์ มัลโลว์ ถูกพิจารณาคดีฐานละทิ้งพระของสถาบันให้ถูกฆ่าที่โคเรล แต่หลังจาก
พิสูจน์ความจริงได้ก็กลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
๑๕๕ โฮเบอร์ มัลโลว์ ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีของเทอร์มินัส
๑๕๗ โคเรลประกาศสงครามกับสถาบันสถาปนา
๑๖๐ โคเรลประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขต่อสถาบันสถาปนา
๑๖๐ ดูเซ็ม บารร์ มีส่วนในการลอบสังหารอุปราชแห่งไซเว็นนา
๑๗๖ จักรพรรดิคลีออนที่ ๒ ขึ้นครองราชย์
๑๙๙ นายพล เบล ริโอเซ่ มาที่ไซเว็นนา และพบกับดูเซ็ม บารร์ (จากเรื่อง "สถาบันสถาปนา
และจักรวรรดิ" – Foundation and Empire)
๒๐๐ สถาบันสถาปนาจับยานสอดแนมของจักรวรรดิได้
๒๐๐ ก้าลังของจักรวรรดิ น้าโดย เบล ริโอเซ่ ยึดครองไซเว็นนาและใช้เป็นฐานในการโจมตี
สถาบันสถาปนา
๒๐๑ สถาบันสถาปนาโจมตีก้าลังของจักรวรรดิเป็นครั้งแรก
๒๐๑ เบล ริโอเซ่ ถูกเรียกตัวกลับทรานทอร์ สงครามระหว่างสองฝ่ายจบลงโดยสถาบันสถาปนา
เสียทหารมากกว่า ๕๐๐,๐๐๐ คน และยานอีกราว ๕๐๐ ล้า

7. ๒๐๒ ไซเว็นนาเป็นเขตที่แรกหลุดพ้นจากอ้านาจจักรวรรดิ ไปอยู่ใต้อาณัติทางเศรษฐกิจของ
สถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่ง
๒๐๓ จักรพรรดิคลีออนที่ ๒ สิ้นพระชนม์
๒๖๐ เกิดความไม่สงบครั้งใหญ่ จักรพรรดิเสด็จหนีไปยังนิโอทรานทอร์
๒๗๐ มโนมัยถือก้าเนิด
๒๙๐ มโนมัยเริ่มเรืองอ้านาจ
๒๙๔ มโนมัยเอาชนะขุนศึกแห่งคาลกัน
๒๙๗ โทแรน และเบย์ตาไปที่คาลกันและช่วย แฮน พริตเชอร์ ลักพาตัว แมกนิฟิโก
๒๙๗ การปรากฏตัวครั้งที่ห้าของ ฮาริ เซลด็อน ในห้องรโหฐาน
๒๙๗ มโนมัยยึดครองสถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งแบบเบ็ดเสร็จ และท้าให้แผนการเซลด็อนล่ม
สลายไปอย่างสิ้นเชิง
๒๙๗ โทแรน, เบย์ตา และเอ็บลิงก์ มิส พยายามค้นหาสถาบันสถาปนาแห่งที่สอง
๒๙๘ สมาคมพ่อค้าอิสระประกาศสงครามกับมโนมัย
๒๙๘ เบย์ตา ดาเรลล์ ฆ่า เอ็บลิงก์ มิส เพื่อปกปิดความลับเรื่องที่ตั้งสถาบันสถาปนาที่สอง
๒๙๘ "สหพันธ์แห่งพิภพ" ของมโนมัย ครอบครองอาณาเขตถึงหนึ่งในสิบของกาแลกซีทาง
ช้างเผือก และประชากรถึงหนึ่งในสิบห้าของทั้งหมด
๒๙๘-๓๐๒ มโนมัยส่งคนออกค้นหาสถาบันสถาปนาแห่งที่สองถึงห้าครั้งด้วยกัน (จากเรื่อง "สถาบัน
สถาปนาแห่งที่สอง" – Second Foundation)
๒๙๙ สถาบันสถาปนาแห่งที่สองจัดฉากให้พิภพทาเซ็นดาเป็นเหมือนที่ตั้งสถาบัน
๓๐๑ มโนมัยตรวจพบว่าสถาบันสถาปนาเข้าแทรกแซงในสมองของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ใต้
การควบคุมเป็นครั้งแรก
๓๐๒ แฮน พริตเชอร์ และ เบล แชนนิส น้าคณะออกค้นหาสถาบันสถาปนาแห่งที่สองเป็นครั้ง
ที่หก
๓๐๒ มโนมัยท้าลายทาเซ็นดา โดยเข้าใจว่าเป็นที่ตั้งสถาบันสถาปนาแห่งที่สอง
๓๐๒ มโนมัยเลิกค้นหาสถาบันสถาปนาแห่งที่สอง
๓๐๕ มโนมัยลงนามสงบศึกและเคารพในความเป็นกลางของเซย์เชล
๓๐๗ มโนมัยสิ้นชีวิต
๓๐๗ สถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งประกาศอิสรภาพจากสหพันธ์แห่งพิภพ และจัดให้มีการเลือก
ตั้งขึ้นใหม่อีกครั้ง
๓๐๗ แฮน พริตเชอร์ สืบทอดต้าแหน่งราษฎรหมายเลขหนึ่งจากมโนมัย และด้าเนินการปิด
ล้อมสถาบันสถาปนา
๓๐๘ การปิดล้อมยุติลงเมื่อมีการส่งอาหารฝ่าวงล้อมจากแซนแทนนี่เข้าไปได้

8. ๓๕๑ พรีม พัลเวอร์ เข้ารับต้าแหน่งเอกวาจก ประธานสถาบันสถาปนาแห่งที่สอง
๓๕๘ โทแรน ดาเรลล์ II เดินทางไปทรานทอร์เพื่อค้นหาสถาบันสถาปนาแห่งที่สอง
๓๖๘ อาร์คะเดีย ดาเรลล์ เกิดที่ทรานทอร์
๓๖๕ อาร์คะเดีย ดาเรลล์ เดินทางกลับไปเทอร์มินัสพร้อมกับบิดา
๓๗๐ สถาบันสถาปนาแห่งที่หนึ่งเริ่มพัฒนาสนามพลังจิตตานุสถิตย์
๓๗๖ ลอร์ดสเต็ตตินแต่งตั้งตนเองเป็นราษฎรหมายเลขหนึ่งแห่งสหพันธ์พิภพ ซึ่งมีศูนย์กลางที่
คาลกัน และเริ่มมีการปะทะกับสถาบันสถาปนาตามชายเขตแดน
๓๗๖ อาร์คะเดีย ดาเรลล์ ไปเยือนคาลกันพร้อมกับ โฮเม่อร์ มันน์ และหนีจากคาลกันในเวลา
ต่อมา
๓๗๖ เริ่มสงครามสเต็ตติน
๓๗๖ กองยานของสถาบันสถาปนาถูกล้อมกรอบท้าลายในเขตอิฟนี่ มีแต่ยาน เอ็บลิงก์ มิส ล้า
เดียวที่หนีรอดมาได้
๓๗๗ จบสงครามสเต็ตติน โฮเม่อร์ มันน์ เดินทางกลับเทอร์มินัส
๓๗๗ ดร. โทแรน ดาเรลล์ และ เอลเวตต์ เซมิค พัฒนาเครื่องจิตตานุสถิตย์ขึ้น
๓๗๗ เพลเลียส แอนเธอร์ เชื่อว่าสถาบันสถาปนาทั้งสองแห่งอยู่ที่เดียวกันคือ เทอร์มินัส
๓๗๘ สมาชิกสถาบันสถาปนาแห่งที่สอง ๕๐ คนถูกจับเนรเทศไปยังพิภพโซราเนล
๓๖๘ จานอฟ เพโลแรท เริ่มต้นศึกษาปัญหา "พิภพต้นก้าเนิดของมนุษย์"
๔๗๘ สตอร์ เกนดิบอล เข้าร่วมงานกับสถาบันสถาปนาแห่งที่สอง
๔๘๐ ควินดอร์ แชนเดส เข้ารับต้าแหน่งเอกวาจก
๔๙๓ ฮาร์ลา บรันโน เข้ารับต้าแหน่งนายกเทศมนตรีแห่งเทอร์มินัส
๔๘๗ สภาสถาบันสถาปนาลงมติไม่ย้ายนครหลวงเข้าไปใกล้ศูนย์กลางของอาณาเขตปกครอง
มากกว่านี้
๔๙๘ วิกฤตการณ์เซลด็อนครั้งที่แปด ท้านายอย่างถูกต้องว่าจะมีการโต้แย้งกันภายในว่าควรจะ
ย้ายนครหลวงของสถาบันสถาปนาหรือไม่
๔๙๘ โกลาน เทรวิซ ถูกจับและถูกเนรเทศไปจากเทอร์มินัส (จากเรื่อง "สถาบันสถาปนา และ
ปฐมภพ" – Foundation's Edge)
๔๙๘ สตอร์ เกนดิบอล ถูกปลดจากต้าแหน่งโดยที่ประชุมใหญ่
๔๙๘ พิภพ กาเอีย ผลักดันให้โกลาน เทรวิซ, สตอร์ เกนดิบอล และฮาร์ลา บรันโน เข้ามา
เผชิญหน้ากันบริเวณใกล้กาเอีย ในที่สุดโกลาน เทรวิซ ตัดสินใจเลือกแนวทางที่สามให้กับ
อนาคตของจักรวาล
๔๙๘ สถาบันสถาปนาและเซย์เชลลงนามในสนธิสัญญาการค้า
๔๙๘ สตอร์ เกนดิบอล เข้ารับต้าแหน่งเอกวาจก

9. ๔๙๙ - เทรวิซ พร้อมด้วย เพโลแรท และบลิส เริ่มต้นค้นหา "โลก" ที่ถูกปกปิดที่ตั้งด้วยเหตุผล
อันไม่ปรากฏ
- เทรวิซและคณะเดินทางไปถึงคอมพอเรลลอน และต่อไปยังพิภพดั้งเดิมของชาวอวกาศ
คือ ออโรรา, โซลาเรีย และเมลโพเมเนีย และต่อไปยังอัลฟา (จากเรื่อง "สถาบันสถาปนา
และโลก" – Foundation and Earth)
๑๐๐๐ การก่อตั้งจักรวรรดิใหม่
๑๐๒๐ การจัดพิมพ์ครั้งที่ ๑๑๖ ของเอ็นไซโคลปิเดียกาแล็กติก้า
-------------------------------------------------------------------------------