ขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านนะครับ

2. สมาชิกในกลุ่ม
1)นางสาวบุญญิสา รอดแพทย์ เลขที่ 24 ม.5/10
2)นายธนพล เกษมจิตต์ เลขที่ 25 ม.5/10
3)นางสาวเกวลิน นุชแหยม เลขที่ 26 ม.5/10
4)นายศักดิ์ดา กกรัมย์ เลขที่ 27 ม.5/10
5)นางสาวเปรมกมล เปรมภิวงค์ เลขที่ 42 ม.5/10

3. หลักการแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอน
การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการ
ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
หลักการแก้ปัญหา
การใช้หลักการในการแก้ปัญหา

4. มนุษย์ กับการแก้ปัญหานั้นเป็นสิ่งที่คู่กันมานาน มนุษย์ได้พยายามคิด
ค้นหาวิธีต่างๆ ซึ่งวิธีการพื้นฐานที่มนุษย์ใช้แก้ปัญหามาตั้งแต่อดีต
จนถึงปัจจุบันคือการลองผิดลองถูก โดยสิ่งที่ประสบความสาเร็จจะถูก
ถ่ายทอดมาสู่รุ่นหลัง จึงได้มีวิธีสามารถแก้ปัญหาได้หลายวิธี และ
ปัญหาที่เกิดจากหลายๆ สาเหตุที่แตกต่างกัน ประสบการณ์ ความรู้
จะทาให้มนุษย์สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีขั้นตอน และ วิธีการ อย่าง
สมเหตุสมผลและมีประสิทธิภาพ

5. กระบวนการวิธีการแก้ปัญหา
กระบวนการแก้ปัญหามีอยู่ 4 วิธี
1.การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา คือ การพิจราณา
ข้อมูลและเงื่อนไขที่กาหนดมาในปัญหา การระบุข้อมูลออก ได้แก่ การ
พิจารณาขั้นตอนวิธีการให้ได้มาซึ่งคาตอบหรือข้อมูลออก เพื่อเป็น
แนวทางสู่กระบวนการขั้นต่อไปได้

6. 2. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธิการแก้ปัญหา เป็นขั้นตอนการจาลอง
ความคิดในการแก้ปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยผู้ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาสามารถ
เข้าใจและปฎิบัติตามไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งทาได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
2.1 การเลือกเครื่องมือที่ใช้ในการแก้ปัญหาโดยพิจารณาตามความเหมาะสมในเงื่อนไข
ต่างๆ ของปัญหา
2.2 การออกแบบวิธีในกาแก้ปัญหฟา ผู้แก้ปัญหาควรใช้แผนภาพหรือเครื่องมือในการ
แสดงขั้นตอนการทางานเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ

7. 3. การดาเนินการแก้ไขปัญหา เป็นขั้นตอนที่ต้องลงมือแก้ไขปัญหาโดยใช้เครื่องมือที่
เลือกไว้โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปหรือการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรม
แก้ปัญหา ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือที่เลือกใช้ซึ่งผู้แก้ปัญหาต้อง
ศึกษาให้เข้าใจและเชี่ยวชาญ

8. 4. การตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการ เป็นขั้นตอน
การตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้จากการดาเนินการแก้ปัญหา
ว่าถูกต้องสอดคล้องกับข้อมูลเข้า ข้อมูลออก
และวิธีการประมวลผลหรือไม่ ถ้ายังพบข้อบกพร่อง
ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

9. การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอียดของปัญหา
1. สิ่งที่ต้องการ เป็นการบอกเดี่ยวกับงานที่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์และแสดงผลออกมาใน
ลักษณะต่างๆ เช่น ต้องการที่จะพิมพ์รายงานที่เป็นตะแนนสอบ ต้องการแสดงผลทาง
หน้าจอ ต้องการพิมพ์รายงานแสดงข้อมูลบัญชี

10. 2. รูปแบบผลลัพธ์เป็นการวิเคราะห์ถึงการแสดงผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ เนื่องจาก
คอมพิวเตอร์สามารถแสดงผลได้หลายอย่าง ดังนั้นจึงควรนึกถึงปัจจัยรอบด้าน
3. ข้อมูลนาเข้า เมื่อผู้วิเคราะห์ได้ออกแบบรูปแบบของรายงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผล
ทางจอภาพ การพิมพ์รายงานออกทางเครื่องพิมพ์ จงสังเกตเพียงพอต่อการเสนอไหม
4.ตัวแปรที่ใช้ เป็นการวางแผนเพื่อกาหนดตัวแปรสาหรับใช้แทนข้อมูลนาเข้าแต่ละตัว
และกาหนดตัวแปรเพื่อใช้เก็บข้อมูลที่เกิดจากการประมวลผล
5. วิธีการประมวลผล
5.1 วิธีการับข้อมูลเพื่อประมวลผล
5.2 การทดสอบข้อมูลข้อสุดท้าย

11. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีใน
การแก้ปัญหา
1. ผังงาน เป็นการอธิบายการทางานโดยใช้สัญลักษณ์และวิธีการต่างๆ
1. ผังงานระบบ เป็นผังงานที่แสดงถึงขอบเขตขั้นตอนทางานในระบบหนึ่งโดยรวม
2. ผังงานโปรแกรม ผังงานนี้จะแสดงถึงขั้นตอนของคาสั่งที่ใช้ในโปรแกรม
* ประโยชน์ของผังงาน
- สามารถเรียนรู้ได้ง่าย
- สะดวกต้องการศึกษา
* ข้อจากัดของผังงาน
- สิ้นเปลืองอุปกรณ์
-

12. 1.3 สัญญาลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงาน

13. 1.4 หลักเกณฑ์ในการเขียนผังงาน
1.การกาหนดจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดโปรแกรม
2.การกาหนดค่าแรกเริ่ม
3.การรับข้อมูลนาเข้าและการแสดงผลข้อมูล
4.การทดสอบ
5.จุดต่อและการเชื่อมโยงระหว่างหน้า

14. ในการเขียนผังงาน เรามีหลักการจัดภาพทิศทางของผังงาน และข้อตกลงดังนี้
1. ทิศทาง เริ่มจากบนลงล่าง และจากซ้ายไปขวา
2. สัญลักษณะ ที่ใช้ ต้องเป็นตามมาตรฐาน อาจมีขนาดต่าง ๆ กัน แต่รูปร่างเป็น สัดส่วน
ตาม มาตรฐาน
3. หลีกเลี่ยงการโยงเส้นไปมา ในทิศทางที่ตัดกัน ให้ใช้ เครื่องหมายแสดงจุด ต่อเนื่องได้
และทุกจุดในผังงานไม่มีการปล่อยจุดใดจุดหนึ่งไว้ ลอย ๆ
4. ใช้ คาอธิบายที่กะทัดรัดและเข้าใจได้ ง่าย 5. มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สะอาด
และควรเขียน ชื่อของผังงาน ผู้เขียน วันที่และเลขลาดับหน้าเสมอ

15. แผนออกแบบโครงสร้าง
2.1 แผนภาพแบบเลียงระดับ

16. 2.2 แผนภาพแบบทดสอบเงื่อนไข

17. 2.3 แผนภาพแบบซ้า

18. 2.4 แผนภาพแบบคาสั่งเรียกโปรแกรมและการอธิบายเติม

19. 3. รหัสจาลองหรือซูโดโค้ดและพีดีแอล
รหัสจาลองหรือซูโดโค้ด และพีดีแอล เป็นการอธิบายขั้นตอนการทางานของ
โปรแกรมที่ได้วิเคราะห์และออกแบบมาแล้วโดยใช้ถ้อยคาบรรยายเป็นภาษาท้องถิ่น
คือ สามารถใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ