ถ้าหากเราเปิดใจให้เป็นกลางอย่างแท้จริงแล้ว ทัศนะที่เห็นว่าดนตรีเป็นที่หะรอมนั้น ย่อมมีน้ำหนักมากกว่าโดยสิ้นเชิง เพราะหะดีษของบุคอรีย์ที่มักจะถูกแอบอ้างว่าสายรายงานขาด แต่อันที่จริงแล้วสายรายงานไม่ได้ขาดเลย เพราะอิบนุหะญัรก็ได้ออกมาชี้แจงให้ทราบกันแล้วว่าเป็นหะดีษที่สายรายงานถูกต้องไม่ได้ขาดแต่อย่างใด และถึงแม้ว่าจะเป็นแค่หะดีษที่ถูกต้องเพียงแค่บทเดียว ถามว่ามันไม่เพียงพอหรือที่จะตัดสินว่าดนตรีหะรอมอันเนื่องมาจากหลักฐานจากหะดีษที่ถูกต้องชัดเจน ซึ่งตามหลักศาสนาแล้วนักวิชาการมีความเห็นว่าหะดีษอาหาด แม้จะมีเพียงแค่บทเดียวแต่ถ้าถูกต้องก็ถือว่าใช้ได้ และขอถามว่าหากจะเลือกเอาทัศนะแรกที่เห็นว่าดนตรีหะลาล แล้วจะไปตอบกับอัลลอห์อย่างไรในวันกิยามะฮ์ว่าได้ทิ้งหะดีษที่ถูกต้อง เพียงเพราะเหตุผลว่ามันเป็นเพียงแค่หะดีษบทเดียว แล้วก็เลือกที่จะเอาทัศนะว่าดนตรีหะลาล เพียงเพราะเหตุผลว่าไม่มีหะดีษที่ชัดเจนในการต้องห้ามดนตรีอัลลอห์ทรงสั่งใช้ให้เราปฏิบัติตามอัลกุรอานและสุนนะฮ์ของท่านนะบีย์ฯ มิใช่หรือ แล้วเหตุใดถึงไม่ยอมรับในหุกม์ที่ว่าดนตรีเป็นสิ่งต้องห้าม และอยากทราบว่าในเมื่อมีนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านหะดีษออกมาชี้แจงแล้วว่าสายรายงานถูกต้องมิใช่เป็นมุอัลลัก(สายรายงานขาด) ดังที่มีผู้อ้างว่าขาด ก็อยากทราบว่า ในเมื่อสายรายงานถูกต้องใช้ได้ จะบอกว่าไม่หนักแน่นได้อย่างไรกันใช้อะไรตัดสิน ตัวบทและความเข้าใจของบรรดานักวิชาการสุนนะฮ์ หรือความคิดส่วนตัวเพียงเท่านั้น ชัยค์อับดุลลอฮ์ เราะมะฎอน บินมูซา เป็นนักวิชาการยุคปัจจุบันท่านหนึ่งได้เขียนหนังสือเพื่อชี้แจงถึงฟ