More Related Content
Featured
Featured (20)
กลุ่มสัจจะ๓
- 2. รู้รักสามัคคี ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีว่า “ความมั่นคงที่เป็ นปัจจัยสาคัญ คือความมั่นคงของประชาชนในชนบทเพราะประชาชนในชนบท เป็ นประชาชนส่วนใหญ่ เป็ นประชาชนส่วนรวมและประชาชนส่วนรวมหรือ ประชาชนทั้งหมดนั้น คือ ชาติเราจึงต้องปฏิบัติให้ชาติ คือประชาชนในส่วนรวมมีความมั่นคง” พระราชดาริของพระองค์ที่ทรงประทานแก่ข้าราชการ จังหวัดสกลนคร เมื่อ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๘ ซึ่งมีสาระสาคัญโดยสรุปว่า
- 3. “การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของราษฎรใน ชนบทนั้น ควรจัดให้มีระบบเงินทุนหมุนเวียนขึ้นในลักษณะ “ศูนย์สาธิตบริหารการเงิน” เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของราษฎรให้ได้ ถ้าสามารถหารูปแบบการสาธิตเป็ นผลสาเร็จ ควรนาไปแพร่ขยายทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ ในลักษณะเป็ นเศรษฐกิจหมู่บ้าน และพัฒนาต่อไป เป็ นระบบหมู่บ้านสหกรณ์ใน อนาคต”
- 22. กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต หลักการและเหตุผล ทาไมต้องใช้กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ฯ ๑.พระพุทธศาสนาที่มีคุณค่าจะยั่งยืนได้ด้วยความร่วมมือกันของพุทธบริษัท๔ ๒.ในสถานการใหม่ ต้องประยุกต์หลักธรรมวินัยให้สมสมัย เพิ่มบทบาทจากการตั้งรับ คือเทศน์สั่งสอน เป็นเชิงรุก โดยการพัฒนา “ธรรมะ” เข้าสู่ชุมชน จากหลัก “ปริยัติ” ไปสู่ “ปฏิบัติ” เพื่อให้เกิด “ปฏิเวธ” และตามหลักอิทัปปัจจยตา เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ๓.“การเงิน” เป็นเหตุใหญ่ เมื่อเหตุอยู่ที่การเงิน จะดับก็ด้วยการใช้ “การเงิน” ดังคติคาพังเพยโบราณว่า หนามยอก เอาหนามบ่ง
- 23. ๔.“เงิน” เปรียบอสรพิษ และ “เงิน” เปรียบดังมีดดาบ คือ เป็นได้ทั้งประโยชน์และโทษ หากจะก่อประโยชน์ต้องมีคุณธรรมกากับ ๕.หลักคุณธรรมเพื่อกากับ “เงิน” คือความมี “สัจจะ” จริงใจต่อตัวเอง เป็นเบื้องต้น หลักธรรมสังคหวัตถุ เรื่องทาน ทาอย่างไรให้การทาทานแล้ว เป็นการสร้างมิตร หลักหัวใจเศรษฐี ขยันหา รู้จักรักษา สร้างกัลยาณมิตร มีชีวิตที่พอดี หลักเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธในการจัดการทรัพย์ และอื่นๆ ๖.ใช้ “การเงิน” มาเป็นเครื่องมือ(อามิส)ในการรวมคน และสอน “ธรรมะ” มีการจัดสวัสดิการเพื่อการพึ่งตนเองแบบครบวงจรชีวิตพัฒนาคนให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เสริมกาลังศรัทธาที่มีอยู่แล้วให้ศรัทธามากขึ้น ทาให้คนที่ไม่มีศรัทธาให้ศรัทธา
- 24. วิธีการ หลักการและเหตุผล ทาไมต้องใช้กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ฯ ๑.การอบรมถวายความรู้ให้พระสงฆ์และฆาราวาส เรื่องปัญหาของการเงิน อุบายที่จะพัฒนาการเงินไปสู่ธรรมะ วิธีการจัดตั้งกลุ่ม การพัฒนาทีมงานให้เข้มแข็ง การติดตามเป็นพี่เลี้ยง ๒.การทางานแบบเดี่ยวๆในสถานการณ์ใหม่มีพลังไม่เพียงพอ จาต้องหาทางร่วมมือถักทอเชื่อมโยงการทางานของพระสงฆ์และฆราวาส
- 25. ลักษณะของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ ๑) คล้ายกับธนาคาร เพราะมีการฝากเงิน กู้เงิน หรือถอนเงิน ๒) คล้ายกับประกันภัย เพราะสมาชิกได้รับการคุ้มครองเมื่อมีการเสียชีวิต หรือมีการเจ็บป่วย ๓) คล้ายกับสหกรณ์ เพราะมีการขายสินค้าราคาถูกให้แก่สมาชิก สิ้นปีมีเงินปันผล
- 27. คุณธรรมที่เกิดขึ้นกับกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ คุณธรรม ขยัน ประหยัด มีวินัยสามัคคีซื่อสัตย์ อดทน อดออม อดกลั้น ความรักความเอื้อเฟื้ อเผื่อแผ่ ความ เสียสละเพื่อส่วนรวม ความ มีเมตตา ความรับผิดชอบ ร่วมกัน ความเห็นอกเห็นใจ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
- 28. วิธีดาเนินการจัดตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ คณะกรรมการทางานควรมี ตาแหน่งต่างๆ ดังนี้ (๑) คณะกรรมการ อานวยการ (๒) คณะกรรมการ ส่งเสริมสินเชื่อ (เงินกู้) (๓) คณะกรรมการ ตรวจสอบ (๔) คณะกรรมการ ส่งเสริม
- 29. กรรมการอานวยการ มีจานวน ๕ ถึง ๗ คน ประกอบด้วย ตาแหน่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ ประธาน ๑ คน รองประธาน ๑ คน เลขานุการ ๑ คน เหรัญญิก ๑ คน กรรมการ ๑-๓ คน
- 30. กรรมการส่งเสริมสินเชื่อ (เงินกู้) มีจานวน ๓ ถึง ๕ คน ประกอบด้วย ตาแหน่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ ประธาน ๑ คน รองประธาน ๑ คน เลขานุการ ๑ คน กรรมการ จานวนไม่เกิน ๒ คน
- 31. กรรมการตรวจสอบ มีจานวน ๓ ถึง ๕ คน ประกอบด้วย ตาแหน่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ ประธาน ๑ คน รองประธาน ๑ คน เลขานุการ ๑ คน กรรมการ จานวนไม่เกิน ๒ คน
- 32. กรรมการส่งเสริม มีจานวน ๓ ถึง ๑๕ คน ประกอบด้วย ตาแหน่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ ประธาน ๑ คน รองประธาน ๑ คน เลขานุการ ๑ คน กรรมการ จานวนไม่เกิน ๑๒ คน
- 33. ประเภทสมาชิกกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ ๑. สมาชิกสามัญ ๒. สมาชิกวิสามัญ ๓. สมาชิกกิตติมศักดิ์
- 34. หน้าที่ของสมาชิก ส่งเงินสัจจะสะสมทรัพย์เป็ นประจาทุกเดือน ชาระค่าสมัคร ค่าธรรมเนียม ตามระเบียบของกลุ่ม มีส่วนร่วมในกิจกรรมของกลุ่มอย่างแข็งขัน ชักชวนบอกกล่าวความดีของกลุ่ม ขยายผลไปสู่ผู้อื่น เลือกตั้งและสมัครรับเลือกตั้งเป็ นคณะกรรมการบริหารกลุ่ม ช่วยกากับ,ตรวจสอบ,แนะนา,ให้ข้อมูลขาวสาร เสนอแนะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ดีกับกลุ่ม กู้เงิน ต้องชาระค่าบารุง ค่าธรรมเนียมตามระเบียบของกลุ่ม
- 41. ข้อพิจารณาในการจัดตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ ๑.ไม่เน้นโตเร็ว ๒.ไม่ได้เอาค่าของเงินเป็ นตัว ๓.มีเจตนามุ่งเน้นคุณธรรม ๔.ให้พระช่วยจัดตั้ง ๕.ไม่ต้องกลัวว่าซ้าซ้อนกับกลุ่มอื่น ๖.ให้สมาชิกช่วยเหลือกัน ๗.ไม่ต้องของบประมาณจากใคร ๘.พระมีทุนทางสังคมอยู่แล้ว ๙.ไม่ต้องรอคนรวยมาเป็ นสมาชิก ๑๐.ให้พระช่วยเป็ นพี่เลี้ยง ๑๑.ทางานไม่ต้องกลัวการถูกนินทา
- 42. การตั้งกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์มีความเหมาะสมอย่างไรที่วัดจัดตั้ง ๑.เป็ นการเผยแผ่ธรรมะด้วยการสอนให้ทา ๒.วัดได้รับการสนับสนุนจากพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ ๓.ตรงกับนโยบายของหน่วยอบรมประชาชนประจาตาบล ๔.ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจตามแนวพระบรมราโชวาท ฯ ๕.ปลูกฝังความสามัคคี สร้างความมั่นคงให้กับประชาชน ๖.เป็ นเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ
- 43. นโยบายของหน่วยอบรมประชาชนประจาตาบล ๘ หัวข้อ ๑.ศีลธรรมและวัฒนธรรม ๒.สุขภาพนามัย ๓.สัมมาชีพ ๔.สันติสุข ๕.ศึกษาสงเคราะห์ ๖.สาธารณสงเคราะห์ ๗.กตัญญูกตเวทิตาธรรม ๘.สามัคคีธรรม
- 44. เอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมในการจัดตั้งกลุ่ม ๑.ใบสมัครสมาชิก ๒.ทะเบียนสมาชิก ๓.ทะเบียนคุมเงินฝาก ๔.สมุดเงินฝากของสมาชิก ๕.ใบชีเงินสด รับ - จ่าย ๖.สมุดบันทึกการประชุม ๗.สมุดบันทึกเงื่อนไขของกลุ่ม ในกรณีที่มีการกู้เงิน ๘.ทะเบียนคุมเงินกู้ ๙.ใบรายการผ่อนชาระเงินกู้ ๑๐.ทะเบียนรับเงินกู้
- 69. ศูนย์สาธิตการตลาดคืออะไร คือ ร้านค้าของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ ที่สมาชิกกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ ทุกคนเป็ นเจ้าของเพื่อแก้ไขปัญหา ซื้อของแพง ขายของถูก โดยวิธีรวมกันซื้อ รวมกันขาย วัตถุประสงค์ ของศูนย์สาธิตการตลาด ๑.เพื่อฝึกหัดให้สมาชิกมีความรู้ ความสามารถและทักษะในการค้าขาย ๒.เป็ นการฝึกหัดการนาเงินไปลงทุนให้เกิดดอกผลเพิ่มพูน ๓.เพื่อช่วยเหลือสมาชิกกลุ่ม และประชาชนในหมู่บ้าน สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาประหยัด ๔.ป้ องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง โดยการรวมกันขายผลิตผลของสมาชิกกับภาคธุรกิจ ๕.ต้องการให้สมาชิกกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์มีความรู้ความสามารถด้านการค้าขาย ในระดับชุมชนและขยายสู่ธุรกิจระดับสูงขึ้นไปได้ในอนาคต
- 71. ประเภทสินค้าช่วยเหลือสมาชิก ผลิตผลทางการเกษตร สินค้าหัตถกรรม/อุตสาหกรรมในครอบครัว ปุ๋ ย อื่น ๆ ประเภทของสินค้าบริการสมาชิก เครื่องอุปโภค บริโภค วัสดุ และเครื่องมือการเกษตร อาหารสัตว์ น้ามัน เครื่องใช้ไฟฟ้ า อื่นๆ ตามความจาเป็ นและความต้องการของสมาชิก
- 72. สมาชิกกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ได้ประโยชน์จากศูนย์สาธิตการตลาด ๑.ซื้อสินค้าในราคาที่เป็ นธรรม เป็ นการลดต้นทุนการผลิต และประหยัดรายจ่าย ๒.เป็ นศูนย์กลางจาหน่ายสินค้า / ผลิตผล ๓.ได้รับเงินเฉลี่ยคืนจากการซื้อสินค้า ๔.ได้รับเงินปันผล ๕.ได้ฝึกหัดการทามาค้าขาย ๖.ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
- 73. ระบบการตลาดในปัจจุบัน วงจรนี้ สินค้ากว่าจะถึงชาวบ้าน ชาวบ้านถูกกินกาไรไม่น้อยกว่า ๒ ทอด ผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ลูกค้าคือชาวบ้านผู้ค้าปลีก กาไร กาไร
- 74. ทาอย่างไรจะให้ลูกค้า คือชาวบ้าน ซื้อของได้ถูก ต้องใช้กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ หรือ ศูนย์สาธิตการตลาด เป็ นตัวตัดวงจร ผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ลูกค้าคือชาวบ้านผู้ค้าปลีก กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ หรือ ศูนย์สาธิตการตลาด ถ้าวันนี้ เรามีกลุ่ม มีมวลชน ให้ใช้กลุ่ม หรือมวลชน เป็ นตัวประสาน ทาให้มีข้อต่อรอง ซื้อของขายก็ได้ถูก
- 76. ทาบุญสัจจะครบ ๑๘๐ วัน ได้สวัสดิการ ดังนี้ ๑. เกิด ให้ลูก ๕๐๐ บาท แม่นอนโรงพยาบาลได้คืนละ ๑๕๐ บาท ไม่เกิน ๑๐ คืน ปี ละไม่เกิน ๑,๕๐๐ บาท ๒. แก่ สัจจะครบ ๑๕ ปี อายุครบ ๖๐ ปี ได้บานาญเดือนละ ๓๐๐ บาท และทุกๆ ๕ ปี จะเพิ่มให้ปี ละ ๑๕๐ บาท ๓. เจ็บ นอนโรงพยาบาล ให้คืนละ ๑๕๐ บาท ปี ละไม่เกิน ๑๐ คืน ๔. ตาย
- 77. ตาย ทาบุญสัจจะ ๖ เดือน ถึง ๒ ปี ตาย ได้ค่าทาศพ ๒,๕๐๐ บาท ทาบุญสัจจะ ๒.๑ ปี ถึง ๔ ปี ตาย ได้ค่าทาศพ ๕,๐๐๐ บาท ทาบุญสัจจะ ๔.๑ ปี ถึง ๘ ปี ตาย ได้ค่าทาศพ ๗,๕๐๐ บาท ทาบุญสัจจะ ๘.๑ ปี ถึง ๑๒ ปี ตาย ได้ค่าทาศพ ๑๐,๐๐๐ บาท ทาบุญสัจจะ ๑๒.๑ ปี ถึง ๑๖ ปี ตาย ได้ค่าทาศพ ๑๕,๐๐๐ บาท ทาบุญสัจจะ ๑๖.๑ ปี ขึ้นไป ตาย ได้ค่าทาศพ ๒๐,๐๐๐ บาท
- 78. ๕. ทุนการศึกษา และทุนประกอบอาชีพ กองทุนมีงบประมาณให้ยืม ๓๐% ของเงินออมวันละ ๑ บาท ๕.๑ ครอบครัวที่จะยืมกองทุนการศึกษาหรือประกอบอาชีพ ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าบารุง(ดอกเบี้ย) แต่ต้องเป็ นครอบครัวที่ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ และไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษไม่ประกอบอาชีพ ผิดกฎหมาย ต้องทาบัญชีรับ-จ่ายครัวเรือนด้วย ๕.๒ ในการพิจารณาให้ยืมทุนทั้ง ๒ ข้อนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกส่วนมากก่อน
- 79. ๖. กองทุนวันละบาทจัดสวัสดิการภาคประชาชน วัดหนองพยอม ทาการวันอาทิตย์ต้นเดือน หลังวันทาการกลุ่มสัจจะ ฯ ๗.คณะกรรมการกองทุนวันละบาท จัดสวัสดิการภาคประชาชนวัดหนองพยอม ประกอบไปด้วย
- 80. ๑. ประธานใหญ่ พระครูวิบูลสิทธิธรรม ๒. ประธานที่ปรึกษา พล.เอก ดร.ศิริ ทิวะพันธ์ ๓. คณะกรรมการอานวยการ ประธาน นายเกษม มั่นสุวรรณ รองประธาน นายประทวน บุตรเพชร เหรัญญิก นางสมพร บุตรเพชร เลขานุการ นางประเชิญ ไชยเอม กรรมการ ๑. นางอนันต์ อ่อนทอง ๒. นางจันทร์ หนูอ้น ๓. นางกาหลง หนูอ้น ๔. นายประการ ประจักษ์ปัญญา ๕. นางสาวรัตนาภร น้อยมั่น ๖. นางผิน แร่ยั่งบืน คณะกรรมการมีวาระ ๑ ปี ครบ ๑ ปี ก็เลือกตั้งใหม่ และกรรมการเก่าสามารถเป็ นได้ทุกสมัยถ้าสมาชิกประชุมคัดเลือกให้เป็ นต่อ
- 81. ปัจจุบันกองทุนทาบุญวันละบาท จัดสวัสดิการภาคประชาชนวัดหนองพยอม มีสมาชิก ๖๗๐ คน มีเงินกองทุน ๕๖๘,๑๑๑ บาท ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๖