More Related Content
Similar to ปัจจัยการเกิดไวรัสคอมพิวเตอร์
Similar to ปัจจัยการเกิดไวรัสคอมพิวเตอร์ (20)
ปัจจัยการเกิดไวรัสคอมพิวเตอร์
- 2. บทนา
ความเป็ นมาและความสาคัญของปั ญหา
โรงเรี ยนชลราษฎรอารุงเป็ นโรงเรี ยนที่ใช้ เทคโนโลยีในระบบการเรี ยนการสอน
เป็ นหลัก เนื่องจาก เทคโนโลยีสมัยนี ้เริ่ มมีการพัฒนาขึ ้นมามาก เช่น การเรี ยนรู้โดยใช้
เทคโนโลยีจะสะดวกในการหาข้ อมูลจานวนมากเมื่อใช้ คอมพิวเตอร์ การออกแบบ
เอกสารประกอบการเรี ยนจะเกิดจากการใช้ เทคโนโลยีทงนัน นับวันเทคโนโลยีเริ่ มจะ
ั้ ้
เข้ ามาอยู่สวนหนึงในชีวิตของมนุษย์ แต่ร้ ูไหมว่าเทคโนโลยีได้ สร้ างสิ่งที่น่ากลัวขึ ้นมามัน
่
่
มีทงในด้ านที่ดีแล้ วก็ไม่ดี ด้ านดีนนก็คือ มันจะบารุงระบบคอมพิวเตอร์ รักษาความ
ั้
ั้
ปลอดภัยของระบบ เก็บรักษาข้ อมูล แต่ด้านที่ไม่ดีมนจะทาลายระบบขโมยข้ อมูลสร้ าง
ั
ความวุนวายกับคอมพิวเตอร์ อย่างรุนแรงแล้ วมันสามารถทาสาเนาตัวเอาใหม่ได้ แพร่
่
พันธุ์เพิ่มจานวนได้ มากมายในเวลาอันสันถ้ าไม่ร้ ูจกวิธีการทาลายพวกมันหรื อปองกัน
้
ั
้
มันอาจจะเกิดความสูญเสียคอมพิวเตอร์ แล้ วพวกมันก็คือ "ไวรัสคอมพิวเตอร์ "
- 3. จากเทคโนโลยี สมัยนี ้เริ่ มมีการพัฒนาขึ ้นมามาก เช่น การเรี ยนรู้โดยใช้
เทคโนโลยีจะสะดวกในการหาข้ อมูลจานวนมากเมื่อใช้ คอมพิวเตอร์ การ
ออกแบบเอกสารประกอบการเรี ยนจะเกิดจากการใช้ เทคโนโลยีทงนันจึง
ั้ ้
จาเป็ นต้ องศึกษาปั จจัยที่ทาให้ เกิดไวรัสขึ ้นเพื่อไม่ให้ โรงเรี ยนชลราษฎร
อารุง ตกเป็ นเหยื่อ ไวรัสคอมพิวเตอร์
- 5. ขอบเขตการศึกษา
• ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรี ยนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 5 และ 6 โรงเรี ยนชล
ราษฎรอารุ ง จานวน 48 ห้องเรี ยน เป็ นนักเรี ยนทั้งสิ้ น 2250 คน
• กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็ นนักเรี ยน(ที่สุ่มอย่างง่าย) ระดับชั้นม.4 5 และ 6 โรงเรี ยน
ชลราษฎรอารุ ง ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึกษา 2556 จานวน 200 คน
- 6. ประโยชน์ ท่ ีคาดว่ าจะได้ รับ
คอมพิวเตอร์ ในโรงเรี ยนชลราษฎรอารุงจะปลอดภัยจากไวรัสคอมพิวเตอร์
รู้จกการปองกันและกาจัดไวรัสได้ อย่างถูกวิธีและเป็ นระบบเพื่อลดการถูกทาลาย
ั
้
ของระบบ เนื่องจากไวรัสซึงนามาแก้ การสูญเสียคอมพิวเตอร์ หรื ออย่างน้ อย
่
คอมพิวเตอร์ จะใช้ งานได้ ไม่ยงยืนเต็มประสิทธิภาพ
ั่
- 8. เครื่ องมือที่ใช้ ในการศึกษา
•
เครื่ องมือที่ใช้ ในการศึกษาครังนี ้ คือ แบบสอบถาม 1 ฉบับ ซึงมีรายละเอียดดังนี ้
้
่
ออกแบบสอบถามเรื่ อง เรื่ อง ปั จจัยการเกิดไวรัสคอมพิวเตอร์ ของนักเรี ยนชันมัธยมศึกษา
้
ตอนปลายโรงเรี ยนชลราษฎรอารุงต่อการศึกษาในระดับอุดมศึกษาโดยขอคาแนะนาจากคุณครู
คณพศ อินทเคหะ หรื อคุณครูอาภากร โพธิ์แก้ ว โดยเตรี ยมร่างข้ อคาถาม มีลกษณะเป็ นข้ อ
ั
คาถามจานวน 4 ข้ อแบ่งเป็ น 3 ตอน
ตอนที่ 1 สอบถามถึงข้ อมูลเบื ้องต้ นที่จาเป็ นต่อการศึกษาค้ นคว้ า เช่น เพศ
ตอนที่ 2 สอบถามเรื่ องไวรัสคอมพิวเตอร์ ของนักเรี ยนชลราษฎรอารุง
• ตอนที่ 3 แนวทางการแก้ ไขปั ญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ ในโรงเรี ยนชลราษฎรอารุง
- 10. ตารางที1 การวิเคราะห์ขอมูล ปั จจัยการเกิดไวรัส โรงเรี ยนชลราษฎร
่
้
อารุ ง ตารางที่ 1 แสดงผลระดับคะแนนปัจจัยการเกิดไวรัส ของนักเรี ยน
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรี ยนชลราษฎรอารุ งชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4,
5 และ 6 จานวน 100 คน
รายการประเมิน
การใช้ แฟลชไดรฟ
์
การดาว์โหลดไฟล์
เข้ าเว็ปผู้ใหญ่ 20+
การคลิกลิงค์โฆษา
ระดับคะแนน
69%
31%
47%
18%
จากตารางที่1พบว่ า ปั จจัยการเกิดไวรัสเกิดจากการใช้ แฟลช
ไดรฟคิดเป็ นร้ อยละ 69%
์
- 11. ตารางที่ 2 แสดงปั จจัยการเกิดไวรัสโรงเรี ยนชลราษฎรอารุง จาก
กลุมตัวอย่างของนักเรี ยนชันมัธยมศึกษาตอนปลายจานวน 100
่
้
คน
- 12. สรุป อภิปรายผล และ ข้ อเสนอแนะ
ผลการดาเนินการวิจยพบว่าปั ญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ โรงเรี ยนชลราษฎรอารุงเกิดจากสองสาเหตุหลัก
ั
ใหญ่ๆคือ 1. การใช้ แฟลตไดร์ 2. เข้ าเว็ปผู้ใหญ่ 20+
วิธีการแก้ ไข 1. การใช้ แฟลตไดร์ Flash Drive ถือเป็ นสิ่งที่จาเป็ นของนักคอมพิวเตอร์ ยคปั จจุบน
ุ
ั
เพราะอุปกรณ์เล็กๆ อันนี ้ช่วยให้ การทางานเราง่ายขึ ้น โดยเราสามารถพกพาข้ อมูลต่างๆ ไปได้ ทกที่
ุ
มีน ้าหนักเบากว่าการถือแฟมเป็ นไหนๆ ถึงแม้ มนจะมีประโยชน์ให้ กบเรามากมายแต่มนก็อาจจะ
้
ั
ั
ั
สร้ างปั ญหาให้ เราอย่างมากมายเกินที่คณจะนึกได้ นันคือการเผนแพร่ ไวรัสผ่าน Flash Drive
ุ
้
นันเอง
้
วิธีที่ไวรัสเข้ าไปฝั งตัวอยู่ใน Flash Drive ก็คือเมื่อเสียบ Flash Drive เข้ ากับคอมพิวเตอร์ ที่มี
ไวรัสอยู่ ไวรัสจะแพร่กระจายตัวเอง โดยการเขียนตัวเองพร้ อมกับเขียนไฟล์ ที่มีชื่อว่า
Autorun.int ลงบน Flash Drive ซึง File นี ้จะเป็ นตัวบอกให้ Windows เรี ยก
่
โปรแกรมทางานอัตโนมัติและพร้ อมที่จะแพร่กระจายตัวเอง เมื่อเรานา Flash Drive ไปเสียบกับ
เครื่ องคอมพิวเตอร์ เครื่ องต่อไป
- 13. ข้ อเสนอแนะ
• 1.สามารถนาไปศึกษาปั ญหาต่างๆที่พบ แต่ควรมีตวแปรร่ วมด้วย เพื่อให้การศึกษามีคุณภาพ
ั
2.สามารถนาไปศึกษากับกลุ่มตัวอย่างอื่น
3.ควรมีเวลาศึกษามากขึ้น
4.ควรแก้ไขและปรับปรุ งแบบสอบถามให้ดีข้ ึน
ฯลฯ