More Related Content
Similar to Ppe for yasothon hospital personnel
Similar to Ppe for yasothon hospital personnel (14)
Ppe for yasothon hospital personnel
- 1. ื
การปองก ันการแพร่กระจายเชอแบบ
้ ื
การป้ องกันการแพร่กระจายเชอ
มาตรฐาน ื
ตามวิธการแพร่เชอ
ี
การป้ องกันการแพร่กระจายเชอื
ื
การป้ องกันการติดเชอแบบครอบจักรวาล และ
1. ทางอากาศ
ื ั
การป้ องกันการติดเชอจากการสมผัสสารคัดหลัง
)
2. ทางละอองฝอยนํ ามูก นํ าลาย
ั
3. จากการสมผัส
- 2. ้ ื
การปองก ันการแพร่กPrecautions
Isolation ระจายเชอในโรงพยาบาล
Transmission base
Standard Precaution
Precautions
Hand Hygiene ( การล้างมือ)
Airborne
้
PPE(การใชเครืองปองก ันร่างกาย)
9 ้
Droplet
ื ื
Patient equipment (การทําลายเชอ/ทําให้ปราศจากเชอ)
ิ9
Environment Control ( การควบคุมสงแวดล้อม) Contact
Linin ( การจ ัดการผ้าเปื อน)
Occupational health and blood born pathogen
ื
(การปองก ันการติดเชอจากการให้บริการ)
้
Patient placement( การจ ัดวางผูปวย)
้่
- 3. ื
การปองก ันการแพร่กระจายเชอแบบ
้
มาตรฐาน
1. การล ้างมือ
2. ้ )
การใชเครืองป้ องกันร่างกาย
3. มารยาทการไอ-จาม
4. ื ื
การทําลายเชอและการทําให ้ปราศจากเชออุปกรณ์
ทางการแพทย์
5. ิ)
การควบคุมสงแวดล ้อม
6. การบริหารจัดการเครืองผ ้า
)
7. ื ั
การป้ องกันการติดเชอจากการสมผัสเลือด-สารคัด
) ื
หลังและการป้ องกันการติดเชอจากการปฏิบตงาน
ั ิ
8. การจัดเตียงผู ้ป่ วย
- 4. ้
การใชเครืองปองก ันร่างกาย
9 ้
้ 9
1. ใชเมือจําเปน ็
้ )
ควรใชเครืองป้ องกันร่างกายเฉพาะในกรณีทมข ้อ
ี) ี
ี ้
บ่งชให ้ใชเท่านั น และเมือหมดกิจกรรมนั นแล ้ว
)
ให ้ถอดเครือง ป้ องกันร่างกายนั นออก
)
้
2. เลือกใชเครืองปองก ันให้เหมาะแก่งาน
9 ้
้ )
การเลือกใชเครือง ป้ องกันร่างกายแต่ละชนิด
ขึนอยูกบวัตถุประสงค์วาต ้องการป้ องกัน ใคร
่ ั ่
่
และอวัยวะสวนใด ผู ้ปฏิบตงานั ิ
ต ้องมีความรู ้ว่ากิจกรรมแต่ละอย่าง
ี) ั ื
เสยงต่อการสมผัสเชอโรคหรือสารพิษหรือไม่
- 5. ้
การใชเครืองปองก ันร่างกาย
9 ้
้
3. เลือกใชขนาดทีพอดี 9
้ )
ต ้องใชเครืองป้ องกันร่างกายทีมขนาดเหมาะสม
) ี
เพือให ้ได ้ผลดีในด ้าน การป้ องกัน
)
และสะดวกต่อการปฏิบตงาน ั ิ
้
4. เลือกใชให้เหมาะก ับเศรษฐฐานะ
- 6. เครืองปองก ันร่างกายทางการแพทย์ประกอบด้วย
9 ้
1. หมวก (cap)
2. แว่นป้ องกันตา (eyeware)
3. ผ ้าปิ ดปาก - จมูก (mask)
4. ถุงมือ (glove)
ื
5. เสอคลุม (gown)
6. ผ ้ากันเปื อน (apron)
7. รองเท ้า (footware)เหมาะสม
- 7. ้
การใชเครืองปองก ันร่างกาย
9 ้
1.หมวกคลุมผม
- คุณสมบัตทําด ้วยผ ้าหรือกระดาษ ต ้องมีขนาด
ิ
พอดีทจะคลุมผมได ้หมด
ี)
- ประโยชน์ของหมวก ทีสําคัญคือป้ องกันขีรังแค
)
้
และเสนผมของผู ้สวม
- 8. ี
ข้อบ่งชในการสวมหมวกคลุมผม
่
1. ผ่าตัดหรือชวยผ่าตัด
2. ปฏิบตงานอยูในสถานทีทต ้องการความสะอาด
ั ิ ่ ) ี)
่
เชน ห ้องผ่าตัดและบริเวณใกล ้เคียง
3. ขณะปฏิบตงานเกียวกับวัสดุปราศจากเชอ
ั ิ ) ื
่
เชน เตรียมยา สารนํ าทีให ้ทางหลอดเลือด
)
) ี) ื
4.ปฏิบตงานทีเสยงต่อ เชอโรค สารคัดหลั)ง ฝุ่ นละออง
ั ิ
- 9. ่
วิธการสวมใสหมวกคลุมผม
ี
ผู ้สวมใส่ ใสจากด ้านหน ้ามาด ้านหลัง
่
ให ้หมวกคลุมผมให ้เรียบร ้อย
วิธการถอดหมวกคลุมผม
ี
ผู ้สวมใส่ ถอดหมวกโดยจับหมวกจากด ้านหลัง
ก ้มหน ้าเล็กน ้อย ยกหมวกออกมาทางด ้านหน ้า
- 10. แว่นปองก ันตา
้
) ) ิ)
ต ้องเป็ นแว่นทีปกปิ ดเพือป้ องกันสงปนเปื อน
ื
เชอโรคทีเป็ นนํ า หรือละออง
)
ไม่ให ้กระเด็นหรือฟุ้ งเข ้าตา
- 12. ี9 ้ ้
ว ัสดุทใชปองก ันตา มี 4 ชนิดดังนี
1. แว่นตาธรรมดา
ไม่มแผงป้ องกัน สารนํ าหรือละอองจะเข ้าตา
ี
ได ้จากด ้านข ้างและด ้านล่าง
ไม่เหมาะสําหรับหัตถการทีมความเสยง
) ี ี)
2. แว่นตาทีมแผงกน
9 ี ั
ั
แผงด ้านข ้างและด ้านล่างจะกระชบกับใบหน ้า
่
ชวยป้ องกันสารนํ าและละอองได ้อย่างดี
- 13. ี9 ้ ้
ว ัสดุทใชปองก ันตา มี 4 ชนิดดังนี
3. แว่นตาสําหร ับสวมใสขณะว่ายนํา
่
ั
จะกระชบแน่นกับใบหน ้า ป้ องกันไม่ให ้ละอองเข ้าตา
4. หน้ากาก (face shield)
อาจจะเป็ นแผงติดกับกรอบ
้ ี ่
ใชสวม ศรษะ ข ้อดีคอนํ าหนั กน ้อย ใสสะดวก
ื
แต่การป้ องกันนํ าหรือ
ละอองทีเข ้าทางด ้านข ้างและด ้านล่างไม่คอยดี
) ่
- 14. ี ่
ข้อบ่งชในการใสแว่นปองก ันตา
้
1. หัตถการทีอาจจะมีเลือดกระเด็นเข ้าตา
)
่
เชน การผ่าตัด การทําคลอด
2. หัตถการทีคาดว่าอาจจะมีสารคัดหลั)งพุงเข ้าตา
) ่
่
เชน การดูดเสมหะ ผู ้ป่ วย
3. หัตถการทีอาจจะมีละอองฝอยเข ้าตา
)
่
เชน การกรอฟั น การกรอหรือ เลือยกระดูก
)
การปฏิบตงานในห ้องปฏิบตการ ฯลฯ
ั ิ ั ิ
- 16. วิธการถอดแว่นตาและเครืองปองก ันใบหน้า
ี 9 ้
้
- จับทีขาแว่นตาทังสองข ้างโดยใชมือที)
)
ไม่สวมถุงมือ
- ยกออกจากใบหน ้าแนวขนานกับพืน
- วางไว ้ในภาชนะทีเตรียมไว ้เพือนํ าไป
) )
ทําความสะอาดและทําลายเชอก่อน ื
้
นํ ามาใชใหม่
่
- ถอดเครืองป้ องกันใบหน ้าเชนเดียวกับ
)
การถอดแว่นตา
- 18. ผ้าปิ ดปากปิ ดจมูก (Mask)
ผ้าปิ ดปาก-จมูก(Surgical mask)
้้
ใชปองก ันละอองฝอยขนาดใหญ่(droplet) และ
ละอองฝอยทีฟงกระจายในอากาศ ผูทควรสวมใส่
9 ุ้ ้ ี9
้่ 9 ิ ื
คือบุคลากรและผูปวยทีตดเชอทางเดินหายใจ
ผูปวยTB ผูปวยเม็ดเลือดขาวตํา
้่ ้่ 9
- 20. 9 ี9 ื
การปฏิบ ัติงานทีเสยงต่อการได้ร ับเชอโรคเข้าทางลม
หายใจ
ื
- ควรสวมผ ้าปิ ดปาก-จมูกชนิดพิเศษทีสามารถจะกรองเชอโรคได ้
)
(high efficiency particular air - HEPA filter mask: N95)
ั ั
- กระชบแน่นกับใบหน ้า มีแผ่นกรองหลายชน และมีราคาแพง
้
กรณีทจะต ้องใชผ ้าปิ ดปาก-จมูกชนิด N95
ี)
) ี) ื
1. หัตถการทีเสยงต่อการรับเชอจากผู ้ป่ วย ได ้แก่
่
การสองกล ้องเข ้าทางเดิน หายใจ (bron-choscopy)
การทํากายภาพบําบัดเพือให ้ผู ้ป่ วยไอ เป็ นต ้น
)
) ี) ื
2. การปฏิบตงานทีเสยงต่อการสูดเชอโรคเข ้าทางเดินหายใจ
ั ิ
่ ื
เชน การเพาะเชอจากเสมหะ เป็ นต ้น
- 21. ี
ข้อบ่งชในการผูกผ้าปิ ดปาก-จมูก
่
1. การทําหัตถการ เชน ผ่าตัด
ฟอกผิวหนั งผู ้ป่ วยไฟไหม ้นํ าร ้อนลวก ฯลฯ
2. เมือบุคลากรหรือผู ้เยียมไข ้ผู ้ทีป่วยเป็ น
) ) )
โรคทีตดต่อได ้ทางลมหายใจ เชน ไข ้หวัด
) ิ ่
วัณโรค ฯลฯ
3. การดูแลผู ้ป่ วยหรือการปฏิบตงานใน
ั ิ
ห ้องทดลองทีอาจจะมีเลือด
)
ิ)
สารนํ าหรือละอองของสงเหล่านีกระเด็นเข ้า
ปาก จมูก
- 22. วิธการสวมผ ้าปิ ดปากและจมูก
ี
- สวมผ ้าปิ ดปากและจมูกให ้คลุมจมูก ปากและคาง
- ่ ั
ปรับสวนบนของผ ้าปิ ดปากและจมูกให ้รับกับสนจมูก
- ผูกสายผ ้าปิ ดปากและจมูก
- ปรับให ้กระชบั
- 23. วิธการถอดผ ้าปิ ดปากและจมูก
ี
้
- ปลดสายผูกผ ้าปิ ดปากและจมูกเสนล่างก่อน แล ้วจึง
้
ปลดเสนบน
- ดึงออกจากใบหน ้า
- ทิงในภาชนะมีฝาปิ ด
- 24. ผ้าปิ ดปากปิ ดจมูก (Mask)
ผ้าปิ ดปาก-จมูกชนิดกรองพิเศษ
(Respiratory protective mask)
มี 9 ชนิด
N-95, N-99, N-100
R-95, R-99, R-100
P-95, P-99, P-100
- 28. วิธการสวม N95 Particulate respirator
ี
- เลือกขนาดให ้เหมาะสมกับใบหน ้า
- วาง N95 โดยให ้ด ้านนอกอยูในอุ ้งมือ
สาสยทัง 2 ข ้างอยูใต ้หลังมือ
่
ั
ปรับแถบโลหะให ้รับกับสนจมูก
) ี
- โยงสายรัดไปทีศรษะ
ั
- ปรับให ้กระชบ
- 29. วิธการสวม N95 Particulate respirator
ี
ั
ปรับแถบโลหะให ้รับกับสนจมูก
) ี
- โยงสายรัดไปทีศรษะ
ั
- ปรับให ้กระชบ
ั
- ทดสอบความกระชบ (fit check)
โดยสูดลมหายใจ หากสวมกระชบ ั
N95 จะแฟบลง
หายใจออก ตรวจสอบดูวามีอากาศ
่
ออกด ้านข ้างใบหน ้าหรือไม่
- 30. วิธการถอด N95
ี
้
- ดึงสายรัดเสนล่างออกก่อน
้
- ดึงสายรัดเสนออก
- ทิงลงในภาชนะทีมฝาปิ ด
) ี
- 31. ผ้าปิ ดปาก-จมูก
ั ้ ั
อาจจะเปนผ้าใยสงเคราะห์ใชครงเดียวแล้วทิง
็
็ 9 ั ้
หรือเปนผ้าเย็บทีสามารถนําไปซกแล้วใชใหม่ได้อก
ี
- 32. ถุงมือ
) ้
ประโยชน์ของถุงมือทีใชทางการแพทย์ มี 2 ประการ คือ
ั ิ)
1. ป้ องกันมือทีอยูในถุงมือมิให ้สมผัสกับสงสกปรก
) ่
สารพิษ หรือเชอโรค ื
ิ) ) ิ)
2. ป้ องกันสงทีจับต ้องไม่ให ้เปื อนสงสกปรก
ื
หรือเชอโรคทีอยูบนมือ
) ่
- 33. ์
Latex Glove ( ลาเท็กซ)
้ )
เริมมีใชเมือ 1900s ผลิตในประเทศ Malaysia.
)
จากกระบวนการผลิตมักพบว่า
ถุงมือมีโอกาสเกิดรูเล็ก(pinholes)
รอยฉีกขาด(rips)
และความไม่สมบูรณ์อนๆ(and other imperfections)
ื)
- 35. Nitrile Gloves
ข้อดี ี
ข้อเสย
ยอดเยียม
) ราคาแพง
Excellent Barrier Protection Higher Price
ป้ องกันสารเคมี
Chemical Resistance
ไม่มลาเท็กซ ์
ี
Latex-free
- 36. Viniyl / Synthetic Exam Gloves
ข้อดี ี
ข้อเสย
ิ
ประสทธิภาพสูง ไม่คงทน
High Value Less Durable Synthetic
ราคาถูก ยืดขยายไม่ด ี
Cheap Lower Elongation
Latex-Free Bad Perception
- 37. ประเภทของถุงมือ
) ้
ถุงมือยางทีใชในสถานพยาบาล มี 2 ประเภท คือ
ื
1. ถุงมือปราศจากเชอ (sterile glove)
) ้
อาจจะเป็ นถุงมือทีใชครังเดียว (disposable)
) ้ ื
หรือถุงมือทีใชแล ้วนํ าไปล ้างแล ้วอบไอนํ าฆ่าเชอ
(reusable) มี 2 ขนาด คือ
ื ั ้
1.1 ถุงมือปราศจากเชอขนาดสน ใชงานทั)วไป
1.2 ถุงมือปราศจากเชอขนาดยาว ใชสําหรับการล ้วงรก
ื ้
หรือผ่าตัดอวัยวะทีอยูลก
) ่ ึ
- 38. ประเภทของถุงมือ
2. ถุงมือสะอาด (non-sterile glove)
เป็ นถุงมือทีไม่ได ้รับการทําให ้ปราศจากเชอ
) ื
ประกอบด ้วย
2.1 ถุงมือทีสวมเพือใชในการตรวจ
) ) ้
(examination glove)
้ ั ิ)
ใชสวม มือก่อนสมผัสสงของทีสกปรก )
ื ้
มีพษ หรือมีเชอโรค ใชในกิจกรรม การตรวจ
ิ
ั
การรักษา พยาบาลผู ้ป่ วยเพือป้ องกันการสมผัส
)
ผิวหนั งทีมรอยโรคหรือบาดแผล
) ี
หรือสารคัดหลั)ง ทีไม่ต ้องการ
)
การปราศจากเชอ ื
- 39. ประเภทของถุงมือ
2. ถุงมือสะอาด (non-sterile glove)
ื
เป็ นถุงมือทีไม่ได ้รับการทําให ้ปราศจากเชอ
)
ประกอบด ้วย
2.2 ถุงมือยางชนิดหนา (heavy-duty glove)
เป็ นถุงมือยางทีใช ้ ในงานซกล ้าง
) ั
หรือหยิบจับของหนั ก ๆ ทีสกปรก)
้ ่ ็
ใชในกิจกรรมงานบ ้าน เชนกวาด เชด ถู รวบรวม
และ ขนย ้ายมูลฝอย ล ้าง ทําความสะอาด
- 40. ี ้ ุ ื
ข้อบ่งชในการใชถงมือปราศจากเชอ มีด ังนี
) ) ) ื
1. เมือหยิบจับเครืองมือทีปราศจากเชอ
่
2. เมือทําหัตถการ เชน การเจาะ การผ่าตัด ฯลฯ
)
- 41. ื
การถอดถุงมือปราศจากเชอ
็
เมือเสร็จภารกิจ ให ้เชดหรือล ้างเลือด
)
หรือหนองออกจากถุงมือให ้
มากทีสด แล ้วจึงถอดถุงมือใสลง
) ุ ่
ในถังทีเตรียมไว ้
)
ั
เพือนํ า ไป ซกล ้างและเข ้ากระบวนการ
)
ื
ทําให ้ปราศจากเชอต่อไป
้
ถ ้าเป็ นถุงมือใชครังเดียว
ให ้ถอดทิงในถุงขยะติดเชอ ื
้ ็
หลังจากใชทันทีโดยไม่ต ้องเชด หรือล ้าง
- 43. ี ้ ุ
ข้อบ่งชในการใชถงมือสะอาด มีด ังนี
ิ)
1. การหยิบจับสงของสกปรก น่ารังเกียจ
ื
มีสารพิษ หรือมีเชอ โรค
่
2. การจับต ้องผู ้ป่ วยหรืออวัยวะสวน
่ ื
ใดสวนหนึงของผู ้ป่ วย ทีมหรือคาดว่าจะมีเชอโรค
) ) ี
อันตราย
3. การหยิบจับ ล ้าง วัสดุหรือสถานทีทสกปรก
) ี)
ื ้
หรือมีเชอโรคใชถุงมือยางชนิดหนา
- 44. ี ้ ุ
ข้อบ่งชในการใชถงมือสะอาด มีด ังนี
้ ) ั
4. ใชเพือป้ องกันการสมผัสเลือดหรือ
สารคัดหลั)ง
้ ) ั
5. ใชเพือป้ องกันการสมผัสเยือเมือก
)
้ ) ั
6. ใชเพือป้ องกันการสมผัสผิวหนั ง
ทีมรอยโรคหรือบาดแผล
) ี
- 45. ้ ุ
วิธการใชถงมือสะอาด
ี
2.1 ถ ้ามีแผลทีมอหรือนิวมือ
) ื
ิ
ให ้ปิ ดแผลด ้วยพลาสเตอร์ให ้มิดชดก่อน
ิ)
สวมถุงมือ เพือป้ องกันสงสกปรก
)
ื
เชอโรค หรือสารพิษไม่ให ้เข ้าทาง
บาดแผลในกรณีทถงมือรั)วหรือขาด
ี) ุ
2.2 การจับต ้องผู ้ป่ วยรายใหม่ให ้เปลียน
)
ถุงมือคูใหม่กอนจับต ้องผู ้ป่ วย รายใหม่
่ ่
- 46. ้ ุ
วิธการใชถงมือสะอาด
ี
เมือเสร็จภารกิจแล ้ว ถอดถุงมือทิงลง
)
่
ในถังรองรับเพือแชในนํ ายา
)
ื ั
ทําลายเชอก่อนซกล ้างแล ้ว
้
นํ ามาใชใหม่ตอไป่
้
ถ ้าเป็ นถุงมือใชครังเดียว
ให ้ถอดทิงลงในถุงขยะติดเชอ ื
ล ้างมือให ้สะอาดด ้วยนํ าและ
สบูหลังจากถอดถุงมือแล ้ว
่
- 47. การสวมถุงมือโดยไม่จาเปนทีพบได้บอย ๆ มีด ังนี
ํ ็ 9 ่
1. การจับต ้องผู ้ป่ วยทีไม่มบาดแผล ไม่เป็ นโรคติดต่อ
) ี
่ ี
เชน การจับ ชพจร การวัดความดันโลหิต
การวัดอุณหภูมรางกาย ฯลฯ
ิ่
2. การทํางานเอกสารทังทียังสวมถุงมือ
)
่
เชน การเขียนรายงาน การกรอกรายงาน
ื ) ิ ) ั
เชอทีตดบนถุงมือจะติดกับเอกสารทีสมผัส
คน ทีจับต ้องต่อมาจะติดเชอได ้
) ื
3. การไม่ถอดถุงมือแม ้จับหูโทรศพท์ ั
้
เปิ ดปิ ดประตูโดยใชมือบิด ฯลฯ
- 49. วิธการสวมถุงมือ
ี
สวมถุงมือหลังจากสวมอุปกรณ์
ป้ องกันอืนแล ้ว
)
เลือกชนิดของถุงมือให ้เหมาะสม
สอดมือเข ้าไปในถุงมือ
ื
ดึงถุงมือทับแขนเสอคลุม
- 52. ื
เสอคลุม
ี ่ ื
ข้อบ่งชของการใสเสอคลุม
ั ิ) ) ี ื
1. เมือจะสมผัสกับสงทีมเชอโรค
)
่
เชน การอุ ้มเด็กทีมแผลพุพองตามตัว
) ี
ื ู่
2.เพือป้ องกันเชอโรคแพร่สผู ้ป่ วย
)
่
เชน การทําผ่าตัด ทําคลอด ฯลฯ
- 53. ื
เสอกาวน์(Gown)
้ )
ใชเพือป้ องกันการเลือด หรือสารคัดหลัง
)
กระเด็นถูกบริเวณร่างกาย
- 54. ี ่ ื
ข้อเสยของการใสเสอคลุม มีด ังนี
1. ไม่สะดวก และเสยเวลา ี
ิ) )
เพราะมีสงทีต ้องปฏิบตเพิมขึน
ั ิ )
ี
2. เสยค่าใชจ่าย ้
ึ
3. ทําให ้รู ้สกว่าปลอดภัยทีมเครืองป้ องกัน
) ี )
ึ) ่
ซงอาจนํ าไปสูการละเลย nursing care techniques
อืน ๆ ทีสําคัญกว่า
) )
- 55. ี ่ ื
ข้อเสยของการใสเสอคลุม มีด ังนี
้ ื
4. ถ ้าใชอย่างไม่ถกต ้อง เสอคลุมจะเป็ นพาหะใน
ู
การแพร่กระจายเชอ ื
่ ื ้
5. น่ารังเกียจ ถ ้าต ้องใสเสอคลุมทีผู ้อืนใชแล ้ว
) )
้ ื
การใชเสอคลุมให้เกิดประโยชน์ในการปองก ันการ
้
ื
ติดเชอด ังกล่าวข้างต้น
้ ้ ื
ต้องใชอย่างถูกต้อง คือ การใชเสอคลุม 1 ต ัวต่อ
การดูแลผูปวย 1 คน เท่านน
้่ ั
- 56. ื
วิธการสวมเสอคลุม
ี
ื
เลือกชนิดและขนาดของเสอคลุมให ้เหมาะสม
ื ่
- สวมเสอคลุมให ้สวนทีเปิ ดอยูด ้านหลัง
) ่
- ื
ผูกสายเสอคลุมบริเวณคอและเอว
ื ้ ื
- หากเสอคลุมมีขนาดเล็ก ให ้ใชเสอคลุม 2 ตัว
ตัวแรกให ้ผูกด ้านหน ้า
ตัวทีสองให ้ผูกด ้านหลัง
)
- 57. ื
วิธการถอดเสอคลุม
ี
- ื
ปลดสายเสอคลุมออก
- ื
ดึงเสอคลุมออกให ้พ ้นคอและบ่า
- ม ้วนให ้ด ้านทีปนเปื อนอยูด ้านใน
) ่
- ทิงให ้ภาชนะทีมฝาปิ ดมิดชด
) ี ิ
- 58. ผ้าก ันเปื อน(Apron)
้ )
ใชเพือป้ องกันการเลือด
หรือสารคัดหลั)งกระเด็นถูก
บริเวณร่างกายควรเป็ นชนิดพลาสติกเต็มตัว
- 59. ผ้าก ันเปื อน
่ ื ่ ่
ผู ้ปฏิบตงานควรใสผ ้ากันเปื อนทับเสอผ ้าทีสวมอยูเชน
ั ิ )
ึ
ขณะ ผ่าตัด เลือดอาจจะซมผ่านเสอคลุม ื
ื
ถูกผิวหนั งใต ้เสอคลุมได ้
หรือขณะล ้างของสกปรก
ั ่
ผ ้ากันเปื อนในปั จจุบนสวนใหญ่ทําด ้วยพลาสติก
) ้
อาจจะเป็ น ชนิดทีใชครังเดียวทิง
) ั ้
หรือชนิดทีซกล ้างนํ ามาใชใหม่ได ้
้
การเลือกว่าจะใชชนิดใดก็ขนกับเศรษฐฐานะ
ึ
) ้
โดยทั)วไปชนิดทีใชครังเดียวจะมีราคาสูงกว่า
- 60. รองเท้าบูท(Boots)
๊
้ )
ใชเพือป้ องกันการเลือด
หรือสารคัดหลั)งกระเด็นถูก
บริเวณเท ้า
- 61. รองเท้า
ชนิดและประโยชน์ของรองเท ้า
่
1. รองเท ้าแตะ สวนใหญ่เป็ นรองเท ้าฟองนํ า
ี
มีประโยชน์ในการ ลดเสยงดังเวลาเดิน และถ ้าล ้างทํา
ความสะอาดจะชวยลด ่
ื
ความสกปรกของพืนและเชอโรคทีพนเมือเทียบกับ
) ื )
) ่
รองเท ้า ทีใสทั)วไป
้
2.รองเท ้ายางหุ ้มข ้อ (รองเท ้าบูท) ใชป้ องกันเท ้าจาก
๊
สารนํ าทีสกปรก
)
- 62. ้
สถานทีทควรใชรองเท้าพิเศษ
9 ี9
1.ห ้องผ่าตัด ผู ้ทีจะเข ้าห ้องผ่าตัดต ้องสวมรองเท ้าสะอาด
)
่
สวนใหญ่เป็ น รองเท ้าฟองนํ า
2.หน่วยอภิบาลทีต ้องการความสะอาด เชน
) ่
หอผู ้ป่ วยไฟไหม ้นํ าร ้อนลวก ผู ้ป่ วยเปลียนอวัยวะ
)
่
หน่วยไตเทียม สวนหออภิบาลอืน ๆ ความจําเป็ น
)
และประโยชน์ของรองเท ้าพิเศษ
ื
ในการป้ องกันการติดเชอจะมีน ้อย
่
3. ห ้องคลอด ผู ้ทําคลอดควรใสรองเท ้ายาง
หุ ้มข ้อเพือป้ องกันเลือดเปื อนเท ้า ขณะทําคลอด
)
4. บริเวณพืนทีเปี ยก สกปรก มีเชอโรค เชน
) ื ่
่
ห ้องนํ า เรือนพักขยะผู ้ปฏิบัตงานควรใสรองเท ้ายางหุ ้ม
ิ
- 63. การดูแลรองเท้า
) ่
1. รองเท ้าทีใสเข ้าบริเวณสะอาด
ได ้แก่ รองเท ้าแตะฟองนํ าและ
) ่
รองเท ้าทีใสเข ้าห ้องผ่าตัดสวนตัว ่
ควรล ้างด ้วยนํ าและ ผงซกฟอก ั
็
และเชดทําความสะอาดเมือสกปรก )
่
ไม่ใสรองเท ้า เหล่านีเมือเดินไปบริเวณทีสกปรก
) )
่
เชน เข ้าห ้องนํ า บนถนน
2. รองเท ้ายางหุ ้มข ้อ เมือใชแล ้ว
) ้
้
ให ้ใชนํ าราดหรือฉีดกําจัดสง ิ)
สกปรกทีเปรอะเปื อนอยูออกแล ้ว
) ่
ั
ขัดล ้างด ้วยนํ าและผงซกฟอก นํ าไปผึงให ้แห ้ง
)
- 68. ั ิ9 ่
การถือ หรือสมผ ัส ขวด ภาชนะ บรรจุสงสงตรวจ
- 69. การใช้ อุปกรณ์ ปองกันร่ างกายในกิจกรรทีทําไม่ บ่อย
้ .
กิจกรรม ถุงมือ ถุงมือ ถุงมือยาง เสื อคลุม ผ้ าปิ ด ผ้ ากัน แว่ น รองเท้ า
ปราศจาก สะอาด ปาก เปื อน
เชือ หนา จมูก บู๊ท
1.เจาะเลือด - + - - - - - -
2.ให้ นําเกลือ ฉีดยาเข้ าหลอดเลือด - + - - - - - -
3.เย็บแผลทีมเี ลือดออกมาก
. + - - - + + + +
4.เย็บแผลทีมเี ลือดออกไม่ มาก
. + - - - - - - -
5.ใส่ ท่อช่ วยหายใจ + - - - + + + -
6.เจาะคอ + - - + + + + -
7.Cutdown + - - - + - + -
8.ช่ วยหายใจด้ วย Ambu bag - + - - + + + -
9.กู้ชีพ (C.P.R.) - + - - + + + -
10.เตรียมผิวหนังเพือผ่ าตัด
. - + - - - - - -
11.ทําความสะอาดแผลอุบัติเหตุ + - - - + + + -
- 70. การใช้ อุปกรณ์ ปองกันร่ างกายในกิจกรรทีทําไม่ บ่อย
้ .
กิจกรรม ถุงมือ ถุงมือ ถุงมือยาง เสื อคลุม ผ้ าปิ ด ผ้ ากัน แว่ น รองเท้ า
ปราศจาก สะอาด ปาก เปื อน
เชือ หนา จมูก บู๊ท
12.ทําความสะอาดแผลไฟไหม้ - + - - - + + - -
นําร้ อนลวก
13.ล้ างท้ อง - + - - + + + -
14.Haemodialysis + - - - + + + -
15.ตรวจภายในสตรี + - - - + + - -
16.ทําความสะอาดเตรียมคลอด + - - - + + + -
17.ทําคลอด + - - + + + + +
18.เช็ดตัวทารกแรกเกิด + - - - + + - -
19.ขูดมดลูก + - - + + + + +
20แต่ งศพ - + - - + + - -
- 71. ื
การปองก ันการแพร่กระจายเชอแบบ
้
มาตรฐาน
1. การล ้างมือ
2. ้ )
การใชเครืองป้ องกันร่างกาย
3. มารยาทการไอ-จาม
4. ื ื
การทําลายเชอและการทําให ้ปราศจากเชออุปกรณ์
ทางการแพทย์
5. ิ)
การควบคุมสงแวดล ้อม
6. การบริหารจัดการเครืองผ ้า
)
7. ื ั
การป้ องกันการติดเชอจากการสมผัสเลือด-สารคัด
) ื
หลังและการป้ องกันการติดเชอจากการปฏิบตงาน
ั ิ
8. การจัดเตียงผู ้ป่ วย