More Related Content
Similar to Magnetic contactor1
Similar to Magnetic contactor1 (8)
Magnetic contactor1
- 15. แมกเนติกคอนแทกเตอร์ (Magnetic Contactor) เป็นอุปกรณ์ที่อาศัยการทำงานโดยอำนาจแม่เหล็กในการเปิดปิดหน้าสัมผัส ในการควบคุมวงจรมอเตอร์หรือเรียกว่าสวิตช์แม่เหล็ก (Magnetic Switch) หรือคอนแทคเตอร์ (Contactor) ก็ได้ 3
- 17. 1.แกนเหล็ก แบ่งออกเป็น 2 ส่วน 1.1 แกนเหล็กอยู่กับที่ (Fixed Core) จะมีลักษณะขาทั้งสองข้างของแกนเหล็ก มีลวดทองแดงเส้นใหญ่ต่อลัดอยู่ เป็นรูปวงแหวนฝังอยู่ที่ผิวหน้าของแกน เพื่อลดการสั่นสะเทือนของแกนเหล็ก อันเนื่องมาจากการสั่นสะเทือนไฟฟ้ากระแสสลับเรียกวงแหวนว่า Shaddedring 5
- 19. 2.ขดลวด (Coil) ขดลวดทำมาจากลวดทองแดงพันอยู่รอบบ๊อบบิ๊นสวมอยู่ตรงกลางของขาตัวอีที่อยู่กับที่ ขดลวดทำหน้าที่สร้างสนามแม่เหล็กมีขั้วต่อไฟเข้าใช้สัญลักษณ์อักษรกำกับ คือ A1- A2 หรือ a-b 7
- 20. 3.หน้าสัมผัส (Contact) หน้าสัมผัสจะยึดติดอยู่กับแกนเหล็กเคลื่อนที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ -หน้าสัมผัสหลัก หรือเรียกว่าเมนคอนแทค (Main Contac) ใช้ในวงจรกำลังทำหน้าที่ตัดต่อระบบไฟฟ้าเข้าสู่โหลด -หน้าสัมผัสช่วย (Auxiliary Contac) ใช้กับวงจรควบคุม หน้าสัมผัสช่วยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ หน้าสัมผัสปกติเปิด (Normally Open : N.O.) และหน้าสัมผัสปกติปิด (Normally Close : N.C.) 8
- 21. ส่วนประกอบภายนอก ส่วนที่เป็นหน้าสัมผัสหลัก (MainContact) มีสัญลักษณ์อักษรกำกับบอกดังนี้ - หน้าสัมผัสหลักคู่ที่ 1 1/L1 - 2/T1 - หน้าสัมผัสหลักคู่ที่ 2 3/L2- 4/T2 - หน้าสัมผัสหลักคู่ที่ 3 5/L3- 6/T3 - หมายเลข1 เป็นจุดต่อไฟฟ้าเข้าหน้าสัมผัสหลัก มีสัญลักษณ์อักษรกำกับคือ 1/L1 3/L2 และ 5/L3- หมายเลข2 เป็นจุดต่อไฟฟ้าเข้าหน้าสัมผัสหลัก มีสัญลักษณ์อักษรกำกับคือ 2/T1 4/T2 และ 6/T3 - หมายเลข3 ปุ่มทดสอบหน้าสัมผัส 9
- 22. ส่วนประกอบภายนอกที่เป็นหน้าสัมผัสปกติ หมายเลข 1 ขั้ว A จุดต่อไฟเข้าขดลวด A1-A2หมายเลข 2 หน้าสัมผัสปกติเปิดหมายเลข (N.O.) อักษรกำกับหน้าสัมผัสคือ 13-14หมายเลข 3 หน้าสัมผัสปกติปิดหมายเลข (N.C.) อักษรกำกับหน้าสัมผัสคือ 21-22หมายเลข 4 หน้าสัมผัสปกติปิดหมายเลข (N.C.) อักษรกำกับหน้าสัมผัสคือ 31-32หมายเลข 5 หน้าสัมผัสปกติเปิดหมายเลข (N.O.) อักษรกำกับหน้าสัมผัสคือ 43-44 10
- 26. ชนิดและขนาดของแมคเนติกคอนแทกเตอร์ AC 1 : เป็นแมคเนติกคอนแทกเตอร์ที่เหมาะสำหรับโหลดที่เป็นความต้านทาน หรือในวงจรที่มี inductiveน้อยๆ AC 2 : เป็นแมคเนติกคอนแทคเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับใช้กับโหลดที่เป็น สปริงมอเตอร์ AC 3 : เป็นแมคเนติกคอนแทคเตอร์ที่เหมาะสำหรับใช้ในการสตาร์ทและหยุด โหลดที่เป็นมอเตอร์กรงกระรอก AC 4 : เป็นแมคเนติกคอนแทคเตอร์ที่เหมาะสำหรับการสตาร์ท-หยุดมอเตอร์ วงจร jogging และการกลับทางหมุนมอเตอร์แบบกรงกระรอก 14
- 29. รีเลย์ (Relay) รีเลย์ (relay) คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ ตัด-ต่อวงจร คล้ายกับสวิตซ์ โดยใช้หลักการของหน้าสัมผัส การที่จะให้มันทำงานก็ต้องจ่ายไฟให้มันตามที่กำหนด เพราะเมื่อจ่ายไฟให้กับตัวรีเลย์ มันจะทำให้หน้าสัมผัสติดกัน กลายเป็นวงจรปิด และตรงข้ามทันทีที่ไม่ได้จ่ายไฟให้มัน มันก็จะกลายเป็นวงจรเปิด ไฟที่เราใช้ป้อนให้กับตัวรีเลย์ก็จะเป็นไฟที่มาจาก เพาเวอร์ฯ ของเครื่องเรา ดังนั้นทันทีที่เปิดเครื่อง ก็จะทำให้รีเลย์ทำงาน 17
- 31. 1.รีเลย์กำลัง (power relay) หรือมักเรียกกันว่า “คอนแทกเตอร์” (Contactor or Magneticcontactor)ใช้ในการควบคุมไฟฟ้ากำลัง มีขนาดใหญ่กว่ารีเลย์ธรรมดา 19
- 32. 2.รีเลย์ควบคุม (control Relay) มีขนาดเล็ก กำลังไฟฟ้าต่ำ ใช้ในวงจรควบคุมทั่วไปที่มีกำลังไฟฟ้าไม่มากนัก รีเลย์ควบคุม บางทีเรียกกันง่าย ๆ ว่า "รีเลย์" 20
- 35. ขาของรีเลย์จะประกอบไปด้วยตำแหน่งต่างๆดังนี้คือ - ขาจ่ายแรงดันใช้งาน ซึ่งจะมีอยู่ 2 ขา จากรูปจะเห็นสัญลักษณ์ขดลวดแสดง ตำแหน่งขา coil หรือขาต่อแรงดันใช้งาน - ขา C หรือ COM หรือขาคอมมอน จะเป็นขาต่อระหว่าง NO และ NC - ขา NO (Normally opened หรือ ปกติเปิด) โดยปกติขานี้จะเปิดเอาไว้จะทำงาน เมื่อเราป้อนแรงดันให้รีเลย์ - ขา NC (Normally closed หรือ ปกติปิด) โดยปกติขานี้จะต่อกับขา C ในกรณี ที่เราไม่ได้จ่ายแรงดันหน้าสัมผัสของ C และ NC จะต่อถึงกัน 23
- 36. ข้อคำถึงในการใช้งานรีเลย์ทั่วไป 1. แรงดันใช้งาน หรือแรงดันที่ทำให้รีเลย์ทำงานได้ หากเราดูที่ตัวรีเลย์จะระบุค่า แรงดันใช้งานไว้เช่น 12V DC คือต้องใช้แรงดันที่ 12 V DC เท่านั้นหากใช้มากกว่านี้ ขดลวดภายใน ตัวรีเลย์อาจจะขาดได้ หรือหากใช้แรงดันต่ำกว่ามาก รีเลย์จะไม่ทำงาน ส่วนในการต่อวงจรนั้นสามารถต่อขั้วใดก็ได้ เพราะตัวรีเลย์ จะไม่ระบุขั้วต่อไว้ (นอกจากชนิดพิเศษ)2. การใช้งานกระแสผ่านหน้าสัมผัส ซึ่งที่ตัวรีเลย์จะระบุไว้ เช่น 10A 220V AC คือ หน้าสัมผัสของรีเลย์นั้นสามารถทนกระแสได้ 10 แอมแปร์ที่ 220V AC แต่ว่าการใช้ก็ควรจะใช้งานที่ระดับกระแสต่ำกว่านี้ จะเป็นการดีกว่าเพราะถ้ากระแสมากหน้าสัมผัส ของรีเลย์จะละลายเสียหายได้ 3. จำนานหน้าสัมผัสการใช้งาน ควรดูว่ารีเลย์นั้นมีหน้าสัมผัสให้ใช้งานกี่อัน และมีขั้วคอมมอนด้วยหรือไม่ 24
- 38. รีเลย์ตั้งเวลา (Timer relay ) เป็นอุปกรณ์สวิตซ์ที่สามารถใช้ตั้งเวลาควบคุมการทำงานของสวิตซ์ให้ปิดหรือเปิดได้ตามที่ต้องการ รีเลย์ตั้งเวลามีอยู่หลายชนิด เช่น รีเลย์ตั้งเวลาด้วยของเหลวหรือน้ำมัน รีเลย์ตั้งเวลาด้วยลมอัด รีเลย์เวลาด้วยซิงโครนัสมอเตอร์ และรีเลย์ตั้งเวลาด้วยอิเล็กทรอนิกส์ แต่รีเลย์ที่เราใช้ในการปฏิบัติการในห้องแลป คือรีเลย์ตั้งเวลาด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 26