11111111111111111

3. การเริ่มต้นเข้าใช้งานใน Circlecamp
เริ่มต้นใช้งานใน Circlecamp นั้น สามารถทาได้โดย เปิด Browser เช่น Internet Explorer(IE),
Firefox เป็นต้น ซึ่งระบบของ Circlecamp นั้นจะทางานได้ดีกับ IE7 และ IE8 จากนั้นจะพบหน้าจอดังรูป
 ให้ทาการใส่ Username และ Password ที่ถูกต้องเพื่อเข้าสู่ระบบ
 แล้วคลิกไปที่ ปุ่ม Login
 ก็จะพบหน้าจอสาหรับจัดการหน้าเว็บไซต์ต่อไป
 หากยังไม่มี Username ให้สมัครใช้บริการที่ปุ่ม ลงทะเบียน ก่อน
3

4. การเปลี่ยน เทมเพลต หรือ รูปแบบเว็บไซต์
ท่านสามารถเปลี่ยนรูปแบบเว็บไซต์ ของ ท่านได้อย่าง ง่ายดาย ดังนี้
 เลือกไปที่แท็ปเมนูหลัก Style
 ในแท็ปเมนูย่อย จะพบว่าเมนูย่อย อยู่ที่แท็ป Theme อัตโนมัติ ซึ่งภายในหน้า นี้ท่าน สามารถเลือกรูปแบบ ที่ท่าน
ต้องการได้ตามชอบใจ โดยเลือก รูปแบบที่ท่านต้องการ จากนั้นให้คลิก ไปที่รูปนั้นๆ ได้ทันที
 เราจะมี Theme มากมาย แบ่งตามรูปแบบ หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง กับ รูปแบบเว็บไซต์ของท่าน
4

5.  ในการเลือก Theme ให้นาเมาส์ไป วางบนรูปแบบที่ท่านต้องการเลือก ซึง ในรูปเล็กๆ จะมี กรอบสีส้มขึ้น ให้ท่าน
่
เลือก ตามรูปด้านล่าง
 เลือกรูปแบบ Theme โดยการคลิกที่ รูปเล็ก ๆ หรือ เลือก คาว่า Select Theme ก็ได้
 หากต้องการ Zoom ดูรูปแบบ ของหน้าเว็บ ให้คลิกที่คาว่า Preview
 การนาแบบเดิม หรือ Theme เดิม ที่เคยเลือก กลับมาใช้ ทาได้โดย เลือกที่ ส่วน การนารูปแบบเก่ามาแก้ไข โดยรูป
ที่อยู่ด้านซ้ายสุดคือ รูปแบบที่เคยเปลี่ยนไปล่าสุด ส่วนขวาสุดก็จะเป็นรูปแบบที่เก่าที่สุด ท่านสามารถ เลือกโดยการ
คลิกที่รูปแบบนั้น หน้าจอก็จะย้อนกลับไปใช้รูปแบบเดิมนั้น ทันที ดังรูป
 เนื่องจากรูปแบบ จานวน Theme ของระบบ Circlecamp จะมีมากมาย เราจะจาเป็นจะต้องแบ่งเป็นหน้า ๆ
เพื่อความสะดวกในการเลือกใช้ ดังนั้น ท่านควร คลิกไปดู ทุกหน้าเพื่อเลือก รูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการ
 เรายังได้รวบรวมหน้า ที่ได้รับความนิยมสูงไว้ใน หมวด Popular Themes ซึ่งท่านสามารถคลิกดูได้ว่า มี
รูปแบบใดมีผู้นยมใช้บ้าง
ิ
5

6. การจัดการหน้าเว็บเพจ เพิ่ม ลบ หน้าเพจ
ในการจัดการหน้าเว็บเพจ ไม่วาจะเป็นการ เพิ่มหน้า ลบหน้า หรือ การแก้ไขหน้าเว็บเดิม สามารถทาได้โดยง่าย โดย
่
ให้เลือกไปที่ แท็ปหลัก Page ก็จะพบหน้าเว็บเพจทังหมดทุกหน้า อยู่ด้านล่าง พร้อมกันนี้จะมีส่วนที่บอกว่า เว็บไซต์
้
ของท่านชือว่า อะไร บริเวณด้านซ้ายบน เรียกว่า Your Site นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่บอกว่า ในเว็บไซต์ของท่านมีหน้า
่
เว็บเพจจานวนกี่หน้า ท่านสามารถมองเห็นภาพรวมของเว็บของท่านได้ทั้งหมด จากหน้านี้ ดังรูปด้านล่าง
6

7. เพิ่มหน้าเว็บเพจ
 ทาได้โดยคลิกไปที่เครื่องหมายบวก สีเขียว ให้ใส่ชื่อเพจที่ท่านต้องการตั้งชื่อ เป็นภาษาอังกฤษ เท่านั้น
แล้วกดปุ่ม OK
 ในหน้ารวมเพจ จะมีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาทันที โดยจะแสดงด้วยแถบสีส้ม ซึ่งจะปรากฎให้เห็นดังรูป โดย
ท่านสามารถเลือกรูปแบบนาไปแก้ไขต่อ โดยคลิกที่รูปเล็กๆ นั้นได้ทันที
7

8. การลบหน้าเพจ

ในการลบหน้าเพจนั้นสามารถทาได้โดยง่าย โดยการ นาเมาส์ไปวางที่รูปเล็กในหน้าทีต้องการลบ จะปรากฎกรอบสี
่
ส้มขึ้นมา และเห็นคาว่า Delete อยู่มุมด้านล่าง ให้คลิกไปที่ปุ่มนี้ ก็จะสามารถลบเพจได้ตามต้องการ

ภายหลังกดคาว่า Delete จะปรากฎหน้าให้ยืนยัน การลบ ซึงจะถามว่า ต้องการลบหน้าเว็บเพจชื่อนี้ หรือ ไม่ หาก
่
ท่านต้องการลบให้ทาน คลิกที่ปม OK หากไม่ต้องการ ให้คลิกทีปุ่ม Cancel
่
ุ่
่
8

9. การตั้งหน้าเว็บเพจเป็นหน้าแรก

การตังหน้าเว็บเป็นหน้าแรก เพื่อให้ผู้ใช้ เปิดเว็บไซต์ขึ้นมาจะปรากฎหน้าที่กาหนดไว้นี้ เป็นหน้าแรกเสมอ ดังนั้น ท่าน
้
จาเป็นต้องกาหนดหน้าเว็บที่ท่านต้องการให้เป็นหน้าแรก เสมอ เพราะหากไม่ตั้ง ระบบจะถือว่า หน้า Home เป็น
หน้าแรกของท่าน โดยสามารถโดยได้จาก ข้างหลังชื่อเว็บเพจ จะมีคาว่า (เป็นหน้าแรก) ให้

ให้ท่านใช้เมาส์ไปวางยังหน้าทีเ่ ราต้องการให้เป็นหน้าแรก

จะเป็นแถบสีส้มขึ้นมา มีคาว่า Default ให้ท่านคลิกทีคานี้
่

หน้าเว็บของท่านหน้านี้กจะเป็นหน้าแรก และจะปรากฎคาว่า (เป็นหน้าแรก) ต่อจากชื่อเว็บนั้น
็
9

10. การแก้ไขหน้าเว็บเพจที่ต้องการ
ในการแก้ไขหน้าเว็บเพจนั้น สามารถทาได้โดยท่านต้องเลือกหน้าที่ต้องการ ที่จะแก้ไขก่อนโดยคลิกไปที่
หน้าที่ต้องการแก้ไข หน้าแท็ปหลัก Page จากนั้นก็โปรแกรมก็จะเลื่อนหน้าแท็ปหลักไปที่หน้า Edit Page
อัตโนมัติ ซึ่งในหน้า Edit Page ก็จะปรากฎหน้าที่ทานเลือก เหมือนหน้าเว็บจริง ท่านก็สามารถทาการแก้ไขหน้า
่
เว็บของท่านได้ตามต้องการ
10

11. การแก้ไข ข้อความ

ให้เลือกไปใช้เมาส์เลือกไปที่บริเวณ ส่วนที่ต้องการแก้ไข

จะปรากฎไฮไลท์ รูปไข่ปลาให้เห็นบริเวณที่ต้องการแก้ไข แล้วมีขอความ คาว่า แก้ไข และ ลบ อยู่บนมุมบนขวาของ
้
กรอบนั้น

จากนั้นให้ทาการคลิกคาว่า แก้ไข

จะปรากฎหน้าเว็บที่สามารถใส่ขอความได้ เสมือนหนึ่งว่า ท่านใช้ MS Word โดยท่านสามารถคีย์ข้อมูลที่
้
ต้องการได้เลย

โดยท่านสามารถเลือกรูปแบบอักษร หรือ ขนาดอักษร สีอักษร รูปแบบตัวหนา ตัวเอียง หรือ อื่น ได้จากเมนูดานบนซึง
้
่
จะปรากฎให้เห็นหลังจากคลิกทีปุ่มแก้ไข
่
11

12. 12

13. การเพิ่ม Link ให้กับข้อความ

อยู่ที่แท็ปหลัก Edit Page

เลื่อนเมาส์ไปที่ข้อความ หรือ กรอบที่ต้องการแก้ไข จะปรากฎกรอบ ไฮไลท์ และ คาว่า แก้ไข ด้านบนขวา ทาเหมือน
การแก้ข้อความปกติ

จากนั้นให้ คลิกไปที่ ปุ่มแก้ไข จะปรากฎแถบด้านบนที่มีส่วน เปลียนรูปแบบข้อความ ขึ้นมา
่

ให้ใช้เมาส์ลากบริเวณข้อความทีต้องการทา Link ดังรูป
่

จากนั้นให้ เลือกไปที่ปุ่ม Link ด้านบน ก็จะปรากฎหน้าจอให้ ใส่ Link ที่ต้องการ ดังรูป

ให้ทาการใส่ Link ตามทีต้องการให้ Link ไปที่ไหน
่

หากต้องการ Link ภายในเว็บเอง ก็สามารถทาได้โดย ทาการ คลิกไปที่ปุ่ม Browse เพื่อเลือก Page ที่อยู่
ภายในเว็บท่านเอง

หากต้องการให้ Link แล้วเปิดหน้า window ใหม่ ให้เลือกไปที่ open in new window or new
tab
13

14. 
ถ้าไม่เลือกโดยปกติ จะถูกตั้งค่าให้เป็น open in this window

แล้วคลิกที่ปุ่ม OK เพื่อยืนยัน ในการเพิ่ม Link

หลังจากเพิ่ม Link แล้วก็จะปรากฎ Link ขึ้นตามบริเวณที่ท่านได้ทาการกาหนดไว้ โดยจะมีข้อความที่ขดเส้นใต้
ี
เกิดขึ้นดังรูป

การทา Unlink หรือ นา Link ออกจากข้อความ ก็ทาคล้ายกัน คือ เลือกบริเวณทีเ่ ป็น Link อยู่แล้ว

จากนั้นก็ คลิกที่ปุ่ม Unlink

ก็จะปรากฎ ว่า ข้อความส่วนที่เป็น Link เดิม จะไม่มีขีดเส้นใต้ ซึงหมายถึง ได้นา Link ออกจากข้อความเรียบร้อย
่
14

15. เพิ่ม และ แก้ไขภาพ
 ในการปรับแต่งรูปภาพนั้นสามารถทาได้โดยการ นาเมาส์ไปวางบริเวณรูปภาพที่ท่านต้องการแก้ไข จะพบว่ามุมบน
ขวามีปุ่มแก้ไขปรากฎขึ้นมา ให้ทาการคลิกที่ปุ่มนั้น
 แล้วจะปรากฎรูปดังภาพข้างล่าง โดยส่วนที่เป็นรูปภาพ จะปรากฎคาว่า แก้ไขขึ้นที่ดานบนขวาของ รูปภาพทุกรูปให้
้
คลิกที่ปุ่มแก้ไขนั้น
15

16.  จะปรากฎหน้าจอดังรูป ซึ่งเป็นหน้าจอ สาหรับทาการแก้ไขรูปภาพ ให้คลิกที่ไปทีรูปภาพ ที่ต้องการแก้ไข
 จะปรากฎหน้าจอที่จะทาการแก้ไขภาพ โดยสามารถเพิมภาพ โดยกดปุ่ม add image หรือ เพิ่มข้อความลงไปใน
่
ภาพได้ โดยกดปุ่ม add text ดังรูป
16

17.  หากมีการเพิมรูปภาพเข้าไปจานวนมาก อาจเกิดปัญหาการซ้อนกัน ดังนั้น จึงมี ปุ่มสาหรับการจัดเรียงภาพ ว่าจะให้
่
ภาพอยู่ลาดับชั้นใด โดยคลิกไปที่ภาพที่ต้องการจัดเรียง แล้ว คลิกปุ่ม Front เพื่อนาภาพกลับมาด้านบน ทีละชั้น
หรือ คลิกที่ปุ่ม Back เพื่อนาภาพเลื่อนไปด้านล่างทีละชั้น
 หากคลิกที่ภาพจะสามารถ Crop หรือ ตัดภาพได้ ทาการ Rotate หรือ หมุนภาพได้ และ Resize คือ ปรับ
ขนาดได้ดงรูป
ั
17

18.  ในการหมุนภาพนั้นสามารถทาได้อีก วิธี คือ นาเมาส์ไปวางบริเวณมุมของภาพ ด้านใดด้านหนึ่แล้ว จะพบ
เครื่องหมายให้ เป็นลูกศร ให้หมุนภาพได้ จึงเริ่มทาการหมุนภาพได้ตามทีเ่ ราต้องการ
 หากไม่ต้องการให้ภาพชิ้นใด แก้ไข ในขณะที่ทาการแก้ไขภาพอื่นหรือข้อความอื่น ให้คลิกภาพที่ไม่ต้องการแก้ไขก่อน
แล้ว คลิกที่ปุ่ม Lock
18

19.  หลังจากทาการแก้ไขภาพเรียบร้อยแล้ว จะต้องบันทึกภาพทีต้องการแก้ไขโดยการคลิกที่ปุ่ม Save ภาพก่อน หรือ
่
ถ้าไม่ต้องการบันทึกภาพใหม่ ก็ให้คลิกไปที่ปุ่ม Cancel แทน
19

20. การเพิ่ม Link ให้กับ ภาพ
ในการเพิ่ม Link ให้กับภาพนั้นสามารถทาได้เหมือน กับ การเพิม Link ให้กับ ข้อความ
่
 นาเมาส์ไปวางที่รูปที่ต้องการแก้ไข แล้วคลิกปุ่ม แก้ไข จะปรากฎหน้าจอให้แก้ไข รูปภาพ แล้วให้คลิกไปที่รูปนั้นก่อน
จนเกิดจุดไข่ปลา รอบรูป
 แล้วคลิกที่ปุ่ม Link ดังรูป
20

21.  ให้ใส่เว็บที่ต้อง link ไป หรือ คลิกที่ปุ่ม Browse เพื่อเลือกหน้าเว็บภายในทีเ่ ราสร้างขึ้นมาดังรูป
 หลังจากนั้นให้คลิกที่ปม Ok เพื่อยืนยันการเพิ่ม link
ุ่
21

22. การเพิ่มรูปแบบ FRAME ในเว็บเพจ
การเพิมรูปแบบเว็บเพจนี้ จะถือว่า Frame เป็นส่วนที่อยู่นอกสุด ของหน้าเว็บ โดยจะต้องนา Frame มาวาง
่
ก่อนจะวางส่วนอื่น ๆ ต่อไป เช่น นา Content หรือ Widget หรือ Addon มาวางบน Frame
 การเลือก Frame ให้คลิกทีเ่ มนู Frame เพื่อเลือกรูปแบบของ Frame
 หลังจากคลิก Frame ก็จะปรากฎเมนู Frame แบบต่าง ๆ แยกตามจานวน Column และ ตาแหน่ง
22

23.  ท่านสามารถเลือกกรอบ Frame ตามแบบที่ต้องการออกแบบ ได้โดยการ คลิกลากไปวาง ณ ตาแหน่งบนหน้าเพจ
ที่ต้องการได้เลย ซึงกรอบ Frame นี้เป็นเพียงการกาหนดรูปแบบพื้นที่รอบนอก จะไม่ปรากฎเส้นกรอบในหน้าเว็บ
่
จริงในขณะใช้งานหน้าเว็บนั้น
 จะปรากฎ Frame ใหม่เกิดขึ้นบนหน้าเพจ ซึงจะมีจานวน Column ตามที่ได้เลือก จากรูปตัวอย่าง
่
23

24.  หลังจากนั้น สามารถนารูปแบบ Content หรือ Widget ลากมาวางบน Frame ได้เลยดังรูปตัวอย่างซึ่งจะได้
อธิบายอย่างละเอียดต่อไป
24

25. การลบ FRAME ในเว็บเพจ
ในการลบ Frame นั้นสามารถทาได้โดยต้องเข้าไปสู่ โหมด Frame ก่อนโดยการ คลิกไปที่เมนู Frame จะ
ปรากฎแถบสีน้าเงินขึ้นมา และ รูปแบบหน้าเว็บเพจจะแสดงสถานะ Frame อย่างชัดเจน หากนาเมาส์วางจะเห็นการ
กาหนดพื้นที่ Frame ในหน้าเว็บได้อย่างชัดเจน และ จะปรากฎ คาว่า Delete หรือ ลบ ขึ้นบนมุมบนขวา ของ Frame
ที่เรานาเมาส์ไปวางซึ่งจาก ปุ่มนี้เราสามารถลบ Frame ที่ไม่ต้องการได้โดย คลิกไปที่ Delete หรือ ลบ ก็จะทาให้สามารถ
ลบ Frame นั้นๆ ได้ทันที พร้อมกันนั้น ข้อมูลหรือ Content หรือ Widget ที่อยู่ใน Frame ทั้งหมดนั้นๆ จะถูกลบไป
ด้วยโดยปริยาย ดังนั้นควรระมัดระวังในการใช้งานในโหมดนี้
25

26. การเพิ่ม Content หรือ รูปแบบข้อความ
ในส่วนของแท็ปหลัก Edit Page นั้นจะปรากฏ ปุ่มที่เป็น Content ซึ่งหมายถึงส่วนของ รูปแบบข้อความที่เรา
สามารถนามาเพิ่มเข้าไปในหน้าเว็บได้ โดยการคลิกที่ปุ่ม Content จากนั้นจะพบ รูปแบบ Content ต่างๆให้เลือกเป็น
รูปเล็ก ซึ่งเราสามารถลากมาวางลงบนหน้าเว็บข้างล่างได้เลย
 คลิกที่แท็ปหลัก Edit Page
 คลิกที่ปุ่ม Content จะปรากฎรูปแบบให้เลือก
26

27.  เลือกแบบที่ต้องการแล้ว ลากวางบนหน้าเว็บตรงตาแหน่งทีต้องการ ดังรูป
่
 หลังจากลากวางแล้วจะปรากฎรูปแบบที่เราเลือกบนหน้าเว็บเพจ หากต้องการแก้ไขก็สามารถทาได้โดยการนาเมาส์
ไปวางบริเวณ รูปแบบข้อความนัน แล้วกดปุ่ม แก้ไข ตรงมุมบนขวามือ
้
27

28. การเพิ่ม วีดีโอ หรือ ไฟล์จาก Youtube
 เลือก แท็ปหลัก Edit Page
 เลือก ปุ่ม Content
 ใช้เมาส์ เลือกที่ปม วีดีโอ แล้วทาการ ลากปุ่มนั้นนาไปวางใน ตาแหน่งหน้าเว็บที่ต้องการ
ุ่
 จะปรากฎภาพวีดีโอ ตัวอย่างขึ้น ซึ่งสามารถทาการแก้ไข ไฟล์ วีดีโอ ได้โดย นาเมาส์ไปวาง ที่บริเวณวีดีโอ จะพบปุ่ม
แก้ไข มุมบนขวา ให้ คลิกปุมแก้ไข นั้น
่
28

29.  หลังจากคลิกที่ปุ่ม แก้ไขจะปรากฎ หน้าส่วนที่ แก้ไข วีดีโอ ให้ใช้เมาส์ คลิกไปที่บริเวณ
29

30.  จะปรากฎหน้าจอที่ให้ใส่ที่อยู่ไฟล์ หรือ อัฟโหลด จากเครื่องเราเอง หรือ เลือกไฟล์ จากเครื่องเว็บเซอร์ฟเวอร์
 ให้คลิกที่ปุ่ม OK หลังจากเลือกไฟล์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะกลับมาที่หน้า แก้ไข ซึงเราสามารถ ปรับขนาด วีดีโอได้
่
โดย ใช้เมาส์ ยืดขยาย หรือ ย่อ ส่วน ไฟล์ วีดีโอนั้น ๆ ได้ เลย
 หลังจาก ปรับเปลี่ยนทุกอย่างเรียบร้อย แล้ว ก็ออกจาก โหมด การแก้ไข โดย คลิกบริเวณ ด้านนอก กรอบนั้น หนึ่ง
ครั้ง ก็จะกลับเข้าสูหน้าหลัก เหมือนเดิม
30

31. การเพิ่ม ไฟล์ Flash เข้าไปในหน้าเว็บ

เลือกแท็ปหลัก Edit Page

คลิกที่ปุ่ม Content

เลื่อนเมาส์ไป ตาแหน่ง Flash แล้วทาการลากมาวาง บนหน้าเว็บในตาแหน่งที่ต้องการ

จะปรากฎหน้า Flash ตัวอย่าง เราสามารถเข้าไปแก้ไขไฟล์ Flash ได้โดย ใช้เมาส์ไปวางที่บริเวณนั้น แล้วกดปุม
่
แก้ไขด้านบนขวา
31

32. 
หลังจากคลิกที่ปุ่มแก้ไข จะปรากฎหน้าเพจ ที่ทาการแก้ไข Flash โดยสามารถแก้ไขได้โดย ดับเบิ้ลคลิกไปที่บริเวณ
ไฟล์นั้น ก็จะปรากฎหน้า ให้ใส่ไฟล์ ดังรูป
 ให้ใส่ไฟล์ Flash ที่ต้องการ หรือ ทาการ อัฟโหลด ไฟล์จากเครื่องเราเอง หรือ นาไฟล์เก่าที่อยู่บนเครื่องเว็บ
เซอร์ฟเวอร์ที่ อัฟโหลดไปแล้ว กลับมาใช้อีกได้
32

33. การเพิ่ม Widget หรือ โปรแกรมเพิ่มเติม
ในส่วนของ widget นี้ทาง circlecamp จะมีการเพิ่มเติมโปรแกรมใหม่ ๆ ให้ใช้งาน ตลอด ดังนั้น เราสามารถ
เลือกมาใช้ได้ตามความเหมาะสม ตามลักษณะงานและความต้องการของเว็บนั้นๆ ได้เลย โดยไม่ต้องทาการอัปเดทข้อมูลเอง
หรือ เขียนโปรแกรมเพิ่มเติมเอง โดยทาตามขั้นตอนดังนี้
 เลือกแท็ปหลัก Edit Page
 เลือก ปุ่ม Widget
 จะปรากฎปุ่มให้เลือกอีกมากมาย ข้างล่างดังรูป
 จากนั้นให้ลาก widget ที่ต้องการมาวางในตาแหน่งหน้าเว็บดังรูป
33

34.  หลังจากลากวางแล้วก็จะปรากฎโปรแกรม นั้นๆ ขึ้นในหน้าเว็บ ตาแหน่งที่ได้วางไปดังรูป
 ในเมนู Widget จะมีรูปแบบโปรแกรมที่แตกต่างกันหลากหลาย ดังรูป
ตัวอย่างเช่น
Rate = อัตราแลกเปลี่ยนเงิน
Gold Price = ราคาทองคา
Oil Price = ราคาน้ามัน
Stock = ราคาหุ้น
Show Time = รอบฉายหนัง
Weather = พยากรณ์อากาศ
Counter = โปรแกรมนับผู้เข้าชมเว็บ
Marquee = การสร้างตัวข้อความวิงในหน้าเว็บ
่
นอกจากนี้ยังมี เกมส์ต่าง ๆ ให้ลากมาวางเล่นกัน และ จะมี widget เพิ่มเติมให้ตลอดเพื่อทาให้ การใช้งานน่าใช้
มากยิ่งขึ้น
34

35. การเพิ่ม Addon หรือ โปรแกรม ระบบเสริมต่างๆ
ส่วนการใช้งาน Addon เป็นระบบเสริม เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเพิมความสะดวกในการใช้งานระบบ โดยผู้ใช้ไม่
่
จาเป็นต้องเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมเข้าไปเลยเพียงลากมาวางก็สามารถมีระบบต่างๆ ใช้งานได้ตามต้องการแล้ว ซึงแต่ละ
่
โปรแกรมระบบก็จะมีวิธีและขึ้นตอนใช้งานต่างๆ กันไป แต่วิธีการนามาใช้เหมือนกัน คือ คลิกเลือกโปรแกรม แล้วลากมาวาง
บนหน้าเว็บได้เลย
การเพิ่ม Add On ที่เป็น Market หรือ Shopping Cart

คลิกที่ Add On แล้วเลือก ปุ่ม Market หรือ Shopping Cart แล้ว ลากลงมาวางที่หน้าเว็บ
35

36.  หลังจากลากวาง จะปรากฎหน้า Shopping Cart ขึ้นมา ดังรูป
 ให้ใช้เมาส์ไปมาวางบนหน้า Shopping Cart แล้วจะปรากฎ ปุ่มแก้ไข ที่ด้านขวา ให้คลิกที่ปุ่มนั้นเพื่อทาการ
แก้ไขข้อมูล ร้านค้าหรือ สินค้า
36

37.  หลักจากพบหน้าแก้ไข เราสามารถเปลี่ยนข้อมูลได้ เช่น เพิ่มหมวดสินค้า ก็คลิกที่ เมนูเพิ่มหมวดโดยตรง หรือ การตัง
้
ค่าร้านค้าก็คลิกที่ปุ่มตังค่าร้านค้า
้
 การเพิมหมวดสินค้าก็สามารถคลิกแล้วคีย์ข้อมูลได้โดยตรงที่หน้าเมนูนั้นเลย รวมทั้งการแก้ไข หรือ ลบหมวดสินค้า
่
37

38.  การเพิมสินค้าใหม่ ทาได้โดยคลิกที่หมวดทีต้องการ แล้ว คลิกทีเ่ ครื่องหมายบวกสีเขียว เพื่อเพิ่นสินค้าในหมวดนั้นๆ
่
่
 จะปรากฎหน้าให้ใส่รายละเอียดสินค้าซึ่งสามารถใส่ได้ทงข้อความและรูปภาพของสินค้าดังรูป
ั้
38

39.  การตังค่าร้านค้าเป็นการปรับเปลียนรายละเอียดร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นชื่อร้าน หรือ สี หรือ ขนาดอักษร และต้องคลิก
้
่
บันทึกเพื่อทาการ Save ข้อมูลที่เปลี่ยนไป
 การเปลี่ยนรายละเอียดชาระเงินให้คลิกไปที่แท๊ป Payment ก็จะมีรายละเอียดการชาระเงินกับลูกค้าดังรูป
39

40.  การปรับเปลี่ยนตาแหน่ง หรือ ย้ายตาแหน่งสินค้า ก็สามารถทาได้โดยง่ายโดยการ ลากไปวางตาแหน่งที่ต้องการได้
เลย โดยไม่ต้องมีการลบข้อมูลหรือเพิ่มข้อมูลใหม่แต่อย่างใดดังรูป
40

41. การเปลี่ยนแปลง Header หรือ ด้านหัวบนสุดของหน้าเว็บ
ในการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของหน้าเว็บในส่วนที่เป็นด้านบนสุดของหน้าเว็บนั้นสามารถทาได้ 2 วิธีคือ
 อยู่ที่แท็ป Edit Page วางเมาส์ไปที่ส่วนบนของหน้าเว็บ จนปรากฎไข่ปลา รอบ Header จะพบว่ามีปมแก้ไขอยู่
ุ่
ด้านมุมบนขวา ให้คลิกที่ปม แก้ไขนั้น
ุ่
 อีกวิธีหนึ่งคือ ให้ไปที่แท็ปหลัก Style แล้วเลือก Header ก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน คือ ทั้งสองวิธีจะนาเราไปสู่
หน้าจอสาหรับแก้ไข Header ดังรูป
41

42.  หลังจากนั้นให้ นาเมาส์คลิกไปบริเวณตาแหน่งทีต้องการแก้ไข เช่น ข้อความ หรือ รูปภาพเป็นต้น ซึ่งหากเป็น
่
ข้อความก็จะปรากฎ ข้อความให้แก้ไข หรือ หากเป็นภาพก็สามารถทาการ ลบ ภาพ หรือ นาภาพใหม่เข้ามาวางได้ดง
ั
รูป จะเห็นว่า สามารถปรับรูปแบบ ตัวอักษรได้ ไม่ว่าจะเป็นขนาด สี ตาแหน่งเป็นต้น
 นอกจากนี้หากคลิกไปที่ภาพที่ตองการแก้ไข เราสามารถทาการเคลื่อนย้ายไปยังตาแหน่งที่ต้องการได้โดยลากวาง
้
42

43.  หากต้องการขยายหรือ ย่อขนาดภาพ ต่าง ๆ ที่อยู่ header สามารถทาได้โดยคลิกไปที่ภาพนั้น ๆ แล้วนาเมาส์ไป
วางบริเวณมุมที่ต้องการยืด หรือ ลดขนาด จนปรากฎลูกศรที่มุม ก่อน จึงทาการลากได้ตามต้องการ
 นอกจากนี้เราสามารถเพิมข้อความโดยคลิกที่ add text หรือ เพิ่มภาพ คลิกที่ add image ได้
่
 สามารถปรับแต่งรูปภาพ โดยการ Crop หรือ Rotate หรือ Resize ได้
 สามารถปรับลาดับชั้นของภาพได้ โดยใช้ ปุ่ม Front และ Back โดยต้องคลิกที่รูปภาพนั้น ๆ ก่อน
 หลังจากทาการ แก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องกดที่ปุ่ม Save เพื่อยืนยัน การเปลี่ยนแปลง
43

44. การตั้งค่า เมนู และการเปลี่ยนรูปแบบ
ในการตั้งค่าเมนูนั้นจะเป็นทาให้เมนูของทุกๆ หน้าในเว็บเปลี่ยนไป ซึ่งเราสามารถตังค่า หรือ เปลี่ยนรูปแบบเมนูได้
้
ตลอดเวลา ดังนี้
 เลือกแท็ปหลัก Style
 เลือแท็ปย่อย Menu จะปรากฎหน้าตั้งค่าเมนู ตามรูป
 การเพิมเมนูสามารถทาได้โดยคลิกที่ปุ่มบวก สีส้ม ด้านขวาสุดของเมนู ซึงหลักจากคลิกแล้วก็จะปรากฎหน้าจอให้ใส่
่
่
ข้อความในเมนู พร้อมทัง Link ดังรูป
้
44

45.  การใส่ข้อความในเมนูนั้น ต้องใส่ Link ให้กับ Menu นี้ได้เพื่อให้ ผู้ใช้คลิกเมนูนี้แล้ว จะได้รู้วาต้อง Link ไปที่ใด
่
โดย Link จะแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ การ Link ภายในเว็บ ให้กดที่ตัวเลือก Page และ การ Link ภายนอก
เว็บ ก็ให้ใส่ URL หรือชื่อเว็บอื่น ที่ต้องการ Link ไปตรงตาแหน่งคาว่า Link
 ในตาแหน่ง เพิ่มเมนูยังมี ตัวเลือกด้านล่าง ให้ เปิดในหน้าต่างใหม่ หมายความว่า ถ้าต้องการให้เกิด หน้าต่างใหม่
หลังจาก คลิก เมนู ก็ให้เลือก
 หลังจากใส่ข้อมูลเสร็จแล้วให้ คลิกที่ปุ่ม ตกลง
 เมนูใหม่ก็จะปรากฎขึ้นในหน้าเว็บนี้
45

46.  การเพิมเมนูย่อย สามารถทาได้โดยใช้เมาส์ เลื่อนไปวางที่ตาแหน่งเมนูหลัก ก่อน แล้วจะปรากฎคาว่า เพิมเมนูย่อย
่
่
ขึ้นมา ให้คลิกที่ปุ่มนั้น แล้วก็ใส่ขอมูลเหมือนการเพิ่มเมนูหลักปกติ
้
 การแก้ไข และ ลบ เมนูสามารถทาได้โดยใช้เมาส์ไปวางที่ตาแหน่งที่ต้องการลบ หรือ แก้ไข แล้วคลิก ที่แถบสีส้มบน
หัวของเมนูนั้น ก็จะสามารถแก้ไข หรือ ลบ เมนูนั้น ๆ ได้
 การย้ายตาแหน่งเมนูสามารถทาได้โดยง่ายโดยการ ลากเมนูนั้น ไปวางทีตาแหน่งที่ต้องการได้เลยดังรูป
่
46

47.  การเปลี่ยน สีพื้นหลังเมนู การเปลี่ยนสี Font เมนู ทั้งที่เป็น เมนูหลักและเมนูย่อยนั้น สามารถทาได้ โดยคลิกไปที่
ตัวเลือกที่ ตังค่ารูปแบบเมนูเอง ก็จะปรากฎหน้าให้ตั้งค่าเมนูดานล่าง ซึ่งจะแบบหน้าให้สามารถ ตังค่าได้ทงส่วนที่
้
้
้
ั้
เป็นเมนูหลักและเมนูย่อย ดังรูป
47

48. การตั้งค่า Section หรือ กรอบข้อมูลบนเว็บเพจ
การตังค่า Section นั้นหมายถึง การเปลี่ยนแปลงรูปแบบ กรอบสี ของกรอบข้อมูลซึ่งเราสามารถเปลี่ยนแปลงเอง
้
ได้ทั้งหมด ไม่วาจะเป็นการเปลี่ยนแปลง ตามแบบที่แนะนา หรือ เปลี่ยนเองทุกอย่าง ก็สามารถทาได้เลย หากเปลี่ยนไปแล้วไม่
่
พอใจ ต้องการจะกลับมาใช้ รูปแบบตาม Theme เดิมก็สามารถทาได้ ซึ่งขั้นตอนจะเป็นดังนี้
 เลือกที่ แท็ปหลัก Style
 เลือกมาที่ ปุ่ม Section ก็จะปรากฎ หน้าเปลี่ยนแปลง Section ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 แบบคือ ตาม Theme
หรือ ตามคาแนะนา หรือ ตังค่าด้วยตนเอง ดังรูป
้
 ในส่วนด้านซ้ายจะเป็นการ Preview รูปแบบ Section ปัจจุบัน หรือ Section ที่เปลี่ยนไป
 ถ้าต้องการเปลี่ยนค่า Section ให้เป็นไปตามแบบที่แนะนา ก็สามารถทาได้โดยคลิกไปที่ ปุ่ม ตั้งค่าพื้นหลัง แบบ
แนะนาให้
 จะปรากฎหน้าจอดังรูป
48

49.  จากรูปสามารถเลือกแบบที่ต้องการได้โดยคลิกที่รูปด้านขวา แล้ว ดูรูปแบบ Preview ได้ทางด้านซ้ายมือ
 นอกจากนั้นยังสามารถเปลี่ยนแปลวค่ได้ด้วยตนเอง โดยคลิกไปที่ปุ่ม ตั้งค่าพื้นหลังแบบกาหนดเอง จะปรากฏดังรูป
49

50.  จากหน้าจอนี้ สามารถเลือกรูปแบบตามความพึงพอใจ โดยสามารถสังเกตด้านซ้ายมือ ว่า Section ที่เปลี่ยนไป
แล้วจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
 การเปลี่ยนแปลงอาจจะเปลี่ยนไปทีละอย่างก็ได้ โดยสังเกตว่า ถ้าเปลี่ยนเรื่องอะไร จะมีผลต่อหน้า Section
อย่างไร
50

51. การตั้งค่า Background หรือ พื้นหลังของเว็บเพจ
หากผู้ใช้ไม่ต้องการพื้นหลังเดิม หรือ ไม่พอใจกับพื้นหลัง ของ Theme ก็สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยง่าย
โดยมีขั้นตอนดังนี้
 เลือกแท็ปหลัก Style
 เลือกแท็ปย่อย Background จะปรากฎหน้าจอให้ เปลี่ยนแปลง Background ดังรูปด้านล่าง
 จากรูปท่านสามารถเลือกเปลี่ยนพื้นหลังตามแบบทีกาหนด จาก Theme ก็ได้ ให้เลือกที่ปม แรกด้านบน
่
ุ่
 ถ้าไม่ต้องการตั้งค่าพื้นหลัง หรือ ทาพื้นหลังเป็นสีขาว ก็ให้เลือกปุมที่สอง หน้าเพจก็จะมี พื้นหลัง ว่างๆ หรือเป็นสีขาว
่
ดังรูป
51

52.  หากต้องการเปลี่ยนแปลงพื้นหลังด้วยตนเองก็ให้เลือกปุม ล่างสุด ก็จะปรากฎหน้าจอให้กาหนดเอง ดังรูป
่
 จากรูปเราสามารถกาหนดสีพื้นหลังเอง หรือ นารูปจากเครื่องของเราไปเป็น พื้นหลัง ก็กดปุ่ม Browse หรือ ไม่
ต้องการรูปที่เป็นพื้นหลัง ก็กด Clear
 ถ้าทาการเปลี่ยนพื้นหลังแล้ว ต้องการกลับไปที่ พื้นหลัง Theme เดิมก็ คลิกที่ปุ่มแรกด้านบน
52