1. การใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์“Make IT Safe” BY…Group 53

2. เทคโนโลยี(Technology)คืออะไร? สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์, เครื่องมือ, เครื่องจักร, วัสดุ รวมทั้งที่ ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้ และสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

3. เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานธุรกิจ เช่น การให้บริการชำระค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ เทคโนโลยีมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างไร? เทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ผลิตสื่อช่วยการเรียนการสอน เทคโนโลยีสารสนเทศกับการให้บริการของภาครัฐ เช่น ประวัติบุคคล ข้อมูลประวัติอาชญากร การจัดทำบัตร ประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์

4. เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานธนาคาร เช่น ใช้ในระบบบริการเครื่องฝาก-ถอนเงินจาก ATM เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านวิทยาศาสตร์ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบของรหัสพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ (DNA) ของสิ่งมีชีวิต การศึกษาสภาพภูมิศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านอุตสาหกรรม เช่น ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ การควบคุมและการวางแผนการผลิต

5. สถิติการใช้อุปกรณ์ดิจิตอลของคนไทย สำรวจปี 2551 คนไทยมีมือถือ ใช้ประมาณ 31.86 ล้านคนหรือเท่ากับ (52.8%) ของประชากรทั้งหมด การใช้คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มขึ้น จากปี 2547 มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ 12.54 ล้านคน และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 6.97 ล้านคน แต่ในปี 2551 จำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นเป็น 16.99 ล้านคน

6. จำนวนประชากรในประเทศไทยที่ใช้อินเทอร์เน็ต

7. ผลกระทบที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยี จะเกิดอะไรขึ้น ? สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ที่มีพฤติกรรมการใช้แนบหูกับเครื่องตลอดเวลา หรือคุยโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ ผลกระทบระยะสั้น คือ อาจเกิดอาการปวดหู, ปวดศีรษะ, ตาพร่ามัว, มึนงง, ขาดสมาธิ และ เครียด ผลกระทบระยะยาว คือ อาจทำให้เกิดโรคความจำเสื่อม, มะเร็งสมอง, มะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่สำคัญอาจจะเกิดเนื้องอกในสมองได้ มักจะเป็นข้างเดียวกับข้างที่ใช้ฟัง-พูดโทรศัพท์มือถือเป็นประจำ

8. จะเกิดอะไรขึ้น ? สำหรับผู้ใช้เครื่องเล่น MP3, iPod และหูฟังของโทรศัพท์มือถือ โดยจากการสุ่มตรวจการได้ยินของนักเรียนวันรุ่นใน กทม. ประมาณ 400 คน พบว่า 1 ใน 4 มีความผิดปกติในการรับฟังเสียง ซึ่งจากสถิติในปี 2550 มีผู้พิการทางหูเพิ่มขึ้นวันละ 35 คน หรือทั้งประเทศมีผู้ป่วยอาการประสาทหูเสื่อม 2 ล้านคน

9. จะเกิดอะไรขึ้น ? สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ปัญหาเกี่ยวกับสายตา การใช้คอมพิวเตอร์นานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน อาการที่ตามมาคือ ตาพร่าและมองไม่เห็นชั่วคราว รวมทั้งสายตาสั้น อาการท้องร่วงเพราะคีย์บอร์ด สาเหตุมาจากแบคทีเรียสะสมบนคีย์บอร์ด หลายคนมักรับประทานอาหารหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ แบคทีเรียเหล่านี้จะสามารถปะปนกับอาหารได้

10. สำรวจพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ต-การเปิดเผย sex และ ความรุนแรง สถิติ sex และความรุนแรง

11. ผล ABACโพล พฤติกรรมออนไลน์ของวัยรุ่นแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมวัยรุ่นสมัยนี้เปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน จากการใช้สื่ออินเตอร์เน็ต sex และความรุนแรง >>เกือบ 30% เคยใช้ camfrog เพื่อดูโชว์ >>วัยรุ่นใช้โปรแกรม chat และห้อง chat มากขึ้น จาก 68% เป็น 80% >>ประมาณ 30% เคยพูดคุยเรื่อง sex บนอินเทอร์เน็ต >>ประมาณ 30% เคยนัดคนที่รู้จักกันในเน็ตมาเจอกัน >>14.5% เคยมี sex กับคนที่รู้จักกันผ่านเน็ต >>คนเคยมี sex กับคนที่รู้จักกันผ่านเน็ต มีอย่างเต็มใจเพียงไม่ถึง 50% >>80% เคยพูดไม่จริงบนอินเทอร์เน็ต >>30% เคยพบเนื้อหาความรุนแรงบนเน็ต ส่วนมากเกี่ยวกับการฆาตกรรม

12. สถิติการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว

13. การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 63% เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 1 ใน 3 ของคนที่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เคยถูกคนไม่รู้จักติดต่อมา ประมาณ 30% ของผู้ที่เปิดเผยข้อมูล และมีคนไม่รู้จักติดต่อมา พบกับเหตุการณ์ไม่ดี (ไม่สบายใจ ถูกลวนลาม ข่มขืน) 43% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เห็นว่าไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์เลย เกือบ 60% คิดว่า แนวโน้มการเกิดอาชญากรรมจากอินเทอร์เน็ต เพิ่มขึ้น

14. สถิติการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต

15. การใช้อินเทอร์เน็ตทางสร้างสรรค์ วัยรุ่นเข้าเว็บที่มีเนื้อมีประโยชน์ค่อนข้างมาก 43% ไม่เคยสร้างเนื้อหา หรือเผยแพร่ความรู้ด้วยตนเองบนอินเทอร์เน็ตเลย มีเพียง 5% เท่านั้นที่เผยแพร่เป็นประจำ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นใช้บริการเนื้อหาที่มีประโยชน์ คือการค้นหาข้อมูลทั่วไปและทำรายงาน / การบ้าน 1 ใน 3 คิดว่า การที่ตนไม่เข้าใช้บริการเนื้อหาที่มีประโยชน์ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้

16. คุณอยากเป็น หนึ่งในภาพเหล่านี้เหรอ? ภัยออนไลน์ ภัยแฝงจาก คลิปโป๊ คลิปหลุด ระวัง!คลิปที่คุณถ่ายค้างไว้ในมือถือ

17. 1.ภัยแฝงจาก คลิปโป๊ คลิปหลุดในปัจจุบัน VDO Clip หรือภาพวิดีโอสั้นๆที่มักถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่คงจะไม่มีปัญหาอะไรหากภาพที่ถ่ายนั้นเป็นภาพที่เจ้าของเก็บไว้ดูเป็นการส่วนตัว ไม่ได้ถูกลักลอบนำมาเผยแพร่หรือทำเป็นสินค้า ด้วยภาพเหล่านี้มักเป็นภาพที่ล่อแหลมอนาจาร เช่น ความสัมพันธ์ของคู่รักขณะเมกเลิฟ ภาพโป๊เปลือยที่เผยให้เห็นเรือนร่างของหญิงสาวในอิริยาบถต่างๆ หรือภาพแอบถ่ายใต้กระโปรงและร่องลึกของหน้าอกหญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของการถ่ายทำวิดีโอยั่วสวาท เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพพวกนี้นอกจากจะเป็นการยั่วยุทางเพศแล้วยังสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ที่มีภาพอยู่ในคลิปโดยเฉพาะบรรดาหญิงสาวทั้งหลายที่กลายเป็นดาราจำเป็น อย่างไรก็ดี ที่มาของคลิปที่พบเห็นกันทั่วไปนั้นมาจากหลายแหล่งด้วยกัน และบางครั้งก็เป็นการตัดต่อหรือถ่ายทำขึ้นมาเพื่อผลทางการค้าโดยตรง

18. คุณคิดจะทำแบบนี้หรือเปล่า? ภัยแฝงจากการ Chat

19. 2. ภัยแฝงจากการ Chatก่อนที่ระบบแชทจะพัฒนามาสู่ระบบสนทนาที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้อย่าง MSN นั้น ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากการพูดคุยกันในห้องสนทนารวม แบ่งประเภทห้องตามความสนใจ เช่น ดารานักร้อง คนน่ารัก หาเพื่อน เป็นต้น และปัจจุบัน เว็บไซต์หลายๆ แห่งก็ยังเปิดให้บริการห้องแชท ผู้แชทส่วนมากมักจะเข้าไปเริ่มทำความรู้จักกันในนี้ มีเพียงส่วนน้อยที่รู้จักกันมาก่อน และชักชวนกันเข้าไปเล่น ดังนั้น เมื่อมีการทำความรู้จักกันแล้ว เมื่อเริ่มมีความสนิทสนมไว้วางใจ ก็อาจจะมีการนัดพบตามมา ซึ่งประเด็นนี้ นับว่าเป็นอันตรายมาก

20. ภัยแฝงจากการใช้งานโปรแกรมประเภท Social Networking

21. 3. ภัยแฝงจากการใช้งานโปรแกรมประเภท Social Networkingสังคมเครือข่ายออนไลน์ (Social Network) คือ การที่ผู้คนสามารถทำความรู้จักและเชื่อมโยงกันในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง หากเป็นเว็บไซต์ที่เรียกว่า เว็บ Social Network ก็คือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกัน หรือความหมายอีกอย่างหนึ่งคือ สังคมที่อยู่บนการติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ Hi5, My Space, Twitterและ Facebook ปัญหาคือข้อมูลส่วนตัวของเราอาจจะรั่วไหลออกไปยังกลุ่มมิจฉาชีพโดยไม่ได้ตั้งใจยิ่งเราใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไปเท่าใดก็ยิ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์และเหล่ามิจฉาชีพสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น

22. ภัยแฝงจากเกมส์ออนไลน์และออฟไลน์

23. 4. ภัยแฝงจากเกมส์ออนไลน์และออฟไลน์เด็กบางคนที่อยู่กับจอคอมพิวเตอร์หรือตู้เกมส์ทั้งวัน จึงอาจกลายเป็นเด็กที่อยู่แต่กับตัวเองได้เหมือนกัน การเล่นอย่างขาดการควบคุมที่เรียกว่าติดเกมส์นั้น ส่งผลให้เด็กใช้เวลากับการเล่นเกมส์จนขาดความกระตือรือร้น ขาดความรับผิดชอบต่อตนเองที่จะทำกิจวัตรประจำวัน และหน้าที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการเรียน เพราะส่วนใหญ่เมื่อได้เล่นเกมส์แล้วจะเล่นอย่างหมกมุ่น ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพกาย ทั้งเรื่องสายตา ความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้จากการทำกิจกรรมอื่นๆ เด็กบางคนที่อยู่กับจอคอมพิวเตอร์หรือตู้เกมทั้งวัน จึงอาจกลายเป็นเด็กที่อยู่แต่กับตัวเอง ขาดทักษะทางสังคมในการอยู่ร่วมกับคนอื่น เด็กที่ติดเกมส์หลายคนจะหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย ไม่รู้จักแบ่งปันคนอื่น ใจแคบ และหลายคนก้าวร้าวมากขึ้น

24. 10 เกมส์อันตราย

25. วิธีใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย กฎสำหรับการใช้อีเมลล์ >>ไม่ให้ที่อยู่อีเมลล์แก่คนที่เราไม่รู้จัก >>ไม่เปิดอีเมลล์จากคนหรือองค์กร/ธุรกิจที่เราไม่รู้จัก >>อีเมลล์อาจจะมีสิ่งที่ไม่ดีมากมาย เช่น ไวรัส อาจผ่านมากับข้อมูลอีเมลล์ เข้ามาสู่คอมพิวเตอร์ของเรา ภาพที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย ภาพยนตร์ อาจถูกส่งมาพร้อมกับข้อมูลอีเมลล์

26. กฎของการแชท>>อย่าให้ชื่อจริง ควรใช้ชื่อสมมุติ>>อย่าให้ข้อมูลว่าคุณอยู่ที่ไหน หมายเลขโทรศัพท์ เรียนอยู่ที่ไหน >>ไม่ออกไปพบกับบุคคลที่พบ รู้จักสื่อสารผ่านทางออนไลน์>>ให้ชื่ออีเมลล์กับเพื่อนที่รู้จักดี ไม่ควรให้กับคนแปลกหน้า >>หากถูกใครหรือสิ่งใดรบกวนในห้องแชท ให้รีบออกจากการสนทนา และอย่าติดต่อ สนทนาอีก *ให้จำไว้ว่าคุณอาจเป็นบุคคลนิรนามในอินเทอร์เน็ต แต่บ่อยครั้งที่คนอื่นสามารถสืบเสาะได้ว่าใครเป็นคนใส่ข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ดังนั้น ต้องมีความสุภาพกับผู้อื่นเสมอ

27. มารยาททั่วไปในการใช้อินเตอร์เน็ต>>ไม่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อล่วงละเมิดหรือรบกวนผู้อื่น >>ไม่นำข้อมูลของผู้อื่นมาใช้ในทางที่ผิดหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้นๆ >>ไม่บอกรหัสกับผู้อื่นแม้แต่เพื่อนสนิท >>ไม่ใช้บัญชีชื่อผู้ใช้ของผู้อื่น หรือใช้เครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต >>ไม่ฝ่าฝืนข้อห้ามของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต >>การทิ้งบัญชีชื่อผู้ใช้งานไว้บนอินเตอร์เน็ตอาจทำให้มีผู้ไม่หวังดี เจาะเข้ามาในระบบได้

28. ที่มา:หนังสือยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. - http://www.nstda.or.th)หนังสือ มือใหม่หัด Hack ให้รู้ทัน Hacker แต่งโดย คุณ วิษณุ เหล่าพิทักษ์http://arc.rint.ac.th/center/pongsak/e_ ... it4_2.htmlhttp://www.beartai.com/webboard/index.php?topic=8080.0http://eclassnet.kku.ac.th/etraining/file/1087561150-jutarut.dochttp://support.mof.go.th/net/techno.htmhttp://www.rmutphysics.com/CHARUD/specialnews/6/science/unit4_2.htmlhttp://www.slideshare.net/vorravan/ss-4745527http://gotoknow.org/blog/omjai-w/188719http://www.thaipost.net/sunday/151109/13556http://www.ecpat-thailand.org/th/make%20it%20safe.htmlhttp://gotoknow.org/blog/painet/126340http://tnews.teenee.com/crimehttp://www.thaiitwatch.org/http://www.healthoday.net/Thailand/family/family4.htmlhttp://www.becyber.com/webspaper/read_article.php?aid=11http://www.dominixz.com/blog/productivity/dangerous-of-bit-torrent/http://www.bcoms.net/tipcomputer/detail.asp?id=1177

29. รายชื่อสมาชิกกลุ่มที่ 53 นางสาวอนุสรา โชติกุล รหัสประจำตัว 07510441 นางสาวอรพรรณ มาบรรดิษฐ รหัสประจำตัว 07510442 นางสาวกฤษกนก ธนานุภาพพันธ์ รหัสประจำตัว 07510652 นางสาวชนกพร ศรีทองกุล รหัสประจำตัว 07510668 นายธนวัฒน์ วาระเสน รหัสประจำตัว 07510681 นางสาวอนุทยา นนท์ตา รหัสประจำตัว 07510736 นายศุภฤกษ์ อุณหเสรี รหัสประจำตัว 09511230 นายพีรฉัตร พิศิษฐ์โสภณกุล รหัสประจำตัว 09511194 นายธวัชชัย แซ่อ๋อง รหัสประจำตัว 09511164 นายกฤตดนัย คุณกมุท รหัสประจำตัว 09511116