Real estate
ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023 มีแนวโน้ม
ขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
จากกาลังซื้อที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว
และต้นทุนการก่อสร้างที่ยังอยู่ใน
ระดับสูง
SCB EIC Industry insight
June 2023
The information contained in this report has been obtained from sources believed to be reliable. However, neither we nor any of our respective affiliates, employees or representatives make any representation or warranty, express or implied, as
to the accuracy or completeness of any of the information contained in this report, and we and our respective affiliates, employees or representatives expressly disclaim any and all liability relating to or resulting from the use of this report or
such information by the recipient or other persons in whatever manner.
Any opinions presented herein represent our subjective views and our current estimates and judgments based on various assumptions that may be subject to change without notice, and may not prove to be correct.
This report is for the recipient’s information only. It does not represent or constitute any advice, offer, recommendation, or solicitation by us and should not be relied upon as such. We, or any of our associates, may also have an interest in
the companies mentioned here in.
Executive
Summary หน้า 03
แนวโน้ม
ตลาดที่อยู่อาศัย
ปี 2023 หน้า 06
Contents
รายละเอียดแนวโน้มตลาด
ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-
ปริมณฑล และต่างจังหวัด หน้า 22
ประเด็นที่ต้องจับตา
ในระยะต่อไป หน้า 28
SCB EIC Industry insight : Real estate
3
SCB EIC Industry insight : Real estate
Executive
Summary สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
ในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อนหน้า ท่ามกลางปัจจัยกดดันที่ยังมีน้าหนัก
• การโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +1% ถึง +6%YOY ส่วนมูลค่าโอน
กรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +2% ถึง +7%YOY โดยคาดว่ากลุ่มแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวบ้านแฝดจะยังขยายตัวได้ดี ขณะที่กลุ่มคอนโดและทาวน์เฮาส์มือหนึ่ง
มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ในตลาดต่างจังหวัดมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นเดียวกัน จากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด
• หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ลดลง อยู่ที่ราว +1% ถึง +6%YOY หลังจากขยายตัวได้มากราว +77%YOY ในปีก่อนหน้า โดยการ
ขยายตัวมาจากทั้งกลุ่มคอนโดและแนวราบ โดยคาดว่าการเปิดโครงการคอนโดระดับราคาต่าจะยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในระดับราคาปานกลาง
ขึ้นไปมีแนวโน้มขยายตัวได้มากขึ้น หลังจากผู้ประกอบการค่อนข้างระมัดระวังการเปิดโครงการกลุ่มดังกล่าวในช่วงปีก่อนหน้า
• หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้า อยู่ที่ราว +5% ถึง +10%YOY เช่นกัน ตามการเปิดโครงการใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของกาลังซื้อที่ยังคงถูกกดดัน ทาให้อัตราการขยายตัวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนหน่วยขายได้ยังมาจากกลุ่มคอนโด
ราคาต่าเป็นหลักที่ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนในกลุ่มแนวราบ บ้านเดี่ยวบ้านแฝดยังขยายตัวได้ดี ขณะที่ทาวน์เฮาส์คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้นหลังจากหดตัวในปีก่อน
หน้า
• ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน โดยหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +2% ถึง +7%YOY ส่วนมูลค่าโอน
กรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +3% ถึง +8%YOY โดยกาลังซื้อในประเทศยังคงหนุนตลาดแนวราบให้เติบโตต่อเนื่อง ส่วนแรงหนุนจากการกลับมาของ
กาลังซื้อต่างชาติและนักท่องเที่ยวต่างชาติจะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ ขยายตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะคอนโด
ที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้นจากช่วง COVID-19
4
SCB EIC Industry insight : Real estate
Executive
Summary ตลาดแนวราบกลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง
ขณะที่ตลาดคอนโดมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น
• บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด : มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งในด้านหน่วยโอน และมูลค่าโอน โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว ในระดับราคาปานกลางประมาณ 7-15 ล้านบาท
รวมถึงกลุ่ม luxury ที่ผู้ประกอบการหันมาทาตลาดกันมากขึ้น จากกาลังซื้อที่มีอยู่สม่าเสมอ
• ทาวน์เฮาส์ : มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้มากขึ้น หลังชะลอตัวต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของกาลังซื้อในระดับปานกลาง-ล่าง ที่มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม
ตลาดทาวน์เฮาส์ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากกลุ่มคอนโดราคาต่าอย่างต่อเนื่อง จากข้อได้เปรียบด้านทาเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวก และอยู่ใกล้เมือง ใกล้สิ่งอานวย
ความสะดวกต่าง ๆ มากกว่า
• คอนโด : คอนโดราคาต่าไม่เกิน 3 ล้านบาทยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ด้วยข้อได้เปรียบด้านราคา และด้านทาเลที่สะดวกต่อการเดินทาง รวมถึงความใกล้เมือง ที่ผู้ซื้อ
กลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่างในปัจจุบันให้ความสาคัญมากกว่าปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอย ส่วนคอนโดระดับราคาปานกลางขึ้นไปคาดว่าจะขยายตัวได้ในอัตราที่เพิ่มขึ้น หลังจากยัง
ฟื้นตัวได้อย่างจากัดในปีก่อนหน้า ตามการกลับมาของกาลังซื้อชาวต่างชาติ และการเปิดตัวของผู้ประกอบการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
5
SCB EIC Industry insight : Real estate
Executive
Summary ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
ท่ามกลางปัจจัยกดดันที่ยังคงมีน้าหนัก...
• แม้ตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวจากภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อในประเทศ
ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า รวมถึงกาลังซื้อจากต่างชาติที่กลับมา
ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกาลังซื้อจากชาวจีน แต่ยังมีปัจจัยกดดันจาก
1. ภาวะเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ยังเป็นปัจจัยกดดันสาคัญ
ต่อการฟื้นตัวของกาลังซื้อให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2. ต้นทุนก่อสร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากทั้งราคาที่ดิน รวมถึงค่าแรงงาน
ที่มีแนวโน้มปรับขึ้น ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้าง อย่างเหล็ก และปูนซีเมนต์ ยังอยู่ใน
ระดับสูง ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น
3. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น
• นอกจากนั้น ต้องกลับมาติดตามสถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสม ที่มีแนวโน้ม
กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง หลังจากจานวนหน่วยเหลือขายสะสมกลับมา
เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปี 2022 โดยในระยะสั้นต้องจับตากลุ่ม
คอนโดที่กลับมาเปิดโครงการค่อนข้างมาก และกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่อัตราการขายยัง
ฟื้นตัวได้ไม่มาก ส่วนในระยะปานกลางต้องติดตามกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝด
เนื่องจากอาจมีอัตราการเพิ่มขึ้นของหน่วยเหลือขายสะสมสูงกว่าที่อยู่อาศัยประเภท
อื่น ตามการเปิดโครงการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
Implication ต่อผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย
• กาลังซื้อที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทาให้
ที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ Affordable ยังคงเป็นโอกาสของ
ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
ที่คาดว่ายังคงมีความต้องการจากผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณา
หน่วยเหลือขายสะสมในแต่ละพื้นที่ควบคู่ไปด้วย
• บ้านเดี่ยวบ้านแฝดระดับราคาปานกลาง-บน มีแนวโน้มแข่งขัน
กันเข้มข้นมากขึ้น การเลือกเปิดโครงการในพื้นที่ที่มีความหนาแน่น
ของโครงการใหม่สูง หรือพื้นที่ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของหน่วย
เหลือขายสะสมสูง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้น
• ผู้ประกอบการยังจาเป็นต้องให้ความสาคัญกับการบริหารจัดการ
ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการลดต้นทุนการก่อสร้าง
ที่ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง โดยการนาเทคโนโลยีมาช่วยในด้าน
การก่อสร้าง รวมถึงสร้างความร่วมมือกับผู้รับเหมา ในการจัดหา
วัสดุก่อสร้าง และแรงงาน เป็นต้น
• ESG จะเข้ามามีบทบาทในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ผู้ประกอบการควรปรับตัวทั้งในด้านกระบวนการก่อสร้างที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีส่วนช่วยให้ผู้อยู่
อาศัยประหยัดพลังงานมากขึ้น
แนวโน้มตลาด
ที่อยู่อาศัยปี 2023
SCB EIC Industry insight : Real estate
7
SCB EIC Industry insight : Real estate
แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023
ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นปีที่ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยคาดว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์และมูลค่า
โอนกรรมสิทธิ์ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเป็นการขยายตัวจากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด นอกจากนั้น คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์ในกลุ่มมือสอง และกลุ่มราคาต่าโดยเฉพาะคอนโด จะยัง
ได้รับความนิยมต่อเนื่องในช่วงที่กาลังซื้อยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มราคาปานกลางโดยเฉพาะคอนโดและทาวน์เฮาส์จะฟื้นตัวได้มากขึ้น ส่วนกลุ่มราคาสูงยังคงขยายตัวได้ดี
จากความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่าเสมอ ส่งผลให้หน่วยขายได้และหน่วยเปิดใหม่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้าทั้งคู่
ตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด คาดว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแนวราบที่ยังสามารถขยายตัวได้ดีตั้งแต่ช่วง COVID-19 จนถึง
ปีที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มคอนโดคาดว่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า หลังจากชะลอตัวต่อเนื่องในช่วง COVID-19 จากแรงสนับสนุนของกาลังซื้อจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และจานวน
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมามากขึ้น ที่จะช่วยกระตุ้นกาลังซื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะคอนโดในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ
8
SCB EIC Industry insight : Real estate
อุปสงค์ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
ความต้องการที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 2023 ตามภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อในประเทศและต่างประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านเงินเฟ้อ
และหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันให้กาลังซื้อฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และทาให้อัตราการขยายตัวในด้านอุปสงค์ต่ากว่าในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้อุปสงค์ที่ยังอยู่ระหว่าง
การฟื้นตัวทาให้กลุ่มที่อยู่อาศัยราคาต่า โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ จากปัจจัยด้านทาเลที่เดินทางได้สะดวก ใกล้เมือง แหล่งงาน
สถานศึกษา รวมถึงห้างสรรพสินค้าและสิ่งอานวยความสะดวกอื่น ๆ มากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบในระดับราคาเดียวกัน ส่วนกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝดคาดว่าจะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
จากกาลังซื้อที่ยังคงสม่าเสมอ
9
SCB EIC Industry insight : Real estate
หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัย
หน่วย : พันหน่วย
ยอดขายที่อยู่อาศัยในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยกาลังซื้อที่ยังอยู่
ระหว่างการฟื้นตัว จะทาให้คอนโดราคาต่ายังคงได้รับความสนใจเป็นหลัก ส่วนกลุ่มแนวราบขยายตัวได้ดีในกลุ่มบ้านเดี่ยว
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA
2022 : ขยายตัวได้ดีจากฐานที่ต่า และกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า รวมถึงกาลังซื้อจาก
ต่างชาติที่เริ่มกลับมา ทาให้กลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงช่วงก่อนเกิด COVID-19 โดยมาจากการขยายตัวของกลุ่ม
คอนโดราคาต่าเป็นหลัก ขณะที่กลุ่มแนวราบ บ้านเดี่ยวขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนทาวน์เฮาส์ชะลอตัวเล็กน้อย
2023 : คาดว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งคอนโดและแนวราบ
– กาลังซื้อที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจะทาให้คอนโดราคาต่ายังคงได้รับความสนใจในกลุ่ม Real demand
ส่วนกลุ่มกาลังซื้อเพื่อการลงทุนอาจได้รับผลกระทบจากการยกเลิกมาตรการผ่อนคลาย LTV ขณะที่คอนโด
ราคาปานกลางขึ้นไปจะฟื้นตัวได้มากขึ้น
– ตลาดแนวราบมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ทั้งจากการขยายตัวของตลาดบ้านเดี่ยว รวมถึงทาวน์เฮาส์
ที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า
54
2019 2022
29
4
11
21
2020
29
7
12
31
2021
7
15
25
51
2023F
6
13
11 75
2018
69
29
5
26
98
119
99
65
103 - 108
-35%
+17%
+30%
+5% ถึง +10%
BMR-SMD BMR-SDH BMR-TH BMR-CD
หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัย
หน่วย : พันหน่วย
2022 คอนโดขยายตัวทุกระดับราคาโดยเฉพาะกลุ่มราคาต่า ขณะที่แนวราบระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป
ขยายตัวได้ดีจากกลุ่มบ้านเดี่ยวเป็นหลัก ส่วนแนวราบราคาต่ากว่า 5 ล้านบาทส่วนใหญ่ชะลอตัวลงเล็กน้อย
• บ้านเดี่ยว : ขยายตัวได้ดี ในกลุ่มราคาปานกลาง-บน ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป จากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ
ทางเศรษฐกิจไม่มากนัก รวมถึงกลุ่มราคามากกว่า 10 ล้านบาทยังขยายตัวได้มาก ส่งผลให้
ผู้ประกอบการมีแนวโน้มหันมาสนใจทาสินค้ากลุ่มนี้กันมากขึ้น
• บ้านแฝด : มีเพียงกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาทที่ขยายตัวได้เล็กน้อย ขณะที่ระดับราคาอื่นชะลอตัวลง
• ทาวน์เฮาส์ : ชะลอตัวลงโดยส่วนหนึ่งจากกลุ่มกาลังซื้อปานกลาง-ล่างหันไปสนใจคอนโดราคาต่ามากขึ้น
• คอนโด : ขยายตัวมากจากฐานที่ต่า และขยายตัวทุกระดับราคา โดยเฉพาะกลุ่มราคาต่า 1-2 ล้านบาท
และ 2-3 ล้านบาท ที่มีการเปิดตัวออกมามาก และได้รับความนิยมค่อนข้างมาก
SDH TH CD
23%
29%
45%
2022
31%
2021
24%
44%
15
12
+23%
2022
28%
23% 17%
44%
28%
2021
49%
26 25
-7%
19%
17%
31%
5%
28%
12%
10%
2021
39%
3%
25%
2022
29
51
+76%
2022
2021
11% 9%
7
59%
29%
58%
24%
7
-5%
SMD
1-2MB
< 1MB 5-10MB
2-3MB 3-5MB > 10MB
10
SCB EIC Industry insight : Real estate
หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รายเดือน
หน่วย : พันหน่วย
หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของการเปิดตัวโครงการใหม่
โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดที่คาดว่าจะกลับมาเปิดตัวมากขึ้นหลังจากหลายโครงการที่มีการเลื่อนการเปิดตัวออกไปในช่วงก่อนหน้า
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA
5
1
6
0
3
2
4
04/22
01/21
04/21
10/20
01/19
04/19
07/19
10/19
04/23
01/20
10/21
04/20
07/20
07/21
10/22
01/22
07/22
01/23
0.5
Avg 2015-19 = 3.5
หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : พันหน่วย
6
2
9
5
2020
1
2
8
2019 2021
21
6
5
25
2022
3
1
1
1
19
2
29
16
35
-34%
-16%
+120%
SMD SDH
TH Condo
4
11
4M22 4M23
14
5
2
-66%
อัตราการขายได้ในเดือนแรกของที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : %
15%
3%
20%
0
20
40
60
80
100
04/20
01/19
04/19
TH = 24%
07/19
10/19
01/20
07/20
10/20
01/21
04/21
SDH&SMD
= 16%
Condo = 48%
07/21
10/21
01/22
04/22
07/22
10/22
01/23
04/22
SDH&SMD
Condo
TH
อัตราขายได้เฉลี่ย
ปี 2015-2019
2020 2021 2022
19% 19% 20%
21% 21% 19%
38% 38% 46%
อัตราขายได้เฉลี่ย
2022 : หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ขยายตัวได้มากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากฐานที่ต่า รวมถึงการเปิดโครงการที่มากขึ้น และ
การตอบรับที่ดีในกลุ่มคอนโดราคาต่ากว่า 3 ล้านบาท ทาให้อัตราการขายได้เดือนแรกของคอนโดอยู่ในอัตราที่สูงมากในช่วงครึ่งแรก
ของปี ขณะที่อัตราการขายได้เดือนแรกของแนวราบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปียังมีทิศทางที่ชะลอตัวลง
2023 : หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ตามการขยายตัวของการเปิดตัวโครงการใหม่ และได้รับความสนใจ
จากผู้ซื้อมากขึ้น โดยคาดว่าการขยายตัวจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
– สัดส่วนหลักน่าจะยังมาจากกลุ่มคอนโด โดยเฉพาะคอนโดราคาต่ากว่า 3 ล้านบาท รวมถึงคอนโดระดับราคาปานกลางบางส่วนที่
คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้น ทาให้อัตราการขายได้เดือนแรกของกลุ่มคอนโดจะยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูงและสูงกว่าของกลุ่มแนวราบ
– อัตราการขายได้เดือนแรกของกลุ่มแนวราบจะฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝด ที่ยังมี Demand จากผู้มีกาลัง
ซื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มทาวน์เฮาส์อาจยังฟื้นตัวได้น้อยกว่า
11
SCB EIC Industry insight : Real estate
คาดปี 2023 การโอนกรรมสิทธิ์ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ
ต่างจังหวัด ตามกาลังซื้อที่ฟื้นตัว แต่ยังต้องเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่คาดว่ายังอยู่ในระดับสูง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย
หน่วย : พันหน่วย
มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย
หน่วย : พันล้านบาท
2022 : ฟื้นตัวได้ดี ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดหลัง
ชะลอตัวในปีก่อนหน้า
– กรุงเทพฯ-ปริมณฑล : การโอนขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากการโอน
ในกลุ่มมือสอง และกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝด ขณะที่การโอนคอนโด
มือหนึ่งกลับมาฟื้นตัวได้มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ส่วนทาวน์เฮาส์
มือหนึ่งยังชะลอตัว
– ต่างจังหวัด : การโอนขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง จาก Real
demand ในกลุ่มแนวราบ รวมถึงการโอนคอนโดกลับมาขยายตัว
ได้จากฐานที่ต่า โดยได้แรงหนุนจากการโอนคอนโดของ
ชาวต่างชาติช่วงครึ่งหลังของปี
2023 : การโอนกรรมสิทธิ์มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในลักษณะ
ค่อยเป็นค่อยไป ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด
จากกาลังซื้อที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้น
– กลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝดยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ทั้งในด้านหน่วย
และมูลค่าโอน ส่วนกลุ่มทาวน์เฮาส์และกลุ่มคอนโดมีแนวโน้ม
ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมือหนึ่ง
– ตลาดต่างจังหวัด คอนโดมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้นต่อเนื่องจากปี
ก่อนหน้า แต่ยังต้องติดตามหน่วยเหลือขายสะสมในบางจังหวัด
ที่ยังสูง ส่วนกลุ่มแนวราบยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
– การโอนที่อยู่อาศัยมือสองคาดว่ายังขยายตัวได้ดี
Upcountry
BMR-Others
BMR-SDH BMR-TH
BMR-SMD BMR-Condo
374
2019
7% 2%
393
15%
2020
26%
8%
51%
3%
2%
2021
47% 50%
8% 2%
15%
21%
2022
7%
26%
2023F
397 - 418
20%
16%
47%
15%
392
344
-8%
+14%
+1% ถึง +6%
ปัจจัยลบ
▪ ภาวะเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง กดดันการฟื้นตัว
ของกาลังซื้อให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
▪ ต้นทุนการก่อสร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากทั้งราคาที่ดิน
รวมถึงค่าแรงที่มีแนวโน้มปรับขึ้น ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้าง อย่าง
เหล็ก และปูนซีเมนต์ ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยที่ทาให้ราคา
ที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น
▪ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น
18%
931
2019
38%
3%
38%
13%
27%
2020
19%
4%
3%
2021
13% 13%
22%
20%
4%
2022
16%
953
34%
29%
2023F
22%
1,065
35%
13%
944
1,086 - 1,139
-1%
+13%
+2% ถึง +7%
ปัจจัยบวก
▪ ภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น
จากปีก่อนหน้า แต่ยังเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
▪ การเปิดประเทศจีน และการฟื้นตัวของกาลังซื้อจากต่างชาติ
▪ การกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ทาให้กาลังซื้อ
ในต่างจังหวัดฟื้นตัวดีขึ้น
▪ การลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ
12
SCB EIC Industry insight : Real estate
หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองเร่งตัวขึ้นมากตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 ทั้งแนวราบ และคอนโด ขณะที่หน่วย
โอนกรรมสิทธิ์มือหนึ่งกลุ่มทาวน์เฮาส์ และคอนโดยังคงอยู่ในระดับที่ต่ากว่าค่าเฉลี่ยช่วงก่อนเกิด COVID-19
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือหนึ่ง-มือสองใน BMR
หน่วย : พันหน่วย
Townhouse SDH&SMD
4
5
0
1
3
2
6
7
8
9
10
Q1/21
Q1/18
Q1/19
Q1/22
Q1/20
7.5
7.1
Q1/23
5.5
6.9
4
0
1
2
3
6
8
5
7
9
10
Q1/22
Q1/23
Q1/18
Q1/19
Q1/20
Q1/21
4.5
3.9
4.7
4.2
15.0
0.0
2.5
12.5
5.0
10.0
7.5
22.5
17.5
20.0
25.0
27.5
10
Q1/18
Q1/19
Q1/20
Q1/21
Q1/22
17
5
Q1/23
7
นิติบุคคล (มือหนึ่ง) บุคคลธรรมดา (มือสอง)
ค่าเฉลี่ยปี 2015-19
ค่าเฉลี่ยปี 2015-19
ค่าเฉลี่ยปี 2015-19
ค่าเฉลี่ยปี 2015-19
ค่าเฉลี่ยปี 2015-19
ค่าเฉลี่ยปี 2015-19
จากสถานการณ์ของกาลังซื้อปัจจุบันที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ทาให้ที่อยู่อาศัยมือสอง โดยเฉพาะกลุ่มที่ราคาไม่สูงนัก กลายเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับที่อยู่อาศัยมือหนึ่งที่มีบริบท
เชิงพื้นที่ และทาเลที่ตั้งที่ใกล้เคียงกัน
Condo
13
SCB EIC Industry insight : Real estate
คาดปี 2023 การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติมีโอกาสขยายตัวได้มากขึ้น จากการกลับมาเปิดประเทศของจีน
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กาลังเกิดขึ้นในหลายภูมิภาค เช่น ยุโรป และอเมริกา
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติ รายเดือน
หน่วย : พันล้านบาท
สัดส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คอนโด แบ่งตามสัญชาติ
หน่วย : %
0
2
4
8
6
2.1
01/19
07/19
01/21
04/22
04/19
10/19
01/20
04/20
07/20
10/20
07/22
04/21
2.8
10/22
07/21
10/21
01/22
01/23
02/23
BMR
Upcountry
มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติ
หน่วย : พันล้านบาท (%YOY) 2022 2M23
BMR +42% +49%
Upcountry +71% +121%
สัดส่วนต่อ
มูลค่าโอน
คอนโดทั้ง
ประเทศ 15% 12% 16% 26%
21%
23% 25%
2020
67%
33%
75%
2019
77%
2021
71%
29%
2022
50.6
37.7 39.7
59.3
-25%
+5%
+49%
BMR
Upcountry
21%
59%
68%
2M23
32% 41%
2M22
5.9
10.1
+72%
17% 22% 27%
61% 58% 50%
2022
5%
3%
2020 2021
2%
Germany
China+HK
Russia
UK
France
Japan
US
Singapore
Taiwan
Others
ล้านบาท 2021 2022 %YOY
China + HK 23,097 29,439 +28%
Russia 899 2,682 +198%
UK 1,253 1,802 +45%
France 990 1,912 +93%
Germany 996 1,123 +13%
US 1,300 2,389 +84%
Singapore 905 1,022 +13%
Japan 740 916 +24%
Taiwan 779 1,704 +119%
Others 8,768 16,254 +85%
รวม 39,727 59,261 +49%
2022 : การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี หลังการเปิด
ประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ขยายตัวได้มากหลังซบเซามาตลอดในช่วง COVID-19
ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลก็ขยายตัวได้ดีเช่นกัน ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าการโอนคอนโดของชาวต่างชาติ ต่อการโอนคอนโดทั้ง
ประเทศในปี 2022 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต
2023 : คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติมีโอกาสขยายตัวได้มากขึ้น จากการกลับมาเปิดประเทศของจีน อย่างไรก็ตาม
ยังต้องติดตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลให้กาลังซื้อชาวต่างชาติในบางประเทศกลับมาชะลอตัว
– Q1/23 → กลุ่มคนจีนที่มีกาลังซื้อสูง และไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ กลับเข้ามาทาธุรกิจและธุรกรรมได้ตามปกติ หนุนให้การ
โอนคอนโดของชาวต่างชาติขยายตัวต่อเนื่อง โดย Segment ที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ คอนโดราคาปานกลาง-สูง ในกรุงเทพฯ ชั้นใน
และชั้นกลาง รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยว
– ช่วงที่เหลือของปี 2023 → คอนโดให้เช่าสาหรับนักท่องเที่ยว จะได้รับอานิสงส์จากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกาลังซื้อปานกลาง
ลงมาที่จะกลับเข้ามามากขึ้น โดย Segment ที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ คอนโดให้เช่าสาหรับนักท่องเที่ยว ในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น
กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี และเชียงใหม่
14
SCB EIC Industry insight : Real estate
อุปทานตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
การเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด ตามแผนการเปิดโครงการของผู้ประกอบการ แต่อัตราการ
ขยายตัวมีแนวโน้มลดลง หลังจากปีก่อนหน้ากลับมาขยายตัวในอัตราที่สูงมาก โดยคอนโดราคาต่าไม่เกิน 3 ล้านบาทยังมีแนวโน้มเปิดตัวต่อเนื่องเนื่องจากยังคงเป็นที่ต้องการ
ของผู้ซื้อ ส่วนคอนโดระดับราคาปานกลางขึ้นไปมีแนวโน้มเปิดตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในอัตราที่ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ผู้ประกอบการค่อนข้างระมัดระวังการเปิดโครงการ
ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มแนวราบระดับราคาปานกลางขึ้นไปจะยังขยายตัวได้ดี
อย่างไรก็ตาม จานวนหน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมที่กลับมาเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดในปีที่ผ่านมา ทาให้ต้องกลับมาติดตามสถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสมที่มีแนวโน้ม
เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่มีอัตราการขายได้ต่ากว่ากลุ่มอื่น รวมถึงกลุ่มคอนโด ที่แม้จะเพิ่มขึ้นไม่มากนักแต่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้น ปัจจัยด้านต้นทุน
การก่อสร้างที่คาดว่ายังอยู่ในระดับสูง ทั้งวัสดุก่อสร้าง แรงงาน และที่ดิน รวมถึงการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดแนวราบ จะยังเป็นปัจจัยท้าทายสาคัญสาหรับผู้ประกอบการ
15
SCB EIC Industry insight : Real estate
หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA
หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รายเดือน
หน่วย : พันหน่วย
หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แบ่งตามระดับราคา
หน่วย : พันหน่วย
หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : พันหน่วย
15
0
10
5
20
04/19
01/19
07/19
10/19
01/20
04/20
07/20
10/20
01/21
01/23
04/21
07/21
10/21
01/22
04/22
07/22
2.0
10/22
3.9
1.9
04/23
Total Condo
Low-rise
Avg total 2015-19 = 9.3
66%
12%
33%
16%
60%
4M22 4M23
3.0
7%
2.7
+8%
30%
4%
62%
63%
4M22
9%
23%
4M23
6.8 6.5
-4%
55%
14%
47%
22%
19%
4M22
8%
29%
1%
4M23
19.1
13.8
-28%
2-3 MB
>10 MB 5-10 MB 1-2 MB
3-5 MB <1 MB
30%
22%
4M23
68%
2%
69%
4M22
2%
1.7
2.6
+53%
2022 : หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ขยายตัวได้มากจากฐานที่ต่า และการเปิดโครงการคอนโดที่เร่งตัวขึ้นมาก โดยเฉพาะคอนโดราคา
ไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนคอนโดระดับปานกลางขึ้นไปมีสัญญาณการทยอยเปิดตัวมากขึ้น ขณะที่การเปิดโครงการแนวราบกลับมา
ขยายตัวได้มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวราคาปานกลาง-บน
2023 : หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งแนวราบและคอนโด ตามแผนการเปิดตัวของผู้ประกอบการ
ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยอัตราการขยายตัวจะลดลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวมากจากฐานที่ต่า
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ยังอยู่ในระดับสูง หน่วยเหลือขายสะสมที่กลับมาเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาด และการแข่งขันที่ยังคงเข้มข้น
ในหลายทาเล ทาให้ผู้ประกอบการยังคงต้องพิจารณาการเปิดโครงการอย่างรอบคอบ
– ที่อยู่อาศัยระดับราคาต่า โดยเฉพาะคอนโดจะยังเปิดตัวอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากตอบโจทย์กาลังซื้อปานกลาง-ล่าง
ที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวได้ดี ส่วนกลุ่มทาวน์เฮาส์คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า
– ที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลาง มีแนวโน้มถูกเปิดตัวออกมามากขึ้นทุกประเภทที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว และคอนโด
ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น และกาลังซื้อจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัว โดยเฉพาะกาลังซื้อจากจีน
– ที่อยู่อาศัยระดับราคาสูง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวบ้านแฝดจะถูกเปิดตัวออกมามากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่กาลังซื้อมีความแข็งแกร่ง
และสม่าเสมอตลอดช่วงที่ผ่านมา ส่วนคอนโดคาดว่าจะมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
SDH TH CD
SMD
26
2020
8
23
17
2021
8
28
2019
54
2023F
2022
106
29
7
66
8
13
32
10
23
118
73
60
5
-38%
-18%
+78%
+5% ถึง +10% SDH
SMD
TH Condo
7
2 3
7 3
3
19
4M22
14
4M23
26
30
-15%
112 - 117
16
SCB EIC Industry insight : Real estate
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA
แม้ว่ายอดขายจะฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า แต่คาดว่ายังอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าการเปิดโครงการใหม่ ส่งผลให้ที่อยู่
อาศัยเหลือขายสะสมในปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคอนโด
หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : พันหน่วย
หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แบ่งตามระดับราคา
หน่วย : พันหน่วย
2022 : หน่วยเหลือขายสะสมกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น จากกลุ่มแนวราบเป็นหลัก โดย
ผู้ประกอบการกลับมาเร่งเปิดโครงการใหม่มากขึ้น ในขณะที่กาลังซื้อยังเพิ่งเริ่มฟื้นตัวในอัตรา
ที่น้อยกว่าการเปิดโครงการใหม่
2023 : หน่วยเหลือขายสะสมมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า
จากการเปิดโครงการใหม่ที่คาดว่ายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กาลังซื้อที่แม้จะฟื้นตัวได้
มากขึ้นจากปีก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าการเปิดโครงการใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโด
ที่คาดว่าจานวนหน่วยเหลือขายอาจเริ่มเร่งตัวมากขึ้น
38
35
221 - 232
2020
94
14
72
2018
91
75
37
2019
20
85
195
17
2021
86
75
19
2022
35
2023F
16
215
82
207
67
63
214 222
33
+4% -7% +4%
+3% ถึง +8%
Condo TH SDH SMD
7%
40% 35%
2021
54
40%
11%
5%
15%
44%
2022
50
+8% 75
72
24%
49%
23%
3%
2021
51%
19%
26%
3%
2022
+5%
SDH&SMD
85
7%
29%
8%
30%
17%
29%
5%
12%
86
2021
30%
19%
10% 5%
2022
+0.4%
TH CD
<1 MB 1-2 MB 5-10 MB
2-3 MB 3-5 MB >10 MB
2022 : หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกลุ่มแนวราบเป็นหลัก
• บ้านเดี่ยวบ้านแฝด : หน่วยเหลือขายสะสมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม 5-10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ที่แม้หน่วยขายได้จะขยายตัวได้ค่อนข้างดี แต่หน่วยเปิดใหม่ก็เร่งตัวขึ้นมากเช่นกัน
• ทาวน์เฮาส์ : หน่วยเหลือขายสะสมปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่ออกมามากขึ้นจากปีก่อนหน้า
แต่ผู้ซื้อบางส่วนหันไปสนใจคอนโดราคาต่ามากกว่า
• คอนโด : หน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ออกมาจานวนมาก แต่ได้รับผลตอบรับที่ดี
ประกอบกับการระบายสต็อกโครงการเก่าที่เหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยเหลือขายสะสมคอนโดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่ม
ปานกลาง-ล่าง 1-5 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่มีการเปิดตัวออกมามากกว่าระดับราคาอื่น
17
SCB EIC Industry insight : Real estate
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลปี 2022 ขยายตัวค่อนข้างมาก ขณะที่การออก
ใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดเริ่มกลับมาฟื้นตัว สาหรับปี 2023 ที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอาจทาให้การ
ขอใบอนุญาตก่อสร้างชะลอลงจากปีก่อนหน้า
การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : หน่วย
7,023
38,232 36,851
39,805
18,942
21,788 20,727
67,372
56,911
61,205
0
10,000
20,000
30,000
40,000
50,000
60,000
70,000
80,000
2018 2019 2020 2021 2022
65,403
5,212
43,218 45,268
5,383 5,385
4,471
15,589 16,015
73,018
บ้านแฝด
บ้านเดี่ยว
ทาวน์เฮาส์
รวม
การออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : จานวนอาคาร
219
196
172 167 171
0
50
100
150
200
250
2018 2019 2020 2021 2022
18
SCB EIC Industry insight : Real estate
ตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด
ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยกาลังซื้อในประเทศยังคงหนุนตลาดแนวราบให้เติบโตต่อเนื่อง ส่วนแรงหนุนจากการกลับมาของกาลังซื้อ
ต่างชาติ และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ ขยายตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคอนโดที่คาดว่าจะทยอย
ฟื้นตัวได้มากขึ้นจากช่วง COVID-19 อย่างไรก็ตาม จานวนหน่วยเหลือขายสะสมของตลาดคอนโดในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญที่ยังไม่ลดลงมากนักในช่วงที่ผ่านมา อาจทาให้การโอน
โครงการคอนโดใหม่ในต่างจังหวัดมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
19
SCB EIC Industry insight : Real estate
สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดหลักในปี 2022 ขยายตัวได้ดีจากกลุ่มแนวราบเป็นหลัก ขณะที่คอนโดก็มีแนวโน้มฟื้นตัว
ดีขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ โดยในปี 2023 คาดว่าจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องในอัตราที่ค่อยเป็นค่อยไป
สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดหลัก
หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท
2019
9.3
27.1
2022
25.1
2020
28.1
32.9
2021
4.0
8.2
3.1
10.1
2.2
11.2
2.9
จานวนหน่วย แนวราบ จานวนหน่วย คอนโด มูลค่า
เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง
นครราชสีมา ขอนแก่น ภูเก็ต
69.1
12.7
69.1
75.3
2019 2021
83.8
2020 2022
9.0
22.5 19.3
10.0
19.7 22.5
11.3
2020
28.8
24.4
18.4
11.2
2019 2021
26.1
2022
11.1
0.7 0.8
11.4
1.0
12.2
1.2
8.3
14.5
2020
19.3
2019
17.3
2021
1.2
19.1
7.6
2022
1.0
7.2 7.6
1.2 0.9
2021
6.2
9.9
2019
15.2
0.5
11.6
0.3
2020
13.1
2022
5.8
0.5
5.9 7.3
0.5
2020 2022
17.5
24.3
2019 2021
5.3
20.2
24.0
2.8 3.1 2.3 3.5 1.8
4.6
2.3
2022 %YOY เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น ภูเก็ต
หน่วยโอน +15% +18% +9% +4% +18% +31%
มูลค่าโอน +17% +21% +11% +2% +16% +19%
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
20
SCB EIC Industry insight : Real estate
2022 %YOY เชียงราย อยุธยา พิษณุโลก อุดรธานี ประจวบ สงขลา
หน่วยโอน +17% +28% +15% +16% +14% +11%
มูลค่าโอน +8% +31% +17% +18% +16% +7%
สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดรองในปี 2022 ขยายตัวได้ดีจากกลุ่มแนวราบ ส่วนกลุ่มคอนโดเริ่มทรงตัวได้มากขึ้น คาดว่าปี 2023
จะขยายตัวได้ต่อเนื่องเช่นเดียวกันในอัตราที่ใกล้เคียงกับจังหวัดหลัก จากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Real demand
สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดรอง
หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท
จานวนหน่วย แนวราบ จานวนหน่วย คอนโด มูลค่า
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
6.0
0.4
2019 2020 2022
7.3
6.8
5.6
2021
3.9
3.3 3.1
0.1
3.3
0.1 0.1
เชียงราย พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก
อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา
12.7
6.0
2020
6.7
10.2
2021
2019
0.5
9.3
2022
9.7
4.6
0.5
4.7
0.9 0.5
4.6
3.9
0.1
5.4
2019 2020
4.3
2021 2022
2.5 2.2
0.2 0.2
2.3 2.7
0.1
2021
5.1 5.5
3.2
2019
2.9
5.3
2022
2020
6.4
2.9
0.2 0.2
2.8
0.1 0.2
2022
10.5
7.5
12.2
2019
10.9
2021
2.6
2020
1.0
2.7
1.3
2.8
0.9
3.0
1.2
12.1
14.4
2019 2021 2022
15.4
13.5
2020
5.4
1.0
5.9
0.8
5.9
0.7
6.8
0.5
21
SCB EIC Industry insight : Real estate
2022 %YOY เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง โคราช ขอนแก่น ภูเก็ต
หน่วยแนวราบ +64% +46% -36% +42% +61% +96%
หน่วยคอนโด +419% +32% -57% +314% n/a -20%
หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในจังหวัดหลักปี 2022 กลับมาฟื้นตัวเกือบทุกจังหวัด จากกาลังซื้อที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัด
ท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ และชลบุรี ที่ฟื้นตัวได้ดี ขณะที่ระยองเริ่มชะลอตัว หลังจากเป็นจังหวัดเดียวที่ฟื้นตัวได้ในปี 2021 ที่ผ่านมา
สถานการณ์ที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ใน 6 จังหวัดหลัก
หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท
จานวนหน่วย แนวราบ จานวนหน่วย คอนโด มูลค่า
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
12.8
0.8
2022
0.2
5.3
8.0 9.2
2.1
2020
2019
0.8
2021
2.1 1.7 1.2 1.3
15.8
63.2
2020
2019
38.6
2021
31.4
3.3
2022
7.2 10.1
2.5
4.4 5.7 3.8 5.5
16.1
0.5
20.5
11.4
2019
10.7
2022
2021
2020
7.4
1.2
4.1
0.4
4.2
1.2 2.7
3.0
5.3
1.2
7.4
2019 2021
2020
6.1
2022
2.0 0.2 0.9
1.0 0.6 0.1 0.3 1.4
2.7
4.3
2022
2019 2020 2021
2.1
0.7
4.1
0.4 0.8 0.2 0.5
0.0 1.2
2021
19.8
2019
9.5
2020
3.1
6.2
2022
0.9
3.1
1.0 0.7 0.3 0.4 0.6 0.4
ชลบุรี ระยอง
ขอนแก่น ภูเก็ต
เชียงใหม่
นครราชสีมา
รายละเอียดแนวโน้ม
ตลาดที่อยู่อาศัยใน
กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
และต่างจังหวัด
SCB EIC Industry insight : Real estate
23
SCB EIC Industry insight : Real estate
ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจ และกาลังซื้อที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น
แต่ภาวะเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนยังเป็นปัจจัยกดดันสาคัญ ทาให้อัตราการขยายตัวจะลดลงจากปีก่อนหน้า และเป็นไป
อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC และ AREA
ภาพรวมภาวะตลาด BMR
▪ ตลาดที่อยู่อาศัยใน BMR ปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราที่ลดลง
จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นปีที่ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยคาดว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์
จะขยายตัวได้ราว +0% ถึง +5%YOY ส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์จะขยายตัวราว +2%
ถึง +7%YOY โดยเป็นการขยายตัวจากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด นอกจากนั้น
คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์ในกลุ่มมือสอง และกลุ่มราคาต่าโดยเฉพาะคอนโด จะยัง
ได้รับความนิยมต่อเนื่องในช่วงที่กาลังซื้อยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มราคา
ปานกลางโดยเฉพาะคอนโดและทาวน์เฮาส์จะฟื้นตัวได้มากขึ้น ส่วนกลุ่มราคาสูง
ยังคงขยายตัวได้ดีจากความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่าเสมอ ส่งผลให้หน่วยขายได้มี
แนวโน้มขยายตัวราว +5% ถึง +10%YOY ส่วนหน่วยเปิดใหม่จะขยายตัวราว +1% ถึง
+6%YOY
▪ อัตราดูดซับของตลาด BMR ในปี 2023 คาดว่าจะทรงตัว อยู่ที่ราว 31%-32%
ใกล้เคียงกับในปีก่อนหน้า จากเศรษฐกิจและกาลังซื้อทั้งในและต่างประเทศที่มี
แนวโน้มฟื้นตัวมากขึ้น แต่ยังต้องติดตามภาวะเงินเฟ้อและหนี้ครัวเรือนที่ยังเป็น
ปัจจัยกดดันสาคัญ รวมถึงแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ประเด็นที่ต้องติดตาม
▪ ความเสี่ยง Oversupply ในระยะกลาง หลังจานวนหน่วยเหลือขายสะสมในปีที่ผ่านมา
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด จากอุปทานที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าอุปสงค์ค่อนข้างมาก
จากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด โดยในกลุ่มคอนโดที่แม้หน่วยขายได้จะเร่งตัวขึ้นมาก
ในปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความเสี่ยงในกรณีที่สถาบัน
การเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 1-
2 ปีข้างหน้าที่จะทาให้หน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในระยะต่อไปอีก
ด้วย
มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน BMR
หน่วย : พันล้านบาท
2019
127
261
2020
215
37
183
2022
127
27
2021
141
234
612
2023F
153
31
125
41
270
168 616
584
662
675 - 705
210
-5%
+13%
+2% ถึง +7%
BMR-Other
BMR-CD BMR-TH
BMR-SDH BMR-SMD
หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน BMR
หน่วย : พันหน่วย
195
28
56
2020
9
28
53
70
206
2021
8
33
167
60
84
2022 10
2023F
28 7
99
60
2019 102
197
195 - 205
-15%
+16%
+0% ถึง +5%
หน่วยขายได้และหน่วยเปิดใหม่
ใน BMR
หน่วย : พันล้านบาท
50
100
150
0
2023F
2019 2021 2025F
New launch
Sold
24
SCB EIC Industry insight : Real estate
ตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มกาลังซื้อปานกลาง-บน
โดยกลุ่มกาลังซื้อระดับปานกลางฟื้นตัวได้มาก ประกอบกับกลุ่มระดับบนที่กาลังซื้อมีอยู่อย่างสม่าเสมอ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA
ภาพรวมภาวะตลาดบ้านเดี่ยว บ้านแฝด
▪ ตลาดบ้านเดี่ยวปี 2023 ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านหน่วยขายได้ และการโอนกรรมสิทธิ์
สะท้อนกาลังซื้อระดับปานกลาง-บนที่ยังขยายตัว อย่างไรก็ดี อัตราการขยายตัวของตลาดบ้านเดี่ยวปี 2023
มีแนวโน้มลดลงหลังจากเร่งตัวขึ้นมากในปีก่อนหน้า
อุปสงค์ในกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงก็ยังมีอยู่อย่างสม่าเสมอ ส่งผลให้ตลาดบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ระดับราคา
ปานกลาง-บนตั้งแต่ราว 7-8 ล้านบาท ไปจนถึง 20-30 ล้านบาทในทาเลกรุงเทพฯ รอบนอก และชานเมือง
จะยังขยายตัวได้ดี
ตลาดระดับบนกลุ่ม Luxury–ultra และ Luxury จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมากขึ้น จากผลตอบรับ
ที่ดีตลอดช่วงที่ผ่านมา และเป็น Segment ที่ยังสามารถรักษาระดับอัตรากาไรได้ดีกว่าที่อยู่อาศัยทั่วไป
ในภาวะที่ต้นทุนก่อสร้างยังคงอยู่ในระดับสูง
▪ ตลาดบ้านแฝดปี 2023 ยังเติบโตได้เช่นกัน แต่คาดว่าอัตราการขยายตัวจะต่ากว่าของกลุ่มบ้านเดี่ยว
เนื่องจากกลุ่มบ้านเดี่ยวในระดับราคาปานกลาง 5-10 ล้านบาทที่มีความได้เปรียบด้านพื้นที่บ้าน และพื้นที่
ใช้สอยเข้ามาเป็นคู่แข่งมากขึ้น ส่วนบ้านแฝดระดับราคา 2-5 ล้านบาทคาดว่ายังคงเติบโตอย่างค่อยเป็น
ค่อยไป ในฐานะอีกตัวเลือกหนึ่งของตลาดที่อยู่อาศัยระดับปานกลาง-ล่าง ที่มีจุดเด่นด้านพื้นที่ใช้สอย
ที่มากกว่าทาวน์เฮาส์ แต่อาจอยู่ในทาเลที่ไกลเมืองมากกว่า
ประเด็นที่ต้องติดตาม
▪ ต้นทุนราคาที่ดินที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นปัจจัยสาคัญต่อการพัฒนาตลาดบ้านเดี่ยว
บ้านแฝดในระยะต่อไป ทั้งการปรับขึ้นราคา ขนาดของโครงการที่อาจเล็กลง หรือพื้นที่ส่วนกลางที่อาจลดลง
▪ หน่วยเหลือขายสะสมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น แม้จานวนหน่วยทั้งหมด
ยังน้อยกว่าประเภทอื่น แต่ต้องเริ่มจับตามากขึ้น
หน่วยขายได้โครงการ SDH และ SMD ใน BMR
หน่วย : พันหน่วย
10.7
2019
17%
1%
49%
17%
2%
29%
45%
2%
2021
14.7
2%
23%
11.9
11.0
44%
2023F
31%
2022
2020
39% 33%
41%
15.3 - 16.0
24%
+12%
+23%
+4% ถึง +9%
> 10MB 5-10MB 3-5MB 2-3MB
14% 2%
20%
2%
2020 2023F
11%
4.6 29%
2021
24%
3%
9%
3%
2019 2022
6.6
58%
62%
13%
15%
7.0
65%
4.3
6.6 - 6.9
59%
+60%
-5%
+0% ถึง +5%
SDH SMD
25
SCB EIC Industry insight : Real estate
ตลาดทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กลุ่มมือสองยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปัจจัยด้านราคาที่ต่ากว่ามือหนึ่ง
ส่วนในกลุ่มมือหนึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้น ทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์
หน่วยเหลือขายสะสมในระยะต่อไป
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA
หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทาวน์เฮาส์ ใน BMR
แยกประเภทมือหนึ่ง-มือสอง
หน่วย : พันหน่วย
ภาพรวมภาวะตลาดทาวน์เฮาส์
▪ ตลาดทาวน์เฮาส์ปี 2023 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยคาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์จะ
ขยายตัวได้ต่อเนื่องราว+1% ถึง+6%YOY หลังจากปีที่ผ่านมากลับมาฟื้นตัวได้ดี แต่ก็คาดว่าการโอนส่วนใหญ่
จะยังมาจากกลุ่มมือสองเป็นหลักต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ความนิยมคอนโดราคาต่าที่เพิ่มสูงขึ้น
ในช่วงที่กาลังซื้อยังเปราะบาง สะท้อนว่ากาลังซื้อระดับปานกลาง-ล่างส่วนใหญ่ให้ความสาคัญกับความ
สะดวก ความประหยัดด้านการเดินทาง และความใกล้เมืองของคอนโดมากกว่าการเลือกซื้อทาวน์เฮาส์
ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านพื้นที่ใช้สอยขณะที่กลุ่มที่เลือกซื้อทาวน์เฮาส์จานวนมากก็หันไปเลือกทาวน์เฮาส์มือสอง
ที่มีราคาต่ากว่ามือหนึ่ง ส่งผลให้หน่วยขายได้ปี 2022 ชะลอตัวลงถึง -7%YOY อย่างไรก็ตาม คาดว่าหน่วย
ขายได้ปี 2023 จะกลับมาฟื้นตัวได้ราว +0% ถึง +5%YOY ตามภาวะเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวได้มากขึ้น
▪ หน่วยเปิดใหม่ปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการขยายตัวจะ
ลดลงจากปี 2022 ค่อนข้างมากมาอยู่ที่ราว +0% ถึง +5%YOY จากในปี 2022 ที่หน่วยเปิดใหม่
ขยายตัวได้มากถึง +20%YOY ซึ่งอุปสงค์ที่กลับมาชะลอตัวลง ทาให้การเปิดโครงการใหม่ในปี 2023
จะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก โดยเฉพาะกลุ่มราคาปานกลาง-ล่างไม่เกิน 3 ล้านบาทที่มีสัดส่วนกว่าราว 65%-
75% ของตลาดทาวน์เฮาส์ทั้งหมด โดยยังต้องติดตามอุปสงค์ของตลาดอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป
ประเด็นที่ต้องติดตาม
▪ การปรับตัวของผู้ประกอบการในระยะสั้น ในช่วงที่ตลาดทาวน์เฮาส์ราคาปานกลาง-ล่างยังต้อง
เผชิญกับการแข่งขันจากคอนโดราคาต่าอย่างต่อเนื่อง เมื่อปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอยเพียงอย่างเดียว
อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้ประกอบการอาจต้องคานึงถึงปัจจัยด้านทาเลที่สะดวกต่อการเดินทาง
ความใกล้เมือง และใกล้สิ่งอานวยความสะดวก อย่างห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาลมากขึ้น
ส่วนพื้นที่ใช้สอยอาจต้องปรับลดเพื่อรักษาระดับราคา โดยอาจเพิ่มของแถมเฟอร์นิเจอร์ และการ
ตกแต่งพร้อมอยู่ รวมถึงเทคโนโลยี เข้ามาทดแทนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 2021
49%
53%
53%
2022
2020
51%
53
2019
47% 47%
56%
44%
2023F
60
56
60
61 - 65
-4%
+13%
+1% ถึง +6%
มือสอง
มือหนึ่ง
อัตราการขายได้เดือนแรกของทาวน์เฮาส์เปิดใหม่
เปรียบเทียบกับของคอนโดเปิดใหม่ใน BMR
หน่วย : %
1-2 mb
0
20
40
60
80
Q1/21 Q2/21
8%
Q2/22
Q3/21 Q4/21 Q3/22
Q1/22
20%
Q4/22
CD TH
0
20
40
60
80
Q4/22
Q2/22
Q1/21 Q4/21
Q2/21 Q3/21
13%
Q1/22 Q3/22
26%
CD TH
2-3 mb
3-5 mb
0
20
40
60
80
Q2/22
17%
Q4/21
Q1/21 Q2/21 Q3/21 Q1/22 Q3/22
39%
Q4/22
TH
CD
26
SCB EIC Industry insight : Real estate
ตลาดคอนโดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวและกาลังซื้อต่างชาติ
ที่กลับมามากขึ้น โดยด้านการโอนกรรมสิทธิ์มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนในด้านหน่วยขายได้
และหน่วยเปิดใหม่มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่มากกว่า
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC และ AREA
ภาพรวมภาวะตลาดคอนโด
▪ ตลาดคอนโดปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราการขยายตัวที่ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยในปี 2022 ตลาดกลับมา
ฟื้นตัวได้ค่อนข้างมากทั้งในด้านการขาย และการโอนจากการขายคอนโดราคาต่าโดยเฉพาะระดับราคาไม่เกิน3 ล้านบาท
และการโอนในกลุ่มมือสองที่ฟื้นตัวได้กว่า +48%YOY
ในปี 2023 คาดว่าคอนโดราคาต่าไม่เกิน3 ล้านบาทจะยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มกาลังซื้อระดับปานกลาง-ล่างอย่าง
ต่อเนื่อง ทั้งมือหนึ่งและมือสองส่วนคอนโดราคาปานกลางตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปจะฟื้นตัวได้มากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ
รวมถึงกาลังซื้อต่างชาติที่จะกลับมามากขึ้นโดยคาดว่าหน่วยขายได้จะขยายตัวต่อเนื่องราว +10% ถึง +15%YOY
ในปี 2023 คาดว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ และมูลค่าโอนจะขยายตัวต่อเนื่องราว+0% ถึง +5%YOY และ +2% ถึง +7%YOY
ตามลาดับ โดยการโอนในกลุ่มมือหนึ่งจะขยายตัวได้มากขึ้นจากการทยอยโอนโครงการที่เริ่มแล้วเสร็จ และโครงการ Ready to
moveที่ผู้ประกอบการทยอยทาราคาโปรโมชั่นระบายสต็อกที่เหลืออยู่เพื่อปิดโครงการที่ค้างมานานอย่างไรก็ตาม ทั้งหน่วยโอน
และมูลค่าโอนยังอยู่ในระดับต่ากว่าปี 2019
▪ หน่วยเปิดใหม่ปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ราว +12% ถึง +17%YOY หลังอุปสงค์กลับมาฟื้นตัวดีในปีที่
ผ่านมา โดยมาจากคอนโดราคาต่าเป็นหลัก และในปี 2023 นี้ คาดว่าอุปสงค์กลุ่มคอนโดระดับปานกลางจะฟื้นตัวดีขึ้น
และกระตุ้นให้มีการเปิดโครงการในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
ประเด็นที่ต้องติดตาม
▪ สถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสมที่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังลดลงตลอดช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา โดยในปีที่
ผ่านมาเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน
ระยะต่อไป จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นมากกว่าอุปสงค์ รวมถึงความเสี่ยงจาก Cancellation rate ของโครงการราคาต่า
ที่ขายออกไปเป็นจานวนมากในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับผลจากการยกเลิกการผ่อนคลาย LTV ก็จะมีส่วนกดดันให้
หน่วยเหลือขายสะสมกลับมาเพิ่มขึ้นเช่นกัน
การโอนกรรมสิทธิ์คอนโด ใน BMR
หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท
84 - 88
2019 2023F
2021
2020 2022
234
102
270
99
261
70
210
84
239 - 250
+0% ถึง +5%
+2% ถึง +7%
หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์
27
SCB EIC Industry insight : Real estate
ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มแนวราบจากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวได้
มากขึ้น ขณะที่ตลาดคอนโดมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น จากกาลังซื้อชาวต่างชาติ และนักลงทุน โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว
สาคัญ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยต่างจังหวัด
หน่วย : พันล้านบาท
ภาพรวมภาวะตลาดต่างจังหวัด
▪ ตลาดต่างจังหวัดในปี 2023 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งในด้านหน่วยโอน และมูลค่าโอน จากกาลังซื้อ
ในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแนวราบที่ยังสามารถขยายตัวได้ดีตั้งแต่ช่วง COVID-19
จนถึงปีที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มคอนโดคาดว่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า หลังจากชะลอตัว
ต่อเนื่องในช่วง COVID-19 จากแรงสนับสนุนของกาลังซื้อจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และจานวน
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมามากขึ้น ที่จะช่วยกระตุ้นกาลังซื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะคอนโด
ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ อย่างไรก็ตาม จานวนหน่วยเหลือขายสะสมของตลาดคอนโด
ในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญที่ยังไม่ลดลงมากนักในช่วงที่ผ่านมา อาจทาให้การโอนโครงการคอนโดใหม่
ในต่างจังหวัดมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
▪ การเปิดโครงการใหม่จะฟื้นตัวมากขึ้น หลังกาลังซื้อในประเทศในกลุ่มแนวราบยังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี
ประกอบกับแนวโน้มการกลับมาของกาลังซื้อต่างชาติ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเพิ่มความมั่นใจ
ให้ผู้ประกอบการกลับไปรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นในปี 2023 และมีสัญญาณของการเปิดโครงการใหม่
มากขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่
ประเด็นที่ต้องติดตาม
▪ ตลาดต่างจังหวัดกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง และการแข่งขันอาจเข้มข้นมากขึ้นในระยะต่อไป
โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ อย่างภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ที่ทั้งตลาดแนวราบและคอนโดเริ่ม
กลับมาดึงดูดกาลังซื้อ ทั้ง Real demand และเพื่อการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตลาดแนวราบ
ในพื้นที่ท่องเที่ยวรองที่มีศักยภาพสูงอย่าง เขาใหญ่-วังน้าเขียว หรือหัวหิน นอกจากนั้น ยังมีตลาด
แนวราบในจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นที่กาลังขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา อาทิ นครราชสีมา
ขอนแก่น สงขลา และพิษณุโลก
2023F
2019 2022
2020 2021
319
337
360
403
415 - 434
+7%
+12%
+3% ถึง +8%
176
2019 2020 2021 2022 2023F
186
198
176
202 - 213
-0.1%
+12%
+2% ถึง +7%
หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยต่างจังหวัด
หน่วย : พันหน่วย
ประเด็นที่ต้องจับตา
ในระยะต่อไป
SCB EIC Industry insight : Real estate
29
SCB EIC Industry insight : Real estate
ประเด็นที่ต้องจับตาในระยะต่อไป
การฟื้นตัวของกาลังซื้อ
ที่ยังถูกกดดัน
สถานการณ์
หน่วยเหลือขายสะสม
ต้นทุนการพัฒนาโครงการ
ที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับสูง
Megatrend และ
การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
1 2 3 4
30
SCB EIC Industry insight : Real estate
10%
15%
20%
25%
30%
35%
ยังไม่มีแผนก่อหนี้เพิ่ม มีโอกาสก่อหนี้เพิ่ม ยังไม่มีแผนก่อหนี้เพิ่ม มีโอกาสก่อหนี้เพิ่ม
ปัจจุบันมีหนี้ในระบบ ปัจจุบันมีหนี้ในระบบ ปัจจุบันมีหนี้นอกระบบ ปัจจุบันมีหนี้นอกระบบ
สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ทยอยปรับลดลงบ้าง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยในระยะต่อไป ครัวเรือนที่มีหนี้นอกระบบ
ยังน่าเป็นห่วงจากแนวโน้มก่อหนี้เพิ่มขึ้น
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย
การฟื้นตัวของกาลังซื้อที่ยังถูกกดดัน
สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ทยอยปรับลดลง แต่ยังอยู่ในระดับสูง
หน่วย : %GDP
90.8
86.8
0
10
20
30
40
50
60
70
80
90
100
03/2007
02/2008
01/2009
12/2009
11/2010
10/2011
09/2012
08/2013
07/2014
06/2015
05/2016
04/2017
03/2018
02/2019
01/2020
12/2020
11/2021
ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน
สหกรณ์ออมทรัพย์ สถาบันรับฝากเงินอื่น ๆ
สถาบันการเงินอื่น หนี้ครัวเรือน
สัดส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่จะก่อหนี้เพิ่มใน 6 เดือนข้างหน้า (แบ่งตามแหล่งเงินกู้ใน
ปัจจุบัน)
หน่วย : %
ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีหนี้นอกระบบ
มีแนวโน้มที่จะกู้ยืมเพิ่มเติมมากกว่า
• หากรายได้เพิ่มขึ้น โอกาสก่อหนี้นอกระบบจะลดลงอย่างมีนัยสาคัญ ส่วนหนึ่งเพราะรายได้เป็นหนึ่งใน
ปัจจัยสาคัญของการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ
• กลุ่มคนที่มีหนี้นอกระบบมีโอกาสก่อหนี้เพิ่มภายใน 6 เดือนข้างหน้า มากกว่ากลุ่มที่มีแค่หนี้ในระบบ
อย่างมีนัยสาคัญ
31
SCB EIC Industry insight : Real estate
สาเหตุของผู้ที่ยังไม่มีแผนซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากการมีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ยังมาจากการยังไม่พร้อมรับภาระหนี้
เพิ่ม รวมถึงยังมีความกังวลด้านภาระค่าใช้จ่าย และรายได้ที่ไม่แน่นอน
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลการสารวจ Residential real estate survey เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2023 จานวนผู้ตอบแบบสารวจ 2,313 คน
การฟื้นตัวของกาลังซื้อที่ยังถูกกดดัน
SCB EIC Residential real estate survey : สาเหตุที่ท่านยังไม่มีแผนซื้อที่อยู่อาศัย
หน่วย : % ของผู้ตอบแบบสอบถาม
SCB EIC Residential real estate survey : ท่านมีการซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัยในปี 2020-2022 หรือไม่
หน่วย : % ของผู้ตอบแบบสอบถาม
มีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว
ไม่ต้องการมีภาระหนี้
รายได้ลดลง / รายได้ไม่แน่นอน
ไม่ต้องการมีภาระค่าใช้
จ่ายในการดูแล
43%
มีภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่น
14%
10%
8%
6%
• สาเหตุของผู้ที่ยังไม่มีแผนซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากการมีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว รองลงมาส่วนใหญ่ยังมาจากการยังไม่พร้อมรับภาระหนี้เพิ่ม รวมถึงยังมีความกังวลด้านภาระค่าใช้จ่าย และรายได้ที่ไม่แน่นอน
• โดยกลุ่มที่มีที่อยู่อาศัยอยู่แล้วส่วนใหญ่กว่า 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยปัจจุบันมาตั้งแต่ช่วงก่อนปี 2020 ที่ COVID-19 แพร่ระบาดรุนแรง
23%
77%
ไม่มีการซื้อหรือสร้าง
มีการซื้อหรือสร้าง
32
SCB EIC Industry insight : Real estate
ปี 2023 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นท่ามกลางแรง
กดดันด้านเงินเฟ้อ ประกอบกับต้นทุนการพัฒนาที่ยังอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับดัชนีราคาที่ดินที่คาดว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น
หมายเหตุ : ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับปรุงคุณภาพดัชนีราคาที่อยู่อาศัย เพื่อให้สามารถสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดจากปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่คุณลักษณะของที่อยู่อาศัย อาทิ การเก็งกาไร ความต้องการที่แท้จริง
มาตรการภาครัฐ ที่กระทบต่อราคาและการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อขจัดผลของการเปลี่ยนแปลงราคาที่เกิดจากปัจจัยลักษณะที่อยู่อาศัย โดยข้อมูลที่แสดงเป็นข้อมูลชุดใหม่ที่มีการปรับปรุงข้อมูลย้อนหลังเรียบร้อยแล้ว
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย และ REIC
ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับสูง
ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : %YOY
ดัชนีราคาที่ดินในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : %YOY
ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในภูมิภาค (ไม่รวมกรุงเทพฯ-ปริมณฑล)
หน่วย : %YOY
5.8
4.6
0
-10
5
-5
10
15
20
01/16
07/16
01/17
07/17
01/18
07/18
01/19
01/23
07/19
01/20
07/20
01/21
07/21
07/22
01/22
03/23
7.0
SDH TH Condo
%YOY 2016-2019 2021 2022
บ้านเดี่ยว 2.6% 1.8% 4.1%
ทาวน์เฮาส์ 3.7% 2.5% 4.3%
คอนโด 4.5% 5.2% 2.3%
ที่ดิน 2.9% 8.1% 2.4%
-2.1
-10
-5
10
0
5
20
15
01/21
01/17
01/22
07/19
01/16
01/19
07/16
07/17
01/18
07/18
07/22
01/20
07/20
07/21
01/23
03/23
กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
2022 : ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยทุกประเภท และดัชนีราคาที่ดิน ขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยของกลุ่มแนวราบ
ขยายตัวในอัตราที่มากกว่ากลุ่มคอนโด ส่วนกลุ่มคอนโดเริ่มมีสัญญาณการปรับขึ้นราคามากขึ้นในช่วงปลายปี ขณะที่ราคา
ที่ดินมีการชะลอตัวลงในช่วงปลายปีหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงในช่วงครึ่งแรกของปี
2023 : ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นท่ามกลางแรง
กดดันด้านเงินเฟ้อ ประกอบกับต้นทุนการพัฒนาที่ยังอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับดัชนีราคาที่ดินที่คาดว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น
– แนวราบ : คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในอัตราที่ดีกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย ส่วนหนึ่งจากต้นทุนราคาที่ดิน และการเปิด
โครงการราคาปานกลาง-บนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
– คอนโด : คาดว่าขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า หลังเริ่มส่งสัญญาณการปรับขึ้นราคามาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่
ผ่านมา หลังตลาดเริ่มกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น ส่งผลให้คอนโดระดับราคาปานกลางขึ้นไปมีแนวโน้มกลับมาเปิด
มากขึ้นในปีนี้ ประกอบกับการปรับขึ้นราคาได้อย่างจากัดในช่วงที่ผ่านมา
– ที่ดิน : คาดว่าดัชนีราคาที่ดินปี 2023 จะกลับมาขยายตัวได้หลังจากผ่านช่วงที่เหลือของปี แต่อาจขยายตัวในอัตราที่
ใกล้เคียงหรือน้อยกว่าปีก่อนหน้า
3.9
4.5
-2
8
-4
0
2
4
6
01/21
01/18
01/16
07/16
01/17
07/17
07/18
01/19
07/19
01/20
01/23
07/20
07/21
01/22
07/22
03/23
SDH TH
%YOY 2016-2019 2021 2022
บ้านเดี่ยว 2.8% 1.4% 4.4%
ทาวน์เฮาส์ 3.5% 2.1% 3.0%
ต่างจังหวัด
• 2022 : ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับ
ปีก่อนหน้า สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดแนวราบในต่างจังหวัดที่
ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง
• 2023 : ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยแนวราบมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อย
เป็นค่อยไป ในทิศทางเดียวกับตลาดกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จากกาลัง
ซื้อในต่างจังหวัดที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
33
SCB EIC Industry insight : Real estate
ปี 2023 ราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์ ยังอยู่ในระดับสูง และมีความผันผวน ซึ่งจะมีการผลักภาระต้นทุน
บางส่วนไปยังผู้ซื้อที่อยู่อาศัยต่อไป
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และ REIC
ราคาเฉลี่ยปูนซีเมนต์พอร์ทแลนด์ของไทย
หน่วย : บาท/กิโลกรัม
ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับสูง
• ราคาเหล็กทรงยาวไทยปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ไปตามราคาเหล็กจีน แต่ยังอยู่ใน
ระดับที่สูงกว่าราคาในช่วงปี 2016-2020 หลังราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา
• ราคาปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ไทยปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย และยังคงอยู่ใน
ระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ที่จะส่งผลต่อราคาถ่านหินในระยะต่อไป
• ดัชนีราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างปี 2022 ขยายตัว 6%YOY โดยยังต้องติดตามปัจจัยที่อาจส่งผลให้
ราคาวัสดุก่อสร้างผันผวน อาทิ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก สภาพอากาศโลกที่แปรปรวน ที่จะ
ส่งผลต่อราคาพลังงาน การปรับขึ้นค่าไฟในไทย และการเปิดประเทศของจีน ที่จะส่งผลต่อราคา
เหล็กจีนและเหล็กไทย
• ปี 2023 คาดว่าผู้ประกอบการมีแนวโน้มผลักภาระต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูงไปยังผู้ซื้อที่อยู่
อาศัยได้มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถผลักภาระต้นทุนไปยังผู้ซื้อได้ทั้งหมด จากการฟื้นตัวของ
กาลังซื้อที่เป็นไปอย่างจากัด และการแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังเข้มข้น
1.55
1.76 1.73
1.64
2020 2022
2016 2019
2017 2018 2021
1.88 1.82
2023F
1.70
1.62
-6%
+16% -3%
ราคาเหล็กทรงยาว
หน่วย : บาท/กิโลกรัม
18.0 19.5 21.2 19.6 17.6
26.5
2020
2016 2017 2018 2019
25.3
2021 2022
24.6
2023F
+44% +5% -7%
ดัชนีราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : %YOY
2.6
10
-10
0
-5
5
15
07/17
02/22
01/17
07/16
07/20
01/16
01/18
07/18
01/19
07/19
01/20
01/21
07/21
01/22
07/22
01/22
2019 2021 2022
%YOY -2% +8% +6%
34
SCB EIC Industry insight : Real estate
สถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสมทาวน์เฮาส์และบ้านแฝดส่วนใหญ่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดจากอัตราการขายที่
ลดลง ขณะที่ของคอนโดราคา 1-3 ล้านบาทและบ้านเดี่ยวราคา 5-20 ล้านบาท ต้องจับตาอัตราการขยายตัวของหน่วย
เหลือขายสะสมมากขึ้นในระยะต่อไป หากอัตราการขายได้ขยายตัวต่ากว่าการเปิดใหม่
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA
สถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสม
-60
140
-40
0
20
40
0.0
60
-1.5
-2.0 1.5
100
120
-1.0 -0.5
-20
0.5 1.0 2.0 4.5
2.5 5.0
TH
2-3MB
TH
1-2MB
TH
10-20MB
SDH
5-10MB
SDH
10-20MB
การเปลี
่
ย
นแปลงของหน่
ว
ยเหลื
อ
ขายสะสม
(%)
ช่
ว
ง
2022
เที
ย
บกั
บ
ปี
2021
SDH
>20MB
TH
>20MB
CD
1-2MB
CD
2-3MB
CD
3-5MB
CD
5-10MB
SMD
10-20MB
CD
>20MB
การเปลี่ยนแปลงของอัตราการขายต่อเดือน (%) ในช่วง 2022 เทียบกับปี 2021
SMD
2-3MB
SMD
3-5MB
TH
5-10MB
SMD
5-10MB
TH
3-5MB
CD
0.5-1MB
CD
10-20MB
SDH
3-5MB
ขนาดของวงกลมคือ จานวนหน่วยเหลือขายสะสม ณ สิ้นปี 2022
<----- อัตราการขายต่อเดือนลดลง--------------------------------- อัตราการขายต่อเดือนเพิ่มขึ้น----->
อัตราขายได้เร่งตัว
ของเหลือขายลดลง
อัตราขายได้เร่งตัว
ของเหลือขายเพิ่มขึ้น
อัตราขายได้ลดลง
ของเหลือขายลดลง
อัตราขายได้ลดลง
ของเหลือขายเพิ่มขึ้น
<------
หน่
ว
ยเหลื
อ
ขายลดลง--------
หน่
ว
ยเหลื
อ
ขายเพิ
่
ม
ขึ
้
น
----->
35
SCB EIC Industry insight : Real estate
Megatrend ต่าง ๆ เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่ส่งผลให้ความต้องการ และพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไป
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC
Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
Aging society
Hybrid workplace
Pet humanization
ESG
• รูปแบบที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
• สิ่งอานวยความสะดวก และบริการเสริม เช่น ผู้ดูแล บริการด้าน
การแพทย์แบบประจาและฉุกเฉิน กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกายและใจ
• ทางเลือกในการถือครองกรรมสิทธิ์ เช่น เป็นเจ้าของ สิทธิ์อยู่อาศัย
ระยะยาว หรือตลอดชีวิต
• การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างเหมาะสม
• พื้นที่ส่วนกลางที่เอื้อต่อการทางาน เช่น ห้องประชุม Co-working space
• ปัจจัยด้านความสะดวกในการเดินทางก็ยังคงมีความสาคัญ เมื่อต้อง
เดินทางไปยังออฟฟิศ
• รูปแบบที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์
• การนา Proptech มาอานวยความสะดวก เช่น ระบบแสงสว่าง
อุณหภูมิอัตโนมัติที่เหมาะสมต่อสัตว์เลี้ยง การตั้งเวลาให้อาหาร
ระบบเตือนภัย
• รูปแบบที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงาน และรองรับภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น
น้าท่วม พายุ อากาศร้อน
• ขั้นตอนการก่อสร้างที่ลดมลภาวะ ลดการใช้ทรัพยากร และใช้วัสดุ
ก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• โครงการที่อยู่อาศัยไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อชุมชนโดยรอบ และมี
ความปลอดภัยในการก่อสร้าง
36
SCB EIC Industry insight : Real estate
เทรนด์ ESG เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งในแง่ของที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และภาพลักษณ์การให้ความสาคัญกับสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการ ขณะที่เทรนด์ Pet humanization อาจยังเป็นกลุ่ม
เฉพาะแต่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในระยะต่อไป
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลการสารวจ Residential real estate survey เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2023 จานวนผู้ตอบแบบสารวจ 2,313 คน
Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
SCB EIC Residential real estate survey : ลักษณะของโครงการที่อยู่อาศัยดังต่อไปนี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของท่านมากน้อยเพียงใด
หน่วย : % ของผู้ตอบแบบสอบถาม
35.0%
46.0%
16.0%
3.0%
มากที่สุด
มาก
น้อย
น้อยที่สุด
เทรนด์ ESG มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อโครงการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันค่อนข้างมาก และมีแนวโน้ม
เพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนั้น อุปกรณ์ที่ช่วยบริหารจัดการให้ประหยัดพลังงานในที่อยู่อาศัย จะ
กลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานภายในบ้านในระยะต่อไป
โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการติดตั้ง
Solar roof, EV charger
40.0%
47.0%
10.0%
3.0%
18.0%
19.0%
35.0%
27.0%
น้อยที่สุด
มากที่สุด
มาก
น้อย
29.0%
38.0%
24.0%
8.0%
โครงการที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการที่ให้ความสาคัญกับ
เทรนด์ ESG เช่น ลดการก่อให้เกิดผลกระทบจากการ
ก่อสร้างและการอยู่อาศัย ต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน
โครงการคอนโดที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์
(Pet friendly)
โครงการคอนโดที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
Mixed-use (มีพื้นที่ห้างสรรพสินค้า สานักงาน
หรือโรงแรมรวมอยู่ในโครงการ)
• ผู้ตอบสัดส่วน 1 ใน 3 ให้ความสาคัญกับโครงการคอนโดที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์ และมีแนวโน้ม
เติบโตมากขึ้นตามเทรนด์ความนิยมเลี้ยงสัตว์ของผู้บริโภค
• ผู้ตอบสัดส่วน 2 ใน 3 ให้ความสาคัญกับรูปแบบ Condo mixed-use สะท้อนแนวโน้มการได้รับการ
ตอบรับที่ดีของโครงการประเภทนี้
37
SCB EIC Industry insight : Real estate
ภาคอาคารและการก่อสร้างมีสัดส่วนการปล่อย CO2 อยู่ที่ 37% ของการปล่อย CO2 โดยรวม และมีสัดส่วนการใช้
พลังงานอยู่ที่ 34-35% ของการใช้พลังงานโดยรวม
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูล 2022 Global Status Report for Buildings and Construction โดย United Nations Environment Programme
Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
สัดส่วนการปล่อย CO2 ของภาคอาคารและการก่อสร้างปี 2021 โดยรวมทั้งโลก
หน่วย : %
ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
หน่วย : %YOY
6%
8%
11%
6%
30%
22%
8% 3%
3%
3%
37%
กระจก และอิฐสาหรับการก่อสร้างอาคาร
อาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (ทางอ้อม)
คอนกรีต อะลูมิเนียม และเหล็กสาหรับการก่อสร้างอาคาร
อาคารที่อยู่อาศัย (ทางอ้อม)
อาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (ทางตรง)
ขนส่ง
อาคารที่อยู่อาศัย (ทางตรง)
ภาคอาคารและการก่อสร้างอื่น ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน
อุตสาหกรรมอื่น ๆ
อื่น ๆ
9%
21%
31%
26%
6% 1%
4%
2%
ภาคอาคารและการก่อสร้างอื่น ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน
กระจก และอิฐสาหรับการก่อสร้างอาคาร
คอนกรีต อะลูมิเนียม และเหล็กสาหรับการก่อสร้างอาคาร
อาคารที่อยู่อาศัย
อาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย
อุตสาหกรรมอื่น ๆ
ขนส่ง
อื่น ๆ
34-35%
38
SCB EIC Industry insight : Real estate
ภาคอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยได้รับแรงกดดันจากเทรนด์ ESG ทั้งในด้านอุปสงค์ ด้านอุปทาน รวมถึงด้านที่เกี่ยวข้องกับ
สถาบันการเงิน และกฎระเบียบข้อบังคับ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องปรับกลยุทธ์ในระยะต่อไป
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC
Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
แรงกดดันจากเทรนด์ ESG และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ ในภาคอสังหาริมทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัย
แรงกดดันจากด้านอุปสงค์
• ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันคานึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี / อุปกรณ์ที่ช่วยควบคุม
อุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ช่วยบริหารจัดการพลังงานในที่อยู่อาศัย เช่น แผงโซลาร์, อุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าและจัดการพลังงาน
และ EV charger
• ในระยะต่อไปผู้ซื้อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายขอบเขตการพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ตามเทรนด์ ESG เช่น
ระบบการจัดการพลังงานหรือมลภาวะของที่อยู่อาศัย และพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ
แรงกดดันจากด้านอุปทาน
• ขั้นตอนการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมค่อนข้างมาก สะท้อนได้จาก
ปัญหาฝุ่น PM 2.5 การปล่อย CO2 ในอัตราที่สูง รวมถึงการสร้างมลภาวะในด้านอื่น เช่น มลภาวะทางเสียง มลภาวะจากขยะ
ซึ่งผู้ประกอบการจาเป็นต้องจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโครงการที่อยู่อาศัยต่อสังคมหรือชุมชนโดยรอบจะได้รับความสาคัญมากขึ้น และมีผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์
ที่อยู่อาศัย
แรงกดดันจากด้านสถาบันการเงิน และกฎระเบียบข้อบังคับ
• สถาบันการเงินมีการปรับตัวรับเทรนด์ ESG และมีแนวโน้มนาเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้นใน
ระยะต่อไป โดยมีแนวโน้มส่งเสริมโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ในเกณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
• กฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เช่น ผังเมือง การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นแรงกดดัน
ต่อผู้ประกอบการ
การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
และใส่ใจต่อสังคมจะเป็นภาพลักษณ์สาคัญ
ที่จะมีส่วนช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
ในระยะต่อไป
แนวทางการปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์เทรนด์ ESG
ของผู้ประกอบการ
• นาเทคโนโลยีการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อมมาใช้ให้เป็นมาตรฐานใหม่ เช่น Precast,
Prefabrication และ Modular
• เลือกใช้อุปกรณ์ และเครื่องจักรก่อสร้างที่ลดการก่อ
มลภาวะ รวมถึงบริหารจัดการของเหลือ และขยะจากงาน
ก่อสร้าง
• พัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์ที่
กาหนด เพิ่มการติดตั้งอุปกรณ์หรือเทคโนโลยี ที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน รวมถึงคานึงถึงพื้นที่
สีเขียวในโครงการ
• ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกาหนดอย่างเคร่งครัด และให้
สอดคล้องกับเป้าหมายการลดการปล่อย CO2 หรือ Net
zero ของอุตสาหกรรม และของประเทศ
39
SCB EIC Industry insight : Real estate
นัยต่อธุรกิจ
บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับใส่ใจ
ประเด็นด้าน ESG
เจาะกลุ่มกาลังซื้อแต่ละระดับด้วยประเภทที่อยู่อาศัย
ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการ
1
01 2
02
การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
40
SCB EIC Industry insight : Real estate
การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
นัยต่อธุรกิจ
1
01
เจาะกลุ่มกาลังซื้อแต่ละระดับด้วยประเภทที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม
และตรงกับความต้องการ
▪ ตลาดระดับปานกลาง-ล่าง : กาลังซื้อในกลุ่มระดับปานกลาง-ล่างเริ่มฟื้นตัวได้มากขึ้น และยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยระดับราคาต่า
ซึ่งในปัจจุบันผู้ซื้อมีแนวโน้มให้ความสาคัญกับปัจจัยด้านความสะดวกของทาเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก ใกล้เมือง ใกล้ที่ทางาน/ที่เรียน รวมถึงห้างสรรพสินค้า
ร้านอาหารต่าง ๆ มากกว่าปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอย ทาให้ยังเป็นโอกาสของตลาดคอนโดราคาต่าที่คาดว่าจะยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยด้านการโอน
กรรมสิทธิ์คอนโดใหม่ ที่จะไปโอนจริงในช่วง 1-2 ปีหลังจาก Pre sale ทาให้ผู้ซื้อยังมีเวลาเตรียมตัวด้านการเงิน
▪ ตลาดระดับปานกลาง-บน : กาลังซื้อของกลุ่มรายได้ระดับปานกลาง เริ่มฟื้นตัวได้มากขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนของกาลังซื้อเพื่อการลงทุนมากกว่ากลุ่มแรก
ประกอบกับในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมามีการเปิดโครงการในระดับราคาดังกล่าวออกมาค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโด ดังนั้น ตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลาง
ทั้งคอนโดและแนวราบ จึงมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้ดีและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ (คอนโดราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท / บ้านเดี่ยวบ้านแฝดราคาไม่เกิน 25 ล้านบาท)
โดยเฉพาะโครงการใหม่ที่อยู่ในทาเลศักยภาพ จะสามารถดึงดูดได้ทั้ง Real demand และ Speculative demand
▪ ตลาดระดับบน / Luxury / Ultra luxury : กาลังซื้อของกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างน้อย ยังคงแข็งแกร่งและมี
ความสม่าเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว โดยบ้านเดี่ยวราคาสูง (ประมาณตั้งแต่ 25 ล้านบาทขึ้นไป) ได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยแม้จานวน
หน่วยขายได้จะไม่ได้มากเหมือนระดับราคาอื่น แต่มูลค่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากความนิยมในกลุ่ม Luxury และ Ultra-luxury ทาให้ผู้ประกอบการ
หลายรายหันไปทาตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น และจะทาให้ในหลายพื้นที่มีแนวโน้มแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากขึ้น ขณะที่กลุ่มคอนโดราคาสูง (ประมาณตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป)
จะฟื้นตัวได้มากขึ้นจากแรงหนุนของกาลังซื้อจากต่างชาติที่กลับมา แต่ด้วยหน่วยเหลือขายสะสมที่ยังเหลืออยู่พอสมควร ทาให้คาดว่าจะขยายตัวได้น้อยกว่าตลาด
แนวราบ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC
41
SCB EIC Industry insight : Real estate
การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
นัยต่อธุรกิจ
2
02
บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกับใส่ใจประเด็นด้าน ESG
▪ การบริหารจัดการต้นทุนยังคงเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสาคัญ ในช่วงที่กาลังซื้อในตลาดยังอยู่ระหว่างช่วงฟื้นตัว ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อชิงกาลังซื้อที่มีอยู่อย่าง
จากัด ขณะที่ต้นทุนการก่อสร้างยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ทั้งราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาที่ดิน รวมถึงค่าแรงงาน นอกจากนั้น ยังรวมถึงต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นจากการเสียภาษี
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นในกรณีที่การวางแผนการพัฒนาโครงการผิดพลาด ดังนั้น การวางแผนบริหารจัดการต้นทุนผ่านการนาเทคโนโลยี
เข้ามาใช้ในขั้นตอนต่าง ๆ อาทิ เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ช่วยลดการเกิดวัสดุก่อสร้างเหลือใช้ ช่วยลดขั้นตอนการก่อสร้าง ลดการใช้กาลังแรงงาน เป็นต้น รวมถึงการใช้
เทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนการดาเนินงานในด้านอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มต่อประสิทธิภาพ และรักษาอัตรากาไร
▪ ESG จะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป การคานึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง จะเป็นสิ่งที่สังคม
รวมถึงผู้บริโภคให้ความสาคัญมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการควรปรับกลยุทธ์ทั้งในด้านกระบวนการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีส่วน
ช่วยในการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจในด้านการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กร
และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงเพื่อประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และส่วนรวมในระยะยาว
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC
ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023 ขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงด้านกำลังซื้อ และต้นทุนก่อสร้าง
ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023 ขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงด้านกำลังซื้อ และต้นทุนก่อสร้าง

ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023 ขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงด้านกำลังซื้อ และต้นทุนก่อสร้าง

  • 1.
    Real estate ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023มีแนวโน้ม ขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป จากกาลังซื้อที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว และต้นทุนการก่อสร้างที่ยังอยู่ใน ระดับสูง SCB EIC Industry insight June 2023
  • 2.
    The information containedin this report has been obtained from sources believed to be reliable. However, neither we nor any of our respective affiliates, employees or representatives make any representation or warranty, express or implied, as to the accuracy or completeness of any of the information contained in this report, and we and our respective affiliates, employees or representatives expressly disclaim any and all liability relating to or resulting from the use of this report or such information by the recipient or other persons in whatever manner. Any opinions presented herein represent our subjective views and our current estimates and judgments based on various assumptions that may be subject to change without notice, and may not prove to be correct. This report is for the recipient’s information only. It does not represent or constitute any advice, offer, recommendation, or solicitation by us and should not be relied upon as such. We, or any of our associates, may also have an interest in the companies mentioned here in. Executive Summary หน้า 03 แนวโน้ม ตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2023 หน้า 06 Contents รายละเอียดแนวโน้มตลาด ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ- ปริมณฑล และต่างจังหวัด หน้า 22 ประเด็นที่ต้องจับตา ในระยะต่อไป หน้า 28 SCB EIC Industry insight : Real estate
  • 3.
    3 SCB EIC Industryinsight : Real estate Executive Summary สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อนหน้า ท่ามกลางปัจจัยกดดันที่ยังมีน้าหนัก • การโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +1% ถึง +6%YOY ส่วนมูลค่าโอน กรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +2% ถึง +7%YOY โดยคาดว่ากลุ่มแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวบ้านแฝดจะยังขยายตัวได้ดี ขณะที่กลุ่มคอนโดและทาวน์เฮาส์มือหนึ่ง มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ในตลาดต่างจังหวัดมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นเดียวกัน จากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด • หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ลดลง อยู่ที่ราว +1% ถึง +6%YOY หลังจากขยายตัวได้มากราว +77%YOY ในปีก่อนหน้า โดยการ ขยายตัวมาจากทั้งกลุ่มคอนโดและแนวราบ โดยคาดว่าการเปิดโครงการคอนโดระดับราคาต่าจะยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในระดับราคาปานกลาง ขึ้นไปมีแนวโน้มขยายตัวได้มากขึ้น หลังจากผู้ประกอบการค่อนข้างระมัดระวังการเปิดโครงการกลุ่มดังกล่าวในช่วงปีก่อนหน้า • หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้า อยู่ที่ราว +5% ถึง +10%YOY เช่นกัน ตามการเปิดโครงการใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของกาลังซื้อที่ยังคงถูกกดดัน ทาให้อัตราการขยายตัวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนหน่วยขายได้ยังมาจากกลุ่มคอนโด ราคาต่าเป็นหลักที่ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนในกลุ่มแนวราบ บ้านเดี่ยวบ้านแฝดยังขยายตัวได้ดี ขณะที่ทาวน์เฮาส์คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้นหลังจากหดตัวในปีก่อน หน้า • ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน โดยหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +2% ถึง +7%YOY ส่วนมูลค่าโอน กรรมสิทธิ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวราว +3% ถึง +8%YOY โดยกาลังซื้อในประเทศยังคงหนุนตลาดแนวราบให้เติบโตต่อเนื่อง ส่วนแรงหนุนจากการกลับมาของ กาลังซื้อต่างชาติและนักท่องเที่ยวต่างชาติจะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ ขยายตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะคอนโด ที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้นจากช่วง COVID-19
  • 4.
    4 SCB EIC Industryinsight : Real estate Executive Summary ตลาดแนวราบกลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดคอนโดมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น • บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด : มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งในด้านหน่วยโอน และมูลค่าโอน โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว ในระดับราคาปานกลางประมาณ 7-15 ล้านบาท รวมถึงกลุ่ม luxury ที่ผู้ประกอบการหันมาทาตลาดกันมากขึ้น จากกาลังซื้อที่มีอยู่สม่าเสมอ • ทาวน์เฮาส์ : มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้มากขึ้น หลังชะลอตัวต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของกาลังซื้อในระดับปานกลาง-ล่าง ที่มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดทาวน์เฮาส์ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากกลุ่มคอนโดราคาต่าอย่างต่อเนื่อง จากข้อได้เปรียบด้านทาเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวก และอยู่ใกล้เมือง ใกล้สิ่งอานวย ความสะดวกต่าง ๆ มากกว่า • คอนโด : คอนโดราคาต่าไม่เกิน 3 ล้านบาทยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ด้วยข้อได้เปรียบด้านราคา และด้านทาเลที่สะดวกต่อการเดินทาง รวมถึงความใกล้เมือง ที่ผู้ซื้อ กลุ่มรายได้ปานกลาง-ล่างในปัจจุบันให้ความสาคัญมากกว่าปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอย ส่วนคอนโดระดับราคาปานกลางขึ้นไปคาดว่าจะขยายตัวได้ในอัตราที่เพิ่มขึ้น หลังจากยัง ฟื้นตัวได้อย่างจากัดในปีก่อนหน้า ตามการกลับมาของกาลังซื้อชาวต่างชาติ และการเปิดตัวของผู้ประกอบการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
  • 5.
    5 SCB EIC Industryinsight : Real estate Executive Summary ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัจจัยกดดันที่ยังคงมีน้าหนัก... • แม้ตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวจากภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อในประเทศ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า รวมถึงกาลังซื้อจากต่างชาติที่กลับมา ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกาลังซื้อจากชาวจีน แต่ยังมีปัจจัยกดดันจาก 1. ภาวะเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ยังเป็นปัจจัยกดดันสาคัญ ต่อการฟื้นตัวของกาลังซื้อให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป 2. ต้นทุนก่อสร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากทั้งราคาที่ดิน รวมถึงค่าแรงงาน ที่มีแนวโน้มปรับขึ้น ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้าง อย่างเหล็ก และปูนซีเมนต์ ยังอยู่ใน ระดับสูง ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น 3. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น • นอกจากนั้น ต้องกลับมาติดตามสถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสม ที่มีแนวโน้ม กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง หลังจากจานวนหน่วยเหลือขายสะสมกลับมา เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปี 2022 โดยในระยะสั้นต้องจับตากลุ่ม คอนโดที่กลับมาเปิดโครงการค่อนข้างมาก และกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่อัตราการขายยัง ฟื้นตัวได้ไม่มาก ส่วนในระยะปานกลางต้องติดตามกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝด เนื่องจากอาจมีอัตราการเพิ่มขึ้นของหน่วยเหลือขายสะสมสูงกว่าที่อยู่อาศัยประเภท อื่น ตามการเปิดโครงการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง Implication ต่อผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย • กาลังซื้อที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทาให้ ที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ Affordable ยังคงเป็นโอกาสของ ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่คาดว่ายังคงมีความต้องการจากผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณา หน่วยเหลือขายสะสมในแต่ละพื้นที่ควบคู่ไปด้วย • บ้านเดี่ยวบ้านแฝดระดับราคาปานกลาง-บน มีแนวโน้มแข่งขัน กันเข้มข้นมากขึ้น การเลือกเปิดโครงการในพื้นที่ที่มีความหนาแน่น ของโครงการใหม่สูง หรือพื้นที่ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของหน่วย เหลือขายสะสมสูง ควรพิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้น • ผู้ประกอบการยังจาเป็นต้องให้ความสาคัญกับการบริหารจัดการ ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการลดต้นทุนการก่อสร้าง ที่ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง โดยการนาเทคโนโลยีมาช่วยในด้าน การก่อสร้าง รวมถึงสร้างความร่วมมือกับผู้รับเหมา ในการจัดหา วัสดุก่อสร้าง และแรงงาน เป็นต้น • ESG จะเข้ามามีบทบาทในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยมากขึ้น ผู้ประกอบการควรปรับตัวทั้งในด้านกระบวนการก่อสร้างที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีส่วนช่วยให้ผู้อยู่ อาศัยประหยัดพลังงานมากขึ้น
  • 6.
  • 7.
    7 SCB EIC Industryinsight : Real estate แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยปี 2023 ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นปีที่ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยคาดว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์และมูลค่า โอนกรรมสิทธิ์ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเป็นการขยายตัวจากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด นอกจากนั้น คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์ในกลุ่มมือสอง และกลุ่มราคาต่าโดยเฉพาะคอนโด จะยัง ได้รับความนิยมต่อเนื่องในช่วงที่กาลังซื้อยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มราคาปานกลางโดยเฉพาะคอนโดและทาวน์เฮาส์จะฟื้นตัวได้มากขึ้น ส่วนกลุ่มราคาสูงยังคงขยายตัวได้ดี จากความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่าเสมอ ส่งผลให้หน่วยขายได้และหน่วยเปิดใหม่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้าทั้งคู่ ตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด คาดว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแนวราบที่ยังสามารถขยายตัวได้ดีตั้งแต่ช่วง COVID-19 จนถึง ปีที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มคอนโดคาดว่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า หลังจากชะลอตัวต่อเนื่องในช่วง COVID-19 จากแรงสนับสนุนของกาลังซื้อจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และจานวน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมามากขึ้น ที่จะช่วยกระตุ้นกาลังซื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะคอนโดในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ
  • 8.
    8 SCB EIC Industryinsight : Real estate อุปสงค์ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ความต้องการที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 2023 ตามภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อในประเทศและต่างประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันให้กาลังซื้อฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และทาให้อัตราการขยายตัวในด้านอุปสงค์ต่ากว่าในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้อุปสงค์ที่ยังอยู่ระหว่าง การฟื้นตัวทาให้กลุ่มที่อยู่อาศัยราคาต่า โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ จากปัจจัยด้านทาเลที่เดินทางได้สะดวก ใกล้เมือง แหล่งงาน สถานศึกษา รวมถึงห้างสรรพสินค้าและสิ่งอานวยความสะดวกอื่น ๆ มากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบในระดับราคาเดียวกัน ส่วนกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝดคาดว่าจะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากกาลังซื้อที่ยังคงสม่าเสมอ
  • 9.
    9 SCB EIC Industryinsight : Real estate หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัย หน่วย : พันหน่วย ยอดขายที่อยู่อาศัยในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ในอัตราที่ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยกาลังซื้อที่ยังอยู่ ระหว่างการฟื้นตัว จะทาให้คอนโดราคาต่ายังคงได้รับความสนใจเป็นหลัก ส่วนกลุ่มแนวราบขยายตัวได้ดีในกลุ่มบ้านเดี่ยว ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA 2022 : ขยายตัวได้ดีจากฐานที่ต่า และกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า รวมถึงกาลังซื้อจาก ต่างชาติที่เริ่มกลับมา ทาให้กลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงช่วงก่อนเกิด COVID-19 โดยมาจากการขยายตัวของกลุ่ม คอนโดราคาต่าเป็นหลัก ขณะที่กลุ่มแนวราบ บ้านเดี่ยวขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนทาวน์เฮาส์ชะลอตัวเล็กน้อย 2023 : คาดว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งคอนโดและแนวราบ – กาลังซื้อที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจะทาให้คอนโดราคาต่ายังคงได้รับความสนใจในกลุ่ม Real demand ส่วนกลุ่มกาลังซื้อเพื่อการลงทุนอาจได้รับผลกระทบจากการยกเลิกมาตรการผ่อนคลาย LTV ขณะที่คอนโด ราคาปานกลางขึ้นไปจะฟื้นตัวได้มากขึ้น – ตลาดแนวราบมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ทั้งจากการขยายตัวของตลาดบ้านเดี่ยว รวมถึงทาวน์เฮาส์ ที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า 54 2019 2022 29 4 11 21 2020 29 7 12 31 2021 7 15 25 51 2023F 6 13 11 75 2018 69 29 5 26 98 119 99 65 103 - 108 -35% +17% +30% +5% ถึง +10% BMR-SMD BMR-SDH BMR-TH BMR-CD หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัย หน่วย : พันหน่วย 2022 คอนโดขยายตัวทุกระดับราคาโดยเฉพาะกลุ่มราคาต่า ขณะที่แนวราบระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ขยายตัวได้ดีจากกลุ่มบ้านเดี่ยวเป็นหลัก ส่วนแนวราบราคาต่ากว่า 5 ล้านบาทส่วนใหญ่ชะลอตัวลงเล็กน้อย • บ้านเดี่ยว : ขยายตัวได้ดี ในกลุ่มราคาปานกลาง-บน ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป จากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ทางเศรษฐกิจไม่มากนัก รวมถึงกลุ่มราคามากกว่า 10 ล้านบาทยังขยายตัวได้มาก ส่งผลให้ ผู้ประกอบการมีแนวโน้มหันมาสนใจทาสินค้ากลุ่มนี้กันมากขึ้น • บ้านแฝด : มีเพียงกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาทที่ขยายตัวได้เล็กน้อย ขณะที่ระดับราคาอื่นชะลอตัวลง • ทาวน์เฮาส์ : ชะลอตัวลงโดยส่วนหนึ่งจากกลุ่มกาลังซื้อปานกลาง-ล่างหันไปสนใจคอนโดราคาต่ามากขึ้น • คอนโด : ขยายตัวมากจากฐานที่ต่า และขยายตัวทุกระดับราคา โดยเฉพาะกลุ่มราคาต่า 1-2 ล้านบาท และ 2-3 ล้านบาท ที่มีการเปิดตัวออกมามาก และได้รับความนิยมค่อนข้างมาก SDH TH CD 23% 29% 45% 2022 31% 2021 24% 44% 15 12 +23% 2022 28% 23% 17% 44% 28% 2021 49% 26 25 -7% 19% 17% 31% 5% 28% 12% 10% 2021 39% 3% 25% 2022 29 51 +76% 2022 2021 11% 9% 7 59% 29% 58% 24% 7 -5% SMD 1-2MB < 1MB 5-10MB 2-3MB 3-5MB > 10MB
  • 10.
    10 SCB EIC Industryinsight : Real estate หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รายเดือน หน่วย : พันหน่วย หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดที่คาดว่าจะกลับมาเปิดตัวมากขึ้นหลังจากหลายโครงการที่มีการเลื่อนการเปิดตัวออกไปในช่วงก่อนหน้า ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA 5 1 6 0 3 2 4 04/22 01/21 04/21 10/20 01/19 04/19 07/19 10/19 04/23 01/20 10/21 04/20 07/20 07/21 10/22 01/22 07/22 01/23 0.5 Avg 2015-19 = 3.5 หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : พันหน่วย 6 2 9 5 2020 1 2 8 2019 2021 21 6 5 25 2022 3 1 1 1 19 2 29 16 35 -34% -16% +120% SMD SDH TH Condo 4 11 4M22 4M23 14 5 2 -66% อัตราการขายได้ในเดือนแรกของที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : % 15% 3% 20% 0 20 40 60 80 100 04/20 01/19 04/19 TH = 24% 07/19 10/19 01/20 07/20 10/20 01/21 04/21 SDH&SMD = 16% Condo = 48% 07/21 10/21 01/22 04/22 07/22 10/22 01/23 04/22 SDH&SMD Condo TH อัตราขายได้เฉลี่ย ปี 2015-2019 2020 2021 2022 19% 19% 20% 21% 21% 19% 38% 38% 46% อัตราขายได้เฉลี่ย 2022 : หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ขยายตัวได้มากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากฐานที่ต่า รวมถึงการเปิดโครงการที่มากขึ้น และ การตอบรับที่ดีในกลุ่มคอนโดราคาต่ากว่า 3 ล้านบาท ทาให้อัตราการขายได้เดือนแรกของคอนโดอยู่ในอัตราที่สูงมากในช่วงครึ่งแรก ของปี ขณะที่อัตราการขายได้เดือนแรกของแนวราบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปียังมีทิศทางที่ชะลอตัวลง 2023 : หน่วยขายได้ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ตามการขยายตัวของการเปิดตัวโครงการใหม่ และได้รับความสนใจ จากผู้ซื้อมากขึ้น โดยคาดว่าการขยายตัวจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ – สัดส่วนหลักน่าจะยังมาจากกลุ่มคอนโด โดยเฉพาะคอนโดราคาต่ากว่า 3 ล้านบาท รวมถึงคอนโดระดับราคาปานกลางบางส่วนที่ คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้น ทาให้อัตราการขายได้เดือนแรกของกลุ่มคอนโดจะยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูงและสูงกว่าของกลุ่มแนวราบ – อัตราการขายได้เดือนแรกของกลุ่มแนวราบจะฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝด ที่ยังมี Demand จากผู้มีกาลัง ซื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มทาวน์เฮาส์อาจยังฟื้นตัวได้น้อยกว่า
  • 11.
    11 SCB EIC Industryinsight : Real estate คาดปี 2023 การโอนกรรมสิทธิ์ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ ต่างจังหวัด ตามกาลังซื้อที่ฟื้นตัว แต่ยังต้องเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่คาดว่ายังอยู่ในระดับสูง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย หน่วย : พันหน่วย มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย หน่วย : พันล้านบาท 2022 : ฟื้นตัวได้ดี ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดหลัง ชะลอตัวในปีก่อนหน้า – กรุงเทพฯ-ปริมณฑล : การโอนขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากการโอน ในกลุ่มมือสอง และกลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝด ขณะที่การโอนคอนโด มือหนึ่งกลับมาฟื้นตัวได้มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ส่วนทาวน์เฮาส์ มือหนึ่งยังชะลอตัว – ต่างจังหวัด : การโอนขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง จาก Real demand ในกลุ่มแนวราบ รวมถึงการโอนคอนโดกลับมาขยายตัว ได้จากฐานที่ต่า โดยได้แรงหนุนจากการโอนคอนโดของ ชาวต่างชาติช่วงครึ่งหลังของปี 2023 : การโอนกรรมสิทธิ์มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในลักษณะ ค่อยเป็นค่อยไป ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด จากกาลังซื้อที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้น – กลุ่มบ้านเดี่ยวบ้านแฝดยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ทั้งในด้านหน่วย และมูลค่าโอน ส่วนกลุ่มทาวน์เฮาส์และกลุ่มคอนโดมีแนวโน้ม ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมือหนึ่ง – ตลาดต่างจังหวัด คอนโดมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้นต่อเนื่องจากปี ก่อนหน้า แต่ยังต้องติดตามหน่วยเหลือขายสะสมในบางจังหวัด ที่ยังสูง ส่วนกลุ่มแนวราบยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง – การโอนที่อยู่อาศัยมือสองคาดว่ายังขยายตัวได้ดี Upcountry BMR-Others BMR-SDH BMR-TH BMR-SMD BMR-Condo 374 2019 7% 2% 393 15% 2020 26% 8% 51% 3% 2% 2021 47% 50% 8% 2% 15% 21% 2022 7% 26% 2023F 397 - 418 20% 16% 47% 15% 392 344 -8% +14% +1% ถึง +6% ปัจจัยลบ ▪ ภาวะเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง กดดันการฟื้นตัว ของกาลังซื้อให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ▪ ต้นทุนการก่อสร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากทั้งราคาที่ดิน รวมถึงค่าแรงที่มีแนวโน้มปรับขึ้น ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้าง อย่าง เหล็ก และปูนซีเมนต์ ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยที่ทาให้ราคา ที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น ▪ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% 931 2019 38% 3% 38% 13% 27% 2020 19% 4% 3% 2021 13% 13% 22% 20% 4% 2022 16% 953 34% 29% 2023F 22% 1,065 35% 13% 944 1,086 - 1,139 -1% +13% +2% ถึง +7% ปัจจัยบวก ▪ ภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น จากปีก่อนหน้า แต่ยังเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ▪ การเปิดประเทศจีน และการฟื้นตัวของกาลังซื้อจากต่างชาติ ▪ การกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ทาให้กาลังซื้อ ในต่างจังหวัดฟื้นตัวดีขึ้น ▪ การลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ
  • 12.
    12 SCB EIC Industryinsight : Real estate หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองเร่งตัวขึ้นมากตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 ทั้งแนวราบ และคอนโด ขณะที่หน่วย โอนกรรมสิทธิ์มือหนึ่งกลุ่มทาวน์เฮาส์ และคอนโดยังคงอยู่ในระดับที่ต่ากว่าค่าเฉลี่ยช่วงก่อนเกิด COVID-19 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือหนึ่ง-มือสองใน BMR หน่วย : พันหน่วย Townhouse SDH&SMD 4 5 0 1 3 2 6 7 8 9 10 Q1/21 Q1/18 Q1/19 Q1/22 Q1/20 7.5 7.1 Q1/23 5.5 6.9 4 0 1 2 3 6 8 5 7 9 10 Q1/22 Q1/23 Q1/18 Q1/19 Q1/20 Q1/21 4.5 3.9 4.7 4.2 15.0 0.0 2.5 12.5 5.0 10.0 7.5 22.5 17.5 20.0 25.0 27.5 10 Q1/18 Q1/19 Q1/20 Q1/21 Q1/22 17 5 Q1/23 7 นิติบุคคล (มือหนึ่ง) บุคคลธรรมดา (มือสอง) ค่าเฉลี่ยปี 2015-19 ค่าเฉลี่ยปี 2015-19 ค่าเฉลี่ยปี 2015-19 ค่าเฉลี่ยปี 2015-19 ค่าเฉลี่ยปี 2015-19 ค่าเฉลี่ยปี 2015-19 จากสถานการณ์ของกาลังซื้อปัจจุบันที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ทาให้ที่อยู่อาศัยมือสอง โดยเฉพาะกลุ่มที่ราคาไม่สูงนัก กลายเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับที่อยู่อาศัยมือหนึ่งที่มีบริบท เชิงพื้นที่ และทาเลที่ตั้งที่ใกล้เคียงกัน Condo
  • 13.
    13 SCB EIC Industryinsight : Real estate คาดปี 2023 การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติมีโอกาสขยายตัวได้มากขึ้น จากการกลับมาเปิดประเทศของจีน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กาลังเกิดขึ้นในหลายภูมิภาค เช่น ยุโรป และอเมริกา ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติ รายเดือน หน่วย : พันล้านบาท สัดส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คอนโด แบ่งตามสัญชาติ หน่วย : % 0 2 4 8 6 2.1 01/19 07/19 01/21 04/22 04/19 10/19 01/20 04/20 07/20 10/20 07/22 04/21 2.8 10/22 07/21 10/21 01/22 01/23 02/23 BMR Upcountry มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติ หน่วย : พันล้านบาท (%YOY) 2022 2M23 BMR +42% +49% Upcountry +71% +121% สัดส่วนต่อ มูลค่าโอน คอนโดทั้ง ประเทศ 15% 12% 16% 26% 21% 23% 25% 2020 67% 33% 75% 2019 77% 2021 71% 29% 2022 50.6 37.7 39.7 59.3 -25% +5% +49% BMR Upcountry 21% 59% 68% 2M23 32% 41% 2M22 5.9 10.1 +72% 17% 22% 27% 61% 58% 50% 2022 5% 3% 2020 2021 2% Germany China+HK Russia UK France Japan US Singapore Taiwan Others ล้านบาท 2021 2022 %YOY China + HK 23,097 29,439 +28% Russia 899 2,682 +198% UK 1,253 1,802 +45% France 990 1,912 +93% Germany 996 1,123 +13% US 1,300 2,389 +84% Singapore 905 1,022 +13% Japan 740 916 +24% Taiwan 779 1,704 +119% Others 8,768 16,254 +85% รวม 39,727 59,261 +49% 2022 : การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี หลังการเปิด ประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ขยายตัวได้มากหลังซบเซามาตลอดในช่วง COVID-19 ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลก็ขยายตัวได้ดีเช่นกัน ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าการโอนคอนโดของชาวต่างชาติ ต่อการโอนคอนโดทั้ง ประเทศในปี 2022 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต 2023 : คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติมีโอกาสขยายตัวได้มากขึ้น จากการกลับมาเปิดประเทศของจีน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลให้กาลังซื้อชาวต่างชาติในบางประเทศกลับมาชะลอตัว – Q1/23 → กลุ่มคนจีนที่มีกาลังซื้อสูง และไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ กลับเข้ามาทาธุรกิจและธุรกรรมได้ตามปกติ หนุนให้การ โอนคอนโดของชาวต่างชาติขยายตัวต่อเนื่อง โดย Segment ที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ คอนโดราคาปานกลาง-สูง ในกรุงเทพฯ ชั้นใน และชั้นกลาง รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยว – ช่วงที่เหลือของปี 2023 → คอนโดให้เช่าสาหรับนักท่องเที่ยว จะได้รับอานิสงส์จากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกาลังซื้อปานกลาง ลงมาที่จะกลับเข้ามามากขึ้น โดย Segment ที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ คอนโดให้เช่าสาหรับนักท่องเที่ยว ในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี และเชียงใหม่
  • 14.
    14 SCB EIC Industryinsight : Real estate อุปทานตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล การเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด ตามแผนการเปิดโครงการของผู้ประกอบการ แต่อัตราการ ขยายตัวมีแนวโน้มลดลง หลังจากปีก่อนหน้ากลับมาขยายตัวในอัตราที่สูงมาก โดยคอนโดราคาต่าไม่เกิน 3 ล้านบาทยังมีแนวโน้มเปิดตัวต่อเนื่องเนื่องจากยังคงเป็นที่ต้องการ ของผู้ซื้อ ส่วนคอนโดระดับราคาปานกลางขึ้นไปมีแนวโน้มเปิดตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในอัตราที่ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ผู้ประกอบการค่อนข้างระมัดระวังการเปิดโครงการ ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มแนวราบระดับราคาปานกลางขึ้นไปจะยังขยายตัวได้ดี อย่างไรก็ตาม จานวนหน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมที่กลับมาเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดในปีที่ผ่านมา ทาให้ต้องกลับมาติดตามสถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสมที่มีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มทาวน์เฮาส์ที่มีอัตราการขายได้ต่ากว่ากลุ่มอื่น รวมถึงกลุ่มคอนโด ที่แม้จะเพิ่มขึ้นไม่มากนักแต่ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้น ปัจจัยด้านต้นทุน การก่อสร้างที่คาดว่ายังอยู่ในระดับสูง ทั้งวัสดุก่อสร้าง แรงงาน และที่ดิน รวมถึงการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดแนวราบ จะยังเป็นปัจจัยท้าทายสาคัญสาหรับผู้ประกอบการ
  • 15.
    15 SCB EIC Industryinsight : Real estate หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รายเดือน หน่วย : พันหน่วย หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แบ่งตามระดับราคา หน่วย : พันหน่วย หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : พันหน่วย 15 0 10 5 20 04/19 01/19 07/19 10/19 01/20 04/20 07/20 10/20 01/21 01/23 04/21 07/21 10/21 01/22 04/22 07/22 2.0 10/22 3.9 1.9 04/23 Total Condo Low-rise Avg total 2015-19 = 9.3 66% 12% 33% 16% 60% 4M22 4M23 3.0 7% 2.7 +8% 30% 4% 62% 63% 4M22 9% 23% 4M23 6.8 6.5 -4% 55% 14% 47% 22% 19% 4M22 8% 29% 1% 4M23 19.1 13.8 -28% 2-3 MB >10 MB 5-10 MB 1-2 MB 3-5 MB <1 MB 30% 22% 4M23 68% 2% 69% 4M22 2% 1.7 2.6 +53% 2022 : หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ขยายตัวได้มากจากฐานที่ต่า และการเปิดโครงการคอนโดที่เร่งตัวขึ้นมาก โดยเฉพาะคอนโดราคา ไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนคอนโดระดับปานกลางขึ้นไปมีสัญญาณการทยอยเปิดตัวมากขึ้น ขณะที่การเปิดโครงการแนวราบกลับมา ขยายตัวได้มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวราคาปานกลาง-บน 2023 : หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งแนวราบและคอนโด ตามแผนการเปิดตัวของผู้ประกอบการ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจและกาลังซื้อที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยอัตราการขยายตัวจะลดลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวมากจากฐานที่ต่า อย่างไรก็ตาม ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ยังอยู่ในระดับสูง หน่วยเหลือขายสะสมที่กลับมาเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาด และการแข่งขันที่ยังคงเข้มข้น ในหลายทาเล ทาให้ผู้ประกอบการยังคงต้องพิจารณาการเปิดโครงการอย่างรอบคอบ – ที่อยู่อาศัยระดับราคาต่า โดยเฉพาะคอนโดจะยังเปิดตัวอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากตอบโจทย์กาลังซื้อปานกลาง-ล่าง ที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวได้ดี ส่วนกลุ่มทาวน์เฮาส์คาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า – ที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลาง มีแนวโน้มถูกเปิดตัวออกมามากขึ้นทุกประเภทที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว และคอนโด ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น และกาลังซื้อจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัว โดยเฉพาะกาลังซื้อจากจีน – ที่อยู่อาศัยระดับราคาสูง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวบ้านแฝดจะถูกเปิดตัวออกมามากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่กาลังซื้อมีความแข็งแกร่ง และสม่าเสมอตลอดช่วงที่ผ่านมา ส่วนคอนโดคาดว่าจะมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย SDH TH CD SMD 26 2020 8 23 17 2021 8 28 2019 54 2023F 2022 106 29 7 66 8 13 32 10 23 118 73 60 5 -38% -18% +78% +5% ถึง +10% SDH SMD TH Condo 7 2 3 7 3 3 19 4M22 14 4M23 26 30 -15% 112 - 117
  • 16.
    16 SCB EIC Industryinsight : Real estate ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA แม้ว่ายอดขายจะฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า แต่คาดว่ายังอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าการเปิดโครงการใหม่ ส่งผลให้ที่อยู่ อาศัยเหลือขายสะสมในปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคอนโด หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : พันหน่วย หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แบ่งตามระดับราคา หน่วย : พันหน่วย 2022 : หน่วยเหลือขายสะสมกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น จากกลุ่มแนวราบเป็นหลัก โดย ผู้ประกอบการกลับมาเร่งเปิดโครงการใหม่มากขึ้น ในขณะที่กาลังซื้อยังเพิ่งเริ่มฟื้นตัวในอัตรา ที่น้อยกว่าการเปิดโครงการใหม่ 2023 : หน่วยเหลือขายสะสมมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จากการเปิดโครงการใหม่ที่คาดว่ายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กาลังซื้อที่แม้จะฟื้นตัวได้ มากขึ้นจากปีก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าการเปิดโครงการใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโด ที่คาดว่าจานวนหน่วยเหลือขายอาจเริ่มเร่งตัวมากขึ้น 38 35 221 - 232 2020 94 14 72 2018 91 75 37 2019 20 85 195 17 2021 86 75 19 2022 35 2023F 16 215 82 207 67 63 214 222 33 +4% -7% +4% +3% ถึง +8% Condo TH SDH SMD 7% 40% 35% 2021 54 40% 11% 5% 15% 44% 2022 50 +8% 75 72 24% 49% 23% 3% 2021 51% 19% 26% 3% 2022 +5% SDH&SMD 85 7% 29% 8% 30% 17% 29% 5% 12% 86 2021 30% 19% 10% 5% 2022 +0.4% TH CD <1 MB 1-2 MB 5-10 MB 2-3 MB 3-5 MB >10 MB 2022 : หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกลุ่มแนวราบเป็นหลัก • บ้านเดี่ยวบ้านแฝด : หน่วยเหลือขายสะสมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม 5-10 ล้านบาท และ 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่แม้หน่วยขายได้จะขยายตัวได้ค่อนข้างดี แต่หน่วยเปิดใหม่ก็เร่งตัวขึ้นมากเช่นกัน • ทาวน์เฮาส์ : หน่วยเหลือขายสะสมปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่ออกมามากขึ้นจากปีก่อนหน้า แต่ผู้ซื้อบางส่วนหันไปสนใจคอนโดราคาต่ามากกว่า • คอนโด : หน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ออกมาจานวนมาก แต่ได้รับผลตอบรับที่ดี ประกอบกับการระบายสต็อกโครงการเก่าที่เหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยเหลือขายสะสมคอนโดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่ม ปานกลาง-ล่าง 1-5 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่มีการเปิดตัวออกมามากกว่าระดับราคาอื่น
  • 17.
    17 SCB EIC Industryinsight : Real estate ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลปี 2022 ขยายตัวค่อนข้างมาก ขณะที่การออก ใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดเริ่มกลับมาฟื้นตัว สาหรับปี 2023 ที่อยู่อาศัยเหลือขายสะสมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอาจทาให้การ ขอใบอนุญาตก่อสร้างชะลอลงจากปีก่อนหน้า การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : หน่วย 7,023 38,232 36,851 39,805 18,942 21,788 20,727 67,372 56,911 61,205 0 10,000 20,000 30,000 40,000 50,000 60,000 70,000 80,000 2018 2019 2020 2021 2022 65,403 5,212 43,218 45,268 5,383 5,385 4,471 15,589 16,015 73,018 บ้านแฝด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ รวม การออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : จานวนอาคาร 219 196 172 167 171 0 50 100 150 200 250 2018 2019 2020 2021 2022
  • 18.
    18 SCB EIC Industryinsight : Real estate ตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยกาลังซื้อในประเทศยังคงหนุนตลาดแนวราบให้เติบโตต่อเนื่อง ส่วนแรงหนุนจากการกลับมาของกาลังซื้อ ต่างชาติ และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ ขยายตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคอนโดที่คาดว่าจะทยอย ฟื้นตัวได้มากขึ้นจากช่วง COVID-19 อย่างไรก็ตาม จานวนหน่วยเหลือขายสะสมของตลาดคอนโดในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญที่ยังไม่ลดลงมากนักในช่วงที่ผ่านมา อาจทาให้การโอน โครงการคอนโดใหม่ในต่างจังหวัดมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • 19.
    19 SCB EIC Industryinsight : Real estate สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดหลักในปี 2022 ขยายตัวได้ดีจากกลุ่มแนวราบเป็นหลัก ขณะที่คอนโดก็มีแนวโน้มฟื้นตัว ดีขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ โดยในปี 2023 คาดว่าจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องในอัตราที่ค่อยเป็นค่อยไป สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดหลัก หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท 2019 9.3 27.1 2022 25.1 2020 28.1 32.9 2021 4.0 8.2 3.1 10.1 2.2 11.2 2.9 จานวนหน่วย แนวราบ จานวนหน่วย คอนโด มูลค่า เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น ภูเก็ต 69.1 12.7 69.1 75.3 2019 2021 83.8 2020 2022 9.0 22.5 19.3 10.0 19.7 22.5 11.3 2020 28.8 24.4 18.4 11.2 2019 2021 26.1 2022 11.1 0.7 0.8 11.4 1.0 12.2 1.2 8.3 14.5 2020 19.3 2019 17.3 2021 1.2 19.1 7.6 2022 1.0 7.2 7.6 1.2 0.9 2021 6.2 9.9 2019 15.2 0.5 11.6 0.3 2020 13.1 2022 5.8 0.5 5.9 7.3 0.5 2020 2022 17.5 24.3 2019 2021 5.3 20.2 24.0 2.8 3.1 2.3 3.5 1.8 4.6 2.3 2022 %YOY เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น ภูเก็ต หน่วยโอน +15% +18% +9% +4% +18% +31% มูลค่าโอน +17% +21% +11% +2% +16% +19% ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC
  • 20.
    20 SCB EIC Industryinsight : Real estate 2022 %YOY เชียงราย อยุธยา พิษณุโลก อุดรธานี ประจวบ สงขลา หน่วยโอน +17% +28% +15% +16% +14% +11% มูลค่าโอน +8% +31% +17% +18% +16% +7% สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดรองในปี 2022 ขยายตัวได้ดีจากกลุ่มแนวราบ ส่วนกลุ่มคอนโดเริ่มทรงตัวได้มากขึ้น คาดว่าปี 2023 จะขยายตัวได้ต่อเนื่องเช่นเดียวกันในอัตราที่ใกล้เคียงกับจังหวัดหลัก จากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Real demand สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดรอง หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท จานวนหน่วย แนวราบ จานวนหน่วย คอนโด มูลค่า ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC 6.0 0.4 2019 2020 2022 7.3 6.8 5.6 2021 3.9 3.3 3.1 0.1 3.3 0.1 0.1 เชียงราย พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา 12.7 6.0 2020 6.7 10.2 2021 2019 0.5 9.3 2022 9.7 4.6 0.5 4.7 0.9 0.5 4.6 3.9 0.1 5.4 2019 2020 4.3 2021 2022 2.5 2.2 0.2 0.2 2.3 2.7 0.1 2021 5.1 5.5 3.2 2019 2.9 5.3 2022 2020 6.4 2.9 0.2 0.2 2.8 0.1 0.2 2022 10.5 7.5 12.2 2019 10.9 2021 2.6 2020 1.0 2.7 1.3 2.8 0.9 3.0 1.2 12.1 14.4 2019 2021 2022 15.4 13.5 2020 5.4 1.0 5.9 0.8 5.9 0.7 6.8 0.5
  • 21.
    21 SCB EIC Industryinsight : Real estate 2022 %YOY เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง โคราช ขอนแก่น ภูเก็ต หน่วยแนวราบ +64% +46% -36% +42% +61% +96% หน่วยคอนโด +419% +32% -57% +314% n/a -20% หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในจังหวัดหลักปี 2022 กลับมาฟื้นตัวเกือบทุกจังหวัด จากกาลังซื้อที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัด ท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ และชลบุรี ที่ฟื้นตัวได้ดี ขณะที่ระยองเริ่มชะลอตัว หลังจากเป็นจังหวัดเดียวที่ฟื้นตัวได้ในปี 2021 ที่ผ่านมา สถานการณ์ที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ใน 6 จังหวัดหลัก หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท จานวนหน่วย แนวราบ จานวนหน่วย คอนโด มูลค่า ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC 12.8 0.8 2022 0.2 5.3 8.0 9.2 2.1 2020 2019 0.8 2021 2.1 1.7 1.2 1.3 15.8 63.2 2020 2019 38.6 2021 31.4 3.3 2022 7.2 10.1 2.5 4.4 5.7 3.8 5.5 16.1 0.5 20.5 11.4 2019 10.7 2022 2021 2020 7.4 1.2 4.1 0.4 4.2 1.2 2.7 3.0 5.3 1.2 7.4 2019 2021 2020 6.1 2022 2.0 0.2 0.9 1.0 0.6 0.1 0.3 1.4 2.7 4.3 2022 2019 2020 2021 2.1 0.7 4.1 0.4 0.8 0.2 0.5 0.0 1.2 2021 19.8 2019 9.5 2020 3.1 6.2 2022 0.9 3.1 1.0 0.7 0.3 0.4 0.6 0.4 ชลบุรี ระยอง ขอนแก่น ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา
  • 22.
  • 23.
    23 SCB EIC Industryinsight : Real estate ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจ และกาลังซื้อที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น แต่ภาวะเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือนยังเป็นปัจจัยกดดันสาคัญ ทาให้อัตราการขยายตัวจะลดลงจากปีก่อนหน้า และเป็นไป อย่างค่อยเป็นค่อยไป ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC และ AREA ภาพรวมภาวะตลาด BMR ▪ ตลาดที่อยู่อาศัยใน BMR ปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราที่ลดลง จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นปีที่ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยคาดว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ จะขยายตัวได้ราว +0% ถึง +5%YOY ส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์จะขยายตัวราว +2% ถึง +7%YOY โดยเป็นการขยายตัวจากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด นอกจากนั้น คาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์ในกลุ่มมือสอง และกลุ่มราคาต่าโดยเฉพาะคอนโด จะยัง ได้รับความนิยมต่อเนื่องในช่วงที่กาลังซื้อยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มราคา ปานกลางโดยเฉพาะคอนโดและทาวน์เฮาส์จะฟื้นตัวได้มากขึ้น ส่วนกลุ่มราคาสูง ยังคงขยายตัวได้ดีจากความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่าเสมอ ส่งผลให้หน่วยขายได้มี แนวโน้มขยายตัวราว +5% ถึง +10%YOY ส่วนหน่วยเปิดใหม่จะขยายตัวราว +1% ถึง +6%YOY ▪ อัตราดูดซับของตลาด BMR ในปี 2023 คาดว่าจะทรงตัว อยู่ที่ราว 31%-32% ใกล้เคียงกับในปีก่อนหน้า จากเศรษฐกิจและกาลังซื้อทั้งในและต่างประเทศที่มี แนวโน้มฟื้นตัวมากขึ้น แต่ยังต้องติดตามภาวะเงินเฟ้อและหนี้ครัวเรือนที่ยังเป็น ปัจจัยกดดันสาคัญ รวมถึงแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประเด็นที่ต้องติดตาม ▪ ความเสี่ยง Oversupply ในระยะกลาง หลังจานวนหน่วยเหลือขายสะสมในปีที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด จากอุปทานที่เร่งตัวขึ้นมากกว่าอุปสงค์ค่อนข้างมาก จากทั้งกลุ่มแนวราบและคอนโด โดยในกลุ่มคอนโดที่แม้หน่วยขายได้จะเร่งตัวขึ้นมาก ในปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความเสี่ยงในกรณีที่สถาบัน การเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 1- 2 ปีข้างหน้าที่จะทาให้หน่วยเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในระยะต่อไปอีก ด้วย มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน BMR หน่วย : พันล้านบาท 2019 127 261 2020 215 37 183 2022 127 27 2021 141 234 612 2023F 153 31 125 41 270 168 616 584 662 675 - 705 210 -5% +13% +2% ถึง +7% BMR-Other BMR-CD BMR-TH BMR-SDH BMR-SMD หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน BMR หน่วย : พันหน่วย 195 28 56 2020 9 28 53 70 206 2021 8 33 167 60 84 2022 10 2023F 28 7 99 60 2019 102 197 195 - 205 -15% +16% +0% ถึง +5% หน่วยขายได้และหน่วยเปิดใหม่ ใน BMR หน่วย : พันล้านบาท 50 100 150 0 2023F 2019 2021 2025F New launch Sold
  • 24.
    24 SCB EIC Industryinsight : Real estate ตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มกาลังซื้อปานกลาง-บน โดยกลุ่มกาลังซื้อระดับปานกลางฟื้นตัวได้มาก ประกอบกับกลุ่มระดับบนที่กาลังซื้อมีอยู่อย่างสม่าเสมอ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA ภาพรวมภาวะตลาดบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ▪ ตลาดบ้านเดี่ยวปี 2023 ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านหน่วยขายได้ และการโอนกรรมสิทธิ์ สะท้อนกาลังซื้อระดับปานกลาง-บนที่ยังขยายตัว อย่างไรก็ดี อัตราการขยายตัวของตลาดบ้านเดี่ยวปี 2023 มีแนวโน้มลดลงหลังจากเร่งตัวขึ้นมากในปีก่อนหน้า อุปสงค์ในกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงก็ยังมีอยู่อย่างสม่าเสมอ ส่งผลให้ตลาดบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ระดับราคา ปานกลาง-บนตั้งแต่ราว 7-8 ล้านบาท ไปจนถึง 20-30 ล้านบาทในทาเลกรุงเทพฯ รอบนอก และชานเมือง จะยังขยายตัวได้ดี ตลาดระดับบนกลุ่ม Luxury–ultra และ Luxury จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการมากขึ้น จากผลตอบรับ ที่ดีตลอดช่วงที่ผ่านมา และเป็น Segment ที่ยังสามารถรักษาระดับอัตรากาไรได้ดีกว่าที่อยู่อาศัยทั่วไป ในภาวะที่ต้นทุนก่อสร้างยังคงอยู่ในระดับสูง ▪ ตลาดบ้านแฝดปี 2023 ยังเติบโตได้เช่นกัน แต่คาดว่าอัตราการขยายตัวจะต่ากว่าของกลุ่มบ้านเดี่ยว เนื่องจากกลุ่มบ้านเดี่ยวในระดับราคาปานกลาง 5-10 ล้านบาทที่มีความได้เปรียบด้านพื้นที่บ้าน และพื้นที่ ใช้สอยเข้ามาเป็นคู่แข่งมากขึ้น ส่วนบ้านแฝดระดับราคา 2-5 ล้านบาทคาดว่ายังคงเติบโตอย่างค่อยเป็น ค่อยไป ในฐานะอีกตัวเลือกหนึ่งของตลาดที่อยู่อาศัยระดับปานกลาง-ล่าง ที่มีจุดเด่นด้านพื้นที่ใช้สอย ที่มากกว่าทาวน์เฮาส์ แต่อาจอยู่ในทาเลที่ไกลเมืองมากกว่า ประเด็นที่ต้องติดตาม ▪ ต้นทุนราคาที่ดินที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นปัจจัยสาคัญต่อการพัฒนาตลาดบ้านเดี่ยว บ้านแฝดในระยะต่อไป ทั้งการปรับขึ้นราคา ขนาดของโครงการที่อาจเล็กลง หรือพื้นที่ส่วนกลางที่อาจลดลง ▪ หน่วยเหลือขายสะสมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น แม้จานวนหน่วยทั้งหมด ยังน้อยกว่าประเภทอื่น แต่ต้องเริ่มจับตามากขึ้น หน่วยขายได้โครงการ SDH และ SMD ใน BMR หน่วย : พันหน่วย 10.7 2019 17% 1% 49% 17% 2% 29% 45% 2% 2021 14.7 2% 23% 11.9 11.0 44% 2023F 31% 2022 2020 39% 33% 41% 15.3 - 16.0 24% +12% +23% +4% ถึง +9% > 10MB 5-10MB 3-5MB 2-3MB 14% 2% 20% 2% 2020 2023F 11% 4.6 29% 2021 24% 3% 9% 3% 2019 2022 6.6 58% 62% 13% 15% 7.0 65% 4.3 6.6 - 6.9 59% +60% -5% +0% ถึง +5% SDH SMD
  • 25.
    25 SCB EIC Industryinsight : Real estate ตลาดทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กลุ่มมือสองยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปัจจัยด้านราคาที่ต่ากว่ามือหนึ่ง ส่วนในกลุ่มมือหนึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้น ทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ หน่วยเหลือขายสะสมในระยะต่อไป ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทาวน์เฮาส์ ใน BMR แยกประเภทมือหนึ่ง-มือสอง หน่วย : พันหน่วย ภาพรวมภาวะตลาดทาวน์เฮาส์ ▪ ตลาดทาวน์เฮาส์ปี 2023 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยคาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์จะ ขยายตัวได้ต่อเนื่องราว+1% ถึง+6%YOY หลังจากปีที่ผ่านมากลับมาฟื้นตัวได้ดี แต่ก็คาดว่าการโอนส่วนใหญ่ จะยังมาจากกลุ่มมือสองเป็นหลักต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ความนิยมคอนโดราคาต่าที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงที่กาลังซื้อยังเปราะบาง สะท้อนว่ากาลังซื้อระดับปานกลาง-ล่างส่วนใหญ่ให้ความสาคัญกับความ สะดวก ความประหยัดด้านการเดินทาง และความใกล้เมืองของคอนโดมากกว่าการเลือกซื้อทาวน์เฮาส์ ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านพื้นที่ใช้สอยขณะที่กลุ่มที่เลือกซื้อทาวน์เฮาส์จานวนมากก็หันไปเลือกทาวน์เฮาส์มือสอง ที่มีราคาต่ากว่ามือหนึ่ง ส่งผลให้หน่วยขายได้ปี 2022 ชะลอตัวลงถึง -7%YOY อย่างไรก็ตาม คาดว่าหน่วย ขายได้ปี 2023 จะกลับมาฟื้นตัวได้ราว +0% ถึง +5%YOY ตามภาวะเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวได้มากขึ้น ▪ หน่วยเปิดใหม่ปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการขยายตัวจะ ลดลงจากปี 2022 ค่อนข้างมากมาอยู่ที่ราว +0% ถึง +5%YOY จากในปี 2022 ที่หน่วยเปิดใหม่ ขยายตัวได้มากถึง +20%YOY ซึ่งอุปสงค์ที่กลับมาชะลอตัวลง ทาให้การเปิดโครงการใหม่ในปี 2023 จะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก โดยเฉพาะกลุ่มราคาปานกลาง-ล่างไม่เกิน 3 ล้านบาทที่มีสัดส่วนกว่าราว 65%- 75% ของตลาดทาวน์เฮาส์ทั้งหมด โดยยังต้องติดตามอุปสงค์ของตลาดอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป ประเด็นที่ต้องติดตาม ▪ การปรับตัวของผู้ประกอบการในระยะสั้น ในช่วงที่ตลาดทาวน์เฮาส์ราคาปานกลาง-ล่างยังต้อง เผชิญกับการแข่งขันจากคอนโดราคาต่าอย่างต่อเนื่อง เมื่อปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอยเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้ประกอบการอาจต้องคานึงถึงปัจจัยด้านทาเลที่สะดวกต่อการเดินทาง ความใกล้เมือง และใกล้สิ่งอานวยความสะดวก อย่างห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาลมากขึ้น ส่วนพื้นที่ใช้สอยอาจต้องปรับลดเพื่อรักษาระดับราคา โดยอาจเพิ่มของแถมเฟอร์นิเจอร์ และการ ตกแต่งพร้อมอยู่ รวมถึงเทคโนโลยี เข้ามาทดแทนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 2021 49% 53% 53% 2022 2020 51% 53 2019 47% 47% 56% 44% 2023F 60 56 60 61 - 65 -4% +13% +1% ถึง +6% มือสอง มือหนึ่ง อัตราการขายได้เดือนแรกของทาวน์เฮาส์เปิดใหม่ เปรียบเทียบกับของคอนโดเปิดใหม่ใน BMR หน่วย : % 1-2 mb 0 20 40 60 80 Q1/21 Q2/21 8% Q2/22 Q3/21 Q4/21 Q3/22 Q1/22 20% Q4/22 CD TH 0 20 40 60 80 Q4/22 Q2/22 Q1/21 Q4/21 Q2/21 Q3/21 13% Q1/22 Q3/22 26% CD TH 2-3 mb 3-5 mb 0 20 40 60 80 Q2/22 17% Q4/21 Q1/21 Q2/21 Q3/21 Q1/22 Q3/22 39% Q4/22 TH CD
  • 26.
    26 SCB EIC Industryinsight : Real estate ตลาดคอนโดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวและกาลังซื้อต่างชาติ ที่กลับมามากขึ้น โดยด้านการโอนกรรมสิทธิ์มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนในด้านหน่วยขายได้ และหน่วยเปิดใหม่มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่มากกว่า ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC และ AREA ภาพรวมภาวะตลาดคอนโด ▪ ตลาดคอนโดปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราการขยายตัวที่ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยในปี 2022 ตลาดกลับมา ฟื้นตัวได้ค่อนข้างมากทั้งในด้านการขาย และการโอนจากการขายคอนโดราคาต่าโดยเฉพาะระดับราคาไม่เกิน3 ล้านบาท และการโอนในกลุ่มมือสองที่ฟื้นตัวได้กว่า +48%YOY ในปี 2023 คาดว่าคอนโดราคาต่าไม่เกิน3 ล้านบาทจะยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มกาลังซื้อระดับปานกลาง-ล่างอย่าง ต่อเนื่อง ทั้งมือหนึ่งและมือสองส่วนคอนโดราคาปานกลางตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปจะฟื้นตัวได้มากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงกาลังซื้อต่างชาติที่จะกลับมามากขึ้นโดยคาดว่าหน่วยขายได้จะขยายตัวต่อเนื่องราว +10% ถึง +15%YOY ในปี 2023 คาดว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ และมูลค่าโอนจะขยายตัวต่อเนื่องราว+0% ถึง +5%YOY และ +2% ถึง +7%YOY ตามลาดับ โดยการโอนในกลุ่มมือหนึ่งจะขยายตัวได้มากขึ้นจากการทยอยโอนโครงการที่เริ่มแล้วเสร็จ และโครงการ Ready to moveที่ผู้ประกอบการทยอยทาราคาโปรโมชั่นระบายสต็อกที่เหลืออยู่เพื่อปิดโครงการที่ค้างมานานอย่างไรก็ตาม ทั้งหน่วยโอน และมูลค่าโอนยังอยู่ในระดับต่ากว่าปี 2019 ▪ หน่วยเปิดใหม่ปี 2023 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ราว +12% ถึง +17%YOY หลังอุปสงค์กลับมาฟื้นตัวดีในปีที่ ผ่านมา โดยมาจากคอนโดราคาต่าเป็นหลัก และในปี 2023 นี้ คาดว่าอุปสงค์กลุ่มคอนโดระดับปานกลางจะฟื้นตัวดีขึ้น และกระตุ้นให้มีการเปิดโครงการในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ประเด็นที่ต้องติดตาม ▪ สถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสมที่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังลดลงตลอดช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา โดยในปีที่ ผ่านมาเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน ระยะต่อไป จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นมากกว่าอุปสงค์ รวมถึงความเสี่ยงจาก Cancellation rate ของโครงการราคาต่า ที่ขายออกไปเป็นจานวนมากในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับผลจากการยกเลิกการผ่อนคลาย LTV ก็จะมีส่วนกดดันให้ หน่วยเหลือขายสะสมกลับมาเพิ่มขึ้นเช่นกัน การโอนกรรมสิทธิ์คอนโด ใน BMR หน่วย : พันหน่วย, พันล้านบาท 84 - 88 2019 2023F 2021 2020 2022 234 102 270 99 261 70 210 84 239 - 250 +0% ถึง +5% +2% ถึง +7% หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์
  • 27.
    27 SCB EIC Industryinsight : Real estate ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มแนวราบจากกาลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวได้ มากขึ้น ขณะที่ตลาดคอนโดมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากขึ้น จากกาลังซื้อชาวต่างชาติ และนักลงทุน โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว สาคัญ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ REIC มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยต่างจังหวัด หน่วย : พันล้านบาท ภาพรวมภาวะตลาดต่างจังหวัด ▪ ตลาดต่างจังหวัดในปี 2023 ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งในด้านหน่วยโอน และมูลค่าโอน จากกาลังซื้อ ในประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแนวราบที่ยังสามารถขยายตัวได้ดีตั้งแต่ช่วง COVID-19 จนถึงปีที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มคอนโดคาดว่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า หลังจากชะลอตัว ต่อเนื่องในช่วง COVID-19 จากแรงสนับสนุนของกาลังซื้อจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และจานวน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมามากขึ้น ที่จะช่วยกระตุ้นกาลังซื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะคอนโด ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ อย่างไรก็ตาม จานวนหน่วยเหลือขายสะสมของตลาดคอนโด ในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญที่ยังไม่ลดลงมากนักในช่วงที่ผ่านมา อาจทาให้การโอนโครงการคอนโดใหม่ ในต่างจังหวัดมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ▪ การเปิดโครงการใหม่จะฟื้นตัวมากขึ้น หลังกาลังซื้อในประเทศในกลุ่มแนวราบยังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี ประกอบกับแนวโน้มการกลับมาของกาลังซื้อต่างชาติ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเพิ่มความมั่นใจ ให้ผู้ประกอบการกลับไปรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นในปี 2023 และมีสัญญาณของการเปิดโครงการใหม่ มากขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ประเด็นที่ต้องติดตาม ▪ ตลาดต่างจังหวัดกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง และการแข่งขันอาจเข้มข้นมากขึ้นในระยะต่อไป โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวสาคัญ อย่างภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ที่ทั้งตลาดแนวราบและคอนโดเริ่ม กลับมาดึงดูดกาลังซื้อ ทั้ง Real demand และเพื่อการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตลาดแนวราบ ในพื้นที่ท่องเที่ยวรองที่มีศักยภาพสูงอย่าง เขาใหญ่-วังน้าเขียว หรือหัวหิน นอกจากนั้น ยังมีตลาด แนวราบในจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นที่กาลังขยายตัวต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา อาทิ นครราชสีมา ขอนแก่น สงขลา และพิษณุโลก 2023F 2019 2022 2020 2021 319 337 360 403 415 - 434 +7% +12% +3% ถึง +8% 176 2019 2020 2021 2022 2023F 186 198 176 202 - 213 -0.1% +12% +2% ถึง +7% หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยต่างจังหวัด หน่วย : พันหน่วย
  • 28.
  • 29.
    29 SCB EIC Industryinsight : Real estate ประเด็นที่ต้องจับตาในระยะต่อไป การฟื้นตัวของกาลังซื้อ ที่ยังถูกกดดัน สถานการณ์ หน่วยเหลือขายสะสม ต้นทุนการพัฒนาโครงการ ที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับสูง Megatrend และ การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ 1 2 3 4
  • 30.
    30 SCB EIC Industryinsight : Real estate 10% 15% 20% 25% 30% 35% ยังไม่มีแผนก่อหนี้เพิ่ม มีโอกาสก่อหนี้เพิ่ม ยังไม่มีแผนก่อหนี้เพิ่ม มีโอกาสก่อหนี้เพิ่ม ปัจจุบันมีหนี้ในระบบ ปัจจุบันมีหนี้ในระบบ ปัจจุบันมีหนี้นอกระบบ ปัจจุบันมีหนี้นอกระบบ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ทยอยปรับลดลงบ้าง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยในระยะต่อไป ครัวเรือนที่มีหนี้นอกระบบ ยังน่าเป็นห่วงจากแนวโน้มก่อหนี้เพิ่มขึ้น ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย การฟื้นตัวของกาลังซื้อที่ยังถูกกดดัน สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ทยอยปรับลดลง แต่ยังอยู่ในระดับสูง หน่วย : %GDP 90.8 86.8 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 03/2007 02/2008 01/2009 12/2009 11/2010 10/2011 09/2012 08/2013 07/2014 06/2015 05/2016 04/2017 03/2018 02/2019 01/2020 12/2020 11/2021 ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ สถาบันรับฝากเงินอื่น ๆ สถาบันการเงินอื่น หนี้ครัวเรือน สัดส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่จะก่อหนี้เพิ่มใน 6 เดือนข้างหน้า (แบ่งตามแหล่งเงินกู้ใน ปัจจุบัน) หน่วย : % ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีหนี้นอกระบบ มีแนวโน้มที่จะกู้ยืมเพิ่มเติมมากกว่า • หากรายได้เพิ่มขึ้น โอกาสก่อหนี้นอกระบบจะลดลงอย่างมีนัยสาคัญ ส่วนหนึ่งเพราะรายได้เป็นหนึ่งใน ปัจจัยสาคัญของการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ • กลุ่มคนที่มีหนี้นอกระบบมีโอกาสก่อหนี้เพิ่มภายใน 6 เดือนข้างหน้า มากกว่ากลุ่มที่มีแค่หนี้ในระบบ อย่างมีนัยสาคัญ
  • 31.
    31 SCB EIC Industryinsight : Real estate สาเหตุของผู้ที่ยังไม่มีแผนซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากการมีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ยังมาจากการยังไม่พร้อมรับภาระหนี้ เพิ่ม รวมถึงยังมีความกังวลด้านภาระค่าใช้จ่าย และรายได้ที่ไม่แน่นอน ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลการสารวจ Residential real estate survey เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2023 จานวนผู้ตอบแบบสารวจ 2,313 คน การฟื้นตัวของกาลังซื้อที่ยังถูกกดดัน SCB EIC Residential real estate survey : สาเหตุที่ท่านยังไม่มีแผนซื้อที่อยู่อาศัย หน่วย : % ของผู้ตอบแบบสอบถาม SCB EIC Residential real estate survey : ท่านมีการซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัยในปี 2020-2022 หรือไม่ หน่วย : % ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ไม่ต้องการมีภาระหนี้ รายได้ลดลง / รายได้ไม่แน่นอน ไม่ต้องการมีภาระค่าใช้ จ่ายในการดูแล 43% มีภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่น 14% 10% 8% 6% • สาเหตุของผู้ที่ยังไม่มีแผนซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากการมีที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว รองลงมาส่วนใหญ่ยังมาจากการยังไม่พร้อมรับภาระหนี้เพิ่ม รวมถึงยังมีความกังวลด้านภาระค่าใช้จ่าย และรายได้ที่ไม่แน่นอน • โดยกลุ่มที่มีที่อยู่อาศัยอยู่แล้วส่วนใหญ่กว่า 3 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยปัจจุบันมาตั้งแต่ช่วงก่อนปี 2020 ที่ COVID-19 แพร่ระบาดรุนแรง 23% 77% ไม่มีการซื้อหรือสร้าง มีการซื้อหรือสร้าง
  • 32.
    32 SCB EIC Industryinsight : Real estate ปี 2023 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นท่ามกลางแรง กดดันด้านเงินเฟ้อ ประกอบกับต้นทุนการพัฒนาที่ยังอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับดัชนีราคาที่ดินที่คาดว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น หมายเหตุ : ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับปรุงคุณภาพดัชนีราคาที่อยู่อาศัย เพื่อให้สามารถสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดจากปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่คุณลักษณะของที่อยู่อาศัย อาทิ การเก็งกาไร ความต้องการที่แท้จริง มาตรการภาครัฐ ที่กระทบต่อราคาและการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อขจัดผลของการเปลี่ยนแปลงราคาที่เกิดจากปัจจัยลักษณะที่อยู่อาศัย โดยข้อมูลที่แสดงเป็นข้อมูลชุดใหม่ที่มีการปรับปรุงข้อมูลย้อนหลังเรียบร้อยแล้ว ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย และ REIC ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับสูง ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : %YOY ดัชนีราคาที่ดินในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : %YOY ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในภูมิภาค (ไม่รวมกรุงเทพฯ-ปริมณฑล) หน่วย : %YOY 5.8 4.6 0 -10 5 -5 10 15 20 01/16 07/16 01/17 07/17 01/18 07/18 01/19 01/23 07/19 01/20 07/20 01/21 07/21 07/22 01/22 03/23 7.0 SDH TH Condo %YOY 2016-2019 2021 2022 บ้านเดี่ยว 2.6% 1.8% 4.1% ทาวน์เฮาส์ 3.7% 2.5% 4.3% คอนโด 4.5% 5.2% 2.3% ที่ดิน 2.9% 8.1% 2.4% -2.1 -10 -5 10 0 5 20 15 01/21 01/17 01/22 07/19 01/16 01/19 07/16 07/17 01/18 07/18 07/22 01/20 07/20 07/21 01/23 03/23 กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 2022 : ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยทุกประเภท และดัชนีราคาที่ดิน ขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยของกลุ่มแนวราบ ขยายตัวในอัตราที่มากกว่ากลุ่มคอนโด ส่วนกลุ่มคอนโดเริ่มมีสัญญาณการปรับขึ้นราคามากขึ้นในช่วงปลายปี ขณะที่ราคา ที่ดินมีการชะลอตัวลงในช่วงปลายปีหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 : ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นท่ามกลางแรง กดดันด้านเงินเฟ้อ ประกอบกับต้นทุนการพัฒนาที่ยังอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับดัชนีราคาที่ดินที่คาดว่ายังอยู่ในช่วงขาขึ้น – แนวราบ : คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในอัตราที่ดีกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย ส่วนหนึ่งจากต้นทุนราคาที่ดิน และการเปิด โครงการราคาปานกลาง-บนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง – คอนโด : คาดว่าขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า หลังเริ่มส่งสัญญาณการปรับขึ้นราคามาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ ผ่านมา หลังตลาดเริ่มกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น ส่งผลให้คอนโดระดับราคาปานกลางขึ้นไปมีแนวโน้มกลับมาเปิด มากขึ้นในปีนี้ ประกอบกับการปรับขึ้นราคาได้อย่างจากัดในช่วงที่ผ่านมา – ที่ดิน : คาดว่าดัชนีราคาที่ดินปี 2023 จะกลับมาขยายตัวได้หลังจากผ่านช่วงที่เหลือของปี แต่อาจขยายตัวในอัตราที่ ใกล้เคียงหรือน้อยกว่าปีก่อนหน้า 3.9 4.5 -2 8 -4 0 2 4 6 01/21 01/18 01/16 07/16 01/17 07/17 07/18 01/19 07/19 01/20 01/23 07/20 07/21 01/22 07/22 03/23 SDH TH %YOY 2016-2019 2021 2022 บ้านเดี่ยว 2.8% 1.4% 4.4% ทาวน์เฮาส์ 3.5% 2.1% 3.0% ต่างจังหวัด • 2022 : ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับ ปีก่อนหน้า สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดแนวราบในต่างจังหวัดที่ ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง • 2023 : ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยแนวราบมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อย เป็นค่อยไป ในทิศทางเดียวกับตลาดกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จากกาลัง ซื้อในต่างจังหวัดที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
  • 33.
    33 SCB EIC Industryinsight : Real estate ปี 2023 ราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์ ยังอยู่ในระดับสูง และมีความผันผวน ซึ่งจะมีการผลักภาระต้นทุน บางส่วนไปยังผู้ซื้อที่อยู่อาศัยต่อไป ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และ REIC ราคาเฉลี่ยปูนซีเมนต์พอร์ทแลนด์ของไทย หน่วย : บาท/กิโลกรัม ต้นทุนการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับสูง • ราคาเหล็กทรงยาวไทยปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ไปตามราคาเหล็กจีน แต่ยังอยู่ใน ระดับที่สูงกว่าราคาในช่วงปี 2016-2020 หลังราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา • ราคาปูนซีเมนต์พอร์ตแลนด์ไทยปี 2023 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย และยังคงอยู่ใน ระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ที่จะส่งผลต่อราคาถ่านหินในระยะต่อไป • ดัชนีราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างปี 2022 ขยายตัว 6%YOY โดยยังต้องติดตามปัจจัยที่อาจส่งผลให้ ราคาวัสดุก่อสร้างผันผวน อาทิ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก สภาพอากาศโลกที่แปรปรวน ที่จะ ส่งผลต่อราคาพลังงาน การปรับขึ้นค่าไฟในไทย และการเปิดประเทศของจีน ที่จะส่งผลต่อราคา เหล็กจีนและเหล็กไทย • ปี 2023 คาดว่าผู้ประกอบการมีแนวโน้มผลักภาระต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูงไปยังผู้ซื้อที่อยู่ อาศัยได้มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถผลักภาระต้นทุนไปยังผู้ซื้อได้ทั้งหมด จากการฟื้นตัวของ กาลังซื้อที่เป็นไปอย่างจากัด และการแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังเข้มข้น 1.55 1.76 1.73 1.64 2020 2022 2016 2019 2017 2018 2021 1.88 1.82 2023F 1.70 1.62 -6% +16% -3% ราคาเหล็กทรงยาว หน่วย : บาท/กิโลกรัม 18.0 19.5 21.2 19.6 17.6 26.5 2020 2016 2017 2018 2019 25.3 2021 2022 24.6 2023F +44% +5% -7% ดัชนีราคาขายส่งวัสดุก่อสร้างในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : %YOY 2.6 10 -10 0 -5 5 15 07/17 02/22 01/17 07/16 07/20 01/16 01/18 07/18 01/19 07/19 01/20 01/21 07/21 01/22 07/22 01/22 2019 2021 2022 %YOY -2% +8% +6%
  • 34.
    34 SCB EIC Industryinsight : Real estate สถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสมทาวน์เฮาส์และบ้านแฝดส่วนใหญ่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดจากอัตราการขายที่ ลดลง ขณะที่ของคอนโดราคา 1-3 ล้านบาทและบ้านเดี่ยวราคา 5-20 ล้านบาท ต้องจับตาอัตราการขยายตัวของหน่วย เหลือขายสะสมมากขึ้นในระยะต่อไป หากอัตราการขายได้ขยายตัวต่ากว่าการเปิดใหม่ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ AREA สถานการณ์หน่วยเหลือขายสะสม -60 140 -40 0 20 40 0.0 60 -1.5 -2.0 1.5 100 120 -1.0 -0.5 -20 0.5 1.0 2.0 4.5 2.5 5.0 TH 2-3MB TH 1-2MB TH 10-20MB SDH 5-10MB SDH 10-20MB การเปลี ่ ย นแปลงของหน่ ว ยเหลื อ ขายสะสม (%) ช่ ว ง 2022 เที ย บกั บ ปี 2021 SDH >20MB TH >20MB CD 1-2MB CD 2-3MB CD 3-5MB CD 5-10MB SMD 10-20MB CD >20MB การเปลี่ยนแปลงของอัตราการขายต่อเดือน (%) ในช่วง 2022 เทียบกับปี 2021 SMD 2-3MB SMD 3-5MB TH 5-10MB SMD 5-10MB TH 3-5MB CD 0.5-1MB CD 10-20MB SDH 3-5MB ขนาดของวงกลมคือ จานวนหน่วยเหลือขายสะสม ณ สิ้นปี 2022 <----- อัตราการขายต่อเดือนลดลง--------------------------------- อัตราการขายต่อเดือนเพิ่มขึ้น-----> อัตราขายได้เร่งตัว ของเหลือขายลดลง อัตราขายได้เร่งตัว ของเหลือขายเพิ่มขึ้น อัตราขายได้ลดลง ของเหลือขายลดลง อัตราขายได้ลดลง ของเหลือขายเพิ่มขึ้น <------ หน่ ว ยเหลื อ ขายลดลง-------- หน่ ว ยเหลื อ ขายเพิ ่ ม ขึ ้ น ----->
  • 35.
    35 SCB EIC Industryinsight : Real estate Megatrend ต่าง ๆ เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่ส่งผลให้ความต้องการ และพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไป ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ Aging society Hybrid workplace Pet humanization ESG • รูปแบบที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย • สิ่งอานวยความสะดวก และบริการเสริม เช่น ผู้ดูแล บริการด้าน การแพทย์แบบประจาและฉุกเฉิน กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกายและใจ • ทางเลือกในการถือครองกรรมสิทธิ์ เช่น เป็นเจ้าของ สิทธิ์อยู่อาศัย ระยะยาว หรือตลอดชีวิต • การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างเหมาะสม • พื้นที่ส่วนกลางที่เอื้อต่อการทางาน เช่น ห้องประชุม Co-working space • ปัจจัยด้านความสะดวกในการเดินทางก็ยังคงมีความสาคัญ เมื่อต้อง เดินทางไปยังออฟฟิศ • รูปแบบที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์ • การนา Proptech มาอานวยความสะดวก เช่น ระบบแสงสว่าง อุณหภูมิอัตโนมัติที่เหมาะสมต่อสัตว์เลี้ยง การตั้งเวลาให้อาหาร ระบบเตือนภัย • รูปแบบที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงาน และรองรับภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น น้าท่วม พายุ อากาศร้อน • ขั้นตอนการก่อสร้างที่ลดมลภาวะ ลดการใช้ทรัพยากร และใช้วัสดุ ก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม • โครงการที่อยู่อาศัยไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อชุมชนโดยรอบ และมี ความปลอดภัยในการก่อสร้าง
  • 36.
    36 SCB EIC Industryinsight : Real estate เทรนด์ ESG เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งในแง่ของที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และภาพลักษณ์การให้ความสาคัญกับสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการ ขณะที่เทรนด์ Pet humanization อาจยังเป็นกลุ่ม เฉพาะแต่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในระยะต่อไป ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลการสารวจ Residential real estate survey เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2023 จานวนผู้ตอบแบบสารวจ 2,313 คน Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ SCB EIC Residential real estate survey : ลักษณะของโครงการที่อยู่อาศัยดังต่อไปนี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของท่านมากน้อยเพียงใด หน่วย : % ของผู้ตอบแบบสอบถาม 35.0% 46.0% 16.0% 3.0% มากที่สุด มาก น้อย น้อยที่สุด เทรนด์ ESG มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อโครงการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันค่อนข้างมาก และมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนั้น อุปกรณ์ที่ช่วยบริหารจัดการให้ประหยัดพลังงานในที่อยู่อาศัย จะ กลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานภายในบ้านในระยะต่อไป โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการติดตั้ง Solar roof, EV charger 40.0% 47.0% 10.0% 3.0% 18.0% 19.0% 35.0% 27.0% น้อยที่สุด มากที่สุด มาก น้อย 29.0% 38.0% 24.0% 8.0% โครงการที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการที่ให้ความสาคัญกับ เทรนด์ ESG เช่น ลดการก่อให้เกิดผลกระทบจากการ ก่อสร้างและการอยู่อาศัย ต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน โครงการคอนโดที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์ (Pet friendly) โครงการคอนโดที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Mixed-use (มีพื้นที่ห้างสรรพสินค้า สานักงาน หรือโรงแรมรวมอยู่ในโครงการ) • ผู้ตอบสัดส่วน 1 ใน 3 ให้ความสาคัญกับโครงการคอนโดที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์ และมีแนวโน้ม เติบโตมากขึ้นตามเทรนด์ความนิยมเลี้ยงสัตว์ของผู้บริโภค • ผู้ตอบสัดส่วน 2 ใน 3 ให้ความสาคัญกับรูปแบบ Condo mixed-use สะท้อนแนวโน้มการได้รับการ ตอบรับที่ดีของโครงการประเภทนี้
  • 37.
    37 SCB EIC Industryinsight : Real estate ภาคอาคารและการก่อสร้างมีสัดส่วนการปล่อย CO2 อยู่ที่ 37% ของการปล่อย CO2 โดยรวม และมีสัดส่วนการใช้ พลังงานอยู่ที่ 34-35% ของการใช้พลังงานโดยรวม ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูล 2022 Global Status Report for Buildings and Construction โดย United Nations Environment Programme Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ สัดส่วนการปล่อย CO2 ของภาคอาคารและการก่อสร้างปี 2021 โดยรวมทั้งโลก หน่วย : % ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หน่วย : %YOY 6% 8% 11% 6% 30% 22% 8% 3% 3% 3% 37% กระจก และอิฐสาหรับการก่อสร้างอาคาร อาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (ทางอ้อม) คอนกรีต อะลูมิเนียม และเหล็กสาหรับการก่อสร้างอาคาร อาคารที่อยู่อาศัย (ทางอ้อม) อาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (ทางตรง) ขนส่ง อาคารที่อยู่อาศัย (ทางตรง) ภาคอาคารและการก่อสร้างอื่น ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมอื่น ๆ อื่น ๆ 9% 21% 31% 26% 6% 1% 4% 2% ภาคอาคารและการก่อสร้างอื่น ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน กระจก และอิฐสาหรับการก่อสร้างอาคาร คอนกรีต อะลูมิเนียม และเหล็กสาหรับการก่อสร้างอาคาร อาคารที่อยู่อาศัย อาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรมอื่น ๆ ขนส่ง อื่น ๆ 34-35%
  • 38.
    38 SCB EIC Industryinsight : Real estate ภาคอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยได้รับแรงกดดันจากเทรนด์ ESG ทั้งในด้านอุปสงค์ ด้านอุปทาน รวมถึงด้านที่เกี่ยวข้องกับ สถาบันการเงิน และกฎระเบียบข้อบังคับ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องปรับกลยุทธ์ในระยะต่อไป ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC Megatrend และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ แรงกดดันจากเทรนด์ ESG และการปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ ในภาคอสังหาริมทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัย แรงกดดันจากด้านอุปสงค์ • ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันคานึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี / อุปกรณ์ที่ช่วยควบคุม อุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ช่วยบริหารจัดการพลังงานในที่อยู่อาศัย เช่น แผงโซลาร์, อุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าและจัดการพลังงาน และ EV charger • ในระยะต่อไปผู้ซื้อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายขอบเขตการพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ตามเทรนด์ ESG เช่น ระบบการจัดการพลังงานหรือมลภาวะของที่อยู่อาศัย และพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ แรงกดดันจากด้านอุปทาน • ขั้นตอนการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมค่อนข้างมาก สะท้อนได้จาก ปัญหาฝุ่น PM 2.5 การปล่อย CO2 ในอัตราที่สูง รวมถึงการสร้างมลภาวะในด้านอื่น เช่น มลภาวะทางเสียง มลภาวะจากขยะ ซึ่งผู้ประกอบการจาเป็นต้องจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น • ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโครงการที่อยู่อาศัยต่อสังคมหรือชุมชนโดยรอบจะได้รับความสาคัญมากขึ้น และมีผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ ที่อยู่อาศัย แรงกดดันจากด้านสถาบันการเงิน และกฎระเบียบข้อบังคับ • สถาบันการเงินมีการปรับตัวรับเทรนด์ ESG และมีแนวโน้มนาเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้นใน ระยะต่อไป โดยมีแนวโน้มส่งเสริมโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ในเกณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น • กฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เช่น ผังเมือง การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นแรงกดดัน ต่อผู้ประกอบการ การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และใส่ใจต่อสังคมจะเป็นภาพลักษณ์สาคัญ ที่จะมีส่วนช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ในระยะต่อไป แนวทางการปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์เทรนด์ ESG ของผู้ประกอบการ • นาเทคโนโลยีการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อมมาใช้ให้เป็นมาตรฐานใหม่ เช่น Precast, Prefabrication และ Modular • เลือกใช้อุปกรณ์ และเครื่องจักรก่อสร้างที่ลดการก่อ มลภาวะ รวมถึงบริหารจัดการของเหลือ และขยะจากงาน ก่อสร้าง • พัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์ที่ กาหนด เพิ่มการติดตั้งอุปกรณ์หรือเทคโนโลยี ที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน รวมถึงคานึงถึงพื้นที่ สีเขียวในโครงการ • ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกาหนดอย่างเคร่งครัด และให้ สอดคล้องกับเป้าหมายการลดการปล่อย CO2 หรือ Net zero ของอุตสาหกรรม และของประเทศ
  • 39.
    39 SCB EIC Industryinsight : Real estate นัยต่อธุรกิจ บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับใส่ใจ ประเด็นด้าน ESG เจาะกลุ่มกาลังซื้อแต่ละระดับด้วยประเภทที่อยู่อาศัย ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการ 1 01 2 02 การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ
  • 40.
    40 SCB EIC Industryinsight : Real estate การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ นัยต่อธุรกิจ 1 01 เจาะกลุ่มกาลังซื้อแต่ละระดับด้วยประเภทที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และตรงกับความต้องการ ▪ ตลาดระดับปานกลาง-ล่าง : กาลังซื้อในกลุ่มระดับปานกลาง-ล่างเริ่มฟื้นตัวได้มากขึ้น และยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยระดับราคาต่า ซึ่งในปัจจุบันผู้ซื้อมีแนวโน้มให้ความสาคัญกับปัจจัยด้านความสะดวกของทาเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก ใกล้เมือง ใกล้ที่ทางาน/ที่เรียน รวมถึงห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารต่าง ๆ มากกว่าปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอย ทาให้ยังเป็นโอกาสของตลาดคอนโดราคาต่าที่คาดว่าจะยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยด้านการโอน กรรมสิทธิ์คอนโดใหม่ ที่จะไปโอนจริงในช่วง 1-2 ปีหลังจาก Pre sale ทาให้ผู้ซื้อยังมีเวลาเตรียมตัวด้านการเงิน ▪ ตลาดระดับปานกลาง-บน : กาลังซื้อของกลุ่มรายได้ระดับปานกลาง เริ่มฟื้นตัวได้มากขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนของกาลังซื้อเพื่อการลงทุนมากกว่ากลุ่มแรก ประกอบกับในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมามีการเปิดโครงการในระดับราคาดังกล่าวออกมาค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโด ดังนั้น ตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลาง ทั้งคอนโดและแนวราบ จึงมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้ดีและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ (คอนโดราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท / บ้านเดี่ยวบ้านแฝดราคาไม่เกิน 25 ล้านบาท) โดยเฉพาะโครงการใหม่ที่อยู่ในทาเลศักยภาพ จะสามารถดึงดูดได้ทั้ง Real demand และ Speculative demand ▪ ตลาดระดับบน / Luxury / Ultra luxury : กาลังซื้อของกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างน้อย ยังคงแข็งแกร่งและมี ความสม่าเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว โดยบ้านเดี่ยวราคาสูง (ประมาณตั้งแต่ 25 ล้านบาทขึ้นไป) ได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยแม้จานวน หน่วยขายได้จะไม่ได้มากเหมือนระดับราคาอื่น แต่มูลค่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากความนิยมในกลุ่ม Luxury และ Ultra-luxury ทาให้ผู้ประกอบการ หลายรายหันไปทาตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น และจะทาให้ในหลายพื้นที่มีแนวโน้มแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากขึ้น ขณะที่กลุ่มคอนโดราคาสูง (ประมาณตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป) จะฟื้นตัวได้มากขึ้นจากแรงหนุนของกาลังซื้อจากต่างชาติที่กลับมา แต่ด้วยหน่วยเหลือขายสะสมที่ยังเหลืออยู่พอสมควร ทาให้คาดว่าจะขยายตัวได้น้อยกว่าตลาด แนวราบ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC
  • 41.
    41 SCB EIC Industryinsight : Real estate การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการ นัยต่อธุรกิจ 2 02 บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับใส่ใจประเด็นด้าน ESG ▪ การบริหารจัดการต้นทุนยังคงเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสาคัญ ในช่วงที่กาลังซื้อในตลาดยังอยู่ระหว่างช่วงฟื้นตัว ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อชิงกาลังซื้อที่มีอยู่อย่าง จากัด ขณะที่ต้นทุนการก่อสร้างยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง ทั้งราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาที่ดิน รวมถึงค่าแรงงาน นอกจากนั้น ยังรวมถึงต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นจากการเสียภาษี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นในกรณีที่การวางแผนการพัฒนาโครงการผิดพลาด ดังนั้น การวางแผนบริหารจัดการต้นทุนผ่านการนาเทคโนโลยี เข้ามาใช้ในขั้นตอนต่าง ๆ อาทิ เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ช่วยลดการเกิดวัสดุก่อสร้างเหลือใช้ ช่วยลดขั้นตอนการก่อสร้าง ลดการใช้กาลังแรงงาน เป็นต้น รวมถึงการใช้ เทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนการดาเนินงานในด้านอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มต่อประสิทธิภาพ และรักษาอัตรากาไร ▪ ESG จะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป การคานึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง จะเป็นสิ่งที่สังคม รวมถึงผู้บริโภคให้ความสาคัญมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการควรปรับกลยุทธ์ทั้งในด้านกระบวนการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีส่วน ช่วยในการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจในด้านการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กร และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงเพื่อประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และส่วนรวมในระยะยาว ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC