1. หน่วยที่ 2
โครงสร้างข้อมูล
• OUTLINE
– อาร์เรย์ (Array)
• 1 มิติ และ 2 มิติ
– เรคอร์ด (Record)
– เซท (Set)

2. อาร์เรย์ (Array)
• อาร์เรย์ หรือ แถวลาดับ
เป็นโครงสร้างข้อมูลทีประกอบด้วยจานวนสมาชิกที่
่
มีขนาด และ ประเภทข้อมูลเหมือนกัน โดยทุกตัวในแถว
ลาดับใช้ชื่อเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องอาศัยตัวชี้ (Index)
กากับชื่ออาร์เรย์เพื่อระบุถึงสมาชิกแต่ละตัว
• อาร์เรย์มีตั้งแต่ 1มิติ ถึงหลายมิติ

3. อาร์เรย์
• อาร์เรย์ ช่วยให้การเขียนโปรแกรมสั้นและประหยัดเนื้อที่
ตัวแปร
• การใช้ อาร์เรย์ ต้องกาหนดชนิดและขนาดของอาร์เรย์
เพื่อเป็นการจองเนื้อที่ในหน่วยความจา
• ต้องมีตัวแปรที่ใช้เป็น Index

4. การกาหนดแบบอาร์เรย์ 1 มิติ
กาหนดผ่าน TYPE
Type matrix = array[1..100] of integer;
VAR number:matrix;
หรือ กาหนดตรงผ่าน VAR
VAR number: array[1..100] of integer;

5. การกาหนดแบบอาร์เรย์ 1 มิติ
– ตัวอย่าง
TYPE matrix = array[1..100] of integer;
letter = array[‘A’..’Z’] of real;
VAR number : matrix; index: integer;
scale : letter;
chindex : ‘A’..’Z’;

6. การอ่านค่าเก็บไว้ในอาร์เรย์
• การอ่านค่าเก็บไว้ในอาร์เรย์ ต้องอาศัยลูปในการนาค่าเข้า
ไปเก็บไว้ในสมาชิกแต่ละตัว
• for index := 1 to 100 do
– read(number[index]);
• for chindex := ‘A’ to ‘Z’ do
– scale[chindex] := ‘ ‘;

7. การอ่านค่าเก็บไว้ในอาร์เรย์
• การนาค่าจากอาร์เรย์ A ไปไว้ในอาร์เรย์ B
program array1;
uses Wincrt;
type arraynum = array['a'..'z'] of integer;
var a,b: arraynum;
i:'a'..'z';

8. การอ่านค่าเก็บไว้ในอาร์เรย์
(* program put asiic code of for i:= 'a' to 'z' do
character a-z into array A b[i] := a[i];
and copy to B*) for i:='z' downto 'a' do
begin writeln(a[i],' and ',b[i]);
for i:= 'a' to 'z' do end.
a[i] := ord(i); หมายเหตุ
ภาษาปาลคาลให้ใช้ b:= a ได้ถ้า
อาร์เรย์ทั้ง2เหมือนกัน

9. การค้นหาค่าสูงสุดต่าสุด
• การค้นหาค่าสูงสุดต่าสุด ของเลขจานวนเต็มบวก
• หลักการนาค่าทังหมดเก็บในอาร์เรย์
้
• กาหนดให้คาแรกในอาร์เรย์เป็นทั้งค่าสูงสุด และ ต่าสุด
่
• จากนังจึงทาการเปรียบเทียบค่า
้

10. การค้นหาค่าสูงสุดต่าสุด
program maxmin;
uses wincrt;
const n_array = 5;
type number = array[1..5] of byte;
var x: integer;
num: number;

11. การค้นหาค่าสูงสุดต่าสุด
procedure readnum; {read data into array}
var i : integer;
begin
for i:= 1 to n_array do
begin
write('Enter positive number: ');
readln (num[i])
end;
end;

12. การค้นหาค่าสูงสุดต่าสุด
procedure find_max_min;
var max,min,i:integer;
begin
i:=1;
max:= num[i];
min:= num[i];

13. การค้นหาค่าสูงสุดต่าสุด
for i:=1 to n_array do writeln('---------------------------
begin --');
if num[i] > max then writeln('Max is = ',max,'
max := num[i]; Min is = ',min);
if num[i] < min then end;
min := num[i];
end;

14. การค้นหาค่าสูงสุดต่าสุด
begin {min}
readnum;
find_max_min;
end.

15. การหาความถี่
ตาบลแห่งหนึ่งมีผู้สมัครเข้าแข่งขัน อบต. จานวน 3 คน
เขียนโปรแกรมหาคะแนนเสียงของผู้แข่งขันแต่ละคน
program freq;
uses wincrt;
const max = 3;
type arr = array [1..3] of integer;
var score : arr;

16. การหาความถี่
procedure init;
var i: integer;
begin
for i:= 1 to max do
score[i] := 0;
end;

17. การหาความถี่
procedure enternum;
var num : integer;
begin
write('Enter number you want to select 1-3 or -1
to end :');
readln (num);

18. การหาความถี่
while num <> -1 do
begin
case num of
1 : score[num] := score[num] + 1;
2 : score[num] := score[num] + 1;
3 : score[num] := score[num] + 1;
else

19. การหาความถี่
Writeln(' You enter a wrong number.');
end;{end case}
write('Enter number you want to select 1-3 or -1
to end :');
readln (num);
end;{end while}
end;

20. การหาความถี่
procedure write_score;
var i:integer;
begin
for i:= 1 to max do
writeln('Member number ',i,' is ',score[i]);
end;

21. การหาความถี่
begin {main}
init;
enternum;
write_score;
end.

22. การค้นหาแบบเส้นตรง
• การค้นหาข้อมูลแบบเส้นตรง สามารถทาได้โดยการ
ค้นหาข้อมุลแต่ละตัวตังแต่ตัวแรกจนถึงสมาชิกตัว
้
สุดท้าย
• การค้นหาสิ้สุดเมื่อพบข้อมูล หรือ หมดจานวนสมาชิกที่
จะค้นหา(คือไม่พบ)

23. การค้นหาแบบเส้นตรง
program search1;
uses wincrt;
const max = 3;
type arr = array [1..10] of string;
var
table : arr;

24. การค้นหาแบบเส้นตรง
procedure getnum;
var i: integer; code :string[3];
begin
for i:= 1 to max do
begin
write('enter student code: ');
readln(code);
table[i]:= code;
end; end;

25. การค้นหาแบบเส้นตรง
procedure search_code;
var i:integer; code :string[3]; flag : boolean;
begin
flag := false; i:= 1;
write('enter student code you want to search/ * to
end ');
readln(code);

26. การค้นหาแบบเส้นตรง
while code <> '*' do
begin
while (flag = false) and (i <= max) do
begin
if table[i] = code then
flag := true
else
i:= i+1;
end;

27. การค้นหาแบบเส้นตรง
if flag = true then
begin
flag := false;
writeln('student code ',code,' is found');
end
else
writeln('student code ',code,' is not found');

28. การค้นหาแบบเส้นตรง
write('enter student code you want to search/ * to end ');
readln(code);
end; {end while}
end;
{main}
begin
getnum;
search_code;
end.

29. การเรียงข้อมูล (Sorting)
• การเรียงข้อมูล คือการจัดลาดับข้อมูล จากน้อยไปหามาก
หรือ กลับกัน
• การเรียงข้อมูลแบบ เช่น Bubble Sort

30. Bubble Sort
• Bubble Sort เป็นการเปรีบเทียบสมาชิก 2ตัวทีอยู่ติดกัน
่
หากตัวที่สองมีค่าน้อยก็ให้ทาการ swap ค่ากัน ทาการ
เปรียบเทียบจนครบทุกตัว (มีการเปรียบเทียบ N-1 ครั้ง)
ถือ เป็น 1 รอบ
• แต่ต้องมีการวนรอบ N-1 ครั้งจึงจะสมบูรณ์

31. Bubble Sort
48 9056 46 80 รอบที่ 1
48 5646 80 90 รอบที่ 2
48 4656 80 90 รอบที่ 3
46 48 56 80 90 รอบที่ 4

32. Bubble Sort
program sort;
uses wincrt;
const max = 5;
type arr = array[1..5] of integer;
var list:arr;

33. Bubble Sort
procedure getnum;
var i: integer;
begin
for i:= 1 to max do
begin
write('enter number:');
readln(list[i]);
end; end;

34. Bubble Sort
procedure sorting;
var i,j,temp: integer;
begin
for i:= 1 to max-1 do
begin
for j:= 1 to max-1 do
begin

35. Bubble Sort
if list[j+1] < list[j] then
begin
temp := list[j];
list[j] := list[j+1];
list[j+1] := temp;
end;{end if}
end; {end for}
end; {end for} end;

36. Bubble Sort
procedure writelist;
var i : integer;
begin
writeln('---------------------------');
for i:= 1 to max do
writeln(list[i]);
end;

37. Bubble Sort
begin
getnum;
sorting;
writelist;
end.

38. อาร์เรย์ 2 มิติ
• อาร์เรย์ 2 มิติ แต่ต่างจาก อาร์เรย์ 1 มิติ ที่เราสามารถ
เห็นได้ทั้งด้านกว้าง และ ยาว ขณะที่ 1 มิติ จะมี กว้าง
หรือ ยาว อย่างเดียว
• ดังนั้น การประกาศ อาร์เรย์ ต้องใช้ 2 มิติ และ ต้องใช้ตัว
ชี้ 2 ตัว

39. อาร์เรย์ 2 มิติ
การประกาศอาร์เรย์ทาได้ดังนี้
Type row = array[1..90] of char;
column = array[1..80] of row;
Var page : column;
หรือประกาศโดยตรง
VAR page : array[1..90,1..80] of char;

40. อาร์เรย์ 2 มิติ
• ถ้าต้องการเขียนตัวอักษรให้เต็ม 1 หน้ากระดาษ
สามารถเขียนโปรแกรมดังนี้
for I := 1 to 90 do
for j := 1 to 80 do
page[j] := character;

41. Read Write ค่าในอาร์เรย์
• เขียนโปรแกรมนาตัวเลขเก็บไว้ใน อาร์เรย์ 2 มิติ
program twodim;
uses wincrt;
const mrow= 4;
mcol= 3;
var table :array[1..4,1..3] of integer;
i,j:integer;

42. Read Write ค่าในอาร์เรย์
procedure getnum; begin
begin write('Enter
for I := 1 to 4 do number:');
begin read (table[i,j]);
for j := 1 to 3 do end;
end;
end;

43. Read Write ค่าในอาร์เรย์
procedure writenum ;
begin
writeln('--------------------------');
for I := 1 to 4 do
begin
for j := 1 to 3 do

44. Read Write ค่าในอาร์เรย์
begin Begin {main}
write(table[i,j]:5); getnum;
end; writenum;
writeln; end.
end;
end;

45. การประมวลผลในอาร์เรย์
• จงเขียนโปรแกรมทาการรับจานวนนักเรียนและ จานวน
วิชาสอบ แล้วจึงรับคะแนนของแต่ละวิชา พิมพ์รายงาน
ในรูปของตารางมีลักษณะดังนี้
SUB1 SUB2 SUB3 AVG
STUDENT1 0.0 0.0 0.0 0.0
STUDENT2 0.0 0.0 0.0 0.0
AVERAGE 0.0 0.0 0.0 0.0

46. การประมวลผลในอาร์เรย์
program students;
uses wincrt;
var nstd,nsub:integer;
table : array[1..50,1..10] of real;
i,j:integer;
avg_sub,avg_std,sum:real;

47. การประมวลผลในอาร์เรย์
{**** init routine ****}
procedure init(row,col:integer);
begin
for i:= 1 to row do
for j:= 1 to col do
table[i,j] := 0;
end;

48. การประมวลผลในอาร์เรย์
{**** getnum routine ****}
procedure getnum(row,col:integer);
begin
for i:= 1 to row-1 do
begin

49. การประมวลผลในอาร์เรย์
for j:= 1 to col-1 do
begin
write(i,'.','Enter score for each subject: ');
readln(table[i,j]);
end;
writeln('-------------------------');
end;
end;

50. การประมวลผลในอาร์เรย์
{**** writeroutine ****}
procedure writenum(row,col:integer) ;
begin
{write column heading}
write('':12);
for i:=1 to col-1 do
write ('sub',i,'':2);
write ('avg');
writeln;

51. การประมวลผลในอาร์เรย์
{write detail line}
for I := 1 to row do
begin
if i = row then
write('average ')
else
write('student# ',i,'');

52. การประมวลผลในอาร์เรย์
for j := 1 to col do
write(table[i,j]:6:2);
writeln;
end;
end;

53. การประมวลผลในอาร์เรย์
{**** compute routine ****}
procedure compute(row,col:integer);
begin
{compute averge for subject}
for i:= 1 to row-1 do
begin
sum := 0;

54. การประมวลผลในอาร์เรย์
for j:= 1 to col-1 do
begin
sum := sum + table[i,j];
end;
avg_std := sum /(col-1);
table[i,col] := avg_std;
end;

55. การประมวลผลในอาร์เรย์
{compute averge for students}
for i:= 1 to col-1 do
begin
sum := 0;
for j:= 1 to row-1 do
sum := sum + table[j,i];
avg_sub := sum /(row-1);
table[j+1,i] := avg_sub;
end;
end;

56. การประมวลผลในอาร์เรย์
{**** main routin ****} nstd := nstd +1;
begin nsub := nsub +1;
write('Enter number of init(nstd,nsub);
student and number of getnum(nstd,nsub);
subject: '); compute(nstd,nsub);
readln(nstd,nsub); writenum(nstd,nsub);
end.{end main}

57. จัดทาโดย
นาย ธนพงษ์ น่านกร เลขที่ 1
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5